เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 2 เมษายน 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,662
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,662
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทรงเจริญพระชนมายุ ๖๗ พรรษา อาตมภาพในนามคณะศิษย์วัดท่าขนุน ขอถวายพระพร ขอให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

    สำหรับวันนี้ก็มีหลายเรื่องที่ต้องการจะกล่าวถึง เรื่องแรกเลยก็คือเรื่องที่เตือนไปในวันก่อนว่า ท่านทั้งหลายที่จองวัตถุมงคลไว้ในเว็บวัดท่าขนุน กรุณาอ่านหนังสือให้ครบ ๘ บรรทัด แล้วท้ายที่สุด ก็มีท่านที่ไม่ได้อ่านกฎเกณฑ์กติกา เอาความเข้าใจของตนเองเป็นใหญ่ ก็โดน "ประหารชีวิต" จนศพกระจายเกลื่อนไปทั้งเว็บ..!


    ตรงจุดนี้ต้องบอกว่าเป็นความตั้งใจของกระผม/อาตมภาพเอง ที่จะฝึกฝนให้พวกเราทั้งหลายมีความละเอียด มีความรอบคอบ ให้สมกับที่เป็นผู้ปฏิบัติธรรม แต่ว่าท่านทั้งหลายส่วนใหญ่แล้วประมาท ในเมื่อประมาท ถึงเวลาแล้วโอนเงินผิดวันบ้าง แจ้งโอนผิดกระทู้บ้าง แจ้งโอนหลังจากตัดยอดไปแล้วบ้าง หรือว่าคิดว่ายังไม่ถึงวันโอนบ้าง จึงทำให้สมาชิกเว็บวัดท่าขนุนต้องร่อยหรอลงไปเรื่อย..!


    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ถ้าไม่ลงโทษกันให้เข็ดหลาบไปทีเดียว พวกเราก็จะไม่จดไม่จำกัน แต่จากการลงโทษหนักถึงขนาดตัดสิทธิ์ในการบูชาวัตถุมงคลในเว็บวัดท่าขนุนไปตลอดชีวิต ก็รู้สึกว่าท่านทั้งหลายจะไม่เกรงไม่กลัวกันเลย เนื่องเพราะว่าสามารถที่จะสมัครเป็นสมาชิกเว็บวัดท่าขนุนด้วยเครื่องใหม่ ด้วยยูสเซอร์เนมใหม่ แล้วก็เข้ามาบูชาได้อีก เป็นต้น ซึ่งทำให้ความตั้งใจว่าจะฝึกฝนให้ท่านทั้งหลายมีความละเอียด มีความรอบคอบ ให้สมกับเป็นผู้ปฏิบัติธรรมนั้น ดูท่าว่าจะใช้ไม่ได้ผล


    ถ้าท่านทั้งหลายคิดว่ามีการอคติ ลำเอียง "แบน" เฉพาะบุคคลอื่น กระผม/อาตมภาพขอยืนยันว่า แม้แต่บุคคลที่เป็นบุคลากรของเว็บวัดท่าขนุนก็ดี เป็นพระภิกษุสามเณร หรือว่าแม่ชี ฆราวาส ในวัดท่าขนุนก็ตาม เมื่อทำผิดพลาด ทำผิดกติกา ก็โดนแบนเช่นเดียวกัน แม้กระทั่งกระผม/อาตมภาพเอง เวลาต้องการวัตถุมงคลชิ้นไหน รุ่นไหน ก็ยังคงต้องเข้าไปจองด้วยตนเอง ถึงเวลาก็ต้องจ่ายเงินให้ทัน ไม่เช่นนั้นก็โดนเช่นเดียวกัน..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,662
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า ถ้าหากว่าเราไม่สามารถจัดการพวกเดียวกันให้อยู่มือได้ เราก็ไม่สามารถที่จะจัดการกับคนอื่นได้ แต่ถ้าหากว่าพวกเดียวกันยังไม่ละเว้น คนอื่นก็จะไม่มีข้อให้อ้างได้ เหตุที่ทางเว็บวัดท่าขนุนไม่ฟังข้ออ้าง ไม่ฟังเหตุจำเป็น ก็เพราะว่าถ้ามีท่านหนึ่งอ้างได้ ท่านต่อ ๆ ไปก็จะอ้างอีกเช่นกัน

    ดังนั้น...ท่านทั้งหลายที่เสียดายยูสเซอร์เนมก็ขอให้ลืมไปเสีย เพราะว่าถ้าเข้าไปแค่อ่านอย่างเดียวก็ยังพอใช้งานได้อยู่ แต่ถ้าต้องการจะจองวัตถุมงคลในเว็บวัดท่าขนุนก็ดี ในเพจของ "กิฟท์จังพลังเวทย์" ก็ตาม เมื่อโดน "แบน" แล้วก็แปลว่าหมดสิทธิ์ไปเลย จนกว่าท่านจะหาช่องทาง หายุทธวิธีใหม่ จึงสามารถที่จะเข้าไปจองได้อีก

    หรือไม่ก็ใช้แบบเดียวกับที่หลาย ๆ ท่านทำอยู่ก็คือ ทำการฝากคนอื่นที่ยังมีสิทธิ์จองให้ช่วยจอง แต่ขณะเดียวกัน ถึงจะฝากคนอื่นก็ตาม ก็ต้องโอนเงินให้ตรงบัญชี ให้ตรงเวลา ให้ตรงกระทู้ด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะโดน "แบน" อีกตามเคย

    ทั้ง ๆ ที่ได้บอกกล่าวตักเตือนไปแล้ว แต่ว่าท่านทั้งหลายก็ยังพลาด ทำให้เห็นบุคคลที่โดน "แบน" เป็นจำนวนมากต่อมากด้วยกัน ซึ่งในปัจจุบันนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะใส่ชื่อเป็นตัวหนาสีน้ำเงิน กระผม/อาตมภาพเรียกกันแบบขำ ๆ ว่า "เป็นบุคคลวีไอพี ที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ"

    ตรงจุดนี้ขอยืนยันกับท่านทั้งหลายว่า ทางเว็บวัดท่าขนุนนั้นไม่เคยมีการลำเอียง และไม่เคยมีการผ่อนผัน ระเบียบก็คือระเบียบ วินัยก็คือวินัย บุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่อาจจะมีการแอบไปผ่อนผันให้บางรายที่ถือว่าโทษไม่หนักมาก ตรงนั้นก็อย่าให้มีคนมาพูดเข้าหู ถ้ามีคนมาพูดเข้าหู แล้วมีพยานยืนยันว่ามีบุคคลนั้นทำเช่นนี้ บุคคลนั้นถึงแม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ของวัดท่าขนุน ก็จะโดน "แบน" จากทางวัดเช่นกัน..!

    สำหรับในเรื่องนี้เราต้องเข้าใจว่า หลักธรรมในส่วนที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ก็คือ บุคคลเราต้องเว้นจากอคติทั้ง ๔ นั้น ถ้าหากว่าใครสามารถทำได้ ก็จะเป็นบุคคลที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา ได้รับความเกรงใจจากผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะว่าไม่ประกอบไปด้วยฉันทาคติ คือลำเอียงเพราะรักคนนั้นคนนี้ ไม่ประกอบไปด้วยโทสาคติ คือลำเอียงเพราะโกรธคนนั้นคนนี้ ไม่ลำเอียงเพราะภยาคติ คือกลัวคนนั้นกลัวคนนี้ ไม่ลำเอียงเพราะโมหาคติ ก็คือหลงผิด เข้าใจผิด

    เรี่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าเราฝึกฝนเอาไว้ก็มีแต่จะเป็นคุณแก่ตัว ไปที่ไหนก็มีแต่ผู้คนเชื่อมั่น เพราะว่าไม่ได้ทำสิ่งหนึ่งประการใดเป็นสองมาตรฐาน สามมาตรฐาน ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านั้นมีแต่จะกัดกร่อนกินตัวเองไปทุกวัน
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,662
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    แบบเดียวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครนครั้งนี้ ที่ทำให้ทั่วโลกตาสว่าง เห็นว่าสหรัฐอเมริกานั้นเที่ยวไปยุยงให้คนอื่นทะเลาะเบาะแว้งกัน เที่ยวไปข่มขู่คนอื่นให้หวาดกลัว อย่างเช่นข่มขู่ทางยุโรปและทางนาโตว่า ถ้าหากว่ารัสเซียชนะสงครามก็อาจจะตีเลยมาถึงประเทศต่าง ๆ ในยุโรป ทำให้ฝ่ายที่หวาดกลัวก็ต้องไปซื้ออาวุธต่าง ๆ ที่ตนเองมั่นใจจากทางสหรัฐอเมริกามาป้องกันตนเอง

    เมื่อทางรัสเซียมีทีท่าว่าจะ "แบน" ในเรื่องของน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซ สหรัฐอเมริกาก็ขายน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซให้ทางยุโรปในราคาแพงกว่า และขณะเดียวกัน เมื่อถึงเวลาแล้ว
    ห้ามทางด้านประเทศอื่น ๆ สั่งซื้อสินค้าต่าง ๆ จากประเทศรัสเซีย เรียกว่าทั้ง "แซงก์ชั่น" ทั้ง "บอยคอต" แต่ว่าตัวเองเป็นฝ่ายสั่งซื้อเสียเอง เหล่านี้เป็นต้น

    การที่ทำหลายมาตรฐานแบบนี้ เมื่อปรากฏชัดต่อสายตาของคนอื่น ก็ทำให้ความน่าเชื่อถือของสหรัฐอเมริกาลดน้อยถอยลงไปทุกที ซึ่งในปัจจุบันนี้ต้องบอกว่า ถ้าหากว่าเป็นมหาอำนาจก็คือเป็นมหาอำนาจแต่ชื่อ เมื่อถึงเวลาแล้ว ไม่มีใครปฏิบัติตาม ไม่มีใครทำตามเหมือนกับเมื่อก่อนนี้ เพราะว่าทุกคนรู้เช่นเห็นชาติกันหมดแล้ว ตรงจุดนี้ ทุกท่านต้องระมัดระวังให้ดี ยิ่งเรามีความใหญ่โตมากเท่าไร ถ้าหากว่าประกอบไปด้วยอคติแล้ว ผลกระทบต่อส่วนรวมก็จะยิ่งมีมากมายมหาศาลเท่านั้น

    เราทั้งหลายต้องสังวรระวังเอาไว้ว่า หลักธรรมในพระพุทธศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ผู้ใดกระทำก็เป็นคุณแก่ตัว ผู้ใดทำตามก็ย่อมได้รับประโยชน์เฉพาะตน เป็นสิ่งที่ต้องขวนขวายกระทำด้วยตัวเอง จะให้ผู้อื่นกระทำแทนไม่ได้ โดยเฉพาะครูบาอาจาย์ไม่ใช่ผู้วิเศษ ที่จะมาเสกหรือว่าดลบันดาลให้เราเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ ให้เราได้อย่างนั้น ได้อย่างนี้

    พระพุทธศาสนานั้นเป็นศาสนาของเหตุและผล ถ้าหากว่าเราสร้างเหตุได้เพียงพอ ผลนั้นก็เกิด ถ้ายังสร้างเหตุไม่เพียงพอ ก็ต้องเพียรพยายามสร้างต่อไป จนกว่าเหตุนั้นเพียงพอ ผลดีก็จะเกิดแก่เราเอง เป็นต้น สาวกขององค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเป็นบุคคลที่ไม่ควรประกอบไปด้วยอคติทั้ง ๔ ต้องเป็นบุคคลที่หูหนัก อย่าเชื่อใครง่าย ๆ โดยเฉพาะในปัจจุบัน "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ต่าง ๆ พยายามที่จะหลอกลวงพวกเราอยู่ตลอดเวลา ถ้าหูเบา เชื่อง่าย ก็จะโดนหลอกลวงได้ง่าย
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,662
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    ในขณะเดียวกัน ก็ต้องเป็นบุคคลที่ขยัน พากเพียรพยายามกระทำในสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง เพราะว่าเป็นเรื่องที่คนอื่นทำแทนไม่ได้ ต่อให้เป็นแฟนก็ทำแทนไม่ได้ ต้องกระทำด้วยตนเอง ก็คือปฏิบัติในไตรสิกขา รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา ใช้ปัญญาประกอบให้รู้แจ้งเห็นจริง ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ในโลก ไม่ว่าจะเป็นตัวเรา บุคคลอื่น สัตว์อื่น วัตถุธาตุต่าง ๆ ประกอบไปด้วยความไม่เที่ยงเป็นปกติ มีแต่ความทุกข์เป็นปกติ ท้ายที่สุดก็ยึดถือมั่นหมายอะไรไม่ได้ ไม่มีอะไรเป็นตัวตนเราเขาหลงเหลืออยู่เลย

    ถ้าหากว่าเราสามารถทำใจเช่นนี้ได้ ก็จะถอนใจจากการยึดเกาะร่างกายของตนเอง ถ้าหากว่าถอนใจถอนใจจากการยึดเกาะร่างกายของตนเองได้ ก็จะไม่ยึดเกาะร่างกายของคนอื่น ไม่ยึดเกาะร่างกายของสัตว์อื่น ไม่ยึดเกาะสิ่งหนึ่งประการใดในโลกนี้

    ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายถอนใจออกมาได้ในเบื้องต้น ก็ย่อมเข้าถึงมรรคถึงผลในระดับพระโสดาบัน

    ถ้าหากว่าท่านสามารถทำใจของตนให้ถอนออกได้มากขึ้นไป ก็สามารถเข้าถึงมรรคถึงผลในระดับของพระสกทาคามี

    ถ้าหากว่าชำระใจของตนให้ผ่องใส ปราศจากราคะ โลภะ โทสะ ท่านก็จะเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าในระดับพระอนาคามี

    ถ้าท่านไม่ยึดไม่เกาะสิ่งหนึ่งประการใดเลย รู้ว่าดีก็ทำ รู้ว่าชั่วก็ละ ไม่ยึดเกาะทั้งดีทั้งชั่ว ท่านก็จะผ่ากลางของความดีความชั่ว คือหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้ดังที่ทุกคนปรารถนา


    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมที่ฟังอยู่ ทั้งในที่นี้ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศแต่เพียงเท่านี้...ขอเจริญพร

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันเสาร์ที่ ๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...