มี้ด จอห์นสันบริหารธุรกิจด้วยวิถีพุทธ

ในห้อง 'พุทธศาสนากับคนดัง' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 14 พฤศจิกายน 2006.

แท็ก: แก้ไข
  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    'มี้ด จอห์นสัน'บริหารธุรกิจด้วยวิถีพุทธ

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>"มี้ด จอห์นสัน" บริหารธุรกิจด้วยวิถีพุทธ


    </TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG][/IMG] [​IMG] บริษัท มี้ด จอห์นสัน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านสินค้าโภชนาการสำหรับทารกแรกเกิด เด็ก ผู้ใหญ่ คนสูงอายุ และผู้ป่วย ทั่วโลก แม้จะเป็นบริษัทจากต่างชาติ และผู้บริหารส่วนใหญ่ก็เป็นชาวต่างชาติ

    ซึ่งคนส่วนใหญ่อาจจะคิดไปก่อนว่าใช้รูปแบบการบริหารงานแบบปรัญชาตะวันตก แต่ความจริงแล้ว บริษัทนี้ใช้นโยบายในการเสริมสร้างศักยภาพและประสิทธิภาพของพนักงานโดยปรัชญาพุทธ
    เพื่อพัฒนาบุคลากรอย่างเป็นรูปธรรม บริษัทจึงจัดสัมมนาเรื่อง "ปรัชญาเชิงพุทธกับการพัฒนาศักยภาพการทำงาน" ให้พนักงานกว่า ๔๐๐ คน โดยมีวิทยากรรับเชิญ คือ นายดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำนักพิมพ์ ดีเอ็มจี ณ โรงแรมดุสิตธานี เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
    สำหรับมุมมองของบริษัทข้ามชาติ ในการผสมสานทางวัฒนธรรมและการนำวิถีพุทธมาใช้พัฒนาบุคลากรนั้น นายแมทธิว แซปเปิล ผู้จัดการทั่วไป บอกว่า เหตุผลที่สนใจในเรื่องของวิถีพุทธ หรือการนั่งสมาธินั้น เนื่องจากธุรกิจทุกวันนี้มีการแข่งขันทางด้านการตลาด ความท้าทาย หรือเรื่องชีวิตส่วนตัวเรา จะนำวิถีพุทธมาปรับให้มันสมดุลได้อย่างไร ซึ่งสมัยที่อยู่สหรัฐอเมริกา ได้เรียนต่อปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยวอร์ตัน อันเป็นสถาบันชั้นนำทางด้านธุรกิจ แล้วมีการเรียนที่เน้นในเรื่องสมาธิ
    โดยเฉพาะกับผู้นำยุคใหม่ สามารถนำสมาธิมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน หรือปรับการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สมาธิถือเป็นเครื่องมือที่ดีของสังคมยุคนี้ บริษัทจึงจัดบรรยายธรรมให้พนักงานได้ฟัง เพื่อนำมาปรับเพิ่มศักยภาพในการทำงานของพนักงาน แต่คงบอกไม่ได้ว่าโปรแกรมนี้จะเข้ามาพัฒนาธุรกิจของเราได้อย่างไรบ้าง
    และธุรกิจของเราดำเนินไปได้ดีทุกวันนี้ ก็เชื่อว่าเรื่องของสมาธิ เรื่องของวิถีพุทธส่วนหนึ่งด้วย ที่เข้ามาช่วยองค์กร และอยากให้องค์กรต่างๆ ลองนำวิถีพุทธไปประยุกต์ใช้คงเกิดประโยชน์อย่างแน่นอน
    "ผมคิดว่าเรื่องสมาธิเป็นเรื่องสากล ประเทศอื่นก็มีการประยุกต์ใช้ เช่นเดียวกับการเล่นโยคะ ที่นำมาประยุกต์ใช้จนแพร่หลาย ถือว่าประเทศไทยได้เปรียบที่มีวัตถุดิบทางด้านพระพุทธศาสนา ยิ่งหลักคำสั่งสอนของพุทธองค์มาประยุกต์ใช้กับการทำงานจะง่ายมากขึ้น แล้วจริงๆ ผมคำนึงถึงเรื่องศาสนา แม้ว่าผมจะนับถือศาสนาคริสต์ แต่ผมคิดว่าวิถีพุทธเป็นเรื่องของแนวคิดมากกว่า หรือเป็นปรัชญาแล้วเราสามารถมาใช้กับชีวิตประจำวันได้ โดยเฉพาะเรื่องการอยู่กับปัจจุบัน" นายแมทธิว กล่าว
    ส่วนวิถีพุทธช่วยพัฒนาทีมขายได้อย่างไรนั้น นายจักฤษณ์ สถิรเสถียร Trade Sales Director กล่าวว่า ในช่วงนี้ตนเองกำลังนำร่องที่จะให้พนักงานลาบวช ๑ เดือนในรอบ ๑ ปี สิ่งที่ได้จากการบวชคือ เพื่อให้ได้ปฏิบัติธรรม เข้าใจในการบริหารอารมณ์ตัวเอง จิตใจ ความคิด หรือเพื่อนร่วมงานทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น ซึ่งอนาคตเราอาจจะให้พนักงานผู้ชายสามารถลาบวชได้ปีละ ๑ เดือน เพื่อให้ได้เข้าใจในพระพุทธศาสนา หรือวิถีพุทธที่จะนำมาใช้กับการทำงาน หรือบริษัทอาจจะจัดปฏิบัติธรรม ๘ วัน ๗ คืน โปรแกรมนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
    "ส่วนตัวผมเองเป็นคนฝึกสมาธิหลายปี สามารถนำมาใช้กับงานขายได้ แล้วริเริ่มโครงการฝึกสมาธิเมื่อ ๒ ปี ทุกวันตอนเช้าจะนั่งสมาธิประมาณ ๑ ชั่วโมง เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพเป็นหลัก แรกมีพนักงานร่วมนั่งไม่กี่คน แต่ทุกวันนี้มีหลายสิบคนที่มาร่วมนั่งสมาธิด้วย อย่างน้อยคนที่นั่งสมาธิก็ทำให้จิตใจสงบ เย็นลง ทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่ทำวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง มันเป็นเหมือนเราได้ฟอกใจตอนเช้า ไม่ให้ใจขุ่นใจมัว" นายจักฤษณ์ กล่าว
    ในขณะที่ นายมานิต ศรีปราบ ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรม กล่าวเสริมว่า เรื่องของสมาธิหรือธรรมะนำมาใช้เวลาทำงานเหมือนกัน เช่น เวลาประชุมจะสอดแทรกเรื่องธรรมะมาอย่างต่อเนื่อง พนักงานในกลุ่มก็ชอบ ต่างมีความสนใจที่อยากจะปฏิบัติธรรม เวลานี้สอนพนักงานในเรื่อง ทาน ซองกฐิน อะไรมาเราจะบอกให้รู้จักสละเงินบางส่วนทำบุญ คิดว่าอานิสงส์ตรงนี้ทำให้ลูกน้องหยุดกินเหล้าในช่วงเข้าพรรษา นี่เป็นผลของการเรียนรู้ธรรมะนั่นเอง
    ความเห็นสอดคล้องกับ น.ส.ชนกนุช ทัพวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรบุคคล กล่าวว่า โครงการนี้เริ่มต้นกลางปีที่ผ่านมา โดยเชิญคุณดนัยมาถ่ายทอดประสบการณ์ในเรื่องราวของธรรมะให้พนักงานฟัง จึงถือเป็นโครงการเริ่มต้น บริษัทได้รับเสียงตอบรับจากพนักงานเป็นอย่างดี เสียงสะท้อนที่เราได้รับฟังนั้นพนักงานต่างเรียกร้องอยากให้มีการจัดกิจกรรมบรรยายธรรม ดังนั้นในอนาคตเราอาจจะจัดเป็นโปรแกรมการเจริญสติ หรือการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
    อย่างไรก็ตาม นายดนัย กล่าวเสริมว่า ส่วนใหญ่พนักงานจะไปปฏิบัติธรรมกันหมด เนื่องจากองค์กรเราไม่มาก หลายคนที่ไปทำให้สภาพแวดล้อมของการทำงานที่เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เริ่มแรกจะพิจารณาพนักงานที่มีอารมณ์ขึ้นลงเร็วๆ ไปก่อน พอเขาไปในระยะเวลา ๑ เดือน เราจะเห็นผลว่ามีการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าอารมณ์เหล่านั้นกลับมาอีก เราก็จะส่งไปปฏิบัติเหมือนเดิม เพื่อให้เรียนรู้ที่จะหยุดอารมณ์เหล่านั้นให้ได้
    "ผมเองก่อนที่ยังไม่ได้ปฏิบัติธรรมเป็นคนอารมณ์ร้อน ทำอะไรต้องได้ดังใจ แต่วันนี้เรามีสติ เย็นขึ้น ดีขึ้น ไม่เป็นคนโมโหง่ายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว พอวิถีชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทำให้พนักงานหรือแม้แต่ลูกค้ามาคุยงานด้วย อย่างน้อยสิ่งที่เขาได้จากเราคือความสบายใจ ตรงนี้จึงเป็นที่มาขององค์กรอื่นๆ ให้ความสนใจในการปฏิบัติธรรม" นายดนัย กล่าวทิ้งท้าย 0 เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง / ภาพ วีระ ด่านวิลัย 0

    -->
    [​IMG]


    บริษัท มี้ด จอห์นสัน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านสินค้าโภชนาการสำหรับทารกแรกเกิด เด็ก ผู้ใหญ่ คนสูงอายุ และผู้ป่วย ทั่วโลก แม้จะเป็นบริษัทจากต่างชาติ และผู้บริหารส่วนใหญ่ก็เป็นชาวต่างชาติ

    ซึ่งคนส่วนใหญ่อาจจะคิดไปก่อนว่าใช้รูปแบบการบริหารงานแบบปรัญชาตะวันตก แต่ความจริงแล้ว บริษัทนี้ใช้นโยบายในการเสริมสร้างศักยภาพและประสิทธิภาพของพนักงานโดยปรัชญาพุทธ

    เพื่อพัฒนาบุคลากรอย่างเป็นรูปธรรม บริษัทจึงจัดสัมมนาเรื่อง "ปรัชญาเชิงพุทธกับการพัฒนาศักยภาพการทำงาน" ให้พนักงานกว่า ๔๐๐ คน โดยมีวิทยากรรับเชิญ คือ นายดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำนักพิมพ์ ดีเอ็มจี ณ โรงแรมดุสิตธานี เมืองพัทยา จ.ชลบุรี

    [​IMG]


    สำหรับมุมมองของบริษัทข้ามชาติ ในการผสมสานทางวัฒนธรรมและการนำวิถีพุทธมาใช้พัฒนาบุคลากรนั้น นายแมทธิว แซปเปิล ผู้จัดการทั่วไป บอกว่า เหตุผลที่สนใจในเรื่องของวิถีพุทธ หรือการนั่งสมาธินั้น เนื่องจากธุรกิจทุกวันนี้มีการแข่งขันทางด้านการตลาด ความท้าทาย หรือเรื่องชีวิตส่วนตัวเรา จะนำวิถีพุทธมาปรับให้มันสมดุลได้อย่างไร ซึ่งสมัยที่อยู่สหรัฐอเมริกา ได้เรียนต่อปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยวอร์ตัน อันเป็นสถาบันชั้นนำทางด้านธุรกิจ แล้วมีการเรียนที่เน้นในเรื่องสมาธิ

    โดยเฉพาะกับผู้นำยุคใหม่ สามารถนำสมาธิมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน หรือปรับการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สมาธิถือเป็นเครื่องมือที่ดีของสังคมยุคนี้ บริษัทจึงจัดบรรยายธรรมให้พนักงานได้ฟัง เพื่อนำมาปรับเพิ่มศักยภาพในการทำงานของพนักงาน แต่คงบอกไม่ได้ว่าโปรแกรมนี้จะเข้ามาพัฒนาธุรกิจของเราได้อย่างไรบ้าง
    และธุรกิจของเราดำเนินไปได้ดีทุกวันนี้ ก็เชื่อว่าเรื่องของสมาธิ เรื่องของวิถีพุทธส่วนหนึ่งด้วย ที่เข้ามาช่วยองค์กร และอยากให้องค์กรต่างๆ ลองนำวิถีพุทธไปประยุกต์ใช้คงเกิดประโยชน์อย่างแน่นอน

    "ผมคิดว่าเรื่องสมาธิเป็นเรื่องสากล ประเทศอื่นก็มีการประยุกต์ใช้ เช่นเดียวกับการเล่นโยคะ ที่นำมาประยุกต์ใช้จนแพร่หลาย ถือว่าประเทศไทยได้เปรียบที่มีวัตถุดิบทางด้านพระพุทธศาสนา ยิ่งหลักคำสั่งสอนของพุทธองค์มาประยุกต์ใช้กับการทำงานจะง่ายมากขึ้น แล้วจริงๆ ผมคำนึงถึงเรื่องศาสนา แม้ว่าผมจะนับถือศาสนาคริสต์ แต่ผมคิดว่าวิถีพุทธเป็นเรื่องของแนวคิดมากกว่า หรือเป็นปรัชญาแล้วเราสามารถมาใช้กับชีวิตประจำวันได้ โดยเฉพาะเรื่องการอยู่กับปัจจุบัน" นายแมทธิว กล่าว

    ส่วนวิถีพุทธช่วยพัฒนาทีมขายได้อย่างไรนั้น นายจักฤษณ์ สถิรเสถียร Trade Sales Director กล่าวว่า ในช่วงนี้ตนเองกำลังนำร่องที่จะให้พนักงานลาบวช ๑ เดือนในรอบ ๑ ปี สิ่งที่ได้จากการบวชคือ เพื่อให้ได้ปฏิบัติธรรม เข้าใจในการบริหารอารมณ์ตัวเอง จิตใจ ความคิด หรือเพื่อนร่วมงานทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น ซึ่งอนาคตเราอาจจะให้พนักงานผู้ชายสามารถลาบวชได้ปีละ ๑ เดือน เพื่อให้ได้เข้าใจในพระพุทธศาสนา หรือวิถีพุทธที่จะนำมาใช้กับการทำงาน หรือบริษัทอาจจะจัดปฏิบัติธรรม ๘ วัน ๗ คืน โปรแกรมนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา

    "ส่วนตัวผมเองเป็นคนฝึกสมาธิหลายปี สามารถนำมาใช้กับงานขายได้ แล้วริเริ่มโครงการฝึกสมาธิเมื่อ ๒ ปี ทุกวันตอนเช้าจะนั่งสมาธิประมาณ ๑ ชั่วโมง เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพเป็นหลัก แรกมีพนักงานร่วมนั่งไม่กี่คน แต่ทุกวันนี้มีหลายสิบคนที่มาร่วมนั่งสมาธิด้วย อย่างน้อยคนที่นั่งสมาธิก็ทำให้จิตใจสงบ เย็นลง ทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่ทำวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง มันเป็นเหมือนเราได้ฟอกใจตอนเช้า ไม่ให้ใจขุ่นใจมัว" นายจักฤษณ์ กล่าว

    ในขณะที่ นายมานิต ศรีปราบ ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรม กล่าวเสริมว่า เรื่องของสมาธิหรือธรรมะนำมาใช้เวลาทำงานเหมือนกัน เช่น เวลาประชุมจะสอดแทรกเรื่องธรรมะมาอย่างต่อเนื่อง พนักงานในกลุ่มก็ชอบ ต่างมีความสนใจที่อยากจะปฏิบัติธรรม เวลานี้สอนพนักงานในเรื่อง ทาน ซองกฐิน อะไรมาเราจะบอกให้รู้จักสละเงินบางส่วนทำบุญ คิดว่าอานิสงส์ตรงนี้ทำให้ลูกน้องหยุดกินเหล้าในช่วงเข้าพรรษา นี่เป็นผลของการเรียนรู้ธรรมะนั่นเอง

    ความเห็นสอดคล้องกับ น.ส.ชนกนุช ทัพวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรบุคคล กล่าวว่า โครงการนี้เริ่มต้นกลางปีที่ผ่านมา โดยเชิญคุณดนัยมาถ่ายทอดประสบการณ์ในเรื่องราวของธรรมะให้พนักงานฟัง จึงถือเป็นโครงการเริ่มต้น บริษัทได้รับเสียงตอบรับจากพนักงานเป็นอย่างดี เสียงสะท้อนที่เราได้รับฟังนั้นพนักงานต่างเรียกร้องอยากให้มีการจัดกิจกรรมบรรยายธรรม ดังนั้นในอนาคตเราอาจจะจัดเป็นโปรแกรมการเจริญสติ หรือการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

    อย่างไรก็ตาม นายดนัย กล่าวเสริมว่า ส่วนใหญ่พนักงานจะไปปฏิบัติธรรมกันหมด เนื่องจากองค์กรเราไม่มาก หลายคนที่ไปทำให้สภาพแวดล้อมของการทำงานที่เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เริ่มแรกจะพิจารณาพนักงานที่มีอารมณ์ขึ้นลงเร็วๆ ไปก่อน พอเขาไปในระยะเวลา ๑ เดือน เราจะเห็นผลว่ามีการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าอารมณ์เหล่านั้นกลับมาอีก เราก็จะส่งไปปฏิบัติเหมือนเดิม เพื่อให้เรียนรู้ที่จะหยุดอารมณ์เหล่านั้นให้ได้ "ผมเองก่อนที่ยังไม่ได้ปฏิบัติธรรมเป็นคนอารมณ์ร้อน ทำอะไรต้องได้ดังใจ แต่วันนี้เรามีสติ เย็นขึ้น ดีขึ้น ไม่เป็นคนโมโหง่ายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว พอวิถีชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทำให้พนักงานหรือแม้แต่ลูกค้ามาคุยงานด้วย อย่างน้อยสิ่งที่เขาได้จากเราคือความสบายใจ ตรงนี้จึงเป็นที่มาขององค์กรอื่นๆ ให้ความสนใจในการปฏิบัติธรรม" นายดนัย กล่าวทิ้งท้าย 0 เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง / ภาพ วีระ ด่านวิลัย 0





    ที่มา: คมชัดลึก
    http://www.komchadluek.net/2006/11/14/j001_65014.php?news_id=65014



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 พฤศจิกายน 2006

แชร์หน้านี้

Loading...