สมเด็จโตท่านเป็นพระอรหันต์หรือไม่ครับ

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย คิดดีจัง, 22 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,353
    บังเอิญผมได้รู้จักกับน้องคนหนึ่ง เป็นคนมีองค์(เขาว่างั้น)

    เขาบอกผมว่าหลวงปู่โตนะไม่ใช่พระอรหันต์ เป็นเกจิเท่านั้น

    ผมเลยสงสัยนะครับว่าเป็นจริงหรือไม่

    ขอท่านผู้รู้ช่วยตอบข้อสงสัยด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • somdej6007gi.jpg
      somdej6007gi.jpg
      ขนาดไฟล์:
      119.1 KB
      เปิดดู:
      15,833
  2. หลานศิษย์

    หลานศิษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2008
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +560
    สมเด็จโต ท่านเป็นพระอรหันต์หรือเปล่า
    ผมไม่สามารถตอบได้ เพราะยังไม่ใช่พระอรหันต์

    รู้แต่ว่า ท่านมีบารมีสูงมาก
    จากปฏิปทาท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ที่จะมาเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต

    ท่านสร้างพระศรีอริยเมตตรัย องค์ยืน ที่วัดอินทร์
    ท่านพูดเรื่อง กระดูกแขนท่อนเดียว เป็นพระโพธิฯ

    และจากประสพการณ์ของพระที่รู้จัก
    พระศรีฯมีนิมิตให้ท่านสร้างรูปพระศรีฯปูนปั้นที่สุรินทร์
    ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ สร้างฐานเสร็จแล้ว

    หลวงปู่ทวด หลวงปู่โต คือพระศรีฯ ที่ลงมาบำเพ็ญในยุคต่าง ๆ
     
  3. e20ehq

    e20ehq เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    334
    ค่าพลัง:
    +770
    พระรูปไหน จะเป็นหรือ ไม่เป็นอรหันต์ ก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้เรา บรรลุนิพพานได้เลย เพียงแค่ทราบว่าท่านเป็นอรหันต์หรือไม่
    แต่ถ้าท่าน ศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอน อันนี้ ท่านมีหวังสำเร็จบรรลุนิพพานแน่ๆ

    เหมือนท่านเห็นว่า คนๆ นี้มีอาหารและกินอาหาร แต่ท่านไม่มีอาหาร ไม่กินอาหาร แล้วคุณจะอิ่มได้อย่างไร

    อย่าไปสนใจเลย พระรูปไหน อรหันต์หรือไม่อรหันต์ ดั้นด้น ไปกราบท่าน แต่ไม่ได้สนใจในหลักธรรมคำสั่งสอน......
    ที่บ้านยังมีคุณพ่อ คุณแม่ พระอรหันต์ที่บ้าน ดูแลท่านให้ดี สนใจศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า นี่แหละครับ ดีที่สุด
     
  4. สมพิศเปรม

    สมพิศเปรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +361
    ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในกาลภายหน้าค่ะ ดิฉันเคยไปที่ซ.เพชรเกษม65 สำนักปู่สวรรค์ หลวงปู่โตเคยมาโปรดสัตว์ รักษาโรคค่ะ หากสนใจเพิ่มเติมให้ไปหาข้อมูลศึกษาที่นั่นได้ค่ะ มีห้องสมุด หนังสือมากค่ะ
     
  5. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +75
    ท่านดีและเก่งที่สุดรู้เท่านี้น่าจะพอ
     
  6. thontho

    thontho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    398
    ค่าพลัง:
    +612
    สมเด็จโต ท่านไม่ชอบแนวพระอรหันต์ ท่านบอก เอาตัวรอดเป็นยอดดี ไม่สนใจช่วยผู้อื่นเรียกว่าเห็นแก่ตัวก็ได้ ท่าชอบแนวพระโพธิสัตว์ ท่านมาทำงานที่สำนักปู่สวรรค์ ซ.65 เพชรเกษม บางแค และเทศน์ธรรมไว้ในหนังสือมากมาย คำเทศน์ของท่านเป็นอมตะ ที่เราต้องศึกษาไว้

    พระอรหันต์ตัดกิเลสหมดแล้ว จะไม่ยุ่งทางโลก ถ้าคนยุคนี้พบ ก็จะว่า ท่านป็นคนบ้านั่นเอง ท่านจึงหลบอยู่แต่ในป่าลึก ไม่ให้คนพบ เพราะกลัวคนจะบาปหนักเมื่อพบท่านและว่าเป็นคนบ้า ซึ่งท่านไม่ต้องการเช่นนั้น .......ฉนั้นอย่าไปหาพระอรหันต์เลย จะเจอแต่ที่แอบอ้างทั้งนั้น
     
  7. nes lanna

    nes lanna สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมจะใช่ไม่ใช่ไม่สำคัญครับแต่ท่านมีบารมีเยอะๆๆมากครับและท่านก็สร้างคุณงามความดีไว้มากมายและท่านก็เป็นองค์เดียวกับพระศรอาริยเมตไตรครับ
     
  8. Deejang

    Deejang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +311
    ทำไมพระอรหันต์จะช่วยคนอื่นไม่ได้ พระอรหันต์ท่านช่วยคนตาดำๆ อย่างเรา ๆมามากมายนับไม่ถ้วน และเราก็บอกไม่ได้หรอกว่าพระในป่าจะเป็นอรหันต์ หรือพระเห็น ๆนี่แหละจะเป็นอรหันต์ ไม่มีใครบอกได้หรอก
     
  9. เฉยฉิบ

    เฉยฉิบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +251
    ท่านเป็นพระอรหันต์รึปล่าวไม่ได้ถาม แต่ท่านอยู่พระนิพพานครับ...
     
  10. danit

    danit สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +4
    ท่านสมเด็จโตท่านพระที่เมื่อละสังขารแล้วสิ่งที่ออกมาจากร่างกายจะกลายเป็นพระธาตุ ซึ่งพระที่จะมีพระธาตุได้จะต้องปราศจากอาสวะทั้งปวง และท่านยังเป็นคนที่ปราปแม่นาคพระโขนงซึ่งบุคคนที่จะมีคุณสมบัติเห็นวิญญาณ รวมทั้งการพูดคุยกับวิญญาณได้นั้น พระพุทรเจ้าตรัสว่ามีอยู่2ประเภทคือ1พระพุทธเจ้าและ2พระอรหันต์ สาธุ
     
  11. 431240

    431240 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +643
    ผมขอตอบตามคำถาม ท่านเป็นโพธิสัตว์ ครับ ในชั้นของจิตท่านเป็นครับ จิตระดับโพธิสัตว์มีมากมาย อย่างหลวงปู่ทวด เจ้าแม่กวนอิม และอีกหลายท่านที่ผู้คนทั้งหลายไม่ทราบ และบ้างคราวก็มีจิตระดับชั้นอรหันต์ที่ท่านมาโปรดสัตว์ ท่านสามารถปรับระดับจิตมาเป็นกึ่งโพธิสัตว์ กึ่งอรหัตน์ เพื่อโปรดสรรพสัตว์ ในเรื่องของจิตนั้นผู้ที่เข้าถึงสามารถทำได้ครับ การปรับญานภายในนั้นต้องเป็นผู้สำเร็จจิตชั้นสูง วิธีการนั้นมีแต่ไม่มีการถ่ายทอดเป็นตำราต้องอาศัยการถ่ายทอดจากจิตสู่จิต เท่านั้น
     
  12. 431240

    431240 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +643
    การก่อเกิดพระธาตุ เกิดจากพลังของจิตอันบริสุทธิ์ เมื่อจิตเข้าถึงความบริสุทธิ์โดยแท้ กระแสจิตภายในจะเข้าชำระกาย จากหนัง สู่เนื้อ เข้าถึง อาการ 32 สุดท้ายจนถึงกระดูกและทำการซักฟอกธาตุขันธ์ จนบริสุทธ์ ถ้าผู้ปฏิบัติยังไม่ถึงอรหันต์ เช่นจิตระดับตำกว่า แต่รู้วิธีการชำระธาตุขันธ์ กระดูกอาจจะเป็นสีขาวกว่าคนปกติ แม้จิตชั้นโพธิสัตว์ธาตุของท่านนั้นก็บริสุทธิ์ ผู้ฝึกจิตด้วยวิธีการนี้ จะทำให้เกิดสภาวะจิตที่โปร่งโล่ง กายจะเบาและโปร่งโล่ง เพราะธาตุขันธ์ได้ถูกการชำระ โดยสภาวะธรรมที่เกิดจากภายในจิต(จิตคือธรรมชาติอย่างหนึ่งเช่นกัน) ส่วนการมองเห็นจิตวิญญานนั้น จิตวิญญานที่แท้จริงไม่มีสังขาร มีลักษณะเป็นดวงจิตขนาดเล็ก หากเราฝึกสมาธิจนนิ่งสงบเราก็สามารถสัมผัสกับจิตวิญญานได้ แต่ถ้าจิตเราไม่ถึงระดับคือยังอาศัยรูปอยู่(ยังมีอุปทานของจิต) ถ้าเราพบจิตวิญญานที่มีฤิทธิ์หน่อยเขาหากทำให้เราเห็นเป็นรูปร่างได้ เพื่อเป็นการสื่อสารกับเรา ส่วนใหญ่จะเป็นการขอความช่วยเหลือ แต่ถ้าเราฝึกให้ได้ระดับของญานแท้ๆ จิตวิญญานจะไม่สามารถให้เราเห็นรูปร่างใดได้ เพราะพลังงานและชั้นของจิตจะอยู่สูงกว่าจิตวิญญาน แต่เราสามารถจะสัมผัสและรับรู้ได้ด้วยญานและความเป็นทิพย์ของจิต และจิตดวงนั้นจะไม่สามารถปิดบังได้ จะบอกว่าเป็น เทพเป็นพรหม หรืออ้างว่าเป็นสิ่งใด ก็ปิดบังไม่ได้ เพราะกระแสจิตที่ปล่อยออกมาจะบ่งบอกสภาวะของจิตได้ชัดเจน ส่วนการพิสูจน์ถ้าเราพบจิตวิญญาน เราพิสูจน์ด้วยการสื่อสารทางจิต เหมือนเรานั่งคุยอยู่คนเดียว(ไม่ได้ถามเอง เออเอง) เช่นถามว่าชื่ออะไร อยู่ที่ไหน ตายยังไง เพราะจิตดวงหนึ่งย่อมต้องมีเรื่องราวของภพภูมิอยู่ภายใน สุดท้ายก็ถามว่าต้องการอะไร เมื่อทราบมาหมดก็พิสูจน์ในความเป็นจริง ถ้าเป็นจิตวิญญานที่อยู่ท้องถิ่น ก็ให้ไปสอบถามดูตามนั้น ถ้าจริงละก็ไม่ใช่อุปทานของจิต ถามว่าถ้าเราสัมผัสวิญญานแล้วสามารถรู้ได้เลยได้หรือ ตอบว่าได้ แต่ต้องเป็นจิตระดับสูงจริงๆ อย่างจิตชั้นโพธิสัตว์ เห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บ เป็นการรู้แบบธรรมชาติ ไม่ต้องกำหนดรู้ สามารถรู้ผ่านภพชาติต่างๆของสรรพสัตว์ได้ทั้งหมด เพื่อการโปรดสัตว์และช่วยเหลือสรรพสัตว์ทั้งหลายไ้ด้จริง ที่ผมกล่าวมาทั้งหมดไม่ได้ต้องการหักล้างความคิดใคร เป็นไปเพื่อการสนทนาแลกเปลี่ยน ไม่มีผิดไม่มีถูก มีแต่รู้กับไม่รู้ เพื่อให้จิดได้เกิดการเรียนรู้จากการพูดคุยกันเท่านั้น ผมไม่ได้สำเร็จจิตใดๆ แต่สิงใดถ้าเราจะรู้ให้มันเกิดการรู้จากจิตภายใน รู้แล้วต้องปล่อยวางให้ได้ เมื่อรู้แล้วอย่าไปติดในสัญญา พยามยามทำจิตให้นิ่ง ดิ่ง ลึก บริสุทธิ์ รู้จักปล่อยวาง จนสุดท้ายจิตเข้าสู่ความว่าง เมื่อนั้นญานแท้ๆก็จะปรากฏ (ปัญญา หรือเรียกว่าญานรู้) และสุดท้ายก็เกิดญานเพื่อการหลุดพ้น เป็นผู้มีปัญญาแต่ไม่ติดในปัญญา เกิดการดับสัญญาภายใน ไม่มีบุญไม่มีบาป มีเพียงจิตรู้ จิตตื่น จิตเบิกบานโดยหลักของธรรมชาติ และอยู่เหนือธรรมชาติ(คือการหลุดพ้น) พ้นจากแรงดึงดูดของโลก(วัฎฎะ) คือกิเลส ตัณหา อุปทานทั้งปวง ขออวยพรให้ทุกท่านได้ปฎิบัติได้กันทุกท่าน (ปฎิบัติสายนู่น สายนั่น แล้วสายไหนละ ที่จะหลุดพ้นได้หากไม่รู้จักปล่อยวาง)
     
  13. นางสาวอยู่จ้ะ

    นางสาวอยู่จ้ะ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +3,865
    ดีใจที่ได้ทราบข้อมูลนี้นะคะ....แล้วเราก็พร้อมที่จะเชื่อด้วย, เวลาดิฉันนั่งสมาธิ หากกำหนดเป็นภาพสมเด็จโต แล้วจะทำให้เข้าสมาธิได้เร็วมากค่ะ และไม่กี่เดือนนี้ดิฉันได้เริ่มสวดบทมหาจักรพรรดิ ของหลวงปู่ดู่ และได้รับสิ่งที่ดีๆจากการสวดค่ะ, ดีใจมากที่สุดท้ายแล้ว แม่น้ำทุกสายก็ไหลมารวมเป็นสายเดียวค่ะ
     
  14. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708


    ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ค่ะ
     
  15. Attila 333

    Attila 333 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +716
    แต่ผมรู้สึกว่าท่านจะเป็น...พระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ นะ
     
  16. เงาเทวดา

    เงาเทวดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +314
    สมเด็จโตท่านเป็นพระอรหันต์หรือไม่ครับ

    ตอบ...ไม่ใช่จ้า...ท่านเป็นพระบรมโพธิสัตว์ พระนามว่า รามะ มีหน้าที่ดูแลจิตวิญญาณทุกดวงในสามโลก ตำรงค์ตำเหน่งหลายตำเหน่งในโลกวิญญาณ เช่น พระอิศวร (ศิวะ) ท่านฯ ปฏิบัติหน้าที่สำคัญคือดูแลรักษาพระศาสนาให้ดำรงค์อยู่ครบ 5000 ปี ในระหว่างดูแลพระศาสนา เคยเกิดเป็นมนุษย์ ทำหน้าที่ทั้งบู้และบุ๋น เคยเกิดเป็นหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เป็นพระนเรศวร พระเจ้าตาก พ่อขุนราม (ประดิษอักษรไทย)ฯลฯ ปัจจุบันเป็นพระผู้ทรงอภิญญา รู้อุปนิสัยสรรพสัตตว์ครบ 84000 นิสัย บำเพ็ญทศพลญาณครบบริบูรณ์แล้ว เหลือเพียงพุทธญาณในชาติสุดท้าย มีอิทธิฤทธิ์สุดจะหยั่งได้ ด้วยบารมีที่เคยสร้างมาแล้ว 16 อสงไขย กับแสนมหากับป์ จะตรัสรู้ต่อจาก พระศรีอริยะเมตตรัย ในโลกใบใหม่ ต่อจากโลกใบนี้จ้า...


     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 มีนาคม 2011
  17. naknoi.b

    naknoi.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,042
    ค่าพลัง:
    +1,714

    เท่าที่ทราบมาหลวงปู่ทวดคือพระโพธิสัตว์ที่ทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านามว่า"พระศรีอริยเมตตรัย" มิใช่เหรอคับ อย่างพวกเราชาวพุทธในบรรดาลูกศิษย์ต่างรับรู้โดยทั่วกัน..
    และที่สำคัญเหล่าลูกศิษย์ต่างรับรู้ว่าหลวงปู่ทวดคือ"หลวงปู่ดู่"หลวงปู่ดู่ก็คือหลวงปู่ทวด...แม้แต่หลวงปู่บุดดาพระองค์ท่านยังมอบมงกุฏพระเจ้ามอบให้ไว้พร้อมทั้งยังทำนายกาลข้างหน้าอีกว่า สิ่งที่หลวงปู่ปราถนานั้นจะสำเร้จแน่นอน ท่านจะได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปนับจากศาสนาของพระสมณะโคดม..
     
  18. เงาเทวดา

    เงาเทวดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +314
    ตอบ...เชื่อในสิ่งที่ทราบมาก็ดีเหมือนกันจ้า..เพราะมันเป็นลิขิตฟ้าจ่า...
     
  19. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ผมก็ได้รู้จักเพื่อนนักปฏิบัติ ทิดจิตแก่ได้มโน
    แก่บอกผมว่าหลวงปู่โตนะไปเป็นพรหม

    รู้ได้ไง ให้ดูเหรีญของท่านอีกด้าน
    จะเป็นรูปท่านเท้ามหาพรหม

    อย่าพึ่งเชื่อจนกว่าเราจะสัมผัสจิตท่านได้
     
  20. เงาเทวดา

    เงาเทวดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +314
    [FONT=&quot](เริ่มต้นการสวดมนต์ด้วยการสวดนะโมสามจบ)
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
    [/FONT][FONT=&quot]
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
    [/FONT][FONT=&quot]
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
    [/FONT][FONT=&quot]

    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    [/FONT][FONT=&quot]ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    [/FONT][FONT=&quot]สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    [/FONT][FONT=&quot]ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    [/FONT][FONT=&quot]ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    [/FONT][FONT=&quot]ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    [/FONT][FONT=&quot]ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    [/FONT][FONT=&quot]ตะติยัมปิ ธรรมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    [/FONT][FONT=&quot]ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

    [/FONT][FONT=&quot](สมาทานศีลห้า)
    [/FONT]​
    [FONT=&quot]มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
    [/FONT][FONT=&quot]ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
    [/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT]​
    [FONT=&quot]ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]กาเมสุ มิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    [/FONT][FONT=&quot]มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    [/FONT][FONT=&quot]สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    [/FONT][FONT=&quot]
    สวดถวายพรพระ (พุทธคุณ 56 จบ)
    [/FONT]​
    [FONT=&quot]อิ ติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ
    [/FONT][FONT=&quot](ธรรมคุณ 38 จบ)[/FONT]
    [FONT=&quot]สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ [/FONT][FONT=&quot]
    (สังฆคุณ 14 จบ)[/FONT]
    [FONT=&quot]สุ ปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ[/FONT][FONT=&quot]

    (ตรงนี้ ตั้งนะโมสามจบอีกครั้ง แล้วสวดบทกรวดน้้ำ แผ่เมตตาที่เรารู้จัก หรือหลับตา ตั้งจิตอธิฐานอะไรก็ได้................................จากนั้น)

    (ขอขมาพระรัตนตรัย)
    โยโทโส โมหะจิตเตนะ พุทธัสมิง ปาปะกะโต ขะมะถะเม ภันเต
    โยโทโส โมหะจิตเตนะ ธรรมมัสมิง ปาปะกะโต ขะมะถะเม ภันเต
    โยโทโส โมหะจิตเตนะ สังฆัสมิง ปาปะกะโต ขะมะถะเม ภันเต


    [/FONT]​
    [FONT=&quot]อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ [/FONT][FONT=&quot](กราบ)[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ [/FONT][FONT=&quot](กราบ)
    [/FONT][FONT=&quot]สุปะฏิปันโน ภะคะวาโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ [/FONT][FONT=&quot](กราบ)[/FONT][FONT=&quot]
    (จบการสวดมนต์)
    [/FONT]​

    วันนี้ เอาบทสวดมนต์ แบบมาตฐานมาให้คนมีบุญกุศลอยู่ในหัวใจได้ใช้กันอย่างถูกต้อง ถ้าต้องการสวดยาว ก็สวดช่วงถวายพรพระ พุทธคุณ 56 ธรรมคุณ 38 สังฆคุณ 14 รวมเป็น 108 จบ ถ้าไม่ขยันก็สวดรวดเดียว ครังเดียวจบ

    สำหรับ สิ่งที่จะได้จากการสวดมนต์นี้คือ คุณธรรมที่จะทำให้เป็นพระโสดาบัน ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม เพียงแค่ลงมือทำให้เกิดขึ้น ซึ่งการสวดมนต์ข้างต้น จะช่วยตัดสังโยชน์เบื้องต้นเราไปสองข้อแล้ว นั่นคือ สีลพตปรามาส วิจิกิจฉา ที่เหลืออยู่ ก็แค่พิจรณาสักกายยทิฏฐิด้วยตนเอง

    หนึ่งสีลพตปรามาส(ศีลห้า) อันเป็นหนึ่งในสาม ของสังโยน์เบื้องต้น สิ่งนี้ต้องอาศัยการลงมือทำ(รักษาศีล) จึงจะสำเร็จได้

    สองวิจิกิจฉา ความสงสัยในคำสอน สงสัยในคุณของพระรัตนตรัย สิ่งนี้ต้องอาศัยความศรัทธา(ความเชื่อมั่น) อย่างแรงกล้า จึงจะสำเร็จได้


    ส่วนข้อสาม ที่จะทำให้เป็นพระโสดาบัน ก็คือ ละสักกายทิฏฐิ สิ่งนี้ต้องอาศัยพิจรณา(คิดแล้วรู้แจ้ง) ในร่างกายตน ให้เห็นตามความเป็นจริง ว่าร่างกายนี้เป็นของธรรมชาติ อย่างไร จึงจะสำเร็จได้

    สำหรับเรื่องกิเลส(ความเศร้าหมอง)ทั้งหลาย ถ้าไม่เคยทำกรรมหนักมา ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงเลย ไม่ต้องไปจัดการกิเลสใดๆ ทั้งสิ้น ด้วยมันเป็นเรื่องของธรรมชาติ เรื่องของใจที่ต้องมีกิเลสบ้างเป็นธรรมดา เดี๋ยวธรรมชาติความไม่แน่นอน(อนิจัง) ทนอยู่อย่างเดิมไม่ได้(ทุกขัง) ไม่ใช่ตัวตน บังคับไม่ได้(อนัตตา) จะช่วยจัดการให้เอง เพียงแค่อดทนดูตอนมันเกิดในจิตเพียงนิดหน่อย เดี๋ยวกิเลสมันก็อยู่ไม่ได้เองเป็นธรรมดา ถ้ามีความสุขก็เสพไป ไม่มีปัญหาขวางทางที่จะทำให้เป็นพระโสดาบันได้ ให้นึกถึงนางวิสาขา มีลูก มีบริวารเป็นพัน ยังไม่มีอุปสรรคใดๆ

    สรุป ทำเรื่องที่คิดว่ายากให้ง่าย ก็จะง่ายดังที่บอกไปนี้จ้า...(นี้คือคำสอนของสมเด็จฯ โต ที่มีให้"จริงนะ" (ไม่ได้โม้ จ้า))
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 เมษายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...