ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพ่อสมหวังบรรจุธาตุพระปัจเจก(ขอทรัพย์พระปัจเจก) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ฐิตกาญจน์ EW 2341 0618 7 TH

    พี่ภิญโญ EW 2341 0619 5 TH

    พี่นฤชา EW 2341 0620 0 TH

    พี่พรเทพ EW 2341 0621 3 TH
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    เกี่ยวกับเรื่องพระสังข์ที่นัดรับไปวันก่อน ก็เห็นโทรมาเล่าให้ฟังว่าแค่นำกลับบ้านแกะซองที่ใส่พระสังข์ไว้ ก็มีคนกรีดร้องโหยหวนหงายหลังล้มลงไป ซึ่งพี่คนนี้ก็ได้เล่าให้ฟัง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่มีอะไร เพียงแต่ท่านพูดน้อยๆว่าเห็นมั๊ย รู้หรือยังว่าตาขอนั้นทำได้หลายอย่าง ไอ้คนที่อาการออกแบบนั้นแสดงว่าในตัวเค้ามีวิญญาณเกาะกินอยู่ พอตื่นขึ้นมาก็จะเห็นเองว่าหน้าเขาดูสดใสขึ้นกว่าแต่ก่อนที่แก้อย่างไรก็ไม่หาย

    ก็ได้ลองบอกพี่เขาไป พี่เขาว่าเออจริง เมื่อก่อนหน้าหมองมาก ตอนนี้ดูมีราศีขึ้น ไม่คิดว่าแค่เอาเข้าบ้านก็จะเจอะจังๆเลยเพราะญาติพี่กรี๊ดอย่างกับผีออก แต่องค์พระสังข์ในถุงตอนนั้นท่านร้อนมือมากจนพี่แปลกใจ
    **ก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่อามาเล่าให้ฟังกันว่าอย่าประมาทตาขอ เขาทำอะไรได้มากกว่าที่คิด
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ร่วมทำบุญบูชา พยนต์อาถรรพ์ปะขาวไม้ขอ(ชุดพิเศษเปิดวาสนา มหาสะกด บังคับ ควบคุม)

    "อะไรที่มันจะหลุดไม่ถึงวาสนาเราก็เอาขอเกี่ยวไว้ได้ทั้งสิ้น"

    พยนต์อาถรรพ์ปะขาวไม้ขอ

    ย้อนไปสมัยท่านออกป่าพ่ออาจารย์ท่านเห็นตาปะขาวเดินหายไปในดงไม้ขอท่านจึงได้พลีไม้เหล่านั้นมาบอกกล่าวและเชิญตาปะขาวนั้นกลับมาอยู่ด้วยเพื่อจะได้หาโอกาสให้สร้างบารมีช่วยเหลือคนต่อไป

    ภายหลังท่านได้มีนิมิตให้นำไม้ขออาถรรพ์ตาปะขาวนั้นมาแกะเป็นรูปร่างตะขอทรงแปลกๆ ทั้งเมื่อทำยังต้องเบิกเนตร ใส่คิ้วใส่ตาวาดปากลงอักขระบังคับตามที่ตาปะขาวบอกลงในไม้ขออาถรรพ์นั้นเรียกว่านำมาแกะตามนิมิตนั่นถึงจะใช้ได้ เสร็จแล้วท่านก็บอกกล่าวเชิญให้ตาปะขาวท่านทำเต็มที่ของท่านเลย สุดท้ายท่านมาตรวจดูจึงรู้ว่าไม้ขอที่แกะนั้นเขาทำให้ด้วยวิชาพยนต์ เป็นพยนต์ตัวแทนของเค้า เป็นพยนต์ตาปะขาวเจ้าป่าที่มีอานุภาพเป็นเอกลักษณ์นั่นเอง

    ท่านว่า
    ปกติไม้ขอนี้เมื่อนำมาลงอาถรรพ์ ใครพกไว้ไปเอ่ยปากขออะไรเขาก็ยกให้ เพราะเป็นขอเกี่ยวใจเขาไว้ทั้งหมด อะไรที่มันจะหลุดไม่ถึงวาสนาเราก็เอาขอเกี่ยวไว้ได้ทั้งสิ้น ท่านว่าพอตรวจดูก็รู้ว่าไอ้อาถรรพ์ประเภทนี้นั้นคนไม่ค่อยได้ใช้ได้เห็นกันมากเท่าไหร่ เพราะเป็นของเฉพาะคนอย่างแท้จริง ดุจทนสิทธิ์ที่มีเจ้าของ มีเทวดาตามรักษาเป็นเงาตามตัวเช่นนั้น ดังนั้นสมัยก่อนใครบริจาคทองคำหุ้มยอดเจดีย์บ้าง ใครบริจาคทองคำเทยอดเจดีย์บ้าง ท่านก็จะเอาพยนต์ปะขาวไม้ขอนี้มอบให้เขาไป พ่ออาจารย์ท่านว่าคนใช้เขามาเล่าว่าเห็นกันเป็นตัวเป็นตน วางเอาไว้ตรงไหนก็เห็นตาปะขาวอยู่ตรงนั้น บางคนก็ว่าคนในบ้านเห็น ทั้งเวลาขอสิ่งใดก็ล้วนเห็นความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วอย่างน่าประหลาด...พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละอาถรรพ์แท้จริงของวิชาขอ ยิ่งกว่าชูชกหรือสิ่งใดๆทั้งสิ้นเพราะเป็นรูปเนรมิต ให้ขอได้ขอดี ขอไปเถอะ ขอให้ได้ให้มีสุดที่จะขอที่จะเกี่ยว เพื่อให้คนที่ชอบขอเขาได้ขอได้มีกันสมความหวังและเจตนาเขา

    พ่ออาจารย์ท่านนำพยนต์อาถรรพ์ไม้ขอซึ่งทรงอิทธิคุณด้วยเทพฤทธิ์ของเจ้าป่าตาปะขาวชุดเก่าซึ่งท่านทำวิชาผูกกับขอวิเศษเนื้อกายสิทธิ์ธาตุที่ท่านเสกลงสะกด ข่ม บังคับ อาถรรพ์และคุณวิชาทั้งปวงไว้อีกคำรบหนึ่งมาผูกเข้าด้วยกัน ท่านว่าตาขอนี้เป็นยอดอาถรรพ์ เป็นขอเหมือนกันแต่มากกว่าขอ เพราะเป็นตาขอไม่ใช่ตะขอธรรมดา พ่ออาจารย์ท่านจึงต้องการเล่นฤทธิ์โดยใส่ตะขอมงคลเพื่อเพิ่มอานุภาพให้ตาขอด้วย ท่านว่าต่อไปนี้ตาขอนอกจากใช้ขอแม้แต่เลือดในอกคนแล้วยังมีอานุภาพของตะขอที่ใช้ในการเกี่ยว การเหนี่ยวรั้งไว้ การสะกด ข่ม บังคับ ปักอาถรรพ์.. อีกประการคำว่าขอก็คือได้ เป็นคำมงคล

    อันตะขอนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีที่มาจากคชกุศ ซึ่งเป็นยอดศาสตราและเป็น ๑ ใน ๘ สิ่งมงคลของพราหมณ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าการจะสร้างคชกุศตามตำราพราหมณ์นั้นไม่ใช่ว่าจะเสกส่งเดชได้ เพราะนอกจากจะต้องลงอานุภาพแห่งองค์นารายณ์แล้ว ยังต้องลงอานุภาพของพระศรีเคณศด้วย

    ปกติแล้วขอสับช้างนั้นเปรียบเสมือนสิ่งมงคลและอาวุธประจำกายของควาญช้าง เพื่อที่จะใช้สั่งการช้างให้ทำตามคำสั่งอย่างที่เราสามารถพบเห็นกันได้ทั่วไป ซึ่งบางที่เรียกว่า ตะขอช้าง บ้าง ขอสับช้างบ้าง ขอจ๊างบ้างแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น ทั้งยังเป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญของพระพิฆเณศวรเจ้า สังเกตได้จากรูปปั้นหรือภาพวาดโบราIที่พระพิฆเณศวรจะถือตะขอช้างเอาไว้ในมือ อันเป็นเครื่องหมายถึงการขจัดเสียซึ่งอุปสรรค ขจัดภัย และเป็นบารมีมหาอำนาจเป็นมหามงคลอีกด้วย(พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ใดมีขอวิเศษที่ท่านลงเสกตามตำรับพราหมณ์นี้ จะแสดงออกถึงมหาอำนาจการสะกดข่มโดยบริบูรณ์ต่อสรรพชีวิต)

    ด้วยถือกันมาแต่โบราณว่าคชกุศหรือขอช้างนั้นย่อมเป็นเครื่องหมายแห่ง บารมี อำนาจวาสนา ความสำเร็จ ทั้งยังขจัดอุปสรรค สมควรที่ผู้ที่เคารพศรัทธาในพระพิฆเณศวรหรือต้องการความสำเร็จในเรื่องต่างๆจะบูชาไว้ และยังเชื่อว่าผู้ใดมีขอวิเศษนี้ยังเป็นผู้มีวาทะศิลป์เป็นเลิศสามารถพูดจาหว่านล้อมให้คนนับถือเชื่อฟังอีกด้วย ด้วยเหตุว่าคชกุศเป็นของมงคลมีพลังที่เปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังแห่งการบังคับที่สามารถค้ำคูณดวงชะตาและข่มสรรพอาถรรพ์ คุณไสย และสิ่งไม่ดีต่างๆได้อย่างชะงัด อุปมาดั่งสิ่งเล็กๆเพียงแค่นี้ก็มีอำนาจข่มสัตว์ใหญ่ที่มีอาถรรพ์มากเช่นช้างป่าให้เกรงกลัวและทำตามได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะอย่างนี้ท่านจึงตั้งใจทำตะขอแฝงอิทธิคุณผูกไว้กับพยนต์ไม้ปะขาวตาขออีกชั้นหนึ่ง

    หลายคนเข้าใจว่าอันตะขอนี้เป็นเพียงเครื่องมืออย่างเลวชนิดหนึ่งเท่านั้น แต่พ่ออาจารย์ท่านกลับเข้าใจและเข้าถึง ท่านว่านี่แหละเครื่องรางสิริมงคล นี่แหละศาสตราวุธวิเศษที่ยากจะหาผู้รู้ได้น้อยเต็มที จำเอาไว้นะพวกเธอว่าไอ้ตะขอที่เราทำนี้เสกยากเพียงไหน ฉันบอกได้แค่ว่าเครื่องรางสิริมงคลนี้มีแรงครูที่สูงมาก แล้วอะไรก็ตามที่ได้ชื่อว่าแรงครูสูง ของเหล่านั้นมักมีค่าพอที่จะเปลี่ยนชะตาชีวิตคนได้อย่างง่ายดาย ด้วยตะขอนี้เป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือกันในหมู่ผู้ศึกษาพระเวทย์ที่รู้ลึกรู้จริงว่าเป็นของมงคลที่หาได้ยากยิ่งและมีอานุภาพสูงหลายประการคือ เป็นของโภคทรัพย์จากการเป็นขอ มีลักษณะงอหมายถึงการเกี่ยว การเหนี่ยวรั้งไว้ อีกประการคำว่าขอก็คือได้เป็นคำมงคล ยิ่งขอที่พ่ออาจารย์ท่านประจุอาคมนั้นยังเป็นเครื่องรางชั้นยอดเพราะต้องนำมาเสกแช่น้ำมันที่มีส่วนผสมของเศษเชือกประกำ ตะไคร่เสาตะลุงช้างเผือก น้ำมันช้าง ผงวิเศษจากการลบยันต์หัสดี ยันต์หนุมานหักคอช้างเอราวัณ นะคชสาร เช่นนั้นจึงเป็นของมีอานุภาพสูงเพราะมีเทพวิญญาณสิงสถิตย์ในตะขอ เป็นศาสตราวุธที่มีวิญญาณเช่นนั้นเอง

    แม้ทางโชคลาภก็เช่นกัน คนโบราณจะนำตะขอมาเสกเพิ่มอาถรรพ์เพราะเชื่อสืบมาแต่บรรพบุรุษว่าแรงเสียยิ่งกว่าตั้งนางกวักไว้ในบ้านถึงร้อยองค์ ทั้งหากได้มีติดบ้านหรือติดตัวผู้ใดแล้วยังเป็นของมงคลคุมอาถรรพ์ ด้วยเชื่อว่ามีอานุภาพบังคับได้ทุกสิ่งให้เป็นไปในทางดี(บังคับได้แม้แแต่คนที่อยู่สูงกว่าเรา มีวาสนาดีกว่าเรา มีอำนาจมากกว่าเรา) บังคับให้ทุกอย่างในชีวตเราร่มรื่น ราบเรียบ บังคับไม่ให้เหตุแห่งทุกข์หรืออาถรรพ์วิญญาณร้ายทั้งหลายนั้นกำเริบก่อความเดือดร้อนขึ้นมา แม้หากผู้มีทรงวิทยาคมหรือมีตบะแก่กล้าอื่นจะมาลองดี ลองวิชา คนเหล่านั้นก็จะแพ้ภัยตัวเองไปเพราะอำนาจตะขอที่พ่ออาจารย์เชิญเทพวิญญาณครูประกำนั้นสามารถใช้สะกดอาคมไว้มิให้แสดงฤทธิ์ได้นั่นเอง จึงนับว่าเป็นของดีที่ไม่ค่อยพบเห็นมากนักทั้งผู้รู้เรื่องก็มักปกปิดเก็บเงียบอมพะนำเสียก็เลยไปกันใหญ่

    พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยขอสับช้างนั้นมีขนาดใหญ่โตมาก แม้นำมาลงอาถรรพ์ก็ทำได้เพียงบูชาไว้ในบ้าน ยากแก่การพกพาไปในที่สาธารณะให้คนจับตามอง ท่านว่าเช่นนั้นท่านจึงหล่อเป็นชิ้นเล็กและเชิญครูประกำลงวิชาเชิญสองมหาเทพทั้งองค์นารายณ์และพระเคณศมาประสิทธิ์เทพวิชาเก็บเอาไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นเล็กๆอย่างนี้ก็ใช้ได้เหมือนกันไม่ต่างกันเลย มีความเชื่อสืบกันมาแต่โบราณว่าตะขอนี้ดีในทางควบคุมคนให้อยู่ในอำนาจด้วย เพราะเคยมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมีผู้ใต้บังคับบัญชาไม่อยู่ในโอวาทกระด้างกระเดื่อง ด้วยถือดีว่าเป็นคนดีมีวิชาเหมือนกัน ก็เลยแก้อาถรรพ์ด้วยเขียนชื่อแล้วเอาขอช้างสับสะกดไว้ปรากฏว่าเจออีกทีหงอเชื่องเชื่อฟังแต่โดยดี แม้ใช้ในการปราบผีหรือข่มอาถรรพ์ก็ยังให้ผลชะงัดมาก เล่ากันสืบมาว่าในศาลาวัดหนึ่งมีผีนางไม้ดุมากคอยรบกวนผู้พักอาศัยให้เดือดร้อนอยู่เนืองๆ จนไม่มีผู้กล้าพักอาศัยยามค่ำคืนและเป็นผีที่เหลือมือหมอคือเป็นประเภทพฤกษาเทวา อาคมธรรมดาจึงไม่สามารถสะกดอยู่ จนวันหนึ่งนางไม้นี้มาสิ้นฤทธิ์อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อมีคนคณะหนึ่งเดินทางมาผ่านพักที่ศาลาหลังนี้พอนางไม้เริ่มออกฤทธิ์เขย่าศาลาหัวหน้าคณะไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะไม่เคยเรียนมนตร์ปราบผี นึกถึงความศักดิ์สิทธิ์องค์ครูประกำได้ก็เอาตะขอช้างนี่สับไปที่เสาตกน้ำมันที่นางไม้นี้อยู่ ปรากฏว่าทีเดียวเท่านั้นนางไม้นั้นสิ้นฤทธิ์หมดพิษสงสงบเสงี่ยมเงียบจ๋อยไม่มารบกวนอีกเลย อ้าวก็ช้างตกมันตัวเบ้อเร่อเบ้อเท่อขออันเดียวยังสะกดอยู่เลยนางไม้ตัวเล็กๆจะเหลืออะไร เพราะในทางไสยเวทช้างเป็นสัตว์ที่มีรังควาน(อาถรรพ์ แรงเป็นสัตว์ที่มีฤทธิ์หรือมีดีในตัว

    เช่นนั้นจึงสรุปความว่าตะขอนี้เป็นของมงคลพิเศษที่มีทั้งศรีคือความเป็นมงคลและเดชคืออำนาจในการสะกดข่มอยู่ในตัว ให้คุณด้านโชคลาภค้าขายเก็บเกี่ยวเงินทองลูกค้า มีอำนาจเป็นใหญ่ผู้คนนับถือเกรงกลัวมีบารมีดุจช้าง ลูกน้องเชื่อฟังหัวหน้าเชื่อฟัง(***แม้หากโดนผู้ใดกดขี่ข่มเหงทั้งการงาน สังคม ชีวิตครอบครัว หรือปยากปราบอยากข่มใครไว้ใต้อำนาจเรา ใช้ได้แม้แต่ศัตรูหรือคู่แข่ง ให้เขียนชื่อนามสกุลคนนั้นลงในกระดาษรูปภาพเขาแล้วนำขอนี้สับลงไปจะทำให้ผู้นั้นเชื่อฟังเคารพเรา หงอเชื่องเชื่อฟังแต่โดยดี) ซ้ำยังแก้อาถรรพ์ แก้อาการผิดสำแดง สะกดอาคม หากอยู่ในบ้านจะควบคุมอาถรรพ์บังคับทุกสิ่งให้เป็นไปในทางที่ดีไม่ให้กำเริบนำความเดือดร้อนมาให้ แม้ใครมาลองดีลองวิชาก็แพ้ภัยตัวเอง เพราะโดนตาขอสะกดไว้ไม่ให้แสดงฤทธิ์นั้นเอง

    คาถาบูชา
    มโหทโรมหากาโย คชพักโตรมหัพพโล นาโคนาคยชโยโหติ ศิวปุตโตมหิทธิโก คชธโร คชสิทธิ ภวันตุเต เอกทันตะปรมรังโส นาคัภระณะภูสิโต กัมมธาโร กัมมธาโร กัมมสิทธิ ภวันตุเต โอม เห เห เห คชลักขณะ เตเชนะ คัชโช คชสวาหะ

    ***ตาขอชุดนี้เป็นของพิเศษ พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ให้เฉพาะการณ์และของมีจำนวนน้อย ทำไว้ให้คนที่โดนข่ม โดนรังแก คนที่อยู่ในอำนาจผู้อื่น คนที่อยากจะเป็นไท เป็นอิสระจากสิ่งหน่วงถ่วงอยู่ในชีวิต ท่านว่าก็ให้มาอาราธนาไว้ ถ้าอยากเป็นผลไวหน่อยก็พกไว้คู่หนึ่ง อันหนึ่งเป็นเครื่องรางติดตัวไว้ไม่ห่างกาย อันหนึ่งไว้ในที่อยู่อาศัย วางไว้ใต้หมอนที่เรานอนหรือที่หิ้งพระ หิ้งเทพที่เราบูชา ในจุดที่เรากราบไหว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นอาถรรพ์แก้เคล็ดเวลาขออะไร ขอพรอะไรแล้วไม่ได้ ต่อไปจะได้ขอได้บอก ได้อธิษฐานกับสิงศักดิ์สิทธิ์ได้

    ร่วมทำบุญบูชา พยนต์อาถรรพ์ปะขาวไม้ขอ(ชุดพิเศษเปิดวาสนา มหาสะกด บังคับ ควบคุม) บูชา 1,500 บาท

    48417092-285328095464438-5154733479946092544-n.jpg i4zug.jpg 48414147-2161500600833948-6335325457386307584-n.jpg
    48420713-361972544603064-1537006960870686720-n.jpg
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่แมน EW 2341 0784 5 TH

    พี่วัชรพันธ์ EW 2341 0785 4 TH

    พี่คณพศ EW 2341 0786 8 TH

    พี่ลัทธพล EW 2341 0787 1 TH

    พี่วีระพัฒน์ EW 2341 0788 5 TH
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    8 วิธี ทำบุญโดยไม่ต้องใช้เงิน

    การบริจาคเงิน ทอง หรือของมีค่า คือวิธีทำบุญที่เราคุ้นเคยกันมานานจนอาจลืมไปว่า ยงมีวิธีทำบุญอีกหลายแบบ ที่ส่งผลต่อจิตใจทำให้จิตใจผ่องใสและได้ผลบุญไม่ต่างกัน ถือเป็นวิธีทำบุญโดยไม่ต้องใช้เงินว่าแต่…เราต้องทำบุญกันอย่างไรนะ มาอ่านวิธีทำบุญโดยไม่ต้องใช้เงินกัน

    วิธีที่ 1 รอยยิ้มสร้างบุญ
    การมอบรอยยิ้มที่จริงใจถือเป็นการทำบุญที่ง่ายที่สุด รู้ไหมว่าทุกครั้งที่คุณมอบรอยยิ้มให้ใครจะก่อให้เกิดความสุขในใจของผู้รับเสมอ ใครจะไปรู้ว่าบางทีบางครั้งวันทั้งวันเขาอาจเจอเรื่องราวหนักหนามาแต่แล้วก็มีรอยยิ้มสดใสของคุณช่วยเป็นหนึ่งกำลังใจให้เขา รอยยิ้มเล็กๆนี้อาจช่วยเปลี่ยนวันเวลาแห่งความเศร้าหมองของเขาให้กลับมาสดใสอีกครั้งก็เป็นได้ ที่สำคัญคือความสุขที่คุณมอบให้ผู้อื่นนี้ก็ไม่ได้หายไปไหนแต่สะท้อนกลับมาเป็นบุญเป็นความสุขใจแก่คุณด้วยเช่นกัน

    วิธีที่ 2 คำชมปลอบโยนจิตใจ
    เพียงคำชมสั้นๆที่คุณเปล่งออกมาด้วยความจริงใจ ก็สามารถช่วยให้ผู้รับมีความสุขได้ยาวนานกว่าที่คุณคาดไว้เสียอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคนๆนั้นกำลังวิตกกังวลหรือรู้สึกไม่มั่นคงในจิตใจ คำชมที่ออกมาจากใจของคุณจะช่วยเพิ่มพลังให้เขาได้อย่างที่คุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

    วิธีที่ 3 มองโลกในแง่ดี มีแต่ความสุข
    การมองโลกในแง่ดีเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย อีกทั้งยังทำให้ใจของคุณรู้สึกเบาสบายขึ้นด้วย เพราะการมองโลกในแง่ดีนั้นทำให้คุณไม่นั่งจับผิดคิดร้ายและไม่เพ่งโทษใคร แม้ในยามที่คุณกำลังทุกข์เพราะคนอื่น การมองโลกในแง่ดีนี้จะช่วยให้คุณทุกข์ไม่นานและมีความสุขมากขึ้น เมื่อใจสุขจิตก็เบาสบายบุญกุศลก็จะบังเกิด

    วิธีที่ 4 พลังแห่งการ “ให้”
    คุณสามารถบริจาคสิ่งของเครื่องใช้หรือสิ่งใดก็ได้ที่เคยเป็นของคุณ แล้วแบ่งปันส่งต่อให้คนอื่น อาทิเสื้อผ้าหนังสือที่คุณไม่ได้ใช้แล้วหรือแม้แต่เลือดและอวัยวะร่างกาย ซึ่งการแบ่งปันนี้จะช่วยลดโมหะหรือความหลงผิดในตัวตนว่านี่เป็นของฉัน อีกทั้งยังช่วยลดโลภะหรือลดความตระหนี่ลงไปด้วย แล้วคุณจะพบว่าสิ่งของที่สละไปเทียบไม่ได้กับความสุขใจที่ได้รับกลับมา

    วิธีที่ 5 “ให้” สุดประเสริฐ คือ “ให้อภัย”
    การ “ให้” อีกอย่างหนึ่งที่ได้บุญไม่แพ้กันนั่นคือ “ให้อภัย” แม้เป็นคำสั้นๆแต่ทำได้ยากยิ่ง เพราะคนที่คุณต้องให้อภัยส่วนใหญ่คือคนที่เคยทำให้คุณเจ็บช้ำน้ำใจหรือเคยทำร้ายคุณมาก่อน แต่เชื่อเถอะว่าการให้อภัยที่ออกมาจากใจจริงนั้นให้คุณประโยชน์อนันต์ เพราะนอกจากจะเป็นการปลดห่วงโซ่แห่งความบาดหมางระหว่างกันแล้วจิตใจของคุณจะรู้สึกโล่งเบาสบายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลย

    วิธีที่ 6 อานิสงส์ของการอนุโมทนาบุญ
    คำว่า “อนุโมทนา” คือการ ยินดีตาม ยินดีด้วย พลอยยินดี เพียงคุณเห็นคนอื่นทำความดีแล้วพลอยยินดีมีความสุขและอนุโมทนาบุญไปกับเขาหรือแค่กล่าวคำ“สาธุ”จากใจ หากมีใครนำบุญมาฝากจิตอันเป็นกุศลนี้จะทำให้คุณเกิดความปีติเบิกบานใจราวกับคุณได้ทำบุญนั้นด้วยตัวเองเลยทีเดียว

    วิธีที่ 7 แค่ศีล 5 ก็เพียงพอ
    เพียงถือศีลทั้ง 5 ข้อ ที่เราก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ทั้งการไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่พูดปด รวมทั้งไม่ดื่มสุราและของมึนเมา คือแหล่งสะสมบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ หากคุณตั้งใจปฏิบัติอย่างไม่บิดพลิ้วอานุภาพของการทำความดีละเว้นความชั่วนี้จะส่งผลให้ชีวิตของคุณมีแต่ความปกติสุข อีกทั้งยังทำให้คุณมีแรงกายและพลังใจที่จะทำความดีอื่นๆตามมาอีกด้วย

    วิธีที่ 8 ปฏิบัติธรรม ที่สุดของบุญ
    การทำบุญที่ได้รับผลบุญสูงสุดและก้าวเข้าใกล้นิพพานมากที่สุดคือการปฏิบัติธรรม ซึ่งมีหลากหลายวิธีให้เลือกปฏิบัติตามความถนัดเช่น การตามดูลมหายใจเข้า-ออก เฝ้าดูกายที่เคลื่อนไหว เป็นต้น ซึ่งทุกวิธีนั้นมีจุดมุ่งหมายที่สำคัญอย่างเดียวกันคือ การฝึกสติให้รู้เท่าทันจิตของตนเองจนเกิดปัญญารู้แจ้งและได้บรรลุธรรมในที่สุด


    ผลบุญจากการที่คุณได้ใช้แรงกายและความตั้งใจในการทำด้วยจิตอันบริสุทธิ์ย่อมมีพลังและอานิสงส์มากกว่าบุญที่ได้มาเพราะการบริจาคเงินตราแต่ไร้ซึ่งแรงศรัทธาอย่างแท้จริง

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่พรเทพ EW 2343 7994 5 TH

    พี่ทวีพงษ์ EW 2343 7995 4 TH
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    หลายคนกลับบ้านต่างจังหวัด หลายคนไปเที่ยว หลายคนไปทำบุญกันหมดแล้ว แต่บางคนก็เพิ่งทยอยไปก็ขอให้เดินทางกันดีๆนะครับ ใครจะฝากคำถามอะไรก็ PM ไว้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2018
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    เกี่ยวกับกิจกรรม

    ของที่จะเปิดให้ร่วมกิจกรรมพรุ่งนี้ ก็ไม่มีอะไรมากเพราะตั้งใจแจกจริงๆจำกัดเพียงคนละหนึ่งสิทธิ์ ซึ่งจะมี 30 รางวัล บอกเอาไว้ก่อนเลยว่าเป็นของที่พ่ออาจารย์ท่านทำไว้แก้ดวงสำหรับคนที่ดวงชง ดวงตกเหล่านี้

    ซึ่งตั้งใว่าจะเปิดสองวัน แต่ของมีจำนวนน้อยก็คงจะเต็มภายในวันเดียวอีกเช่นเคย ดังนั้นผมจึงออกมาบอกก่อนว่าใครเร็วใครได้ จะไม่มีการจับฉลากใดๆแจกกันง่ายๆ แค่ของหมดคือจบ เพราะผมต้องการแต่คนมีความรับผิดชอบและอยากได้จริงๆสามสิบสิทธิ์ สามสิบคนแรกแค่นั้น ใครไม่ได้ก็อย่าโวยเพราะเราให้สิทธิ์เท่ากัน ถ้าช้าเองก็อย่ามาโทษกัน

    ก็แจ้งกติกาคร่าวๆ จะได้ส่งกันถูก ส่งกันไว โดยผมจะให้คนที่ต้องการ PM ขอรับพร้อมแจ้งที่อยู่รวมถึงโอนค่าจัดส่ง 100 บาทไว้เพียงเท่านั้น ไปรษณีย์เปิดเมื่อไหร่ผมจะส่งของให้ นับแค่ 30 PM แรกแค่นั้น***ซึ่งอาจจะไม่ครบด้วยเพราะผมจะมีกรณีพิเศษอยู่ แล้วก็เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นในกระทู้ จึงขออนุญาติให้สิทธิ์เฉพาะคนในกระทู้เล่นกัน ไม่เปิดรับยอดจากทางใดทางหนึ่งเช่นไลน์หรือโทรศัพท์ ไม่ต้องทักมาเลย

    โดยรายละเอียดเครื่องมงคลก็จะลงให้วันพรุ่งนี้รอบเช้าเป็นการเปิดกิจกรรม พอเต็มแล้วผมจะมาแจ้ง เพราะช่วงนี้ก็รอส่งของที่ทยอยโอนกันมาวันละคนสองคนกันทุกวันจนไม่ได้ไปไหนแบบใครๆเขาเลยเพราะเราเกรงใจท่าน ดังนั้นผมจะเปิดให้เล่นกิจกรรมแค่ของหมด ***ซึ่งในบางกรณีก็อาจจะมีบางยูสเซอร์ที่เค้าบูชากันมาเป็นครอบครัว เค้าจะขอให้ครบคนในครอบครัวเขาก็ไม่แปลก แต่ให้อยู่ในวงจำกัดว่าเอาไปใช้คนละชิ้นแค่นั้น จะกี่คน สองคน สามคนผมก็ไม่ได้ว่า ถ้าเป็นสมาชิกที่เคยบูชาเครื่องมงคลผมอนุญาติเพราะว่านั่นก็เป็นสิทธิ์ของเค้าเหมือนกัน และเวลาเค้าเช่าเค้าก็รวมๆฝากกันมา แต่ขอกำหนดไว้ว่าอย่าเกินยูสเซอร์ละสองชิ้นแล้วกันเพราะของมีน้อย แต่ถ้ามาแบบโนเนมขอให้ครบคนในครอบครัวซึ่งผมไม่คุ้นชื่อผมก็จะขอตัดสิทธิ์ทันที และรายการนี้เราเน้นคนโอนไวเพื่อรักษาสิทธิ์ตัวเอง ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ดองของแจกแบบทุกครั้ง ดองจนเราไม่อยากจัดกิจกรรม ไม่อยากแจกอีกเลย เพราะเพียงแค่ของแจกเหล่านี้กับค่าส่ง100บาท ก็ยังดองกันได้เป็นครึ่งเดือน บางคนสองสามเดือนจนเราลืมไปแล้วก็มีในสมัยก่อน กับรายการของแจกที่เราต้องมานั่งย้อนกระทู้ ย้อน PM เขาไม่รู้กี่หน้าหาข้อมูลตอนจัดกิจกรรมเพราะเพิ่งโอนค่าส่งเข้ามาหลังจากแจกไปแล้วครึ่งปีก็มี เพื่อป้องกันคนประเภทนี้ผมจึงขออนุญาติเอาฤกษ์สะดวกเข้าว่า ใครพร้อมก็เอาไปแค่นั้น ถ้าเต็มเดี๋ยวผมจะประกาศปิดกิจกรรมอีกที สำหรับคนที่ได้ผมจะพิมพ์คำว่าโอนค่าจัดส่งไว้เลยครับ เป็นอันรู้กัน *** ก็อยากให้ทำกันให้ไว ให้ถูกกติกาจะได้มีกิจกรรมอะไรออกมาเรื่อยๆ เพราะถ้าผมดองกิจกรรมไว้นานๆ ขอให้รู้ไว้เถอะว่าผมไม่ไหวกับคนบางประเภทจริงๆจึงไม่อยากจัด ไม่อยากเอ่ยปาก


    * ปีใหม่นี้ก็ขอส่งความปรารถนาดีให้ทุกท่านมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่มีโรคภัยเบียดเบียนดำเนินชีวิตแบบมีสติ มีโชคลาภ มีความฝัน มีความปรารถนา แล้วก็มีไฟทำความปรารถนาเหล่านั้นให้สำเร็จ ขอให้ปีต่อไปมีแต่เรื่องดีๆกันนะครับ *-*

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ร่วมกิจกรรม แจกลูกอมสมดุลย์ห้าธาตุเข้าตะกรุดคุ้มครองดวงชะตา (กันชง)

    สำหรับคำว่า ปีชง มาจากความเชื่อทางโหราศาสตร์ของจีนโดยเกี่ยวข้องกับองค์เทพไท้ส่วย หรือที่รู้จักกันดีในนาม“เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา” ซึ่งเป็นเทพผู้ทรงอิทธิฤทธิ์และมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในแต่ละปี คำว่า “ไท้ส่วย” ยังมีความหมายถึงดาวพฤหัสบดีในภาษาจีนโบราณ ซึ่งดาวพฤหัสบดีนี้เองก็ถือว่าเป็นประธานของดาวศุภเคราะห์ ซึ่งหมายถึง คุณธรรม ความดี โชคลาภ ทรัพย์สิน ในความเชื่อทางโหราศาสตร์ของไทย ดังนั้นจึงมีการเชื่อมโยงว่าหากดาวพฤหัสบดีไม่ดีในความเชื่อทางโหราศาสตร์ไทย หรือหากปีนักษัตรใดปะทะหรือได้รับผลร้ายจากเทพ “ไท้ส่วย” จะทำให้ปีนั้นจะเป็นปีที่ได้รับผลไม่ดี หรือที่เราเรียกว่า ปีชง นั่นเอง

    เรื่องของปีชงนั้นเป็นเรื่องความเชื่อทางโหราศาสตร์จีน “ปีชง” หมายถึง คู่ปีเกิดที่ไม่ถูกกัน ซึ่งมีหลักการในการดูง่ายๆ คือ คนที่อายุต่างกัน ๖ ปี ถ้านับตามปีเกิด ก็คือปีที่อยู่ตรงข้ามกัน โดยหลักจะเชื่อว่าปีที่อยู่ตรงกันข้าม เป็นปีคู่กัด เป็นปีที่จัดว่าเป็นปรปักษ์กัน คนจีนมักจะใช้ปีชงมาอิงกับการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการงาน การหาคู่ครอง หรือ ปัญหาครอบครัว เช่นถ้าปีชงจะไม่นิยมลงทุนอะไรใหม่ๆ ไม่นิยมเริ่มต้นชีวิตคู่ และเริ่มทำกิจการอันเป็นมงคล เพราะเชื่อกันว่าปีชง หมายถึง จังหวะชีวิตของคนปีนั้นๆ ทำอะไรก็จะมีอุปสรรค มีปัญหา ไม่ราบรื่น เช่นถ้าลงทุนก็มีความเสี่ยงในการขาดทุนสูง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องมีการแก้ชง เสริมดวงชะตา เพราะไม่เช่นนั้นคนไหนเป็นปีชงคงไม่ต้องเป็นอันทำอะไรกันแน่ๆ

    ปีชงถ้าเป็นภาษาไทย เราจะเรียกว่า “ปีปะทะชน” นั่นเอง สำหรับปีที่ได้รับผลไม่ดี จะมีอยู่ด้วยดัน 4 ปีได้แก่

    ปีชง คือปีที่ได้รับผลเสียมากที่สุดหรือที่เราเรียกกันว่าชงโดยตรง

    ปีคัก คือปีที่เป็นปีนักษัตรเดียวกับปีนั้นๆ

    ปีเฮ้ง คือปีที่ได้รับผลกระทบในเรื่องเคราะห์กรรม

    ปีผั่ว คือปีที่ได้รับผลกระทบในเรื่องสุขภาพ

    โดยปีชงตรงๆจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ส่วนปีคัก ปีเฮ้ง ปีผั่วซึ่งเรามักเรียกว่า ปีชงร่วม จะได้รับผลกระทบน้อยกว่า

    เช่นนั้น “ปีชง” เป็นความเชื่อทางโหราศาสตร์ของจีนที่เกี่ยวกับเรื่องดวงชะตา ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องของความทุกข์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วย อุบัติเหตุ หรือเรื่องร้ายต่างๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคและปัญหาในการดำเนินชีวิตนั่นเอง โดยมีที่มาจากปรมาจารย์จื้อเพ้ง และกษัตริย์ฝูซีซึ่งเป็นผู้คิดค้นความเชื่อเรื่องปีชงขึ้นมา และมีการสืบทอดต่อกันมายาวนานนับพันปี โดยปีชงเป็นศาสตร์ความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับองค์เทพไท้ส่วย ซึ่งเป็นเทพผู้คุ้มครองดวงชะตาที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของคนในแต่ละปีนักกษัตร โดยเชื่อว่าปีนักกษัตรแต่ละปีจะมีชงเกิดขึ้นในทุกๆ 6 ปี ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาและส่งผลเสียต่อการดำเนินชีวิตของผู้ที่เกิดในปีนักษัตรนั้น

    ด้วยชาวพุทธบางกลุ่มนำมาเชื่อมโยงกับความเชื่อทางโหราศาสตร์ของไทย แต่แท้จริงแล้วการชงนั้นไม่ได้มีแค่ปีชงอย่างเดียว แต่มันยังมีทั้งเดือนชง วันชง และเวลาชงอีกมากมาย ดังนั้นในปัจจุบันเราจึงเห็นชาวพุทธหลายคนที่เชื่อเรื่องปีชง และมีการแก้ปีชงกันตามวัดด้วยหลายวิธีเพื่อความสบายใจและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างไม่ประมาท ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยสัตว์ การทำบุญ การบริจาคสิ่งของ การถือศีล รวมถึงการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์.... ปีชงจึงเป็นความเชื่อที่มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก โดยสอนคนใช้ชีวิตอย่างรอบคอบไม่ประมาท และสามารถรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมีสติ แต่เพราะเป็นความเชื่อบางครั้งคนที่ชงบางครั้งก็อาจจะขาดสติจนเสียทรัพย์เป็นจำนวนมากให้กับผู้ที่ฉวยโอกาสทำพิธีแก้ชงต่างๆ เรียกว่าหากินกับคราวเคราะห์หรือความทุกข์คนอื่นนั่นเอง

    ความเชื่อของปีชงเป็นวัฒนธรรมความเชื่อที่ถ่ายทอดกันมาจากลัทธิเต๋า อันกล่าวว่าสรรพสิ่งประกอบกันภายใต้ ธาตุทั้ง 5 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และทอง ซึ่งธาตุทั้ง 5 นี้ จะมีความสัมพันธ์ต่อกันและทำลายล้างต่อกัน อาทิเช่น ธาตุไฟจะทำลายธาตุไม้และถูกทำลายโดยธาตุน้ำ ดังนั้นธาตุไฟ จึงเป็นอริกับไมัและทองหรือเรียกให้ง่ายขึ้นคือ "ชง" นั่นเอง และนี่เองคือบันไดขั้นแรก ของที่มาที่ไปของการก่อกำเนิดของที่พวกเราพูดกันสนุกสนานกับเรื่องของการ "ชง" และเป็นจุดเริ่มต้นของ "ชงพาณิชย์" ชนิดสร้างความร่ำรวยให้กับ วัด ศาลเจ้า และพวกตั้งตัวแก้ชงกันยกใหญ่ ซึ่งคนเราเกิดภายใต้นักกษัตริย์ทั้ง 12 ซึ่งดาวนักกษัตริย์ทั้ง 12 นี้ แต่ละนักกษัตริย์ก็จะอยู่ภายใต้ดวงดาว ที่เรียกว่าหลักจับกะจื้อซึ่งหมุนเวียนภายใต้ธาตุทั้ง 5


    *** เช่นนั้นการเปลี่ยนแปลงของปีนักษัตร การโคจรของดวงดาว อิทธิพลของกลุ่มดาวต่างๆจึงส่ง
    ผลต่อการหมุนเวียนของธาตุทั้งห้าภายใต้ดาราจักรนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าความสัมพันธ์ของธาตุย่อมแปรเปลี่ยนไม่ตายตัวอยู่เสมอภายใต้อิทธิพลดวงดาวทั้งหลาย เช่นนั้นเพื่อแก้ปัญหาปีชง คนดวงชง ดวงซวยไม่ว่าจะเป็นการงาน การหาคู่ครองหรือปัญหาครอบครัว การลงทุนอะไรใหม่ๆ การเริ่มต้นชีวิตคู่ การเริ่มทำกิจการอันเป็นมงคล สิ่งต่างๆทั้งหลายนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันอยู่ที่อำนาจดวงดาวและสมดุลย์ธาตุ เพราะเหตุธาตุขาดความสมดุลย์จึงเกิดปัญหาเรื่องชนเรื่องชงต่างๆมากมาย คนเราจึงต้องไปสะเดาะเคราะห์ ไปทำพิธีต่างๆซึ่งเมื่อทำไปแล้วก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น เพราะมนุษย์ก็ยังไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงวงโคจรของดวงดาวได้อยู่ดี ด้วยปัญหาตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงทำลูกอมสมดุลย์ธาตุที่ท่านลบถมผงธาตุทั้งห้าหนุนกลับไปกลับมาด้วยคุณวิชา ด้วยความชำนาญ ซึ่งเป็นวิชามหาธาตุที่ให้คุณมหันต์และยากจะหาคนที่ทำได้สำเร็จจริงๆด้วยเป็นบาทฐานแห่งคุณวิชาทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจทำลูกอมชุดนี้มากและท่านยังได้ลงตะกรุดคุ้มครองดวงชะตาฝังให้เป็นกรณีพิเศษในลูกอมด้วย

    ท่านว่าคนเรานั้นหากธาตุทั้งห้าสมดุลย์อยู่ตลอดแล้ว ที่จะชง ที่จะชน ที่จะมีเคราะห์หรือถึงคราวซวยนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้เลย ที่ฉันทำลูกอมนี้ก็เพื่อให้คนที่เขาเชื่อ เขามีเคราะห์มีความไม่สบายใจ เป็นทุกข์ใจในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสมดุลย์ธาตุอันส่งผลต่อชะตาชีวิตเอาไปพกเป็นกำลังใจ ท่านว่าต่อให้ดวงดาวเปลี่ยนแปลงอะไร จะผ่านไปกี่ปี ลูกอมฉันก็ยังอยู่ ยังคุมธาตุรักษาสมดุลย์ธาตุของเธออยู่ เช่นนั้นเหตุผลที่จะเจอเรื่องเลวร้ายทั้งหลายย่อมไม่มี


    *** กติกา
    ลูกอมนี้มีทั้งหมด 30 ลูก ผู้ใดต้องการบูชาก็ให้ PM ข้อความแจ้งที่อยู่ เมื่อผมตอบรับว่าได้สิทธิ์ก็ให้โอนค่าส่ง 100 บาทไว้ ง่ายๆเพียงเท่านี้เพราะของมีจำกัด ถ้าผมพิมพ์คำว่าได้สิทธิ์คือโอนได้ ไม่เช่นนั้นก็อย่าเพิ่งโอนเข้ามาก่อน และวันนี้ผมก็ต้องออกต่างจังหวัดด้วย ดังนั้นจึงจะทยอยตอบตามความสะดวกและจะประกาศปิดกิจกรรมอีกทีหนึ่ง

    49187718-2201591270099738-456024633758449664-n.jpg
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    เห็นคนสอบถาม ลูกอมนี่ใช้ได้ทุกปีชง ไม่ชงก็ใช้ได้เรียกว่าพกได้ยาวๆไม่ต้องถอดครับ
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ขอปิดกิจกรรมนะครับ
    สำหรับกิจกรรมนี้เฉพาะคนที่ได้สิทธิ์ ก็ให้เวลาโอนได้ถึงวันพรุ่งนี้ ถ้าเกินวันพรุ่งนี้ไปผมขอตัดยอดให้คนที่สำรองไว้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2018
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    มีคนที่เขามีตาในคอมเม้นพยนต์ตาปะขาวไม้ขอชุดพิเศษที่ติดตะขอเอาไว้ด้วย เขาว่าพยนต์ตาขอว่าเก่งแล้วแต่คชกุศเก่งและแรงครูสูงมาก เอาว่าเพิ่งเคยเจอคชกุศสายพราหมณ์เต็มสูตรก็ครั้งนี้ สำนักอื่นเล่มใหญ่ๆก็สู้ตะขออันเล็กๆนี้ไม่ได้แล้วกัน
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    วันนี้ใครที่จะไปเค๊าดาวน์ ลองเปลี่ยนใจมาสวดมนต์ข้ามปีกันนะครับ *-*
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    วันขึ้นปีใหม่

    พอถึงปลายเดือนธันวาคมทีไร เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะเร่งให้ถึงวันปีใหม่เร็วๆ เพราะนอกจากจะได้หยุดหลายวันแล้ว ยังจะได้เจอพ่อแม่พี่น้องแบบรวมญาติ พร้อมหน้าพร้อมตากันสักที ส่วนบางคนก็แพลนโปรแกรมเที่ยวหรือจองทัวร์ไปเที่ยวในช่วงปีใหม่กันตั้งแต่กลางปีเลยทีเดียว เรียกว่าปีใหม่ของทุกๆปี นอกจากเป็นวันรวมญาติแล้ว คนที่ทำงานมาตลอดปียังได้มีโอกาสพักผ่อนแบบยาวๆ ใช่ช่วงเทศกาลวันหยุดนี้อีกด้วย ส่วนบางคนก็ถือเอาฤกษ์เอาชัยวันปีใหม่ เริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ เปลี่ยนอะไรใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น การจัดบ้าน เปลี่ยนนิสัยให้เป็นคนใหม่ หรือเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว เพื่อต้อนรับปีใหม่นี้ด้วย นอกจากนี้การมอบของขวัญให้กับผู้ที่เครารพนับถือ หรือเพื่อนบ้านเป็นสิ่งที่หลายๆคนทำมานาน จนแทบจะกลาย เป็นสิ่งที่คู่กับประเพณีวันปีใหม่เลยทีเดียว เพราะการมอบของในวันปีใหม่ ถือเป็นการกระชับไมตรีให้แน่นแฟ้นขึ้นนั่นเอง

    ความหมายของวันปีใหม่
    วันขึ้นปีใหม่ หมายถึง เวลาที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ซึ่งใช้เวลาเดินทาง 365- 366 วัน หรือ เวลา 12 เดือนตามระบบสุริยคติ หรือเมื่อครบ 1 ปี ก็คือการหมุนเวียนมาบรรจบครบ 1 รอบ เพื่อที่จะขึ้นวันใหม่ของปีถัดไป ซึ่งเราเรียกวันนั้นว่า "ปีใหม่"

    วันปีใหม่ไทย
    สำหรับวันปีใหม่ในประเทศไทยสมัยก่อน เราถือเอาวันแรม ๑ ค่ำเดือนอ้าย(๑) เป็นวันขึ้นปีใหม่ ต่อมาได้ใช้วันขึ้น ๑ ค่ำ เดือนห้า(๕) ตามคติพราหมณ์เป็นวันขึ้นปีใหม่ และในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ให้ถือเอาวันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยนับแต่นั้นมา ต่อมาก็ได้มีการพิจารณาเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่อีกครั้งเป็นวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2484 ในสมัยคณะรัฐบาลของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ทำให้วันขึ้นปีใหม่ของไทยจึงตรงกับวันที่ 1 มกราคมของทุกปี เหมือนวันขึ้นปีใหม่ของประเทศอื่นๆ ทั่วโลกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    วันปีใหม่นานาชาติ
    ในสมัยโบราณของแต่ละชาติต่างก็มีวันขึ้นปีใหม่ที่ไม่ตรงกัน ชาวเยอรมันในสมัยโบราณจะมีวันขึ้นปีใหม่ในปลายเดือนพฤศจิกายน ต่อมาเมื่อชาวโรมันได้เข้ามารุกราน จึงได้เลื่อนการฉลองปีใหม่มาเป็น วันที่ 1 มกราคม

    ชาวโรมัน ไอยคุปค์ เฟนิเชียนและอิหร่านเคยจัดงานปีใหม่ วันที่ 21 กันยายน ต่อมาเมื่อใช้ปฏิทินแบบยูเลียน จึงเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่มาเป็นวันที่ 1 มกราคม แต่พวกยิวจะขึ้นปีใหม่ประมาณวันที่ 6 กันยายน ชาวคริสเตียนในยุคกลางจะเริ่มปีใหม่ในวันที่ 25 มีนาคม เมื่อมีการใช้ปฏิทินแบบกรีกอเรียน ชาวคริสเตียนิกายโรมันคาทอลิกก็กลับมาขึ้นปีใหม่วันที่ 1 มกราคม

    คนอังกฤษ เชื้อสายแองโกลซักซอนได้เริ่มปีใหม่วันที่ 25 ธันวาคม ภายหลังเมื่อพระเจ้าวิลเลี่ยม ได้เป็นราชาธิราชแห่งเกาะอังกฤษ จึงเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่มาเป็นวันที่ 1 มกราคม

    ประวัติความเป็นมาปีใหม่ไทย
    ในส่วนของไทยก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงวันขึ้นปีใหม่เป็น 4 ระยะคือ

    เริ่มแรกตามจารีตของไทยแต่โบราณได้ถือเอาวันแรม ๑ ค่ำเดือนอ้าย(๑) เป็นวันขึ้นปีใหม่ เหมือนหลายๆชาติที่ถือว่าฤดูเหมันต์หรือฤดูหนาวเป็นการเริ่มต้นปี ด้วยว่าคนสมัยก่อนเห็นว่าฤดูหนาว เป็นช่วงผ่านพ้นจากฤดูฝนอันมืดครึ้ม สว่างเหมือนเวลาเช้า ส่วนฤดูร้อนเป็นช่วงที่สว่างเหมือนเวลากลางวัน และฤดูฝนเป็นเวลามืดหม่นคล้ายกลางคืน เขาจึงนับฤดูเหมันต์หรือซึ่งมักตรงกับเดือนอ้ายที่สว่างเหมือนเวลาเช้าเป็นต้นปี นับช่วงฤดูร้อนเป็นกลางปีและฤดูฝนเป็นปลายปี

    ระยะที่สอง เราได้มีการเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่เป็นวันขึ้น ๑ ค่ำเดือนห้า(๕) คือราวช่วงสงกรานต์ อันเป็นการเปลี่ยนจารีตไปตามคติพราหมณ์ที่นับวันตามจันทรคติ โดยใช้ปีนักษัตรและการเปลี่ยนจุลศักราชเป็นเกณฑ์

    ระยะที่สาม ในสมัยรัชกาลที่ 5 เราก็ได้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่เป็นวันที่ 1 เมษายนอันเป็นนับวันทางสุริยคติ ซึ่งได้ประกาศใช้มาตั้งแต่ พ.ศ.2432 ส่วนพระราชพิธีปีใหม่นั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้าเสด็จเข้าไปรับพระราชทานเลี้ยง ณ ท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เมื่อพระองค์ทรงทำการจับฉลากแก่พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการบางคน และพระราชทานสิ่งของตามฉลากแล้วเสด็จพระราชดำเนินมาที่ศาลาหน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทอดพระเนตรนครหลวงแล้วจึงเสด็จ ฯ กลับ

    พ.ศ.2455 ในรัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณโปรดเกล้าฯให้ใช้พุทธศักราช แทน รัตนโกสินทรศก ตั้งแต่ และในปีต่อมาใน โปรดให้รวมพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์เถลิงศกสงกรานต์ พระราชพิธีศรีสัจจปานกาลถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาเข้าด้วยกันเรียกว่า พระราชพิธีตรุษสงกรานต์

    ระยะที่สี่ คือปี พ.ศ.2483 รัฐบาลได้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่ไทยให้เป็นไปตามแบบสากลนิยม คือวันที่ 1 มกราคม ซึ่งมีเหตุผลว่าวันดังกล่าวกำหนดขึ้นโดยการคำนวณด้วยวิทยาการทางดาราศาสตร์ และเป็นที่นิยมใช้กันมากว่าสองพันปี อีกทั้งไม่เกี่ยวข้องกับลัทธิศาสนา หรือการเมืองของชาติใด แต่สอดคล้องกับจารีตประเพณีของไทยแต่โบราณที่ใช้ฤดูหนาวเป็นต้นปี ดังนั้น เราจึงมีวันขึ้นปีใหม่ตรงกับนานาประเทศ เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2484 เป็นต้นมา

    พ.ศ.2490 คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์โปรดให้ยกการพระราชกุศลสดับปกรณ์ผ้าคู่ในวันขึ้นปีใหม่ ไปใช้ในพระราชพิธีสงกรานต์ ในวันที่ 13 - 14 - 15 เมษายน เป็นการฟื้นฟูขึ้น ตามโบราณราชประเพณีซึ่งเป็นเทศกาล สงกรานต์

    ในปี พ.ศ.2500 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้งดการพระราชกุศลสวดมนต์เลี้ยงพระในวันขึ้นปีใหม่ เปลี่ยนเป็นเสด็จออกทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทรงบาตรวันขึ้นปีใหม่แทนใน ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลทรงบาตรขึ้นปีใหม่ ในวันที่ 1 มกราคม เป็นวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสิ้นปี

    ทุก ๆ ปี ประชาชนทั่วประเทศต่างเฝ้ารอการพระราชทานพรปีใหม่ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ผ่าน ส.ค.ส. พระราชทานซึ่งส่วนใหญ่พระองค์จะทรงประดิษฐ์ขึ้นเอง ข้อความที่ปรากฏบน ส.ค.ส. พระราชทานนั้น ส่วนใหญ่สอดคล้องเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์บ้านเมืองในปีนั้นๆ แม้จะเป็นเพียงถ้อยคำสั้น ๆ แต่แฝงไปด้วยข้อคิด และคติเตือนใจที่ส่งผ่านไปยังปวงชนชาวไทยทุกคน และยังทรงมีพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระราชทานพรปีใหม่แก่ประชาชน และ สมเด็จพระสังฆราชประทานพรปีใหม่แก่พุทธศาสนิกชน และบุคคลสำคัญของบ้านเมือง
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    มีสอบถามกันมาว่ามีของแนวรับคุณไสย รับเรื่องซวย แทนตัวเรามั๊ย พ่ออาจารย์ท่านผูกหุ่นรับบาป รับวิบากกรรมแทนตัว หรือให้ไปลงที่ตัวหุ่นแทนตัวเราเองแนวนี้มีรึเปล่า คนถามเค้าว่าครูสมเด็จ(สมเด็จโต)ไปตามเข้าฝันให้มาถาม จะได้หลุดได้พ้นจากภัยในเบื้องหน้าที่จะเกิดกับตัวเขา ก็เล่ามาแบบนี้ ถือว่าเป็นเรื่องแปลก เอาไว้ติดตามพูดคุยกันรอบเย็นนะครับ
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    รอบเย็นนี้ก็มาพูดคุยกันต่อจากที่ค้างไว้ จะเรียกว่าความโชคดีก็ได้เพราะของสิ่งนี้...(ขอปิดไว้ก่อน)เป็นของดีที่ถูกเกินราคาไปมากและสร้างยากจริงๆ ซ้ำยังเป็นของที่มีอาถรรพ์(พลังงาน)สูง ซ้ำไม่ใช่อาถรรพ์ผีอีกด้วย จะเป็นอะไรเอาไว้ติดตามกันพรุ่งนี้ แต่บอกได้แค่ว่าแร่ธาตุที่พ่ออาจารย์ทานต้องนำมาปั้นนั้นคงหาไม่ได้อีกแล้ว ซ้ำยังมีเอกลักษณ์ด้วยการจารสดลงที่องค์...ของเค้านับว่าสวยงามแปลกตาไปอีกแบบ

    ...จะว่าไปของชิ้นนี้คนที่เคยบูชาก็มีประสบการณ์เล่ากันมาอยู่เรื่อยๆ แต่พ่ออาจารย์ท่านค่อนข้างเก็บเงียบและเอาไว้ให้คนที่ขี้เกียจเซ่นไหว้ จุดธูปบูชาเขาใช้กัน เพราะสิ่งนี้ท่านว่ารับแค่บุญไม่จำเป็นต้องไหว้ต้องเซ่น ยิ่งทำบุญให้เขาก็ยิ่งแรงมีอยู่แค่นั้นเป็นกฏการใช้ง่ายๆเลย พ่ออาจารย์ท่านว่า "คนที่เอาไปเขามีปัญหากับงาน..(อาชีพในปัจจุบัน)จะลาออกก็ไม่ได้ เพราะถ้าจะออกก็ต้องจ่ายหนี้เรียกว่าล้างหนี้ก่อนถึงไปได้ ซึ่งก็เป็นหนี้หลักล้าน จะขอใคร คุยกะใคร ขอความช่วยเหลือใครก็ป่วยการไม่มีคนช่วยเพราะเกินมือเกินกำลัง งานใหม่หรือโอกาสใหม่ๆก็ชวดไปหลายครั้งเพราะเคลียร์ปัญหาที่เดิมไม่ได้ไม่มีเงินไปใช้เขา ยืดเยื้อเรื้อรังมาเกือบครึ่งปี พอเอาสิ่งนี้ไปเขาว่าอธิษฐานไว้ไม่ถึงสามชั่วโมง ก็มีโทรศัพท์เข้ามาว่าผู้อำนวยการจะรับดูแลเรื่องของเขาให้ด้วยตัวเองให้มาตกลงวิธีผ่อนผันกันในระยะยาวไม่เร่งเอาเงินก้อน เรียกว่าปัจจุบันก็มีชีวิตใหม่ในงานที่ดีกว่าเดิมได้รายได้ก็มากขึ้น ปัญหาทับถมชีวิตก็คลี่คลาย สุดท้ายเอาไปขอเมีย ขอหวยก็ยังว่าหามาได้ เรียกว่าไม่รู้ทำไมกลายเป็นเล่นหวยจนรายได้มากกว่าอาชีพหลัก " พ่ออาจารย์ท่านจึงเก็บของพิเศษชิ้นนี้ไว้อย่างดี แต่ท่านว่าปีนี้มันแรง คนจะอยู่ยากใครมีบารมีมากพอก็ยังพอหายใจกันได้ ซ้ำเครื่องรางสายยักษ์อสูรเราก็ไม่ได้ทำบ่อย แล้วมันโฉลกกับสถานการณ์ปัจจุบันด้วยท่านจึงให้นำออกมา บอกเลยว่าคุ้มแค่เห็นก็รักแล้ว


    *** พรุ่งนี้ติดตามกันดีๆ
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ร่วมทำบุญบูชา พยนต์รับกรรมมหายักษาผจญมาร (ตายแทนตัว เจ็บ ช้ำ ชั่ว รับแทน )

    เมื่อจะกล่าวถึงวิชาหุ่นพยนต์แล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าการผูกหุ่นนั้นก็มีขึ้นเพื่อเอื้อประโยชน์หรือนำไว้ใช้งานในหลายกรณี ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเจตนาการผูกหุ่นแต่ละครั้งนั้นแตกต่างกันออกไปเช่นอาจจะผูกขึ้นเพื่อดูแลรักษาสถานที่ได้แก้บ้าน วัด เจดีย์เหล่านี้ หรืออาจจะผูกขึ้นเพื่อปกป้องคนอาราธนาจากปืนจากศาสตราวุธต่างๆ แม้จะผูกหุ่นเพื่อใช้ทำลายคน ทำร้ายคน ภูติผีร้าย วัวธนู ควายธนู กุมารผี หรือจะผูกเพื่อเฝ้าสมบัติแผ่นดินเฝ้าทรัพย์สินก็ยังได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าอุปเท่ห์ของการผูกหุ่นนั้นมีมากมาย จะผูกเป็นหุ่นไปดลจิตดลใจให้ทำมาค้าขึ้นผู้คนเข้าหารักใคร่เช่นนี้ก็มี แต่สิ่งทำได้ยากที่สุดและถือว่าเป็นขั้นสูงสุดในสายการผูกหุ่นพยนต์ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นคือการผูกหุ่นเพื่อใช้เป็นตัวตายตัวแทน เรียกว่าเจ็บ ช้ำ ชั่วให้หุ่นรับกรรมแทนเราทั้งหมด เป็นหุ่นที่จะรักษาคนใช้แม้มีโรคภัยอาการเจ็บป่วยก็ต้องรับไว้เอง ท่านว่าหุ่นประเภทนี้ผูกได้ยากที่สุดและต้องใช้อำนาจจิต อำนาจของกรรมฐานมาผูกเขา ไม่ใช่หุ่นผีหุ่นพรายอาฆาต เพราะถ้าเป็นหุ่นผีเขาจะรับกรรมแทนเราไม่ได้ด้วยกรรมเดิมของเขาก็มีมากอยู่แล้ว

    พ่ออาจารย์ท่านสรรเสริญวิชาผูกหุ่นพยนต์ที่มีอานุภาพอย่างแท้จริงอยู่สองตำรับ นั่นก็คือวิชาผูกหุ่นของหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า กับวิชาผูกหุ่นของหลวงปู่เฒ่ายิ้ม แห่งวัดหนองบัวผู้โด่งดัง ซึ่งท่านบอกว่าสองปรมาจารย์นี้หุ่นที่ผูกกินกันไม่ลงเลย อันที่จริงวิชาผูกหุ่นเป็นวิชาเก่าแก่ที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยการสร้างหุ่นพยนต์นั้นสามารถสร้างได้จากวัตถุอาถรรพณ์หลายอย่างไม่ว่าจะโลหะอาถรรพ์,ดินอาถรรพ์ ,ไม้อาถรรพ์ ,ขี้ผึ้งอาถรรพ์ เพราะของอาถรรพ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งจะเห็นได้ว่าวัสดุที่นำมาผูกหุ่นนั้นคล้ายกับการสร้างวัวธนูและควายธนู โดยคนสมัยก่อนมักจะนิยมสร้างหรือผูกหุ่นพยนต์เอาไว้เพื่อใช้เฝ้าบ้านเรือนทรัพย์สิน แม้แต่เจดีย์เก่าที่มีกรุสมบัติก็ยังผูกพยนต์เฝ้าพิทักษ์รักษาทรัพย์สมบัติแผ่นดินนั้นไว้ เรียกว่าที่ใดที่มีหุ่นพยนต์รักษาหากมีผู้คิดจะไปลองดีผู้ไปขุดหาสมบัติต้องเกิดอาเพศมากมายดั่งที่เคยมีบันทึกไว้เป็นหลักฐานยืนยันมาแล้วในการขุดพบสมบัติของโบราณตามเจดีย์เก่าทั้งหลาย

    เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจจะผูกหุ่นที่ใช้เป็นตัวตายตัวแทนทั้งเจ็บ ช้ำ ชั่วให้หุ่นรับกรรมแทนตัวคนใช้ทั้งหมดเป็นหุ่นที่จะรักษาคนใช้แม้มีโรคภัยอาการเจ็บป่วยก็ต้องรับไว้เองตำรับที่ผูกยากที่สุดนี้ โดยจะใช้วิชาและมวลสารต่างๆสองสาย คือสายหลวงปู่ศุขกับสายหลวงปู่เฒ่ายิ้มมาสร้างหุ่นพยนต์ และท่านยังกำชับว่า ฉันจะขอบารมีทั้งสองท่านรวมไปถึงองค์พระมหากัสสปะเถระเจ้าผู้เป็นต้นตำรับวิชาหุ่นพยนต์ให้มาสำเร็จหุ่นพยนต์ให้ฉันด้วย (ท่านว่าพยนต์ขององค์พระมหากัสสปะนั้นมีอานุภาพมากถึงขนาดพระอินทร์ต้องยกกองทัพเทพลงมาปราบทีเดียว)

    โดยการวบรวมมวลสารต่างๆได้แก่ตะปูที่ใช้ตรึงโลงศพที่ถูกเผาไหม้เป็นขี้เถ้าแล้วจากเตาเผาท่านว่าสิ่งนี้เป็นของที่มีกฤติยาคมแฝดเพราะใช้ตรึงอาถรรพ์ตรึงวิญญาณร้ายไม่ให้อาละวาดได้ดีนัก คนโบราณจะตีดาบกำราบผีทำมีดหมอก็จะใช้ตะปูตรึงโรงนี่แหละ ท่านจึงนำมาบดโขลกตำให้ละเอียดแล้วนำมาเข้ากับผงลบยันต์โสฬสมงคล,ผงยันต์อิติปิโสแปดทิศ ,ผงยันต์เกราะเพชร,ผงยันต์พระเจ้าสิบหกพระองค์,ผงยันต์บารมีสามสิบทัศน์,ผงยันต์อาวุธเทพทั้งสี่,ผงวิชาธาตุทั้งสี่,ผงพยนต์ดำ,ผงพยนต์แดง,ผงวิชาเทพพยนต์,ผงยันต์เทพนิมิต,ผงยันต์จตุโรบังเกิดทรัพพย์,ผงนะมหาลาภ,ผงนะมหาเศรษฐี จากนั้นจึงนำผงมาบูชาไฟซัดด้วยใบไม้อีกเจ็ดชนิดอันได้แก่ใบตาล,ใบลาน,ใบขนุน,ใบคูณ,ใบพยุง,ใบรัก,ใบจันทร์ แล้วจึงนำผงทำหุ่นมาเผาเข้ากับหญ้ามหาปราบหรือหญ้ากลางทุ่งที่รอดไฟไม่โดนไฟไหม้ทั้งๆที่หญ้าในบริเวณเดียวกันโดนไฟไหม้หมดจัดเป็นของอาถรรพ์มีเทวดารักษาอยู่ เมื่อได้ผงทำหุ่นแล้วท่านจึงนำผงมานวดกับมวลสารทำหุ่นพยนต์ที่ท่านเตรียมไว้เพื่อเสริมอิทธิคุณให้หุ่นพยนต์ ได้แก่ดินกลางถ้ำ,ดินยอดจอมปลวก,ตะใคร่เจดีย์เก่า,ดินโป่ง,ดินทางสามแพร่ง,ตะใคร่เสมาเจ็ดวัด,ว่านสาวหลง,ว่านศรนารายณ์,ว่านเพชรแดง,ว่านเพชรใหญ่,ว่านเพชรน้อย,ว่านสิงหโมรา,ว่านกระจาย,ว่านครอบจักรวาล,ว่านกล่อมนางนอน,ว่านพระตะบะ,เชือกผูกหัวเกวียน,เชือกประกำ,รกช้าง,ไคลเสาตะลุงช้าง,เถาวัลย์หลง,หญ้าคาโบสถ์ร้าง,ฟางข้าว,ปอ,ป่าน,ชันโรง,ผงไม้พญงิ้วดำ,ผงไพรดำ,ผงไม้มะขามโปร่งฟ้า,ผงไม้กาหลง,ผงไม้รัก,ผงไม้มะยม,ผงไม้ยอ,ผงไม้ขนุน,ผงแร่เกาะล้าน,ผงแร่เขาอึมครึม,ผงแร่เหล็กไหลเพลิง,ผงแร่เหล็กไหลตาน้ำ,ผงแร่เหล็กไหลนาคา,ผงแร่ดูดทรัพย์

    เมื่อได้ผงทำหุ่นแล้วพ่ออาจารย์ท่านจึงนำผงทั้งหมดไปคลุกน้ำรักและนำมาปั้นเป็นรูปหุ่นพยนต์ด้วยมือขึ้นทีละตนในฤกษ์ยามมงคลคืนพระจันทร์เต็มดวง โดยท่านกำหนดเรียกหนุนธาตุเปิดอาการทั้งสามสิบสอง กำหนดจิตให้เกิดนิมิต เห็นหุ่นพยนต์นี้เคลื่อนไหวมีชีวิตแล้วนำมาลงเหล็กจารสดลงในเนื้อหุ่นพยนต์ทีละตน ท่านว่าจารไปปลุกเสกรอไป โดยหุ่นพยนต์ชุดรับกรรมนี้พ่ออาจารย์ท่านจะฝังสิ่งมงคลอาถรรพ์ต่างๆ ดังนี้
    - ตะกรุดรับทุกข์เป็นตายแทนตัว พ่ออาจารย์ท่านว่าอันนี้เราพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะเป็นวิชาจากองค์ธรรมท่านให้มา เอาว่ามันก็ใช้ตรงตามชื่อของตะกรุดนั่นเลย พ่ออาจารย์ท่านลงจารฝังไว้เป็นแกนกลางให้หุ่นพยนต์ ดุจเป็นจุดประสงค์หลัก เป็นหน้าที่ เป็นแก่นพลังงานที่ไม่มีวันเหือดแห้งให้หุ่นนั้นรับชั่ว รับเคราะห์ รับโรคภัย สิ่งใดเจ็บช้ำท่านว่าให้เข้าหาตะกรุดนี้พยนต์รับแทนไปทั้งหมด
    - แร่ปัญจะมหาคีรี ถ้าจะทำหุ่นพยนต์ให้แข็งต้องใช้แรงเทวดาห้าองค์เข้าพิทักษ์รักษาตามส่วนต่างๆเป็นฤทธิ์เป็นเดชให้พ่อยักษ์อีกทีหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าแร่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าขุนเขาที่ท่านรวบรวมไว้นำมาฝังตามจุดต่างๆของหุ่นพยนต์นั้น เป็นแร่กายสิทธิ์ธาตุที่มีเทวดาเจ้าป่ารักษา เป็นแร่ที่เกิดขึ้นในแต่ละขุนเขาดุจของวิเศษที่ให้คุณนานัปการ เป็นดั่งแก้วสารพัดนึกที่จะค้ำคูนช่วยเหลือผู้เป็นเจ้าของให้มั่นคงจีรังได้ดั่งยอดเขา ช่วยค้ำคูนให้เจริญรุ่งเรืองเปรียบดั่งขุนเขาที่เป็นบ่อเกิดแห่งความอุดมสมบูรณ์เป็นที่พักพิงของสรรพชีวิตน้อยใหญ่ เมื่อนำมาฝังแล้วก็ดุจว่าหุ่นนั้นมีฤทธิ์เยอะขึ้นด้วยกำลังของเทวดาที่เข้ารักษาจุดต่างๆทั้งห้าองค์ เป็นการเสริมอาถรรพ์หุ่นด้วยเทวานุภาพ
    - ก้อนกายสิทธิ์ธาตุ เป็นก้อนแร่ที่พ่ออาจารย์ท่านนำปรอทที่ท่านดักมาหุงเข้ากับแร่พลวง แร่ตะกั่วขอมพันปี แร่ดีบุก และชินเงินเก่าสมัยต่างๆเทออกมาเป็นก้อนกายสิทธิ์ธาตุ ท่านว่ามีอานุภาพแรงดุจปรอทสำเร็จ ท่านจึงนำมาฝังไว้เป็นใจหรือจุดหัวใจหุ่นพยนต์ หุ่นนั้นจะได้สำเร็จศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังมีอานุภาพมากจะเหาะเหินรุ่งเรืองด้วยตนเองนั้นเป็นกายสิทธิ์

    ท่านนำมามาปลุกเสกเรียกธาตุสี่คือดิน น้ำ ไฟ ลม หนุนธาตุ ตั้งธาตุ เรียกอาการสามสิบสองปลุกเสกพระคาถาย่อส่วน ขยายส่วน ปลุกเสกพระคาถาดำดิน ล่องหนหายตัว กำบังตัว แล้วจึงนำหุ่นวางบนฝ่ามือทีละตัว ท่านว่าต้องเสกจนหุ่นลุกขึ้นมาได้เองจึงจะสำเร็จ จากนั้นจึงขอบารมีครูพระมหากัสสปะเถระเจ้าตำรับตลอดจนหลวงปู่ศุข หลวงปู่เฒ่ายิ้มมาสำเร็จหุ่นพยนต์นี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเรากำหนดจิตตามไปดูว่าครูท่านทำอย่างไร ท่านว่าครูท่านปลุกเสกเดินกระแสจิตทั้งด้านอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์ให้แบบดึงพลังจักรวาลจากทั้งสิบทิศผูกหุ่นกันแบบเต็มกำลัง ซ้ำยังผูกเป็นหุ่นมหายักษ์ผูกเป็นหุ่นจักรพรรดิ์ก็เลยกลายเป็นหุ่นยักษาจักรพรรดิ์แล้วจึงนำมาครอบวิมานแก้ว ครอบฉัพพรรณรังสีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อให้เป็นราชาแห่งพยนต์ จนพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเสกจนล้นไม่มีอะไรให้เราทำอีกแล้ว

    อิทธิคุณของหุ่นพยนต์นั้น กล่าวคือเป็นพรายกระซิบ บอกเหตุ เตือนภัยที่กำลังจะมาถึง รับเคราะห์แทนเจ้าของได้ เสริมดวงบารมีด้านบริวาร บอกโชคให้ลาภ บอกหวย เรียกเงิน เรียกทอง เรียกทรัพย์ ไปค้าไปขายมีโชคลาภเป็นเมตตามหานิยม เข้าหาสาวมหาเสน่ห์ ทั้งเสี่ยงดวงพนัน กันคุณไสยไล่อัปมงคล ไล่ผีเร่ร่อนได้ ช่วยทำมาค้าขาย เรียกคนเข้าร้าน ธุรกิจการงาน เฝ้าบ้าน เฝ้าของ เฝ้ารถ ทรัพย์สินเงินทอง กันขโมยใช้ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง(ไม่ว่าทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ) กันรังสี กันโรคระบาด ทั้งภูติผีปีศาจ อีกทั้งคุณไสยล้างอาถรรพณ์สิ่งที่ไม่ดีไม่บริสุทธิ์ทั้งคุณผี คุณคน คุณมนต์ คุณคาถา คุณหนัง และสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ กันพวกเขี้ยวงาใต้น้ำ คนโบราณเชื่อว่าใครมีหุ่นพยนต์มาครอบครองก็จะเปรียบเสมือนมีเงาคอยตามตัวปกป้องคุ้มครองยามเดินทางไปที่ต่างๆ หากวางบูชาไว้หน้ารถก็เปรียบเสมือนมีตัวเราเองอยู่ในรถคันนั้นเฝ้าดูแลแทนตัวเรา อธิษฐานใช้ได้ท่านบอกถึงเวลาเอาไปใช้เถิดเดียวรู้เอง มีทุกข์ มีภัยมาไม่ต้องกลัวปล่อยให้มันมา เดี๋ยวหุ่นเขาจะรับเอาไว้เอง แต่อย่าได้ลำพองใจว่ามีของดี ไม่ใช่มีหุ่นแล้วจะเที่ยวเกเร สร้างปัญหา รังแกใครก็ได้ หากทำบ่อยๆระวังครูท่านจะตำหนิให้เกิดโทษ ท่านว่าของดีก็ต้องอยู่คู่กับคนดีด้วย ท่านว่าปกติหุ่นพยนต์รุ่นนี้จะให้ใช้เฉพาะเป็นรายบุคคลไป แต่สถานการณ์บ้านเมืองปากท้องและชีวิตในปัจจุบันของหลายๆคนนั้นไม่ค่อยจะดี ท่านว่ายิ่งนานก็ยิ่งหนัก ท่านจึงอนุโลมให้นำออกมาให้ใช้บูชากัน โดยมีข้อแม้แค่ว่า ขอให้คนที่เอาไปเป็นคนดี ขอแค่เป็นคนดีเรื่องอะไรมันก็ดีไม่ต้องไปกลัว

    ในยุคสมัยนี้ยากแก่การที่จะหาพระเกจิอาจารย์ใดที่ผูกและกำกับหุ่นพยนต์ได้ดั่งอดีตเช่นหลวงปู่ยิ้ม หลวงปู่ศุข พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นๆกันได้ทั่วว่าจะใช้น้ำมันพราย ใช้กระดูกผี ใช้ชิ้นส่วนศพเช่นผมผีตายโหง ผ้าห่อศพต่างๆ เอาของที่มีอาถรรพ์ของผีของวิญญาณที่ตายไม่ดีมาทำหุ่นพยนต์ เพราะอยากได้อาถรรพ์ อยากได้ของแรงๆไม่ได้สนชีวิตคนใช้ว่าจะเป็นอย่างไร ท่านว่าหุ่นที่แรงอย่างนี้นับว่าแรงเสียเปล่าเพราะเขาใช้งานช่วยเราไม่ได้มากซ้ำยังเป็นโทษมากกว่าคุณเราจึงไม่ใช้ของที่เกี่ยวกับศพมาทำหุ่นเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าหุ่นเราสำเร็จด้วยอานุภาพผงวิเศษกับคุณว่านยาและวิชาผูกหุ่น นี่ถ้าเราไม่ขอบารมีท่าน(หลวงปู่ยิ้ม หลวงปู่ศุข)ไม่เชิญครูพระมหากัสปะมาช่วยผูกหุ่นรุ่นนี้ก็ยากจะสำเร็จหุ่นรับกรรมได้เพราะตั้งใจทำไว้ให้เป็นที่สุดในสายวิชาพยนต์นั่นคือใช้รับเคราะห์กรรมแทน แม้ผูกขึ้นมาแล้วก็ต้องเรืองฤทธิ์ดั่งเทพยดา

    หุ่นพ่อยักษ์นี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆต้องเรียกพ่อยักษ์จักรพรรดิ์ ท่านว่าเราทำให้เต็มที่แล้ว มีตัว มีญาณบารมีครูบาอาจารย์ มีอิทธิฤทธิ์ มีธาตุทั้งสี่ มีวิญญาณขันธ์ห้าครบสูตรตามตำรา จะใช้อธิษฐานอะไรก็ตามแต่จะใช้เถิด ใครที่บูชาปรารถนาจะเสี่ยงโชคหากมีโชคมีลาภหุ่นพยนต์หรือพ่อยักษ์ของฉันก็จะมาปรากฏตัวในความฝันให้เห็น เป็นยักษ์บ้าง เป็นฤาษีบ้าง เป็นพระจักรพรรดิ์บ้าง เป็นคนแก่บ้าง คนหนุ่มบ้าง หรือเด็กบ้าง บอกโชคบอกลาภให้เห็นเป็นประจำ

    คาถาบูชา
    โอมปลุกปลุก กูจะปลุกพ่อหุ่นด้วยอะหังนุกา อยู่แล้วรักษาอย่าไปอื่น ขอให้อายุมั่นขวัญยืน ทำมาค้าได้มีโชคมีชัย ลาภมา เงินมา ทองมา นะนะนะนะ อะถันโธโมสิตังวะคะลึงคะลัง นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ อิสวาสุ สุสวาอิ จิเจรุนิ จิตตัง เจตสิกัง รูปัง นิมิตตัง อิติภูตะ เอหิจิตตัง มานิมามา นะมะพะทะ ยังกิญจิ ระตะนังโลเก วิชชะติวิวิธัง ปุถุระตะนัง พุทธะสะมัง นัตถิตัสสะมา โสตถี ภะวันตุเม แก้วแหวนเงินทองทรัพย์สินใดในโลกนี้ มนุษย์หรือปุถุชนจะไขว่คว้าหามาได้โดยไม่ยากแต่ของวิเศษดีเลิศประเสริฐยิ่งกว่าพระพุทธคุณนั้นไม่มีอีกแล้วที่ดีกว่านี้ ด้วยอานุภาพแห่งพระรัตนตรัยขอพ่อยักษ์จงมาโปรดลูกคนนี้ให้ลูกกินอิ่มนอนหลับ จะเอาอะไรก็ขอให้ช่วยให้ลูกสมปรารถนา

    *** หุ่นพ่อยักษ์นี้พ่ออาจารย์ว่าควรพกไว้ติดตัวทำพวงกุญแจได้ คาดเอวได้ ใส่กระเป่ากางเกงได้ แต่ใครที่มีเคราะห์หนักมาก ดวงชะตาเกิดมาร้ายมากกว่าดี หรือใครที่จะทำงานใหญ่มีคู่แข่งมาก ให้อาราธนาพ่อหุ่นเป็นคู่สองตน และอธิษฐานบอกพ่อยักษ์ว่าตนนึงใช้รับโชคร้ายวิบากกรรมเคราะห์ซ้ำกรรมซัดตามชะตาราศี อีกตนนึงใช้รับกรรมปัจจุบันและใช้กรรมปัจจุบันแทนตัวเอง

    ร่วมทำบุญบูชา พยนต์รับกรรมมหายักษาผจญมาร (ตายแทนตัว เจ็บ ช้ำ ชั่ว รับแทน ) บูชา 2,500 บาท

    49385895-328741737732630-6518553508172529664-n.jpg 49151455-328898337717084-4194166874579140608-n.jpg
    49652205-488734774983564-2564057491021234176-n.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่เมธี EW 2341 1642 8 TH

    พี่เสฏฐณัน EW 2341 1643 1 TH

    พี่นฤชา EW 2341 1644 5 TH

    พี่เกษมธิดา EW 2341 1645 9 TH

    พี่พรเทพ EW 2341 1646 2 TH

    พี่อนุวัฒน์ EW 2341 1647 6 TH

    พี่อัครพงศ์ EW 2341 1648 0 TH

    พี่วัชรพันธุ์ EW 2341 1649 3 TH

    พี่นฐมน EW 2341 1650 2 TH

    พี่ปภัสสร EW 2341 1651 6 TH

    พี่วิชัย EW 2341 1652 0 TH

    พี่วิระพัฒน์ EW 2341 1653 3 TH

    พี่กฤตยชญ์ EW 2341 1654 7 TH

    พี่คณพศ EW 2341 1655 5 TH

    พี่วิชัย EW 2341 1656 4 TH

    พี่รุ่งเรือง EW 2341 1657 8 TH

    พี่สุรวุฒิ EW 2341 1658 1 TH

    พี่ภิญโญ EW 2341 1659 5 TH

    พี่ศิระ EW 2341 1660 4 TH
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ลัทธพล EW 2341 1120 0 TH

    พี่นฐมน EW 2341 1121 3 TH
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    การประพฤติปฏิบัติ คือการมาแก้ที่ตัวเอง

    "การประพฤติการปฏิบัติธรรมะ พระพุทธเจ้าท่านให้เราทุกๆ คน มาแก้ที่กาย คือ "การกระทำของเรา" อันไหนไม่ดีไม่ถูกต้องไม่ให้เราทำ ถึงเราจะเคยทำที่แล้วๆ มาต้องหยุด

    "มาแก้ที่วาจา" คือคำพูดของเรา อันไหนไม่ดีเราอย่าไปพูด มาเปลี่ยนคำพูดเราใหม่ มาปรับปรุงคำพูดใหม่ เพราะคนเราทุกคนมันเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ แม้แต่เราพูดดี เราพูดถูกต้อง พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ให้เราพูดมากเกิน

    "มาเปลี่ยนแปลงความคิด" อันไหนมันไม่ดีก็อย่าไปคิด มันอยากคิดเราก็ไม่คิด แม้สิ่งนั้นมันดีถ้ามันมากเกินท่านก็ไม่ให้เราคิด ให้อดให้ทน ถ้าเราไม่อดไม่ทนนะ แม้เราจะมีความรู้ เราจะเป็นคนฉลาดเราก็ไม่อาจสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีได้

    ปัญหาต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นแก่เรานี้ มันไม่ใช่มาจากคนอื่น มันมาจากตัวของเราเอง เกิดจากการกระทำของเราเอง เราทุกๆ คนต้องปรับตัวเองเข้าหาธรรมะ ต้องพากันอดพากันทน

    ให้ทุกท่านทุกคนน่ะทำใจให้สงบ มีสติ สัมปชัญญะสมบูรณ์ มาพินิจพิจารณาตัวเองว่ากายวาจาใจของตัวเอง ส่วนไหนมันบกพร่อง เราจะได้แก้ในส่วนนั้นๆ เพื่อจะให้การแก้ปัญหาของเราน้ันถูกต้อง สิ่งอื่นๆ ให้ทุกท่านทุกคนถือว่ามันเป็นโอกาสให้เราได้ฝึกจิตใจ สร้างบารมี สร้างความดี สร้างคุณธรรม"


    edu-photo-197576089587.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...