"เมจิ" พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์ กับ...ความศรัทธาองค์จตุคามรามเทพ

ในห้อง 'พุทธศาสนากับคนดัง' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 8 เมษายน 2007.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,173
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] [​IMG] ถ่ายแบบเดินแบบ เป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าในวงการบันเทิงของ น.ส.พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์ หรือ "เมจิ" นักแสดงชื่อดังกลุ่ม "พาวเวอร์ทรี" ของค่ายช่อง ๓ จากนั้นเธอก็มีโอกาสเป็นนางเอกให้หนังวีซีดีเรื่อง "เนื้อหุ้มเหล็ก"

    ก่อนที่ช่อง ๓ จะเห็นแววรุ่งชวนเธอมาเซ็นสัญญาเป็นเด็กในสังกัด ๒ ปี จนทำให้หลายๆ คนได้รู้จักเธอมากขึ้นในบท "รังรอง" สาวบ้าในบทกุ๊กกิ๊กจากละครเรื่อง "ลิขสิทธิ์หัวใจ"
    ก่อนที่จะนำ องค์จตุคามรามเทพ มาแขวนติดตัว "เมจิ" ได้ศึกษาประวัติและที่มา โดยเธอเล่าให้ฟังว่า องค์จตุคามรามเทพ คือ เทพรักษาพระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช สถิตอยู่ที่บานประตูทางขึ้นพระบรมธาตุ เมื่อปี ๒๕๓๐ เมื่อมีการตั้งดวงเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นใหม่ จึงอัญเชิญจตุคามรามเทพไปสถิต ณ ที่นั้น เป็นต้นมา โดยมีความเชื่อว่าเดิมองค์จตุคามรามเทพ เป็นกษัตริย์ในสมัยอาณาจักรศรีวิชัย มีพระนามอย่างเป็นทางการ ว่า พระเจ้าจันทรภาณุ เป็นกษัตริย์ที่สถาปนาอาณาจักรศรีวิชัย เป็นปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์ธรรมาโศกราช
    ขณะเดียวกัน ยังมีความเชื่ออีกว่า องค์จตุคามรามเทพ มีพระวรกายเป็นสีเข้ม เป็นกษัตริย์นักรบที่แกร่งกล้า เมื่อสถาปนาอาณาจักรศรีวิชัยได้อย่างมั่นคงแล้ว จึงได้สมัญญานามว่า "ราชันดำแห่งทะเลใต้" หรือมีอีกราชสมัญญานามหนึ่งว่า "พญาพังพกาฬ"
    ต่อมาท่านทรงบำเพ็ญบุญเพื่อสร้างบารมีอธิษฐานจิตเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อบรรเทาทุกข์แก่มนุษย์ทั้งปวง
    ส่วน องค์จตุคามรามเทพ ที่ห้อยคออยูนั้น "เมจิ" บอกว่า ได้มาจากเพื่อน จากนั้นก็แขวนติดตัวประจำ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีรุ่นพี่บูชาองค์จตุคามรามเทพกันอยู่แล้ว ประกอบกับกระแสคนแขวนจตุคามรามเทพแรงมาก ความอยากรู้ จึงไปซื้อหนังสือองค์จตุคามรามเทพมาอ่าน มีความรู้สึกศรัทธาต่อองค์ท่านมาก เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ เป็นสิ่งให้เรายึดมั่นในจิตใจอยู่ตลอดเวลา
    การบูชาองค์ท่านก็ทำให้เราได้ระลึกนึกถึงองค์ท่าน เพื่อรู้จักทำความดี ทุกครั้งยังอธิษฐานขอให้ช่วยในยามที่มีความทุกข์ จริงๆ มีองค์ท่านช่วยให้สบายใจแล้วก็ยังมี พระสมเด็จ อีก ๑ องค์ที่แขวนติดตัว ทั้งนี้ ที่ผ่านมาอีกสิ่งหนึ่งที่บูชาคือ องค์พระพิฆเนศ กับ พ่อแก่ มีความเชื่อว่า จะช่วยให้ประสบความสำเร็จทางด้านการแสดง และถ้าจะเดินทางไปทำงานก็จะไหว้สวดมนต์ เพราะอย่างน้อยการสวดมนต์แบบนี้เหมือนกับเราได้ตั้งสติ ทำจิตใจให้สงบก่อนที่จะออกจากบ้าน
    เมื่อถามถึงความเชื่อเรื่องปาฏิหาริย์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ "เมจิ" บอกว่า มีความเชื่ออย่างมาก สังเกตได้จากปัจจุบันขับรถเร็วมาก จนเพื่อนทุกคนต่างผวาไปตามๆ กัน จนบางครั้งขับด้วยความเร็ว เรียกว่ามีนาทีเฉียดตายก็คงไม่ผิดนัก
    ครั้งหนึ่ง เห็นว่ารถที่เราขับอยู่จะต้องเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอย่างแน่นอน แต่ปรากฏว่า รอดอุบัติเหตุนั้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะถ้ามีอะไรมาช่วย เหตุการณ์ครั้งนั้นรถคงชนกันไปแล้ว
    "มาถึงวันนี้กลับมาคิดว่า ที่รอดตายมาได้ มันรู้สึกแปลกและน่าอัศจรรย์อย่างมาก ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นบ่อยมาก จนเราเริ่มที่ซึมซับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ ใครว่าพระองค์ไหนดี หรือใครนำพระมาให้ก็จะเก็บบูชาไว้ภายในรถ เพราะเชื่อเหลือเกินว่า องค์พระท่านคงจะช่วยให้เราปลอดภัยจากอุบัติเหตุร้ายๆ ได้ แม้วันใดไม่สบายใจ มีความทุกข์ หรือมีความสุข เราก็อยู่กับพระไว้เป็นที่พึ่งทางใจ" เธอเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากองค์พระมีจริง
    อย่างไรก็ตาม เมื่อว่างเว้นจากงานการแสดง "เมจิ" มักจะไปทำบุญสร้างกุศลให้ตัวเองตลอด เมื่อไม่นานมานี้ยังไปสร้างฐานพระที่วัดกับแฟนคลับ ไม่ได้ไปช่วยบริจาคเพียงแค่เงินอย่างเดียว แต่ช่วยกันก่อสร้างฐานพระด้วย อีกทั้ง ทุกคนที่ไปร่วมบุญกันในวันนั้นก็จะจดจำสิ่งที่ดีนี้ตลอดไป ว่าครั้งหนึ่งในชีวิต เราเคยมาสร้างพระกัน ณ ที่วัดแห่งนี้ บุญหรือความดีที่เราได้ทำนั้น เชื่อว่าจะต้องได้รับผลกรรมดีนั้นกลับคืนมาแน่นอน จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับกรรมของแต่ละคน
    นอกจากนี้แล้ว "เมจิ" ยังชอบอ่านหนังสือธรรมะอีกด้วย ทั้งนี้เธอพูดถึงหนังสือธรรมะว่า ธรรมะบางอย่างเราเข้าไม่ถึง ดังนั้น การอ่านหนังสือธรรมะที่ทันสมัย ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะพาเราเข้าถึงหลักธรรมที่ถูกต้องได้ อนาคตถ้ามีเวลาจะพยายามไปปฏิบัติธรรมให้เข้าใจธรรมะกว่าที่เป็นอยู่ ยิ่งเป็นหนังสือกฎแห่งกรรม อ่านแล้วทำให้เรารู้ ว่ากรรมดีที่เราทำไปสุดท้ายเราจะได้อะไร ในทางกลับกัน ถ้าเราทำกรรมชั่วแล้ว สุดท้ายเราจะได้อะไรตอบแทน อ่านแล้วทำให้เราไม่ประมาทกับชีวิต
    "ชีวิตเราทุกคนที่เกิดมา อยากจะบอกว่า ดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง จะช่วยให้เราอยู่ในสังคมโลกนี้ได้อย่างไม่เป็นทุกข์ และสิ่งสำคัญเราต้องรู้จักรักษาศีล ๕ ให้ได้ เพราะหลักธรรมเบื้องต้นเหล่านี้ สอนให้เราระวังตัว ได้รู้จักทำดี แล้วชีวิตเราก็จะดำเนินตามรอยธรรม ชีวิตที่เหลืออยู่ของเราก็จะมีแต่ความสุข" เมจิ กล่าวทิ้งท้าย0 เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง / ภาพ ภักดี สุขเพิ่ม 0

    -->[​IMG]
    ถ่ายแบบเดินแบบ เป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าในวงการบันเทิงของ น.ส.พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์ หรือ "เมจิ" นักแสดงชื่อดังกลุ่ม "พาวเวอร์ทรี" ของค่ายช่อง ๓ จากนั้นเธอก็มีโอกาสเป็นนางเอกให้หนังวีซีดีเรื่อง "เนื้อหุ้มเหล็ก"
    ก่อนที่ช่อง ๓ จะเห็นแววรุ่งชวนเธอมาเซ็นสัญญาเป็นเด็กในสังกัด ๒ ปี จนทำให้หลายๆ คนได้รู้จักเธอมากขึ้นในบท "รังรอง" สาวบ้าในบทกุ๊กกิ๊กจากละครเรื่อง "ลิขสิทธิ์หัวใจ"
    ก่อนที่จะนำ องค์จตุคามรามเทพ มาแขวนติดตัว "เมจิ" ได้ศึกษาประวัติและที่มา โดยเธอเล่าให้ฟังว่า องค์จตุคามรามเทพ คือ เทพรักษาพระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช สถิตอยู่ที่บานประตูทางขึ้นพระบรมธาตุ เมื่อปี ๒๕๓๐ เมื่อมีการตั้งดวงเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นใหม่ จึงอัญเชิญจตุคามรามเทพไปสถิต ณ ที่นั้น เป็นต้นมา โดยมีความเชื่อว่าเดิมองค์จตุคามรามเทพ เป็นกษัตริย์ในสมัยอาณาจักรศรีวิชัย มีพระนามอย่างเป็นทางการ ว่า พระเจ้าจันทรภาณุ เป็นกษัตริย์ที่สถาปนาอาณาจักรศรีวิชัย เป็นปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์ธรรมาโศกราช
    ขณะเดียวกัน ยังมีความเชื่ออีกว่า องค์จตุคามรามเทพ มีพระวรกายเป็นสีเข้ม เป็นกษัตริย์นักรบที่แกร่งกล้า เมื่อสถาปนาอาณาจักรศรีวิชัยได้อย่างมั่นคงแล้ว จึงได้สมัญญานามว่า "ราชันดำแห่งทะเลใต้" หรือมีอีกราชสมัญญานามหนึ่งว่า "พญาพังพกาฬ"
    ต่อมาท่านทรงบำเพ็ญบุญเพื่อสร้างบารมีอธิษฐานจิตเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อบรรเทาทุกข์แก่มนุษย์ทั้งปวง
    ส่วน องค์จตุคามรามเทพ ที่ห้อยคออยูนั้น "เมจิ" บอกว่า ได้มาจากเพื่อน จากนั้นก็แขวนติดตัวประจำ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีรุ่นพี่บูชาองค์จตุคามรามเทพกันอยู่แล้ว ประกอบกับกระแสคนแขวนจตุคามรามเทพแรงมาก ความอยากรู้ จึงไปซื้อหนังสือองค์จตุคามรามเทพมาอ่าน มีความรู้สึกศรัทธาต่อองค์ท่านมาก เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ เป็นสิ่งให้เรายึดมั่นในจิตใจอยู่ตลอดเวลา
    การบูชาองค์ท่านก็ทำให้เราได้ระลึกนึกถึงองค์ท่าน เพื่อรู้จักทำความดี ทุกครั้งยังอธิษฐานขอให้ช่วยในยามที่มีความทุกข์ จริงๆ มีองค์ท่านช่วยให้สบายใจแล้วก็ยังมี พระสมเด็จ อีก ๑ องค์ที่แขวนติดตัว ทั้งนี้ ที่ผ่านมาอีกสิ่งหนึ่งที่บูชาคือ องค์พระพิฆเนศ กับ พ่อแก่ มีความเชื่อว่า จะช่วยให้ประสบความสำเร็จทางด้านการแสดง และถ้าจะเดินทางไปทำงานก็จะไหว้สวดมนต์ เพราะอย่างน้อยการสวดมนต์แบบนี้เหมือนกับเราได้ตั้งสติ ทำจิตใจให้สงบก่อนที่จะออกจากบ้าน
    เมื่อถามถึงความเชื่อเรื่องปาฏิหาริย์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ "เมจิ" บอกว่า มีความเชื่ออย่างมาก สังเกตได้จากปัจจุบันขับรถเร็วมาก จนเพื่อนทุกคนต่างผวาไปตามๆ กัน จนบางครั้งขับด้วยความเร็ว เรียกว่ามีนาทีเฉียดตายก็คงไม่ผิดนัก
    ครั้งหนึ่ง เห็นว่ารถที่เราขับอยู่จะต้องเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอย่างแน่นอน แต่ปรากฏว่า รอดอุบัติเหตุนั้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะถ้ามีอะไรมาช่วย เหตุการณ์ครั้งนั้นรถคงชนกันไปแล้ว
    "มาถึงวันนี้กลับมาคิดว่า ที่รอดตายมาได้ มันรู้สึกแปลกและน่าอัศจรรย์อย่างมาก ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นบ่อยมาก จนเราเริ่มที่ซึมซับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ ใครว่าพระองค์ไหนดี หรือใครนำพระมาให้ก็จะเก็บบูชาไว้ภายในรถ เพราะเชื่อเหลือเกินว่า องค์พระท่านคงจะช่วยให้เราปลอดภัยจากอุบัติเหตุร้ายๆ ได้ แม้วันใดไม่สบายใจ มีความทุกข์ หรือมีความสุข เราก็อยู่กับพระไว้เป็นที่พึ่งทางใจ" เธอเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากองค์พระมีจริง
    อย่างไรก็ตาม เมื่อว่างเว้นจากงานการแสดง "เมจิ" มักจะไปทำบุญสร้างกุศลให้ตัวเองตลอด เมื่อไม่นานมานี้ยังไปสร้างฐานพระที่วัดกับแฟนคลับ ไม่ได้ไปช่วยบริจาคเพียงแค่เงินอย่างเดียว แต่ช่วยกันก่อสร้างฐานพระด้วย อีกทั้ง ทุกคนที่ไปร่วมบุญกันในวันนั้นก็จะจดจำสิ่งที่ดีนี้ตลอดไป ว่าครั้งหนึ่งในชีวิต เราเคยมาสร้างพระกัน ณ ที่วัดแห่งนี้ บุญหรือความดีที่เราได้ทำนั้น เชื่อว่าจะต้องได้รับผลกรรมดีนั้นกลับคืนมาแน่นอน จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับกรรมของแต่ละคน นอกจากนี้แล้ว "เมจิ" ยังชอบอ่านหนังสือธรรมะอีกด้วย ทั้งนี้เธอพูดถึงหนังสือธรรมะว่า ธรรมะบางอย่างเราเข้าไม่ถึง ดังนั้น การอ่านหนังสือธรรมะที่ทันสมัย ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะพาเราเข้าถึงหลักธรรมที่ถูกต้องได้ อนาคตถ้ามีเวลาจะพยายามไปปฏิบัติธรรมให้เข้าใจธรรมะกว่าที่เป็นอยู่ ยิ่งเป็นหนังสือกฎแห่งกรรม อ่านแล้วทำให้เรารู้ ว่ากรรมดีที่เราทำไปสุดท้ายเราจะได้อะไร ในทางกลับกัน ถ้าเราทำกรรมชั่วแล้ว สุดท้ายเราจะได้อะไรตอบแทน อ่านแล้วทำให้เราไม่ประมาทกับชีวิต "ชีวิตเราทุกคนที่เกิดมา อยากจะบอกว่า ดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง จะช่วยให้เราอยู่ในสังคมโลกนี้ได้อย่างไม่เป็นทุกข์ และสิ่งสำคัญเราต้องรู้จักรักษาศีล ๕ ให้ได้ เพราะหลักธรรมเบื้องต้นเหล่านี้ สอนให้เราระวังตัว ได้รู้จักทำดี แล้วชีวิตเราก็จะดำเนินตามรอยธรรม ชีวิตที่เหลืออยู่ของเราก็จะมีแต่ความสุข" เมจิ กล่าวทิ้งท้าย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...