หลิว-อาจารียากตัญญูสร้างความสำเร็จ

ในห้อง 'พุทธศาสนากับคนดัง' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 19 มีนาคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,173
    [​IMG] "...ฝันดีๆ หรือฝันร้าย เมื่อคืนฝันไป ได้เป็นสะใภ้นายก ในฝันแม้มันช่างตลก ฉันฝันว่าคุณโอ๊คมาขอแต่งงาน เรื่องฝันละของฉันหนอ คุณโอ๊ครูปหล่อละพ่อรวยคนนั้น เขาซื้อแหวนเพชรมาให้ นิ้วนางข้างซ้ายเขาสวมให้ฉัน เขาบอกว่าจะให้พ่อมาขอ ฉันน้ำตาคลอสุขใจในฝัน สินสอดเขาบอกจะให้สิบล้าน รถเบนซ์อีกคัน ถ้าฉันรับรัก..."
    ส่วนหนึ่งของบทเพลง "สะใภ้นายก" ที่ได้สร้างชื่อเสียงจนโด่งดังให้นักร้องสาวลูกทุ่ง "หลิว" อาจารียา พรหมพฤกษ์ซึ่งวันนี้เธอออกอัลบั้มชุดที่สามแล้ว
    โดยมีเพลง "คาถาขอใจ" เป็นเพลงฮิตติดหู ซึ่งมีเนื้อร้องส่วนหนึ่งว่า "...ชิม เม โจ ได๋ ชิม เม โจ ได ชิม เม โจ ได๋ เอาหัวใจเธอมา ถ้ามีมนต์เหมือนในนิยาย จะเสกให้เธอเสน่หา ล้มลงมอบหัวใจให้มา เฝ้าเรียกหาทุกวันร่ำไป ชีวิตเราคล้ายโฆษณาขอใบชาแต่ข้าพอใจ..."
    อาจารียา บอกว่า ตลอดชีวิตไม่เคยคิดว่าจะก้าวขึ้นมามีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ ความรู้สึกตามตรงก็อยากบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าจะมาจากความโชคดีที่คิดดีทำดีมาตลอด ตัวเองเป็นเด็กบ้านนอกมาจาก จ.ลำพูน เรียกได้ว่าชีวิตที่ผ่านมาถือว่าอยู่กับความยากจน อยู่กับตากับยายที่อายุมากแล้ว ยิ่งคิดถึงเรื่องเงินที่จะไปเรียนหนังสือต่อ ก็ไม่รู้ว่าจะเอาเงินที่ไหนไปเรียน จึงทำได้แต่เพียงการกราบขอพรพระที่บ้านขอให้มีงานทำเพื่อจะได้เรียนหนังสือสูงๆ และยังขอให้ตากับยายมีความสุขในบั้นปลายชีวิต
    ก่อนหน้านี้ยายจะพูดกับเราประจำว่า หลิวคงได้เรียนจบแค่ ม.๖ เพราะว่าท่านคงไม่มีเงินส่งเสียให้เรียนได้สูงกว่านี้ จำได้ว่าครั้งนั้นได้ตอบยายกลับไปว่า ยายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก หลิวจะเป็นคนเลี้ยงยายเอง ไม่รู้ว่าพูดออกไปได้อย่างไรเพราะตอนนั้นยังเด็กมาก
    วันนี้ชีวิตมีความสมบูรณ์ มีอะไรๆ ตามที่ได้ฝันเอาไว้อย่างเพียบพร้อม เป็นสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะมีได้ ตรงนี้ทำให้คิดว่า ชีวิตเราเหมือนปาฏิหาริย์ เนื่องจากช่วงเวลานั้นยังไม่เห็นทางเลยว่าจะทำงานเลี้ยงยายได้อย่างไร แต่พอนึกถึงการขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนั้นที่เชื่อว่าน่าจะส่งผลมาให้เป็นนักร้อง ขณะเดียวกันก็ยังได้เรียนหนังสือในระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ตามที่ใฝ่ฝันเอาไว้
    "ความสำเร็จในชีวิตจากการขอพร ทำให้หลิวยังเชื่อในเรื่องของกฎแห่งกรรมว่าใครทำดีย่อมได้ดี เรารักตารักยาย ทำดีกับท่าน ผลแห่งกรรมดีก็น่าจะตอบแทนเราได้ หรือบางเรื่อง เช่น การนินทาหรือว่าร้ายคนอื่น ทั้งๆ ที่คนนั้นไม่ได้เป็นอย่างที่คนนินทา ไม่ช้าหรือเร็วผลกรรมนั้นก็จะกลับไปตกอยู่กับผู้ที่นินทาแทน ผลของกรรมนี้ยังส่งผลทำให้เรายิ่งตระหนักในการกระทำที่ไม่ดี ไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลัง" นี่คือความเชื่อในกฎแห่งกรรมของนักร้องลูกทุ่งสาวสวย
    สำหรับพระเครื่องและเครื่องรางของขลังที่แขวนติดตัวนั้น หลิว บอกว่า จะแขวนสลับสับเปลี่ยนกันไปหลายองค์ เช่น พระพิฆเนศ แขวนเพื่อให้คนที่พบเห็นชื่นชอบ ทำอะไรก็จะประสบความสำเร็จ พระรอด ลำพูน ใส่เพื่อให้รอดจากอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวง รวมทั้งให้รอดจากอุบัติเหตุ และเต่าหัวมังกร ที่แขวนตามความเชื่อของคนจีนที่บอกว่าจะทำให้สำเร็จในหน้าที่การงานและจะชนะอุปสรรคต่างๆ
    นอกเหนือจากนี้ยังเป็นคนชอบทำบุญเป็นประจำ อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยลืมปฏิบัติ คือ ก่อนนอนจะต้องสวดมนต์ คาถาบท อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ รวมทั้งบท พาหุง ส่วนก่อนจะขึ้นเวทีร้องเพลงทุกครั้งก็จะต้องสวด คาถาพระพิฆเนศ โองการพินธุ นาถังอุปปันนัง พรหมมะโน จะอินโธ พิฆฆะเนศโต มหาเทโว อะหังวันทา มิสัพพะทา สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยัง ประสิทธิเม เมื่อท่องคาถานี้แล้วก็จะเกิดความมั่นใจเหมือนได้เคารพบูชาครูบาอาจารย์
    "วันนี้ชีวิตประสบความสำเร็จ ก็ได้ข้อคิดว่าคนเรายิ่งสูงก็ยิ่งหนาว เพราะเวลาที่เราอยู่บ้านนอกเป็นคนธรรมดาไม่มีใครรู้จัก เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอเรามีชื่อเสียงหลายคนก็มองว่าเราหยิ่ง แต่จริงๆ ไม่ใช่เลย เราออกสังคมบางครั้งเราก็ตัวเกร็ง ไม่รู้จะว่างตัวหรือพูดจาอย่างไร แต่วันนี้มันก็ทำให้เราได้รู้ว่าวงการนี้มีการตีสองหน้ากันอย่างไร บางครั้งก็ว่าร้ายกัน พอออกผลงานชุดที่สามก็ยิ่งทำให้เราเข้าใจความเป็นสัจธรรมชีวิตของมากขึ้นว่า ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว เรายิ่งสูง บางคนก็ยังอยากที่จะดึงให้เราตกลงมา" อาจารียา กล่าวทิ้งท้าย "ความสำเร็จในชีวิตจากการขอพร ทำให้หลิวยังเชื่อในเรื่องของกฎแห่งกรรมว่าใครทำดีย่อมได้ดี เรารักตารักยาย ทำดีกับท่าน ผลกรรมดีก็น่าจะตอบแทนเราได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...