ผมโดนพ่อแม่บังคับ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย tumsokpho, 9 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. tumsokpho

    tumsokpho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +469
    เรื่องที่จะเล่าให้ท่านทั้งหลายได้ฟังต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่ผมเก็บไว้ในใจมานานแล้ว และหาทางออกของชีวิตไม่ได้ ผมต้องตามใจพ่อแม่ทุกอย่าง อนาคตผมทำไมผมเลือกทางเดินของผมเองไม่ได้ ตั้งแต่เริ่มแรก คือการเรียน ตอนใกล้จะจบ ม.6 เพื่อนๆต่างสอบเข้าในสถานบันที่ตัวเองชอบ และความใฝ่ฝันของตัวเอง แต่ตัวผมเองต้องโดนบังคับให้เรียนในทางที่ตัวเองไม่ได้ชอบ ผมก้บอกแล้วน่ะว่าผมไม่ได้ชอบมาทางนี้ ผมอยากเป็นครู ทำไมไม่ให้ผมเรียน พ่อบอกว่า เรียนจบมาก็ไม่มีงานทำหรอก แล้วคนอื่นที่ไปเรียนเขาก็ตกงานน่ะสิ สรุปคอผมต้องเรียนในสิ่งที่ตัวผมเองไม่ได้ชอบเลย
    ยังไม่จบแค่นั้นน่ะครับ ผมเรียน ปวส. 2 ปีก็จบและมาทำงาน แต่งานที่ทำเป็นงานที่เกี่ยวกับผู้คน มันวุ่นวายมากเลย ต้องมารองรับอารมณ์คนอื่น ทำงานแบบตี2หน้า มันเป็นงานบริการ ไม่มีเวลาความเป้นส่วนตัวเลย บางทีดึกๆก็ต้องตื่นมาทำงานเพราะคนไปปลุกถึงที่บ้าน ผมต้องเก็บความอัดอั้นตันใจของตัวเองมาโดยตลอด จนวันหนึ่งผมนอนร้องไห้ทั้งวัน จนต้องได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช หมอบอกว่าผมเป็นโรคซึมเศร้า ผมบอกได้เลยครับว่าผมเป็นอย่างนี้เพราะผมกดดันจากงานที่ทำ มันเครียด ผมหาทางออกไม่ได้ พ่อแม่ของผมก็รู้เรื่องนี้นะครับ แต่ท่านทั้งสองบอกกับผมว่า ทำงานต่อไปเถอะลูก(ทำไมผมไม่มีอิสระในตัวเอง สิ่งที่ผมชอบทำไมผมไม่ได้ทำ ทำไมต้องมาบังคับผมในสิ่งที่ผมไม่ได้ชอบด้วย สิ่งที่ผมแม่อยากได้คือ หน้าตา ชื่อเสียงในสังคม คำสรรเสริญ แล้วลูกหละ ต้องมากินยารักษาตัวเองเพราะโรคซึมเศร้า คนเป็นโรคนี้มันทรมานมากเลยน่ะครับ ผมตามจพ่อแม่ทุกอย่าง แต่ทำไมพ่อแม่ผมถึงตามใจผมไม่ได้)
    ผมบวชพระมาแล้วครับ เมื่อพรรษาที่แล้ว รู้สึกจะสงบมาก แต่ก็โดนบังคับให้สึกอีก ถ้าไม่สึกตัดพ่อแม่ลูกกัน พ่อแม่ต้องอายคนที่ลูกมาบวช บวชแล้วทิ้งพ่อทิ้งแม่ ไม่เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ (ทำไมพ่อแม่ผมมีความเห็นผิด) ผมเครียดจนบ้าแล้ว อีกไม่นานคงจะบ้าตาย
     
  2. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ไม่ว่าคุณจะไปอยู่ที่ไหน ย่อมต้องสู้กับอารมณ์คน
    เป็นครู คุณก็จะเจอทั้งเจ้านายและเพื่อนร่วมงานที่ไม่สบอารมณ์

    ซ้อมไว้สิครับ กำลังใจต้องซ้อมไว้
    อยู่วัดมันก็สงบ อยู่บ้านมันก็สงบ สงบอยู่ที่ใจ โลกเขาวุ่นวายเราต้องรู้เท่าทัน
    รู้แล้วใจจะสงบ เห็นเป็นเรื่องธรรมดา
     
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ผมแนะคำคุณอย่างนี้ดีกว่า ลักษณะของคุณนั้นไม่ต่างกับเพื่อนของผมในอดีต แต่ต่างกันตรงที่ว่าคุณทำงานแล้ว และอาจยากหน่อยที่จะกลับมา....

    เพื่อนผมคนนั้นเรียนสายวิทย์พ่อเขาอยากให้เขาเพราะสมัยมั้นมีเป็นครูปฐมวัย โครงการคุรุทายาท ซึ่งคงไม่ต่างมากจากโครงการครูพันธ์ใหม่ ในปัจจุบัน คือเรียนจบแล้วมีสถานที่บรรจุทำงานเป็นอาจารย์เลย เขาไม่ชอบการเป็นครูปฐมวัยมากๆ แต่ต้องฟังพ่อแม่เขาต่อมาเขารู้ว่าอย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาทำนั้นมันไม่ใช่ตัวเขา เขาเลยลาออกจากเอกปฐมวัย ลาออกจากโครงการคุรุทายาทนั้น แล้วสอบเข้าใหม่ในคณะครุศาสตร์เอกภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเอกที่เขาชอบ เมื่อสอบได้แล้วเขาจึงบอกกับพ่อแม่ว่า เขาได้ทำในสิ่งที่ท่านต้องการแล้ว แต่สิ่งนั้นเขาได้ค้นพบว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบ ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ และเขาจะเรียนในสิ่งที่เขาต้องการและจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยที่เขายอมเสียเวลาจบการศึกษาหลังเพื่อนๆไปอีก ๑ ปี ....ตอนนี้เขาจบการศึกษาแล้วและศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก และเป็นอาจารย์ในระดับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง.....ถ้า ณ. ตอนนั้น เขาเรียนเอกปฐมวัย ตอนนี้เขาคงได้เป็นอาจารย์โรงเรียนอนุบาล ที่ใดที่หนึ่งของไทย.....

    ผมว่ามันน่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคุณนะครับ....คุณลองถามใจตัวเองให้ดีและหาทางออกของตัวเองให้ได้ และคุณคิดว่าทางออกนั้นเป็นตัวคุณ ผมแนะนำให้คุณทำไปเลยครับ.....ถ้าสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่มันไม่ใช่ และคุณทำไปก็ไม่มีความสุข ผมแนะนำให้คุณเริ่มต้นใหม่ในสิ่งที่ดีกว่านะ....การที่คุณเชื่อฟังพ่อแม่เป็นสิ่งที่ถูก ให้คุณคิดว่าคุณทำให้ท่านแล้ว และคุณทำได้มากเท่านี้ หลังจากนี้คุณบอกท่านเลยว่ามันไม่มีความสุข ไม่ใช่ตัวคุณ และคุณจะทำในสิ่งที่คุณชอบและต้องการ ทำไปเลยครับ ผมว่าท่านไม่ว่าอะไรหลอก ชีวิตและหนทางมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ คุณอาจจำเป็นต้องยอมในสิ่งที่สูญเสียและทนบ้างในช่วงแรก (ในเรื่องงานและการปรับตัวในสิ่งใหม่ๆ ไม่ได้หมายถึงพ่อแม่คุณนะ มากสุดท่านก็เพียงแค่ด่า ท่านไม่ตัดพ่อตัดลูกกับคุณจริงๆหลอกครับ ผมว่าถ้าคุณได้ทำในสิ่งที่คุณชอบและสำเร็จจริงๆ ผมว่าท่านต้องเข้าใจ).....

    พยายามเข้าไว้ บางครั้งเราต้องเป็นตัวของตัวเองบ้างนะครับ มันไม่ใช่สิ่งที่ผิด เพียงแต่ว่าเรากำลังค้นหาตัวเอง อย่าทนในสิ่งที่ไม่อยากจะทนครับ.....เพราะว่าชีวิตจริงๆ คือคุณ คือตัวคุณ ถ้าไม่ได้ทำในสิ่งที่เดือนร้อนต่อใคร ทำไปเลยครับ.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2013
  4. Mon Treal

    Mon Treal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +536
    ( นิสฺสิตสฺส จลิตํ )
    ความหวั่นไหว ย่อมมี แก่บุคคลผู้อันตัณหาและทิฏฐิอาศัยแล้ว

    ( อนิสฺสิตสฺส จลิตํ นตฺถิ )
    ความหวั่นไหว ย่อมไม่มี แก่บุคคลผู้อันตัณหาและทิฏฐิไม่อาศัยแล้ว

    ( จลิเต อสติ ปสฺสทฺธิ )
    เมื่อความหวั่นไหว ไม่มี, ปัสสัทธิ ย่อมมี

    ( ปสฺสทฺธิยา สติ นติ น โหติ )
    เมื่อปัสสัทธิ มี, ความน้อมไป ย่อมไม่มี

    ( นติยา อสติ อาคติคติ น โหติ )
    เมื่อความน้อมไป ไม่มี, การไปและการมา ย่อมไม่มี

    ( อาคติคติยา อสติ จุตูปปาโต น โหติ )
    เมื่อการไปการมา ไม่มี, การเคลื่อนและการบังเกิด ย่อมไม่มี

    ( จุตูปปาเต อสติ เนวิธ น หุรํ น อุภยมนฺตเร )
    เมื่อการเคลื่อนและการบังเกิดไม่มี,
    อะไรๆ ก็ไม่มีในโลกนี้ ไม่มีในโลกอื่น ไม่มีในระหว่างแห่งโลกทั้งสอง

    ( เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺส )
    นั่นแหละ คือที่สุดแห่งทุกข์ละ.
     
  5. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    สัตว์โลกมีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ มีกรรมเป็นผู้กำหนด
    ไม่ว่าจะเป็นคุณ เป็นผมหรือว่าใครๆ ก็เป็นเช่นนั้น
    ฟังดูกรรมคุณก็หนักเอาการ แต่ก็ไม่เลวร้ายไปซะทีเดียว คุณได้เรียน มีงานทำทำ ได้บวช ทุกอย่างได้มาด้วยการบังคับของพ่อแม่ ขณะนี้ก็กำลังบังคับให้คุณสึกอีก
    หลายคนอาจได้ในสิ่งที่คุณได้มาด้วยความสมัครใจ ก็เป็นกรรมของเขา
    หลายคนไม่ได้อะไรเลย ทั้งๆที่พ่อแม่ตามใจมาโดยตลอด ก็เป็นกรรมของเขา
    แต่มีบางอย่างที่พ่อแม่บังคับเราไม่ได้ คือความคิดและการปฏิบัติตัวของเรานอกเวลางาน ผมอยากให้คุณหาประโยชน์ในส่วนนี้ก่อน แม้นจะดูน้อยนิดก็ตามที คุณก็หาวิธีปฏิบัติธรรมง่ายๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว ผมแนะนำทำพุธ-โธ ทางลมหายใจ จะทำได้ง่ายได้ความสงบร่มเย็นเร็วดี
    ในส่วนอื่นๆผมอยากให้คุณยอมรับความจริงว่ามันเป็นกรรมของคุณแล้วก็ทำตัวสบายๆ ใหม่ๆก็อาจจะเก้อเขินบ้าง นานๆไปก็จะชินได้เอง
    ผมก็ขอให้คำแนะนำได้เท่านี้ คุณก็ปรับเอาไปใช้ตามเหมาะตามควรครับ
     
  6. reindear

    reindear เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +173
    ถ้าคุณเป็นซึมเศร้าเพราะงานที่ทำ เพื่อนร่วมงานคุณก็เป็นกันหมดแล้วล่ะค่ะ
    คุณเป็นซึมเศร้าเพราะจิตคุณเศร้าเอง
    คุณน่าจะหยุดคิดว่า ทำไมคนนี้ต้องทำแบบนั้น ทำไมพ่อแม่ต้องทำแบบนี้ ทำไมเขาคิดผิด
    หยุดคิดว่า จะเกิดเรื่องไม่ดีกับตัวเอง จะบ้าตาย

    เราบอกเลยนะเราก็เป็นซึมเศร้า ยังกินยาอยู่ แล้วก็มีเพื่อนที่เป็นเหมือนกัน
    ขอแนะนำนะ 1.หยุดคิด 2.กินยา 3.รักษาศีล 4.สวดมนต์
    ขอแนะนำ คุณสวด พวกบทที่เกี่ยวกับ พรหมวิหาร4 และบทเมตตา
    ท่องคำแปลด้วยนะคะ แล้วแผ่เมตตาแผ่ส่วนกุศลให้พ่อแม่ และคนอื่นๆทุกคน
    เจอหน้าใคร ให้คิดขอให้เขามีความสุข ทันที
    เปลี่ยนความคิดลบ ให้เป็นความคิดบวกซะ ไม่งั้นคุณ "จะบ้าตาย"

    คนแต่ละคนเจอเรื่องแย่ๆมาเยอะ จะหนักแค่ไหนก็ต้องมีความสุข ทำความดีต่อไป
    ทุกสิ่งมีขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป จะ "อิน"ทำไม
     
  7. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    มั่นใจในตัวเองครับ แล้วลุยไปเลยครับ พิสูจน์ให้ท่านเห็นว่าสิ่งที่คุณทำนั้นถูกต้อง
     
  8. นางสาวอยู่จ้ะ

    นางสาวอยู่จ้ะ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +3,865
    จิตคุณหมองเศร้ามากเลยนะ
    ลองสวดมนต์บทมหาจักรพรรดิ ตามกำลังวัน
    เวลา 20.30 น. แล้วอธิฐานขอหลวงปู่ดู่
    ให้ชีวิตมันคลี่คลายกว่านี้
    ท่านช่วยได้จริงๆนะ ขอให้คุณศรัทธา ตอนที่ดิฉันตกต่ำท่านก็ช่วย
    ผ่อนให้จนผ่านมาได้ อยากให้คุณค่อยๆแก้ไขไปทีละส่วนก่อน
    เช่น ขอพักงาน บอกหัวหน้าไปเลยว่ามีปัญหาทางสุขภาพ
    ทนทำไปอีกสักหน่อยแล้วค่อยหาทางเปลี่ยนสายงาน
    ส่วนเรื่องพ่อแม่อย่าเพิ่งคิด ไปแก้เอาตอนหลัง
    ดิฉันก็มีปัญหากับแม่เหมือนกัน ทะเลาะกันบ่อยมาก
    คือแม่เค้าอยากให้ดิฉันแต่งงานกับผู้ชายที่มียศฐาบรรดาศักดิ์
    (โบราณมากๆ) ดิฉันแก้ไข ด้วยการไม่ตามใจเขา
    แต่ก็ไม่ทะเลาะด้วย เดินหนีไปเลย วางจิตคิดไว้ว่า
    "เราจะไม่เอาตัณหาของคนอื่นมาวางบนหัวตัวเอง"
    ทำแค่ไหนก็เอาแค่นั้น สักพักเค้าก็เลิกยุ่งกับเรา
     
  9. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,247
    ค่าพลัง:
    +68,038
    คุณtumsokphoคะ อยากให้คุณหายจากโรคซึมเศร้าจังเลยค่ะ

    ถ้างานมันทำให้เครียดขนาดนั้น คุณต้องพักซักระยะค่ะ

    อยากให้ยืนยันความรู้สึกความต้องการที่แท้จริงของคุณ โดยบอกกับคุณพ่อคุณแม่

    ตัวเราย่อมรู้ดีว่า เราจะรับอะไรได้แค่ไหน ไม่ไหวคือไม่ไหว เพราะถ้าฝืนไป ผล

    มันออกมาอย่างนี้แล้ว ต้องให้เวลากับตัวเองค่ะ สุขภาพใจ สำคัญมาก ถ้าใจเสีย

    ทุกอย่างเสียไปหมด การที่เราจะยืนยันว่าจะพัก ไม่ได้เป็นการไม่กตัญญูต่อพ่อแม่

    หรอกนะคะ เรากตัญญูท่านเสมอ แต่บางครั้งบางช่วงเราไม่ไหวจริงๆ

    ความรู้สึกแบบนี้ ก็เคยเป็นมาก่อนเหมือนกันค่ะ แต่พอได้พักซักระยะหนึ่ง

    จะมีพลังใจกลับคืนมาค่ะ ช่วงพักเราจะได้คิดอะไรดีๆ จะมีความสงบมีใจนิ่ง

    พอที่จะคิดหาทางที่มันดีทั้งกับตัวเราและกับคุณพ่อคุณแม่

    เหนื่อยกายยังไม่เท่าไหร่ แต่เหนือยใจนี่สิ มันเรื่องสำคัญค่ะ

    ขอเป็นกำลังใจให้คุณอย่างที่สุดค่ะ พักเถอะนะคะ ดีกว่าจะให้ใจเราแย่ไปกว่านี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...