พระเครื่องเพื่อความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม 2 :พระหายากขึ้นหิ้ง:สาลิกา ลพ สนิด

“นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา"​

จดหมายถึงผู้สนใจพระเครื่องและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้บูชาเพื่อความสุขความเจริญทางโลกและทางธรรม
​

วัตถุประสงค์การตั้งกระทู้​

1. นำเงินที่ได้รับส่วนหนึ่งไปทำบุญและสาธารณประโยชน์เพื่อส่วนรวม
2. ไม่ได้ทำเป็นธุรกิจ เพราะปัจจุบันครอบครัวพอมีพอกินแล้ว
3. ราคาพระเครื่องไม่แพง-ไม่ใช่ราคาตลาดพระ ตั้งใจให้คนได้ไปบูชาต่อจะได้ประสบความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมและเมื่อผมนำเงินไปทำบุญท่านที่เช่าพระก็จะได้ทำบุญด้วย
4. ราคาพระเครื่องได้รวมค่าจัดส่งท่านไม่ต้องเพิ่มค่าจัดส่งให้ผมอีก

ที่มาของพระเครื่อง​

5. ได้จากการบูชาในเว้ปพลังจิตของเพื่อนสมาชิกนี้เองครับแถมราคาลดจากที่ผมเช่ามาเพราะต้องการระดมทุนไปทำบุญต่อยอด ผมเชื่อว่าท่านได้มาส่งเสริมการงาน สุขภาพผมแล้ว
6. ได้จากการไปไหว้ครูบาอาจารย์ตามภาคต่างๆในสมัย 20 ปีที่แล้วโดยบูชามาเก็บไว้บูชาในหิ้งพระมานานแล้วและพระเก่าของพ่อผมในหิ้งพระที่บ้าน

การรับประกัน​

7.ผมรับประกันความพึงพอใจครับ แท้ไม่แท้ บางทีก็หลายมุมมองใครตัดสิน แต่พระของผมรับประกันคืนพระให้ผมได้ทุกกรณี แต่พระต้องสมบูรณ์เหมือนตอนส่งให้นะครับ ผมโอนเงินคืน 100% ให้เต็มจำนวนครับ รับประกันความพึงพอใจครับแต่อย่านานเป็นเดือนเป็นปีนะครับ
8.ซื่อสัตย์สุจริต เชื่อใจกันระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย สบายใจครับ

กระบวนการบูชาพระเครื่อง​

9. เพื่อนสมาชิก/ผู้สนใจ
1) พิมพ์จองพระในหน้ากระทู้หลัก
2) กดส่งข้อความแจ้งชื่อและที่อยู่ในกล่องข้อความของผม
3) ผมจะแจ้งหมายเลขบัญชีธนาคารของผมให้ครับ
4) ท่านโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผมที่ระบุและส่งที่อยู่ท่านให้ผมส่งพระให้ในกล่องข้อความ
5) ผมตอบรับทราบและจะส่งพระให้ท่านแบบ EMSในวันรุ่งขึ้น

 

ปิดรายการนี้ครับองค์ที่ 1 ตะโพนหลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ องค์ครูพร้อมกระเช้าเงินเดิมๆ
​

หลวงพ่อพัก วัดโบสถ์

​

ประวัติหลวงพ่อพัก (หลวงพ่อภักตร์) ท่านเกิดเมื่อปีพ.ศ.2425 ที่บ้านท่าขาม อำเภอวิเศษชัยชาญ โยมบิดาชื่อ ถมยา โยมมารดาชื่อ พุก เมื่อหลวงพ่อพักอายุครบ 20 ปี ในปีพ.ศ.2445 ท่านจึงอุปสมบทที่วัดอ้อย อำเภอวิเศษชัยชาญ โดยมีหลวงปู่เถื่อน เป็นพระอุปัชฌาย์เมื่อท่านอุปสมบทแล้วท่านได้ติดตามท่านเจ้าคุณรัตนมุณี ซึ่งเป็นพระพี่ชายของท่านมาอยู่ที่วัดหงส์ กทม. เพื่อศึกษาคันถธุระ และวิปัสสนากรรมฐาน อยู่ที่สำนักพระอาจารย์อูฐ ศึกษาอยู่ 9 พรรษา หลวงพ่อพักท่านก็เชี่ยวชาญทั้งคันถธุระโดยเฉพาะทางด้านวิปัสสนากรรมฐาน ต่อมาในปีพ.ศ.2455 หลวงพ่อพักก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดโบสถ์
หลวงพ่อพักท่านมีอาจารย์อยู่หลายท่าน ได้แก่ อาจารย์วาต ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายของท่าน อยู่ที่บ้านท่ามะขาม ตำบลดอนปรู อดีตเคยเป็นขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่แถวชานเมืองอ่างทองและสุพรรณบุรี และเป็นผู้ที่มีวิชาอาคมสูง ล่องหนหายตัวได้ ต่อมาได้เลิกราในอาชีพทุจริตโดยสิ้นเชิง แล้วหันเข้าสู่พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ต่อมาจึงถ่ายทอดวิชาต่างๆ ให้แก่หลวงพ่อพักจนหมดสิ้น โดยเฉพาะวิชาเบี้ยแก้ ตะกรุดโทน ผ้ายันต์แดง อาจารย์ของหลวงพ่อพักอีกองค์หนึ่งคือหลวงปู่บุญ ผู้มีวิชาอาคมสูงจากแขวงเมืองพิจิตร ซึ่งได้ธุดงค์ล่องมาถึงแขวงเมืองวิเศษชัยชาญ จนได้มาพบกับหลวงพ่อพัก และได้ถ่ายทอดวิชาปลุกเสกเขี้ยวเสือแกะ งาช้างแกะ และวิทยาคมต่างๆ ให้แก่หลวงพ่อพัก
หลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้มีประสบการณ์มากมาย เช่น เหรียญรูปเหมือนของท่าน ปัจจุบันหายากและมีราคาสูง ส่วนเครื่องรางเช่น สิงห์งาแกะ เด่นทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี ตะกรุดโทนนั้นก็มีคุณวิเศษ เป็นเมตตามหานิยม ส่วนตะโพนงาแกะของหลวงพ่อพัก ท่านสร้างไว้แจกพวกศิลปิน มีคุณวิเศษทางด้านเมตตามหานิยม ส่วนเบี้ยแก้ของ หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ ป้องกันคุณไสย ยาสั่ง แก้เหตุร้าย ให้กลายเป็นดี แคล้วคลาดปลอดภัยและคงกระพันชาตรี

พุทธคุณของตะโพนหลวงพ่อพัก วัดโบสถ์เป็นที่ประจักษ์เรื่องมหาลาภ เมตตามหานิยม เป็นที่รักใคร่ของคนที่ได้พบเห็น ทำให้คนที่ได้พูดได้เจรจาด้วยเป็นต้องหลงไหลครั่งใคร้ และช่วยทางด้านติดต่อเจรจาค้าขาย หรือแม้แต่ในแวดวงบันเทิงดารานักแสดงตะโพนหลวงพ่อภักตร์ก็ยังเป็นที่ต้องการเพราะด้วยประสบการณ์ที่ช่วยในด้านสร้างชื่อเสียงให้กับผู้ที่ได้บูชานั้นมีประสบการณ์มาช้านานตั้งแต่สมัยที่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ ว่ากันว่าตะโพนของท่านนั้นเป็นเครื่องรางที่สร้างได้ยาก และจะหาคนสร้างได้ขลังแบบท่านเป็นไม่มีแล้ว ที่สำคัญไม่มีของอะไรแก้ได้ เหตุเพราะท่านพิถีพิถันตั้งแต่การจัดสร้างและปลุกเสก ดังนั้นการมอบให้ศิษย์แต่ละคนนั้นท่านจะพิจารณาและมอบให้แก่ศิษย์ที่ยังไม่มีครอบครัวและเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงเท่านั้นและที่น่าแปลกก็คือตะโพนแท้ ๆ ของท่านมักจะไม่มีการเปลี่ยนมือกันอย่างง่าย ๆ เรียกได้ว่า "ใช้กันแบบตกทอด" จากปู่ถึงพ่อจากพ่อถึงลูกกันเลย โดยเฉพาะคนพื้นที่นั้นจะหวงแหนกันมากเป็นพิเศษครับ เพราะของแท้มีน้อยมากแต่ความศรัทธาและความต้องการตะโพนแท้ ๆ ของท่านมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ

บูชา 2500 บาท รวมค่าส่งพระเรียบร้อย เงินส่วนหนึ่งผมไปทำบุญทำทาน ท่านก็รับบุญไปด้วย รับประกันความพึงพอใจ สบายใจได้คืนผมได้ตลอดครับ (ช่วยโอนภายใน 15 วันนะครับ)

ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นไป ค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว

 

จองครับ

 

องค์ที่ 2 วัวธนูเขาควายเผือก หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง​

ประวัติหลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง

​

ท่านมีนามเดินว่า "น้อย นาวารัตน์" เกิดเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2435 ที่บ้านตำบลศรีษะทอง โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายมาและนางมี นาวารัตน์ โยมบิดา เป็นหมอรักษาโรคแบบแผนโบราณและเป็นหมอไสยศาสตร์ ที่เก่งกล้าทางอาคม ในสมัยที่หลวงพ่อน้อยยังอยู่ในเพศฆราวาส กล่าวกันว่า ท่านเป็นผู้ที่มีความขยันช่วยโยมมารดาทำนาปลูกผักครั้นว่างก็ศึกษาอักขระเลขยันต์คาถาอาคมไสยศาสตร์ ตลอดจนตำรับยาจากโยมบิดา เมื่อหลวงพ่อน้อย ท่านอายุได้ 21 ปี ท่านได้บวชเป็นพระภิกษุ ฉายาว่า "คนธโชโต" หลวงพ่อน้อย ท่านได้อยู่จำพรรษาอยู่ที่วัดแคอยู่ระยะหนึ่งหลวงพ่อน้อย จึงได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดศรีษะทอง ท่านก็ได้ศึกษาวิชาการต่างๆ ที่ได้สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยที่หลวงพ่อไตรเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีษะทอง ต่อมาหลวงพ่อน้อย ท่านได้สร้างพระเครื่องและเครื่องรางที่มีชื่อเสียง คือ "พระราหูอมจันทร์" และ "พระโคสุลาภ" หรือวัวธนู
วัวธนู หลวงพ่อน้อย มีสร้างน้อยมาก วัวธนูความสูงจากด้านล่างสุดถึงหลัง 1.5 ซม ความยาวหน้ามาหลัง 3 ซม. หรือใหญ่ยาวประมาณ 1ข้อนิ้วนาง ช่วงข้อบน อายุการสร้าง 80 กว่าปี วัวธนู หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง...ที่สร้างขึ้นมาจากเขาควายเผือกมีการสร้างในจำนวนที่ค่อนข้างน้อยมากๆ เนื่องมาจากวัตถุอาถรรพ์ ที่จะนำมาสร้างหาได้ยากยิ่ง ที่สำคัญมากๆที่สุด และหลวงพ่อน้อยท่านถืออย่างเคร่งครัดนั่นคือ..วัวธนูที่แกะมาจากเขาควายเผือก ที่ถูกฟ้าผ่าตาย นับตั้งแต่ยังเป็นเขาอยู่จะต้องแกะจนเป็นรูปวัวธนู ในระหว่างฤกษ์ที่หลวงพ่อท่านกำหนดขึ้นมาตามตำราเท่านั้น ซึ่งในรอบหลายปีจึงมีสักครั้งหนึ่ง และในครั้งหนึ่งนั้นมีเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ในแต่ละครั้งจึงแกะวัวธนู จากเขาควายเผือก ให้แล้วเสร็จทันฤกษ์ที่กำหนดไว้ได้เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นเอง วัวธนูที่แกะมาจากเขาควายเผือก นั้นใด้รับพลังขั้นสูง จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บนฝากฟ้าผ่านลงมาตามสายฟ้าฟาดประจุลงสู่เขาควายเผือกแล้ว จึงเป็นของทนสิทธิ์กายสิทธิ์ ที่มีฤทธิ์มีเดชมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองอยู่แล้ว หลวงพ่อท่านจึงแค่ทำพิธีปลุกเสกให้เป็นเวลา 1 พรรษา ครับ

พุทธคุณ มีความเชื่อกันมาแต่ครัั้งโบราณว่า วัวธนูดีทางเฝ้าเรือกสวนไร่นา ปกป้องกันคุณไสยมนต์ดำ ที่ถูกปล่อยมาตามลมตามแล้ง คอยปกป้องผู้คนในเรือนชานให้ปลอดภัยจากสิ่งที่มองไม่เห็นตัวตนป้องกันเสนียตจัญไร คุณไสย และภูตผีปีศาจได้ ช่วยปัดเป่าเรื่องร้ายให้กายเป็นดี จะเกิดความสำเร็จในหน้าที่การงาน เจริญก้าวหน้า

บูชา 1800 บาท รวมค่าส่งพระเรียบร้อย เงินส่วนหนึ่งผมไปทำบุญทำทาน ท่านก็รับบุญไปด้วย รับประกันความพึงพอใจ สบายใจได้คืนผมได้ตลอดครับ (ช่วยโอนภายใน 15 วันนะครับ)

ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นไป ค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว

 

องค์ที่ 3 พระเนื้อว่านพิมพ์เล็บมือ หลวงพ่อปลอด วัดหัวป่า ปี 2485
​

พระว่านหลวงพ่อปลอด วัดหัวป่า อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา พิมพ์เล็บมือสมาธิ ยุคอินโดจีน ปี 2485 หลวงพ่อปลอดวัดหัวป่าสร้างพระเนื้อว่านยาไว้หลายครั้ง และหลายรุ่น หลายพิมพ์ ในการสร้างยุคแรกๆ(ยุคอินโดจีน) เนื้อพระจะแห้งๆหนาๆ สมัยก่อนเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยชาวบ้านมักอาราธนาถึงพระคุณหลวงพ่อและขูดหรือ ฝานพระว่าน ผสมน้ำดื่มปรากฏว่าโรคภัยหายได้เป็นที่อัศจรรย์ พุทธคุณโดดเด่นรอบด้าน ทั้งเมตตา ชาตรี มหาอุตม์

​

พ่อท่านปลอด วัดหัวป่า อ.ระโนด จ.สงขลา สิริอายุของท่าน อยู่ในร่มกาสาวพัตร เกือบร้อยปี บรรพชาเมื่อ15 กค 2468 อุปสมบทบรรพชาอยุ่ที่วัดหัวป่าเมื่อพ่อท่านปลอดอายุได้19ปี มีพระอาจารย์คง ฆงฆสสโร เจ้าอาวาส และเป็นเจ้าคณะหมวด เป็นพระอุปัชฌา มีพระสุก ธมมสโร วัดบน(วัดประดู่หอม ต.ทะเลน้อย)เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และมีพระชู ติสสโร (วัดล่าง วัดทะเลน้อย)เป็นอนุสาวนาจารย์ ทั้ง3ท่านนั้นเชี่ยวชาญในพุทธาคมและชี่ยวชาญตำรับยาแผนโบราณที่ได้ร่ำเรียนมาจากสำนักเขาอ้อจากบูรพาจารย์ในอดีต และสืบวิชายาต่างๆให้กับพ่อท่านปลอด วัดหัวป่า พ่อท่านปลอดจึงต้องทำหน้าที่ แพทย์ ไปในตัว ขณะที่เป็นเจ้าอาวาส ณ เวลานั้น การเดินทางไปโรงพยาบาล ที่สงขลาเป็นการยากมากชาวบ้านมักจะมุ่งไปที่วัดหัวป่า ไปหาพระอาจารย์ปลอด ด้วยเป็นที่ล่ำลือ ว่าท่านสามารถรักษาผู้ป่วย ด้วยว่านยาสมุนไพร และคาถาอาคม รวมทั้งใช้พระธรรมคำสอนรักษา ได้เป็นที่อัศจรรย์ ยิ่ง และที่นี่ เปิดตลอดเวลา ไม่มีวันหยุด ไม่มีค่ารักษา มีอาหารที่พัก มีทุกอย่างที่ชาวบ้านประชาชนต้องการ เมื่อมีผู้คนจำนวนมาก ไม่สามารถเดินทางมาหาพ่อท่านปลอดได้ แต่ต้องการยาสมุนไพร ไปรักษาตัว หรือนำติดตัว เพื่อไว้ใช้เวลาคับขับขันได้ พ่อท่านปลอด จึงได้จัดสร้างพระเครื่องขึ้น โดยยังบอกกับลูกศิษย์และผู้มารับพระเครื่องเสมอว่า “ ไว้ทำยาได้ “ ซึ่งพระเครื่องที่ท่านสร้างนั้น มีส่วนผสมว่านเป็นหลัก ดังนั้นจึงเด่นนัก ในด้าน เป็นสมุนไพร รักษาสารพัดโรค โดยใช้เวทย์มนต์คาถา ปลุกเสกกำกับ เพิ่มพุทธานุภาพอีกด้วย เมื่อเริ่มสร้างพระเครื่องนั้น พ่อท่านปลอด เคร่งครัด ทั้งในมวลสาร ฤกษ์ยาม และสร้างตามแบบโบราณ คือจะต้องสร้างพระพุทธรูป หรือเทพเคารพขึ้นมาก่อน แล้วสร้างรูปอาจารย์ของตัวท่านเอง ส่วนรูปเหมือนหลวงพ่อปลอดเองนั้น ก็ได้สร้างตามลำดับในเวลาต่อมาห่างกันไม่นาน ดังนั้นพระเครื่องของท่าน ครั้งแรกสุด ของพ่อท่านปลอดที่ สร้าง ในคราวเป็นเจ้าอาวาส มาประมาณ 10 ปี คือ พ.ศ.2480 พิมพ์พระพุทธ พิมพ์พุทธกวัก พิมพ์นางกวัก คาดว่าน่าจะสร้างไม่เกิน พ.ศ.2480 เมื่อมีผู้นำพระเครื่องไปบูชา เกิดประสบการณ์มากมาย เป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างกว้างขวาง ไม่ต้องเดินทางไกลไปที่วัดหัวป่าแล้ว พระเครื่องชุดนี้หมดไปจากวัด จึงมีการร้องขอให้สร้างพระเครื่องของพ่อท่านปลอดขึ้นมาอีก ในช่วงพ.ศ.2480 – พ.ศ.2483 พ่อท่านปลอด จึงสร้างพระเครื่องขึ้นมาอีกหลายครั้ง โดยได้สร้างพิมพ์ถวายอาจารย์คง หรือพิมพ์หลวงพ่อคง หรือพิมพ์ตาหลวงคง หรือพิมพ์พ่อท่านคง ซึ่งเป็นองค์อาจารย์ของท่าน อย่างไรก้อตาม ด้วยการสร้างพระเครื่อง ในคราวนั้น มีจำนวนน้อย เนื่องจาก องค์พระพิมพ์หลวงพ่อคง มีขนาดใหญ่ จึงมีผู้ได้รับแจกจำนวนไม่มาก เมื่อนำไปบูชา เกิดประสบการณ์มากมาย เป็นที่กล่าวขานกันไม่จบ ลูกศิษย์ลูกหา ผู้ที่ศรัทธา พ่อท่านปลอด จึงร้องขอให้พ่อท่านปลอดสร้างพระเครื่องขึ้นมาอีกต่อเนื่อง โดยครั้งนี้ลูกศิษย์ ต้องการให้สร้างเป็นรูปเหมือน พ่อท่านปลอดเอง เพื่อจะได้ระลึกถึงอาจารย์ และลูกศิษย์บางท่าน และคนนอกพื้นที่ ก้อไม่รู้จักพ่อท่านคง ซึ่งเป็นอาจารย์ของพ่อท่านปลอดแล้ว พ.ศ.2484 – พ.ศ.2485 ในห้วงนี้ เป็นห้วงสงคราม ที่ประชาชนต้องการพระเครื่องไว้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เพื่อคุ้มครองป้องกันตัว และ ร่วมรบในสงคราม พระเครื่องพิมพ์รูปเหมือนพ่อท่านปลอด จึงได้ก่อกำเนิดขึ้น พระเนื้อว่าน รูปเหมือน พ่อท่านปลอด ที่เรียกว่า พิมพ์เล็บมือ หรือพิมพ์ซุ้มกอ ได้นำรูปพ่อท่านปลอดที่นั่งหน้าประตูโบสถ์ มาเป็นแบบ ซึ่งโค้งด้านหลังและกรอบด้านข้าง พ่อท่านปลอด ในพิมพ์เล็บมือนี้ คือประตูโบสถ์นั่นเอง นี่คือรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ที่พ่อท่านคิดขึ้นมา ไม่ได้ลอกแบบพิมพ์มาจากไหน การสร้างพระเครื่องในครั้งนี้ มีการสร้างตามความเชื่อแบบโบราณ คือ สร้างพิมพ์พระ พิมพ์พระพุทธ พิมพ์ถวายอาจารย์คง พิมพ์รูปเหมือนพ่อท่านปลอด ( พิมพ์เล็บมือ ) ซึ่งในสร้างครั้งนี้ พิมพ์อื่น มีการสร้างจำนวนเล็กน้อยเพื่อเป็นไปตามความเชื่อ แต่วัตถุประสงค์หลัก คือการสร้าง พระพิมพ์เล็บมือ เพื่อแจกผู้เข้าร่วมรบ ในสงครามโลกที่แผ่มายังแถบอินโดจีน ทั้งนี้ ในการสร้างและปลุกเสกครั้งนี้ นอกจาก สร้างพระ เพื่อไว้ทำยา แล้ว พ่อท่านปลอด ยังปลุกเสก พระเวทย์ ด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มหาอุตม์อีกด้วย พระเครื่องพิมพ์เล็บมือ จึงเป็นพระที่ได้ออกสนามรบมากที่สุด เนื่องจาก ด้วยปริมาณที่มีมากพอ เป็นรูปเหมือนพ่อท่านปลอดที่ลูกศิษย์ในยุคนั้นรู้จัก เคารพศรัทธา องค์พระมีขนาดเล็กกะทัดรัดพกพา นำติดตัว สะดวก พ่อท่านปลอดสร้างและมีเจตนาให้นำติดตัวไปปราบปรามผู้ร้ายโดยเฉพาะ ผู้นำไปบูชาเกิดประสบการณ์ อย่างปาฏิหาริย์ จึงมีผู้นิยมในยุคต้นนั้นได้นำติดตัวไปออกรบ จึงทำให้พบเห็นพระเนื้อว่าน พ่อท่านปลอดและเป็นที่แสวงหา กันอย่างมากในยุคปัจจุบัน

บูชา 2000 บาท รวมค่าส่งพระเรียบร้อย เงินส่วนหนึ่งผมไปทำบุญทำทาน ท่านก็รับบุญไปด้วย รับประกันความพึงพอใจ สบายใจได้คืนผมได้ตลอดครับ ขอบคุณครับ

ขอให้ทุกท่านที่ได้บูชาไปมีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้นไป ค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงครับ

 

องค์ที่ 4 สุดยอดเครื่องราง สาริกาจับปากโลง หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย จ.นครนายก (องค์นี้เห็นสีผึ้งเต็มๆครับ ได้ทั้งสีผึ้งกับสาลิกา ค้าขายเจรจาต้องมี)
​

ประวัติ หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย
หลวงพ่อสนิท เกิดเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2468 ณ บ้านบางกุ้ง ต.บางกุ้ง อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ท่านอุปสมบทเมื่ออายุ 23 ปี ได้รับฉายาว่า ยะสินธโร หลวงปู่สนิทเป็น พระอริยสงฆ์ที่รักสันโดษท่านจะออกธุดงค์ เป็นประจำทุกปี ด้านพระเวทย์วิทยาคม หลวงปู่สนิท ท่านเชี่ยวชาญโหราศาสตร์ และไสยศาสตร์ คัมภีร์เลขยันต์ คาถาอาคม สรรพวิทยาคุณต่างๆ และ แพทย์แผนโบราณ จนแตกฉาน ชำนิ ชำนาญ ในการแก้คุณไสย การถูกกระทำย่ำยีจากศัตรู รอบรู้การแก้ สรรพพิษ ยาเบื่อ ยาเมา ยาสั่ง การรักษาผู้ป่วยทั้งจากโรคภัยไข้เจ็บและการโดนคุณไสยตลอดจนคนที่มีอาการผิดปกติทางประสาท ท่านก็เมตตารักษาไม่เคยแยกแยะว่าผู้มาหาจะมีฐานะร่ำรวยหรือยากจนท่านปฏิบัติต่อญาติโยมทุกคนเท่าเทียมกันหลวงปู่สนิท มรณภาพเมื่อวันที่ 2542 สรีระศพของท่านไม่เน่าเปื่อยและเส้นเกศาก็เป็นพระธาตุอย่างน่าอัศจรรย์ ปัจจุบันสรีระของหลวงปู่ได้มีการพระราชทานเพลิงศพแล้ว

​

ข้อมูลพระเครื่อง
หลวงหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย ท่านได้สร้างสุดยอดเมตตามหานิยมไว้อีกอย่าง ซึ่งไม่ได้มีการแพร่หลายทั่วไป ก็คือนกสาริกา เนื่องจากมวลสารนั้นหายากมาก อันประกอบด้วย ผงบดละเอียดจาก กาฝาก ๑๐๘ ชนิด เกสร ๑๐๘ ผงอิทธิเจ ผงยันต์สูตรลบถมตามตำรา และที่สำคัญคือ ขี้ผึ้งปากผีตายโหง ซึ่งจำนวนในการสร้างนั้นมีน้อยมากซึ่งเรียกกันว่าสาลิกาจับปากโลง อันเป็นสุดยอดวิชาเมตตามหานิยม สมัยหลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่น้อยคนมากที่ได้มา เพราะท่านหวงท่านกลัวจะนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี ท่านนั่งปลุกเสกจนนกสาริกามาเกาะจึงใช้ได้ท่านว่าอย่างนั้น
คาถาบูชาสาริกา ก็ต้องหมั่นท่องทุกคืนใช้ว่า
“โอมปลุกปลุก รุกแล้วอย่านอน ครูกูสอน อย่าช้าสาลิกาเจ้าเอ๋ย อย่าเฉยเลยรา ครูสั่งเจ้ามาให้รักษาคุ้มครอง ปกป้องเคหา ผู้ใดมีจิตคิดร้ายขอให้กลับใจเมตตา โรคภัยนานาขออย่าได้พบพาล ลาภและยศขอให้ปรากฏขึ้นทั้งแปดทิศ มิตรขอให้เกิดขึ้นทั้งแปดด้าน ผู้ใดเห็นหน้ากูแล้วขอให้มันรัก ผู้ใดทักกูแล้วขอให้มันหลง โอม มหาสาลิกา กรึง กะระณัง ตาวัง ตาวา มะมะ เอหิ สวาหะ”
หลักการใช้สาลิกานั้น จำเป็นมากที่ต้องพยายามเรียกใช้เสมอ ยิ่งใช้ยิ่งศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ต้องปลุกเสกด้วยคาถา “วันนะ วันนา สาลิกาโย พุทธังสิโรวาหะมะมะ”

บูชา 2000 บาท รวมค่าส่งพระเรียบร้อย เงินส่วนหนึ่งผมไปทำบุญทำทาน ท่านก็รับบุญไปด้วย รับประกันความพึงพอใจ สบายใจได้คืนผมได้ตลอดครับ ขอบคุณครับ

ขอให้ทุกท่านที่ได้บูชาไปมีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้นไป ค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงครับ

​