เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 27 พฤศจิกายน 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพไปยังวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์แต่เช้า เพราะว่ามีพิธีมอบประกาศนียบัตรการบริหารกิจการคณะสงฆ์ ตั้งแต่รุ่นที่ ๑๓, ๑๔, ๑๕, ๑๖ แล้วก็ ๑๗ ถ้าหากว่ารุ่นหลังจากนี้ก็คงต้องรอกันไปก่อน แทบไม่น่าเชื่อว่าตัวกระผม/อาตมภาพเอง เรียนประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์มาเกือบ ๒๐ ปีแล้ว ทั้ง ๆ ที่รู้สึกว่าเหมือนกับเพิ่งจะเรียนไปได้ไม่กี่วันนี้เอง

    หลังจากที่เสร็จพิธีเรียบร้อย
    กระผม/อาตมภาพก็เดินทางได้ไปยังวัดไร่แตงทอง เพื่อร่วมงานบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานถวายพระครูปฐมจินดากร (สายชล จิตฺตกาโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่แตงทอง อดีตเจ้าคณะตำบลทุ่งลูกนก ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมเรียนกันมาตั้งแต่ประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ ปริญญาตรี ปริญญาโท

    กระผม/อาตมภาพเคยบอกแล้วว่า ในเรื่องของการเรียนนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่สำคัญก็คือได้คบหากับเพื่อนฝูงที่เป็นนักปฏิบัติธรรมชั้นยอด แม้ว่าจะมีอยู่แค่ไม่กี่รูปก็ตาม เสียเวลาเรียนไป ๑๐ ปี ได้เพื่อนฝูงนักปฏิบัติมา ๒ - ๓ รูป ก็ต้องถือว่าคุ้มค่า

    ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น ท่านอาจารย์สายชลท่านจะชำนาญในเรื่องของสมถกรรมฐาน โดยเฉพาะเวทมนตร์คาถาเกี่ยวกับในเรื่องของพญาเต่าเรือน กระผม/อาตมภาพเคยบอกไว้ว่า ถ้าในยุคปัจจุบันนี้ยกให้ท่านเป็นที่หนึ่ง

    เราไม่ต้องไปกล่าวถึงครูบาอาจารย์รุ่นโบร่ำโบราณ ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้นเป็นอมตเถราจารย์ที่ไม่มีวันตายอยู่แล้ว แล้วก็ไม่ต้องมากล่าวถึงรุ่นที่พวกเราทันกันอยู่ อย่างหลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง หรือว่าหลวงปู่เล็ก วัดทำนบ นั่นเป็นรุ่นครูบาอาจารย์

    แต่ถ้าหากว่านับในรุ่นปัจจุบัน กระผม/อาตมภาพยกให้อาจารย์สายชลท่านเป็นที่หนึ่งในเรื่องของพญาเต่าเรือน ซึ่งถ้าว่าไปเต็ม ๆ เขาเรียกว่าพญาเต่าเรือนพิทักษ์ทรัพย์ แม้แต่ในพระคาถาเงินล้านก็มีหัวใจพญาเต่าเรือน คือ นา สัง สิ โม อยู่ด้วย เพราะฉะนั้น..พวกเราก็ไม่ต้องเสียเวลาไปสงสัยว่าทำไมถึงต้องมีคาถานี้ด้วย ?
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    ดังนั้น..ในส่วนของวัตถุมงคลเกี่ยวกับเรื่องของลาภผล การค้าขาย โดยเฉพาะเหรียญพญาเต่าเรือน แม้แต่ของท่านอาจารย์สายชลก็น่าจะเริ่มแพงมากแล้ว เพราะว่าเจ้าตัวมรณภาพแล้ว แต่ก็ยังเหลือของวัดสี่แยกเจริญพร ต้องบอกว่าเป็นการรวมสายวิชาการ ถ้าจะนับแล้ว อาจจะเหนือกว่าทางด้านของท่านอาจารย์สายชลด้วย

    เพราะว่าทางวัดสี่แยกเจริญพรมักจะนิมนต์กระผม/อาตมภาพเป็นหลัก แล้วก็มีท่านอาจารย์สายชลมาปิดท้ายให้เสมอ กลายเป็นว่าเหรียญพญาเต่าเรือน ไม่ว่าจะเป็นส่วนของวัดสี่แยกเจริญพรก็ดี วัดท่าขนุนก็ตาม ถือว่าเป็นเหรียญรวมวิชาไปก็แล้วกัน

    กระผม/อาตมภาพเองไม่ได้ถนัดในเรื่องของพญาเต่าเรือน เป็นบุคคลประเภทเป็ด คือเป็ดทำได้สารพัดเรื่อง แต่ได้อย่างละหน่อย ที่โบราณเขาบอกว่า

    จะให้ขัน........ขันได้ไม่เหมือนไก่

    บินก็ได้..........แต่ไม่ทันพันธุ์ปักษา

    ว่ายน้ำได้........ก็ไม่ทันเหล่าพันธุ์ปลา

    เหมือนวิชา.......รู้หลายสิ่งไม่จริงจัง


    ก็คือไม่ได้ทุ่มเทไปด้านเดียว แต่ว่าศึกษาวิชาการหลายอย่าง

    เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายต้องการในเรื่องของลาภผล หรือว่าการค้าขาย ก็ลองเสาะหาเหรียญพญาเต่าเรือน อยากได้ชื่อเสียงวัดด้วยก็ไปวัดไร่แตงทอง ซึ่งไม่รู้ว่าราคาไปถึงไหนแล้ว ถ้าหากว่าอยากได้แบบรวมครูบาอาจารย์ก็วัดสี่แยกเจริญพร ส่วนของวัดท่าขนุนก็น่าจะมีเหลืออยู่บ้างนิดหน่อย
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    ตัวกระผม/อาตมภาพเองก็พกอยู่เหมือนกัน เพียงแต่พกเพราะว่าราคาแพงมาก เนื่องจากพระครูเทพ (พระครูปฐมสาธุวัฒน์) เจ้าอาวาสวัดสี่แยกเจริญพร ท่านถวายเหรียญทองคำเลี่ยมทองประดับเพชรมาให้ เฉพาะค่าเลี่ยมและเพชรปาไปเกือบ ๓๐๐,๐๐๐ บาท..! ยังไม่ต้องนับถึงทองคำที่เป็นเหรียญ ในเมื่อท่านมีแก่ใจทำมา กระผม/อาตมภาพก็มีแก่ใจพกให้เหมือนกัน..!

    อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เรื่องของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ซึ่งตอนนี้ระบาดหนักมาก แม้กระทั่งวัดท่าขนุนของเรา วันนี้ก็ทำการตรวจไป แม่ชีมะลิติดเชื้อไวรัส มีแนวโน้มว่ารัฐบาลจะประกาศให้งดจัดงานปีใหม่ แต่ดูท่าว่าจะไม่ทันแล้ว เพราะว่าชาวบ้านเดินทางไปทั่วโลกแล้ว ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย..!

    พวกเราก็ต้องระมัดระวังตัวกันเอง อย่าได้ประมาท สมัยก่อนช่วงระบาดหนัก ๆ เราระวังอย่างไร ตอนนี้ก็ให้ระวังอย่างนั้น ออกไปข้างนอก กลับเข้ามา ก็ให้ตรวจ ATK เสียก่อน อย่างน้อย ๆ ก็จะได้เป็นหลักประกันว่า เราไม่ได้ติดเชื้อมา แต่ว่าในเรื่องของชุดตรวจแบบเร่งด่วน คือ ATK นั้น มีคนแนะนำว่า ถ้าผลตรวจบอกว่าไม่ติด อย่าเพิ่งเชื่อ แต่ถ้าผลตรวจบอกว่าติด ให้เชื่อได้ แปลว่าอะไรวะ ? ก็แปลว่าควรที่จะตรวจซ้ำ

    จะเห็นว่าในช่วงระบาดหนัก ๆ กระผม/อาตมภาพไปงานที่ไหนก็โดนเขาตรวจ บางที ๑๐ วันโดนไป ๘ ครั้ง..! บางแห่งให้เราตรวจไป แล้วต้องการหนังสือยืนยันด้วย ก็โดนไป ๖๐๐ บาท ปรากฏว่าไปถึงเขาก็ตรวจซ้ำ กระผม/อาตมภาพก็โวยว่า แล้วมาตรวจอีกเรื่องอะไรกัน ? เพราะว่าตรวจมาแล้ว เสียเงินไปตั้งเยอะ ทำไมไม่ใช้ผลตรวจอันนี้ เขาบอกว่าที่ให้ไปตรวจนั้น เพื่อที่จะยืนยันว่าท่านไม่ติดเชื้อ ถ้าติดจะได้ไม่ต้องมา แต่เมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็ต้องตรวจซ้ำ ขอให้มีความสุขความเจริญ..! เพราะว่าสองคนก็เสียไป ๑,๒๐๐ บาท ถ้าสามคนก็เสียไป ๑,๘๐๐ บาท

    แต่ยังดีกว่าหลวงพ่อสุรศักดิ์หน่อย หลวงพ่อเจ้าคุณสุรศักดิ์ (พระภาวนาวิสุทธิโสภณ วิ.) เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม ออกงานพุทธาภิเษกมาด้วยกันบ่อย ๆ ท่านบอกว่า "ผมตรวจทีหนึ่งโดนไป ๓,๐๐๐ บาท..!" แสดงว่าหลวงพ่อไปตรวจกับคลีนิกเอกชนแน่เลย เขาก็คิดแพงหูดับตามแบบของเอกชนนั่นแหละ แต่คงไม่เป็นไรหรอก เพราะว่าหลวงพ่อท่านมีลูกศิษย์เยอะ คนโน้นช่วยจ่าย คนนี้ช่วยจ่ายก็พอไปได้อยู่แล้ว
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    อีกเรื่องหนึ่งก็คือในเรื่องของการเรียนบาลี พวกเราต้องเร่งรัดให้มากขึ้น โดยเฉพาะไวยากรณ์ ซึ่งเป็นส่วนที่พวกเราน่าจะผ่านง่ายที่สุด ถ้าหากว่าเราสอบติดไวยากรณ์สักวิชาหนึ่ง ส่วนที่เหลือก็จะมีโอกาสแก้ตัว ก็คือมาสอบซ่อม ระหว่างนั้นเราก็จะมีเวลาในการซักซ้อมแปลอยู่เดือนกว่า เกือบสองเดือน ถ้าใครฟลุกก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก ปีหน้าก็เรียนประโยค ๓ ได้เลย

    ส่วนอีก ๒ วัน กระผม/อาตมภาพก็ต้องไปตรวจข้อสอบธรรมศึกษา แล้วโดยเฉพาะของจังหวัดกาญจนบุรี มีการลงชื่อสอบธรรมศึกษามากสุดเป็น ๑ ใน ๕ ของประเทศเป็นประจำเลย ก่อนหน้านี้กินอันดับ ๑ มาตลอด มาระยะหลัง พอเรียนมากขึ้น ๆ คนที่เรียนก็เหลือน้อยลง แต่ก็ยังติด ๑ ใน ๕ ของประเทศ ก็แปลว่า การตรวจข้อสอบ ๒ วัน ก็คงต้องเล่นกันเช้ายันค่ำ..!

    กระผม/อาตมภาพไปในสองสถานะ สถานะแรกก็คือคณะกรรมการ ซึ่งน่าจะต้องมีหน้าที่ไปเดินดูเขาอย่างเดียว แต่ปรากฏว่ามีสถานะที่สอง ก็คือเป็นพระสังฆาธิการระดับปกครอง ที่เขาจัดลงกองตรวจพิเศษ ซึ่งตัวกระผม/อาตมภาพเองก็มักจะเจอพิเศษเสมอ เพราะว่าตั้งแต่ไปถึงก็จะเริ่มตรวจเลย จะไม่รอ พอถึงเวลาใกล้ ๆ เพล คนโน้นจะไปฉันเพล คนนี้จะไปฉันเพล ไอ้ที่เหลือเขาก็เอามาหมกให้ตรงหน้า..!

    บางปีกระผม/อาตมภาพมีเฉพาะที่ตรวจเป็นร้อยชุด แล้วยังต้องเซ็นร่วมกับคนอื่นเขา บางทีต้องแก้คะแนนเขาอีก เพราะว่าหลายท่านก็ตรวจกระทู้ชนิดดูแค่รูปแบบ ไม่ได้ดูเนื้อหาเลย มีอยู่ครั้งหนึ่ง กระผม/อาตมภาพเห็นแล้วใจหาย กระทู้ปึกนั้นทั้งปึก ๕๐ ฉบับ เขียนเหมือนกันหมดทุกตัวอักษรยังไม่พอ หัวกระทู้ยังไม่ใช่สิ่งที่แม่กองธรรมสนามหลวงตั้งไปให้อีกด้วย น่าจะเป็นการเขียนเตรียมมา เมื่อถึงเวลาก็เอามาส่งเลย แล้วท่านเจ้าคณะอำเภอรูปหนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรี ท่านตรวจก็ให้คะแนน ๘๐, ๘๐, ๘๐..!
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    เหตุที่ต้องมีคนตรวจคนหนึ่ง คนทานคนหนึ่ง ก็เผื่อว่าจะเจออะไรที่ไม่ชอบมาพากลแล้วจะได้แก้ไขทัน กระผม/อาตมภาพก็ต้องไปแก้ให้เหลือ ๕๐, ๕๐, ๕๐..! ก็คือให้ค่าเขียนครึ่งหนึ่ง มึงไปเอาคะแนนจากวิชาอื่นมาช่วยก็แล้วกัน..!

    จะให้ตกเลยก็สงสารเด็ก อุตส่าห์เขียนมาอย่างดี ๓ หน้าครึ่ง เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าเจออาจารย์ตรวจมาในลักษณะอย่างนั้น แล้วไม่มีคนคอยทาน ก็ทำให้เด็กผ่านไปโดยที่ทุจริต แต่แย่ตรงที่ว่าพอไปแก้คะแนนแล้วต้องเซ็นกำกับทุกหน้าเลย ๕๐ ชุดคูณ ๔ เข้าไปก็ ๒๐๐ หน้า ตายครับ..! บางวันต้องนั่งจนตูดด้านเลย..!

    บางทีหลวงพ่อเจ้าคุณแย้ม ซึ่งปัจจุบันก็คือพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. เจ้าคณะภาค ๑๔ ถามว่า "ยังไม่เลิกหรือ ? เขาไปฉันเพลกันหมดแล้ว" "ไม่อยากปล่อยให้งานคาอยู่ครับ อย่างน้อยก็ตรวจให้ครบปึกก่อน"

    ในเรื่องของงานมีแต่มากขึ้น พวกท่านทั้งหลายก็มีอยู่อย่างเดียว ก็คือรักษากำลังใจของตนเองให้ได้ อย่าปล่อยให้กิเลสเริงร่าหน้าบานมากนัก อย่างน้อยก็ไล่ทุบไล่ตีให้กิเลสรู้เสียบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้กิเลสทุบถองเราอยู่ฝ่ายเดียว แล้วก็ไปโอดครวญบอกว่าไม่ไหวแล้ว รักที่จะบวชเป็นพระเข้ามานี่ ตรงกลางพอดีนั้นหายาก เพราะว่าไม่ขึ้นก็ลง เพราะฉะนั้น..ถ้าไม่กำไรก็ขาดทุน ไอ้เรื่องเสมอตัวนี่ไม่มี เขาถึงได้ต้องทุ่มเทปฏิบัติกันด้วยชีวิต..!

    ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสามเณร แม่ชี หรือฆราวาสหญิงชายก็เหมือนกัน รักที่จะเอาดี ต้องยอมเหนื่อย ต้องอดทน ต้องพากเพียร ไม่อย่างนั้นแล้ว สิ่งที่เราทำ กับสิ่งที่เราหวังไปกันไม่ได้ แล้วโอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็ย่อมมีไม่ได้เช่นกัน

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอาทิตย์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...