พระอาจารย์จาตุรงค์ กลับมาอีกครั้งในนาม อ.ยอดสิงห์ จอมคนญาณทิพย์

คนมีญาณที่ผมจะนำเสนอต่อไปนี้ ถือว่าเป็นหนึ่งใน เพชรน้ำเอก เป็นบุคคลที่ทรงคุณค่าในเส้นทางแห่งญาณทิพย์ ที่ผมอยากจะให้คุณได้รู้จัก
และได้สัมผัสถึงเรื่องราวของท่านผู้นี้ ที่เต็มไปด้วยอุดมการณ์และปณิธานในการช่วยคนด้วยศาสตร์ทางจิตที่เหนือชั้น ทั้งการดูดวง ตรวจดวงชะตา
การช่วยเหลือคนโดยไม่เรียกร้องค่าดู ที่สำคัญ ที่ผมเปรยว่า ท่านผู้นี้เป็นคนที่ทรงคุณค่า และเชื่อว่าจะเป็นคนมีญาณระดับตำนานเลยทีเดียว
เพราะท่านผุ้นี้ มีภูมิธรรมที่สูงส่ง และชี้แนะทางธรรมให้กับผู้ใคร่ธรรมได้อย่างลึกซึ้ง จากการที่ท่านได้เคย อยู่ใต้ร่มกาสาวพัตร์ด้วยการ
ครองเพศบรรพชิตมาอย่างยาวนาน และท่านพร้อมช่วยเหลือคนด้วยความทุ่มเทเต็มความสามารถ

ไม่แปลกเลยที่ผู้คนมากมายที่ได้รู้จักกับท่านผู้นี้ จะเกิดความเลื่อมใสศรัทธา อ.ท่านนี้เป็นอย่างยิ่ง ด้วยบุคลิกภาพของท่าน มีภาวะความเป็นผู้นำ
ผู้ทรงธรรม และแตกฉานในศาสตร์ทางจิต ลูกศิษย์ของท่านแต่ละคนที่ได้รับคำสั่งสอนชี้แนะจากท่าน ล้วนเกิดสิ่งดีๆกับชีวิตกับเขาเหล่านั้นมากมาย
ทั้งทางโลกและทางธรรม ไม่ว่าท่านจะไปไหน
จะทำการใด จะมีผู้คนพร้อมช่วยเหลืองานบุญของท่านด้วยความเต็มใจ และเต็มที่ทุกครั้งไป

หากคุณได้อ่านบทความเปิดตัวของ อ.ท่านนี้ คุณจะเข้าใจว่าทำไม บุคคลท่านนี้ จึงได้รับการยกย่องจากเหล่า อาจารย์มีญาณในเว็บญาณทิพย์ว่าเป็น
“ จอมคนญาณทิพย์”


ขอแนะนำให้ได้รู้จักกับ

“อ.ยอดสิงห์” จอมคนญาณทิพย์





ผมได้รู้จัก อ.ยอดสิงห์ ไม่ใช่แค่ เดือน สองเดือนนี้ หรือ ปีนี้ หรือปีที่แล้ว แต่จริงๆผมได้รู้จักกับ อ. ก่อนที่ผมจะได้รู้จักกับ
อ.มีญาณทุกคนในเว็บญาณทิพย์นี้ซะอีก หรือจะบอกได้ว่า ผมรู้จักแก ก่อนที่ผมจะมาก่อตั้งเว็บนี้ด้วยซ้ำ หลายปีดีดะแล้ว

เชื่อว่า หลายๆคนที่ติดตามเว็บญาณทิพย์มาอย่างต่อเนื่อง ก็คงรู้จักท่านมาพอสมควร แต่ไม่ได้รู้จักชื่อท่านใมนาม อ.ยอดสิงห์
แต่รู้จักท่านเมื่อครั้งท่านอยู่ในเพศบรรพชิตใน สมณนามว่า
“พระอาจารย์ จาตุรงค์”

เชื่อว่าหลายคนรู้จักท่านดี ผมได้รู้จักพระอาจารย์จาตุรงค์เมื่อหลายปีก่อน ก่อนที่ผมจะมาตั้งเว็บนี้ ตอนนั้นผมยังเผยแพร่คนมีญาณในเว็บธรรมะแห่งหนึ่ง
สมัยนั้น มีคนแนะนำให้ผมได้รู้จักพระรูปหนึ่งที่มีญาณหยั่งรู้ที่เก่งกล้ามาก พร้อมมีวัตรปฏิบัติที่น่าเลื่อมใส ท่านเคร่งครัดในธรรมวินัย
และชอบธุดงค์ไปตามป่าเขาเพียงลำพัง ปลีกวิเวกสันโดษ ไม่ติดในลาภสักการะ ลาภศรัธาและไม่สนใจในสมณศักดิ์ใดๆมที่ท่านได้รับ
ท่านต้องการเดินตามทางแห่งพระสงฆ์จริงๆ ท่านมีจิตใจเมตตามาก และจะธุดงค์ไปช่วยเหลือผู้คนตามถิ่นธุระกันดาร และโปรดชาวบ้าน ตามชนบทที่ห่างไกลจากวัด

อีกทั้งท่านยังแตกฉานหลักธรรมและหลักการปฏิบัติกรรมฐานที่ถูกต้อง และสอนธรรมะแบบเข้าใจง่าย แต่สุขุมลึกซึ้ง
แม้แต่คนไม่ค่อยมีพื้นฐานทางธรรมยังเเข้าใจที่ท่านชี้แนะได้อย่างน่าอัศจรรย์ จนมีผู้คนมากมายฝากตัวเป็นศิษย์

หนึ่งในลูกศิษย์ของท่านที่ได้รับชี้แนะ สั่งสอนจากท่าน คือ “อ. กิมจัง เจ้าหนุ่มญาณทิพย์” เชื่อว่า ชาวญาณทิพย์คงรู้จัก
หนุ่มน้อยนิสัยดีคนนี้เป็นอย่างดี นอกจาก กิมจังจะเป็นคนดีเพราะนิสัยส่วนตัวแล้ว เขายังดำรงตนเป็นแบบอย่างคนมีญาณที่ดี
เพราะได้รับคำชี้แนะสั่งสอนจากพระอาจารย์จาตุรงค์ ที่ชี้แนะคนให้เดินทางธรรม ไม่ใช้ญาณไปในทางมงาย

และเท่าที่ผมได้รู้จักกับลูกศิษย์ของพระอาจารย์หลายๆคนที่นำคำสอนของท่านมาใช้ ศิษย์บางคนเคยเป็นคนที่เคยล้มเหลวในชีวิต
หรือจากคนที่เดินทางผิด แต่แปลี่ยนมาเป็นคนใหม่ที่ใฝ่ในธรรมะ ผมยอมรับเลยว่าพระอาจารย์ท่านสอนคน จนเปลี่ยนคนได้อย่างยอดเยี่ยมมาก

ด้วยเหตุที่ อ.ท่านประพฤติตนตามวิถีแห่งพระสงฆ์ อันเป็นเนื้อนาบุญที่ดีแห่งบวรพระพุทธศาสนา ตอนนั้นผมจึงได้เผยแพร่เรื่องราวขอท่านในเว็บธรรมะ
และผู้คนมากมายได้ติดต่อกับท่าน เพื่อให้ท่านช่วยชี้แนะสิ่งที่ติดขัดในชีวิต รวมถึงได้มีโอกาสได้ร่วมบุญตามโครงการของท่าน
เช่น ได้ บูรณะวัดถ้ำดงเข จ .ชัยภูมิ จากวัดร้างที่ถูกทิ้งไว้ และท่านนอกจากจะเป็นพระนักปฏิบัติแล้ว ยังเป็นพระนักพัฒนาอีกด้วย
ท่านได้บุกเบิกบูรณะวัดนี้ จนกลายเป็นวัดที่สมบูรณ์ ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของผู้คนมากมายทั้งคนในพื้นที่ คนในเว็บต่างๆที่ผม รักไร้พ่ายได้เผยแพร่เรื่องราวของท่านไป

ด้วยการที่ท่านไม่ได้ยึดติดในสิ่งใดๆ แม้แต่วัดที่ท่านบุกเบิกด้วยตัวท่านเอง ท่านก็ไม่ได้พำนักอาศัยอย่างถาวร ท่านเห็นว่า
วัดแห่งนี้ ได้เสร็จสมบูรรณ์เป็นอันดีแล้ว ท่านได้เชิญพระรูปอื่นมาพำนักประจำวัดนี้ เพื่อเป็นที่พี่งแก่ชาวบ้าน และท่านได้จัดการงานภายในวัดให้เสร็จสิ้น
จากนั้นท่านจึงได้ออกธุดงค์ตัวคนเดียว และเดินทางไปช่วยเหลือผู้คนตามที่ถิ่นกันดารต่างๆต่อไป

แต่ก่อนที่ท่านจะลาจากวัดถ้ำดงเขไป ท่านได้เชิญผมให้นำผู้คนไปปฏิบัติธรรมที่นั่นสักครั้งหนึ่ง ท่านเห็นว่า ผมคือส่วนหนี่งที่ได้แผยแพร่
งานบุญบูรณะวัดครั้งนั้นด้วย ท่านจึงอยากให้ผมได้มาดูผลงานที่ท่านกับผมและผู้มีส่วนร่วมได้มาชมวัดและ ปฏิบัติธรรมร่วมกันที่วัดนี้สักครั้งก่อนที่ท่านจะลาจากไป

ผมจึงได้จัดเป็นทัวร์บุญญาณทิพย์ ไปปฏิบัติธรรม วัดถ้ำดงเข จ.ชัยภูมิ 2 วัน 1 คืน ปกติผมจะจัดทัวร์ไปค้างคืน
จะนอนโรงแรม นอนรีสอร์ทหรูๆ ไมเคยจัดแบบนอนวัดเลย โดยเฉพาะวัดถ้ำดงเข เป็นวัดป่า ไม่เจริญเหมือนวัดใหญ่ๆ คิดว่า คนที่ไปคงไม่สะดวก และไม่ชอบ

แต่เชื่อไหมว่า คนที่ไปทัวร์กับผมเป็นร้อยๆคน กลับประทับใจมากที่ได้มาปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์จาตุรงค์
เพราะการสอนปฏิบัติธรรมของท่าน ง่ายและเข้าถึงแก่นแท้ของธรรมะจริงๆ คนที่ได้ไปปฏิบัติธรรมครั้งนั้นหลายคนถึงกลับน้ำตาไหล
โดยเฉพาะตอนที่ท่านสอนการปฏิบัติบนเนินเขา ผมยังจำภาพติดตานั้นได้ดีที่ทุกคนจะนำจุดเทียนคนละ 1 เล่ม
วางตรงหน้าและนั่งบนพื้นตรงเนินเขาเป็นลานกว้างช่วง 2 ทุ่ม โดยมีพระอาจารย์จาตุรงค์เดินรอบๆ และสอนการปฏิบัติกรรมฐาน
หลายคนบอกว่า นั่นเป็นการปฏิบัติธรรมที่สุดยอดที่สุดเท่าที่เขาเคยประสบมา เพราะหลายคนปฏิบัคิมาหลายที่หลายสำนักแต่ไม่ก้าวหน้า
แต่พอมาที่นี่กลับเข้าถึงธรรมะได้อย่างง่ายดาย และหลายคนเรียกร้องให้ผมจัดทัวร์มาปฏิบัติธรรมกับท่านอีก
แต่ผมไม่อาจทำได้ เพราะท่านจะอำลาออกธุดงค์เพียงลำพังแล้ว

ปณิธานของพระอาจารย์จารตุรงค์ คงจะสร้างบารมีต่อไปตราบสิ้นอายุขัยในเพศบรรพชิต

แต่ชีวิตคนเรา ล้วนอนิจจัง !!

แม้แต่ พระดีๆอย่างพระอาจารย์จาตุรงค์ก็หนีไมพ้นสัจธรรมข้อนี้

ขณะที่ท่านได้ช่วยเหลือและชี้แนะชาวบ้านตามถิ่นกันดาร ท่านได้รับข่าวว่า โยมแม่ของท่านซึ่งเป็นเบาหวานเรื้อรังมาหลายปี
อาการกำเริบ จนมีผลกระทบทำให้ตาท่านบอดไปข้างนึง เพราะโยมแม่ท่านซึ่งอยู่ในวัยชราภาะขาดคนช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด
พระอาจารย์กังวลเรื่องนี้อย่างมาก และอยากจะมาดูแลคุณแม่ยามป่วย แต่ด้วยการครองเพศบรรพชิดอาจไม่สะดวกนัก
มีทางเดียวที่ท่านจะไปดูแลโยมแม่ได้ คือท่านต้องลาสิขาไป

แม้ว่าในใจจริงพระอาจารย์ปารถนาจะสร้างบารมีในเพศบรรพชิดไปตลอดชีวิตนี้ และมีหลายสิ่งหลาอย่างที่ท่านตั้วใจจะทำ
แต่คุณธรรมอันใดก็แล้วแต่ คงไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าคุณธรรมแห่งความกตัญญูต่อบุพการีผู้บังเกิดเกล้า
ท่านจึงตัดสินใจลาสิกขาออกมาอยู่ดูแลคุณแม่อยู่ โดยเช่าบ้านอยู่ที่บางบัวทอง และยึดอาชีพทางโลกด้วยการรับตั้งศาลตามที่ต่างๆ

อ.ท่านได้โทรมาหาผมและแจ้งข่าวการลาลิกขา ตอนนั้นผมรู้สึกเสียดายที่เมืองไทยได้ขาดพระสงฆ์ดีๆที่มีคุณูปการให้กับพระศาสนา
แต่อีกใจหนึ่งผมก็รู้สึกยินดี ตรงที่การที่ท่านได้ออกมาอยู่ในเพศฆราวาสนี้ ด้วยวิขาความรู้ ไม่ว่าจะเป็นวิชามุ่งเน้นทางโลกอย่างศาสตร์ทางจิต
หรือวิชาทางธรรมอย่างกรรมฐาน และหลักธรรม ท่านแตกฉานระดับพหูสูตทีเดียว ใจผมคิดแบบกระหยิ่มว่า หากได้ท่านมาอยู่ร่วมชายคาญาณทิพย์
เว็บนี้ก็เหมือนหมูติดปีก บินสูงลิ่วไปอีกไกลเลย

ผมจึงได้ทาบทามท่านให้มาช่วยคนที่นี่ แต่ตอนนั้นท่านยังไม่พร้อมจะมาร่วมทางกับผมที่นี่ ท่านต้องการจะอยู่อย่างปลีกวิเวก
ตามจริตเดิมครั้งยังเป็นพระ และมีงานบุญของท่านที่ต้องดำเนินการให้เสร็จ ซึ่งทำให้ผมรู้สึกเสียดายอย่างมาก

แต่ใจผมลึกๆ เชื่อมั่นว่า วิสัยของ ราชสีห์อยู่ที่ไหนก็ไม่ทิ้งลายราชสีห์
แม้ว่าท่านลาสิกขา เป็นฆราวาส แตวิสัยของการอยากช่วยคน อยากเผยแพร่องค์ความรู้ เพื่อจรรโลงจิตใจผู้คน
และ ชี้แนะทางสว่างให้กับผู้คนที่มืดมนหนทางออกในชีวิต มันอยู่ในสายเลือดและจิตวิญญาณของท่านที่ไม่
อาจลบเลือนด้วยความเป็นฆราวาสแต่อย่างใด

ผมเชื่อว่า สักวันนึงท่านคงหวนกลับมาหา ญาณทิพย์ เพราะเชื่อว่าไม่มีที่ไหนที่จะเหมาะสมกับท่านเท่าที่นี่อีกแล้ว
ที่ซึ่งไม่ใช่เป็นอู่ข้าว อู่น้ำให้มาตักตวงในลาภถยศ แต่เป็นอู่บุญ อู่ธรรมให้มาร่วมสร้างความดี ประดับบารมี

อีกหลายเดือนต่อมา การรอคอยของผมก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อท่านได้โทรมาหาผม และถามผมว่า ยังต้องการให้แกร่วมทางกับญาณทิพย์อยู่หรือไม่

ผมยิ้มดีใจ จน ก้นปริ เอ๊ย แก้มปริ

โอ้ !! เหมือนฝันที่เป็นจริงเลย แม้ว่า รักไร้พ่าย จะไม่มีญาณ แต่ก็มีเซ้นหยั่งรู้ว่า ยังไงแล้ว คนอย่าง
อาจารย์ก็ต้องมาร่วมทางกับผมที่นี่ เพราะเราไม่ใช่เพิ่งร่วมทางบุญกันครั้งแรก แต่เคยร่วมกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

อาจารย์แกบอกผมว่า แกเกิดที่ไหน ก็ขอตายที่นั่น
ท่านบอกว่า ท่านเป็นที่รู้จักของผู้คนได้ เพราะ คนที่ชื่อ รักไร้พ่าย และขอร่วมหัวจมท้ายกับ รักไร้พ่าย ตลอดไป

โอ้ว !! ผมฟังแล้วซึ้งใจจริงๆ

และดีใจมากๆ ที่จะได้คนอย่างท่าน ที่เป็นดั่งเพชรน้ำเอกแห่งคนมีญาณ ผู้เต็มไปด้วยคลังความรู้
สรรพวิชามากมายที่จะมาช่วยชี้แนะผู้คน ทั้งการดูดวง ตรวจกรรมผ่านญาณ และอีกมากมาย
ซึ่งวิชาเหล่านี้ท่านได้ศึกษามาตั้งแต่วัยเยาว์ กับหลวงพ่อชื่อดัง แต่ไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่มากนัก
เพราะท่านออกบวช ด้วยวินัยสงฆ์มีข้อจำกัดมากมาย เพราะหากใช้วิชาเหล่านี้ เช่นการดูดวง ดูญาณ
แม้ว่าจะเป็นการช่วยคน แต่จะถูกมองว่าเป็นการอวดอุตริได้ แต่เมื่อท่านอยู่เพศฆราวาส ท่านสามารถใช้วิชาเหล่านี้มาช่วยคนได้เต็มที่

แม้ว่าท่านจะอยู่ในเพศฆราวาส แต่ภูมิธรรมของท่านไม่ได้ลดน้อยลงไปกว่าตอนเป็นพระเลย
ท่านเข้าใจและเข้าถึงธรรมอย่างลึกซึ้ง และสามารถสอนธรรมะให้เข้าถึงแก่นแท้ของธรรมชาติ ตอนเป็นพระสอนยังไง ตอนเป็นฆราวาสก็สอนอย่างนั้น
และท่านยังหนักแน่นในปณิธานเดิม คือการได้เผยแพร่ธรรมะที่ถูกต้องให้กับผู้คน
และหลักการปฏิบัติกรรมฐานในแนวทางของท่านที่เข้าใจง่าย และได้ผลเร็ว

สมัยที่ท่านยังเป็นพระ ท่านออกไปช่วยคน ชี้แนะธรรม และสอนการปฏิบัติให้กับคนต่างถิ่นกันดาร
ท่านเริ่มแรกเหมือนพระต่างถิ่น แต่เพียงไม่นาน ท่านก็ได้รับศรัทธาจากผู้คนมากมาย ในด้านการเป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติที่ดี
สมถะสันโดษ อ่อนน้อม แต่สูงส่งด้วยภูมิธรรม ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมายทั้งคนใหญ่คนโต ทหาร ตำรวจ พ่อค้า

เมื่อมาเป็นฆราวาส ท่านออกไปช่วยคนที่เดือดร้อน เช่นคน มีปัญหาการค้าขาย ท่านก็ช่วยด้วยศาสตร์ชัยภูมิฮวงจุ้ย หรือ
การตั้งศาลให้ จนกิจการของคนนั้นดีขึ้นแบบอัศจรรย์โดยที่ท่านไม่ได้เรียกร้องเงินทองใดๆจากคนเดือดร้อนเลย
แม้ว่าท่านจะยึดเป็นอาชีพประทังชีวิต แต่หากใครเดือดร้อนท่านพร้อมจะช่วยด้วยใจจริง
นั่นเป็นสาเหตุให้ มีคนศรัทธาท่านและฝากตัวเป็นศิษย์มากมาย และคนเหล่านั้นก็ไม่ได้รู้ประวัติเดิมว่าท่านเป็นใครมาก่อน

วิสัยราสีห์ อยู่ไหนก็ไม่ทิ้งลายราชสีห์ !!

ลูกศิษย์ อ.คนนึง เป็นระดับเศรษฐี มีปัญหาชีวิตรุมเร้า จนมาพบ อ. ยอดสิงห์ และ อ.ช่วยให้เขารอดพ้นจากวิกฤตชีวิต
โดย อ.ไมได้เรียกร้องผลตอบแทน จนเศรษฐีคนนั้นศรัทธามาก ได้มอบที่ดินเปล่ามูลค่า 20 กว่าล้านแภว
บางบัวทองให้ อ.ยอดสิงห์ ซึ่ง อ.เองไม่ได้ต้องการ แต่เศรษฐีอยากมอบให้ อ.ด้วยใจ อย้าง้อยก็ได้ใช้ประโยชน์ให้กับคนหมู่มากได้
อ.จึงคิดจะนำที่ดินนั้นมาบูรณะให้เกิดประโยชน์ในทางธรรม จึงคิดที่จะสร้างเป็นสถานปฏิบัติธรรม

ลองมาอ่าน บทรีวิวระหว่างผมกับ อ.ยอดสิงห์กันครับ

............................

รักไร้พ่าย : จุดเริ่มต้น ทำไม อ.คิดอยากจะบวชเป็นพระ

อ.ยอดสิงห์ : แต่ก่อน อ.มีชีวิตทางโลกแบบสุดโต่งเลยนะ เราเคยหลงทางมาก่อน เคยเดินผิดทาง
และมานึกถึงตอนที่คุณพ่อ อ.เสีย ก็มานั่งคิดกับชีวิตตัวเองว่า เราใช้ชีวิตแบบไม่มีความหมาย
ไม่เกิดคุณค่าอะไรเลย บางทีก็ไปมีเรื่องมีราวกับคนอื่น ชีวิตแบบนี้ มีแต่ทำให้เราทุกข์ใจ เลยคิดว่า
การออกบวช คงเป็นทางที่จะทำให้เราพ้นทุกข์ชีวิตแบบนี้ได้

รักไร้พ่าย : อ่อ ครับ เป็นความคิดที่ยิ่งใหญ่มากเลยนะครับ แต่ อ.เน้นบวชแบบธุดงค์ในป่าคนเดียว
มันลำบากนะ น่ากลัวด้วย พระบางรูปไม่มาทางนี้

อ.ยอดสิงห์ : การใช้ชีวิตอยู่กับการติดสุข ติดสบาบ ไม่ได้ทำให้เราก้าวหน้า เมื่อเราพร้อมที่จะออกบวชเพื่อตัดกิเลส
ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องจะลำบาก

รักไร้พ่าย : อ่อ ครับ

อ.ยอดสิงห์ : คุณรัก รู้สึกไหมว่า ทำไมนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรมแล้วไม่ก้าวหน้า

รักไร้พ่าย : อึมๆ

อ.ยอดสิงห์ : เพราะว่า เรากังวลกับเรื่องว่าการติดสุข ติดสบาย พอนั่งไปก็คิดไปว่า พรุ่งนี้จะไปทำอะไร
วันนี้ยังไมได้ทำอะไร เดี๋ยวต้องไปทำอะไร ความคิดที่กังวลแต่ในกิจวัตรที่คุ้นเคยนี่แหละ เป็นตัวกั้นไม่ให้เราก้าวหน้า

รักไร้พ่าย : ใช่ๆ

อ.ยอดสิงห์ : ถ้าเรากล้าที่จะตัดพันธนาการเหล่านี้ออกไปได้ จะทำให้เราก้าวหน้าทางการปฏิบัติ

รักไร้พ่าย : ใช่ครับ แต่ อ.ก็ใจกล้าเลยนะ ไปอยู่ป่าคนเดียวได้

อ.ยอดสิงห์ : แรกๆก็กลัวเหมือนกัน ยิ่ง 7 ถึง 10 วันแรก เป็นการทดสอบใจเลย แต่ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้
จิตจะเบาหวิวเลย อ.ผ่านตรงนี้ไปได้ เลยทำให้เข้าใจวิถีของจิตว่าง และเข้าถึงกรรมฐานได้ง่าย

รักไร้พ่าย : อ่อ ครับ บางคนจะเริ่มต้นจากง่ายไป ยาก แต่ อ.นี่เริ่มจากยากก่อนแล้วไปง่าย เรียกว่า ใจใหญ่เลยครับ
แล้ว อ.ใช้หลักปฏิบัติแนวไหน ในการเข้าถึงจิตว่าง

อ.ยอดสิงห์ : อ.ศึกษาทางแนวแห่งจิตว่าง จากหลวงพ่อเปิ่น และใช้แนวทางนี้มาปฏิบัติ

รักไร้พ่าย : อ่อ ผมเห็น อ.รู้ศาสตร์ต่างๆเยอะมาก เช่น วิชาอาบน้ำทิพย์ อ.เริ่มเรียนจากไหน

อ.ยอดสิงห์ : ศาสตร์เหล่านี้ อ.เรียน หลายหลวงพ่อ เรียน ตั้งแต่อายุ 12 – 13 แล้ว ทั้งอาคม วิชาปัทมัง อักขระขอม

รักไร้พ่าย : แล้วจุดหมายในการบวชของ อ. คืออะไรครับ

อ.ยอดสิงห์ : ตอนแรกที่บวช อ.ตั้งใจจะไปบวชแถวอีสาน และอยากช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส
เด็กมีปัญหาชีวิต เด็กติดยา ตามถิ่นกันดารที่นั่น เคยติดว่า เราอยากจะเป็นพระ ที่ช่วยคน เหมือนพระวัดพระบาทน้ำพุ

รักไร้พ่าย : อ่อ ครับ แล้ว อ จะช่วยเขายังไงเหรอ

อ.ยอดสิงห์ : อ. คิดว่า ธรรมะและความดีจะช่วเหลือพวกเขาได้

รักไร้พ่าย : อ๋อ ตอนแรกเลย คือ อยากช่วยเด็กมีปัญหาชีวิต แถวอีสาน

อ.ยอดสิงห์ : ใช่ ครับ เด็กที่ อ.ไปช่วย บางคน คิดจะฆ่าตัวตายด้วย อ.เองก่อนหน้านี้ก็เคยมีปัญหาชีวิตมาก่อน เคยติดจะฆ่าตัวตายด้วย

รักไร้พ่าย : อ่อ

อ.ยอดสิงห์ : อ.เลยเข้าใจปัญหาของพวกเขา เพราะเราก็เคยอยู่ในจุดนั้นมาก่อน

รักไร้พ่าย : ครับ เด็กหลายคนที่มีปัญหาชีวิต าเพราะขาดคนที่เข้าใจพวกเขา และถูกทอดทิ้ง
ถูกมองว่าเป็นส่วนเกินของสังคมและไม่ได้รับการดูแลอย่างจริงใจ นอกจากจะช่วยเด็กแล้ว อ.ช่วยคนอื่นอีกไหม

อ.ยอดสิงห์ : ก็ช่วยชาวบ้าน ชาวบ้านเขารู้ว่าเราดูชะตาได้ ก็มาขอให้เราช่วยดู แล้วมีคนมาดูเรื่อยๆ
และพูดต่อๆกันไป จนคนนึงเขาได้ไปบอก คุณรัก จน คุณรักได้มารู้จักกับ อ.

รักไร้พ่าย : อ่อ ใช่ ครับ

อ.ยอดสิงห์ : จากนั้น คุณรักก็ได้แนะนำ อ. และมีคนโทรมาหา อ.เยอะมาก มีคนนึง มาดูกับ อ.พอดูเสร็จ
ก็เอาเงินมาให้ อ.ก็บอกว่าไม่ได้รับเงิน แต่เขาบอกว่าอยากให้นำเงินนี้ไปทำบุญอะไรก็ได้ และก็มีหลายคน มอบเงินให้ อ.
ซึ่งเงินที่ได้นั้นแป็นเงินที่มากอยู่ อ.จึงคิดว่า จะหาสถานที่สร้างวัดสักแห่งนึง

รักไร้พ่าย : อ่อ เป็นที่มาของการสร้างวัดถ้ำดงเข

อ.ยอดสิงห์ : ใช่ ตอนนั้น มีคนมาร่วมบริจาคกันเยอะมาก เดือนๆนึงได้เป็นแสนๆ อ.คิดว่า เราไม่ได้อยากไปเรี่ยไร

รักไร้พ่าย : คนเขาศรัทธาในสิ่งที่ อ.ทำครับ แต่พอวัดสร้างเสร็จ ผมแปลกใจว่าทำไม อ.ไม่อยู่วัดนั้นต่อไปละ
อ.ออกธุดงค์ไปที่อื่นต่อ

อ.ยอดสิงห์ : อ.เคยบอกกับลูกศิษย์ในเรื่องนี้ว่า อ.ไม่ใช่เปรตเฝ้าวัด พอสร้างวัดจนอยู่ตัวแล้ว เราไม่ใช่ปราชญ์ในหมู่ชน
เราไม่ใช่พระดังที่คนจะเข้ามาหา แต่เราเป็นพระเล็กๆที่เข้าไปหาหมู่ชน

รักไร้พ่าย : ผมซาบซึ้งในความเป็นผู้สมถะของ อ. ครับ จากนั้น อ.ไปธุดงค์ที่ไหนครับ

อ.ยอดสิงห์ : ไปแม่ฮ่องสอน ไปสอนกรรมฐานให้กับพระบวชใหม่ที่นั่น และช่วยเหลือชาวบ้าน

รักไร้พ่าย : ช่วยชาวบ้านด้านไหนครับ

อ.ยอดสิงห์ : ช่วยทำน้ำมนต์ ถอนคุณไสย์

รักไร้พ่าย : โอ้

อ.ยอดสิงห์ : แถวนั้น เล่นของกันเยอะมาก อ.เจอคนโดนของมาให้ช่วยเกือบทุกวันเลย

รักไร้พ่าย : อ่อ อ.ถอนคุณไสย์ได้ด้วยเหรอ

อ.ยอดสิงห์ : ใช่ ต้องทำน้ำมนต์ช่วยชาวบ้าน

รักไร้พ่าย : ได้ข่าวว่า อ.ต้องสึกอออกมาเพื่อดูแลคุณแม่

อ.ยอดสิงห์ : ใช่ครับ เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก กับการที่เราตั้งใจที่จะรับใช้พระศาสนาในชายผ้าเหลือง แต่แม่ อ.
เป็นเบาหวานมาตั้งแต่อายุ 20 กว่าๆ จนถึงทุกวันนี้ ก็เป็นเวลาเกือบ 40 ปี แต่มาเป็นหนักตอนปี ที่แล้ว
เพราะเบาหวานขึ้นตาทั้ง 2 ข้าง ได้รับการผ่าตัดพังผืดมาหลายครั้ง แต่ก็กลับมาเป็นเช่นเดิมอีก
ซึ่งครั้งนี้เป็นหนักมากกว่าเดิม ดวงตาข้างหนึ่งแทบปิดสนิท ไม่สามารถมองเห็นได้ตามปกติ
ซึ่งบอดสนิทไปหนึ่งข้างแล้ว ยแม่ของอาจารย์ก็ต้องอยู่บ้านคนเดียว ทางอาจารย์จึงคิดว่า คงปล่อยให้แม่อยู่บ้านคนเดียวอย่างนี้ไม่ได้ จึงตัดสินใจลาสิกขาออกมาดูแลท่าน

รักไร้พ่าย : ครับ ที่ผ่านมา อ.ได้ทำหน้าที่พระที่ดี สร้างสรรค์สิงดีๆไว้กับพระศาสนามากมาย
ผมก็ยังเสียดายที่ อ.ลาสึกออกมา แต่การที่ได้มีโอกาสทำหน้าที่เป็นลูกที่ดีตอบแทนคุณพ่อแม่ ก็เป็นสิ่งประเสิรฐเช่นกัน ผมโมทนากับ อ.ในทุกบทบาทหน้าที่ที่ผ่านมา

อ.ยอดสิงห์ : ตอนที่ อ.ลาสึกออกมาก็ไม่เงินติดตัว อ.ไม่ได้ไปเรี่ยไรเงินใคร ลูกศิษย์ลูกหารู้ว่า
อ.มีความรู้เรื่องการตั้งศาล ก็ได้ช่วยหาลูกค้าให้ อ.ได้ยึดอาชีพทางโลก

รักไร้พ่าย : อ่อ ครับ แล้วตอนนี้ อ.มีปณิธานยังไงบ้างในบทบาทของการเป็นฆราวาส

อ.ยอดสิงห์ : อ.คิดว่า แม้ว่าเราจะสึกออกมา แต่ความรู้ที่เรามีอยู่ สามารถพอจะช่วยเหลือคนได้บ้าง
สิ่งสำคัญสำหรับ อ.คือ อยากจะเผยแพร่ธรรมะ คำสอนของพระพุทธศาสนาที่ถูกต้องให้กับผู้คนได้รับรู้ให้มากที่สุด และได้รับใช้พระศาสนาในเพศฆราวาสเท่าที่จะทำได้

รักไร้พ่าย : โอ้ โมทนาครับ

อ.ยอดสิงห์ : คุณรัก รู้มั๊ย ทุกวันนี้ คำสอนของพระพุทธศาสนาถูกบิดเบือนไปเยอะมาก
คำสอนดั้งเดิมถูกใส่ด้วยความคิดเห็นส่วนตัวเข้าไป จนหลุดออกจากกรอบความเป็นจริง

รักไร้พ่าย : ใช่ครับ อ. ความเชื่อผิดๆในคำสอน ตอนนี้แพร่หลายไปเยอะมาก เพราะขาดคนที่เข้าใจและรู้จริงครับ แนวทางคำสอนของ
อ. นั้น ผมได้สัผมัสมาแล้ว จากที่เคยจัดทัวร์บุญพาคนไปปฏิบัติธรรมกับ อ. ที่ วัดถ้ำดงเข หลายคนชื่นชอบแนวทางของ
อ.มาก ง่ายๆแต่ลึกซึ้ง ใช้เวลาสั้นๆ แต่เข้าถึงแก่นแท้แห่งธรรมได้อย่างไม่น่าเชื่อ หลายคนก็น้ำตาไหลเลยครับ
มีคนมาถามผม เมื่อไหร่จะจัดไปปฏิบัติกับ อ.อีก รียกร้องผมมาเยอะมากเลยนะ

อ.ยอดสิงห์ : เหรอ

รักไร้พ่าย : ครับ แม้แต่ อ.มีญาณในเว็บก็ชอบแนวทางของ อ.มากๆ เขาบอกว่า ตั้งแต่รู้จักพระสงฆ์มา
ไม่มีพระรูปไหนที่สอนคนได้ดีเท่ากับ อ.อีกแล้ว อันนี้ เขาพูดกับผมแบบนี้ จริงๆนะ

อ.ยอดสิงห์ : เอาสิ ถ้าคุณรัก เห็นว่า แนวทางของ อ.จะเป็นประโยชน์กับคนหมู่มาก อ ก็.ยินดี

รักไร้พ่าย : โอ้ ! ดีครับ อ. หลายคนเขาเรียกร้องกันมาเยอะเลยครับ

อ.ยอดสิงห์ : อ.เคยบอก กับกิมจังว่า อ.กับ กิมจัง จะอยู่ช่วยงานของคุณรัก และ ญาณทิพย์ตลอดไป
หากคุณรักเห็นว่า อ.ยังจะพอทำประโยชน์อะไรให้กับญาณทิพย์ได้ อ .ก็ยินดี ครับ และ อ.ไม่เรียกร้องผลตอบแทนใดๆทั้งนั้น

รักไร้พ่าย : โอ้ ผมซาบซึ้งมากเลยครับ ผมขอบคุณ อ.มากเลยครับ ผมเองก็อยากให้คนอย่าง
อ.มาช่วยนำพาญาณทิพย์ก้าวไปข้างหน้า ผมดีใจจริงๆครับ แล้ว อ.จะดูดวง หรือ ทำด้านไหนครับ

อ.ยอดสิงห์ : แล้วแต่คุณรัก จะให้ อ.ทำอะไร อ.ยินดีทุกอย่างเลย จะให้ อ.ดูดวง หรือ
นำปฏิบัติธรรม หรือ บรรยายธรรม หรือ ทำพิธีตามศาสตร์ของ อ.เพื่อช่วยคน คุณรักบอกมาได้เลย

รักไร้พ่าย : อ่อ จริงๆ ไม่อยากรบกวน อ.มาก แต่ที่ อ. บอกมา ก็อยากได้ทั้งหมดเลย .

อ.ยอดสิงห์ : ยินดีครับ

รักไร้พ่าย : ผมอยากรู้ว่า นอกจากเรื่องธรรมะแล้ว ศาสตร์วิชาต่างๆ ที่ อ.ได้ใช้ช่วยคน เป็นยังไงบ้าง

อ.ยอดสิงห์ : เอาศาสตร์ไหนเหรอ

รักไร้พ่าย : เช่น เรื่องการตั้งศาล ได้ข่าวว่า อ.ไปช่วยหลายคนจัดศาลแล้วกิจการเขาก็ดีขึ้น

อ.ยอดสิงห์ : จริงๆ อ.ไม่อยากพูดเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะเดี๋ยวจะหาว่าเป็นการอวดอ้าง

รักไร้พ่าย : โอ้ ไม่หรอกครับ อ. คือว่า ในญาณทิพย์ ก็มีเรื่องแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้วครับ
ผมแค่อยากทราบประสบการณ์ของ อ.ในด้านนี้ครับ

อ.ยอดสิงห์ : ถ้าคุณรัก อยากรู้ อ.แนะนำให้คุณรักลองถามลูกศิษย์ หรือ คนที่ได้รับการช่วยเหลือจาก อ.เองดีกว่า
เพราะ อ.ไม่อยากพูดแนวนี้เท่าไหร่

รักไร้พ่าย : อ่อ ได้ครับ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปถามเอาจากคนอื่นก็ได้

อ.ยอดสิงห์ : อ.เห็นว่า คนทั่วไปมักฝักใฝ่ ในด้านอภิญญา ฤทธิ์ปาฏิหาริย์มากกว่าแก่นแท้ของธรรม
ปาฏิหาริย์ แม้มันจะช่วยด้านทางโลกได้มาก แต่ก็ช่วยแบบยั่งยืนไม่ได้ มันเป็นเพียงเปลือกเท่านั้น และทำให้คนหลงได้ง่าย
แต่การเข้าใจแก่นแท้ แก่นธรรมต่างหากที่เยียวยาคนได้อย่างยั่งยืน อ.อยากให้คนที่มีทุกข์ได้เข้าถึงสาเหตุของทุกข์ด้วย สติปัญญา และ บุญกุศลมากกว่า

รักไร้พ่าย : อ่อ ครับ

อ.ยอดสิงห์ : คนที่เข้ามาหา อ. ทุกวันนี้ 90 เปอร์เซ้นต์มาเพราะเรื่องฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ซึ่ง อ.
ไม่ได้เน้นเรื่องนี้นะ มันเป็นความรู้ ที่รู้ได้เฉพาะตน

รักไร้พ่าย : ผมเข้าใจครับ คนส่วนใหญ่มีชีวิตแบบปุถุชน ต้องทำมาหากิน ต้องเจออุปสรรคปัญหาชีวิตมากมาย คงไม่มีทางอื่น
ต้องอาศัยศาสตร์แนวนี้ประครองตัวเขาให้รอดไปก่อน

อ.ยอดสิงห์ : คนส่วนใหญ่พอเจอปัญหา มักวิ่งหาปาฏิหาริย์มากกว่า หาบุญกุศล อ.จึงเน้นคนที่ให้พี่งพาตวเองด้วยบุญกุศล

รักไร้พ่าย : ครับ ได้ข่าวว่า มีคนเขาศรัทธา อ. จนยกที่ดิน 20 กว่าล้านให้ อ.แถวบางบัวทองเหรอ

อ.ยอดสิงห์ : ใช่ครับ

รักไร้พ่าย : ทำไมเขายกให้ อ. ครับ

อ.ยอดสิงห์ : คือคนนี้ เขาเป็นระดับเศรษฐีคนนึง เขารู้จักกับ อ.มานานแล้วหละ คงรู้จักนิสัยใจคอว่า อ.เป็นคนยังไง
ไม่นานนี้ เขามีเรื่องเดือดร้อน มาให้ อ.ช่วย และอ.ก็ช่วยเขาจนพ้นความวิกฤตได้
เขาเกิดศรัทธา และล๔กของขาก้ฒาให้ อ.ช่วยตน ลูกเขาก็ยอมรับในตัว อ.
เขาเห็นว่า เขามีที่ดินเปล่าที่บางบัวทอง แกคิดว่า เก็บไว้ก็คงไม่ได้ทำอะไร เลยอยากมอบที่ดินแปลงนี้ให้ อ.ได้ใช้โประโยชน์ให้กับคนหมู่มาก

รักไร้พ่าย : อ่อ ครับ เขาเห็นว่า อ.เคยพัฒนาวัดร้างให้เป็นวัดใหม่ได้
เลยอยากให้ อ.ได้นำไปพัฒนา

อ.ยอดสิงห์ : ใช่ อ.เลยคิดจะนำมาสร้างเป็นบ้านปฏิบัติธรรม

รักไร้พ่าย : โมทนากับ อ.ด้วยครับ



และผมเองก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับวิชาของ อ. ที่ผมเองก็เจอมากับตัวเองเหมือนกัน คือ การอาบน้ำทิพย์
เป็นวิชาหนึ่งของ อ.ยอดสิงห์ ที่ขึ้นชื่อลือชามาก ตอนที่ผมจัดทัวร์บุญพาคนไปปฏิบัติธรรมกับ อ.ที่วัดถ้ำดงเข
แม้จุดหมายในการไปทัวร์ครั้งนี้ คือ ไปนั่งปฏิบัติธรรมกับ อ. แต่พวกเราส่วนใหญ่ก็อยู่กันทางโลก และปารถนาในเงินทองๆ
โชคลาภ ผมก็พอรู้ว่า อ.มีวิชาดีมากมาย อยากให้ อ.อนุเคราะห์ให้กับผมและผู้ที่ไปปฏิบัติธรรมครั้งนั้น อ.เลย
ช่วยทำพิธีอาบน้ำทิพย์ให้สำหรับคนที่สนใจ
หลังจากผมอาบน้ำทิพย์ กลับมาไม่นานก็ได้ลาภก้อนใหญ่มาอย่างน่าแปลก ทั้งๆที่ดวงผมช่วงนั้นไม่ดีเอาเลย
เพราะผมดูดวงตัวเองได้ แถมติดปีชงด้วย เรื่องได้ลาภมาแบบฟลุคๆ แทบเป็นไปได้ยาก
และอีกหลายๆคนที่ไปอาบน้ำทิพย์มาแชร์ให้ผมฟังก็เกิดกรณีคล้ายๆกันกับผม

ผมจึงไม่แปลกใจที่ อ.ยอดสิงห์ จึงไม่อยากเน้นในเรื่องวิชาปาฏิหาริย์มากกว่า ธรรมะ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันยากเกินกว่าจะเชื่อได้

บทสรุปของ เอกบุรุษนาม อ.ยอดสิงห์ ท่านนี้ ใม่ใช่คนที่ดีเพียงแค่ได้แนะนำสิ่งดีๆให้กับคนอื่น
แต่เป็นคนดีเพราะได้ทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี และไม่ยึดติดความดีที่ตนสร้าง แต่ดำเนินตามแนวทางของการปล่อยวางในทุกสิ่ง

บุคคลที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่การทำตัวให้โดดเด่นกว่าคนอื่น และแสวงหาในลาภ ยศ สรรเสริญ
และบริวารคอยรับใช้เพื่อเชิดชูอัตตาตนเอง นั่นคือ "เจ้าคน" ที่เย่อหยิ่ง ที่สร้างความยิ่งใหญ่อันลวงตาที่ปกปิดแก่นแท้ที่อ่อนแอในจิตใจ

บุคคลที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง คือผู้ดำรงตนเยี่ยงธุลีดินที่รองรับและโอมอุ้มทุกสิ่งที่หล่นลงมา
และสละภาพลวงตาภายนอก หรือ ใช้ภาพลวงนั้น นำพาคนเข้าถึงแก่นแท้ในจิตใจด้วยเมตตาธรรม
ด้วยการคอยรับใช้ผู้คนทุกระดับ และโอบอุ้มทุกห้วงดวงใจให้พ้นความมืดมนด้วยแสงแห่งธรรม
บุคคลนี้จะได้รับการยอมรับอย่างสุดใจจากผู้คนทุกกระดับให้เป็น “จอมคน” ผู้ยิ่งใหญ่

ผมอยากให้คุณได้รู้จักกับ อ.ยอดสิงห์ คนนี้ ไม่ว่าคุณจะอยากให้ท่านดูดวง หรือ แก้ปัญหาชีวิตในด้านต่างๆ หรือ
ให้ท่านชี้แนะการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง ( อันนี้ผมแนะนำเลย คุณจะไม่เคยเจอแบบนี้ที่ไหนมาก่อน
เพราะ เป็นคำสอนที่ง่ายๆแต่ลึกซึ้ง ) หรือ ได้ร่วมบุญกับ อ.ยอดสิงห์ ในโอกาสต่างๆ

ผมเชื่อว่า อ.ยอดสิงห์จะเป็นกัลยาณมิตรที่ดีกับทุกๆคน และเป็นพี่พึ่งที่ดี และเป็นผู้นำทางธรรมที่ดี เป็นคนมีญาณที่ดี อย่างแน่นอน

อ.ยอดสิงห์ เปิดรับดูดวงสำหรับคนที่มีทุกข์ หรือ ปรึกษาการปฏิบัติธรรม

โดย อ.เปิดรับตั้งแต่ บ่ายโมง จนถึง 4 โมง ทุกวัน เว้นวันพระ

อาจารย์ไม่คิดค่าตรวจดวง แต่หากท่านใดประสงค์จะร่วมบุญก็แล้วแต่ศรัทธาครับ

โทรนัดคิวตรวจดวง ได้ที่ คุณกุ้ง เลขาฯ ส่วนตัวอาจารย์ ที่เบอร์ 090-708-2089


และสำหรับท่านที่ต้องการติดต่อสอบถามรายละเอียดต่างๆเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้กับเลขาฯ ส่วนตัวของอาจารย์ยอดสิงห์ ได้เลยครับ

สำหรับเบอร์เลขาส่วนตัวของอาจารย์ มี 3 เบอร์ครับ สามารถติดต่อไปได้ตั้งแต่เวลา 8.00 - 18.00 น.

คุณกุ้ง (090-708-2089 ) นัดคิวตรวจดวง
อาจารย์กิมจัง (087-507-9017 ) ติดต่อสอบถาม
คุณธีร์ (083-006-2980 ) ติดต่อสอบถาม


ทีมงานบ้านพรามษณ์ ขอขอบคุณ คุณรักไร้พ่าย ผู้เขียนเรื่องแนะนำ อ.ยอดสิงห์
ข้อความที่ทางทีมงานบ้านพรามษณ์ได้นำมาเขียนแนะนำรายละเอียดทั้งหมดนี้ คัดลอกมาจาก กระทู้ของคุณรักไร้พ่าย
สำหรับท่านที่ต้องการติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดตามข้อมูลต่างๆ ได้ตามลิงค์ด้านล่างครับ


คำรามธรรม !! ไขปัญหาชีวิตกับ "อ.ยอดสิงห์" จอมคนญาณทิพย์ คลิ๊กที่นี่ค่ะ คลิ๊กเลย

ทีมงานบ้านพรามษณ์

 

สาธุ

 

กระทู้เดิมของอาจารย์ค่ะ

http://palungjit.org/threads/พระอาจ...รวจกรรมให้คนมีทุกข์โดยไม่หวังผลตอบแทน.206937/

 

สาธุค่ะ หลายท่านคงเคยได้ยินชื่อ หรือได้รู้จักพระอาจารย์จาตุรงค์กัน แต่หลายท่านอาจยังไม่รู้จัก ลองอ่านจากกระทู้เก่าที่ลิงค์มาให้สมัยท่านยังอยู่ในสมณเพศบรรพชิต ก็ได้ค่ะ

สำหรับตอนนี้ ท่านได้ลาสิกขาแล้วค่ะ เพื่อมาดูแลมารดาที่ชราภาพและป่วยเป็นเบาหวาน ท่านใช้นามว่า "อาจารย์ยอดสิงห์ จอมคนญาณทิพย์" ชื่อนี้เป็นชื่อที่คุณรักไร้พ่าย ได้ขอให้ท่านใช้ชื่อนี้ค่ะ ท่านไม่ได้ตั้งเองหรอกนะค่ะ เป็นชื่อที่คุณรักไร้พ่าย ขอให้ท่านใช้ค่ะ

 

ตอนนี้ท่านได้เปิดรับตรวจดวง ให้กับกัลยาณมิตร โดยสามารถโทรนัดคิวได้ที่คุณกุ้ง เลขาส่วนตัวของท่าน ซึ่งตอนนี้ คิวตรวจดวงได้ยาวไปจนถึงวันที่ 10 มีนาคมแล้ว
กัลยาณมิตรที่ต้องการตรวจดวง สามารถโทรไปได้เลยนะค่ะ เพื่อนัดคิวไว้ก่อน

 

ทางทีมงาน ขอให้สมาชิกพลังจิต ที่ได้ตรวจดวงกับอาจารย์ยอดสิงห์แล้ว ช่วยมาเล่าประสบการ์ในการตรวจดวงกับท่าน ผ่านทางกระทู้นี้ด้วยนะค่ะ กัลยาณมิตรท่านอื่นๆ จะได้ร่วมกันแชร์ประสบการณ์ด้วยกันค่ะ

 

ทางทีมงานบ้านพรามษณ์ ขอเชิญชวนให้กัลยาณมิตร ที่ได้ตรวจดวงกับอาจารย์ยอดสิงห์ไปแล้ว มาโพสต์เล่าแบ่งปันประสบการณ์ของกัลยาณมิตรทุกท่านในการตรวจดวงกับอาจารย์ ให้เพื่อนกัลยาณมิตรท่านอื่นๆ กันด้วยนะค่ะ เป็นธรรมทานค่ะ ซึ่งท่านอาจไม่ต้องลงรายละเอียดใดๆ ที่เป็นเรื่องส่วนตัวผ่านเวปหรอกนะค่ะ เพราะทางทีมงานเข้าใจว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละบุคคล ซึ่งในส่วนนี้ทางทีมงานขอเชิญชวนให้ท่านช่วยแชร์ความประทับใจหรือความรู้สึกที่ท่านสัมผัสได้ ในขณะที่ได้ตรวจดวงกับอาจารย์ค่ะ....ขอบคุณมากๆค่ะ

 

นัดคิดตรวจดวงกับอาจารย์ยอดสิงห์ได้ที่คุณกุ้งนะค่ะ เบอร์นี้ค่ะ คุณกุ้ง (090-708-2089 ) นัดคิวตรวจดวง โทรได้เลยค่ะ 8.00 - 18.00 น

 

งานนี้ พลาดไม่ได้นะค่ะ

 

ขอแชร์ประสบการณ์ในการตรวจดวงกับอาจารย์ยอดสิงห์นะค่ะ
เรื่องที่ลมพญาจะนำมาแชร์เป็นประสบการณ์ อันนี้เป็นเรื่องของเพื่อนลมพญาค่ะ คือ เพื่อนของลมพญา เค้าขอให้ลมพญาช่วยเอาดวงเค้าไปให้อาจารย์ช่วยตรวจหน่อย อาจารย์ก็ได้ตรวจและทำนายไป ซึ่งตรงกับเค้าทุกเรื่อง ตอนนั้นเค้ากำลังตัดสินใจจะคบหากับ ผช คนหนึ่งในฐานะคนรัก เค้าก็ถามว่า เค้าจะคบได้มั๊ย อาจารย์ตรวจดูแล้วก็บอกเค้าไปว่า เค้าต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่างคนรักกับหน้าที่การงาน เพราะถ้าเลือกคนรัก หน้าที่การงานก็จะถดถอย ปรากฎว่า เค้าตัดสินใจเลือกคนรัก เพราะตอนนั้นเค้ามีฐานะดีมากๆค่ะ อยากจะใช้จ่ายจะกินอะไรยังไง ไม่ต้องเสียเวลามานั่งคิดมาก อยากทำไรทำได้เลย ไปเที่ยวพักผ่อนจ่ายค่าโรงแรมคืนละหมื่นสองหมื่น สามสี่คืนติดกันเนี่ยแบบชิวๆค่ะ ....แต่ล่าสุด เค้าโทรมาหาลมพญา บอกว่าตอนนี้สถานะทางการเงินแย่มาก ซึ่งจะใช้จ่ายไรต้องประหยัดมากๆ ไม่เหมือนก่อน ซึ่งเค้าโทรกลับมาบอกว่า สิ่งที่อาจารย์ของลมพญาบอกไว้นั้น มันเกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งตอนแรกเค้าก็ไม่เชื่อมั่นเลยว่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะฐานะเค้าดีมากมาก ไม่น่าจะมีอะไรทำให้ฐานะทางการเงินเค้าแย่ลงได้ แต่มันก็เกิดขึ้นจนได้ ....หนึ่งในประสบการณ์ตรวจดวงกับอาจารย์ยอดสิงห์ จากเพื่อนของลมพญา ค่ะ.....

 

คิวตรวจดวงตอนนี้ ยาวถึงวันพุธที่ 12 มีนาคม 2557 แล้วจ้า ท่านที่ต้องการตรวจดวงโทรไปนัดคิวได้เลยจะ โทรไปก่อนแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่ต้องรอนาน คิวยาวมากตอนนี้

 

ตุ๊กตาประดับบ้านสวยๆ ที่เห็นตั้งไว้ที่หน้าบ้าน อาจารย์เคยสอนว่า พวกตุ๊กตาพวกนี้ ถ้าตั้งอยู่บริเวณนอกรั้วบ้าน จะเป็นที่สิงสถิตย์ของบรรดาสัมพเวสี ผีเร่ร่อนได้ แต่ถ้าตั้งอยู่ในบริเวณรั้วบ้านที่มีพระภูมิเจ้าที่ปกปักรักษาอยู่นั้นไม่เป็นไร เพราะพระภูมิเจ้าที่ท่านดูแลอยู่ ดังนั้น กัลยาณมิตรท่านได้ ที่นำตุ๊กตาประดับตกแต่งบ้านมาวางไว้หน้าบ้าน ที่อยู่นอกเขตรั้วบ้าน มีโอกาสที่วิญญาณสัมพเวสีผีเร่ร่อน จะเข้ามาอยู่ในตุ๊กตาได้นะคะ .....นำมาบอกเล่าเก้าสิบ สำหรับเคล็ดลับดีๆ ที่อาจารย์เคยสอนสั่งค่ะ

 

หนึ่งในประสบการณ์จากสายสนทนา ซึ่งได้ตรวจดวงกับอาจารย์ไปแล้ว ได้แจ้งเข้ามาเมื่อสักครู่ ว่า

 

อีกหนึ่งเสียง ที่ได้ตรวจดวงกับอาจารย์ค่ะ

 

อย่าลืมนะค่ะ กัลยาณมิตรที่ได้ตรวจดวงกับอาจารย์ มาแชร์กันค่ะ ว่าแม่นขนาดไหนยังไง
ประสบการณ์ของทุกท่านมีค่าค่ะ ทีมงานรู้สึกปลิ้มใจทุกครั้ง เมื่อกัลยาณมิตรทุกท่าน มาเป็นส่วนร่วมกับเรา ขอบคุณค่ะ

 

ขอแชร์ประสบการณ์...นิดนึงนะครับ

จากการที่ผมเคยได้พบเจอกับ อ.ยอดสิงห์ นะครับ ได้พูดคุยกับท่าน ถึงจะใช้เวลาไม่นานมาก แต่ก็ทำให้ผมรู้อะไรอีกเยอะแยะมากมายเลยครับ เป็นคำตอบที่ฟังแล้วเข้าใจได้ง่ายมากๆ เลย ทั้งที่ผมสอบถามจากอาจารย์หลายท่านแล้วนะครับ แต่ก็ให้คำตอบผมยังไงไม่รู้ แต่พอได้คำชี้แนะจาก อ.ยอดสิงห์ ผมก็เข้าถึงแก่นได้ง่ายๆ ไม่ยากเลยครับ

ถ้ามีเวลา ผมต้องไปให้ อ.ยอดสิงห์ ชี้แนะเพิมเติมอีกสักครั้งแน่ๆ ครับ

 

อนุโมทนาจ้า

 

ผู้ที่ต้องการอาบน้ำทิพย์ ทางทีมงานขอบอกว่า ผู้ที่อาบน้ำทิพย์นั้น จะเกิดความเป็นสิริมงคลในชีวิตค่ะ เพราะน้ำทิพย์ ไม่ได้ทำได้ง่ายๆ มีขั้นตอนการทำที่ละเอียดอ่อน พิถีพิถันทุกขั้นตอน รวมทั้งบทสวดทุกบทที่นำมาใช้ในการทำน้ำทิพย์ คือสุดยอดบทสวดด้วยค่ะ

ทางทีมงานขอยกตัวอย่าง ผู้ที่ได้อาบน้ำทิพย์ และได้ดื่มน้ำทิพย์ ของอาจารย์ยอดสิงห์ ให้ฟังนะค่ะ

มีอยู่ครั้งหนึ่ง มีวัยรุ่นผู้ชายคนนึง มีอาการร่อแร่มาก ยืนแทบจะไม่ไหว เหมือนคนเมาเหล้า ทั้งๆ ที่น้องคนนี้ไม่ได้ไปเมาเหล้าที่ไหนมา แต่มีอาการหายใจไม่ออกร่วมด้วย เพื่อนของเค้าเห็นท่าจะไม่ไหว จึงมาขอให้อาจารย์ช่วยเหลือ เมื่ออาจารย์เห็นอาการ อาจารย์จึงได้ทำน้ำทิพย์ ให้เค้าดื่ม และหลังจากดื่มแล้ว น้องคนนั้นก็อาเจียนออกมา ซึ่งในการอาเจียนครั้งนี้ มันมีสิ่งแปลกปลอมปนออกมาด้วย เห็นเป็นเส้นสีเขียวๆ เมื่ออาเจียนออกมาหมด น้องเค้าก็กลับเป็นปกติ ทั้งๆ ที่ก่อนจะดื่มน้ำทิพย์ มีอาการแย่สุดๆ ซึ่งอาการนี้ อาจเกิดจากน้องเค้าไปโดนของมา หรืออาจเป็นเพราะลมเพลมพัด แล้วมาเจอเอากับน้องเค้าพอดี แต่น้องเค้าโชคดี ที่เจออาจารย์และได้ดื่มน้ำทิพย์ที่อาจารย์ทำให้ จึงหายเป็นปกติค่ะ

ปล. สิ่งที่ทีมงานนำมาบอกเล่าประสบการณ์ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่าน และผู้ที่ไม่ศรัทธา ทางทีมงานต้องขอความกรุณา อย่าวิจารณ์นะค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

เชิญมาร่วมบุญกับเรานะค่ะ ในงาน ท่านที่ต้องการสอบถามเรื่องดวง อยากให้ตรวจดวง หากมีเวลาเหลือพอ ก็สามารถสอบถามจากอาจารย์ได้ด้วยค่ะ

 

วันนี้วันพระ อาจารย์งดตรวจดวงนะค่ะ เริ่มอีกครั้งพรุ่งนี้ค่ะ และคิวยาวไปจนถึงวันที่ 13 มีนาคม 2557 แล้วจ้า กัลยาณมิตรที่ต้องการตรวจดวงโทรหาพี่กุ้ง เพื่อนัดคิวไว้นะค่ะ จะได้ไม่ต้องรอนาน