อานิสงส์ ของการใส่บาตร..

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ลุงไชย, 21 มกราคม 2012.

  1. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    [​IMG]


    การตักบาตรแบบถูกต้องได้อานิสงส์มาก.. วันนี้ คุณใส่บาตรแล้วหรือยัง ?

    การตักบาตร เป็นการทำบุญที่ชาวพุทธทั่วไปรู้จัก และปฏิบัติมากกว่าการทำบุญประเภทอื่นๆ การตักบาตรนั้นยังถือว่าเป็นการทำบุญประจำวันของชาวพุทธ และชาวพุทธไทยเชื่อว่า การออกบิณฑบาตของพระสงฆ์เป็นการช่วยโปรดสัตว์ที่อยู่ในอบายภูมิ เช่น เปรตวิสัย ให้ได้รับส่วนบุญ ด้วยเหตุผลทางจริยธรรม ในการทำบุญตักบาตรนั้น พอสรุปได้ดังนี้

    ๑. เป็นการสั่งสมบุญในแต่ละวัน เพราะการสั่งสมเป็นเหตุนำความสุขมาให้

    ๒. เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการทำบุญทำให้จิตใจแจ่มใส เพื่อให้มีกำลังใจที่เข้มแข็ง เพราะผู้ที่ไม่มีบุญเกื้อหนุนอยู่ในใจ ย่อมพ่ายแพ้ต่อบาปได้ง่าย

    ๓. เป็นการทำที่พึ่งคือบุญให้แก่ตนเองในอนาคต

    ๔. เป็นการช่วยรักษาพุทธประเพณี เพราะพระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีต และที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต ล้วนแต่ดำรงพระชนม์ชีพด้วยอาหารบิณฑบาต

    ๕. เป็นการช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนา เพราะพระสงฆ์เป็นผู้ศึกษา ปฏิบัติพระธรรมวินัย แล้วนำมาสั่งสอนให้ประชาชนได้รับรสแห่งพระธรรมด้วย อีกทั้งยังดำรงตนเป็นตัวอย่างด้านความประพฤติดีงามของสังคม ฉะนั้น ชาวพุทธควรทำบุญตักบาตรเป็นประจำทุกวัน เพื่อเป็นการสั่งสมบุญให้แก่ตนเองที่จะต้องนำไป ดุจเสบียงเดินทาง ในการท่องเที่ยวเวียนเกิดและเวียนตายอยู่ในวัฏฏสงสาร อันไม่ปรากฏเบื้องต้นและที่สุด และบุญที่สั่งสมไว้นี้ จะช่วยเกื้อกูลให้พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้

    อนึ่ง ประโยชน์ส่วนรวมที่จะเกิดขึ้น คือเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา เพราะพระสงฆ์ซึ่งเป็นผู้นำของพุทธบริษัท ที่เป็นฐานกำลังสำคัญแห่งกองทัพธรรมนั้น ท่านดำรงชีพอยู่ได้ด้วยปัจจัยที่คฤหัสถ์จัดถวาย ท่านจึงสามารถมีกำลังกาย กำลังใจที่จะศึกษาพระพุทธพจน์ คือ พระไตรปิฎก ให้เข้าใจ ทรงจำ นำมาประพฤติปฏิบัติ และกล่าวสอนมวลมนุษย์ได้


    การทำบุญตักบาตรจะสมบูรณ์ได้ต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญดังนี้

    ๑. ต้องเตรียมใจให้พร้อม ข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะบุญที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ใจของผู้ถวาย ท่านแนะนำให้รักษาเจตนาให้บริสุทธิ์ทั้ง ๓ ขณะ คือ

    ๑.๑ ก่อนถวาย ตั้งใจเสียสละอย่างแท้จริง

    ๑.๒ ขณะถวาย ก็มีใจเลื่อมใส ถวายด้วยความเคารพ

    ๑.๓ หลังจากถวายแล้ว ต้องยินดีในทานของตัวเองจิตใจเบิกบานเมื่อนึกถึงทานที่ตนเองได้ถวายไปแล้ว การทำใจให้ได้ทั้ง ๓ ขณะดังกล่าวนี้ นับว่ายากมาก เพราะมีเหตุปัจจัยหลายอย่างที่อาจทำให้จิตใจของเราเศร้าหมองในขณะใดขณะหนึ่งได้

    ๒. ผู้รับ คือ พระภิกษุสามเณร เป็นผู้สำรวมระวัง มีข้อวัตรปฏิบัติที่ดีงามตามพระธรรมวินัย ใฝ่ศึกษาเล่าเรียน พระพุทธพจน์ ทรงจำ นำมาบอกกล่าว สั่งสอนได้ และเป็นผู้ประพฤติปฏิบัติเพื่อบรรเทาราคะ โทสะ โมหะ จนสามารถละขาดได้อย่างสิ้นเชิง

    ๓. สิ่งของที่ถวาย จะต้องได้มาด้วยวิธีที่สุจริต ไม่เบีดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อน และที่สำคัญคือสิ่งนั้นต้องเหมาะสมแก่พระภิกษุสามเณรด้วย

    ทำบุญตักบาตรให้หมั่นอธิษฐาน

    เมื่อองค์ประกอบ ๓ อย่างข้างต้นบริบูรณ์ สิ่งที่จะต้องทำก่อนตักบาตร คือ "การอธิษฐาน" การอธิษฐานนี้นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง เพราะจะทำให้บุญของเราหนักแน่น ก่อให้เกิดความเชื่อมั่นมากขี้น และยังทำให้เราทราบเป้าหมายในการทำบุญด้วย นอกจากนี้ การอธิษฐานยังสามารภสร้างพลังขึ้นในจิตใจให้มากขึ้น เป็นการสั่งสมกำลังแห่งความบากบั่น อดทน เพื่อเป็นพื้นฐานที่สำคัญให้เราก้าวไปสู่สิ่งที่ปรารถนาได้ การอธิษฐานในขณะที่บำเพ็ญบุญนั้น ผลบุญย่อมหนุนส่งให้สำเร็จตามที่ปรารถนาไว้ ถึงแม้จะขึ้นอยู่กับเวลาและโอกาสบ้างก็ตาม แต่ความดีที่ทำไว้ย่อมไม่เสียหายไปแน่นอน

    ฉะนั้น ก่อนตักบาตร ควรอธิษฐานโดยนั่งหรือยืนก็ได้ แล้วแต่สถานที่จะอำนวย ยกสี่งของที่จะถวายขึ้นเสมอหน้าผาก แล้วอธิษฐานตามที่ต้องการที่ชอบธรรมเป็นภาษาใดก็ได้ จะว่าในใจหรือออกเสียงเบาๆ ก็ได้ จากนั้นจึงถวายอาหารบิณฑบาตด้วยความเคารพ ถ้ามีดอกไม้ธูปเทียนให้ถวายหลังจากที่ถวายอาหารบิณฑบาตเสร็จแล้ว ถ้าเป็นสตรีให้วางดอกไม้ธูปเทียนไว้บนฝาบาตร เมื่อพระท่านปิดบาตรแล้ว

    คำอธิษฐานก่อนตักบาตร

    ตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา มีเป็นหมายเพื่อให้มนุษย์ปลดเปลื้องตนเองจากทุกข์ มีจิตใจเป็นอิสระเหนือทุกข์ทุกอย่าง (พระนิพพาน) หลักการดำเนินชีวีตของชาวพุทธนั้นต้องสอดคล้องกับเป้าหมายดังกล่าว ซึ่งพระโบราณาจารย์ท่านจึงบัญญัติคำ อธิษฐานที่เป็นสากลนิยมไว้ว่า"อิ ทัง ทานัง สีละวันตานัง ภิกขูนัง นิยยาเทมิ สุทินนัง วะตะ เม ทานัง นิพพานะปัจจะโย โหตุ อะนาคะเต กาเล ฯ ข้าพเจ้าขอน้อมถวายทานนี้แด่พระสงฆ์ผู้มีศีล ขอท่านที่ข้าพเจ้าถวายดีแล้ว จงเป็นเหตุให้ถึงพระนิพพาน ในอนาคตกาล เบื้องหน้าโน้นเทอญ ฯ"

    อีกบทหนึ่งเป็นคำอธิษฐานถึงพระสังฆรัตนะ ว่า “นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง, สังโฆ เม สะระณัง วะรัง, เอเตนะ สังจะวัชเชนะ, โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา ฯ ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระสงฆ์เป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า ด้วยคำสัตย์ นี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าในกาลทุกเมื่อ เทอญ ฯ” ...
    .............................................................................................

    ที่มา การตักบาตรแบบถูกต้องได้อานิสงส์มาก � Natruto-World

    .........................................................................................................................................................................

    อานิสงส์ของการตักบาตร (โดยคุณเนตรอิศวร)

    ดูก่อนเถิดหนอท่านผู้ใฝ่บุญ....อันเราจักขอแสดงอานิสงน์แห่งการตักบาตรภิกษุไว้ดังนี้.

    ๑.เมื่อตักบาตรแก่ผู้บำเพ็ญเพียร ย่อมมีผลให้ผู้บำเพ็ญเพียรนั้นเป็นผู้มีกำลังที่จะบำเพ็ญเพียรให้สำเร็จมรรคผลนิพาน.

    ๒.จิตใจย่อมเบิกบานทั้งผู้ให้และผู้รับด้วยความปิติยินดีทั้งก่อนการถวายและหลังการถวาย ปราถนาให้สู่การพ้นทุกข์.

    ๓.เป็นการฝึกจิตใจให้เป็นผู้มีจาคะปลดเปลื้องความตระหนี่ เพื่อขัดเกลาความมักมากให้เบาบางลง โดยการสร้างสะสมดวงจิตที่เมตตา.

    อานิสงน์เมื่อตักบาตรไปแล้ว ย่อมมีอานิสงน์มาก คือ

    ๑.ภิกษุเมื่อรับฉันท์แล้วย่อมมีกำลังในการบำเพ็ญ

    ๒.ภิกษุย่อมมีร่างกายแข็งแรง ทนต่อทุกข์ ทนต่อโรคภัย เพื่อให้ง่ายต่อการบำเพ็ญ

    ๓.ภิกษุย่อมมีกำลังเผยแพร่พระศาสนา เทศนาโปรดเวไนยสัตว์ ช่วยเหลือชี้ทางให้ผู้ที่ประสบทุกข์ให้พบสุข ชี้ทางให้ผู้ที่จะกำลังสร้างกรรมให้ละกรรม

    ...สิ่งที่เรานั้นได้บรรยายมานี้เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของอานิสงน์และพลานิสงน์แห่งการตักบาตรเท่านั้น ซึ่งยังมีอีกมาก แม้จะสร้างเขาพระสุเมรด้วยทองคำสูงยันทั้ง๓ภพ อานิสงน์และพลานิสงฆ์นั้นยังเทียบเท่าแห่งการตักบาตรผู้บำเพ็ญเพียร และผู้มีศีลมิได้เลย...โปรดพิจารณาเองเถิด

    (ขอบคุณ คุณเนตรอิศวร ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเป็นธรรมทาน อนุโมทนา สาธุ ครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 กรกฎาคม 2012
  2. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,255
    โมทนา สาธุ ๆ
    กับทุกท่านที่ได้ทำบุญใส่บาตร
    ให้กับพระสงฆ์และสร้างบุญกุศลทุกอย่าง
    ไว้ในพระพุทธศาสนาด้วยครับ
    นิพพานังปัจจโย โหตุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2012
  3. Whitefaith

    Whitefaith Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +42
    ขอบคุณมากๆเลยค่ะ คุณแม่ใส่บาตรทุกวันเลยค่ะ ถ้าวันไหนได้กลับบ้านก็จะมีโอกาสได้ใส่ค่ะ

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  4. pepsodent

    pepsodent Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +40
    พุทธัง อนันตัง ธัมมัง จักรวาลัง สังฆัง นิพพานะ ปัจจะโย โหนตุ
    โมทนาสาธุ ครับผม..
     
  5. เนตรอิศวร

    เนตรอิศวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2011
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +425
    ดูก่อนเถิดหนอท่านผู้ใฝ่บุญ....อันเราจักขอแสดงอานิสงน์แห่งการตักบาตรภิกษุไว้ดังนี้.
    ๑.เมื่อตักบาตรแก่ผู้บำเพ็ญเพียร ย่อมมีผลให้ผู้บำเพ็ญเพียรนั้นเป็นผู้มีกำลังที่จะบำเพ็ญเพียรให้สำเร็จมรรคผลนิพาน.
    ๒.จิตใจย่อมเบิกบานทั้งผู้ให้และผู้รับด้วยความปิติยินดีทั้งก่อนการถวายและหลังการถวาย ปราถนาให้สู่การพ้นทุกข์.
    ๓.เป็นการฝึกจิตใจให้เป็นผู้มีจคะปลดเปลื้องความตระหนี่ เพื่อขัดเกลาความมักมากให้เบาบางลง โดยการสร้างสะสมดวงจิตที่เมตตา.
    ......อานิสงน์เมื่อตักบาตรไปแล้ว ย่อมมีอานิสงน์มาก คือ
    ๑.ภิกษุเมื่อรับฉันท์แล้วย่อมมีกำลังในการบำเพ็ญ
    ๒.ภิกษุย่อมมีร่างกายแข็งแรง ทนต่อทุกข์ ทนต่อโรคภัย เพื่อให้ง่ายต่อการบำเพ็ญ
    ๓.ภิกษุย่อมมีกำลังเผยแพร่พระศาสนา เทศนาโปรดเวไนยสัตว์ ช่วยเหลือชี้ทางให้ผู้ที่ประสบทุกข์ให้พบสุข ชี้ทางให้ผู้ที่จะกำลังสร้างกรรมให้ละกรรม
    ...สิ่งที่เรานั้นได้บรรยายมานี้เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของอานิสงน์และพลานิสงน์แห่งการตักบาตรเท่านั้น ซึ่งยังมีอีกมาก แม้จะสร้างเขาพระสุเมรด้วยทองคำสูงยันทั้ง๓ภพ อานิสงน์และพลานิสงฆ์นั้นยังเทียบเท่าแห่งการตักบาตรผู้บำเพ็ญเพียรและผู้มีศีลมิได้เลย...โปรดพิจารณาเองเถิด
     
  6. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    อนุโมทนาในธรรมทานของท่าน..สาธุครับ
     
  7. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,048
    [​IMG]
     
  8. extreme_dgt

    extreme_dgt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +219
    อรหันตทาน
    "ข้าแต่พระสงฆ์! อุบาสกผู้หนึ่งเป็นคนเข็ญใจขายฟืนอยู่ในวลียวิถีมหาคามนี้ เป็นเหตุยังความสังเวชให้เกิดขึ้นแก่เกล้ากระผม" แล้วพระผู้เป็นเจ้าก็เล่าเหตุแต่ปางหลังให้ที่ประชุมนั้นฟัง ในกาลครั้งนั้ บรรดาบริษัทที่นั่งฟังและที่เพิ่งจะมาถึงใหม่ เมื่อได้ ฟังความเป็นมาแล้วที่เป็นปุถุชนนั้นก็มิอาจกลั้นน้ำตาได้ ต่างคนต่างก็ร้องไห้สงสารพระผู้เป็นเจ้า ที่สู้อุตสาหะกระทำความเพียรโดยมิได้หลับได้นอน ทั้งอดอาหารมาตลอด 7 วัน จนอายุสังขารจะขาดสิ้นเข้านิพพานในวันนี้ ก็เพราะเหตุที่มีกตัญญูรู้คุณค่าแห่งอาหารทายกของทายกเข็ญใจ ประสงค์จะให้บิณฑบาตรของเขาเป็น อรหันตทาน จนได้สำเร็จสมความปรารถนา
    ฝ่ายพระติสสมหาขีณาสพเจ้า ซึ่งนั่งนิสัชชาการในท่ามกลางพระภิกษุสงฆ์นั้น ครั้นสำแดงเหตุแห่งธรรมสังเวชแก่บริษัททั้งปวงแล้ว ก็อธิษฐาน

    ขึ้นว่า
    "เมื่อเราเข้านิพพานแล้ว สังเคดยอดที่ใส่ศพเรานั้น ใครอื่นหมื่นแสนมายก จงอย่าหวั่นไหว ต่อเมื่อใด อุบาสกเข็ญใจคนขายฟืนมายกแล้ว ที่ใส่ศพ
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=gCWsnrRQMZ8]อ.สมภพ พระอรหันต์ห่อข้าว 1-2 - YouTube[/ame]
     
  9. เปาชุนไหล

    เปาชุนไหล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +2,240
    เมื่อตักบาตรแก่ผู้บำเพ็ญเพียร ย่อมมีผลให้ผู้บำเพ็ญเพียรนั้นเป็นผู้มีกำลังที่จะบำเพ็ญเพียรให้สำเร็จมรรคผลนิพาน



    ผู้ที่ใส่บาตรเองก็ย่อมจะได้เหตุปัจจัยที่ทำให้มีกำลังที่จะบำเพ็ญเพียร เพื่อละกิเลสได้อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว

    โมทนาสาธุครับ
     
  10. คนที่หมดใจ

    คนที่หมดใจ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +5
    ผลบุญจากการใส่บาตรทุกเช้าจะส่งผลถึงญาติที่เสียชีวิตไปแล้วหรือเปล่าคะ เพราะอธิฐานทุกเช้าให้เขามารับเอาส่วนบุญส่วนกุศลตรงนี้ด้วย
     

แชร์หน้านี้

Loading...