วิธีการฝึกอภิญญา ตามที่แสดงในพระอภิธรรม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Mikas, 3 ตุลาคม 2016.

  1. Mikas

    Mikas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +342
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    เป็นการถ่ายทอดตามหลักวิชาที่ดีมากครับ..
    แต่ปกติถ้าจะนำมาลง จะมีการถอดความร่วมด้วยครับ
    หลังจากที่ฟังจบแล้ว ความเห็นส่วนตัวมองว่ามีความ
    เป็นไปได้สูงครับ และก็เห็นด้วยในส่วนของ กสิณอากาศ
    และกสิณแสงสว่าง ที่ไม่ควรนำมาเพื่อฝึกไต่ระดับหรือข้ามระดับครับ
    เพราะว่า จะไม่ชัดเจนเหมือนที่ท่านกล่าวจริงๆครับ
    เพราะกสิณอากาศหากเข้าฌานไปหรือเรียกให้ปรากฏแล้ว
    มันจะแยกได้ยากมากว่าอะไรเป็นอากาศหรือเป็นลมครับ
    เพราะว่ามีความคล้ายคลึงกันมากในลักษณะการปรากฏ
    ส่วนถ้าเมื่อก่อนอากาศกับความว่าง ก็แยกกันได้ยากเช่นกัน
    แต่ ณ ปัจจุบันนี้มีการเปลี่ยนแปลงแกนพลังงานของโลก
    เลยทำให้อากาศกับความว่างแยกกันได้ง่ายขึ้นไม่เหมือนเมื่อก่อน
    แต่ว่า อากาศกับลมก็ยังคงคล้ายคลึงกันเช่นเดิม ณ ปัจจุบันครับ

    ส่วนถ้านำกสิณแสงสว่างเข้ามาเกี่ยวข้อง ในระดับที่เริ่มเข้าฌาน ๑ ได้นั้น
    ก็จะแยกได้ยากเช่นกันครับ เพราะแสงสว่างที่สว่างจร้ามากๆแต่ไม่เย็น
    ในระดับปฐมฌานนั้น มันสามารถลดความสว่างลงและต่อยอดขึ้นไปอรูปฌาน
    ได้เลย และกสิณแสงสว่างก็ยัง ที่จะต่อยอดไปในด้านของการเน้นสร้าง
    สายตาพิเศษในกำลังระดับสูงได้เช่นกัน ซึ่งมันจะมีจุดตรงที่จะคล้ายกัน
    ที่จะทำให้สับสนและไม่ชัดเจนอยู่สองจุดคือ ๑.กรณีที่กสิณแสงสว่างกำลัง
    จะไปในระดับกำลังสมาธิระดับสูง เพื่อเล่นในโหมดปฏิภาคสำหรับอฐิษฐาน
    จิตให้เกิดผลชั่วคราวและสร้างตาพิเศษ กับ ขณะที่แสงสว่างเริ่มกลับมาสว่าง
    อีกครั้งในขณะที่กำลังไต่อรูปฌาน ด้วยกิริยาที่เกิดกับทางจิตเช่นนี้
    ส่วนตัวจึงเห็นด้วยกับที่ท่านกล่าวว่า ไม่ควรนำกสิณอากาศและแสงสว่าง
    เข้ามาเกี่ยวข้องในลำดับการฝึกครับ
    และเนวสัญญาที่ท่านกล่าวถึง จะเป็นเพียงการเข้าถึงอารมย์เนวสัญญา
    ชั่วคราวนะครับ ไม่ใช่กิริยาที่จิตทำงานได้ในเนวสัญญานะครับ

    และท่านก็ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า แม้จะทำได้ แต่ก็ยังไม่ใช่หนทางแห่งการพุ้นทุกข์
    และได้เน้นว่า แม้สมัยก่อนยังไม่มีพุทธศาสนา ก็มีผู้ทำได้มามากมายแล้ว
    แต่ก็ยังคงต้องเวียนว่ายตายเกิด แม้แต่ผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพก็ได้เรียนสำเร็จ
    แล้วจากท่านที่เป็น พระมหาฤาษีทั้งสอง ท่านก็พบว่ายังไม่ใช่ทางพ้นทุกข์
    จึงออกมาแสวงหาทางพ้นทุกข์ต่อ โดยความรวมต้องได้ มรรค ผลนิพพาน
    ถึงจะเป็นหนทางแห่งการพ้นทุกข์ได้ครับ

    ถ้าอยากทำได้ แม้พอมีพื้นฐานทำได้ในระดับเริ่มต้น
    ก็ต้องกรรมกร สามล้อ พอสมควร เพื่อสร้างจิต
    เกิดความสามารถ ที่จะใช้การอฐิษฐานทับ
    เพื่อให้เกิดความสามารถต่างๆครับ
    ปล.เป็นเพียงการแสดงความเห็นหนึ่ง
    ของวิชาตามหลักนี้ซึ่ง
    สุดแล้วแต่จริตจะชอบหรือไม่ชอบเป็นเรื่องส่วนตัวครับ
    และสุดแล้วแต่ใครจะอ่าน
    เข้าใจได้นะครับ
    แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง... (^_^)
     

แชร์หน้านี้

Loading...