เรื่องเด่น อิทธิปาฏิหาริย์ "หลวงพ่อเกษม เขมโก"ช่วยรักษาโรคร้ายให้ลูกศิษย์ในกุฏิ "หลวงปู่ดู่"

ในห้อง 'หลวงปู่ดู่ และ หลวงตาม้า' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 15 ตุลาคม 2018.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,209
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,711
    ไปมา..ไร้ร่องรอย อิทธิปาฏิหาริย์แห่งพระอริยเจ้า "หลวงพ่อเกษม เขมโก"ช่วยรักษาโรคร้ายให้ลูกศิษย์ในกุฏิ " หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ"อย่างอัศจรรย์ยิ่ง


    “…เรื่องนี้เกิดขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๓๑ วันหนึ่งขณะที่ข้าพเจ้าแต่งหน้ากำลังจะไปรับลูกที่โรงเรียน ก็สังเกตเห็นว่าคอของตนเองบวมจึงไปโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เพื่อทำการตรวจ แพทย์พบว่ามีก้อนเนื้อขนาด เท่าลูกมะปรางอยู่ในคอ แพทย์บอกว่าอาจจะเป็นเนื้อร้ายต้องผ่ามาพิสูจน์ เมื่อรู้ดังนั้นข้าพเจ้าก็รีบเดินทางไปหาหลวงปู่ดู่ที่วัดสะแก พอไปถึงก็กราบเรียนท่าน ท่านพูดด้วยเสียงอันดังว่า “ไม่ปงไม่เป็นหรอกมะเร็ง”


    แล้วท่านก็เล่าให้ฟังว่ามีชาวบ้านมาหาท่าน เขาเป็นมะเร็งในมดลูก ท่านทำมือให้ดูว่าก้อนเนื้อมีขนาดเท่าลูกส้มโอ หมอบอกว่าต้องผ่าตัด เขากลัวมากเลยมาหาท่าน ท่านก็เมตตาให้เขาดื่มน้ำมนต์และให้ภาวนาไปด้วย ชาวบ้านผู้นั้นก็ปฏิบัติตามคือดื่มน้ำมนต์และภาวนาพุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณังคัจฉามิ อย่างเคร่งครัดจนครบ ๓เดือนก็ไปหาหมอตรวจดูปรากฏว่าก้อนเนื้อนั้นได้หายไปอย่างน่าอัศจรรย์


    หลังจากที่ท่านเล่าให้ฟังแล้วท่านก็เมตตาอธิษฐานจิตดอกบัวให้ข้าพเจ้านำกลับไปต้มกับ
    น้ำมนต์ ดื่มเป็นประจำทุกวันและให้ภาวนาไตรสรณคมน์ไปด้วย คืนหนึ่งข้าพเจ้านอนหลับฝันไปว่า ข้าพเจ้ากับสามีนั่งอยู่ในเรือลำหนึ่งโดยนั่งข้างหน้าและมีคนนั่งอยู่กัน เต็มลำ เรือลำนี้มุ่งหน้าข้ามไปยังเกาะกลางทะเล บนเกาะมีคุณตาคุณยายนั่งอยู่ในกระท่อม


    พอไปถึงคนทั้งหลายก็ขึ้นฝั่ง ไปให้ท่านทั้งสองรักษาโรคให้ด้วยการเป่า เมื่อท่านทั้งสองเป่ารักษาให้คนทั้งหลายก็หายจากโรคภัยไข้เจ็บในทันทีแล้วพา กันกลับลงเรือ ส่วนข้าพเจ้าเป็นคนสุดท้ายที่เข้าไปขอให้ท่านทั้งสองช่วยรักษา คุณตาคุณยายกลับบอกว่า “ข้าช่วยเอ็งไม่ได้” ได้ยินเพียงเท่านี้ข้าพเจ้าก็ร้องไห้อ้อนวอนขอให้ท่านทั้งสองช่วยด้วยเถิด และข้าพเจ้ายังตัดพ้อว่าคนอื่นเขามากันเต็มลำเรือท่านยังช่วยได้ทำไมเราคน เดียวท่านไม่ช่วย


    อ้อนวอนทั้งน้ำตาอยู่นานก็ไม่เป็นผล ข้าพเจ้าจึงเดินร้องไห้กลับมาเพื่อจะลงเรือ ทันทีนั้นก็ได้ยินเสียงท่านเรียกแล้วพูดว่า “เอาอย่างนี้มีคนเดียวที่ช่วยได้” ข้าพเจ้ารีบถามว่าเป็นใคร ท่านก็บอกว่า “หลวงพ่อเกษม เขมโก ที่ลำปาง” ข้าพเจ้าจึงพูดว่าหลวงพ่อเกษม เขมโกท่านพบยาก ไปก็ลำบากไม่รู้จักใครที่จะพาไป ท่านบอกว่าให้ไปอยุธยาแล้วจะมีคนพาไป


    5555555(4).jpg


    เมื่อตื่นขึ้นมาข้าพเจ้าก็ รีบไปหาหลวงปู่ดู่ที่วัดสะแกทันที ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณบ่าย๓โมงแล้วข้าพเจ้ากราบเรียนท่านให้ฟังถึงความฝัน ท่านก็เลยพานั่งสมาธิ กำหนดพาข้าพเจ้าไปกราบหลวงพ่อเกษม เขมโก ที่สุสานไตรลักษณ์แล้วนิมนต์หลวงพ่อเกษม เขมโกมาวัดสะแก


    เป็นเรื่อง น่าอัศจรรย์ยิ่งนักที่ หลวงพ่อเกษม เขมโก ท่านมาให้เห็นเป็นกายเนื้อนั่งอยู่ด้านขวามือของหลวงปู่ดู่ แล้วข้าพเจ้าก็กราบเรียนท่าน หลวงพ่อเกษมท่านก็รักษาให้โดยการเป่า หลวงปู่ดู่ท่านยังเมตตาฝากข้าพเจ้ากับหลวงพ่อเกษมว่า วันข้างหน้าหากข้าพเจ้ามีอะไรติดขัดก็จะขอให้กราบเรียนหลวงพ่อเกษม เขมโก ซึ่งท่านก็พยักหน้ารับ ข้าพเจ้านึกรู้ทันทีว่าหลวงปู่ดู่จะต้องละสังขารก่อนหลวงพ่อเกษม แน่นอน


    พอกลับ มาบ้านอาการที่เป็นอยู่ก็ไม่ทรุดโทรมแต่ค่อย ๆ ดีขึ้น ทว่าหลังจากที่หลวงปู่ดู่ท่านละสังขาร ข้าพเจ้างานยุ่งมากทำให้จิตไม่ค่อยมั่น ภาวนาบ้างไม่ภาวนาบ้าง แล้วก็เชื่อผู้อื่นที่หวังดีแนะนำไปหาหมอหลายหมอ จิตจึงไม่นิ่งนั่งสมาธิไม่ค่อยดี ร่างกายจึงเริ่มทรุดโทรมต้องเข้าโรงพยาบาลผ่าตัด เมื่อผ่าตัดเสร็จและฟื้นขึ้นมา ข้าพเจ้าได้เห็นวิญญาณของผู้ชายคนหนึ่งกลายเป็นไก่ตัวผู้ตัวใหญ่มากยืนอยู่ เห็นเหนียงที่คอยาวจนเกือบถึงพื้น เขาบอกว่าข้าพเจ้าเคยช่วยแม่จับขาเขาทำร้ายเขาถึงชีวิต ไปทำเขาไว้เขาโกรธก็เลยตามมาจะแก้แค้น รอโอกาสที่จะแก้แค้นข้าพเจ้ามานานจนกระทั่งตัวเขาแก่มากเหนียงยาวเกือบถึงพื้น


    590700000029.jpg


    หลวงพ่อเกษม


    หลังจากผ่าตัด๖ เดือนหมอก็ให้กลืนน้ำแร่ฆ่าเชื้อและป้องกันมะเร็งที่คอ ๗วันวันแรกประมาณบ่าย๓ โมง กลืนน้ำแร่หยดเล็ก ๆ พอบ่าย ๕โมงคอเริ่มบวมแดงไปหมดกลืนน้ำลายกลืนน้ำไม่ได้ ต้องนอนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม เตียงที่นอนล้อมรอบด้วยแผ่นตะกั่วกันรังสีอยู่คนเดียวห้ามเยี่ยม หมอและพยาบาลจะเข้ามาต้องใส่ชุดกันรังสี ข้าพเจ้าเกิดอาการแพ้มากจึงกดออดเรียกหมอบอกหมอถึงอาการ แต่หมอก็ไม่เชื่อคงเพราะกรรมมาบังไว้ ตอนทุ่มครึ่งพยาบาลนำยานอนหลับมาให้ทานก็แอบเอาไว้ไม่ยอมทาน


    ข้าพเจ้าสวด มนต์ไหว้พระ-รับศีลเพื่อเตรียมตัวตาย เพราะจำได้ว่าหลวงปู่ดู่ท่านสั่งแล้วสั่งอีกเป็นสิบ ๆ ครั้งก่อนที่ท่านจะละสังขารว่า.. “ก่อนตายสำคัญมากต้องมีสติภาวนารักษาศีล”
    และ เนื่องจากข้าพเจ้าเคยอ่านหนังสือของหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเขียนไว้ว่า ก่อนตายให้นึกถึงพระนิพพานและให้ภาวนาว่า “นิพพานัง ปรมัง สุขัง” ข้าพเจ้าจึงได้ทำตามแล้วก็นอนทำสมาธิภาวนาไปเรื่อย ๆ จิตก็ดี พอภาวนาไปได้พักหนึ่งจิตก็หวนคิดถึงลูกคนเล็กซึ่งมีอายุเพียงขวบกว่า ๆ เกิดความคิดว่าเมื่อตายแล้วหากไปนิพพานก็จะไม่ได้กลับมาเห็นลูกอีก เลยเปลี่ยนคำภาวนาเป็น พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ จิตก็รวมดี


    ไม่นานนัก ข้าพเจ้าก็เห็นตัวเองสวมชุดขาวออกเดินไปในทุ่งอันกว้างใหญ่ มีต้นข้าวเขียวขจีอ่อนพลิ้วไปตามกระแสลม ทันใดนั้น ข้าพเจ้าก็เห็นดวงสว่างปรากฏขึ้นและเห็นหลวงปู่ดู่ท่านมา จึงรีบตรงเข้าไปกราบท่าน ท่านก็พาไปยังกุฎิที่ท่านอยู่ ซึ่งหน้ากุฏิท่านนั้นมีลำธารเป็นแก้วใส และมีต้นโพธิ์ทองแก้วเป็นแก้วใส ๒ ต้นสูงประมาณ ๒เมตรอยู่ด้านหน้ากุฏิ


    ท่านนั่งห้อยขาอยู่บนกุฏิซึ่งเป็นทองสวยอร่ามมาก ข้าพเจ้าก็เข้าไปกราบท่านแล้วบอกว่าจะขออยู่กับท่านตลอดไปไม่กลับ ท่านก็บอกว่า “อยู่ไม่ได้บุญยังไม่พอ” ข้าพเจ้าร้องไห้ทวงสัญญาว่าหลวงพ่อเคยรับปากลูกว่าจะให้ลูกเกาะชายผ้าเหลือง ไปทุกภพทุกชาติลูกจะไม่ขอกลับไปแล้ว ท่านจึงพูดว่า “เอาอย่างนี้ก็แล้วกันลงไปทำความดีอีก ๑๐ ปี…แล้วค่อยว่ากันใหม่” ก็เลยตกใจตื่นขึ้นมา ดูนาฬิกาเป็นเวลาเกือบตี ๔ และเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก เพราะอาการที่ป่วยอยู่ทุกอย่างได้เริ่มหายเป็นปกติ ข้าพเจ้าอยู่โรงพยาบาลครบ๗วัน ก็ได้กลับบ้าน และหายจากโรคร้ายอย่างเด็ดขาดไม่มีอาการเจ็บป่วยอีกเลย


    ข้าพเจ้าได้แต่กราบแทบเท้าหลวงพ่อทั้งสองเพื่อขอบพระคุณที่ท่านมีเมตตาอนุเคราะห์ให้
    ความช่วยเหลือข้าพเจ้าและครอบครัวในทุก ๆ เรื่องตลอดมากระทั่งทุกวันนี้…”หลวงปู่เกษม พระอริยเจ้าที่หลวงปู่ดู่ให้ความเคารพมาก กล่าวกับลูกศิษย์ว่า “อยากฟังธรรมะ ให้ไปหาท่านพุทธทาส อยากไหว้พระปฏิบัติดี ให้ไปไหว้หลวงปู่ดู่ วัดสะแก”


    1nmg4(2).jpg


    หลวงปู่ดู่


    ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ เจ้าของบทความ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้


    ศิษย์มีครู


    เพื่อเผยแผ่บารมีเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติคุณครูบาอาจารย์



    เรียบเรียงโดย

    ศักดิ์ศรี บุญรังศรี



    -------------
    ขอบคุณที่มา
    https://www.tnews.co.th/contents/383438
     

แชร์หน้านี้

Loading...