เรื่องเด่น ใช้ความพยายามให้มากกว่านี้ อย่าทำตัวเป็นคนท้อแท้ง่าย

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 31 พฤษภาคม 2020.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    FB4C93C2-FD97-4552-996A-F91811C50B99.jpeg
    พระอาจารย์กล่าวว่า "ใช้ความพยายามให้มากกว่านี้ อย่าทำตัวเป็นคนท้อแท้ง่าย เผชิญอุปสรรคเล็กน้อยก็ไม่ไหวแล้ว การจะก้าวข้ามกองทุกข์ต้องทุ่มเท ทั้งกาย ทั้งวาจา ทั้งใจ อย่างชนิดเกิน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ไม่อย่างนั้นเราไม่สามารถที่จะสู้กระแสแรงกิเลสได้ ไม่สามารถจะต้านกำลังของวัฏสงสารได้ เพราะฉะนั้น..ไม่ใช่ทำแบบคนทั่ว ๆ ไป คนที่ปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นต้องบ้าเลย..!

    คนบ้ามักจะทำอะไรแบบไม่อาลัยไยดีกับชีวิต การไม่อาลัยไยดีกับชีวิตก็คือการตัดร่างกาย ซึ่งเป็นสังโยชน์ตัวใหญ่ คือสักกายทิฐิ ซึ่งเป็นที่อาศัยของกิเลสทุกประเภท ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ อาศัยร่างกายนี้ทั้งนั้นถึงสามารถที่จะเกิดขึ้นได้ ในเมื่อเราเห็นแล้วแค่อย่าไปยุ่งด้วย กิเลสก็ไปไหนไม่รอดแล้ว นั่งดูเฉย ๆ ดูว่าจะทำอย่างไร ? โลภอยากได้ เราไม่ไปเอาเสียอย่าง กิเลสจะทำอะไรได้ ? รัก..ต้องการ เราไม่ตะเกียกตะกายไปหา กิเลสจะทำอะไรเราได้ ? โกรธก็นั่งมอง อยากโกรธก็โกรธไป ยิ่งเส้นเลือดในสมองแตกตายไปได้ยิ่งดี จะได้จบกันแค่นี้

    เพราะฉะนั้น รัก โลภ โกรธ หลง เป็นคุณสมบัติของร่างกาย ในเมื่อเป็นคุณสมบัติของร่างกาย เราปฏิเสธเขาไม่ได้หรอก แต่อย่าไปปรุงแต่งให้เขา การปรุงแต่งคือไปคิดเพิ่ม คนนี้สวย ไม่สวย หล่อ ไม่หล่อ เป็นแฟนเราดีไหม ? ควงไปดูหนังฟังเพลงต้องมีความสุขอย่างนั้นอย่างนี้แน่เลย ปรุงเท่าไรก็ยิ่งยึดติดมากขึ้นเรื่อย ๆ

    แต่ถ้าเราหยุดปรุง สักแต่ว่าเห็นเท่านั้น ก็แค่คนเหมือนกัน ดีไม่ดีไม่ได้นึกเสียด้วยซ้ำว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย สักแต่ว่าเป็นรูป สักแต่ว่าเป็นธาตุ ถ้าเจอหน้ากันก็แสดงว่ากระแสกรรมยังไม่พ้นกัน ก็สงเคราะห์กันไปตามหน้าที่ แต่พยายามระมัดระวังกาย วาจา ใจของเราไว้ แล้วอย่าไปสร้างกรรมอะไรที่ไปผูกพันกันขึ้นมา ถ้าเราทำอย่างนี้ ของใหม่ไม่มี กรรมเก่าก็ค่อย ๆ เช็ด ค่อย ๆ ล้างไป เดี๋ยวก็หมด เหมือนกับเก็บบ้าน สมมติหลังนี้เป็นบ้าน ใหญ่เบ้อเร่อเลย เก็บทีเดียวไม่เสร็จหรอก ต้องเก็บกวาดไปทีละมุม ถูไปทีละแผ่น เดี๋ยวก็ทั่วทั้งหลัง

    เหมือนกับเราจะพิมพ์หนังสือ ก่อนที่จะเป็นหน้า ต้องพิมพ์ทีละตัว ประสมสระ ใส่วรรณยุกต์ มีตัวสะกด ออกมาถึงจะเป็นคำ จากคำก็เป็นประโยค จากประโยคก็เป็นบรรทัด จากบรรทัดก็เป็นย่อหน้า จากย่อหน้าก็เป็นครึ่งหน้า เป็นหนึ่งหน้า ไปจากอักษรตัวเดียวทั้งนั้น

    อย่ารีบ..ค่อย ๆ ไป ใจเย็น ๆ แต่อย่าหยุด เลียนแบบเต่า เต่าเดินไปเรื่อย ก๊อกแก๊ก ๆ ไปเรื่อย เคยเห็นเต่าถอยหลังไหม ? ไม่มีหรอก ต่อให้ไปชนอุปสรรคก็เดินอ้อม เต่าไม่มีเกียร์ถอย ถึงเวลาเจอศัตรูปุ๊บหดปั๊บ ใครจะไปทำอะไรได้ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เก็บเกลี้ยงเลย ในเมื่อเก็บเกลี้ยง ไม่ยอมรับอารมณ์ภายนอกเข้ามา ใจตัวเองก็ผ่องใส พอพ้นภาวะนั้นขึ้นมา ยืดหัวยืดขาออกมาได้ก็เดินต่อ เพราะฉะนั้น..ให้เอาอย่างเต่า ไปช้า ๆ ไปเรื่อย ๆ แต่ไม่หยุด ขึ้นหน้าอย่างเดียว ไม่มีถอยหลัง"

    "ตกลงว่าเห็นทางหรือยัง ? ต้องเจาะไปเรื่อย พวกเราติดคุกด้วยกันทุกคนนั่นแหละ เป็นคุกที่กำแพงหนามากเลย ค่อย ๆ เจาะ ค่อย ๆ เคาะ ค่อย ๆ แคะไปเรื่อย เดี๋ยวก็ออกไปได้เอง แต่อย่าหยุดเสียก่อนแล้วกัน มัวไปท้อแท้วางมือ โอ๊ย..ไม่ไหวแล้ว ที่ไหนได้..กำแพงหนาหลายวา เราเจาะมาเหลือแค่คืบเดียว บอกว่าไม่ไหวแล้ว แล้วเราก็ไปวางมือ เป็นที่น่าเสียดายมาก

    เห็นทุกข์ชัดขึ้น ก็ต้องทำอะไรได้ดีขึ้น ไขว่คว้าหามาแทบตาย เอาเข้าจริง ๆ แล้วเหมือนกับไม่ได้อะไรเลย แถมยังเพิ่มภาระขึ้นไปอีก

    แค่มองดู แค่ชื่นชม อย่าคิดไปไขว่คว้าเป็นเจ้าของ ภาระจะไม่มี เบากว่ากันเยอะเลย ใครทำดีก็ยินดีด้วย ใครทำไม่ดีก็ เออหนอ..หนทางเขายังอีกยาวไกล ถ้ามีโอกาสเราจะแนะนำทางที่สั้น ๆ ให้เขาเสียหน่อย

    การไขว่คว้าหามาคือการยึดติด คนที่ยึดที่เกาะไปไหนไม่ได้หรอก ก็ติดอยู่ตรงนั้น ถามว่าปล่อยวางแล้วการดำรงชีวิตเราจะอยู่อย่างไร ? ต้องปล่อยวางอย่างคนมีปัญญา วางออกจากใจก่อน ตราบใดที่เรายังมีร่างกายอยู่ ก็ต้องกินต้องใช้เป็นปกติ เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เป็นลูกก็ทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุด เป็นสามีภรรยา ทำหน้าที่สามีภรรยาให้ดีที่สุด เป็นพ่อเป็นแม่ ทำหน้าที่พ่อแม่ให้ดีที่สุด เป็นลูกน้อง ทำหน้าที่ลูกน้องให้ดีที่สุด เป็นเจ้านาย ทำหน้าที่เจ้านายให้ดีที่สุด

    แต่เราทำแค่วันนี้เท่านั้น หลังจากวันนี้ไม่มีสำหรับเรา ในเมื่อเป็นเช่นนั้น วันนี้เท่ากับเป็นวันสุดท้ายในชีวิต เราก็ทำให้ดีที่สุด เมื่อถึงเวลาได้จากไปอย่างสง่างามที่สุด ตอบตัวเองได้ทุกกรณี เพราะเราทำเต็มที่ในทุกหน้าที่แล้ว เราไม่มีอะไรต้องห่วงต้องใยแล้ว ถ้าถึงเวลาเขาไม่สามารถเอาตัวรอดได้ ก็แสดงว่าเขามีเวรมีกรรมเฉพาะของตัวเอง เราก็..บ๊าย..บาย..ไปแล้ว มีโอกาสจะช่วย รักนะจุ๊บ ๆ รีบเผ่นไปเลย

    ส่วนใหญ่แล้วเราไปแบกเขา เหมือนกับว่าถ้าไม่มีเราแล้วเขาอยู่ไม่ได้ คนเรามีบุญรักษา มีกรรมรักษา ต่อให้ไม่มีใครเลยเขาก็ต้องอยู่ได้ เอ้า..พอแล้ว กินเยอะไปเดี๋ยวย่อยไม่ไหว ถ้าให้พูดก็พูดไปได้เรื่อยแหละ"

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมิถุนายน ๒๕๕๘
    ที่มา : www.watthakhanun.com

    #ชุมชนคุณธรรม #วัดท่าขนุน
    #ชุมชนคุณธรรมฯวัดท่าขนุน
    #ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...