พร้อมที่จะตาย

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 12 มีนาคม 2010.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,172
    คนที่อยากตาย แสดงว่าปฏิบัติยังไม่ได้เรื่อง ส่วนใหญ่พออยากตายขึ้นมาก็คิดว่าตัวเองเก่ง ความจริงตัวอยากตาย ก็คือ ใจมันหมอง ตายตอนนั้นจะซวยไม่รู้จบ

    นักปฏิบัติที่ทำถึงจริงๆ เขาไม่ได้อยากตาย ไม่ได้แสวงหาความตาย แต่เขาพร้อมที่จะตาย มันจะอยู่ในลักษณะอยู่ก็ได้ ตายก็ดี อยู่เราก็ได้สร้างบุญสร้างบารมี ถ้าตายเราก็ไปนิพพานของเรา ฉะนั้นไปเร่งมา ที่ทำมายังไม่พอใช้

    ความกลัวตายเป็นธรรมดาของสัตว์ทุกรูปทุกนาม บาลีท่านบอกว่า อาหาระนิททัง ภะยะเมถุนัญจะ สามัญญะเปตัปปะสุภีนะรานัง

    อาหาระ คืออาหาร , นิททัง คือการนอน , ภะยะ คือความกลัว , เมถุนะ คือการเสพกาม ท่านบอกว่า ๔ อย่างนี้เป็นปกติของสัตว์ทุกรูปทุกนาม สามัญญะเปตัปปะสุภีนะรานัง สามัญญะ ก็คือ ปกติธรรมดา

    ธัมโมหิ เตสัง อะธิโก วิเสโส ธรรมเท่านั้นที่ให้เกิดความต่างขึ้นได้ ธัมเมนะ วีณา ปะสุภิสสะมานา มีแต่ธรรมเท่านั้นที่ทำให้คนต่างจากสัตว์

    เพราะฉะนั้นเรื่องความกลัวถือเป็นเรื่องปกติ แต่ทำอย่างไรที่จะไม่ให้กลัวจนขาดสติ ถ้ามานึกอีกที น่าขายหน้ามากเลย เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงมา ๓๐-๔๐ ปี ถึงเวลามัจจุราชยื่นหน้ามาหน่อยเดียว กลัวหัวหด มันต้องประเภทยื่นหน้ามาก็กระโดดขี่คอ ไปไหนไปเลย อยากไปนานแล้ว ทำไมมาช้าจัง

    คือเรายังไม่เห็นธรรมดา ถ้าเห็นธรรมดาว่าทุกรูปทุกนาม มันต้องป่วย ต้องตายเป็นปกติ แล้วทำใจยอมรับได้ว่าปกติของสัตว์ ของมนุษย์มันเป็นอย่างนี้เอง ถ้าทำอย่างนั้นได้ ความตายไม่ใช่ของน่ากลัว ความเจ็บป่วย ความเจ็บปวดก็ไม่ใช่ของน่ากลัว ถึงเวลาก็ดูแลรักษาไปตามมารยาท ร่างกายนี้เป็นธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม เรายืมโลกมาใช้ชั่วคราว แต่โดยมารยาทการยืมของก็ต้องดูแลให้ดีที่สุดเท่าที่จะรักษาได้ เพื่อถึงเวลาจะได้ส่งคืนเจ้าของไปในสภาพที่ดีที่สุด คราวนี้ถ้าเราดูแลรักษาไปตามสภาพ ถ้าหายก็ดี ถ้าไม่หายก็บ๊ายบาย หมดเวรหมดกรรมกันเสียที

    กลัวแล้วมันตายไหม กลัวก็ตาย ไม่กลัวมันก็จะตาย เพราะฉะนั้นถ้ากลัวมันเสียฟอร์มมากเลย เวลาโผล่ไป พวก(ข้างบน)นั่งหัวเราะคิกคัก นี่หรือลูกศิษย์ท่าน อายขายหน้าครูบาอาจารย์เขาหมด

    ไม่ได้กลัวตาย พร้อมที่จะตาย แต่ดำรงชีวิตอยู่โดยไม่ประมาท โดยเฉพาะไม่ประมาทในการสร้างความดี ทาน ศีล ภาวนาใดที่เป็นไปเพื่อการหลุดพ้น เราจำเป็นต้องทำให้มากเข้าไว้ เพราะไม่แน่ว่าความตายจะมาถึงเมื่อใด ถ้าหากเปรียบความตายในวัฏสงสารเป็นการเดินทางไกล บุคคลที่พร้อมด้วยพาหนะ เสบียง และเครื่องอำนวยความสะดวกย่อมไม่มีความหนักใจในการเดินทาง ทำอย่างไรเราจะสั่งสมให้พร้อมสมบูรณ์ที่สุด ถ้าหากว่าถึงจุดหมายแล้วไม่ต้องเดินทางอีกยิ่งดี ของที่สะสมไว้ก็ไม่ต้องเสียดาย กองไว้ตรงนั้นแหละ ไม่ได้ใช้ก็ช่างหัวมัน

    ไปเริ่มต้นใหม่ คิดใหม่ สมมติว่าตายบ่อย ๆ มันปวดหัวขึ้นมาตอนนี้ ถ้ามันตายลงไปตอนนี้ใจเราจะเกาะอะไร ไม่ใช่ไปคร่ำครวญอยู่กับความเจ็บปวด สติมันต้องระลึกอยู่เสมอ ว่าความตายมันต้องมาหาเราวิธีใดวิธีหนึ่ง ในเมื่อระลึกอยู่เสมอมันก็ต้องหาทางเกาะให้มั่นคงให้เหนียวแน่นเข้าไว้ แรกๆ มันเกาะทุกอย่าง โดยเฉพาะต้องหาทางเกาะในด้านดี แต่ถ้านานไปๆ ความรู้ความเข้าใจ คือ ปัญญามันสมบูรณ์แล้ว มันก็จะรู้ว่าการเกาะไม่สามารถทำให้เราเป็นอะไรได้ ไม่สามารถทำให้เราหลุดพ้นได้ มันก็จะวางการเกาะนี้ด้วย

    ความเคยชินของนักปฏิบัติพอเกิดอะไรขึ้นก็จะวิ่งเข้าไปหากำลังใจตัวเอง อิ๊กคิวไปบอกอาจารย์ อาจารย์กำลังเกาะฌาน ไปไหนไม่ได้ ติดอยู่แค่นั้น อิ๊กคิวก็สะกิดให้อาจารย์ปล่อย ปล่อยปุ๊บไปเลย ยึดฌานอยู่แค่นั้น ถ้าตายก็ไปแค่พรหม อาจารย์สอนศิษย์มาทั้งชีวิต ลูกศิษย์สอนกลับประโยคเดียวเท่านั้นเอง


    พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เทศน์ช่วงบ่ายที่บ้านอนุสาวรีย์
    วันอาทิตย์ที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๒



    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=827



    .
     
  2. Fai3iola

    Fai3iola เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +319
    อนุโมทนาค่ะ
     
  3. Attila 333

    Attila 333 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +716
    ผมกราบอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งจริงๆผมไม่เคยพบหลวงพี่เล็กท่าน แต่คำสอนของท่านแต่ละท่อนแต่ละตอนมันยิงเข้ากลางใจจริงๆถูกใจจริงๆ "ในทางธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าท่านสอนให้ไม่ยึดมั่นถือมั่นสอนให้ปล่อยวาง ขณะเดียวกันก็ไม่ให้ประมาทในการดำเนินชีวิต " ซึ่งสวนทางกับทางโลกที่หล่อหลอมคนให้มุ่งไปยึดมั่นถือมั่น ขณะเดียวกันก็ใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความประมาทมัวเมา คนที่เชื่อในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าพร้อมทั้งนำไปปฏิบัติจึงมีความสุขเพราะปล่อยวาง แต่ก็ไม่เคยประมาทในชีวิต เรารู้ว่าเราน่ะตายแน่ แต่เราคงไม่ตายด้วยเหตุผลโง่ๆ เราไม่ได้กลัวตาย เราพร้อมที่จะตาย แต่เราจะไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต ไม่ประมาทในการบำเพ็ญความดี
     
  4. Attila 333

    Attila 333 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +716
    " ผู้เป็นบัณฑิตเมื่อประสบทุกข์ผู้นั้นย่อมไม่ทิ้งธรรม "
     
  5. ดาวจรัสแสง

    ดาวจรัสแสง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    542
    ค่าพลัง:
    +3,015
    ไม่เคยเห็นหน้า และไม่เคยไปกราบพระอาจารย์เล็กเช่นกันค่ะ ไม่ทราบว่าพระอาจารย์เล็กท่านยังแข็งแรงอยู่ใช่ไหมคะ?

    ชอบการสอน และการอธิบายของท่านค่ะ เข้าใจง่าย ปฏิบัติได้

    กราบขอบพระคุณสำหรับธรรมทาน และขออนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  6. foundman

    foundman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +734
    กระจ่างใจครับผม >.<
     
  7. เวลานาที

    เวลานาที เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2010
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +1,349
    พูดง่ายเชียว;aa2
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...