ปาน ธนพร ผูกมิตรกับจิตร้าย

ในห้อง 'พุทธศาสนากับคนดัง' ตั้งกระทู้โดย ฟ้าเช้า, 13 กรกฎาคม 2010.

  1. ฟ้าเช้า

    ฟ้าเช้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2005
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +1,643
    [​IMG]



    สาวปาน- ธนพร แวกประยูร นักร้องคุณภาพเจ้าของรางวัลการันตีหลายสถาบัน พร้อมตีแผ่ตัวเองให้ล้วงลึกถึงใจว่า ผู้หญิงคนนี้ “ร้าย” จริงหรือไม่
    เมื่อหยิบกระจกส่องตัวเอง ปานเห็นตัวเธอแยกเป็นสองร่าง ร่างหนึ่งก็ร้ายใช่เล่นเหมือนกัน

    เธอบอกว่า ถ้าไม่หลอกตัวเอง คนเราต้องเห็นความร้ายของตัวเอง ถ้ามองด้วยความจริงใจ ก็จะพบว่าเรามีความร้ายกาจในตัวเองทุกคน อย่างวันนี้เราจะอยากได้ อยากทำ อยากกินอะไร มันคือกิเลสทั้งนั้น หรือวันนี้เหนื่อย ไม่เอา ไม่ทำ อย่างนี้แหละเรียกว่าความเอาแต่ใจ

    แต่อีกด้านหนึ่ง คือเงาสะท้อนของนักร้องสาวน้ำดีคนหนึ่งของวงการ เธอผ่านสเต็ปแรกมาแล้ว จึงรู้จักตัวเอง แล้วค่อยๆ กรองทีละเรื่องอย่างมีสติ

    “เราต้องถามตัวเองว่าต้องทำหรือไม่ ไม่ทำไม่ได้ใช่ไหม เพราะเราต้องรับผิดชอบ ก็อยู่กับมันไป อาจจะบ่นกับตัวเองได้ ถ้ามันเหนื่อย แต่อย่าลืมว่าเราต้องเห็นตัวเองก่อนแล้วนะ จากนั้นก็หาทางอยู่กับมันไป ต้องชั่งน้ำหนักดูเองว่า ถ้าเราร้าย ใครจะอยู่กับเราได้ เราจะอยู่ โดยมีแต่คนเกลียดได้หรือ ยิ่งเราทำงานกับคนหมู่มาก แล้วเราเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง จะทำงานกับคนอื่นลำบาก ฉะนั้นจงมีตรรกะ ใช้ความคิดตัวเอง ลำดับเหตุการณ์ เหตุผล ความสำคัญ และความรับผิดชอบ”

    นักร้องหญิงยอดเยี่ยมงานพระพิฆเนศทองประจำปี 2544 บอกว่า ชีวิตในวงการ 10 ปีนั้นหล่อหลอมตัวตนที่เป็นอยู่ วงการบันเทิงทั้งไอคิว และอีคิวกับเธอ

    เมื่อมายืนอยู่ตรงนี้ ปานต้องปรับสภาพ และมีความฉลาดทางอารมณ์ให้ได้ เพื่อจะได้ “มือถือไมค์ ไฟส่องหน้า” อย่างงดงาม และอีคิวที่ว่า เกิดจากรู้จักใช้ธรรมะเข้ามาจัดการชีวิต

    “มันง่ายนิดเดียว อยู่ใกล้ตัวเราทุกคน สิ่งที่พระพุทธเจ้าบอก และสอนคือแนวทาง ที่สนใจเพราะอยากรู้ว่าท่านสอนอะไร เราเข้าใจถูกหรือเปล่า แต่ก็ไม่ใช่คนปฏิบัติ แต่เป็นคนชอบอ่าน ชอบฟัง และพยายามคิดตามว่าเราจะเอาไปใช้ได้อย่างไร ซึ่งเราเอาไปใช้ได้จริง”

    ปาน ธนพร บอกต่อว่า ทุกวันนี้คนเริ่มมองและใช้ธรรมะมากขึ้นเพื่อทำให้เป็นสุข ธรรมะไม่ได้สอนให้เรียนรู้คนอื่น แต่สอนให้เรียนรู้เข้าไปข้างในตัวเอง เหมือนส่องกระจกมองเห็นความร้ายของตัวเอง ถ้าเรียนรู้ตัวเองด้วยความจริงใจ และยอมรับตรงนั้นได้ ก็จะแก้ไขตัวเองได้

    ยิ่งเป็นศิลปินที่มีความเป็นอาร์ตอยู่ในตัวด้วยแล้ว ต้องใส่ความเป็นมืออาชีพผสมไปครอบไปด้วย มันจะอยู่ได้ ถ้าใช้ตัวเองเป็นที่ตั้งและเอาแต่ใจ งานก็เดินไม่ได้ ต้องจัดระบบให้กับใจได้ ต้องรู้ว่าขณะนี้กำลังทำอะไรอยู่

    และเมื่อทำงานกับคนหมู่มาก ก็ต้องรู้จักการปฏิสัมพันธ์กับคนให้เป็น พึงระลึกเสมอว่าเรามีความไม่พอใจทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นรถติด มีคนขับรถปาดหน้า จะลงไปยิงเขาก็ใช่เรื่อง

    ฉะนั้นต้องแก้ไขที่ตัวเอง ง่ายกว่าไปแก้ไขคนอื่น การสั่งตัวเองบอกกับใจเรา มันยุ่งยากและใช้เวลาน้อยกว่าพูดกันคนอื่นเป็นไหนๆ แม้อาจโมโหก็ยังทำได้ อย่าไปเก็บกดมันไว้ รู้แค่ว่ากำลังโมโห แล้วสักพักมันก็จะหายไปเอง

    ส่วนไอคิวนั้น นักร้องสาวป็อป-ร็อก วัย 33 ปี ได้เรียนรู้หลายอย่างเกี่ยวกับวิถีของการใช้ชีวิต

    สังคมเสียงดนตรีสอนให้เธอพยายามสร้างงาน และอยู่อย่างมีความสุขในวงการที่หลายคนคิดว่ามันเป็นมายา ไม่มีความจริงใจ แต่มันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น

    ปานอธิบายว่า มันขึ้นอยู่กับเราจะเลือกอยู่อย่างไร ถ้าอยากมีศัตรูมากก็ทำได้ง่ายในวงการนี้ แต่เธอเลือกที่จะอยู่ในมุมที่ทำงานจริง ถึงเวลาที่โปรโมทงาน ก็ทำตรงนั้นได้ และเลือกอยู่อย่างสงบได้เช่นกัน

    “สุดท้ายมันมีตำแหน่งให้เราเลือกว่าจะให้ยืนอยู่อย่างไร ทุกวันที่เป็นอยู่ก็มีความสุขดีมาก ความสัมพันธ์กับผู้ร่วมงานก็ดี ผลงานออกมาเป็นที่ยอมรับ บางคนอาจคิดว่าร้องเพลงแบบนี้ ต้องเป็นผู้หญิงแรงแน่เลย หรือปากจัด แต่ถ้าเรามั่นคงในวิธีของเรา และยึดมั่นในความถูกต้อง สักวันหนึ่งเขาจะเข้าใจ ตัวเราก็คือตัวเรา งานก็คืองาน มันแยกขาดจากกันได้”

    คอนเซปต์ในการทำงานของนักร้องหญิงผู้มีน้ำเสียงโดดเด่น และงานเพลงที่มีเนื้อหาตรงไปตรงมา โดนใจแฟนเพลงผู้หญิงทั่วประเทศ คือ การยึดมั่นในความเป็นนักร้องมืออาชีพ

    ปาน ย้ำเรื่องการรู้ตัวตนอีกครั้ง และบอกว่าเธอเป็นนักร้องจึงต้องเชี่ยวชาญในการร้อง พยายามทำทุกอย่างให้สมกับคำว่านักร้อง เพลงอะไรมา เธอก็ต้องร้องให้ได้ ถ้ามันไม่เหลือบ่ากว่าแรงในการถ่ายทอดหรือภาษาที่มันดุดัน แต่ถ้าหยาบคายหรือมากไปกว่านี้ ปานก็จะมีขอบเขตไว้ และเรียนรู้ที่จะแก้อุปสรรคด้วยปัญญา

    “เราเลือกได้ มนุษย์อยู่ด้วยกันเพราะควบคุมกันได้ เราก็พูดคุยกับทีมงานได้ เราไม่ใช่นกแก้วนกขุนทอง ต้องมีเหตุผล ถ้าไม่ถูกต้อง เข้าข้างคนผิด เราก็ไม่ร้อง เหมือนกับสัญญากับค่ายเพลง ไม่ใช่เขาบังคับเราได้ทุกอย่าง มันขึ้นอยู่กับความพอใจของสองฝ่าย เชื่อว่าทุกอย่างมันมีทางออกจริงๆ ปัญหาทุกอย่าง มีทางแก้เสมอ แต่จะเลือกทางออกอย่างไร จะดื้อดึงออกไปทำให้ขุ่นเคืองใจ แล้วเป็นศัตรูกันไปตลอดมันดีหรือไม่ แต่ถ้าหาตรงกลางให้เจอ บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น พอใจกันคนละครึ่ง มันอาจไม่ 100% แต่ก็เป็นการผสมผสานระหว่างความพอใจซึ่งกันและกัน เป็นทางออกที่สวยงาม”

    ถึงจะประสบความสำเร็จแล้ว นักร้องเดี่ยวในสังกัดอาร์เอส โปรโมชั่นคนนี้ก็ยังไม่หยุดพัฒนาตัวเอง

    เธอบอกว่า ยิ่งเป็นที่รู้จัก มีคนซื้องานฟัง ต้องยิ่งพัฒนาตัวเอง เราต้องซ้อมให้มาก ฟังให้เยอะ หาอะไรใหม่มานำเสนอ ถูกใจบ้าง ขัดใจบ้าง ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรที่มันเปลี่ยนไปเลย

    อีกอย่างที่ขาดไม่ได้สำหรับชีวิต “สาวปาน” ก็คือ ความเย่อหยิ่งในตัวเอง

    ปานเชื่อว่า คนทำงานตรงนี้ต้องมี ถ้าไม่มีอีโก้เลย ก็จะไม่มีแรงผลักดัน อัตตามันไม่ดีก็จริง แต่ถ้าหยิบมาใช้ให้ถูกวิธี มันก็เป็นตัวช่วยให้เดินไปข้างหน้า เพียงแต่ต้องใช้อย่างรู้เท่าทัน

    “อย่างตอนขึ้นเวที จะบอกว่าไม่มีเลย มันไม่ได้ เพราะเราจะไม่สามารถแสดงออกมาได้ จะเอาความมั่นใจจากไหน มาทำให้เราแข็งแรงพอ ที่จะเล่าเรื่องให้คนฟัง เราต้องคิดในใจเสมอว่า “กรุณาฟังฉัน” เพื่อให้คนฟังรับรู้และอินไปกับเราได้ แต่เมื่อหมดเวลาก็ทิ้งอีโก้ไปซะ”

    ตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษ เราไม่เคยเห็นปาน ธนพรในมุมอื่นเลย ปานจิกตามองเราเล็กน้อยแล้วอมยิ้มตอบว่า ถ้าถนัดสิ่งใด ก็ทำสิ่งนั้นให้ดี

    ส่วนเวลาที่เหลือว่างจากงาน นักร้องหญิงดีเด่นเพื่อเยาวชน จะอยู่ในโลกหนังสือเป็นหลัก และแวบไปอยู่ในโลกเซลูลอยด์บางครั้ง


    ที่มากรุงเทพธุรกิจออนไลน์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Troysan

    Troysan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +215
    โอ้หนอ จะรู้ไหมว่าร้องเพลงแล้วเนื้อหามันสื่ออะไรออกมา มันเหมือนสอนเขานะ อันตรายจริงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...