เรื่องเด่น สหประชาชาติเตือนวิกฤตสภาพอากาศโลกเข้าระดับ ‘สีแดง’ แล้ว

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ เตือนภัย, 12 สิงหาคม 2021.

  1. โพธิสัตว์ เตือนภัย

    โพธิสัตว์ เตือนภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,565
    กระทู้เรื่องเด่น:
    441
    ค่าพลัง:
    +655
    [​IMG]

    รายงานล่าสุดของคณะกรรมการขององค์การสหประชาชาติด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก หรือ IPCC (Intergovernmental Panel on Climate Change) เตือนว่า วิกฤตสภาพอากาศโลกได้เข้าสู่ระดับ ‘สีแดง’ แล้ว ซึ่งภายในปี 2030 อุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยจะสูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสเหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม ซึ่งยอดอุณหภูมินี้นั้นเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญเคยคาดการณ์ไว้ถึง 10 ปีเลยทีเดียว


    การศึกษาของ IPCC ระบุด้วยว่า ผลกระทบที่คาดว่าจะตามมาในไม่ช้านี้ ได้แก่ ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่จะเลวร้ายขึ้นอย่างมาก

    ข้อมูลข้างต้นเป็นผลจากการวิจัยกว่า 14,000 ฉบับที่ได้รับการยืนยันจากนักวิทยาศาสตร์ร่วม 200 คนทั่วโลก ซึ่งผู้นำจากนานาประเทศจะใช้รายงานชิ้นล่าสุดนี้เป็นรากฐานในการออกมาตรการแก้ไขและรับมือปัญหาด้านนี้อย่างเร่งด่วน ณ การประชุมภาคีสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ COP26 ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 13 ตุลาคมนี้ ที่เมืองกลาสโกว ในสหราชอาณาจักร

    รายงานจากสหประชาชาติหรือ UN ชิ้นนี้ได้ถูกตีพิมพ์เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งตรงกับช่วงที่เกิดภัยพิบัติจากสภาพอากาศที่แปรปรวนในประเทศต่างๆในซีกโลกเหนือ เช่น ไฟป่า Dixie Fire ที่ขึ้นแท่นเป็นไฟป่าที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย หรือ คลื่นความร้อนในประเทศกรีซที่ส่งผลให้เกิดไฟป่า ทำให้ท้องฟ้าทั่วเกาะอีเวียที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศกลายเป็นสีแดงฉาน

    ทั้งนี้ ตรุกีและอิตาลีก็เผชิญกับมหัตภัยไฟป่าเช่นกัน และ อุณหภูมิในประเทศแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้พุ่งสูงขึ้นถึง 45 องศาในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย บูอาซิจิ ในเมืองอิสตันบูของตุรกี ได้เตือนว่าภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนจะเกิดไฟป่าขึ้นตลอดเวลาในอนาคต สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น สถานการณ์ข้างหน้าจะเลวร้ายกว่านี้มาก

    นอกจากนี้ รายงานจาก UN ยังได้ระบุว่า โลกมีโอกาสที่จะมีระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นกว่า 2 เมตรภายในปลายศตวรรษที่ 21 และอาจจะส่งผลกระทบต่อประชากรหลายล้านคนที่อาศัตามชายฝั่งทะเลในประเทศต่างๆ ส่วนพื้นที่ในบริเวณขั้วโลกเหนืออาจจะเผชิญกับฤดูร้อนที่ไม่มีน้ำแข็งเลยอย่างน้อยหนึ่งครั้งภายในเวลา 29 ปีข้างหน้านี้

    e0b8b2e0b88ae0b8b2e0b895e0b8b4e0b980e0b895e0b8b7e0b8ade0b899e0b8a7e0b8b4e0b881e0b8a4e0b895e0b8aa.jpg
    FILE – Melt water lakes are seen on the edge of an ice cap in Nunatarssuk, Greenland, in this aerial view taken on June 22, 2019.

    การเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์

    รองผู้อำนวยการองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ นาย โค แบรเรต์ บอกกับสำนักข่าว AP ว่า มนุษยชาติรู้มาหลายสิบปีแล้วว่าโลกของเราร้อนขึ้นเรื่อยๆ แต่รายงานชิ้นนี้ชี้ให้เห็นชัดว่า การเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศนั้นเกิดขึ้นเร็วมาก ยกตัวอย่าง เช่น ช่วง 40 ปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงที่โลกร้อนมากที่สุดในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ก่อนยุคอุตสาหกรรม

    เขากล่าวต่อว่า เหตุผลที่เกิดสถาการณ์ที่เลวร้าย ไม่ว่าสภาพอากาศรุนเเรงสุดขั้ว เช่น คลื่นความร้อนจัด ปัญหาภัยแล้ง และฝนที่ตกหนักมากผิดปกติ ล้วนเป็นผลมาจากกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ทั้งสิ้น

    ทางออกในภาวะฉุกเฉินของสภาพอากาศโลก

    ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ย้ำว่า ประชาชาติยังสามารถหาทางออกจากวิกฤตภูมิอากาศโลกได้ หากเริ่มจากการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างกว้างขวางทั่วโลก

    ผู้ร่วมเขียนรายงาน IPCC และ นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศของมหาวิทยาลิยรีดดิ่งที่สหราชอาณาจักร นาย บิล คอลลินส์ บอกกับ วีโอเอว่า ประชากรโลกจะต้องเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานอย่างมากเพื่อที่จะหยุดวิกฤตนี้ได้สำเร็จ เราจะต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ภายในกลางศตวรรษนี้ นอกจากนี้ เราจะต้องช่วยกันลดก๊าซมีเธนซึ่งมีส่วนสำคัญในการเพิ่มอุณหภูมิโลกกว่าครึ่งองศาด้วย

    ท้ายสุดนี้ นักวิทยาศาสตร์หวังว่า การที่สหรัฐฯกลับมาเข้าร่วมเป็นประเทศในกรอบข้อตกลงปารีสว่าด้วยการแก้ปัญหาภาวะอากาศเปลี่ยนเเปลงผิดธรรมชาตินั้น จะส่งแรงผลักดันให้ผู้นำจากนานาประเทศที่จะมาประชุมกันที่ COP26 ที่สหอาณาจักรหันมาร่วมกันแก้ปัญหาวิกฤตสภาพอากาศโลกได้เร็วยิ่งขึ้น

    (ที่มา: วีโอเอ และ สำนักข่าว AP)


    ขอบคุณที่มา

    https://www.voathai.com/a/un-climate-report-change-ipcc-red-alert/5999322.html
     

แชร์หน้านี้

Loading...