เจ้าแม่กวนอิม ไปสู่นิพพานแล้ว จริงหรือ???

เมื่อคืนนี้ (วันที่ 4 พ.ย. 2549) ผมได้คุยกับเพื่อนธรรมท่านหนึ่งทาง MSN ถึงเรื่องพระโพธิสัตว์กวนอิม ต่อมาเพื่อนธรรมท่านนี้บอกว่า "เจ้าแม่กวนอืม ไปนิพพานแล้ว จากการอ่านกระทู้ในเว็ปพลังจิต" เดิมที่ผมก็ไม่อยากเชื่อ จึงคิดว่าเป็นมารมาทดสอบความศรัทธาในพระแม่กวนอิม ที่ผมมีมานาน เพื่อเป็นการทดสอบความตั้งใจ แต่คิดไปคิดมาก็หวั่นใจอยู่บ้าง จึงอยากถามท่านผู้รู้ทั้งหลายว่าจริงหรือไม่ครับ

----------
"...มิเคยเชื่อ บันทึก เหมยบุปผา..."
"...เชื่อหัตถา คราเด็ดดอม เกิดสีสัน..."
"...มิเชื่อลอง ดูบุปผา นานาพันธุ์..."
"...ลมบูรพา ผ่านผัน วสันต์เยือน..."

 

จริงครับ....แต่ปฎิปทาท่านยังอยู่...ยังมีผู้เจริญรอยตามทั้งต่ออีก....และองค์ที่มีบารมีใกล้เคียงท่านก็คงทำหน้าที่ต่อ....อิอิ..

 

1.ก็หมายความว่า ผู้ที่เคารพนับถือพระแม่อยู่ ก็ยังสามารถกราบไหว้บูชาได้ใช่ไหมครับ
2.แล้วท่านยังสามารถฉุดช่วยเหล่าเวนัยสัตว์ได้หรือไม่ครับ
3.ผู้ที่จะเจริญรอยตามท่านคือผู้ที่จะมาเป็นพระแม่กวนอิมองค์ต่อไปใช่ไหมครับ
4.แล้วในปัจจุบันนี้ยังมีอีกเหรอครับผู้ที่มีบารมีสูงเทียบเท่าพระแม่น่ะครับ
5.แล้วถ้าอยากบำเพ็ญเป็นพระโพธิสัตว์ มีวิธีอะไรบ้างครับ
----------
"...จุดจบของชีวิตคือการเกิด จุดเริ่มต้นของชีวิตคือความตาย..."

 

เขาก็ลือกันนะครับท่านเข้าพระนิพพานนานแล้ว ท่านปรารถนาพระโพธิญาณ
ตั้งแต่เป็นผู้หญิง จำกันได้ติดใจสมัยพระโพธิสัตว์กวนอิมที่ทุกวันนี้คนยังระลึก
นึกถึงท่านอยู่มากเพราะคณะลูกหลานบริษัทบริวารที่เคยติดตามท่านมาใน
อดีตมาเกิดในช่วงนี้กันมากก็ระลึกถึงท่าน

ท่านเข้าพระนิพพานแล้วยังจะสงเคราะห์ผู้ที่เคารพนับถือท่านได้หรือไม่
อันนี้ขอยืนยันว่าสงเคราะห์ได้แน่นอนถ้ามีความเคารพบูชาเลื่อมใสในท่าน
และทำตามที่ท่านแนะนำสั่งสอน

คำว่าบารมีนั้นแปลว่ากำลังใจ บารมีสูงก็แปลว่ากำลังใจสูง บารมีเต็มก็หมาย
ความว่ากำลังใจเต็ม กำลังใจเต็มเป็นอย่างไรนั้นจะขอยกตัวอย่างการให้ทาน
การให้ทานต่างๆที่ไม่เกินวิสัยของเรานั้นเรามีความเต็มใจที่จะให้หรือปล่าว
พร้อมในการที่จะให้อย่างทันทีทันใดหรือไม่ และก็เมื่อนึกถึงทาน หรือได้ยิน
เรื่องทานขึ้นมาเมื่อใดก็จะสำรวจใจในความพร้อมตั้งใจรอคอยว่าขณะนี้เรา
ไม่มีโอกาสจะให้สิ่งนั้นสิ่งนี้ แต่เมื่อใดที่เรามีเราจะให้ เราจะทำในฉับพลันทันที
ถ้าใจของเราทรงได้อย่างนี้ ตามตำราบอกว่าบารมีเต็ม ในการให้ทาน

คำถามที่ว่า
ปัจจุบันนี้ยังมีอีกเหรอครับผู้ที่มีบารมีสูงเทียบเท่าพระแม่น่ะครับ

ความหมายของคุณน่าจะหมายถึงบุญญาธิการมากกว่า เรื่องนี้ไม่มีใครเขาเอา
มาเปรียบเทียบกันหรอกครับเพราะจะเป็นเหตุให้คณะลูกหลานบริษัทบริวาร
บาดหมางใจกันจะเป็นเหตุให้โต้เถียงกันอันไม่มีผลดีใดๆ
เหมือนอย่างที่เราเป็นลูกของพ่อแม่ เราก็ย่อมจะรักเคารพเทิดทูนยกย่องพ่อแม่
ของเราว่าพ่อแม่ของเรานั้นเก่งกว่าใครดีกว่าใคร ไม่พอใจทันทีที่มีคนหนึ่งคน
ใดอยู่ๆก็มาพูดว่าพ่อของเขาแม่ของเขานั้นดีกว่าของเราอีก

ทีนี้เรื่องบุญญาธิการท่านใดจะมากจะน้อยกว่ากันนี่ถ้าจะวัดกันจริงๆก็วัดได้
เพราะระยะเวลาเป็นเครื่องกำหนด ถ้าจะเทียบก็เหมือนบางคนใกล้จะจบด๊อก
เตอร์แล้วแต่บางคนอาจจะเพิ่ง ม.3 แต่ถ้าจบด๊อกเตอร์กันเมื่อไรก็อาจจะพอๆ
กันแต่เรื่องความสามารถพิเศษอาจจะไม่เหมือนกัน ที่พูดนี่ก็พูดตามตำราเพราะ
ผมเองยังไม่ได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงไม่บังอาจไปล่วงเรื่องรู้พุทธวิสัย
ของพระองค์ท่าน พอจะรู้อะไรบ้างเป็นเพียงลางๆเท่านั้นแค่ในฐานะที่กำลัง
เรียนอยู่คือปรารถนาพระโพธิญาณ วิริยาธิกะพิเศษ

แล้วถ้าอยากบำเพ็ญเป็นพระโพธิสัตว์ มีวิธีอะไรบ้างครับ

ไปดูในบารมีทั้งสามสิบทัศน่ะครับว่ามีอะไรบ้าง
แล้วก็มาดูใจของตัวเองว่ามีความตัญญูกตเวทิตาใจถึงพอใหมที่จะแบกท่านแม่ว่ายน้ำข้ามมหาสมุทร
มีความเพียรพอใหมที่จะว่ายน้ำกลางมหาสมุทรทั้งที่มองไม่เห็นฝั่ง แต่ท่านก็ว่ายน้ำอยู่ตามหน้าที่ของลูกผู้ชายพึงกระทำอย่างท่านพระมหาชนก

 

...

 

ปณิธานท่าน
ตราบใดมนุษย์ยังไม่พ้นทุกข์ ท่านจะไม่เข้านิพพาน
ผมเชื่อครับ ใครคิดอย่างอื่นก็ไม่เป็นไร

 

ไปจีนมาครับ ก่อนไปจีนก็ขอเจ้าแม่ไว้ว่า ขอให้ได้ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่จีน ก็ได้ไปจริงๆด้วย ดีใจจัง

 

ท่านแม่ศรีระจิตรของเราไง ถ้าทบทวนให้ดีๆ พวกเราหลายๆคนเคยเกิดเป็นมังกือกันบ้างไหม มังกรหรือพญานาค ก็พวกเชื้อสายเดียวกัน อิอิ หรือเวลาไปเจอคนที่เป็นสื่อร่างทรงก็มักจะมีการสื่อบอกว่าเราเป็นมังกร ของพระแม่ ก็คือลูกๆของท่านนั่นเอง
ท่านแม่จามเทวี และท่านแม่ย่าโม ที่เรารู้สึกเคารพท่าน ก็เพราะว่าท่านคือท่านแม่ใหญ่ของเรานั่นเอง

 

ถึงท่าน กวนอิม จะไป นิพพานแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะ ตัดขาดจากโลกนี้ไปเลย ยังคงมาสงเคราะห์
ลูกหลาน ทั้งหลายอยู่ เคยรับรู้มาว่า ท่านที่ไปนิพพานแล้ว ก็คล้ายๆกับ คนที่พ้นออกจากคุก
ยังสามารถกลับมา เยี่ยมเยียน คนที่ยังติดคุกแบบเราๆ ท่านๆ ได้เสมอๆ นิพพาน คือที่ ดับสิ้นจากกิเลส
ทั้งมวล ( กิเลส ที่เป็นตัวเกิด ทำให้เรา เกิดไม่จบไม่สิ้น) ไม่ใช่ ดับสูญหายไป เฉยๆ

 

หลายคน เคยบอกให้ผม เลิกงมงาย ในสิ่งที่ผมเชื่อมาทั้งชีวิต เรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่ผมนับถือ ยำเกรงมาตลอด 17 ปี แต่ถึงแม้ประโยคนี้จะผ่านหูผมไปหลายปีแล้วก็ตาม ศรัทธาของผมก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ถึงแม้พระแม่จะไปสู่พระนิพพานแล้ว แต่ผมก็สัมผัสถึงพลังมหาเมตตาของพระแม่ทุกครั้ง ที่ผมมองเข้าไปในรูปหรือรูปปั้นที่เป็นพระแม่ทุกรูปแบบ และผมจะศรัทธาพระแม่ต่อไป จนกว่าผมจะตาย ถึงแม้ว่าจะมีกี่คนที่พยายามจะให้ผมถอดใจเลิกนับถือท่านก็ตามที...
----------
"...ศรัทธา คือสายธารที่กว้างไกล ย่อมมีสิ่งกีดขวางบ้างเป็นธรรมดา แต่หากเราไม่กระโดดลงจากเรือแล้วขึ้นฝั่งเพราะสิ่งกีดขวาง และพยายามผ่านมันไปให้ได้ เราก็จะไปสู่ต้นธารอย่างมีความสุข และร่มรื่น..."

 

คุณKAMAKURA การศรัทธานั้นดีแต่ต้องตั้งอยู่บนปัญญาด้วย ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นงมงายไปแล้วมารจะมาหลอกความศรัทธาของเราไป....เมื่อเคารพท่านต้องสร้างปัญญาตามท่านด้วยเพราะพระแม่กวนอิมท่านมีปัญญาธรรมสูง เช่น ท่านสอนว่า( ในบทสวดธรณีสูตร ) รูปก็คือความว่าง ความว่างก็คือรูป รูปไม่ต่างไปจากความว่าง ความว่างก็ไม่ต่างไปจากรูป เวทนา สัญญา สังขารก็เป็นดังนี้ด้วย....สาธุ

 

มีพระโพธิสัตว์อยู่ 4 หรือ 5 องค์นี่ละ ที่เกิดเมื่อไรจะได้นิพพานแน่นอน
และสามารถกำหนดเองได้ว่าจะเกิดใหม่อีกหรือไม่ เกิดอีกเท่าใดก็ได้
พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรกวนอิมเจ้า ก็เป็นหนึ่งในนั้น

 

พระแม่กวนอิม เป็น พระโพธิสัตว์

พระโพธิสัตว์ ปราถนา ช่วยเหลือสรรพสัตว์

นิพพาน ตัดขาด จากการเวียนว่ายตายเกิด รัก โลภ โกรธ หลง

นิพพานแล้วจะกลับมาช่วยเหลือสรรพสัตว์ได้ยังไง

โอ้ว...งง...งง...เง็ง...เง็ง...???

 

ผู้บำเพ็ญสัตย์อธิษฐานบารมีอย่างแรงกล้า ว่าจะช่วยสรรพสัตว์
และสะสมบุญมากพอ ก็สามารถได้ดั่งใจ คือ เกิดเมื่อใดก็นิพพาน
ทุกชาติ สอนคนไปนิพพานได้ทุกชาติ และเกิดใหม่ได้อีกดั่งใจปรารถนา


ดังนี้ นิพพาน แล้วไม่เกิดใหม่ ก็อย่าได้ยึดมั่นไว้ว่าอย่างนั้นเสมอไป
เพราะผู้ที่นิพพานเหนือกฏธรรมชาติ และยังเกิดใหม่ได้ก็มีอยู่ คือ เหล่า
พระมหาโพธิสัตว์นี่เอง

แต่การเกิดใหม่จะได้รับกรรมมาก เพราะฝืนกรรม เช่น พระมหาโพธิสัตว์
เยซูคริสตร์ ท่านถูกทรมานอย่างหนักและตายบนไม้กางเขน พระมหา
โพธิสัตว์อวโลกิเตศวรกวนอิม ท่านต้องควักตา ตัดมือสองข้างให้พ่อ


แต่หากกำลังบุญบารมีสะสมมามาก ก็ได้รับกรรมน้อย ท่านจะกำหนดก่อน
ว่าจะเอาอะไรมาบ้าง เพราะหากกำลังบารมีน้อย แล้วเกิดเป็นกษัตริย์ นี่ก็
ได้รับกรรมมาก ดังนี้ พระมหาโพธิสัตว์ที่กำลังบารมีไม่มาก จึงต้องประเมิน
กำลังแล้วตั้งจิตอธิษฐานมั่นก่อนเกิด เพราะหาก กำลังอธิษฐานน้อยไป เกิด
นิพพานแล้วกลับไม่ได้ คือ เข้านิพพานไปจริงๆ เกิดไม่ได้อีกก็จบกัน

อย่างพระมหาโพธิสัตว์ศรีอาริยเมตไตรย์ ท่านก็บำเพ็ญบารมี ท่านก็จะได้
เป้นทั้งพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปเพื่อมาสะสมบุญ แล้วท่านยังสามารถไปเป็น
พระมหาโพธิสัตว์ และจุติมาคอยช่วยค้ำจุนพระศาสนาของพระพุทธเจ้า
องค์อื่นๆ ได้อีก


เรื่องนี้เป็น "อจิณไตย" วิสัยของพระโพธิสัตว์ต่างๆ แต่หากเราทำบุญ
สะสมบุญบารมีมาก อธิษฐานขอให้รู้ก็จะได้รู้ได้เช่นกัน


สาธุ..................................................................

 

การบำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นพระมหาโพธิสัตว์
...........................................................................


จะมากกว่าพระพุทธเจ้าทั่วไป อาทิเช่น

1. พระศรีอาริยเมตไตรย์ ท่านจะได้เป็นพระพุทธเจ้าก่อนพระสมณะโคดม
แต่ด้วยผลบุญอันหนึ่ง ที่พระสมณะโคดมท่านสับเปลี่ยนดอกบัวกัน แล้ว
พระศรีอาริยเมตไตรย์ สละได้แม้นกระทั่งการได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป
อานิสงค์นี้จึงส่งผลให้ท่านได้เป็นถึง "พระมหาโพธิสัตว์"

2. พระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรกวนอิมเจ้า ท่านมีอธิษฐานบารมีสูงส่งมาก
เพราะท่านตั้งจิตว่าจะช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์สืบต่อไป ท่านสะสมบารมีมา
ยาวนาน จนแม้นแต่พระพุทธเจ้าธรรมดาก็นับบารมีท่านไม่ได้ ท่านสละแล้ว
ที่จะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ท่านยอมสละแม้นพุทธภูมิเพื่อช่วยสรรพสัตว์
ตลอดไป เมื่อบุญบารมีท่านถึง ท่านก็ได้ดังจิตอธิษฐานนั้น


แต่อย่าลืมพระพุทมธเจ้าสมณะโคดม เมื่อท่านลงมาจุติแล้ว หลักธรรมของท่าน
จะเหมาะสมและสอดคล้องที่สุดแล้ว สำหรับคนยุคนั้น พระมหาโพธิสัตว์ท่านจุติ
มาช่วยส่งเสริม สนับสนุน เหมือนพี่เลี้ยงคอยช่วยพระพุทธเจ้าทั้งหลายนั่นแล
ท่านไม่หวังให้ผู้ใดไปรู้จักท่านมาก ไปศรัทธามากกว่าพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
ท่านจึงเห็นรูปของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรกวนอิม ท่านยกพระสมณะโคดม
ขึ้นเหนือเศียรด้วยเหตุนี้


แต่คนที่ศรัทธาท่านมาก ถึงขนาดรู้ว่าท่านคือ พระธิดาเมี่ยวซ่านก็มีจริงๆ
ทั้งๆ ที่ท่านปกปิดตัวเอง คนที่รู้ว่าท่านคือ พระอวโลกิเตศวร ก็มีจริงๆ
ทั้งๆ ที่ท่านเอาบารมีมาใช้ไม่มาก



เพราะท่านเหล่านั้น สร้างบุญบารมีมาก และอธิษฐานขอให้ได้รับรู้ก็
จักได้ดั่งใจปรารถนาเมื่อสะสมบุญมากพอ ดังนี้แล



สาธุ..................................................................

 

การร้องขอให้พระมหาโพธิสัตว์จุติ
.....................................................................


ต้องกระทำทั้งสามภพ คือ สรรพสัตว์ที่ทนทุกข์ในนรกร่ำไห้หาให้ท่าน
ให้เห็น (ซึ่งท่านเห็นตลอดเวลา) ต้องร่ำไห้อยากหลุดพ้นทุกข์ไปนิพพาน

ภพสวรรค์ ชาวเทวดาชั้นต่างๆ ท่านที่มีตาทิพย์เห็นได้สามโลก เช่น พระ
อินทร์ ท่านจะรู้ได้ว่าโลกนี้กำลังแย่ แต่ท่านจะไม่รู้ว่าพระมหาโพธิสัตว์ท่าน
ใดน่าจะจุติ ท่านก้จะประชุมกัน แล้วบำเพ็ญบารมีร่วมกัน กำหนดจิตถึง
พระมหาโพธิสัตว์ท่านนั้น ถ้าเป็นองค์ที่บารมีมาก เทวดาก็ต้องบำเพ็ญบารมี
มาก เมื่อท่านร้อน รับรู้ได้ ท่านก็ลงมาหา เหล่าทวยเทพก็ทูลขอให้ท่านจุติ
ช่วยโลกมนุษย์ นี่คือ การสะสมบุญของชาวสวรรค์

เมื่อพระมหาโพธิสัตว์ท่านนั้น พิจารณาโดยรอบแล้ว ท่านจึงจะตัดสินใจ
อาจจะจุติหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสามภพ

ทีนี้ หากมนุษย์ไม่บำเพ็ญเพียรบารมีให้มาก ไม่มีศีลสมบูรณ์ ไม่สวดมนต์
ร้องขอถึงท่าน ไม่เข้าวัดทำบุญอย่างหนัก ท่านก็จะไม่ลงมาจุติ

เหล่าทวยเทพ ก็จะเริ่มสร้างบุญ บ้างจุติมาบอกเรื่องราว สอนคนให้บูชา
พระมหาโพธิสัตว์ เมื่อคนรู้จักท่าน ในนามต่างๆ ทำความดีมากมายรอท่าน
มามอบดวงตาเห็นธรรม


สุดท้าย ท่านก็ต้องจุติ
ขอให้สามภพนี้ จงทำความดีให้มาก ก็จะได้เมตตาจากพระมหาโพธิสัตว์เอย

สาธุ..........................................................................

 

.
.
.
.
.
.

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">เรียนท่านสมาชิกทุกๆท่านในกระทู้นี้ด้วยความนับถือ </TD></TR></TBODY></TABLE>
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">
จำเป็นต้องลบข้อความบางส่วนสมาชิกที่ใช้นามว่า พรเทพ คชมาศ

สาเหตุ

กล่าวอ้างชื่อสมาชิกท่านอื่นในเชิงเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวสมาชิกผู้นั้นโดยมิได้รับการรับรองหรือยินยอมจากสมาชิกที่ คุณ พรเทพ อ้างถึง รวมทั้งโพสข้อความบางประโยคที่อาจก่อให้เกิดความสับสนและเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง

ทุกๆท่านในบอร์ดนี้มีสิทธิที่จะแสดงออกในสิ่งที่ตนเชื่อและศรัทธาได้โดยไม่มีการห้ามแต่ประการใดทั้งสิ้นแต่ทั้งนี้ต้องไม่เป็นการเบียดเบียนสมาชิกท่านอื่นในเวบโดยที่เขาไม่ยินยอมหรือรับรองข้อความเหล่านั้นที่สมาชิกผู้นั้นถูกอ้างถึง

รายละเอียดอื่นๆท่านสมาชิกสามารถเข้าไปดูที่ห้องสมาชิกทำผิดกฎ
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=59466

จึงแจ้งมาเพื่อให้ทราบโดยถ้วนหน้ากัน

ด้วยความนับถือ

Wisdom </TD></TR></TBODY></TABLE>
.
.
.
.
.

 

พรเทพ มั่วได้ไจจริงจริง

 

พระอารยอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์
ไม่อาจประมาณการเกิดของท่านได้
และไม่อาจประมาณการเข้านิพพานของท่านได้
ท่านได้ตั้งอยู่มาหลายกัปป์หลายกัลป์
ท่านไม่ได้มี หรือว่าไม่ได้ไม่มี
ท่านอยู่ในเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์
ท่านอยู่ในท่ามกลางแห่งพรหมจรรย์
ท่านอยู่ในที่สุดแห่งพรหมจรรย์
เหล่าสัตว์เหล่าใดครองซึ่งเสา3
เหล่าสัตว์เหล่าใดมานะซึ่งเสา3
เหล่าสัตว์เหล่าใดอโยนิโสมนสิการซึ่งเสา3
เหล่าสัตว์เหล่าใดอภิชญาซึ่งเสา3
เหล่าสัตว์เหล่าใดไพบูรย์ซึ่งเสา3
เหล่าสัตว์เหล่าใดเพลิดเพลินซึ่งเสา3
เหล่าสัตว์เหล่าใดบำเรอซึ่งเสา3
เหล่าสัตว์เหล่าใดเกษมซึ่งเสา3
หากเหล่าสัตว์ยังไม่อาจละจากเสา3นี้ได้
ท่านจะยังไม่นิพพาน

 

เอาเท่าที่ผมรู้แล้วกันนะครับ

เจ้าแม่กวนอิม ท่านเข้าสู่พระนิพพานแล้ว เป็นเรื่องจริง (จากหลวงพ่อพระราชพรหมยานท่านยืนยันแล้ว)

ส่วนใครที่บอกว่าเข้านิพพานแล้วตัดขาดไปเลย นั่นไม่จริง เพราะความเป็นทิพย์มีอยู่ ความเมตตา มีอยู่ เพียงแต่ท่านตัดกิเลสแล้วแค่นั้นเอง เพราะถ้าทุกท่านที่เข้านิพพานแล้วตัดขาดหมด พระพุทธเจ้าก็คงจะต้องตัดขาดด้วย แต่พระองค์ไม่เคยตัดขาดเลย ท่านยังคงมีเมตตากับทุกสิ่งเป็นปกติ (คุณต้องลองปฏิบัติเองแล้วจะรู้)

ความศรัทธาถ้าเป็นไปตามหลักความเป็นจริงก็คงจะดี ถ้าหากเราไม่หลงจนเกินพอดี คิดว่าท่านต้องเป็นอย่างนั้น ท่านต้องเป็นอย่างนี้ ท่านเป็นแบบนี้ไม่ได้ สรุปว่าท่านเป็นแบบที่เราคิดหรือ

ศรัทธาในเมตตาบารมีท่านไม่ผิดเพียงแต่อย่างพยายามสร้างให้ท่านเป็นสิ่งที่คุณคิด ผมจะบอกว่าตามหลักแล้ว พระโพธิสัตว์ที่บารมีสูงที่สุดตอนนี้ ควรจะเป็น พระศรีอารยเมตไตรย์ เพราะท่านจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ถัดไป บำเพ็ญบารมีมา 16 อสงไขย กำไรแสนมหากัปป์ เป็น วิริยาธิกะ แล้วก็คงจะไล่ไปตามท่านที่จะลงมาเพื่อตรัสรู้ตามหลังตามพุทธทำนาย

ถ้าเราศรัทธาในพระพุทธเจ้า พระอริยสงฆ์ พระโพธิสัตว์องค์ใดก็ตาม จงศรัทธาแล้วเคารพท่าน ทำบุญ ทำความดีถวายท่าน ไม่ต้องไปคิดหรอกครับว่าท่านบารมีมากแค่ไหน เพราะป่วยการที่จะคิด คิดแล้วได้อะไรนอกจากกิเลส ตัวกูของกู สิ่งที่กูเคารพต้องดีที่สุดต้องเยอะที่สุด.. ผมว่าเสียเวลาเปล่า หันมาทำความดีตามแบบที่ทุกพระองค์ทำจะดีกว่า เพราะเมื่อท่านเห็นว่าคุณทำแบบนั้น ท่านก็คงดีใจแล้วล่ะครับ