เรื่องเด่น อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๗๖ : มีดหมอชาตรี

ในห้อง 'อดีตที่ผ่านพ้น' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 6 ตุลาคม 2019.

  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,360
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,526
    ค่าพลัง:
    +26,362
    76.jpg
    อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๗๖ : มีดหมอชาตรี

    คำว่า “ชาตรี” ในภาษาโบราณนั้น ครอบคลุมความหมายกว้างไกลมาก อาตมาขอแปลง่าย ๆ ว่า “เหนือกว่าทุกสรรพสิ่ง” ซึ่งก็ได้แค่ความหมายใกล้เคียงเท่านั้น...

    ชายชาตรีในยุคก่อน ต้องศีกษาสารพัดตำรับตำรา ตลอดถึงฌานสมาบัติและไสยเวทย์อาคม ให้เจนจบทั้งผูกทั้งแก้ รวมถึงเพลงอาวุธ และตำราพิชัยสงครามด้วย...

    ที่ขาดไม่ได้คืออาวุธคู่มือ ที่ต้องลุยได้ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ จะได้รับจากครูบาอาจารย์ หรือจะทำขึ้นด้วยมือตนเองตามตำรามหาศาสตราคมก็ย่อมได้...

    ตัวอย่างชายชาตรีที่ขึ้นชื่อลือชา คือท่านพ่อขุนแผนแสนสะท้าน แม่ทัพรูปหล่อเจ้าพ่อกาญจนบุรีนั่นแหละ มาดูท่านสร้างอาวุธคู่มือกันดีกว่า...

    “จะจัดแจงตีดาบไว้ปราบศึก ตรองตรึกหาเหล็กไว้หนักหนา สำเร็จสมอารมณ์ตามตำรา ที่ว่าไว้ในมหาศาสตราคม...” ดูซิว่าท่านพ่อของเราหาเหล็กอะไรมาได้บ้าง...

    ๑. เหล็กยอดเจดีย์มหาธาตุ (เป็นหนี้สงฆ์แหงเลยพ่อ...ข้าไม่โง่อย่างเอ็งนี่หว่า ข้าตั้งพานชำระหนี้สงฆ์ไว้ก่อนแล้วว่ะ...)
    ๒. เหล็กยอดปราสาท (ทหารเขาจับได้ก็คุกซิพ่อ...วิชาล่องหนหายตัวเอ็งเรียนไว้ทำไมวะ...?)
    ๓. เหล็กขนันผีพรายตายทั้งกลม (บรื๊อว์...ไหวหรือพ่อ...? ถ้าสะกดมันไม่อยู่ เอ็งก็ตายตามมันไปเถอะ...!)
    ๔. เหล็กตรึงโลง (แฮ่...พอกันเลยนะพ่อนะ)
    ๕. เหล็กตรึงปั้นลม ๖. เหล็กสลักเพชร (สองอย่างนี้ค่อยยังชั่วหน่อย...)
    ๗. หอกสัมฤทธิ์ ๘. กริชทองแดง ๙. พระแสงหัก (ขององค์เหนือหัวไม่หักง่าย ๆ นะพ่อ...)
    ๑๐. เหล็กปฏัก (โคนันทวิศาลหรือเปล่าพ่อ...?)
    ๑๑. สลักประตู (แม่ค้อนตาเขียวแน่ ถ้าพ่อถอดประตู...!)
    ๑๒. ตะปูเห็ด (สมัยนี้ซื้อยกกล่องได้เลยพ่อ...ไอ้เวร...เขาใช้ตะปูหล่อที่เรียกว่า ตะปูสังขวานรโว้ย...!)
    ๑๓. เหล็กเบญจพรรณ (เห็นมีแต่ไม้เบญจพรรณนะพ่อ...)
    ๑๔. เหล็กไหล (หัวลำโพงเยอะแยะเลยพ่อ...พลั่ก..! อูย...ถูกถีบจนได้...!)
    ๑๕. เหล็กหล่อ (เหล็กพระเอกลิเกมั้ง...?)
    ๑๖. เหล็กบ่อพระแสง ๑๗. เหล็กกำแพง (มีหรือพ่อ...? เหล็กจากเมืองกำแพงเพชรโว้ย..ฮ่วย...!)
    ๑๘. เหล็กน้ำพี้ (ไม่ใช่อย่างเดียวกับเหล็กบ่อพระแสงหรือครับ...?)
    ๑๙. เหล็กแร่ (แหม...กำปั้นทุบดินดังปึ้กเลยพ่อ เหล็กมันก็ต้องเป็นแร่...!) ขืนกวนต่อไม่แคล้วท่านพ่อประทานแข้งให้อีกแน่ ๆ มาดูตอนตีดาบดีก่า เอ๊ย...กว่า...!

    “ขุนแผนสูบเหล็กให้แดงดี นายช่างตีรีดรูปให้เรียวปลาย ที่ตรงกลางกว้างงามสามนิ้วกึ่ง ยาวหนึ่งศอกกำมาหน้าลูกไก่...” (ทำไมสั้นเป็นอีโต้เลยล่ะพ่อ...?)

    อาวุธสมัยนั้นต้องทั้งหนาทั้งหนัก เอาไว้เก็บไอ้พวกหนังเหนียวโดยเฉพาะ แรงไม่ดีจริงคอนดาบยังไม่ขึ้นเล้ย...!

    จะทำด้ามทำฝักด้วยไม้ราชพฤกษ์ ไม้คูณตายพรายอะไรก็ช่างเถอะ พอจับดาบกวัดแกว่งลองน้ำหนักหน่อยเดียว ฟ้าลั่นครืนพอดี เลยชื่อว่า “ดาบฟ้าฟื้น” แต่นั้นมา...

    แบบอย่างการสร้างอาวุธตามตำรามหาศาสตราคมนี่แหละ ที่ครูบาอาจารย์สมัยหลัง ๆ นำมาเป็นแบบในการสร้างมีดหมอสืบ ๆ กันมา...

    ชื่อก็บอกแล้วว่ามีดหมอ ส่วนมากเลยใช้ในการรักษาโรคเท่านั้น ที่ทำเป็นอาวุธคู่มือ ส่วนมากก็ทำไว้แค่เล่มเดียว...

    มาถึงยุคหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ จังหวัดนครสวรรค์ นี่เอง ที่ท่านทำมีดหมอเป็นมีดสารพัดประโยชน์ ไม่ว่าจะติดตัวเป็นมหาอำนาจ รักษาโรค ถอนคุณไสย ทำลายวัตถุอาถรรพ์ บรรดาไอ้เสือหนังเหนียวกลัวกันนัก โดนเข้าเป็นยุ่ยทุกราย...!

    ครูบาอาจารย์ที่สืบทอดวิชามีดหมอมีอยู่มาก แต่จะทำให้เท่าหลวงพ่อเดิมนั้นหาไม่ได้เอาเลย จนกระทั่งมาถึงสมัย “หลวงพ่อวัดท่าซุง”

    “หลวงพ่อ” ท่านทำมีดหมอขึ้นมาครั้งแรก สมัยผูกพัทธสีมาวัดท่าซุง อานุภาพเป็นที่ประจักษ์ตา แต่คนทั่วไปใช่ว่าจะหาได้ง่าย ๆ เพราะมีเพียงไม่กี่เล่มเท่านั้น...

    อาตมาเองรอแล้วรออีก ว่าเมื่อไร “หลวงพ่อ” จะเมตตาทำมีดหมออีกครั้ง รอจนลืมไปแล้ว อยู่ ๆ “หลวงพ่อ” ก็บอกว่าจะทำมีดหมอ ใครอยากได้ไปหามีดมา...!

    อาตมาดีใจเป็นที่สุด รีบบึ่งไปพยุหะคีรี ที่นั่นเป็นแหล่งมีดหมอที่ใหญ่ที่สุดในประเทศก็ว่าได้ กวาดมาซะ ๔๒ เล่ม ถูกฟันเลือดโกรกไปเหมือนกัน...!

    คนที่ไปทีหลังโดนหนักกว่านั้นอีก เพราะใคร ๆ ก็ไปสั่งที่พยุหะคีรีกันทั้งนั้น จนถึงวันสำคัญ จะทำพิธีในตอนเย็น เช้าถึงเที่ยงราคามีดหมอขึ้นยิ่งกว่าปั่นหุ้นซะอีก...!

    วันอาสาฬหบูชา ๒๕๓๕ พิธีพุทธาภิเษกที่ศาลา ๒ ไร่ ญาติโยมแออัดยัดเยียดจนแทบไม่มีที่นั่ง หลังพิธี “หลวงพ่อ” เมตตาเล่าว่า...

    “สมเด็จองค์ปฐมเสด็จมาเป็นประธานเอง พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ มากันแน่นขนัด กระทั่งสมเด็จองค์ปฐมตรัสเรียกท้าวสหัมบดีพรหมเข้ามาเพื่อสั่งการ ขนาดท้าวสหัมบดีพรหมยังต้องกราบขอทางแทบแย่กว่าจะหลีกเข้าไปได้...”

    “ของทุกอย่างในพิธี ไม่ว่าจะเป็นมีดหมอ น้ำมัน ชานหมาก สมเด็จองค์ปฐมตรัสว่า เสกคราวนี้เอาชาตรีนำหน้าทั้งนั้น ทุกครั้งท่านซุกไว้ คราวนี้นำหน้าเลยนะ”

    มีดหมอนั้นห้ามชักเล่นอย่างเด็ดขาด เพราะ “หลวงพ่อ” ตกลงกับท้าวมหาราชทั้งสี่ว่า ถ้าลูกหลาน “หลวงพ่อ” ชักมีดให้เตรียมพร้อมที่จะช่วยเหลือด้วย...

    รุ่งขึ้น “หลวงพ่อ” บอกว่า เมื่อคืนท้าวมหาราชทั้งสี่มาฟ้องว่า ลูกหลาน “หลวงพ่อ” ชักมีดเล่นเป็นของสนุก ท่านต้องเตรียมพร้อมเก้อ ขอให้ตักเตือนให้ด้วย...

    อาตมาชอบทดสอบ รับมีดหมอมาใหม่ ๆ รุ่งเช้าก่อนออกบิณฑบาตอธิษฐานว่า “ขอให้รวย ๆ” แหม...กับข้าวถุงล่อซะ ๔ เข่ง...!

    พี่สาวของท่านชาติชาย (พระชาติชาย สุธมฺมธนปาโล) ซื้อบ้านที่ออสเตรเลีย เงินไม่พอ เลยขอกับมีดหมอ ฝรั่งมันลดราคาให้ทีเดียวสองพันกว่าเหรียญ...!

    นี่ขนาดเรื่องลาภผลที่ไม่ใช่อานุภาพโดยตรง ยังเป็นได้ขนาดนี้ เรื่องอื่นไม่ต้องพูดถึง เกินร้อยเปอร์เซ็นต์แน่ ๆ...!

    อาตมาขณะนั้นกำลังประกาศสงครามกับพวกเรือหาปลา เพราะขอร้องกันดี ๆ ให้งดจับปลาหน้าวัด มันไม่ยอมฟังแถมด่าให้ด้วย พอออกไปมันยิงเอาเลย...!

    เลือดขึ้นหน้าขึ้นมา อาตมาเลยอาละวาดแหลก บุกยึดเครื่องมือมันบ้าง จมเรือมันบ้าง เล่นเอาดังระเบิดไปทั่วคุ้งน้ำสะแกกรัง...!

    เล่นงานจนมันเข็ดเขี้ยวไปตลอดคุ้งน้ำ ก็เหลือแต่ราย “เจ้าพ่อ” เท่านั้นที่ยังไม่เข็ด เผลอเมื่อไหร่เป็นแอบลงข่ายทุกที...แบบนี้ก็สวยซิ...!

    คืนหนึ่งมันตะโกนให้ “กล้วย” มาเป็นลำเรือได้กระมัง...? ซ้ำยังกวักมือร้องด่าท้าทาย “แน่จริงข้ามมาซิโว้ย...กูจะยิงให้กลิ้งเหมือนหมาเลย...ให้มันรู้ไปว่าพระมึงจะตายห่าไม่เป็น...!”

    เออ...กูรอมึงนิมนต์อยู่นี่แหละ...! อาตมาบุกข้ามน้ำไปหามันถึงที่ตามคำท้า เจ้าพ่อตัวแสบคว้าปืนลูกซองยาวมาขึ้นลำดังสนั่น “เข้ามาซิโว้ย...กูจะยิงให้ดู...!”

    อาตมาสำรวมจิตมั่น ก้าวเข้าหาแบบเอ็งอยู่ข้าก็ตาย... มันกลับวิ่งเตลิดเปิดเปิงร้องลั่นเกาะทั้งที่ปืนอยู่ในมือ “เฮ้ย...โว้ย...! ช่วยกูด้วย มันจะฆ่ากูแล้ว...!” นี่มันเห็นอาตมาเป็นยักษ์เป็นมารไปแล้วหรือไร...?

    นึกถึงทุกครั้งที่ออกยึดเครื่องมือหาปลาของพวกมัน จมูกชนกันอยู่แท้ ๆ มันเห็นอาตมาเป็นคนอื่นไปทุกที จนหลวงพี่หลายรูปในวัดโดนขึ้นบัญชีดำแทน นี่ก็เป็นอีกเหตุกระมัง...?

    รุ่งขึ้น “หลวงพ่อ” ถามถึง พออาตมารายงานให้ทราบว่ามันวิ่งหนีทั้งที่ถือปืนอยู่ในมือ “หลวงพ่อ” หัวเราะ “มันเจอคนบ้ากว่าเข้านะซิ...” โธ่...เสียหายหมดเลย...!

    ระยะนั้นวัตถุมงคลที่อาตมาพกติดตัวอยู่ก็คือมีดหมอชาตรี เวลาปลดปลาออกจากข่าย ถ้ามันช้านักไม่ทันใจ อาตมาก็ตัดด้วยมีดหมอนี่แหละ...! ใช้งานผิดประเภทหรือเปล่าก็ไม่รู้...? แต่เท่ากับว่าต้องอาราธนาติดตัวอยู่ทุกวัน...

    ๒ ตุลาคม ๒๕๓๕
    พระใบฎีกาเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

    ที่มา www.watthakhanun.com
    ภาพประกอบโดย สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี
    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...