วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 17 กรกฎาคม 2006.

  1. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    สาธุการ อนุโมทนาบุญทุก ๆท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทุกประการ ขอส่งเสริมกำลังใจความเข็มแข็งนะคะ การนี้ ขอขอบคุณคุณธร คุณตุ๊กตา ที่กรุณาให้ข้อมูลมาก ๆ ค่ะ :)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    วันนี้ได้มีโอกาสฟังธรรมะของ หลวงพ่อสุจินต์ สุจิณฺโณ ท่านได้พูดถึง มรรคสมังคี ซึ่งเป็นศัพท์ที่ผมพึ่งได้ยิน ก็เลย search หาดูในเว็บวัดถ้ำเมืองนะว่าจะมีไหมนะ ก็ปรากฎว่ามาเจอกระทู้นี้เข้า หลวงปู่ตอบข้อสงสัยแจ่มแจ้งเลย ^^

    กับดัก (ตอนที่ ๑)

    นับเป็นเมตตาอย่างใหญ่หลวงที่หลวงปู่ดู่ได้สั่งสอนและชี้แนะให้ลูกศิษย์ของท่านได้ตระหนักถึงกับดักบนหนทางของการปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำว่า “คนดีน่ะ เขาไม่ตีใคร”“อย่าให้เลยพระพุทธเจ้า” ฯลฯ
    ใครจะคิดบ้างเล่าว่า แม้จะเข้ามาในหนทางแห่งการสร้างสมความดีงาม ก็ยังมีสิ่งที่เป็นกับดักรออยู่อย่างมากมาย และเป็นสิ่งที่แก้ได้ยากเสียด้วย ดังคำพูดของหลวงปู่มั่นที่ว่า “ติดดีน่ะ แก้ยากกว่าติดชั่ว” เพราะคนที่ถือว่าตนเป็นนักปฏิบัติ หรือเป็นครูเป็นอาจารย์ เป็นคนเข้าวัดเข้าวา เป็นคนถือศีลกินเจ เป็นคนปฏิบัติสมาธิภาวนา หากเผลอตัวให้กิเลสความหลงตัวหลงตนเข้าครอบงำจนสำคัญว่าตนวิเศษวิโสกว่าคนอื่น ทำตัวเป็นชาล้นถ้วยแล้ว นอกจากจะเป็นตัวปิดกั้นความดีไม่ให้งอกงาม ก็ยังทำจิตใจเสื่อมลงๆ เที่ยวกล่าวตีคนโน้นคนนี้ ยิ่งกว่าการกล่าวสอนเตือนตนเอง เข้าลักษณะที่บัณทิตทั้งหลายกล่าวไว้ว่า “คนรู้ธรรมชอบเอาชนะผู้อื่น แต่คนมีธรรมชอบเอาชนะตนเอง”
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2008
  3. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    กับดัก (ตอนที่ ๒)
    ที่เลยเถิดไปกว่านั้นก็เข้าทำนองเลยพระพุทธเจ้า คือเก่งกว่าพระพุทธเจ้า เป็นต้นว่าคิดค้นและประกาศสอนแนวทางการปฏิบัติธรรมของตนเองว่าเป็นทางลัดตรง
    <o></o>
    หากเราพิจารณาคำเตือนของหลวงปู่ดู่ที่ว่าอย่าให้เลยพระพุทธเจ้า ก็จะเป็นเครื่องเตือนใจว่าจงอย่าอวดดี อย่าบัญญัติสิ่งที่พระพุทธองค์มิได้บัญญัติ หากพิจารณาให้ดี ในสามโลกนี้จะหาใครที่มีความบริสุทธิ์ อีกทั้งเปี่ยมด้วยพระกรุณาและปัญญาเท่ากับพระพุทธองค์นั้นไม่มี ดังนั้น หากมีทางลัดกว่านี้ มีหรือที่พระพุทธองค์จะไม่ทรงบอกทรงสอน พระพุทธองค์ทรงสละชีวิตมานับภพนับชาติไม่ถ้วนก็เพื่อค้นหาหนทางหลุดพ้น คือ มรรคมีองค์ ๘ หรือ ศีล สมาธิ และปัญญา นี้มาประกาศสอนแก่สัตว์โลกทั้งหลาย แล้วผู้ที่ประกาศทางลัดเหล่านั้นเล่า จะมีปัญญาเหนือพระองค์เชียวหรือ
    <o></o>
    แม้หลวงปู่ดู่ก็ยังยืนยันหนักแน่นหลายครั้งว่าท่านมิได้บัญญัติคำสอนแปลกใหม่อันใด ไม่มีคำว่าแบบปฏิบัติของวัดสะแก (นั่นเป็นแค่ชื่อเรียกที่คนอื่นเรียกกันเอง) เพราะมีแต่แนวทางหรือแบบปฏิบัติของพระพุทธจ้าเท่านั้น อันได้แก่ มรรคมีองค์ ๘ หรือบางแห่งอาจนำมรรคข้อที่ว่าด้วยสัมมาสติ มามุ่งเน้นเป็นพิเศษดังที่เรียกว่าสติปัฏฐาน ๔ คือ การมีสติระลึกในกาย เวทนา จิต และธรรม แต่รากฐานหรือหลักการที่สำคัญที่ทิ้งไม่ได้ก็คือ มรรคสมังคี ได้แก่ความพร้อมบริบูรณ์แห่งศีล สมาธิ และปัญญา มิใช่จะเอาแต่ในแง่ศีล หรือสมาธิ หรือปัญญา เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วละเลยมรรคตัวอื่นๆ สมาธิที่ไม่อยู่บนฐานของศีล หรือไม่มีปัญญาเป็นที่หมาย หรือไม่มีภาวะแห่งความรู้ ตื่น เบิกบาน ก็ไม่อาจเรียกว่าสัมมาสมาธิได้ ปัญญาที่ขาดสมาธิก็เหมือนเอาใบมีดเล็กๆ ไปโค่นต้นไม้ใหญ่ ย่อมเสียแรงเปล่า หรือจะเอาแต่แก่นธรรมแล้วละเลยวินัยหรือศีลก็เหมือนแก่นไม้ที่ปราศจากเปลือกและกระพี้ ย่อมไม่อาจตั้งอยู่ได้นาน
    <o></o>
    ดังนั้น มรรคสมังคีของพระพุทธองค์จึงวางเอาไว้ดีแล้ว รัดกุมแล้ว ไม่มีหนทางลัดตรงไปกว่านี้แล้ว และข้าพเจ้าก็หมดสงสัยที่เคยคะยั้นคะยอถามหลวงปู่ว่า “แบบปฏิบัติของหลวงปู่เป็นอย่างไรครับ” เพราะมันจะไม่มีวันมีได้ การที่หลวงปู่บอกสอนคำบริกรรมไตรสรณาคมน์นั้น ก็เป็นเพียงเบื้องต้นแห่งการปฏิบัติก่อนจะลาดเอียงสู่ครรลองหรือแบบปฏิบัติของพระพุทธเจ้าต่อไปเท่านั้น
    <o></o>
    การติดดี และการปฏิบัติจนเลยครูอาจารย์ เลยพระพุทธเจ้า เหล่านี้ เป็นแค่ตัวอย่างเพียงเล็กน้อยเพื่อให้ได้ศึกษา เพราะกับดักต่างๆ ยังมีอีกมายมาย เช่น หลงยึดเป็นเจ้าข้าวเจ้าของครูบาอาจารย์หรือวัดวาอาราม หรือศิษย์ก้นกุฏิ หลงติดแนวทางที่ตนถนัดว่าเป็นหนทางสายเอกหรือสายเดียว หลงยึดติดว่าตนเป็นผู้ไม่ยึดติด ฯลฯ
    <o></o>
    คุณธรรมที่สำคัญที่ช่วยให้เราผ่านพ้นกับดักไปได้ ก็คือปฏิปทาที่ว่า ปฏิบัติเพื่อละ ไม่ใช่ปฏิบัติเพื่อเอา หรือเพื่อได้ เพื่อเป็นอะไรทั้งนั้น รวมทั้งควรเป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตนอยู่เนืองนิตย์ ประกอบกับยึดถือธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลัก หากคำสอนใดแม้เป็นของครูอาจารย์ที่นับถือขัดกับคำสอนของพระพุทธองค์ ก็ต้องยึดคำสอนของพระพุทธองค์เป็นหลัก หมั่นเข้าหากัลยณมิตรผู้มีปรกติมีปฏิปทาในทางห่างโลภ โกรธ หลง และสุดท้ายไม่ลืมคำสอนคำเตือนของหลวงปู่ที่ว่า “อย่าให้เลยพระพุทธเจ้า”

    http://www.watthummuangna.com/board/showthread.php?t=6348
     
  4. ลิงเมืองละโว้

    ลิงเมืองละโว้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    709
    ค่าพลัง:
    +1,521
    สาธุอนุโมทนาครับ

    เมื่อวานได้รับ หนังสือเพชรประกายพรึก
    ก็อ่านจนดึก คำสอนของ อ.คณานันท์ อ่านเข้าใจง่ายดีครับ
    เมื่อคืนเลยมีเหตุการณ์เล่าให้ฟัง
    ผมก็อ่านไปเรื่อย นั่งจับ พุท-โธ ไปด้วย นึกถึงพระไปด้วย ขณะอ่าน พุท-โธ ขาดไปตอนไหนไม่รู้
    แล้วพอถึงเนื้อหาเกี่ยวกับ การหลงในภพภูมิ ผมอ่านไปครั้งแรก ในหนังสือวิชาเล่มเล็ก
    ก็ไม่มีอะไร แต่เมื่อคืนนี้ซิครับ ผมอยู่ๆน้ำตาไหล เริ่มร้องไห้เอง ผมคุมตัวเองไม่ได้
    แล้วคำที่วิ่งอยู่ในหัว เป็นประโยค ประมาณว่า กูโง่หลงในวัฏสงสารนับพันนับหมื่นชาติ
    นิพพานมีทำไมไม่ไป ประมาณนี้ กว่าจะคุมตัวเองได้ พยามตั้งสติเลยค่อยหยุดไปเอง

    แต่ผมพึ่งยกไหว้ครูเมื่อคืนครับ ก่อนหน้าไม่มีโอกาส เมื่อคืนรู้สึก ฤกษ์ดีเลยจัดแจกหา
    อุปกรณ์

    อนุโมทนากับทุกท่านที่ปฏิบัติธรรมครับ ขอให้ถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันเทอญ
     
  5. ๑กุหว่าใจ๋๑

    ๑กุหว่าใจ๋๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2006
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +2,730
    กราบอนุโมทนากับธรรมดีๆครับ ตอนนี้กำลังพยายามตักเอาน้ำคร่ำออกจากใจ เอ้า..ฮุ่ยย่า.ฮุ่ยย่า ^^"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2008
  6. nsa2969

    nsa2969 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +4
    การดำรงค์อยู่ของเรา โดยผมเอง

    ก็อปของผมเองจากกระทู้รวบรวมข้อมูลเตรียมรับมือกับภัยพิบัติครับ
    ขอพูดนิดนึงนะครับ

    การทำเราจะสร้างที่หลบภัยได้นั้น ต้องวางแผนไว้ครับ และจัดการเรื่องที่ทางให้เรียบร้อย เรามาดูวิธีตามความคิดของผมกันนะครับ

    1.จัดหาผู้คนที่ต้องการหลบภัยให้ครับ ห้ามเพิ่มทีหลัง ถ้าเราเพิ่มคนให้ทีหลังนั้นหมายความว่าความวุ่นวายก็จะเกิดขึ้น เพราะขณะที่เกิดภัยพิบัติผู้คนก็ต้องการที่อยู่และอาหาร เมื่อมีใครคนหนึ่งมีที่อยู่แต่อีกกลุ่มใหญ่ๆไม่มีที่อยู่ก็ต้องเกิดกว่ารุกราน ดังนั้นตรงนี้สำคัญมากๆควรคิดดีๆนะครับ

    2.เมื่อได้จำนวนคนคงที่แล้วก็จัดหาที่สำหรับหลบภัย อาจจะเป็นบ้านดินอย่างท่านหัวหน้ากลุ่มภัยพิบัติ หรือว่าประกอบเองและทดสอบเอง เราต้องทำกันตั้งแต่แรกๆ เพราะถ้าเกิดภัยแล้วมีเวลาเตรียมแค่ 3 เดือน คงไม่ทันหรอกครับ ถึงตอนนั้นเงินหายาก วัสดุก็ไม่มีเนื่องจากไปใช้ในสงครามหมด ดังนั้นต้องเตรียมการไว้ สร้างให้ใหญ่พอสำหรับครอบครัวเรา มีที่สำหรับห้องต่างๆ อาจจะใช้งบประมาณเยอะแต่ก็ลองค่อยๆเก็บ ค่อยๆสรางสิครับ

    3.เมื่อเรามีที่สำหรับอาศัยแล้ว อีกอย่างก็คืออาหาร การตุ่มอาหารนั้นเป็นเรื่องยากมากๆครับ ที่แนะนำคือมาม่าครับตุ่มไว้เยอะๆ และก็น้ำดื่มครับ ควรหาแท้งน้ำใหญ่ๆสักอันแล้วก็ต่อกับปั้มสูบน้ำใต้ดิน ให้สวิตในการเปิดปั้มอยู่ในบ้านเลยครับ สำหรับการเก็บอาหารนั้นจำเป็นต้องให้ความเย็นก็หาตู้เย็นสัก 1.6 คิว หรือสัก 5 คิวก็ได้ครับ เรื่องไฟฟ้านั้นจะอธิบายทีหลังครับ ถ้าเราอยากถนอมอาหารอาจจะตากแห้งหรืออบก็ได้ โดยใช้ไฟครับ แล้วน้ำก็ควรใช้ด่างทับทิบล่างครับหรือทำเครื่องกรองน้ำแบบใช้เองก็ได้ครับ ดังนั้นเรื่องอาหารควรจะสะอาดและไม่มีสิ่งเจือปน เพราะอาจทำให้มีใครคนหนึ่งเจ็บป่วยแล้วแพร่เชื้อโรคได้

    4.สุขอนามัยครับ เรื่องสำคัญเลยเราควรทำที่ขับถ่ายให้ไหลลงสู้บ่อหมักก็ได้ครับ เรื่องบ่อหมักผมจะพูดทีหลังนะครับ ไม่ควรให้สกปรก เรื่องการกำจัดขยะนั้นก็ต้องทำให้สม่ำเสมอเพื่อจะได้ไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคนะครับ โดยทำทางทิ้งขยะออกไปนอกบ้านก็ได้นะครับ เรื่องภาชนะต่างๆก็เช่นกัน ควรล้างทุกครั้งหลังที่ใช้เสร็จ ไม่ปล่อยให้เป็นแหล่งของเชื้อโรค หรือยุง เอ๊ะ ยุงจะมีหรือตอนนั้น ไม่รู้ละครับพูดไปก่อน ^-^ ถ้ามีแอลกอฮอล์ด้วยก็ดีครับ เอาไว้เช็ดช้อนส้อมก่อนรับประทานอาหาร ดังนั้นควรทำให้ทุกอย่างสะอาดครับ เพื่อป้องกันโรคที่อาจทำให้เสียชีวิต

    5.เครื่องนุ่งห่มและยารักษาโรค ผมเชื่อครับว่าทุกคนต้องมียาสามัญประจำบ้าน ใครไม่มียกมือขึ้น ไม่ต้องยกละครับไปซื้อเลยครับ บอกร้านขายยาว่าซื้อยาสามัญประจำบ้านครับ แล้วก็ซื้อคาลาไมน์มาด้วยก็ดีนะครับ เอาไว้ใส่ตุ่มคันครับ อีกอย่างก็คือเครื่องนุ่งห่มควรจะสะอาดนะครับ ไม่ใช่ใส่ 7 วันเปลี่ยนที
    เรามีน้ำแล้วสามารถซักได้ก็ซักเลยครับ ตอนกลางคืนอากาศอาจจะหนาวมากให้หาผ้าห่มไว้หลายๆผืนนะครับ หรือจะนอนกอดกันก็ได้ เพราะความอบอุ่นของร่างกายคนเราจะอยู่ในผ้าห่มครับ ไปออกไปในทำให้อุ่นตลอด ดังนั้นควรเตรียมเครื่องนุ่งห่มให้พอกับคนที่ต้องการ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นตลอด และเมื่อไม่สบายควรกินยาและพักผ่อน ถ้ามีความรู้ทางด้านการดูแลผู้ป่วยยิ่งดีครับ

    6.ช้อปปิ้ง !!! การตุ่มอาหารหรือหาซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค ควรหาสิ่งจำเป็นไว้มากๆไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม ขนม หรืออาหารแห้งเช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรู้ ผงซักฟอก ทุกๆอย่างที่จำเป็น อีกอย่างคือ เมล็ดพืชหลายๆพันธุ์ อย่างผักชี ผักบุ้งครับ ใครหลายๆคนในนี้อาจบอกว่า จะเอาเมล็ดพืชไปทำไม บอกได้เลยครับเมื่อวันที่ฟ้าส่าง จะไม่มีต้นไม้ใดๆเลย ดังนั้นเราจำเป็นต้องหาไว้เพื่อนำมาปลูก เรือด้วยครับ แท้งน้ำ หน้ากากกันสารเคมี ฯลฯ ดังนั้นก่อนที่จะไปซื้อของเรียมไว้ควรจดไปให้ครบและซื้อทุกอย่างให้เร็วที่สุด

    7.ลงมือปฎิบัติ ผมจะอธิบายทุกๆอย่างที่ติดค้างไว้เมื่อกี้นะครับ

    -ติดตั้งแท้งน้ำ คือต้องทำแท้งน้ำไว้ให้ใกล้ตัวบ้านที่สุดเพราะถ้าไกลต้องเสียเงินต่อท่อเข้ามา แล้วอีกอย่างจะเกิดแผ่นดินไหว ท่อเราอาจแตกได้ ไม่แนะนำให้ต่อท่อใต้ดิน แล้วควรสร้างบ้านให้แท้งด้วย หลายคนอาจบอกว่างั้นก็เปลืองดิ ไม่ต้องทำแบบดีสุดๆก็ได้ครับ เพียงแต่ทำเพื่อป้องกันแท้งน้ำไม่ให้มันแตกหรือรั่ว เพราะเชื้อโรคและสารพิษอาจเข้าไป แล้ววิธีการดูดน้ำใต้ดินเอาครับ ให้เจาะลงไปสัก 10-20 เมตรเลยก็ได้ครับ แล้วให้ปั้มดูดขึ้นมา ตัวปั้มเป็นอันโนมัติยิ่งดีครับ เหมือนบ้านผมใช้ เพราะเมื่อเราเปิดก๊อก น้ำก็จะไหลทันทีแบบน้ำประปาครับ แต่ปัญหาคือต้องใช้ไฟครับ

    - ปั่นไฟใช้เอง ให้ใช้วิธีเอารถจักรยานมาปั่นนะครับแบบนั้นเลยเพียงแต่ท่านต้องทำไดนาโมเอง สำหรับผู้รู้หรือเป็นช่างก็จะทำได้ แต่ถ้าไม่รู้ก็ศึกษาไว้ครับไปที่ลิ้งนี้เลยครับhttp://online.benchama.ac.th/science/learning/sci/pra_website2/pan2.htm
    ควรใช้แบบกระแสสลับนะครับ เพราะปั้มและตู้เย็นใช้ไฟกระแสสลับ เราอาจจะปั่นเก็บไว้ในแบตเตรี่ก็ได้ครับ ควรหาแบตไว้สัก 4-5 ลูกครับ ปั่นไฟเข้าแบต พอยามจำเป็นค่อยนำมาใช้ก็ได้ครับ อีกทางเลือกคือพลังงานลมครับ ติดตั้งกังหันไว้นอกบ้านครับ ไม่ต้องเอาใหญ่มากก็ได้เพราะอาวุธนิวเครียทำให้ลมแรง อาจล้มใส่ตัวบ้านพังหมดครับ ปั่นเก็บไว้อย่างที่บอกละครับ

    - บ่อหมัก เอาไว้ใส่มูลสัตว์ เศษอาหาร เศษผัก ลงไปหมักครับ เมื่อหมักเราก็จะได้แก๊สมีเทนนำมาหุ่งต้มอาหารได้ บ่อหมักมีหลายแบบนะครับ แต่ที่แนะนำคือยอดโดมครับ การทำบ่อหมักไม่เพียงแต่ได้แก๊สครับ ยังได้ปุ๋ยอีกด้วย ข้อมูลเกี่ยวกับบ่อหมักดูที่นี้ http://www.geocities.com/originalbiogas/subindex.html และ http://www.dede.go.th/dede/index.php?id=174 ลองอ่านดูนะครับ กากของก๊าซชีวภาพสามารถนำมาเป็นอาหารหมู ไก่ ได้ครับ และก๊าซสามารถนำมาผลิตไฟฟ้าเองได้ด้วย

    - ปลูกผัก เมื่อฟ้าส่างก็มีฝน เราก็ลงมือปลูกผักได้เลยนะครับ รีบๆปลุกเลยเพราะตอนนั้นเราจะหิวมากๆ ดุแลรดน้ำ พรวนดิน ให้แพร่พันธุ์เลยนะครับ แล้วสัตว์ละ !! หลายๆคนอาจถาม ถ้าท่านอยากกินก็ต้องลงทุนเลี้ยงไว้ในบ้าน หรือแยกห้องออกไปเฉพาะ เพราะตอนนั้นเลี้ยงข้างนอกไม่ได้ครับมีสารพิษ และควรให้สะอาดครับ

    ก็จบแค่นี้ละครับ ขอให้ท่านๆลอดจากภัยพิบัติและมีแต่ความสุขนะครับ
    เอาไว้โอกาศหน้าจะหาบทความดีๆมาอีกครับ
     
  7. Forever In LoVE

    Forever In LoVE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,349
    ค่าพลัง:
    +3,864
    [​IMG]

    ขอกราบอนุโมทนาบุญกับทุกๆความดีงามค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN7519.jpg
      DSCN7519.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.3 KB
      เปิดดู:
      281
  8. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    อันนี้เป็นตัวอย่างของที่มีคนมาสนทนาธรรมกับผมทางmsnนะครับ
    ขออนุญาติเอามาลงเพื่อเป็นธรรมทานครับ
    อันนี้อีเมลผมนะครับเผื่อใครอยากจะสนทนาแบบสบายๆด้วยกัน saturndg@hotmail.com

    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:คือว่าการรวมจจิตให้เป็นหนึ่งเดียวกับธาตุรู้นั้น
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:ทำอย่างไรครับ
    Chut says:ก็ต้องเข้าฌาณให้ลึกที่สุดครับ
    Chut says:เพราะพอจิตนิ่ง ที่สุด
    Chut says:จิตก็จะมีพลังที่สุด
    Chut says: สามารถน้อมไปรู้เรื่องต่างๆได้
    Chut says:ขอถามก่อนฝึกสมาธิเราตั้งเป้าของการปฏิบัติเอาไว้
    Chut says:ที่จุดไหนครับ
    Chut says:คือปรารถนาอะไรจากการปฏิบัติ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:ในด้านการเรียน ต่อ นะ ครับ
    Chut says:งั้นผมจะขอลองเล่าวิธีที่ผมใช้ก็แล้วกันนะครับ
    Chut says:ผมตั้งกำลัใจประมาณว่าผมจะนำเวลาที่ใช้ในการศึกษาเนี่ย
    Chut says:ไปใช้ในการทำงานเพื่อศาสนา เพื่อสาธารณประโยชน์
    Chut says:และจะนำความรู้ที่ได้รับ มาทำประโยชน์ต้อสาธารณชน
    Chut says:ดังนั้นขอให้คุณพระศรีรัตนตรัย พรหม เทพเทวดา พระโพธิสัตว์สัมมาทิฏฐิ
    Chut says:ได้โปรดเมตตาสงเคราะห์ให้ผมสามารถศึกษาและเรียนจบได้อย่างดีด้วยเทอญ
    Chut says:เหมือนว่า
    Chut says:เราคิดจะเอาความรุมาช่วยคน
    Chut says:แล้วขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือ
    Chut says:บางครั้งมันจะรู้คำตอบเอง หรือเรียนเข้าใจง่ายกว่าปกติ
    Chut says:ถ้าสูงขึ้นมาหลังจากฝึกสมาธิมาแล้วซักพัก
    Chut says:มันก็จะใช้ได้ละเอียดขึ้นครับ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:แล้ว ในทางด้าน การคิด คำนวณ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:อะไรประมาณนี้ ละ ครับ
    Chut says:ก็ได้ครับ ก็ใช้วิธีขอบารมีพระ แล้วให้ท่านเมตตาสงเคราะห์
    Chut says:ก็จะคิดได้ดีขึ้น หรือบางครั้งรู้คำตอบ
    Chut says:โดยยังไม่ต้องผ่านการใช้ตรรกะ
    Chut says:แต่ว่า
    Chut says:อาจจะต้องมีชั่วโมงบินนานนิดนึง
    Chut says:แต่ผมรับรองว่ามีคนทำแบบนี้ และทำได้จริงครับ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:โดยการข้อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:หรอ ครับ
    Chut says:ก็คือ เราตั้งกำลังใจว่าเราจะเอาความรุมาช่วยคน
    Chut says:ดังนั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าท่านช่วยเรา
    Chut says:แล้วเราไปช่วยคนต่อ ท่านก็ได้บูญ
    Chut says:ดังนั้นท่านก็จะช่วยครับ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:อ่อ
    Chut says:แต่ถ้าเราไม่ทำตามที่บอก
    Chut says:คือไม่เอาความรุมาช่วยคนจริง
    Chut says:เอามาทำประโยชน์ให้กับตัวเองคนเดียว
    Chut says:แบบนี้ ไม่สำเร็จครับ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:อ่อ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:นี้คือการตั้งกำลังใจ ใช่ไหม ครับ
    Chut says:ใช่ครับ
    Chut says:เรียกว่าการตั้งกำลังใจ
    Chut says:แล้วคุณพี่เรียนมาทางสาขาอะไรครับ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:วิทยาศาสตร์
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:สิ่งแวดล้อม ครับ
    Chut says:ก็ได้ครับ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:เป็นแขนงหนึ่งของ ชีวะ วิทยา
    Chut says:เราก็เอาความรู้มาสร้างสิ่งแวดล้อมสร้างโลกให้มีความอุดมสมบูรณ์
    Chut says:ช่วยเหลือระบบนิเวศ
    Chut says:ได้อยู่แล้วครับ
    Chut says:มโนมยิทธินี่แปลว่ามีฤทธิ์ทางใจ
    Chut says:สามารถรู้ได้ เห็นได้ด้วยใจ
    Chut says:อันดับแรกเขาจะให้เห็นนิพพานก่อน
    Chut says:พอเห็นนิพพานแล้วของต่ำกว่าพระนิพพานก็จะเห็นหมด
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:แต่ผมไม่มี
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:พื้นฐานมโนยิทธิ มาก่อน ครับ
    Chut says:ผมก็ไม่มีหรอกครับ
    Chut says:ไอตอนที่ผมฝึกครั้งแรก
    Chut says:ก็เห็นเขาลงในเว็บ
    Chut says:ก็เลยหาแผนที่แล้วไป
    Chut says:พอไปก็เขาว่าไงผมก็ว่าตาม
    Chut says:อยู่ดีๆมันก็ทำได้ถึงรู้ว่าไม่ยาก
    Chut says:ร้อยละ90ได้หมดครับ ครั้งแรกนะ
    Chut says:แต่ยังไม่เจอใคร 2-3ครั้งไม่ได้
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:แล้วถ้า จะไปทาง
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:สมถะ นี้
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:จะเหมือนกันไม ครับ
    Chut says:จริงๆ แล้วสมถะต้องคุ
    Chut says:วิปัสสนาครับ
    Chut says:ต้องคู่กัน
    Chut says:สมถะก็คือทำให้จิตสงบ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:ครับ
    Chut says:พอจิตสงบแล้วก็เอามาเจริญวิปัสสนาต่อ
    Chut says:ทีนี้
    Chut says:ความชัดเจนของการเห็น
    Chut says:จะขึ้นอยู่กับกำลังของสมถะ คือความนิ่งของจิต
    Chut says:บวกกับวิปัสสนา คือยิ่งจิตมีกิเลสน้อยเท่าไหร่ ยิ่งชัด
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:ครับ
    Chut says:มันต้องเนื่องกัน
    Chut says:มโนมยิทธิ ก้คือทั้งสมถะบวกวิปัสสนา
    Chut says:สมถะตัวเดียวก็ไม่ได้ วิปัสสนาตัวเดียวก็ไม่ได้
    Chut says:ต้องคู่กัน
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:อ่อ เริ่งเข้าใจแล้วครับ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:แล้วพอ จิตมันนิ่งอย่างว่าแล้ว
    Chut says:ครับ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:จะรู้ได้ไง ครับว่า
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:เราจะขึ้นวิปัสนาได้อย่างร
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:ไร
    Chut says:วิปัสสนาก็คือการพิจารณาว่า
    Chut says:การเกิด เป็นทุกข์ การเแก่ เป็นทุกข์ การเเจ็บ เป็นทุกข์ การตาย เป็นทุกข์
    Chut says:ในเมื่อมันทุกข์ เราก็ไม่อยากเกิดแล้ว ไปพระนิพพานดีกว่า
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:ต้องพิจารณา
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:ใช่ไมครับ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:วิปัสนา เนี่ย
    Chut says:ใช่ครับ
    Chut says:ต้องพิจารณา
    Chut says:คือพิจารณาให้จิตของเราไม่ติดในร่างกาย ไม่อยากจะเกิด
    Chut says:ต้องการพระนิพพานจุดเดียว
    Chut says:ทีนี้
    Chut says:หลักการของสมถะ
    Chut says:คือทำให้จิตสงบ
    Chut says:หลักการของวิปัสสนา คือ ทำให้จิตละจากกิเลส
    Chut says:หลักการของมโนมยิทธิคือ
    Chut says:ทำให้จิตสงบระดับหนึ่ง ไม่มากนัก
    Chut says:จากนั้นพิจารณาให้จิตสะอาด
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:อ่อ
    Chut says:พอจิตสงบบวกสะอาด จิตก็จะรู้เรื่องต่างๆได้ดี
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:อ่อ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:เข้า ใจ มากๆๆ แล้วครับ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:แล้วการพิจารณา กับ การ คิดนี้ อันเดียวกันไม ครับ
    Chut says:คิดนี่
    Chut says:มันจะเหมือนเราคิดเลข
    Chut says:มันจะปวดหัว
    Chut says:เครียด
    Chut says:แต่พิจารณา
    Chut says:คือเข้าสมาธิก่อน จนจิตนิ่ง แล้วพิจารณาด้วยกำลังของฌาณสมาธิ
    Chut says:มันจะไม่ปวดหัว
    Chut says:มันจะไหลลื่น
    Chut says:คล้ายกับเวลาเราปิ๊ง ไอเดียอะไรดีๆ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:อ่อ
    Chut says:เวลาที่มันปิ๊งน่ะครับ มันจะไม่ต้องคิด
    Chut says:มันผุดรู้ขึ้นมาเอง
    Chut says:แบบนั้นแหละครับอารมณ์ประมาณรู้หรือพิจารณาด้วยสมาธิ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:อ่อ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:ถ้าผมจะพูด ว่า คิดในฌาณ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:จะถูกไมครับ
    Chut says:ถูกครับ
    Chut says:ใช่เลย
    Chut says:ผมขออนุญาติเอาที่เราคุยกันไปลงได้ไหมครับ เฉพาะตอนที่สำคัญ
    Chut says:เพื่อจะได้เป็นธรรมทานได้บุญอีกต่อ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:ครับๆๆ
    •:*´¨`*:•.(¯`°.•°•.* intuition * .•°•.°´&macr;)•:*´¨`*:•. says:อนุโมทนาครับ

    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  9. ๑กุหว่าใจ๋๑

    ๑กุหว่าใจ๋๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2006
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +2,730
    ผมขอเสริมในส่วนของน้องชัชนิดนึงนะครับ หากใครที่ยังไม่สามารถนำวิชามโนมยิทธิมาใช้จนเกิดผลได้ ก็อย่าพึ่งละความเพียร อย่าพึ่งละทิ้งคุณความดีของพระรัตนตรัยเสียก่อนนะครับ ขอให้หมั่นฝึกฝนตนเองไปเรื่อยๆ ตามแนวทางที่ครูบาอาจารย์อันมีพระพุทธเจ้าเป็นประธานได้สั่งสอนเอาไว้ ผมเองก็คงเป็นคนหนึ่ง ในร้อยละ10 ที่ยังไม่สามารถนำวิชามโนมยิทธิมาใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุมาจากกรรม บารมี หรือไม่ถึงวาระของผมก็ตาม แต่ยังไงผมก็จะพยายามฝึกฝนอบรมตนเองต่อไปครับ


    ทางสายเดียวกัน คนหนึ่งไปโดยอาศัยยาน คนหนึ่งไปโดยอาศัยขาเดิน คนอาศัยขาเดินหากไม่ทิ้งความเพียรเสียก่อนย่อมไปถึงที่หมาย ปรารภความเพียรต่อไปเถิด ก็ความเพียรนั้นพระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ...
     
  10. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    เป็นบันทึกเปรียบเทียบที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนมานานแล้ว หวังว่าคงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย

    15/09/50
    ทิพยโสต = MP3 ทิพยจักขุ = VDO ไม่มีเสียง
    มโนยิทธิ = MP4
    เวลาจะฝึกความเป็น ทิพย์ให้อะไร ให้ยกนิมิตร กสินแสงสว่างก็ได้ หรือ นิมิตรพระท่านก็ได้
    จับกสิน แสงสว่าง ชน พุทธนิมิตร
    จินตนาการ ตามี นิมิตรพระ และมีแสง อยู่

    เพิ่มเติม

    พระท่านสอนว่า ทำสมมุติ ให้เป็นวิมุติ แล้ววางวิมุติ

    _/\_
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2008
  11. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    กราบโมทนากับธรรมทานของทุกท่านที่มาแบ่งปันกันด้วยค่ะ
     
  12. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    90 เปอเซ็นต์นี่หมายถึงเอาแค่เห็นพระนิพพานครับ
    ร้อยละ90เห็นพระนิพพาน
    อันนี้หมายถึงที่ไปฝึกที่ซอยสายลมนะครับ
    ส่วนเรื่องญาณ8อันนี้แล้วแต่บุคคลครับ วาระไม่เสมอกัน
     
  13. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    อันที่จริงพวกเราหลายๆท่านที่เข้ามาศึกษาปฏิบัติธรรมกันนั้น ต่างก็สนใจในอภิญญากันค่อนข้้างมาก


    ทุกคนอยากได้อภิญญาใหญ่กันทั้งนั้น


    แต่หากทบทวนดูกันให้ดีๆในเรื่องในส่วนของอภิญญานั้น อภิญญาที่พระพุทธตรัสสรรเสริญมากที่สุด

    ก็คือ อภิญญา ที่ใช้กำลังใจตัดกิเลสให้เป็นสมุทเฉทประหาร จะเพื่อเข้าสู่โลกุตรภูมิมี พระโสดาบันเป็นต้นและพระอรหันต์ผลเป็นที่สุด


    และปาฏิหาริย์ที่บังเกิดขึ้น จากอภิญญาที่พระพุทธเจ้าท่านทรงตรัสสรรเสริญก็คือ


    "อาเทศนาปาฏิหาริย์ " การเทศนา การสอนธรรมที่ ทำให้ปรากฏผล จากการปฏิบัติ พลิกฟื้นจิตผู้ฟังธรรมให้ตื่นขึ้นจากการหลับไหลจากอวิชชาทั้งปวง

    เมื่อผู้ฟังธรรมประพฤติธรรมได้ตื่นขึ้นจากภายในดวงจิตของเขาเอง อนุสัย และกิเลส ที่นอนเนื่องอยู่ในขันธสันดาน ก็จะถูกชำระสะสางให้สะอาดขึ้นไปตามลำดับ

    จนจิตจนจิตยกระดับสู่ระดับภูมิธรรมที่สูงขึ้น ก้าวหน้าเจริญในธรรมอย่างน่าอัศจรรย์ใจ

    ปาฏิหาริย์ที่บังเกิดขึ้นได้ทุกๆวัน และสัมผัสได้กับทุกๆดวงจิต

    เมื่อจิตอันประภัสสร ได้ทะยอยผุดตื่นขึ้นมากขึ้นเท่าไร ก็จะเกิดปาฏิหาริย์ในการเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดีงามขึ้นตามไปด้วย


    เมตตาธรรมและสันติสุขก่อเกิดขึ้นบนโลก ความเร่าร้อนการทำลายธรรมชาติลดลง ความร่มเย็นอุดมสมบูรณ์ก็กลับมา

    เมื่อนั้นปาฏิหาริย์ อันน่าอัศจรรย์จากจิตดวงเล็กๆดวงเดียวก็ปรากฏขึ้น เป็นแสงธรรมที่ส่องสว่างกลางดวงใจของ คนทั้งโลก ให้กลายเป็นสรวงสวรรค์บนพื้นพิภพอีกครั้งหนึ่ง
     
  14. ๑กุหว่าใจ๋๑

    ๑กุหว่าใจ๋๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2006
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +2,730
    วันนี้คุยกับน้องชัชทางmsn ผมได้ข้อสรุปว่า ไม่ว่าจะได้มโนมยิทธิหรือไม่ ไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการวางกำลังใจในการฝึกฝนตนเอง ตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน เพื่อมรรคผลและนิพพานเป็นที่สุด ไม่ว่าจะมีอัธยาศัยแบบสาวกบารมีภูมิ หรือพุทธภูมิก็เช่นกันครับ

    สำหรับท่านที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด เพื่อทำกิจที่อธิษฐานไว้ อาจเข้าใจผิดว่า ไม่จำเป็นต้องระลึกถึงพระนิพพาน เพราะยังไม่ถึงเวลา ตัวนี้เป็นเครื่องกั้นความดีอย่างยิ่งตัวหนึ่งเลยที่เดียว เพราะทำให้จิตของเราไม่ยอมปล่อยวางถึงที่สุดครับ อันนี้เคยเกิดขึ้นกับตัวผมเอง ตอนนี้ทราบแล้วว่าไม่ใช่สิ่งที่ดี

    ที่ผมกล่าวมานี้ ไม่ได้หมายความว่าวิชามโนมยิทธิไม่ดีนะครับ ผมทราบว่าวิชานี้มีคุณมากหากใช้ในทางที่ถูกที่ควรและเป็นวิชาที่มีอยู่จริงใช้ได้จริงๆ แต่ผมมาโพสเพื่อให้บางท่านที่ยังทำวิชามโนให้แจ้งไม่ได้ ไม่ให้เกิดความย่อท้อหรือปรามาส ซึ่งจะเป็นโทษอย่างมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2008
  15. ๑กุหว่าใจ๋๑

    ๑กุหว่าใจ๋๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2006
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +2,730
    การรักษาอารมณ์ให้ได้อารมณ์สบายนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยากสำหรับหลายท่าน ที่อาจต้องเจอสิ่งต่างๆรอบข้างมากระทบกระทั่ง บางครั้งก็หนักหนา ทำให้ไม่สามารถประคับประคองอารมณ์ใจสบาย ลมหายใจสบายเอาไว้ได้ เนื่องเพราะใจเรายังฝึกให้ละวางไม่ได้แบบพระอริยะชั้นสูง ความตั้งมั่นของอารมณ์ของเรา จะมีอาการกระเพื่อมไปตามสิ่งต่างๆที่มากระทบ

    สมัยก่อนจิตของผมมีอาการทุกข์มาก เศร้า หดหู่ น้อยใจ เวลาที่ต้องเจอกับสภาวะที่ทนได้ยากมากระทบ จนได้อ่านเจอพระสูตรนึง ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสอุปมาให้ทราบถึงสภาวะทุกข์ที่เกิดขึ้นกับผู้ที่เกิดในนรก

    พระองค์ทรงยกอุปมาบุรุษผู้หนึ่ง ว่ามีหอกแหลมทิ่มแทงเข้าไปในร่างกายถึงสามเล่ม แล้วยังไม่ถึงแก่ความตาย ต้องอยู่จนกว่าจะหมดอายุขัย ทรงถามพระสาวกว่า บุรุษผู้นี้จะได้รับความทรมานมากหรือไม่ พระสาวกก็ตอบว่า แค่เพียงหอกเล่มเดียวทิ่มแทงเข้าไปในกาย ก็จะทำให้ได้รับความทรมานมากมายแล้ว คงไม่ต้องพูดถึงหอกตั้งสามเล่ม

    จากนั้นพระองค์ก็ทรงหยิบเอาก้อนหินขนาดเท่าฝ่ามือกำได้ขึ้นมา แล้วตรัสถามพระสาวกว่า เธอทั้งหลายอาจเปรียบก้อนหินนี้กับภูเขาใหญ่ได้หรือไม่ พระสาวกตอบว่าไม่อาจเปรียบได้เลย พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า ความทรมานของชายผู้ที่โดนหอกแทงเข้าไปในกายถึงสามเล่ม แล้วยังไม่ถึงแก่ความตาย ต้องอยู่จนครบอายุขัย เปรียบไม่ได้เลยกับความทุกข์ทรมานของผู้ที่ต้องเกิดอยู่ในนรกภูมิ...(พระสูตรนี้ผมใช้ความทรงจำมา หากผิดพลาดประการใดขอรับไว้แต่ผู้เดียว)

    หลังจากได้อ่านจบจึงเกิดกำลังใจขึ้นมาว่า ความทุกข์ของเรามันเป็นเรื่องเล็กน้อยนัก เรายังเป็นมนุษย์ ยังมีโอกาสในการสร้างความดี ยังมีโอกาสในการฝึกตนเองเพื่อมรรคผลนิพพาน แต่นี้สืบไปเราจะคบหาแต่กัลยาณมิตร จะพยายามปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าและครูบาอาจารย์สัมมาทิฐิทั้งหลาย จนกว่าจะสิ้นภพชาติเสร็จสิ้นกิจไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป

    หวังว่าสิ่งที่ผมเขียนนี้ จะทำให้หลายท่านที่ต้องเจอความยากลำบากในชีวิต เกิดมีกำลังใจตั้งมั่นในความดีขึ้นมาบ้างนะครับ ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่าน ได้เข้าถึงซึ่งความดีที่พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ทรงสั่งสอนได้โดยง่ายในเร็ววันครับ...
     
  16. Forever In LoVE

    Forever In LoVE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,349
    ค่าพลัง:
    +3,864

    [​IMG]

    โมทนาบุญกับทุกๆข้อธรรมะด้วยค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ความคืบหน้าในการปฏิบัติของน้องท่านหนึ่งครับ


    รายงานความคืบหน้าการฝึกครับ
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- / icon and title --> <!-- message --> <!-- ads code --> <table id="table1" bgcolor="#dfffbf" border="1" bordercolor="#b8ff71" cellpadding="7" cellspacing="0" width="250"> <tbody><tr> <td>จากเว็บมาสเตอร์

    สวัสดีครับ สมาชิกทุกๆคน

    ตอนนี้
    Server เริ่มอืดต่อไป
    คาดว่า จะอืดกว่านี้
    ขอเชิญสมาชิกร่วมใจสามัคคีคนละนิดละหน่อย ช่วยกัน ซื้อ Server ตัวใหม่เพื่อให้เว็บโหลดได้เร็วและไม่ติดขัดก็เพื่อพวกเราเองและสมาชิกที่จะเข้ามาใหม่

    Server คือ เครื่องที่เก็บข้อมูลเว็บในไซต์เป็นที่เก็บข้อมูลทางพุทธมากมายมหาศาล เป็นสุดยอดธรรมทานเผยแผ่พุทธศาสนา

    เป็นสิ่งสำคัญที่เว็บขาดไม่ได้
    สมมุติว่า
    ถ้าเราเอามือกดปุ่มปิด Server เว็บพลังจิตก็จะไม่มีใครเข้าได้เลย กิจกรรมทุกอย่างบนเว็บก็จะไปไม่เกิดขึ้น

    ใครที่สนใจร่วมซื้อ Server
    เผยแผ่พุทธศาสนาและร่วมสนับสุนเว็บพลังจิต

    เชิญกดนี้เลยครับ


    WebSnow
    เว็บมาสเตอร์,
    ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต</td> </tr> </tbody></table>
    เรียน พี่เล็ก

    ช่วงนี้ผมซักซ้อมอย่างสม่ำเสมอเพื่อเตรียมตัวสอบไล่ครับ ตามปกติจะใช้เวลาก่อนนอนในการฝึกสมาธิ แต่ช่วงหลังมานี้ทำทุกเวลาที่นึกได้ ภาวนาบ้าง ฝึกกสินตามคำแนะนำใน CD ของพี่เล็กบ้าง

    ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้ฝึกกสินนัก เนื่องจากยังมีความรู้สึกค้านอยู่ในใจเช่นเดียวกับที่ไม่ค่อยก้าวหน้าในการ การฝึกมโนยิทธิ เพราะคิดว่าเป็นเพราะเรานึกเอาเอง แต่ในช่วงหลังนี้ ได้พยายามทิ้งความสงสัย และฝึกตามคำแนะนำของพี่เล็ก

    จากการฝึกกสินแม้ว่าจะเป็นการคิดเอาจริงๆแต่ก็ยอมรับว่าการที่เราเปลี่ยนภา พกสินจากดินเป็นเพชรนั้นอารมณ์ดิ่งเป็นฌาณจริงๆ และลมหายใจก็เบาจนเกือบหายไป ถึงตอนนี้ผมสามารถทำได้เร็วขึ้นมาก แต่ภาพนั้นยังไม่ชัดเจนนัก

    ช่วงนี้อากาศเย็น ขณะอาบน้ำลองจับกสินน้ำเป็นเพชรก่อนแล้วค่อยอาบปรากฏว่ารู้สึกถึงความเย็น ของน้ำที่กระทบร่างกายน้อยมาก ทำให้อาบน้ำเย็นๆได้สบาย คิดว่าเป็นเพราะเมื่ออารมณ์เป็นฌาณ จิตแยกจากกายมากจึงไม่รับรู้สัมผัสของน้ำ

    เมื่อคืนที่ผ่านมาขณะนอนทำสมาธิ ตั้งใจว่าเราจะใช้คำภาวนา นะ มะ พะ ธะ เพื่อเตรียมตัวสอบ แต่คิดต่อไปว่าการที่หลวงพ่อสอนให้ตามแสงไปนั้น หากเทียบกับที่เราฝึกกสิน น่าจะเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกันคือให้เพ่งที่แสงสว่างอันเป็นประกายพฤกษ์ ผมจึงลองภาวนาโดยจับภาพกสินไปพร้อมกัน เพียงเวลาสั้นๆ ภาพกสินสว่างขึ้นผมจึง Focus ที่แสงนั้นเพียงไม่นานจิตก็ดิ่งและสงบเป็นฌาณ ลึกขึ้น ๆๆๆๆ ... หลับอีกจนได้

    วันนี้ก่อนที่จะตื่นนอน ผมฝันว่าดูทีวี นักข่าวรายงานว่าเกิดแผ่นดินไหวบริเวณสยามพารากอน เป็นครั้งที่ 2 อาคารยังอยู่เป็นปกติ แต่ผู้คนแตกตื่นวิ่งมาอยู่นอกอาคารกันหมด นักข่าวแจ้งเตื่อนด้วยว่าให้รวบรวมคนในครอบครัวให้ครบอย่าให้ห่างกัน เพื่อจะหนึภัยได้รวดเร็วขึ้น จากนั้นก็ตื่นพอดี

    Update ความคืบหน้าครับ

    PS. ผมตามไปแน่ แต่ช้าหน่อย ติดเถลไถลน่ะครับ
     
  18. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    เมื่อเช้า ผมตื่นขึ้นมาเห็นท้องฟ้าเป็นสีแดงไปหมดเลยครับ
    เลยงงๆ
    มันแดงอยู่แค่ประมาณ5นาทีครับ
    เสร็จแล้วก็กลับมาฟ้าเหมือนเดิม
     
  19. Forever In LoVE

    Forever In LoVE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,349
    ค่าพลัง:
    +3,864
    ขออนุโมทนากับการฝึกฝนเพื่อความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมของทุกๆท่านค่ะ
     
  20. ปูเเว่น

    ปูเเว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,614
    ค่าพลัง:
    +6,697
    เรื่องเกาะลิงffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    มีเกาะอยู่เกาะหนึ่ง ไม่ใช่เกาะอกนะ เป็นเกาะไม่ใหญ่นักอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรทั้ง๔ มันมีอยู่เกาะเดียว อยู่ท่ามกลางความเวิ้งว้าง โดยที่รอบๆนั้นไม่มีอะไรนอกจากทะเล บนเกาะนี้ก็จะมีลิงอยู่เป็นเจ้าเกาะ แต่ก็พอจะมีสัตว์อื่นๆอยู่บ้าง ทีนี้เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า อยู่มาวันหนึ่งมันมีคนเรือแตกว่ายน้ำขึ้นมาบนเกาะนี้เข้า เขามาจากไหนก็ไม่รู้ เป็นผู้ชายคนเดียวไม่มีเสื้อผ้าใส่ เพราะเขาเรือแตกว่ายน้ำมานานเสื้อผ้าของเขาลอยตามน้ำออกไปหมด เดินขึ้นมาบนเกาะ พวกลิงต่างคนก็ต่างมอง ก็จ้องมองชายผู้นั้นอย่างแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วก็ร้องส่งเสียงกันบอกกันถึงสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาสู่เกาะของพวกเขาตามประสาลิง กระโดดโลดเต้นไปด้วย ซ้ายขวา จนทำให้พญาลิงสงสัยก็เลยออกมาจากถ้ำที่หน้าผาเพื่อยืนดูและมองไป แล้วพญาลิงก็เห็นตัวประหลาดที่เป็นมนุษย์นั้นกำลังเดินมาด้วยท่าทางโทรมๆ พญาลิงจึงรำพันขึ้นมาว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...