พักผ่อนกาย-ใจ ในค่ายธรรมะ แบบคุณหนูตระกูลดัง

สมัยนี้คุณหนูไฮโซ ขอมีสาระกันตั้งแต่เด็ก แม้ในช่วงปิดเทอมก็ยังเจียดเวลาปลีกตัวมาเข้าแคมป์ธรรมมะกันคับคั่ง ณ ฮอร์สชู พอยท์ พัทยา เมื่อวันก่อน จึงคึกคักไปด้วยเหล่าเซเลบฯ รุ่นเยาว์ที่ต่างแพ็คกระเป๋าจากอ้อมอกผู้ปกครองมารวมตัวกันเพื่อสำรวจจิตใจของตัวเองไม่ให้หลงใหลอยู่กับสิ่งรอบตัวผ่านกิจกรรมหลากรูปแบบที่สนุกและมีคุณค่า นำทีม โดย เจตน์ โสภิตฐ์พงศธร ในฐานะเจ้าของสถานที่และ กนิษฐวิริยา ต.สุวรรณ ที่มักคุ้นกันดีกับมาดผู้บริหาร สำนักพิพม์พรีมา พับลิชชิ่ง


โครงการ Self Discovery Camp ครั้งนี้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ซึ่งทั้งคู่มีมโนปณิธานที่ตรงกันในการสนับสนุนพระพุทธศาสนา มีความสนใจศึกษาและปฏิบัติธรรมอยู่แล้ว จึงปิ๊งไอเดียชวนกันทำกิจกรรมฝึกสติและสมาธิที่สอดแทรกธรรมะ ทำให้เด็กๆ ซึมซับธรรมะอย่างไม่รู้ตัว จนเกิดความคุ้นเคยและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้แบบสบายๆ


ทั้งการเริ่มต้นหัดเข้าสังคม ด้วยการอยู่ร่วมกับผู้อื่นโดยมีคุณธรรมเป็นพื้นฐาน เรียนรู้ศีล 5 มาตรฐานขั้นต้นของความเป็นมนุษย์ การฝึกเด็กๆ ให้รู้จักกฎแห่งกรรมผ่านนิทานและเรื่องเล่าสอนการทำสมาธิแบบง่ายๆ และการทำสมาธิอย่างเป็นรูปแบบ รวมถึงการรู้ทันกายใจของตน ด้วยกิจกรรมกายเคลื่อนไหว ใจตามรู้ ฯลฯ ซึ่งในแต่ละวันเด็กๆ จะต้องส่งการบ้านคุณครูพี่เลี้ยง โดยเล่าถึงสภาพจิตใจของตัวเองที่อาจจะยังมีความโลภ โกรธ หลง ซึ่งเปรียบเสมือนผีขี้โรคที่คอยมาเยือนจิตใจในระหว่างวัน


นอกจากนี้ ตลอดเวลาที่อยู่ในค่าย เด็กทุกคนต้องตื่นแต่เช้า อาบน้ำ แต่งตัว ช่วยเหลือตัวเองทุกอย่าง ก่อนรับประทานอาหารทุกมื้อ จะต้องถวายข้าวพระ โดยการสวดมนต์บทง่ายๆ จากนั้นจึงเข้าร่วมกิจกรรมตามโปรแกรมตลอดทั้งวัน สลับกันไปด้วยกิจกรรมสันทนาการ ล่วงเลยจนถึงช่วงเวลานอน ซึ่งเด็กทุกคนต้องฝึกสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ เดินจงกรม กำหนดรู้ลมหายใจเข้า-ออก ก่อนจะกลับเข้านอนด้วยความผ่อนคลาย


แม้วันแรกๆ จะมีบ้างที่งอแงเพราะคิดถึงบ้าน แต่งานนี้หนูๆ ต่างก็สู้สุดใจ! ยอมอยู่ต่อจนถึงวันสุดท้าย ซึ่งมีไฮไลท์เด็ดอยู่ที่การนั่งสมาธิฟังนิทานแทรกธรรมะจากคุณครูชมพู ที่มีเนื้อหาสอนให้ลูกมีความกตัญญูต่อพ่อแม่ ขณะที่บรรยากาศนอกห้องทำสมาธินั้น ก็ปรากฏตัวผู้ปกครองที่มารอรับลูกหลานกลับบ้านตามเวลานัดหมาย

ก่อนจะทยอยเดินเข้ามาในห้องทำสมาธิ เพื่อรับมอบพวงมาลัยพร้อมคำกล่าวขอบพระคุณจากน้ำเสียงใสๆ ของเด็กๆ และโผเข้าสวมกอดกันอย่างน่าประทับใจ หลังจากที่ต้องอยู่ไกลกันเป็นเวลานานถึง 5 วันเต็ม


ดร.วิวรรธน์-ปรวีณา กฤษฎาสิมะ คุณพ่อคุณแม่ น้องเพิร์ล ด.ญ.ชญาณี เล่าว่า ถึงจะเป็นครั้งแรกที่ปล่อยให้ลูกมาใช้ชีวิตอยู่ในค่ายกับเพื่อนๆ ด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่รู้สึกหนักใจ ซึ่งแต่ละกิจกรรมในค่ายก็เป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิตอยู่แล้ว พอได้เข้ามาเห็นลูกก็ตื้นตัน เพราะไม่เคยเห็นลูกในอิริยาบถแบบนี้


ด้านครอบครัวไกรฤกษ์ ก็ยกขบวนมารอรับน้องแป๊ม ด.ญ. มนพร ไกรฤกษ์ ลูกสาวคนโต ซึ่งคุณแม่เล่าว่า ก่อนจะมาเข้าค่ายครั้งนี้ ลูกแป๊มตื่นเต้นที่จะได้อยู่กับเพื่อนๆ เพราะเป็นเด็กที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมอยู่แล้ว


ฝั่งบ้านปิยะอุย อุชินี คุณแม่ของ น้องพริมและน้องวินธ์ ก็อดทึ่งไม่ได้ที่ลูกๆ สามารถอยู่ในค่ายครั้งนี้ได้อย่างไม่งอแง ทั้งกำชับให้พี่ต้องดูแลน้องยามที่ต้องอยู่ไกลบ้าน ซึ่งพริมและวินธ์ก็ยังอยากจะกลับมาค่ายครั้งนี้อีก หากกลับไปแล้วสมาธิไม่ดีขึ้น

ส่วนน้องป๋ำ ด.ช. นิธิศ ล่ำซำ วันนี้ก็สดชื่นเป็นพิเศษ เพราะมีคุณแม่ชญาดา มารอรับเช่นกัน คุณแม่เล่าว่า รู้สึกซึ้งมาก น้ำตาใหลที่ลูกนำพวงมาลัยมาให้และดีใจที่ค่ายครั้งนี้ช่วยสร้างพื้นฐานที่ดีในการดำเนินชีวิตต่อไป