หลวงพ่อปาน รุ่นรักษามะเร็ง(ตับ)

14 ธ.ค. 52 ผมไปพบหมอตามนัดที่ รพ.ศิริราช เพื่อฟังผล MRI (2 ธ.ค. 52) ผมออกจากบ้าน อ.พระพุทธบาท ประมาณตีห้า ถึงศิริราช กว่าจะหาที่จอดรถได้ ไปเข้าคิวรอรับแฟ้มประวัติที่ตึก ปกส. ก็เกือบแปดโมงเข้าไปแล้ว เสร็จจาก ปกส. ก็ไปเข้าคิวรับผล MRI ที่ฝ่ายรังษีชั้นใต้ดินใกล้ๆกัน เสร็จแล้วก็ไปเจาะเลือดที่ชั้น 1 (คิวยาวพอสมควร) เจาะเลือดเสร็จก็ไปเข้าคิวรอพบอาจารย์หมอศัลยกรรมที่ชั้น 3 เวลาปาเข้าไปเก้าโมงกว่า นั่งฟังรอเรียกชื่อไปเรื่อยตามปกติ (รอ...จนเคยชินครับ)

ผล MRI อยู่ในมือผมก่อนหน้าที่จะมาเข้าคิวรอพบอาจารย์หมอฝ่ายศัลยกรรม ซึ่งปกติทุกครั้งที่ไปรับผล (ครั้งก่อนๆ จะเป็นผล CT Scan ครับ) ผมจะหยิบขึ้นมาอ่านก่อนทุกครั้ง ครั้งนี้เป็นผล MRI ซึ่งเป็นวิธีการ x-ray ที่ละเอียดที่สุด ทำให้ผมไม่กล้าที่จะเปิดอ่าน เพราะหาก MRI ไม่ผ่าน นั้นหมายถึงผมต้องต่อสู้กับมะเร็งต่อไปอีกระยะยาว และยิ่งมาฟังจากปากหมอซ้ำอีก ความรู้สึกหดหู่มันเหมือนซ้ำสอง เลยตัดสินใจวัดดวงจากปากหมอครั้งเดียวจะดีกว่า

ประมาณเกือบสิบเอ็ดโมงครึ่ง...พยาบาลเรียกไปเข้าคิวรอหน้าห้องตรวจ ไม่กี่นาทีถัดมา อาจารย์หมอโผล่หน้ามาเรียกชื่อเอง ดูคล้ายจะแซงคิวคนไข้รายอื่น (นั่งเก้าอี้หน้าห้องแบบกระจัดกระจาย ไม่ได้นั่งเรียงกัน)

หมอยิงคำถามเดิมๆ
"เป็นไงบ้างครับ" "มีอาการผิดปกติอะไรมั๊ย..."
ผมก็ตอบเหมือนเดิม...
"เป็นปกติครับ...แข็งแรงดีเหมือนเดิมครับ"

หมอเปิดไฟล์ x-ray MRI ผ่านจอคอมพิวเตอร์ scan ดูตามลำดับภาพสามมิติ ซึ่งเห็นอวัยวะภายในทุกส่วนชัดเจน ดูวนไปวนมา ผมก็ดูตาม แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร รอฟังหมออย่างเดียว

หมอ scan ดูอยู่นานพอสมควร รวมทั้งดูเปรียบเทียบกับผลของ CT Scan ครั้งที่ผ่านมา ผมรู้สึกใจคอไม่ค่อยสงบเท่าไหร่ เพราะทุกครั้งที่พบหมอ ผลออกมามักจะไม่น่าประทับใจสักเท่าไหร่

ครั้งนี้...ผิดคาดครับ หมอเอ่ยขึ้นว่า
"ไม่พบอะไรแล้วนะ ฝ่ายรังษีเค้าสรุปมาแบบนั้น แล้วหมอตรวจดูเอง ก็ไม่พบอะไรที่เป็นเนื้อร้ายหลงเหลืออยู่เหมือนกัน"
"การรักษาได้ผลดีมาก"
หมอยิ้มให้แบบยินดีกับเราด้วย ก่อนพูดต่อไปว่า...
"งั้น...อีกสามเดือนเจอกัน"

รู้สึกเป็นสุขใจอย่างบอกไม่ถูก ตัวเบาเหมือนจะลอยขึ้นจากเก้าอี้ ฮ่าๆๆๆ เนื้อตัวเต้น (กูไม่ตายแล้ว) หมอออกใบสั่งทำ CT Scan แล้วนัดพบครั้งต่อไป 8 มี.ค. 53 ผมลาหมอออกมาเดินเรื่องสำหรับครั้งถัดไป โทรไปบอกภรรยา (ดีใจโคตรๆ) เดินเรื่องเสร็จเกือบบ่ายโมง หาข้าวกิน เดินเล่นห้าง (ดูไม้กอล์ฟ) ขับรถกลับบ้าน อย่างมีความสุข

เมื่อเย็นวาน (16 ธ.ค. 52) ผมกลับจากทำงานถึงบ้าน ภรรยาเล่าให้ฟังว่าลุง(พี่ชายภรรยา-ลุงของลูกชายผม) มาเอาเหรียญหลวงพ่อหิน เขาพญาเดินธงไป แต่เอารูปหล่อหลวงพ่อหินมาแลกให้ พร้อมให้ธนบัตรขวัญถุงหลวงพ่อมุ่ยมาอีกหนึ่งใบ แต่ถ้าไม่เอาก็จะเอาเงินมาแลกหมื่นนึง แต่ภรรยาผมบอกว่า ลุงอยากได้ก็เอาไปเถอะ ไม่คิดอะไรหรอก เพราะทีพระหลวงพ่อปานลุงแกยังให้ผมมาฟรีๆเลย ผมเลยนึกขึ้นมาถึงเรื่องกลิ่นหอมของผงพระหลวงพ่อปานที่ผมคล้องคออยู่...เลยคุยกับภรรยาว่า พระหลวงพ่อปานที่ห้อยคออยู่นั้นกลิ่นผงหอมมาก แต่เมื่อผมหยิบขึ้นมาดมอีกครั้ง กลับไม่มีกลิ่นอะไรเลย นอกจากกลิ่นของทอง ผสมกับกลิ่นตัวผม ทำให้ผมขนลุกซู่...(กลิ่นหายไปไหนวะ)

ผมทบทวนเรื่องกลิ่นหอมของผงพระที่ผมได้มาตั้งแต่แรก แต่ด้วยความที่คิคแค่เพียงว่า คงเป็นกลิ่นของพระผงทั่วๆไป ไม่ได้คิดว่าเป็นอิทธิหรือปาติหารใดๆที่เกิดขึ้นกับผม เลยเกิดข้อข้องใจว่า...พระผงหลวงพ่อปานโดยทั่วๆไป มีกลิ่นจริงหรือ ต้องไปถามลุงดู ว่ามีกลิ่นหรือเคยได้กลิ่นหอมนี้มั๊ย เพราะแกได้เพราะองค์นี้มาเกือบ 30 ปี

ผมอุ้มลูกสาวคนเล็กเดินไปบ้านลุง ลุงคุยถึงเรื่องพระหลวงพ่อหินที่แลกกันกับภรรยาเมื่อตอนกลางวันให้ฟังก่อน พร้อมกับเล่าที่มาธนบัตรขวัญถุงของหลวงพ่อมุ่ยที่แกมีอยู่ 2 ใบ และแบ่งให้ภรรยาผมใบเมื่อตอนเย็น ผมได้จังหวะเลยถามถึงเรื่องกลิ่นหอมของพระหลวงพ่อปาน แล้วผมก็เล่าให้แกฟังว่าผมได้กลิ่นทุกวันตั้งแต่ลุงให้มา โดยเฉพาะตอนเช้าเวลาจบหัวก่อนคล้องคอ ลุงเอ่ยขึ้นว่า..เป็นอภินิหารของพระที่จะได้พบผู้ครอบครองที่คู่กัน

ย้อนกลับไปก่อนที่จะลุงจะมอบพระหลวงพ่อปานให้ผม เมือปลายปีที่แล้ว (5 ก.ย.51) ผมตรวจพบก้อนมะเร็งที่ตับข้างขวาขยาด 6 ซม. คุณหมอที่ รพ.สระบุรี ทำเรื่องส่งตัวด่วนมาที่ รพ.ศิริราช เพื่อพบผู้เชี่ยวชาญโรคตับเพื่อวินิจฉัย

ผลวินิฉัยของทีมแพทย์ รพ.ศิริราช ผมมีก้อนมะเร็งขนาดใหญ่ ติดเส้นเลือดดำตับ พบจุดเล็กๆประปรายที่ปลายสุดของตับซีกขวา และจุดเล็กๆขนาด 0.5 ซม. ที่ตับซีกซ้าย

ก้อน 6 ซม. ใหญ่เกินกว่าที่จะผ่าตัดเอาออกได้ ต้องตัดซีกขวาตับทิ้งทั้งข้าง โดยเบื้องต้น จะดำเนินการให้ครีโมฯ (TACE) ก่อน เพื่อหวังว่าก้อน 6 ซม.จะมีขนาดเล็กลง จนพอที่จะมีทางเลือกผ่าตัดเฉพาะที่ได้

หกสัปดาห์ถัดมา ตรวจดูผลครีโมฯครั้งแรก ก้อน 6 ซม. ติดสีดีมาก แต่ยังมีที่ยังไม่ได้ทำตอนให้ครีโมฯครั้งแรก คือบริเวณกลุ่มเล็กๆที่อยู่ปลายสุดของตับซีกขวา หมอจึงนัดเพื่อทำครีโมฯในครั้งที่สอง

หลังจากออกจากห้องผ่าตัดครั้งที่ 2 คุณหมอฝ่ายศัลยกรรมมาแจ้งผล ว่าจะดำเนินการผ่าตัดซีกขวาออก โดยในครั้งถัดไป จะนัดมาดำเนินการอุดเส้นเลือดแดงตับข้างขวาเพื่อให้มีขนาดเล็กลง และเลี้ยงตับข้างซ้ายให้มีขนาดโตขึ้น และหากร่างกายมีตับข้างซ้ายเพียงพอต่อการใช้งาน ก็จะดำเนินการผ่าตัดเปิดช่องอก เอาตับข้างขวาออกมา

โดยเหตุผลทั้งหมดสรุปได้ว่า...นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดที่ทางคณะแพทย์สรุปมา และหากไม่ดำเนินการตามนี้ผมจะมีชีวิตอยู่ได้ 6 เดือนถึง 1 ปี แต่หากผมยอมตัดตับทิ้ง ผมจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างต่ำ 5 ปี หรือมากกว่านั้น (ถ้ามากกว่า 5 ปี ผมจะอยู่ในกลุ่มของผู้โชคดี หมอบอก)

ภรรยาผมน้ำตาล่วง...ลูกชายสามขวบไม่รู้เรื่อง ลูกสาวอยู่ในท้องอีกคน ผมหู้อื้อ ในใจค้านหมอ แต่พูดออกมาไม่ได้ หมอคงดูอาการไม่เห็นด้วยของผมออก ผมถามภรรยาว่า "แม่...จะเอายังไง"
ภรรยาผมตอบว่า "พ่อว่ายังไง...ก็ว่าตามกัน" (ถ้าหมอนัดอุดเส้นเลือด..ผมก็ไม่มา รพ. อีกเลย)

เหมือนฟ้าเป็นใจ...พยาบาลเอาใบนัดมาส่ง (หมอไม่มา) แต่เป็นการนัดทำครีโมฯเข็มที่ 3 ที่จุดเดิม (กลุ่มของจุดเล็กๆปลายตับซีกขวา)

ผมกลับมาบ้าน...เล่าให้ทางบ้านฟัง เพื่อเตรียมใจกับผลที่หมอวินิฉัย วันต่อมา..ลุงก็เอาพระหลวงพ่อปานเหลี่ยมทองมาให้แล้วบอกว่า...
"หลวงพ่อปานท่านเด่นทางด้านยารักษาโรค พุทธคุณของท่านล้นเหลือ จะได้ช่วยให้ผมหายจากโรคมะเร็งได้"

ผมเปลี่ยนพระห้อยคอจากเดิมเป็นหลวงพ่อปาน...และทุกครั้งที่จะห้อยคอ ผมจะยกพระขึ้นจบศีรษะ สาธุๆๆ ทุกครั้ง และทุกครั้งที่ผมสาธุ ผมจะได้กลิ่นหอมจากองค์พระลอยเข้าจมูก และรู้สึกหอมชื่นใจทุกครั้ง

และมาเมื่อวานนี้...ผมกลับไม่ได้กลิ่นหอมขององค์พระเลยซักนิดเดียว แต่เป็นวันที่ผมไม่มีเนื้อมะเร็งร้ายอยู่ในร่างกายแล้ว

พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ
วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา
วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย
พุทธัสสะ มานีมานะ
พุทธัสสะ สวาโหม

 

ขอให้อย่ามีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียนอีกตลอดไปนะค่ะ

 

ขอบคุณมากๆครับ อนุโมทนาในคำอวยพรครับ

 

ยินดีด้วยคับ ขอให้เจริญในทางโลกและทางธรรม คุณพระรักษาคุ้มครองนะคับ

 

ปล่อยปลาเยอะๆนะครับ

 

ยีนดีด้วยครับผม

 

ดีใจด้วยครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

สาธุๆ

ยินดีกับโอกาสใหม่นะครับ รักษาใจกายดีๆ ปล่อยปลาบ้างเมื่อมีโอกาส เพราะน้อยคนนักที่เป็นขนาดนี้แล้วจะรอด ถือเป็นบุญมหาศาลจริงๆ ^_^

ถ้าเป็นผมสงสัยร่วงไปแล้ว ^_^

______________________________
hello9
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ สายอีสาน
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ สายอีสาน มารายงานตัวกันหน่อยครับ

โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัดฯ ทั่วภาคเหนือตอนล่าง
โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัด สำนักสงฆ์สำนักปฏิบัิติธรรม ทั่วภาคเหนือตอนล่าง<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

ขอบคุณกำลังใจและคำแนะนำครับ....
ผมผ่านวิกฤตครั้งนี้ได้...ไม่นึกอยากได้ใคร่ดีสมบัติอื่นใดอีกแล้ว
เพราะถ้าชีวิตตัวเองยังรักษาไว้ไม่ได้...ดิ้นรนขนขวายสิ่งใดไป ก็ไร้ประโยชน์ครับ
เลือกอยู่อย่างพอเพียง...เป็นสุขกว่าเยอะเลยครับ

 

ยินดีด้วยครับ

 

เป็นพระหลวงพ่อปานทรงไหนเหรอครับ สนใจนะครับเพราะตัวเองก็เป็นเกี่ยวกะตับ รักษาตัวมาหลายปีละ อยากหายขาดสักทีนะครับ

รบกวนตอบใน PM ด้วยนะครับ
เพราะไม่ค่อยได้เข้ามาเท่าไหร่นะครับ
ขอบคุณครับ
ดิว

 

ยินดีด้วยครับ

เกือบจะปล่อยให้หลุดมือไปเสียแล้ว มีของดีแต่ไม่รู้คุณค่า มันน่า...ไหม

 

ที่มาของหลวงพระผงหลวงพ่อปานที่ผมได้รับมาองค์นี้

เบื้องต้น คร่าวๆนะครับ เจ้าของเดิมคือพี่เขยคนโตของภรรยา ซึ่งตอนนี้ท่านก็อยากได้คืนนะครับ แต่เกรงใจผมซึ่งเป็นเขยเล็ก อิอิอิ

พี่เขยคนโต..ตอนนี้ก็อายุใกล้ 60 แล้วครับ...
ย้อนไปสมัยที่แกบวชอยู่กับหลวงอาของแก ที่วัดจุฬามณีฯ กทม. หลวงอาแกให้เลือกพระเครื่องหนึ่งองค์ก่อนลาสิกขา...แกก็เลือกองค์นี้มา จากหลายๆองค์ในที่เก็บของหลวงอา

แกเล่าว่า...พอแกหยิบองค์นี้ขึ้นมา หลวงอาแกทวงว่า.."เฮ้ย..องค์นี้ไม่ให้"
แกเลยบอกว่า.."หลวงอาบอกองค์ไหนก็ได้..หลวงอาจะคืนคำหรอ"
แกเลยได้พระองค์นี้มา แล้วก็นำมาเหลี่ยมทองห้อยคอ

ต่อมา..ช่วงประมาณปี 2530 แกจะขอไฟฟ้าเข้าบ้านแต่ไม่มีตังส์ เลยไปขอยืมตังส์พี่ชายภรรยาคนโต พอเดินไฟฟ้าเข้าบ้านได้ ไม่รู้จะคืนตังส์ที่ยืมไปยังไง เลยตัดสินใจให้พระหลวงพ่อปานเหลี่ยมทององค์นี้ ตอบแทนพี่ชายภรรยาคนโตแทนการคืนตังส์ที่ยืมไป

พี่ชายคนโตของภรรยาผม...เป็นคนชอบอ่านหนังสือพระ และสะสมพระ(ไม่ใช่เซียนหรือนักเลงพระนะครับ) พอรู้ว่าผมตัดสินใจไม่ผ่าตัดตับเอาก้อนมะเร็งทิ้ง เลยมอบพระหลวงพ่อปานองค์นี้ให้ผม เพื่อเป็นกำลังใจในการต่อสู้กับมะเร็งครับ

สิ่งที่ผมได้รับรู้ถึงพุทธคุณและปาฏิหารย์ของพระหลวงพ่อปานองค์นี้..เป็นสิ่งที่ผมคงต้องจดจำไปจนวันตายอีกครั้งหนึ่งครับ

ทั้งนี้...สุดแล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคลนะครับ อนุโมทนาครับ

 

-ขอบคุณมากนะครับที่พี่ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ให้ฟังเกี่ยวกับพระหลวงพ่อปาน
...วัดบางนมโค และ วัดท่าซุง เป็นวัดที่ผมเดินทางไปทำบุญและกราบรูปหล่อแทนองค์หลวงพ่อปานบ่อยๆ....อย่างที่ทราบกันดีว่าศิษย์เอกของท่านก็ หลวงพ่อพระมหาวีระ(ฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง ศิษย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำก็เคารพหลวงพ่อ(ปู่)ปาน ด้วย
...ผมไม่มีพระหรือวัตถุมงคลที่ทันหลวงพ่อปาน....มีแต่รุ่นย้อนยุคทั้งเนื้อผงเนื้อดิน ที่บูชาจากวัดบางนมโค....แต่เคยทราบมาว่า จะเป็นพระจริง, พระปลอม(ท่านไม่ได้สร้าง) หรือรุ่นย้อนยุค เพียงแต่มีศรัทธา แล้วระลึกถึงท่านก็ใช้แทนกันได้...หลวงพ่อปานท่านให้พรไว้

 

ขอให้พี่หมั่นรักษาศีลไว้นะครับ โรคภัยร้ายๆจะได้ไม่กลับมาอีก

 

อนุโมทนาในพระพุทธคุณอันยอดเยี่ยมครับ หมั่นทำบุญตักบาตรบ่อยๆนะครับ สาธุ

 

มาดันกระทู้นิดนึงครับ.....
จะหาโอกาสเขียนวิธีการดูแลตัวเอง...ในช่วงที่ต้องดิ้นรนหนีตายจากมะเร็ง...และการดูแลตัวเองในช่วงเวลานี้ครับ...
เพื่อเป็นแนวทาง เป็นความรู้ ให้กับผู้ที่กำลังหาทางต่อสู้กับมะเร็งครับ....

 

หลวงพ่อปาน เป็นเกจิอีกท่านที่ผมเคารพบูชาอยู่เหมือนกันครับ ปัจจุบันผมก็ห้อยพระหลวงพ่อปานทรงนกอยู่ครับ บารมีท่านครอบจักรวาลครับ ยินดีด้วยครับที่ผ่านเรื่องร้าย ๆ มา ขอสิ่งดี ๆ จงเกิดกับเจ้าของกระทู้ตลอดไปด้วยเถอะ สาธุ เป็นกำลังใจให้อีกคนครับ

 

พึ่งเข้ามาอ่าน

เจ้าของกระทู้ ผ่านวิกฤตการณ์มาจริงๆ เข้าใจ และ เห็นใจมากครับ

เป็นกำลังใจให้น่ะครับ

อ้อ กอล์ฟ handy cab เท่าไหร่ครับ...แหะๆ