ปาฏิหาริย์อภินิหารเป็นเพียง.."ตถตา"..มณฑน์จิตต์เกษม จงพิพัฒน์ยิ่ง

ในห้อง 'พุทธศาสนากับคนดัง' ตั้งกระทู้โดย คือ~ว่างเปล่า!, 15 พฤศจิกายน 2008.

  1. คือ~ว่างเปล่า!

    คือ~ว่างเปล่า! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,647
    ค่าพลัง:
    +473
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top> ปาฏิหาริย์ อภินิหารเป็นเพียง.... "ตถตา"..มณฑน์จิตต์เกษม จงพิพัฒน์ยิ่ง
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1><CENTER>[​IMG]</CENTER>


    สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง ถือเป็นสำนักพิมพ์หนังสือพระที่เก่าแก่อายุเกือบร้อยปี ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๕ โดย คุณปู่ทวดลิปโป แซ่เตียว อพยพจากหมู่บ้านซินเลี้ยว ซัวเถา ประเทศจีน มาทำมาหากินในประเทศไทย เริ่มตั้งแต่การทำงานในโรงพิมพ์อื่น เป็นพ่อครัวในร้านขายผ้าแถวสำเพ็ง เป็นกรรมกรหาบน้ำประปาขาย เป็นพ่อค้าหาบเร่ขายผลไม้ และทำงาน "แลกวัด" ซึ่งเป็นก้าวแรกแห่งความมั่นคง

    ครั้งที่คุณปู่ทวดลิปโปเริ่มงาน "แลกวัด" นั้น มีพ่อค้ารายอื่นๆ ทำอยู่ก่อนแล้ว แต่สินค้าที่ใช้แลกวัดเป็นของใช้ประจำวัน เช่น ผ้าไตรจีวร สบู่ ยาสีฟัน ส่วนหนังสือนักธรรม-บาลี คัมภีร์เทศนา มีผู้ทำอยู่น้อยราย คุณปู่ทวดลิปโปจึงเน้นสินค้าหนังสือนักธรรม ฯลฯ ระยะแรกคุณปู่ทวดต้องไปรับหนังสือจากโรงพิมพ์อื่นๆ มา "แลกวัด"

    จากการเป็นนักแลกวัดที่ซื่อสัตย์มากๆ ขยันหมั่นเพียร มีมานะอดทน และเป็นคนกตัญญูรู้คุณคน ทำให้ ท่านพระครูวินัยธร (เพ็ชร์ ปภงฺกโร) วัดเทพศิรินทราวาส ให้ทุนตั้งร้านในปี พ.ศ. ๒๔๕๙ นอกจากนี้ ยังได้รับความช่วยเหลือจากพระเถรานุเถระหลายท่าน เป็นผู้รวบรวมเรียบเรียง และมอบต้นฉบับมาให้จัดพิมพ์ บางท่านไม่รับค่าลิขสิทธิ์หนังสือ เพราะถือเป็นการร่วมกันเผยแผ่และจรรโลงพระพุทธศาสนา
    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    หนังสือนักธรรม-บาลี ทุกสาขาวิชาที่จัดพิมพ์ ได้รับความนิยมเชื่อถือจากวัดวาอารามทั่วประเทศ แทบจะกล่าวได้ว่า ตั้งแต่พระราชาคณะลงมาจนถึงพระ-เณร ที่บวชเรียนใหม่ รูปใดที่ไม่รู้จักโรงพิมพ์เลี่ยงเชียง

    และเพื่อเป็นการแยกบทบาทธุรกิจบุญผลิตสื่อธรรมะให้ชัดเจน จึงมีอีกนามว่า สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ ปัจจุบันมี นายมณฑน์จิตต์เกษม (ถนอมศักดิ์) จงพิพัฒน์ยิ่ง

    ซึ่งคนมักจะเรียกเขาว่า "เฮียหนอม" ทายาทรุ่นที่ ๔ เป็นผู้สืบทอดอุดมกาณ์ของคุณปู่ทวดลิปโป แซ่เตียว

    เหตุที่ทำให้ยืนหยัดมากว่า ๙๐ ปีนั้น เฮียหนอมบอกว่า คนเราตายไปแล้วมี ๒ อย่างที่ติดตัวไปได้ ๒ บ คือ บ บุญ และ บ บาป ท่านก็เลือกเอาว่าจะเอา บ ไหนไป ซึ่งระหว่างมีชีวิตอยู่เราต้องระลึกอยู่เสมอว่า จะเลือกทำ บ ไหน
    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    หลายสำนักพิมพ์มุ่งหวังทำหนังสื่อ เพื่อให้ได้กำไรมากๆ แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า กำไรแค่พออยู่ได้ก็มากเกินพอแล้ว หนังสือธรรมะที่แพงสุด ไม่เกินเล่มละ ๑๕๐ บาท

    ส่วนที่ถูกสุดนั้นมีหลายสิบเล่ม ซึ่งน่าจะเป็นสำนักพิมพ์เดียวที่พิมพ์หนังสือธรรมถูกที่สุด คือ พิมพ์แจกฟรี โดยเฉพาะหนังสือสวดมนต์ชุดพุทธปริตรพิชิตมาร พุทธปริตรพิชิตโรคโภชงค์ปริตร พุทธปริตรพิชิตภัย วิธีสร้างบุญบารมี พิมพ์แจกฟรีกว่าหลักแสนเล่ม

    ส่วนใครที่คิดว่า หากินกับพระกับวัด ปล่อยให้เขาคิดไป ถ้าใครคิดว่า มีความสุขก็ปล่อยให้เขาคิดไป

    แต่สิ่งหนึ่งที่คนอาจจะไม่รู้คือ อาชีพของตนมีส่วนสำคัญยิ่งในการเผยแผ่หลักธรรมคำสั่งสอน เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่ทำให้จิตใจมนุษย์สูงขึ้น ถ้าเกิดมาบนกองเงินกองทอง มีเงินสักหมื่นล้านบาท เหมือนใครหลายๆ คน จะพิมพ์แจกอย่างเดียวโดยไม่ขายเลยสักเล่ม ทุกวันนี้แม้ไม่รวย แต่ก็พิมพ์แจกฟรีจำนวนไม่น้อยกว่าที่พิมพ์ขาย

    อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ที่คลุกคลีอยู่กับการพิมพ์หนังสือธรรมะ รวมทั้งรู้จักพระและวัดนับจำนวนไม่ถ้วน เฮียหนอมพูดถึง พระเครื่อง ไว้อย่างน่าคิดว่า

    แม้จะได้รับมอบพระเครื่องมาจำนวนนับพันๆ องค์ แต่ไม่เคยนิมนต์ขึ้นคอเลยสักองค์เดียว เมื่อได้พระมาจะนำไปมอบต่อให้คนอื่นๆ ต่ออีกทอดหนึ่ง ด้วยเหตุที่ว่า เป็นคนที่ไม่ยึดมั่นถือมั่น สิ่งที่ต้องมีติดตัวอยู่ตลอดเวลา คือ ความดีของตนเอง ซึ่งถือเป็นพระเครื่องที่ดีที่สุด

    ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า สติปัญญาและระดับจิตใจของคนไม่เท่ากัน พระเครื่องอาจจะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวสำหรับคนที่มีสติปัญญา และดับจิตใจระดับหนึ่ง แต่ในคนที่มีสติปัญญา และจิตใจอีกระดับหนึ่ง อาจจะไม่ใช่สิ่งจำเป็น พระเครื่องเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมี แต่ต้องพึงระลึกอยู่เสมอว่า ต้องไม่หลงไปกับวัตถุ
    เฮียหนอมยอมรับว่า เป็นเรื่องยากที่จะอ่านหนังสือธรรมะให้ครบทุกเล่ม เพราะหนังสือธรรมะที่ออกในแต่ละปี น่าจะอยู่ในหลักหมื่นเล่ม

    ทั้งนี้ต้องคิดว่า การอ่านหนังสือธรรมะ อ่านแค่พอประมาณ การรู้ธรรมะทุกข้อ ไม่สำคัญเท่ากับการปฏิบัติตามหัวข้อธรรมเพียงข้อเดียว

    ในทางโลกก็เช่นกัน รู้ทุกเรื่องรู้ทุกอย่าง ไม่สู้รู้อ่างเดียว แต่เชี่ยวชาญในเรื่องที่รู้ ความรู้ทางโลกและทางธรรมรู้แค่พอประมาณ และเอาความรู้ที่ได้มานำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ก็พอแล้ว

    ธรรมะสำคัญทุกข้อ แต่ความสำคัญของธรรมะจะเพิ่มขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง ในช่วงปัญหาหนึ่งๆ ธรรมะบางข้อจะเหมาะกับเหตุการณ์นั้นๆ ทุกครั้งก่อนที่ใครจะทำอะไร การพูดว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...