ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จครูประทับมหาสมาคมฟ้าสลับหัว(เคลียร์สะสางมหากาลไม่ทำร้าย) พ่ออาจารย์พล

สำหรับรายการมหาคนธรรพ์นั้นก็มีผู้สำรองมาอีกตกสิบห้าคนแล้ว ใครที่ทันจองก็ยืนยันสิทธิ์หรือแจ้งกำหนดที่จะโอนไว้นะครับ PM ไว้ จะได้เก็บไว้ให้

ส่วนเรื่องการพูดคุยเดี๋ยวจะยกเรื่องหลวงปู่เกลี้ยงกับเรื่องประสบการณ์ตะกรุดของพี่ท่านหนึ่งมาเล่าต่อ ขอเป็นวันพรุ่งนี้แล้วกัน เรื่องหลวงปู่เกลี้ยงนี่ติดไว้หลายวันมากเพราะพอดีตัวเราเองก็อยากจะยืนยันอะไรบางอย่างเหมือนกัน เอาเป็นว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้คุยกันยาวๆ

 

พูดคุยยามเช้า

สวัสดีตอนเช้านะครับ

วันนี้ก็มาพูดคุยกันสบายๆในวันหยุดแบบเรื่อยๆ เห็นมีถามกันส่วนตัวเข้ามาหลายคนว่าทำไมเลือกเก็บพระรุ่นร้อยปีของหลวงปู่เกลี้ยง ก็นอกจากท่านจะบอกว่าดีแล้ว หลังจากอ่านดูเรายังชอบชนวนมวลสารและอะไรอีกหลายอย่างด้วยเรียกว่าหารุ่น 99 ไม่ได้รุ่นร้อยปีก็แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องใช้ชนวนรุ่น 99 มาทำ กลายเป็นว่าหลายคนหันมาเก็บตามโดยเฉพาะพระคเณศกับพระสีวลีเนื้อนวะหล่อโบราณ ที่มีคนบอกว่าตอนหลวงปู่เกลี้ยงเสกพระรุ่นนี้ มีแสงออกมาจากพระคเณศกับพระสีวลีด้วย

ส่วนตัวก็เป็นคนชอบเนื้อนวะเต็มสูตรนะโดยเฉพาะนวะรุ่นนี้ดูแล้วสวยงามจริงๆตามองค์พระยังมีเขม่าดำเป็นจุดๆอยู่เลย อีกอย่างเราไล่ย้อนดูรุ่นหลังที่สร้างมาส่วนใหญ่จะเป็นนวะที่แต่งผิวเเล้วไม่ใช่ผิวเดิมๆแบนี้ก็ถือว่ามีเสน่ห์ไปอีกแบบ ที่สำคัญที่สุดก็จำนวนการสร้างเพราะนวะที่เป็นรูปหล่อนั้นเทมาแค่ 199 องค์ถือว่าเป็นเนื้อบนสุดไม่มีเงินไม่มีทองคำ ต่างกับในรุ่นอื่นของหลวงปู่ ที่จะมีแยกออกไปอีกหลังๆมีเนื้อเงินเนื้อทองคำเพิ่ม แต่เฉพาะกับนวะนี่ผมเรียกว่านวะโลกแตกเลย เพราะมีแยกไปอีกเป็นทั้งนวะก้นทองคำ นวะก้นเงิน นวะธรรมดา ชนวนนวะ ไปไล่ๆอ่านดูมันมีความหลากหลายขนาดนั้น

ที่กล่าวไปก็ถือว่าเป็นเรื่องผิวเผิน แต่จุดสำคัญจริงๆคือไม่ง่าย และไม่ค่อยมีให้เห็น นานๆครั้งที่พระอรหันต์จะทำรูปของเทพเทวดาให้เราได้กราบไหว้ ยิ่งพระอรหันต์ที่มองเห็นและพูดคุยกับเทวดาสื่อสารกันได้สนิทสนมมานานแล้ว ทิพย์จักขุญาณของท่านแจ่มใสทั้งตานอกและตาในรู้กันทั้งภาคอีสาน ก็พระอรหันต์ที่มีบารมีเฉพาะแบบนี้สร้างเทวดาแถมจำเพาะต้องเป็นพระคเณศด้วย จะไม่น่าใช้ได้อย่างไร อย่างในส่วนของพระสีวลีนี้วัดไหนก็ทำกันบ่อย แต่ก็อย่าประเมิณต่ำไป เพราะพระสีวลีของหลวงปู่เกลี้ยงก็ไม่ธรรมดาเช่่นกัน ถ้าไม่ดีจริงหลังจากนั้นก็คงไม่ออกมาอีก เพราะมีรุ่นสองมาอีกเป็นแบบเหรียญพระสีวลี

ตามที่พูดไปคือไม่ค่อยมีให้เห็น อย่างพระคเณศเราก็มีมนต์ที่ท่านให้มาเฉพาะเป็นมนต์ของพระคเณศเองซึ่งบอกต่อกับใครไม่ได้ เพราะปกติมนต์ที่เทวดาตั้งใจให้เฉพาะตัวนี้เค้าห้ามบอกหรือถ่ายทอดกัน ก็ได้ลองใช้ดูหลายทีมักจะกำอาราธนาพวกที่เป็นรูปของพระคเณศหลายๆสำนัก เรียกว่ามันก็รู้สึกเฉยๆแห้งๆไม่น่าสนใจอะไรจนมาเจอของหลวงปู่เกลี้ยงนี่แหละที่เรายอมรับได้ว่านอกจากของพ่ออาจารย์ท่านแล้ว พระคเณศของหลวงปู่เกลี้ยงก็ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน

ทีนี้มากล่าวถึงประสบการณ์กันบ้าง เพราะปกติจะเป็นคนชอบลองสลับพกของ โดยเราก็เข้าคู่พระคเณศกับพระสีวลีไว้พกอาราธนาด้วยกันในกระเป๋าติดกะดุมใบเล็กๆ วันไหนได้พกจะรู้ได้ว่ามันปลอดโปร่ง ทุกอย่างไหลลื่น เรียกว่าโอเคในระดับหนึ่งเลยคือโดยรวมเยี่ยมกว่าบรรดาพระกรุหรือพระดังๆที่ลองพกนะ ตรงนี้อาจเป็นเรื่องโฉลก เพราะขึ้นอยู่กับแต่ละคนวาจะโฉลกกับพระอะไร บางคนมีพระแท้แต่พกแล้วไม่โฉลกชีวิตร้อนรุ่มมีแต่ปัญหาอุปสรรคก็มี ดังนั้นมีพระแล้ว นอกจากจะแท้ตรงนั้นเรายังต้องใส่ใจด้วยว่าโฉลกกับเราหรือไม่ถ้าไม่ใช่ก็เปลี่ยนองค์ไป

เรื่องพระคเณศกับพระสีวลีของหลวงปู่เกลี้ยงก็พูดคร่าวๆเท่าที่พูดได้ เพราะมันมีอะไรมากกว่านั้น แต่ก็พูดไม่ได้หมด ต้องลองใช้และเจอหรือรู้สึกเอาเอง พอดีมีหลายคนถามว่าค้างเล่าเรื่องนี้ไว้ซึ่งตอนแรกก็ตั้งใจว่าไม่อยากพิมพ์ต่อเลย มันจะกลายเป็นกระทู้ล่อเป้าให้คนหาคนเช่า แล้วอีกอย่างบางเรื่องเราไม่รู้จะเรียบเรียงเป็นคำพูดยังไง อย่างนำเนื้อทองผสมที่เช่าติดมือมาไปให้คนรู้จักเค้าบูชา เค้าถามเราว่าบูชายังไงเราก็เลยตอบตรงๆว่าบูชาพระคเณศแท้ๆแบบอินเดียเลยนะ ให้มองท่านเป็นเสมือนคนในครอบครัวของเรา พูดกับท่านคุยกับท่านได้ทุกเรื่อง จะแซวจะหยอกล้อหรืออะไรก็ได้แต่ให้อยู่ในกรอบของความเคารพในฐานะพระเป็นเจ้าไม่ใช่มากไปแบบทำกับกุมารทอง จะกินอะไรจะไปไหนเจออะไรดีไม่ดีนั่งพูดให้ท่านฟังได้ชวนท่านไปไหนก็ได้ให้ลองทำดู เค้าก็เจอมาแบบเป็นตัวเป็นตนเล่ากลับให้เราฟัง อันนี้ถ้าเล่าละเอียดคงมีสะดุ้งกันบ้าง เอาแค่ว่าพระคเณศรุ่นนี้มีองค์ถือว่าเป็นของแรงที่ยอมรับได้และคนไม่ค่อยรู้จักกัน ทั้งพระคเณศและพระสีวลีรุ่นร้อยปีนี้บางทีอาจหลงตามศูนย์ตามร้านถ้าใครเห็นก็อย่าพลาดแล้วกัน เห็นถามกันว่าค้างเรื่องเล่าไว้เลยนำมาพูดกัน แต่จะให้พูดหมดมันจะไม่งาม ก็เอาเป็นเล่าเพียงคร่าวๆ ไว้มีอะไรเข้ามาเกี่ยวกับหลวงปู่เกลี้ยงก็จะทยอยเล่าเรื่อยๆในส่วนของเรื่องที่เล่าได้ เพราะเรื่องที่มันเว่อร์หรือเหนือโลกมากไปก็ไม่ควรจะพูด

อีกเรื่องหนึ่งก็พอดีมีเรื่องประสบการณ์ตะกรุดเข้ามา อันนี้ก็แปลกเป็นเรื่องตะกรุดดอกน้อยๆของพ่ออาจารย์ท่าน เนื่องจากมีพี่ท่านหนึ่งโทรเข้ามาบอกว่าอ่านจากพลังจิต ตัวเค้ามีคดีอยู่อยากพ้นข้อกล่าวหานี้พยายามหาของหลายอย่างมาช่วยไม่ว่าตะกรุดจักรพรรดิ์ของพระดังสายอ่างทองหรืออะไรที่มีใครแนะนำว่าบูชาแล้วทำแล้วจะทำให้รอดให้หลุดเค้าก็นำมาทำตามหมด สุดท้ายมันไม่รอด

ก็เลยมาปรึกษา ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็ลงตะกรุดดอกน้อยๆฝากไปให้ ลองถามท่านว่าเป็นตะกรุดอะไรท่านว่าท่านลงยันต์องค์พระไว้ด้านในกำกับด้วยหัวใจพระพุทธคุณ ท่านว่าทำเพียงเท่านั้น แต่ท่านอธิษฐานอ้างเอาบารมีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เป็นที่พึ่งแก่สัตว์ผู้ยาก ท่านว่าโดยปกติแห่งองค์พระชินสีห์ผู้สัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายนั้น หากว่าพระองค์ต้องอธิกรณ์ อธิกรณ์ทั้งหลายเหล่านั้นย่อมสงบระงับไปเองภายในระยะเวลา 7 วันไม่ขาดไม่เกินมากไปกว่านี้ ทั้งนี้เป็นไปด้วยอำนาจแห่งพระพุทธานุภาพ ท่านว่าฉันใดก็ฉันนั้น หากเค้าไม่ผิดคำกล่าวร้ายป้ายสีคดีต่างๆย่อมจะปลดเปลื้องไปรวดเร็จดุจกัน

ซึ่งตอนเราส่งของให้ก็ได้ย้ำกับเค้าแล้วว่าให้ติดคอไว้ ถ้าพี่บริสุทธิ์รับรองว่ารอด ผ่านไปเกือบเดือนเค้าก็โทรมาบอกว่าผมรอดแล้ว รอดแบบงงๆเหมือนคนกล่าวหาจะแพ้ภัยตัวเอง เราก็ไม่ได้ซักละเอียดเพราะเค้าชวนคุยเรื่องอื่นต่อทันทีเกี่ยวกับเครื่องมงคลที่จะบูชา ก็เลยนำมาเล่าสู่กันฟัง

พระพุทธานุภาพนี่แน่นอนจริงๆ หากใครมีเรื่องทำนองนี้ ลองขอเสี่ยงบารมีอธิษฐานพึ่งบารมีพระพุทธเจ้าดู พ้นได้ไวแท้และแน่นอน

 

ติดตามกันนะครับ เดี๋ยวมีพูดคุยกันเรื่อยๆ

 

เดี๋ยวจัดการรายการที่ฝากเลี่ยมให้นะ

 

จากที่แนะนำให้ไปกราบหลวงปู่เกลี้ยงไป หลายคนก็ตีความผิดตุนพระหลวงปู่เกลี้ยงกันใหญ่เลย อันนี้ถ้าศรัทธาเช่นกันก็ไม่ว่าอะไร ล่าสุดก็มีคนถามกันอีกว่ามีอะไรน่าเก็บหรือครูบาอาจารย์ไหนน่าไปกราบสัมผัสอีกมั๊ย 555+ จะกลายเป็นกระทู้แนะนำไปแล้วนะนี่ ไว้จะทยอยพูดทยอยเล่าเรื่อยๆดีกว่า แล้วก็จับประเด็นกันเอานะเพราะปกติจะไม่ค่อยเล่าหรือพูดอะไรทำนองนี้บ่อย ส่วนพรุ่งนี้วันหยุด เอาว่าเดี๋ยวจะแนะนำของที่น่าใช้และครูอาจารย์ที่น่ากราบอีกองค์หนึ่ง

 

พูดคุยยามเช้า

อรุณสวัสดิ์จ้า

ก็มาพูดคุยกันสบายๆวันหยุด ใครมีเวลาว่างก็อย่าลืมเดินทางไปทำบุญกัน แสวงหาการกุศลเรื่อยๆตามหลักของพระพุทธศาสนา ที่งดการทำบาปทั้งหลาย ให้หมั่นประกอบการกุศลเรื่อยไป และทำจิตใจให้ผ่องใสตลอดเวลา

ก็มีคนถามหรือแซวกันมาว่าไปพิษณุโลกได้อะไร ได้แวะที่ไหนมั๊ย ก็เล่ากันสบายๆคือได้แวะไปกราบหลวงปู่แขก องค์นี้ไม่ต้องพูดมากก็รู้ว่าอันดับหนึ่งของพิษณุโลกอยู่แล้ว เคยไปครั้งก่อนจำได้ติดตาว่าเราเห็นลูกนัยน์ตาดำของท่านเป็นสีเขียวตลอดเวลาเห็นกันทุกคน ไม่ใช่สีดำนะแล้วก็ไม่ใช่ภาพติดตาหรืออะไร แต่เห็นตลอดระยะเวลาที่เข้าไปกราบนมัสการท่านเลย พูดแล้วขนลุก มาครั้งนี้ตาดำท่านก็เป็นตาดำปกติ ก็แปลกดี

หลวงปู่ท่านมีความประสงค์ตั้งใจอยากสร้างโรงพญาบาล เพราะว่าเวลาพระป่วยต้องไปโรงพญาบาลท่านว่าลำบาก อาคารหอผู้ป่วยพื้นที่คับแคบ ท่านจึงดำริที่จะสร้างอาคารสงฆ์อาพาธไว้ที่โรงพญาบาลบางระกำ ใกล้ๆวัดท่านนั่นแหละ ถ้าเราไปตอนนี้จะเห็นเลยตึกพระมงคลสุธี ซึ่งใช้งบยี่สิบสองล้านบาทเห็นพี่ที่เฝ้าท่านบอกว่าได้งบมาตกสามสิบล้าน ส่วนต่างก็จะใช้ในการกุศลต่อไปถ้าฟังไม่ผิดน่าจะเป็นมูลนิธิของโรงพญาบาลนี่แหละ ท่านทำไวยิ่งกว่าเทวดาเนรมิตรซะอีก

มันมีความลับอยู่ตรงนี้ คือหลวงปู่แขกท่านทำยันต์เรียกทรัพย์เอาไว้พกติดตัวท่านเอง คนที่เข้าหาก็นำปัจจัยมาถวายทำให้การดำเนินการสร้างอาคารตึกสงฆ์อาพาธสำเร็จไปอย่างรวดเร็ว ถ้าฟังไม่ผิดน่าจะภายในหนึ่งปีท่านก็ทำเสร็จแล้ว นี่อานุภาพยันต์เรียกทรัพย์ของท่านมีมากขนาดนั้น เราเห็นแผ่นยันต์เรียกทรัพย์นี้ที่ฝังในวัตถุมงคลท่านก็รู้สึกคุ้นตามาก มาดูใกล้ๆ อ๋อยันต์ทศชาติ วิชาทศชาติของพ่ออาจารย์นี่เอง เหมือนกันเดี้ยะเลยยันต์ตัวนี้มันใช้หาเงินหาทองเรียกลาภให้รวยไม่รู้เรื่องแบบที่หลวงปู่แขกทำจริงๆ ดูจากพ่ออาจารย์ท่านทำวิชานี้ถวายเจ้าอาวาสวัดไหนให้พกไว้ ไม่เกินสามหรือห้าปีอุโบสถ โบสถ์ เจดีย์ ศาสนสถานที่ไม่เป็นรูปร่างตามชนบทต่างๆล้วนทำล้วนสร้างเสร็จอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ต่างกันที่พ่ออาจารย์ก็ไม่ค่อยทำอีก ท่านว่ามันง่ายไป มันสบายไป ท่านหมายถึงคนใช้ ท่านไม่อยากให้คนขี้เกียจ ไม่รู้จักขัดเกลาตัวเองจนเป็นเหตุให้เสื่อมสูญบารมี ท่านให้เหตุผลว่าเพราะจะมีคนกี่คนที่เจริญสติไม่หลงไปตามโลกตามวัตถุนิยมเมื่อสบายขึ้นทันตาเห็น คนย่อมปรับตัวไม่ได้

ก็ข้ามเรื่องวิชาทศชาติหรือที่เรียกว่ามีกินสิบชาติก็ไม่หมดนี้ไปก่อน มาเข้าที่หลวงปู่แขกท่านกันก่อน ตอนนั้นท่านก็ออกวัตถุมงคลมารุ่นสร้างโรงพญาบาล เป็นวัตถุมงคลที่น่าใช้มากโดยเฉพาะรายการที่พี่ที่วัดบอกเฉพาะรายการนี้เลยเป็นตัวหลักของชุดสร้างมาหาปัจจัยสร้างโรงพญาบาลทั้งหมด นั่นคือขุนแผนพรายเรียกทรัพย์ โดยหลวงปู่แขกท่านให้เอายันต์เรียกทรัพย์นั้น ไปปั๊มใส่แผ่นเงินหรือทองคำเล็กๆฝังหลังพระขุนแผนพรายกุมาร แอบกระซิบว่าเค้าว่านิยมมากสุดๆเลยคือเนื้อนำฤกษ์ รองท้อปที่เป็นมหามวลสารก็จะเป็นพรายสีฟ้า นำหน้าสีอื่นๆมาเลยในทุกๆสีเพราะเป็นสีวันเกิดหลวงปู่หรืออะไรนี่แหละถ้าฟังไม่ผิดนะ

ก็ย้ำว่าปั๊มนะครับไม่ได้จารเองสำหรับยันต์เรียกทรัพย์ มารู้จากพ่ออาจารย์ทีหลังว่าวิชานี้ถ้าจารกำกับด้วยมือเรียกสูตรไปและเสกเป็นรู้วิธีทำวิธีเสกจะมีอานุภาพมาก ถ้าปั๊มมันก็ตกไปไม่เต็มเหมือนที่ทำกับมือ แต่ก็เข้าใจว่าหลวงปู่ท่านสูงอายุแล้วจะมานั่งจารตะกรุดตีตารางใส่ดอกจิ๋วๆมันเป็นไปไม่ได้ ก็เข้าใจอยู่เอาว่าเชื่อมั่นในพิธีกรรมท่านดีกว่า เพราะท่านก็ได้จารยันต์เรียกทรัพย์แผ่นชนวนก่อนให้ไปหลอมรีดเป็นยันต์ปั๊มแผ่นเล็กๆนั่นแหละ

ก็พูดคุยกันสบายๆวันหยุดเนาะ ได้ไปทำบุญตัวนี้มาคือรุ่นสร้างโรงพญาบาลของหลวงปู่แขก เรียกว่ามวลสารอลังการมาก ในหนังสือแจกแจงรายละเอียดไว้อย่างดี ว่าหลวงปู่จารทั้งยันต์เรียกทรัพย์ ยันต์ครอบจักรวาล มหาอุด พระเจ้าสิบหกพระองค์ พุทซ้อน ให้ไปหลอมรีดมาเป็นมวลสาร ในส่วนของพระผงพรายกุมารซึ่งมีทั้งพิมพ์พรายใหญ่พรายเล็กนั้น ต้องบอกว่าอลังการในรอบสิบปีเลย เพราะหลวงปุ่ลบผงอิทธิเจ ซึ่งท่านไม่ได้ลบผงทำวัตถุมงคลมานานนับสิบปีแล้ว ท่านเมตตาตั้งใจกับรุ่นนี้มาก ท่านว่าถ้าตบะไม่แก่กล้าอย่าริทำ ผงปลิวไปถูกหญิงสาวจะนิยมชมชอบ เรียกว่าผงเสน่ห์ชั้นดีนั่นแหละซึ่งการลบผงก็มีขั้นตอนยุ่งยากมาก ตรงนี้เรานึกถึงถพ่ออาจารย์ท่านเวลาท่านลบผง ท่านต้องทำนานมากกว่าจะได้ผงตัวนึง ยุ่งยากจริงๆ เวลาพิมพ์มันเหมือนง่ายๆสั้นๆนี่แหละเเต่ของจริงกินเวลาเป็นเดือน ผงบางอย่างเป็นปีถึงหลายปีกว่าจะทำสำเร็จ

พระพรายเรียกทรัพย์รุ่นนี้มีมวลสารเยอะนะ ท่านใส่ผงเก่าวัดระฆังด้วย ผงว่านหลวงปุ่ทวดวัดทรายขาวผสมเถ้าอังคารอาจารย์นอง ผงว่านวัดปราสาท ผงปิดตาหลวงพ่อฟู สารพัดผงสารพัดตะไบเลยอธิบายไว้ละเอียดในหนังสือ ซ้ำยังแช่น้ำมนต์อีกพันพิธี เป็นน้ำมนต์วัดหลักๆเลยตั้งแต่วัดพระแก้ว โสธร ระฆัง บ้านไร่และอีกสารพัด คือองค์พระรุ่นนี้ทุกเนื้อกดออกมาจะผ่านการแช่น้ำมนต์ชุบ มีคราบน้ำมนต์หมด ยกเว้นเนื้อนำฤกษ์ที่เป็นผงยาจินดามณีของหลวงปู่เจือแช่ไม่ได้เพราะพระจะขึ้นรา ไคลแม๊กซ์คือว่านสดๆที่หลวงปู่ปลูกเองเลี้ยงเองกว่าร้อยแปดชนิดเน้นทางเสน่ห์เมตตามหานิยม ชนิดนึงเป็นตะกร้าๆเลย เอามาตากแดดบดทำ มีแจงรายละเอียดไว้ในหนังสือ

รุ่นนี้ที่แนะนำให้มีเพราะยันต์เรียกทรัพย์ที่เป็นตะกรุดฝังนั่นแหละ รวมถึงพิธีมวลสารต่างๆ ตอนเสกก็มีปาฏิหาริย์มากมาย ทั้งพระอาทิตย์ทรงกลด ไหนจะเมฆเคลื่อนมาบังตัวหลวงปู่ไม่ให้โดนแดด ซ้ำท่านยังมีอาการครูแฝงตอนเสกด้วย พี่หลายๆคนบอกว่าไม่เคยเห็นหลวงปู่เสกพระแล้วยิ้ม แล้วอารมณ์ดีขนาดนี้มาก่อน ถึงขนาดพูดออกมาเองกับปากว่า ดีมาก โชคลาภดี ถ้านำไปใช้ไม่ดี ให้โยนทิ้งทะเลหมดเลย ก็รู้ๆกันอยู่สำหรับวัตถุมงคลท่านทุกรุ่น ขนาดท่านไม่พูดอะไรก็นับว่าขลังแล้ว เอาสั้นๆอยากให้ไปร่วมบุญกันที่วัด เอาปัจจัยไปสมทบทุนของหลวงปู่ที่จะเข้าไปดูแลเป็นทุนสำรองในกิจการสงฆ์อาพาธของโรงพญาบาล แต่อาจจะเจอราคาบวก ราคาขึ้นบ้าง ยิ่งถ้าเป็นเนื้อหลักๆยิ่งไม่ต้องหาเลย อันนั้นก็เป็นไปตามกลไกตลาดของพระที่เป็นกระแสจับตามองจะเนื้อไหนก็มวลสารตัวเดียวกันเนื้อเดียวกันถอว่าเอามาใช้ ที่เราเอามาแนะนำและให้ไปทำบุญที่วัด เพราะถ้าจะโดนบวกหรือเพิ่มอะไร เงินก็อยู่ในทุนส่วนนั้นของหลวงปู่ไม่ไปไหน

ก็เล่าคร่าวๆเดี๋ยวจะได้มาพูดเรื่องอื่นๆกันบ้าง วันนี้ก็คุยกันสบายๆทั้งวัน ใครมีอะไรถาม PM ไว้ได้เลย

 

พูดคุยยามเย็น

มาคุยกันสบายๆนะครับ

กระแสมหาคนธรรพ์แรงมากๆจนมีคนขอให้ทำรุ่นสองหลายคนเพราะไม่ทันจอง หลังจากที่มีคนโอนมาและส่งของไปก็มีแจ้งประสบการณ์กันเข้ามาสองคนแล้ว เพิ่งจะไม่กี่วันเอง

รายนึงไปบูชางั่งมาเคียนเอวอธิษฐานจะจีบสาวที่ชอบแต่ยังนิ่งๆ ก็เลยบูชามหาคนธรรพ์ไป คือตั้งใจเอาไว้ใช้เรื่องเสน่ห์นี่แหละ พี่เค้าเล่าว่าพอของไปถึงวันแรกเขาก็อธิษฐานขอเรื่องเสน่ห์กับคนที่ชอบนี่แหละ คืนแรกฝันเลย ฝันเห็นคล้ายๆพราหมณ์แต่ไม่ใช่ แต่งตัวแบบพราหมณ์เลยแต่ไม่ใช่ผ้าขาวเป็นผ้าสีทองแล้วก็หล่อมากมีแสงอ่อนๆออกมาจากตัว เค้าเล่าว่าในฝันคนๆนี้เดินไล่เตะตัวประหลาดมากมายเต็มไปหมดในที่มืดๆ พี่เค้าว่าเล่าแล้วยังขนลุก ตื่นขึ้นมาเอางั่งมาจะคาดเอว งั่งที่เป็นเนื้อโลหะผสมปรากฏว่ามีแต่รอยแตกรานเป็นเส้นๆเลย พาลให้นึกถึงฝันตัวประหลาดที่โดนหวดเตะ แล้วพี่เค้าก็สรุปได้ทันทีว่าบุคคลลึกลับเมื่อคืนคือมหาคนธรรพ์นี่เอง เค้าเล่าว่าเค้ารู้สึกว่างั่งที่บูชามาคงไม่ใช่ของดีเลยเอาออก อาราธนามหาคนธรรพ์เดี่ยวๆไปสานต่อเรื่องความรัก เค้าว่าโทรหาครั้งนี้กลับได้ผล มีการนัดเจอกันแล้วดูฝ่ายหญิงสนใจเค้ามากขึ้นทันตาเห็น เค้าว่าแปลกมากจนรู้สึกสดชื่นมีกำลังใจเต็มปรี่ทันที เราก็ฟังเค้าเล่าก็ถือว่าโอเคนะรักใสๆ ก็เป็นสิ่งที่ดี

อีกเรื่องอันนี้เราฟังแล้วเราก็คิดไม่ถึงด้วยเหมือนกัน พี่รายนี้ก็บูชามหาคนธรรพ์ไป จัดส่งให้เค้าวันเดียวกับที่ส่งของพี่คนนั้นเลย เค้าเพิ่งโทรมาหาเราเมื่อบ่ายๆนี้เอง พูดกับเราว่ามหาคนธรรพ์นี้เรื่องเสน่ห์ก็โอนะดูมีคนมองคนสนใจมากขึ้น แต่พี่อายุมากแล้วเลยไม่ใช่ประเด็นเรื่องพวกนี้ เค้าว่าแบบนั้น แล้วก็เล่าว่าที่โทรมาหาเราเพราะจะเล่าเรื่องแปลกๆให้ฟัง คือพอได้มหาคนธรรพ์ไป พี่เค้าว่าคือตอนนี้เค้ามีปัญหาอยู่เป็นเรื่องที่โดนคนซึ่งมีอำนาจมากกว่าตัวเองในหน้าที่การงานกลั่นแกล้ง มันหมักหมมสะสมมาเรื่อยๆจนมากขึ้น เค้าว่าเกินจะรับไหวทีเดียว ทีนี้เค้าเลยลองเอามหาคนธรรพ์มาอธิษฐานดูว่าถ้า...(คนๆนี้) มีความตั้งใจจะกลั่นแกล้งถึงขั้นทำให้ตัวของพี่เค้าวิบัติฉิบหายจริงๆ ก็ขอให้มีอันเป็นไปภายในสามวันเจ็ดวัน เรายังถามเค้าว่าเฮ้ย นี่อารมณ์ไหนไปอธิษฐานแบบนั้น ปกติมหาคนธรรพ์จะเด่นไปทางเสน่ห์เมตตานะ พี่เค้าก็เหยียบเบรคผมบอกน้องกรณ์ฟังให้จบ คือตอนนั้นเค้าว่ามันเป็นอารมณ์ชั่ววูบอยากพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพราะเค้ารู้สึกว่ามันมากเกินไป เกินจะรับเลยอธิษฐานไปแบบนั้น ผลต่อมาบุคคลคนนั้นเพิ่งตายเมื่อเช้านี้เอง พี่เค้าว่าเค้าเองก็ตกใจมาก ตายแบบนั่งเฉยๆอยู่ดีๆก็ตายไม่มีโรคไม่มีอะไรเลย เราเลยบอกเค้าว่าสงสัยมันจะบังเอิญล่ะมั๊งไม่อยากให้เค้าคิดมาก ก็เลยพูดไปว่าสัตว์โลกมีเกิดตายเป็นปกติ ท่าทางเค้าจะสิ้นในอายุที่เกิดมา ประจวบเหมาะกับเวลาที่คำอธิษฐานส่งผลพอดี พี่เค้าว่ายังไม่พ้นเจ็ดวันเลยมหาคนธรรพ์นี่แรงจริงๆ เราเลยแหย่ไปว่าสงสัยท่านคงลงพวกมนต์พระกาฬไว้ด้วย ยิ่งเป็นมหาคนธรรพ์นี่ยิ่งจี๊ดเลยเพราะเค้าเป็นเทวดาที่ติดกับมนุษย์มากที่สุดยังยุ่งเกี่ยวกับโลกียะอยู่ เลยบอกเค้าอย่าพยายามมีอารมณ์หรืออธิษฐานอะไรแบบนี้บ่อยๆ พกไว้เฉยๆเป็นเสน่ห์เมตตาก็พอ แล้วก็ให้ไปทำบุญขออโหสิกรรมกับคนๆนั้นด้วย

* สำหรับมหาคนธรรพ์นี่ก็ลืมพูดไปอย่างนึง ธรรมดาของเหล่าคนธรรพ์เค้าชอบเครื่องหอม ของหอม กลิ่นหอม อะไรต่างๆเหล่านี้ ถ้าจะบนก็ถวายน้ำหอมเค้าเป็นขวดๆก็ได้ หรือเล่นง่ายๆเวลาจะพกก็อธิษฐานให้พ่อคนธรรพ์แฝงรูปแฝงกายเรา แล้วก็ฉีดน้ำหอมใส่ตัวเองนั่นแหละ เลือกกลิ่นที่ตัวเองชอบเพราะคนส่วนใหญ่ก็ฉีดกันทุกวันอยู่แล้ว ท่านว่าทำแบบนี้ง่ายดีไม่ยุ่งยาก ให้อธิษฐานเอาฉีดใส่ตัวท่านก็อยู่ในตัวเรา ถ้าไม่พกแต่จะบูชาบนหิ้งหรือสถานที่ที่จัดไว้ ท่านว่าไม่ต้องไปฉีดน้ำหอมใส่องค์ท่านนะ ถ้าจะฉีดให้ฉีดในสถานที่ที่วางท่านไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงไหนหอมเค้าก็พึงใจมีความสุขที่จะสถิตย์อยู่ตรงนั้นแหละ ง่ายๆไม่เรื่องมาก

 

สวัสดีตอนเช้านะครับ
มีสอบถามเรื่องเล่นเกมส์ของเดือนนี้กันมาหลายคน ก็ติดตามนะครับ ภายในอาทิตย์นี้แน่นอน

 

แจ้งการส่ง EMS

พี่เจษ ER 3719 0768 9 TH

พี่ปกรณ์เกียรติ ER 3719 0769 2 TH

พี่ธนากร ER 3719 0770 1 TH

พี่ชัยวัฒน์ ER 3719 0771 5 TH

พี่สราวุฒิ ER 3719 0772 9 TH

* สำหรับคนที่ลืมฝากค่าเลี่ยมไว้ผมไม่ได้ส่งเลี่ยมให้นะ

 

พรุ่งนี้ติดตามดีๆนะครับ มีเรื่องมาเล่าให้ฟังต่อ

 

สวัสดีตอนเช้าครับ

ก็ยุ่งๆทั้งวันไม่ได้จับโทรศัพท์เลยเมื่อวาน ใครมีอะไรก็ PM ไว้นะครับ ส่วนรายการที่เหลือจะจัดส่งให้วันพรุ่งนี้เพราะต้องรอฝากเลี่ยมของบางท่านด้วย

วันนี้ก็มาพูดคุยกันสบายๆ หลายคนที่ห้อยพระกันก็อย่าลืมว่าเราห้อยเพื่ออะไร เห็นมีคนหลงไปเยอะ เรียกว่าทุกวันนี้จุดประสงค์ในการห้อยพระนั้นต่างกันมากในแต่ละคน ที่แย่ที่สุดก็เหมือนจะห้อยเป็นเครื่องประดับหรือแฟชั่นอวดกัน อย่าลืมจุดยืนที่เราห้อยพระนั้น ก่อนจะหวังพุทธคุณ จุดประสงค์หลักของการห้อยพระก็คือการห้อยเพื่อรักษากำลังใจ ถ้าเป็นรูปพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ห้อยเพือให้พระพุทธอยู่ในคอ จะได้ละอายชั่วกลัวบาปตลอดจนมีพระธรรมอยู่ในใจ ให้ใจมีพระ

ก็กลับมาเข้าเรื่องกัน อันนี้เหมือนเคยพูดไปแล้วเห็นหลายคนเล่ามาว่าสายเทพของพ่ออาจารย์ท่านนั้นเร็วและไวกว่าห้อยพระ บางคนก็บอกว่าเครื่องมงคลนั้นครูแรง อันนี้ก็ติดตามกันรอบสิ้นปีหรือเดือนนี้มีอะไรที่แรงๆแบบไวๆเลยให้บูชากัน น่าสนใจตรงที่เป็นวิชาที่ท่านสืบมาแต่พระอรหันต์ที่มีภูมิธรรมสูงมากรูปหนึ่งด้วย ซ้ำยังเป็นวิชาที่รวมทั้งพระและเหล่าเทพสำคัญหลายองค์ไว้ในดอกเดียว

ส่วนอีกเรื่องที่น่าจะเป็นขี้ปากให้คนคุยกันไปเรื่อย นั่นก็คือเรื่องการดูดวง มีหลายคนส่งดวงเข้ามาแล้วเราเงียบไม่ได้ตอบกลับไป คือส่งมาให้ท่านทำนายให้แล้วเหมือนเราไม่ตอบเค้ากลับ อันนี้ก็ไม่วายโดนนินทากัน คือมันมีสาเหตุอยู่แบบนี้ เคยพูดกันไปแล้วว่าเรื่องดวงนี้ ถ้าจะให้ท่านดูเดี๋ยวจะมาแจ้งไว้ในกระทู้อีกที ช่วงไหนท่านว่างเราก็จะมาแจ้ง อันนั้นคือวาระที่จะเปิดดวงดูดวงคน ไม่เอาแล้วแบบกระปริบกะปรอย อดทนรอกันอีกไม่นานนัก อาจจะวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ได้

แล้วก็มีอีกกรณีหนึ่งคือดวงที่ดูไปแล้วท่านจะไม่ดูซ้ำ พอเห็นดวงบางคนท่านว่าเพิ่งดูไปยังไม่ถึงเดือนให้ดูใหม่อีกแล้ว แบบนี้ท่านไม่ดู บางคนเราจำได้ว่าเคยส่งมาแล้วดูไปแล้วแต่บอกว่ายังไม่ได้ดูก็มี อันนี้มันอาจจะสับสนกันได้ เพราะดวงบางคนเวลาเราตอบเรื่องแก้ของเค้ามีเยอะก็ต้องพิมพ์กันยาว แต่บางคนมันไม่มีอะไร เราก็จะตอบว่าดวงพี่ไม่มีอะไรให้ระวังเรื่องนี้ๆ คือพูดนิดๆหน่อยๆ สุดท้ายเค้ามาพูดว่ายังไม่เคยดูแบบนี้ก็มี ขนาดกรณีง่ายๆแบบนี้ยังเถียงกันไม่จบเราก็ว่าดูไปแล้วเค้าว่ายังไม่เคย ตรงนี้แหละเลยทำให้ไม่อยากยุ่ง คือต้องคอยพิมพ์คอยตอบกันไม่จบ เพราะเรื่องดวงมันละเอียดอ่อน อันนี้ก็เล่าคร่าวๆนะครับเหมือนจะเคยพูดกันไปแล้ว

วันนี้จะคอยตอบกระทู้ให้ทั้งวันใครมีอะไรก็ PM ฝากไว้แล้วเดี๋ยวจะมาเล่าเรื่องประสบการณ์แปลกๆที่มีคนเจอมาแล้วก็ของตัวผมเองด้วยให้ฟังต่อ

 

พูดคุยยามเย็น

ก็มาพูดคุยกันยามเย็นนะครับ

มีหลายเรื่องพูดกัน ท่านใดที่ติดตามเล่นเกมส์อยู่ก็เตรียมตัวไว้ เสาร์อาทิตย์นี้จะมีกิจกรรมให้เล่นเกมส์กันแน่นอน ไม่น่าพลาดสำหรับหนนี้เพราะจะแจก...ของพิเศษจริงๆ

ก็มาคุยกันสบายๆก่อน ตัดเรื่องที่มี PM เข้ามาถามกันไปก่อน จะมาพูดถึงเรื่องที่ควรทำความเข้าใจกันก่อน หลายๆท่านบอกว่าเอาเครื่องมงคลไปจับพลังมาโดยครูบาอาจารย์ต่างๆ ก็มีทั้งบอกว่าแรงมากแถมยังคัดถอนไม่ได้ บางคนบอกว่าพอคนที่จับจับไปบอกหาไม่เจอก็มี ซักพักจึงบอกว่าเก่งมากพลังงานหลบอยู่หาคนทำเช่นนี้ได้ยากจริงๆ บางคนว่าต้องค้นไปถึงสวรรค์ไปถึงพรหมโลก...ก็เป็นเรื่องที่สุดจะพูดกัน แต่ละคนก็บอกต่างกันออกไปอีกมากมายสุดแท้แต่ใครจะไปจับอะไรมา

วันนี้เราก็จะมาพูดกันถึงเรื่องพลังงาน สำหรับเรามันเหมือนเรื่องไกลตัวนะ แต่สำหรับพ่ออาจารย์ท่านที่เชี่ยวชาญในกรรมฐานมีของเก่าอยู่มาก คือคงต้องบอกว่ามีความรู้หลายศาสตร์หลายแขนงตามสิ่งที่ท่านเรียนรู้และเก็บมาทุกภพชาติ มันก็เป็นเรื่องปกติที่ท่านจะเข้าใจในพลังงาน การดึงเอาพลังงานต่างๆในภพ ในจักรวาลมาสู่ร่างกายเนื้อ มาสู่จิตตน หรือการบรรจุลงในเครื่องมงคลต่างๆที่เราเรียกอีกแบบหนึ่งว่าเสกนั่นเอง ซึ่งวิธีเสกก็มีอีกหลายวิธีไม่จำเป็นต้องใช้วิธีเดียวกันทั้งหมด นั่นก็เป็นเพียงวิธีหนึ่ง ตามที่ท่านบอกว่ารอบตัวทุกคนมีพลังงานตลอดจนสิ่งมีชีวิตและทิพย์กายมากมาย ถ้าวันนึงเธอรู้และสัมผัสกับพวกเขาได้ เธอจะรู้ว่าโลกนี้อบอุ่นนัก และต่อให้เป็นคนที่ไม่มีอะไรเลยก็ยังได้ชื่อว่าเราไม่ได้ยืนอยู่ตัวคนเดียวบนโลก

แล้วพูดมาถึงตรงนี้เราก็คงจะคิดเหมือนกันว่าไอ้ตัวพลังงานที่มันสะสมๆกันมานี้มันมาจากไหน ที่จริงทุกสิ่งมีพลังงานในตัวเองทั้งสิ้นแม้กระทั่งพวกเราก็เช่นกัน แม้แต่ต้นไม้ใบหญ้าหรือดาวเคราะห์ตลอดจนสิ่งที่คิดว่ามันไม่น่าจะมีชีวิตแต่ลองคิดให้ดีๆเค้าก็มีพลังงานของเค้า

แต่ยิ่งกว่านั้นยังมีพลังงานอีกรูปแบบหนึ่งที่เกิดจากตบะ ตรงนี้ขอเรียกว่าปราณจิตอันมาจากอำนาจของจิตที่ถูกฝึกฝนมาดีแล้ว เป็นอำนาจของจิต อำนาจอภิญญาฌานสมาบัติต่างๆของเหล่านักบวชหรือผู้ปฏิบัติการโยคะทั้งหลาย เรียกว่ายุคกำเนิดภพเลยทีเดียว เพราะพลังงานตัวนี้มันกำหนดภพภูมิได้ ทำให้มีพรหมโลกมีเทวโลกมีสถานที่ต่างๆซึ่งจะรองรับตัวตนของจิตหรือพลังงานนั้นๆ เรียกว่ามีทุกสิ่งขึ้นมาได้ ท่านว่าระบบภพอันยิ่งใหญ่นี้ล้วนแต่พัฒนามาจากสิ่งเล็กๆนั่นก็คือจิตของสรรพชีวิตนั่นเอง ที่มันก่อตัวสะสมมาจากผู้ปฏิบัติมากมายในอดีตกาลส่งผ่านต่อยุคสมัยไม่สิ้นสุด แม้โลกเกิดดับมันก็ยังคงอยู่ ตัวนี้คือพลังงาน แม้แต่เหล่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตลอดจนพระอัครสาวกขีณาสพ หรือผู้ที่บรรลุอรหันต์มีคุณธรรมยิ่งใหญ่อันนิพพานไปแล้ว พลังงานของพวกท่านก็ยังคงอยู่เป็นคนละเรื่องกับจิต ท่านว่าพลังงานนั้นมีหลายรูปแบบแม้คนที่ไม่มีการฝึกฝนใดๆเลยหากละโลกไปแล้วก็ยังมีพลังงานมีสัญญาเหลืออยุ่

ดังนั้นท่านว่าเรื่องของพลังงานนี้มันคุยกันไม่จบ ที่ยกเรื่องนี้มาพูด ท่านว่าเพราะเครื่องมงคลทั้งหลายของท่านเหล่านั้นก็เป็นวัตถุอันท่านได้กำกับมาดีแล้วมีพลังงานเต็มเปรียมเช่นกัน ต่อให้หักครึ่งหรือสลายลงกลายเป็นผงพลังงานก็ไม่ได้ลดลงเลย จะมีก็แต่กำลังใจคนเท่านั้นที่เสื่อมถอย หากแต่พลังงานนั้นยังสถิตย์อยู่เหมือนเดิม ดุจว่าแม้มีพระอาทิตย์ที่เป็นรูปทางกายภาพฉันใด หากพระอาทิตย์นั้นได้แตกทำลายลงไปพลังงานก็ยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ท่านว่าเครื่องมงคลก็เป็นเช่นนั้น

การจะใช้เครื่องมงคลให้ได้ผลดีนั้น อันนี้ก็แอบสอนกันมานานแล้วแต่ไม่ได้พูดอะไรให้ชัดเจนเฉยๆ นั่นคือให้รู้จักการสวดมนต์การภาวนา และย้ำเสมอว่าเวลาจะใช้เครื่องมงคลหรือเวลาสวดมนต์ก็ให้กำเครื่องมงคลนั้นไว้ด้วยจะดีมาก บางคนความสงสัยเยอะอคติเกิดถามมากว่าไม่สะดวกไม่กำได้มั้น ก็ตามแต่จริตหากพิจารณาว่ายากมากก็ไม่ต้องทำ อันนี้เราจะมาพูดในกรณีที่หลายๆคนทำก็แล้วกัน

อย่างที่บอกไปทีแรกว่าเครื่องมงคลนั้นมีพลังงาน และในตัวเราทุกคนก็มีพลังงานเช่นกัน การนำมาสัมผัสสวดบริกรรมพระคาถาภาวนาต่างๆด้วยจิตที่เป็นสมาธินั้น มันเป็นการซึมซับและแลกเปลี่ยนพลังงานบางอย่างโดยที่เราไม่รู้ตัว เป็นการถ่ายเทพลังงานระหว่างตัวเองกับเครื่องมงคลนั้นสลับหมุนเวียนเข้าออกจนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ตรงนี้มีประสบการณ์มากจริงๆ หลายคนมักจะเอามาเล่าให้ฟังตลอดว่าบูชาเครื่องมงคลไปลองเอามากำดูเวลาสวดมนต์เกิดเรื่องแปลกๆมากมายทั้งที่ไม่เคยเกิด

มีทั้งบอกว่าเหมือนไฟดูด เหมือนโดนช้อตเล็กๆ บางคนก็ว่าชาไปทั้งแขน บางคนก็ว่าหนัก บางคนก็ว่าเบา บางคนบอกว่าร้อนๆ ร้อนจนหน้าแดง บางคนก็บอกว่าหนาว หนาวยังกับจับน้ำเเข็ง บางคนก็มีอาการครูแฝงเป็นครูพรหม ครูฤาษี ตลอดจนเป็นครูเทพยดาอันเป็นรูปลักษณ์ของเครื่องมงคลนั้นๆ บางคนถึงกับร่างกายหมุนเหวี่ยงออกมาก็มี เรื่องเหล่านี้ทุกคนว่าเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น และคนข้างๆที่สวดมนต์อยู่กับตนเองนั้นล้วนตกใจทั้งสิ้น

หลายครั้งที่ผมจะนิยามสั้นๆว่ามันเป็นเรื่องการปรับธาตุ แต่ความจริงมันเป็นเรื่องของพลังงาน เป็นเรื่องของตัวเราล้วนๆที่มันเกินหรือเหนือไปกว่าการปรับธาตุมากมาย หลายคนพอเกิดอาการแปลกๆรู้สึกตัวโล่งเบาสบายไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ หลายคนที่ว่าซวย ชีวิตไม่ดีมันกลับดีขึ้นเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ที่ไม่เคยมีไม่เคยได้ก็มีก็ได้ ที่โดนคุณโดนของโดนกระทำกลายเป็นอาเจียนหรือขับถ่ายออกมาหมดก็มี นั่นคือเค้าไม่ได้เอาไปเก็บ แต่เอาไปใช้จริงๆมีการแลกเปลี่ยนพลังงานถ่ายเทไปมาระหว่างผู้ใช้และเครื่องมงคล

ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็เคยบอกว่าไม่ต้องไปกลัวว่าพลังงานนี้จะสูญจะหมด พลังงานเหล่านี้ยิ่งใช้มีแต่จะยิ่งเพิ่มขึ้น ชำนาญขึ้น แม้ไม่ช่วยให้คนใช้บรรลุคุณธรรมเป็นอรหันต์หรือไปนิพพาน แต่ก็ยังช่วยให้เข้าถึงพลังงานเข้าถึงธรรมชาติในระดับสูงขึ้นต่อไป ช่วยให้รู้จักสมาธิรู้จักฌาน เป็นประโยชน์ใหญ่ไม่ไร้ค่าแต่อย่างใด

วันนี้ก็มาพูดคุยกันเล่นๆ ถึงเรื่องพลังงานเผื่อว่าจะมีใครหลายคนจับประเด็นได้แล้วลองนำไปทำกันดูบ้าง ของผมนี่วันไหนเรามีกิจกรรมชีวิตด้านไหนเช่นจะเสี่ยงโชค จะเจรจางาน จะจีบสาว หรือจะเข้าหานายตลอดจนกิจกรรมอื่นๆ ตรงนี้ก่อนไปเราจะเลือกเครื่องมงคลที่มีอานุภาพเด่นด้านนั้นๆมากำตั้งสมาธิแล้วสวดมนต์เสมอ หรือบางทีอยากเจาะจงพึ่งบารมีพ่อแม่ครูอาจารย์องค์ใดเป็นพิเศษก็จะเลือกเครื่องมงคลมาทำวิธีเดียวกันนี้ บอกได้เท่านี้แหละ ดีจริงๆ

สำหรับพรุ่งนี้ก็ติดตามดีๆ บอกได้เลยว่าเป็นเครื่องมงคลที่สร้างด้วยวิชาของเอกองค์อรหันต์ยิ่งใหญ่แห่งยุคทีเดียว แอบบอกคร่าวๆว่าสร้างจากของเก่าด้วยแถมยังมีการบรรจุผงล้วนๆเป็นหลอดๆ เท่านั้นยังไม่พอต้องทำตะกรุดผูกดวงเปิดโลกเศรษฐีบรรจุอีกคำรบหนึ่ง บอกเอาไว้ก่อนว่ามีไม่กี่ดอกติดตามดีๆ

 

อรุณสวัสดิ์ครับ ติดตามกันนะวันนี้ห้ามพลาด

 

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดดอกครูจ้าวทรัพย์ (พระเจ้าผูกดวงให้ห้ามจน)

พ่ออาจารย์ท่านเคยมีโอกาสไปการนมัสการองค์หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาคหลายวาระ โดยในวาระนั้นท่านได้ขอศึกษาศาสตร์และวิชาการบางอย่างกับองค์หลวงปู่สีด้วย ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำเป็นอย่างดี น่าแปลกอย่างยิ่งที่ท่านเรียกศาสตร์นี้ว่าจ้าวทรัพย์ และจงใจตลอดจนตั้งใจถ่ายทอดให้ดุจว่ารู้เหตุการณ์ในอนาคตว่าอะไรจะเกิดขึ้น และในวาระต่อๆมาท่านก็ได้รับเมตตามอบผงสำคัญและอื่นๆเพิ่มเติมอีกด้วย

สำหรับตะกรุดดอกครูจ้าวทรัพย์หรือที่ท่านเรียกว่าพระเจ้าผูกดวงให้ห้ามจนนี้ เป็นวิชาของหลวงปู่สี ที่ลงไว้ถึงสองส่วนด้วยกัน พ่ออาจารย์ว่าคนที่ขาดทรัพย์ หรือเรียกว่าใช้ชีวิตแบบวิ่งตามทรัพย์สิน วิ่งตามอารมณ์ปรารถนาของตนเองนั้นยังมีอยู่มาก วิชานี้จะช่วยหนุนเฉพาะทางในเรื่องโภคทรัพย์พลาผลโดยเฉพาะ ถึงขนาดที่หลวงปู่ท่านเคยมีดำริไว้คำหนึ่งว่าเป็นวิชาห้ามจน

โดยที่ผ่านมาพ่ออาจารย์ท่านว่าปกติคนมักจะวิ่งตามความฝันหรือสิ่งที่ตนปรารถนา ยอมลำบากเพื่อแลกมาซึ่งความสบาย แต่วิชานี้มันช่วยให้มีอิสระเหนือโภคทรัพย์ทั้งหลาย จากที่จะต้องไปวิ่งตามมัน จะกลายเป็นว่ามันจะมาหาเราวิ่งตามเราเอง นอกจากจะปรับดวงเปลี่ยนชีวิตให้มั่นคงแล้วยังปรับให้เจริญในโภคทรัพย์อีกด้วย ท่านว่าหลายคนได้ลาภก็เป็นทุกขลาภ หาความเจริญในทรัพย์ไม่มีตรงนี้มันปรับเปลี่ยนแก้ไขทั้งหมด เพราะตะกรุดจ้าวทรัพย์นี้ต้องใช้ทั้งพุทธานุภาพและเทวานุภาพเสริมส่งหนุนเนื่องกันไป ท่านว่าดีมากขนาดที่ว่าเรียกโชคลาภให้เข้ามาได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน ที่พร่องก็เสริมให้เต็มไม่ให้ลดให้พร่องลงทั้งยามหลับหรือยามตื่น ดั่งคำว่าคนจะรวยอย่างไรก็ต้องรวยหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะใช้ทางด้านเสี่ยงโชคก็ได้ ปรารถนาโชคลาภก็ได้ หรือจะเอาลาภลอยให้มีโชคดีแบบฟลุ๊คๆก็ได้

ตะกรุดนี้มีความยากอยู่ในตัวมันเอง พ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะเพียรกระทำสะสมมาได้เก้าดอกนั้นใช้เวลานานมาก เพราะต้องลองและเสกหลายส่วน แม้แต่แผ่นตะกั่วที่เคยนำให้หลวงปู่สีเมตตาอธิษฐานจิตไว้แล้วนำกลับมาแช่น้ำมนต์ก็ยังเกิดการกินตัว ต้องนำมาหลอมลงถมและรีดใหม่ ท่านว่ามันเป็นนิมิตหมายที่ดีเพราะตอนนั้นที่ยืนพิจารณาแผ่นตะกั่วซึ่งกินตัวอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงหลวงปู่สีบอกว่าโภคทรัพย์กินทั้งตัว ที่รับไปให้ทำได้แล้ว ท่านจึงตัดสินใจลงมือทำ

ดั่งที่กล่าวแต่ต้น พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ต้องลงสองส่วน ทั้งแผ่นทองเหลืองและตะกั่วก่อนมัดรวมกัน แยกเป็นสองวิชา ดังนี้
- พระเจ้าห้ามจน วิชานี้ท่านลงในแผ่นทองเหลือง โดยต้องจารจรดกำหนดรูปสมเด็จพระพุทธกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้นมา พร้อมกับลงวิชาห้ามจนตำรับหลวงปู่สีกำกับไว้ ท่านว่าวิชานี้หลวงปู่ท่านพูดออกมาคำเดียวว่าห้ามจน เป็นคำสั้นๆที่มีความหมายยิ่งใหญ่ เหมือนปกาศิตคำพูดของพระอรหันต์ย่อมเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นจริงไม่มีเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดแน่นอน ท่านว่ามั่นคงดุจเหล็กเพชรลิขิตแผ่นผาทีเดียว คำว่าห้ามจนนั้นสำคัญ ก็แล้วตรงข้ามกับความจนก็คือความร่ำรวย ท่านว่าพูดได้เท่านั้น จะไม่มีวันอับจนหมดหนทางเหมือนดาวไม่มีวันดับแสง ตะกรุดพระเจ้าห้ามจนนี้ท่านว่าต้องอ้างบารมีพระพุทธกัสสปะมาใช้เพราะเป็นบารมีที่จะเปิดลาภไหลมาอย่างมหาศาล บารมีของสมเด็จพระพุทธกัสสปะนั้นเรื่องลาภผลหนักที่สุดเหนือกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายทุกพระองค์ เป็นของเฉพาะทาง เมื่อรวมเข้ากับวิชาเฉพาะของเอกองค์พระอรหันต์ที่มีบารมียิ่งใหญ่อย่างองค์หลวงปู่สีแล้ว ท่านว่าเชื่อขนมกินได้ สมชื่อพระเจ้าห้ามจนทีเดียว
- จ้าวทรัพย์สิบสองราศี วิชานี้เป็นวิชาเสริมดวงแบบหนึ่ง ดุจว่าเทพยดามาอำนวยช่วยเหลือให้มีความสะดวกสบายทุกประการ พ่ออาจารย์บอกว่าเป็นวิชาสำคัญขององค์หลวงปู่สี ท่านจึงนำแผ่นตะกั่วเก่าที่กินตัวแล้วรีดใหม่ ซึ่งองค์หลวงปู่สีพูดว่าโภคทรัพย์กินตัวนั่ยแหละ มาทำการลงวิชาจ้าวทรัพย์สิบสองราศีไว้ ท่านว่าคนพกตะกรุดนี้มีแต่สบาย จะลำบากได้อย่างไรในเมื่อตะกรุดดอกเดียวมีเทวดารักษาอยู่ถึง 12 องค์ วิชานี้เสริมดวงหนุนฐานชีวิต เปลี่ยนชะตายกฐานะผู้บูชา ที่เคยจมเคยแย่ล้วนแต่วินาศปราศนาการไปย่อมไม่บังเกิดขึ้นอีกเลย ท่านว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างไร เทพผู้เป็นใหญ่ในมหาจักรวาลทั้งสามพระเป็นเจ้า สี่มหาธาตุ ห้าเทวาภิบาล รวม 12 มหาเทพที่ได้ชื่อว่าเป็นเอกและเก่งกาจที่สุดในจักรวาลมามาหนุนมาฉุดคนเพียงคนเดียว จะเอาที่ไหนมาตกมาต่ำลงได้อีก ท่านว่าวิชานี้ทำยากนักกว่าจะเสกสำเร็จต้องทำเป็นปีเล่นคาบเล่นคาถาตามฤกษ์ยามสมกับเป็นวิชาของพระอรหันต์เช่นหลวงปู่สี ทั้งทรัพย์สมบัติโภคพลาผลความโชคดีต่างๆบรรดามีมันจะวิ่งเข้ามาหาเราเอง ปรารถนาจะตักตวงทรัพย์ ตักตวงความสุข ตักตวงความสำเร็จใดๆท่านว่าแล้วแต่ใจปรารถนาเลยสมหวังทุกประการ หมั่นทำบุญมากๆมีกำลังบุญเท่าไหร่ก็กอบโกยได้มากเท่านั้น สำเร็จได้มากเท่านั้น สมหวังได้มากเท่านั้นไม่รู้จบรู้สิ้น วิชานี้ยิ่งทำบุญยิ่งได้บุญ

เมื่อท่านได้ลงตะกรุดทั้งสองชนิดแล้ว ท่านจึงนำมาแช่น้ำทิพย์โดยท่านเรียกของท่านว่าพิธีมุรธาภิเษก ชุบยันต์ชุบตะกรุดให้มีชีวิตจนขยับได้ถึงจะหมายว่าสำเร็จ โดยตะกรุดดอกครูจ้าวทรัพย์นี้ จะมีส่วนสำคัญที่พิเศษจริงๆอยู่อีกสองส่วนสมกับที่เรียกว่าพระเจ้าผูกดวง โดยทั้งสองส่วนนั้นประกอบไปด้วย
- ผงหลอดกาแฟ ผงนี้สำคัญนัก มีพุทธคุณหนักหนายิ่งยวด กล่าวคือเป็นผงสำคัญของหลวงปู่สีที่เคยมอบให้พ่ออาจารย์ไว้ ท่านพูดเพียงแค่คำเดียวว่ารวยเมื่อมอบและตั้งใจประสิทธิ์ผงนี้ให้ ท่านบอกเพียงว่าเป็นผงว่านตัวเก่งที่ท่านได้มาสมัยธุดงค์ผสมกับผงที่ท่านทำขึ้นเอง พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าก็ไม่รู้ว่าว่านอะไรของท่านรู้แต่ผงนี้แรงมากแค่จับก็ร้อนมือ ต้องทำน้ำมนต์รดถึงจะหาย ท่านว่าเห็นมั๊ยนี่สำคัญของที่พระอรหันต์ท่านทำย่อมประมาทไม่ได้ ลมหายใจ น้ำลาย ไอปาก ปราณชีวิต ทุกอย่างท่านบรรจุและทำไว้ดีแล้ว ทั้งยังให้พรดุจคำปกาศิตที่บอกไว้กับผู้ครอบครองในอนาคตว่ารวย สั้นๆเพียงคำเดียว พ่ออาจารย์ท่านจึงนำผงล้วนๆเพียวๆไม่ผสมสิ่งอื่นใดมาบรรจุไว้ภายในหลอดกาแฟ ก่อนปิดหัวท้ายด้วยสีผึ้งนางมัทรีของท่านเพื่อทำการบรรจุลงในตะกรุดก่อนจะผนึกอีกคำรบหนึ่ง
- ตะกรุดพระเจ้าผูกดวง เป็นตะกรุดดอกเล็กๆที่จะบรรจุไว้ภายในพร้อมกันกับผงสำคัญของหลวงปู่สีนั้น โดยตะกรุดนี้พ่ออาจารย์จะผูกดวงของผู้บูชาบรรจุไป ซ้ำจารหนุนเสริมด้วยเวทย์ธิเบต ท่านว่านี่แหละวิชาพระเจ้าผูกดวง เมื่อผูกแล้วย่อมไม่หนีไม่คลาย ผูกให้รวย ให้เป็นเศรษฐีมีทรัพย์นับคณา ย่อมกลายเป็นอื่นไปไม่ได้ ซึ่งตะกรุดพระเจ้าผูกดวงนี้ท่านว่าจะทำให้เฉพาะคนและบรรจุลงไปทีละดอกก่อนเป่ามนต์เศรษฐีหรือที่เรียกว่ามนต์รวยไม่จำกัดสำทับให้ทีละดอกต่อไป บรรจุไว้ภายในพร้อมผงหลอดกาแฟก่อนปิดผนึก

คาถาบูชา
จัตตาโรสติปัฏฐานา จัตตาโรอิทธิปาทาสัมมาอาชีโว นิจจังกาลัง ปิยังโหติ เทวะตาปินิปัตเตยยัง มหาเตชัง มหาตัปปัง พะเลเนเน เตเชชะยะตุ ชะยะมังคะลัง
- ขอความสำเร็จ อะอุมะ พุทธะกัสสะโปนามะ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ สัตตะนัตตะยานุภาเวนะ สะทาโสตถี ภวันตุเม อิทธิอิทธิ ฤทธิฤทธิ สิทธิสิทธิ ชัยยะชัยยั ลาภะอุตะเรนะ พุทธะนิมิตตัง อิติธัมมะนิมิตตัง อิติสังฆะนิมิตตัง พุทธังภควาอิติ
- เสี่ยงโชค เสี่ยงดวง อินทะยะสัง เทวะยะสัง พรหมมะยะสัง มหาอิสียะสัง มุนียะสัง มหามุนียะสัง ปุริสะยะสัง มหาปุริสะยะสัง จักกะวัตติยะสัง มหาจักกะวัตติยะสัง พุทธะยะสัง ปัจเจกะพุทธะยะสัง อรหันตะยะสัง สัพพะสิทธิวิชชาจรณะยะสัง สัพพะโลกาธิปติญาณะยะสัง สัพพะโลกาอิริยานังยะสัง เอเตนะยะเสนะ สัจจะวจเนนะมะมะสุวัตถิ โหนตุ มัยหัง สวาหายะ นะโมพุทธัสสะ นะโมธัมมัสสะ นะโมสังฆัสสะ เสยยะถีทัง หุลูหุลู สวาหายะ

ตะกรุดดอกครูจ้าวทรัพย์ (พระเจ้าผูกดวงให้ห้ามจน) พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ทำได้ทั้งหมดเก้าดอก ท่านว่าเมื่อจะใช้ให้ภาวนานึกถึงคุณพระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้าและองค์หลวงปู่สีเป็นที่สุด ซึ่งหลังจากมีคนทราบว่าพ่ออาจารย์ทำตะกรุดผูกดวงตำรับหลวงปู่สีก็มีคนจองไว้ทันทีห้าดอกแล้ว ดังนั้นสำหรับผู้ที่จะบูชาห้ามช้าเด็ดขาด พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้มีชีวิต มีตัวรู้ของศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้มีเจ้าของแล้วทุกดอก เมื่อจะสำเร็จต้องเชิญพระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้าและองค์หลวงปู่สีมาสำเร็จ เสกกันจนนิมิตเห็นมหาสมบัติเต็มเจ็ดคาบสมุทรให้คนได้ไปเหลือกินเหลือใช้ไปอีกเจ็ดชั่วชีวิตจึงสำเร็จ

* รับจองเฉพาะทาง PM สำหรับท่านที่จะบูชาให้แจ้งชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิดเวลาเกิดไว้อย่างละเอียดด้วย ในส่วนของเวลาเกิดนั้นถ้าไม่รู้ไม่เป็นไรท่านว่าให้บอกเป็นช่วงเวลามาว่าช่วงไหน เช้า เที่ยง บ่ายเย็นหรือกลางคืน ตะกรุดตัวนี้ท่านจะต้องใช้เวลาผูกดวงบรรจุจึงอาจกินเวลาบ้าง ท่านว่าถ้าจองก็ให้แจ้งรายละเอียดเอาไว้เลยท่านจะได้ผูกให้ รายได้สมทบทุนการศึกษาตลอดจนทำทานบารมีข้าวสารอาหารแห้งให้วัดที่ขาดแคลนจตุปัจจัยต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดดอกครูจ้าวทรัพย์ (พระเจ้าผูกดวงให้ห้ามจน) บูชา 4,000 บาท

 

เดี๋ยววันนี้ไปรับของที่ฝากเลี่ยมแล้วจัดส่งให้นะครับ

 

แจ้งการส่ง EMS

พี่วีระยุทธ ER 0394 6662 9 TH

พี่ปฏิภาณ ER 0394 6663 2 TH

พี่รังสรรค์ ER 0394 6664 6 TH

 

รายการเล่นเกมส์ติดตามรอบวันเสาร์อาทิตย์นะครับ

 

สวัสดีตอนเช้าครับ

พรุ่งนี้ก็จะเล่นเกมส์กันแล้ว ติดตามไว้นะ วันนี้เดี๋ยวมาพูดคุยกันต่อ

 

ตอบ pM ครบแล้ว พรุ่งนี้มาเล่นเกมกันนะครับ

 

ร่วมเล่นเกมส์ แจกตะกรุดมหาวนเวียน(สูตรปถมัง)

สำหรับการเล่นเกมส์วันนี้ ก็กำหนดเกมส์ง่ายๆขึ้นมา นั่นคือให้ผู้ร่วมเล่นทุกท่านหยิบยกประวัติพุทธสาวกทั้งหลายมาแนะนำแลกเปลี่ยนกันว่าแต่ละท่านมีประวัติความเป็นมาความสำคัญอย่างไร

แต่ในเกมส์นี้จะขอจำกัดลงไป เอาเฉพาะพระอสีติมหาสาวกและมหาสาวกผู้ได้ที่ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นเอตทัคคะทางด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งทั้งนี้พระอสีติมหาสาวกหรือพระสาวกผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้านั้นจะมีทั้งสิ้น 80 รูป และในส่วนของผู้เป็นเลิศคือมีความโดดเด่นในด้านต่างๆที่เรียกว่าเอตทัคคะก็จะมีอีก 41 รูปด้วยกัน ทั้งนี้บางองค์ก็มีฐานะเป็นทั้งอสีติมหาสาวกและมีความเป็นเลิศเป็นภิกษุเอตทัคคะทั้งสองอย่างในรูปเดียวกัน หรือบางองค์ก็จะเป็นพระอสีติมหาสาวกแต่ไม่ได้รับการยกย่องไว้ว่าเป็นเอตทัคคะด้านใดก็มี ซึ่งพระอสีติมหาสาวกก็ประกอบไปด้วย 1)พระอัญญาโกณทัญญะ2)พระวัปปะ3)พระภัททิยะ 4)พระมหานามะ5)พระอัสสชิ6)พระนาลกะ 7)พระยสะ 8)พระวิมละ 9)พระสุพาหุ 10)พระปุณณชิ 11)พระควัมปติ 12)พระอุรุเวลกัสสปะ 13)พระนทีกัสสปะ 14)พระคยากัสสปะ 15)พระสารีบุตร 16)พระมหาโมคคัลลานะ 17)พระมหากัสสปะ 18)พระมหากัจจานะ 19)พระมหาโกฏฐิตะ 20)พระมหากัปปินะ 21)พระมหาจุนทะ 22)พระอนุรุทธะ 23)พระกังขาเรวัตตะ 24)พระอานนท์ 25)พระนันทกะ 26)พระภคุ 27)พระนันทะ 28)พระกิมพิละ 29)พระภัททิยะ(กาฬิโคธาบุตร)30)พระราหุล 31)พระสีวลี 32)พระอุบาลี 33)พระทัพพะ(มัลลบุตร) 34)พระอุปเสนะ(วังคันตบุตร)35)พระขทิรวนิยเรวตะ 36)พระปุณณมันตานีบุตร 37)พระปุณณะ(สุนาปรันตกะ)38)พระโสณกุฏิกัณณะ 39)พระโสณโกฬิวิสะ 40)พระราธะ 41)พระสุภูติ 42)พระองคุลิมาล 43)พระวักกลิ 44)พระกาฬุทายี 45)พระมหาอุทายี 46)พระปิลินทวัจฉะ 47)พระโสภิตะ 48) พระกุมารกัสสปะ 49)พระรัฐบาล 50)พระวังคีสะ 51)พระสภิยะ 52)พระเสละ 53)พระอุปวาณะ 54)พระเมฆิยะ 55)พระสาคตะ 56)พระนาคิตะ 57)พระลกุนฑกภัททิยะ 58)พระปิณโฑลภารทวาชะ 59)พระมหาปันถก 60)พระจูฬปันถก 61)พระพากุละ 62)พระกุณฑธานะ 63)พระพาหิยะ(ทารุจีริยะ)64)พระยโสชะ 65)พระอชิตะ 66)พระติสสะเมตเตยยะ67)พระปุณณกะ 68)พระเมตตคู 69)พระโธตกะ70)พระอุปสีวะ71)พระนันทะ 72)พระเหมกะ 73)พระโตเทยยะ 74)พระกัปปะ75)พระชตุกัณณี 76)พระภัทราวุธ 77)พระอุทยะ 78)พระโปสาละ 79)พระโมฆะราช 80)พระปิงคิยะ

รวมไปถึงพระภิกษุเอตทัคคะด้านต่างๆ ดังนี้
พระอัญญาโกณฑัญญะ-เอตทัคคะในทางรัตตัญญู หมายถึง ผู้ราตรีนาน(พระภิกษุผู้เฒ่า) พระอุรุเวลกัสสปเถระ-เอตทัคคะในทางผู้มีบริวารมาก พระสารีบุตร-เอตทัคคะในทางผู้มีปัญญา พระมหาโมคคัลานเถระ-เอตทัคคะในทางผู้มีฤทธิ์(อิทธิฤทธิ์-ปาฏิหาริย์) พระปุณณมันตานีบุตรเถระ-เอตทัคคะในทางผู้เป็นพระธรรมกถึก(ผู้แสดงธรรม) พระกาฬุทายีเถระ-เอตทัคคะในทางผู้นำตระกูลให้เลื่อมใส พระนันทเถระ-เอตทัคคะในทางผู้สำรวมอินทรีย์(ตา-หู-จมูก-ลิ้น-กายใจ) พระราหุลเถระ-เอตทัคคะในทางผู้ใคร่ในการศึกษา พระอุบาลีเถระ-เอตทัคคะในทางผู้ทรงพระวินัย
พระภัททิยเถระ-เอตทัคคะในทางผู้เกิดในตระกูลสูง พระอนุรุทธเถระ-เอตทัคคะในทางผู้มีทิพยจักษุญาณ พระอานนท์-เอตทัคคะในทางผู้เป็นพหูสูตร เป็นผู้มีสติ เป็นผู้มีคติ เป็นผู้มีความเพียร และเป็นพุทธอุปัฏฐาก(5 ประการ) พระโมฆราชเถระ-เอตทัคคะในทางผู้ยินดีในจีวรเศร้าหมอง พระปิณโฑลภาระทวาชเถระ-เอตทัคคะในทางผู้บันลือสีหนาท(กล้าหาญในการประกาศวาจาองอาจยิ่งแม้ต่อหน้าพระพุทธเจ้าในความเป็นพระอรหันต์ของตน ถึงพร้อมสมบูรณ์ด้วยสติ-สมาธิ-ปัญญา สามารถแสดงฤทธิ์ได้เทียบเท่าพระมหาโมคคัลลานเถระ) พระมหากัจจายนเถระ-เอตทัคคะในทางผู้อธิบายความย่อให้พิศดาร พระสีวลี-เอตทัคคะในทางผู้มีลาภมาก พระโสณกุฏิกัณณเถระ-เอตทัคคะในทางผู้มีวาจาไพเราะ พระมหากัสสปเถระ-เอตทัคคะในทางผู้ทรงธุดงค์ พระราธเถระ-เอตทัคคะในทางผู้ว่าง่าย พระลกุณฏกภัททิยเถระ-เอตทัคคะในทางผู้พูดเสียงไพเราะ พระทัพพมัลลบุตรเถระ-เอตทัคคะในทางผู้จัดเสนาสนะ พระพากุลเถระ-เอตทัคคะในทางผู้ไม่มีโรคาพยาธิ พระวักกลิเถระ-เอตทัคคะในทางศรัทธาวิมุตติ(หลุดพ้นจากกิเลสด้วยศรัทธา) พระมหากัปปินเถระ-เอตทัคคะในทางผู้ให้โอวาทพระภิกษุ พระอุปเสนเถระ-เอตทัคคะในทางผู้นำมาซึ่งความเลื่อมใส พระเรวตขทิรวนิยเถระ-เอตทัคคะในทางผู้อยู่ป่า พระสุภูติเถระ-เอตทัคคะในทางอรณวิหารและทักขิเณยยบุคคล(เจริญฌานประกอบด้วยเมตตาและเป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน) พระพาหิยเถระ-เอตทัคคะในทางขิปปาภิญญา(ตรัสรู้เร็วพลัน) พระวังคีสเถระ-เอตทัคคะในทางผู้มีปฏิภาณ พระโสณโกฬิวิสเถระ-เอตทัคคะในทางผู้ปรารภความเพียร พระโสภิตเถระ-เอตทัคคะในทางระลึกปุพเพนิวาสานุสติญาณ(ระลึกชาติเก่าๆในอดีตกาลได้เสมอกับพระพุทธเจ้า) พระนันทกเถระ-เอตทัคคะในทางผู้ให้โอวาทภิกษุณี พระกังขาเรวตเถระ-เอตทัคคะในทางผู้เพ่งด้วยฌาน พระมหาปันถกเถระ-เอตทัคคะในทางผู้เจริญวิปัสสนา พระจูฬปันถกเถระ-เอตทัคคะในทางผู้ชำนาญในมโนมยิทธิ(ฤทธิ์ทางใจ) พระกุณฑธานเถระ-เอตทัคคะในทางผู้จับสลากเป็นที่หนึ่ง พระรัฐบาลเถระ-เอตทัคคะในทางผู้บวชด้วยศรัทธา พระกุมารกัสสปเถระ-เอตทัคคะในทางผู้แสดงธรรมอันวิจิตร พระมหาโกฏฐิตเถระ-เอตทัคคะในทางผู้แตกฉานในปฏิสัมภิทา 4(แตกฉานในอรรถ-ในธรรม-ในนิรุตติ(ภาษา)-ในปฏิภาณ) พระสาคตเถระ-เอตทัคคะในทางผู้ชำนาญเตโชสมาบัติ(ไฟ) พระปิลินทวัจฉเถระ-เอตทัคคะในทางผู้เป็นที่รักใคร่ของเทพยดา

เกมส์ในวันนี้ให้เรายกตัวอย่างประวัติพระภิกษุเหล่านี้มาพูดกันองค์ใดองค์หนึ่ง ในเรื่องของคุณธรรมและความสำคัญของท่านเพื่อจะได้อ่านเป็นคติสอนใจกันถือเป็นวิทยาทานให้ท่านทั้งหลายได้ร่วมกันทำบุญไปในตัว ซึ่งก็ได้ยกตัวอย่างรายชื่อของพระอสีติมหาสาวกตลอดจนพระภิกษุเอตทัคคะด้านต่างๆไว้ครบทุกองค์แล้วเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาและร่วมเล่นเกมส์ต่อไป

สำหรับเกมส์นี้จะแจกตะกรุดมหาวนมหาเวียนให้ ซึ่งบอกเลยว่าเป็นสูตรที่ทำยากสูตรหนึ่งเพราะพ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเรียกสูตรชักยันต์ด้วยสูตรปถมัง วิชานี้เป็นวิชาสำคัญที่มีวิธีใช้หลากหลาย

พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้บูชาตะกรุดก็มีพุทธคุณตรงตามชื่อคือวนเวียนเทียวไปเทียวมาหาเราไม่ขาด ไม่ลืม ไม่จากไป เป็นเมตตาและมหาเสน่ห์อย่างยิ่งยวดตามสูตรวิชาของพระเกจิแต่โบราณซึ่งหาได้ยากนักที่จะทำให้กับศิษย์ผู้ใด ท่านว่าสมัยนี้หายากที่ใครจะทำวิชามหาวนเวียนเต็มสูตรเพราะกลัวคนที่ได้ไปจะใช้ในทางไม่งาม ท่านว่าหนนี้จะทำรักษาวิชาไว้เสียวาระหนึ่ง เพาะว่าถ้าคนเอาไปใช้ทางทำมาหากินเค้าก็รวยไม่รู้เรื่องเนื่องจากมีแต่คนติดใจวนเวียนซ้ำซากอุดหนุนเราไม่จบสิ้น แม้เอาไปใช้ทางเสน่ห์ก็เป็นดุจเดียวกันคิดถึงคำนึงหาอยากเจอไม่รู้จบ หรือจะพลิกแพลงใช้ให้คนรักคนเมตตาเวทนาสงสารเราย่อมใช้ได้ทั้งหมด ท่านว่าตามเดิมวิชานี้จะต้องใช้ลงใส่จุดต่างๆห้าจุด แต่่ท่านนำมาลงเป็นตะกรุดเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้ได้สะดวกและใช้ได้ตลอดเวลา ที่สำคัญจะได้ไม่ผิดครูไม่ต้องมีข้อห้ามเวลาทำของเสื่อม เนื่องจากลงเป็นตะกรุดแล้วไม่มีเสื่อม นึกอยากใช้เมื่อไหร่ก็สามารถทำได้ด้วยตนเอง

ท่านว่าเวลาใช้ให้นึกถึงคุณพระพุทธเจ้าไว้นำตะกรุดเจิมหมุนวนบริเวณหน้าผากหนึ่ง หมุนเจิมแก้มซ้ายหนึ่ง ขวาหนึ่ง หมุนเจิมที่หน้าอกหนึ่ง และหมุนเจิมที่ฝ่ามือทั้งสองหนึ่ง โดยให้อาราธนาพระคาถาว่า นะละลวยหันตวา โมละลวยหันตวา นะเมตตา โมกรุณา พุทธปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู เมตตัญจะสัพพะโลกัสมิง มะมา มานะ

ท่านว่าเป็นตะกรุดที่ทำยากแต่ใช้ง่ายเพราะตอนทำต้องเรียกสูตรชักยันต์ต่างๆนั้นต้องกำกับคาถาไม่ได้ขาดและกว่าจะนำมาเสกจนสำเร็จในฤกษ์เฉพาะจึงไม่ใช่ของง่าย ท่านจึงมีดำริจะนำมาให้เล่นเกมส์กันซักครั้งเพื่อให้ทุกคนได้มีของดีไว้ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถทำและใช้ด้วยตนเอง ท่านว่าว่าตามแต่จะปรารถนาว่าจะเอาไปใช้ทางใดก็พิจารณากันเองตามแต่เห็นสมควร ขอให้เจริญก้าวหน้าร่ำรวยกันทุกคน

ก็กำหนดเล่นเกมส์ครั้งนี้จะให้เวลาสองวันเช่นเดิม ปิดเกมส์ในวันพรุ่งนี้คือวันอาทิตย์เวลาสี่ทุ่ม และจะให้ทำการโอนค่าจัดส่งให้แล้วเสร็จในวันจันทร์เผื่อที่จะรีบจัดส่งวันอังคารต่อไป

ก็ประกาศให้เริ่มเล่นเกมส์กันได้เลย