แขวนวัตถุมงคล หลายศาสนาได้มั้ยครับ

คือถ้าผมจะแขวน วัตถุมงคลที่เป็นของพุทธศาสนา แล้วของศาสนาอื่นด้วย แบบนี้ได้มั้ยครับ ความขลังจะหมดไปหรือเปล่า

 

ได้ไม่มีปัญหาครับ
(ความเห็นส่วนบุคคล)

 

คำถามนี้น่าสนใจน่ะครับ

อยากฟังความเห็น หลายๆท่านครับ ผมโตมากับศาสนา คาทอลิก ตั้งแต่เล็ก จนจบ สวดมนต์แบบคาทอลิก แบบเช้าเย็น

ผมอ่านประวัติ คัมภีร์ศาสนาคริสท์ มาหลายสิบเล่ม ไบเบิ้ล อ่านมาหลายเว่อร์ชั่นท์ ทั้งของพวก แอนตี้ ไครสท์ พวก อิลูมิเนติ เพราะมีความสนใจ

คัมภีร์และ ประวัติของ ของพระศาสดามูฮัมหมัดก็อ่าน แต่อ่านยากหน่อย ไม่มีใครอธิบาย เป็น ความเข้าใจด้านภาษาที่มีน้อย เพราะแปลมาเป็นไทย หรือ อังกฤษอีกที

คัมภีร์ของพระศาสนาก็ผ่านตามาหลายเล่มน่ะครับ พระไตรปิฎกได้มาตั้งใจอ่าน ตอนบวชได้ สี่เดือน กว่า อ่านยากเหมือนกัน ในหมวดพระอภิธรรม

ที่อยากจะบอกคือว่า ไม่เห็นศาสนาไหน มีหมวดวัตถุมงคลน่ะครับ แนววัตถุมงคลของพุทธ เริ่มมีรูปแบบเทวะ เลียนมาจากกรีก ตอนมายึดอินเดีย สร้างพระพุทธรูป ตามแนวเทวรูปหลังจากองค์สมเด็จบรมครู ทรงพระนิพพานไป หลายร้อยปี ครับ และผสมกับ พราหมณ์ มาเรื่อยๆ

ผมเองไม่แน่ใจว่าวัตถุมงคลของท่านที่ว่า เป็น รูป พระศาสดา รูป เทพ รูป เทวะ หรือ รูป สัตว์อื่นๆครับ ถ้ารูปสัตว์ตามพุทธ ก็เป็น พระโพธิสัตว์ หรือ เทพ หรือ เป็นรูป อ้างอวัยวะ เช่น ศิวลึงค์ หรือ มหาโยนี ล่ะครับ

การเอาของเหล่านี้มาปนกัน น่าจะมีหลักการณ์หน่อยน่ะครับ

ถ้าเป็นผม ของที่อยู่ในหมวดพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม ( แนวพระคาถา หัวใจพุทธคุณ ) พระสงฆ์ น่าจะรวมกันได้

ส่วนพวก เทพ เทวดา น่าจะเป็นอีกที่ สร้อยคนล่ะเส้น หรือ กระเป๋า เสื้อ

ส่วนพวก เครื่องรางรูปต่างๆ เช่น อาทิตย์ จันทร์ ดาว หรือ เครื่องรางรูปสัตว์ หรือ อวัยวะน่าจะเป็นอีกที่น่ะครับ เช่นคาดเอว

อันนี้พูดกว้างๆ ด้วยความเคารพน่ะครับ และ หลักการณ์ของ คาถา อาคม มี ขัดกัน ข่มกันครับ ร้อนกับเย็น สูงกับต่ำ ดำกับขาว เอามารวมๆกันมันจะผิดครูน่ะครับ

 

ระหว่าง.เมียหลวง.กับท่าน.เล่าฮู..ผมเลือกเชื่อท่าน..เล่าฮู..ดีกว่าครับท่าน..เพราะท่านเล่าฮู..มีหลักการ..แต่เมียหลวง.มีแต่.เผด็จการ..ครับท่าน5555555555555555555555

 

เหอๆ...ท่านปังจู้ยังเลือกได้

ข้าน้อย...เล่าฮู ล่ะ เลือก บ่ได้จ้ะ ต้องเลือก เชื่อ และ ปฏิบัติอย่างเดียว...แหะๆ

 

มีปัญหาโลกแตกให้คิดครับ

อย่างถ้าศาสนาพุทธนะครับ เช่น ห้อย 3 องค์ แล้วทำไงดี เพราะพระพุทธ เปรียบเสมือนตัวแทนพระพุทธเจ้า แล้วเราห้อยองค์กลางเป็นประทาน ด้านซ้ายกับขวาห้อยพระอรหันต์ในพุทธตำนานกับพระเกจิอาจารย์ แต่สรุปแล้วพระพุทธซึ่งเป็นประทานกลับถูกห้อยต่ำกว่าองค์อื่น

 

อันนี้คิดมากไปครับ...แหะๆ

ถือว่าเป็นพระรัตนตรัยครับ อธิษฐาน พระสาวกเป็นบริวารครับ


การติดตัวนี่ไม่เหมือนตั้งโต๊ะครับ จะได้วางพระพุทธสูงสุด แต่คติเราเชื่อว่าบนหัวสูงที่สุดของเรา ( ที่จริงก็ยังไม่ใช่ ยกมือก็สูงกว่า พระท่านถึงทำแหวนรูปพระออกมา )

เมื่อบนศรีษะถือว่าสูง จะห้อยบนหัวไม่ถนัดจึงเอาแขวนคอ

ต้องทราบว่า การห้อยพระ นี่เป็นคติยุคหลังน่ะครับ รุ่นยายผมไม่พกพระติดตัว ผมยังทันครับ ท่านพกเครื่องราง ตะกรุด เบี้ย คด เขี้ยว งา สักและ มีคาถาขลัง ( คุณยายผมคาถา ดับพิษไฟขลังมาก เห็นกับตาเองหลายครั้ง ) คนโบราณย้อนไปไม่ห้อยพระครับ น่าจะมายุคเจ้านาย ( ท่านไปนอกมาแล้ว) ท่านเอาพระแตกกรุมาแจก คนถือว่าเป็นของสูง สูงของพระราชทาน เลยเอามาติดตัว มีอภินิหาร เลย ติดตัวกันมา ทั้งอมไว้ในปาก ( คนโบราณ อมปรอท อมพระไว้ในปาก ) หรือ เอามาแขวนคอ พกไว้กับตัว

แต่อยากจะออกความเห็นว่า คนโบราณท่านจะใช้คาถา และ เครื่องรางมากกว่า การอาพัดเหล้า คาดปูน สัก เสก เลข ยันต์ ไม่พกพระกับตัวเพราะถือว่าสูง กลัวเอาเข้าไปที่ต่ำ เช่นห้องน้ำ หรือ ลอดกระได ลอดใต้ถุน ( บ้านคนไทยโบราณจะยกสูงและ ใช้พื้นที่ใต้ถุนทำงาน ) หรือไปที่อโคจร หรือ เอามือ มไ สกปรกไปจับองค์พระท่าน

ดูในหนังพระนเรศวร ทหารไม่เห็นมีใครห้อยพระน่ะครับ ท่านมุ้ยท่านค้นคว้ามา เห็นมีแต่ตะกรุด เขี้ยวงา แต่ตามประวัติว่าพระนเรศวรท่านคาด พระหูยานไปไว้ที่พระมาลา แต่ท่านก็ติดตัวด้วย ลูกประคำ ตะกรุด และ อาบว่านยา น่าจะมีสักด้วย ผมก็แค่อ่านมา เกิดไม่ทันครับ

ที่จริงพอเรามาถือคติห้อยพระกัน ห้อยพระพุทธ องค์เดียวน่าจะพอ แต่กิเลสพาไป เลยแถมกันมาหลายองค์ ผมเคยได้อ่านว่า หลวงปู่โต๊ะ ท่านยังพูดทัก คนพกพระมากๆ ห้อยพระหลายองค์ว่า บ้าหอบฟาง

ส่วนอาจารย์ผม หลวงปู่พระครูบุญศรี ท่านก็บอกทำนองเดียวกันว่า ห้อยทำไมเยอะ องค์เดียวพอ

จิตท่านเต็มไหมครับ ถ้าห้อยองค์เดียว...แหะๆ

อ้อลืมออกความเห็นสำคัญกับคำถามไป ที่จริง พวกเราบางคนก็ห้อยปนกันอยู่แล้วครับ รูปพระพุทธ พระสงฆ์ แล้วก็ ห้อย พระพิฆเนศ หรือ รูป เทพ แนวพราหมณ์ รวมทั้งเครื่องราง พวก ปลัด เบี้ยแก้ ฯลฯ พวกเราก็ปนแบบไทยๆ พุทธๆ พราหมณ์ๆ แบบไทยๆอยู่แล้วมาแต่บรรพบุรุษครับ

 

ครับพี่พี ผมบอกแล้วปัญหาโลกแตกครับ เพราะเห็นบางคนห้อยพระพุทธไว้องค์บนสุด (ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา หรือไม่ก็ทั้งสองด้าน) แล้วพระอรหันต์หรือพระเกจิอยู่ตรงกลางเป็นประทาน ผมเลยมาคิดอะครับ ว่าเค้าคงคิดอย่างที่ผมว่า 555555555++ สำหรับผมจากเยอะ (ทั้งพุทธ จีน แขก หลายองค์หลายเส้น) จนน้อยแล้วครับ ก็อยากองค์เดียวคือสมเด็จบางขุนพรหม** (วันแรกที่อาราธนาใส่ ซึ่งคิดว่าที่มาได้จากท่านใดก่อนมาถึงคุณปู่ผม ผมเลยสวดมนต์นั่งสมาธิแล้วแผ่เมตตาให้ท่าน ก็รู้สึกว่าขนลุกขึ้นมาทันทีครับ เลยมั่นใจว่าใช่ ได้จากท่านนั้นแน่และแท้ชัวร์ครับ (ไม่รู้อุปทานไปเองหรือเปล่า))แต่ก็อยากได้กะลาราหูกับปิดตาเฆฆสิทธิ์หนุนดวงด้วย เลยห้อยเพิ่มอีกเส้น (เพิ่งมาเพิ่มอีกแล้ว) เพราะเกิดพุทธกลางคืนอะครับ สำหรับเจ้านายที่เคยรู้ส่วนใหญ่ใส่รูปของทูลหม่อมพ่อ ทูลหม่อมปู่ กันครับ (ก่อนปี 2500)

**ซึ่งตั้งแต่ห้อยก็ดีขึ้นครับ แต่อย่างที่พี่พีบอกด้วยกิเลส (ไม่พอ อยากดีกว่านี้) พอเราคิดได้ว่าทุกอย่างล้วนคือใจของเรานี่เองครับ ทุกสิ่งทุกอย่าง ล้วนเป็นไปตามกรรม ผมเคยอ่านมาว่ามีคนกล่าวไว้ คนอยากห้อยพระมหาเสน่ห์ แล้วจะได้... พระนะครับไม่ใช่ยาปลุกเซ็กส์ หรือ พระนะครับ ไม่ใช่รสตารี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 ที่ห้อยแล้วจะมีเงินเป็นล้าน ๆ ในทันที

 

กระทู้น่าสนใจครับ