นิพพานคืออะไรคะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย antแอน, 17 มกราคม 2017.

  1. antแอน

    antแอน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2017
    โพสต์:
    28
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    นิพพานคือ การพ้นวัฏสงสาร พ้นการเวียนว่สยตายเกิดหรือไม่คะ

    และ หากอยากเข้าใกล้นิพพานมาที่สุดในช่วงชีวิตมนุษย์ จะปฏิบัติตนอย่างไร

    การไม่ทุกข์ร้อน ไม่ยินดียินร้าย การยินยอมให้คนเอาเปรียย การอดทน การไม่สู้เขา ไม่ตอบแทนเขาด้วยกรรมชั่ว นี่คือการเข้าถึงนิพพานหรือไม่คะ
     
  2. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ใช่ครับ นิพพานคือ สภาวะที่พ้นไปแล้วจากสังสารวัฏหรือสามแดนโลกธาตุ

    หากอยากเข้าใกล้มากที่สุดก็ลงมือปฏิบัติเอาครับ อันนี้ต้องถามก่อนว่าอยู่ที่ไหนจะได้บอกสถานที่ได้
    ไม่ได้รู้จักทั้งหมดนะครับ แต่ก็พอจะแนะนำสถานที่ที่ใกล้เคียงได้ครับ

    ข้อสุดท้ายไปถามท่านที่จะไปศึกษาด้วยเถอะครับ ตอบยาวมาก เพราะมันมีทั้งเหตุ และ ผล
    ประมาณนี้แหละครับ
     
  3. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    .......นี่คือการเข้าถึงนิพพานหรือไม่คะ
    การไม่ทุกข์ไม่ร้อน.....กับความเจ็บป่วยของพ่อแม่ลูกและสามีด้วยมั้ยครับ
    ไม่ยินดียินร้าย....กับการทุกข์ทรมานของพ่อแม่ลูกและสามีได้ด้วยมั้ยครับ
    ยินยอมให้คนเอาเปรียบ...เช่นเรื่องอะไรที่หนักสุดล่ะครับ
    อดทนไม่สู้ใคร...ยกตัวอย่างมาด้วยครับ
    ไม่ตอบแทนด้วยกรรมชั่ว...เขากระกับคุณแค่ไหนล่ะครับ
    .....
    คุณยกตัวอย่างตามที่ผมถามมาได้มั้ยครับ
    .....
    เพราะนิพพาน แปลว่า ตนเองพ้นแล้วจากทุกข์ของชนชาวโลก ทุกคน..ไม่มียกเว้น คือ มีเหตุมีผลในการเข้าใจในสิ่งที่จะเกิดแก่สัตว์ทั้งหลาย..ทีนี้ผู้ที่ถึงนิพพานแล้ว แปลว่า ดับทุกข์ในตนเองได้แล้ว สมมุติเป็นคุณ.. ดังนั้น การที่มีชีวิตอยู่กับชนชาวโลก ใครเข้ามาไกล้คุณ เขาจะถูกพลังงานนิพพานในตัวคุณ ดับความทุกข์ที่คนอื่นมีทั้งทางตรงและทางอ้อม คุณจะ เฉยๆเหมือนก้อนหิน ไม่ได้หรอกครับ...เพราะนิพพาน มันมีคุณสมบัติของมันอยู่ครับ
     
  4. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    หากอยากเข้าไกล้นิพพาน มากมี่สุดในช่วงชีวิตของมนุษย์ ต้องทำอย่างไร

    ต้องถามถึง จุดมุ่งหมายของตัวคุณเองให้ได้ก่อนครับว่า ความทุกข์ที่สุดในตัวคุณคืออะไร คุณต้องการให้นิพพานช่วยคุณ ตรงไหน..

    เพราะนิพพานคือ ยารักษา..ทุกข์ที่คุณต้องการรักษาครับ..ถ้าคุณมีทุกข์แต่ไม่ต้องการรักษา นิพพานมีอยู่แล้วทุกลมหายใจครับ แค่..บางคนยังไม่ต้องการเข้าถึงนิพพาน เท่านั้นเอง
    เพราะนิพพาน มันคือ...ความไม่เหลืออะไรในโลกมนุษย์นี้อีกต่อไป...
     
  5. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ความไม่เหลืออะไร แปลว่า สมมุติเดิมตายไป คนเดิมตายไป...คุณจะเป็นเหมือนคนใหม่ที่เกิดอีกครั้ง ในร่างเดิม แต่เหมือน ชีวิตใหม่ ในโลกจะเต็มไปด้วยคนเก่าๆ แต่คุณจะเป็นเหมือน ไม่ไช่คนแบบพวกเขา เพราะนิพพานคือ ดับสมมุติเก่าไปหมดแล้ว

    ดังนั้นนิพพาน เข้าไกล้ก็ไม่มีประโยชน์ครับ เพราะมันคือตั๋วเที่ยวเดียวครับ ไม่มีตั่วกลับ
     
  6. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    การเกิดใหม่ในร่างเดิม คือ รอวันตายจริงของร่างเดิมครับ ใจที่มีจะไม่ทุกข์ไปกับทุกข์ของชนชาวโลกทั้งหลาย แต่จะ ช่วยขจัด ชำระ ทุกข์ของชนชาวโลก ทั้งทางตรง(ต่อคนใกล้ชิด)และทางอ้อม(ต่อคนทั้งโลก)...มันต้อง เข้าถึงนิพพานเองถึงเข้าใจได้ครับ

    เพราะ ตอบอะไรไ..ป...ก็....เหมือนไม่ได้ตอบหร อกครับ
     
  7. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ในจิตใจบางคน ยิ่ง แอนตี้ใหญ่เลยครับ ว่า ใครที่พูดคุยถึงนิพพาน มันโม้ทั้งนั้นแหล่ะ ของจริงต้องนิ่งเป็นใบ้ครับ ที่พูดได้เจื้อยแจ้วอย่างผมนี่ คือของปลอมครับ อิอิ
    นิพพาน เขาถึงกันด้วยปัญญาครับ เหลือแค่กายใจ จะเอาจิตมาดูมาส่องมาแลมาเช็ค..ไม่เห็นนิพพานหรอกครับ...ปัญญาพวกเขาไม่ถึง
     
  8. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ผู้ถึงนิพพาน แปลว่า เป็นผู้รู้แล้ว เข้าใจแล้ว พอแล้ว
    ผู้คนทั้งหลายที่ไม่ถึงนิพพานแปลว่า ยังไม่รู้ ยังไม่เข้าใจ ยังไม่พอ

    คนที่เข้าใจหมดแล้ว เมื่ออยู่ท่ามกลาง คนที่ยังไม่รู้ ไม่พอไม่เข้าใจทั้งหลาย...ถ้าจะวางตัวเป็นก้อนหิน มันทำใจได้ยากนะครับ โดยเฉพาะ ถ้า พ่อแม่ลูกเมียสามี ของตนเอง พวกเขายังไม่รู้ ยังไม่พอ ...

    คนที่เขาถึงนิพพานจริงๆ เขาจะช่วยเหลือคนอื่นที่ยัง ไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่พอ ครับ
     
  9. antแอน

    antแอน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2017
    โพสต์:
    28
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2

    ใครเข้ามาไกล้คุณ เขาจะถูกพลังงานนิพพานในตัวคุณ ดับความทุกข์ที่คนอื่นมีทั้งทางตรงและทางอ้อม


    ชอบมากคะ
     
  10. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +952
    ...นิพพานคือ การพ้นวัฏสงสาร พ้นการเวียนว่ายตายเกิดหรือไม่คะ
    ตอบ ใช่ครับ และนิพพานเป็นบรมสุขครับ

    ...และ หากอยากเข้าใกล้นิพพานมากที่สุดในช่วงชีวิตมนุษย์ จะปฏิบัติตนอย่างไร
    ตอบ ผู้ปรารถนาเข้าใกล้พระนิพพานจงโกนเกล้าเข้าบวชในพระพุทธศาสนาเถิดแล้วตั้งใจเจริญพระสมถะวิปัสสนากรรมฐาน

    ...การไม่ทุกข์ร้อน ไม่ยินดียินร้าย การยินยอมให้คนเอาเปรียย การอดทน การไม่สู้เขา ไม่ตอบแทนเขาด้วยกรรมชั่ว นี่คือการเข้าถึงนิพพานหรือไม่คะ
    ตอบ ยังไม่ใช่หรอกครับ นิพพานคือการหลุดพ้นที่ใจ(วิมุติหลุดพ้นที่ใจ) เพราะกิเลสมันอยู่ที่ใจ แต่ที่พูดมาก็ทำได้ยากเหมือนกัน การที่จะทำแบบนั้นได้มันก็ต้องมีเหตุผลในตัวของมันเอง (แต่คนมีกิเลสอย่างเรา
    ทำได้ยาก) แต่ถ้าคนไม่มีกิเลสทำ เพราะท่านปล่อยวาง แต่ไม่ใช่ปล่อยวางแบบหัวหลักหัวตอ ครับ
    ...อนุโมทนาบุญครับ....
     
  11. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    นิพพาน เป็นสภาวะ ยุติบทบาทอัตตาของเรา

    ยกให้นิพพานคือพลังงานที่สุดที่ให้กำเนิดจักวาล ให้กำเนิดทุกสรรพสิ่ง ทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิต
    องค์ประกอบของวัตถุ อันมีธาตุเริ่มต้น ดิน น้ำ ลม ไฟ ( ความร้อน ) แปรเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามปัจจัยต่าง ๆ เช่นถูกปรุงแต่ง หรือแปรไปตามกาลเวลา
    องค์ประกอบของชีวิต คือวัตถุธาตุที่ประกอบขึ้นตามปัจจัยการขยายพันธุ์ และพลังงานพิเศษได้ถูกกำหนดให้เข้าถึง และควบคุมอัตภาพนั้นในสภาพแบ่งตัวเริ่มต้น จนกำเนิดเป็นตัว และเจริญเติบโต พลังงานดังกล่าวก็คือพลังงานจากนิพพาน
    เมื่อองค์ประกอบชีวิตสูญสลายหรือถูกทำลาย กายธาตุแตกสลาย แต่พลังงานนิพพานนั้นไม่ได้รับผลกระทบอะไร เพราะไม่ได้อยู่ในกายธาตุนั้น นิพพานอยู่ทุกที่ เป็นสิ่งที่เหนือกว่าจักวาล ไม่อาจถูกทำลายได้
    การเวียนว่ายตายเกิด เป็นระบบที่นิพพานจัดวางให้อัตตา ( ตัวตน ) ของแต่ละชีวิตข้ามไปมา ไปเกิดตามที่ต่าง ๆ หลังจากตาย โดยมีเงื่อนไขเป้าหมายตามวิถีการใช้ชีวิตและฝึกจิตใจที่ผ่านมาจนถึงวินาทีตาย
    ภาวะนิพพาน คือ ภาวะที่จิตสุดท้ายไม่อาจกำหนดเป้าไปสู่อัตภาพใหม่ได้ ( หมดกิเลส ) จิตนิพพานที่บงการอัตภาพนั้นหยุดไป สูญสลายความเป็นตัวตนของสิ่งนั้น ๆ ไปตลอดกาล แต่จิตนิพพานที่เป็นพลังงานที่ให้เราเป็นเรา ให้เราร่อนเร่ไปในวัฏฏะก็ยังคงอยู่ และยังคงบงการให้อัตภาพที่แตกต่างกันมากกว่าล้าน ๆๆๆ หน่วย ล่องลอยไปมาในจักวาล รวมถึงวันใดวันหนึ่งนิพพานก็อาจจะให้กำเนิดอัตภาพใหม่ ๆ ( ชาติแรก ) ขึ้นมา ( ทุกสิ่งที่จุดเริ่มต้นย่อมมีจุดจบ ถ้ามีจุดจบย่อมมีจุดเริ่มต้น ) แต่เมื่อเรานิพพานไปแล้ว แม้จะมีจิตอัตตาใหม่ ๆ มาเกิดอีก ก็จะบอกว่าเป็นเราก็ไม่ได้ จะบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ได้ เราทุกคนคือนิพพานอันเดียวกัน แต่แค่แยกมาเล่นละครสนุก ๆ ให้ตัวเองดูเท่านั้น
     
  12. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    คำถามมี 3 ประเด็น

    นิพพานเนื่องจากความหมายว่า “ดับ” ๓ อย่าง คือ

    ๑. ดับอวิชชา หมายถึง การเกิดญาณทัศนะอันสูงสุด หยั่งรู้สัจธรรม

    ๒. ดับกิเลส หมายถึง กำจัดความชั่วร้าย และของเสียต่างๆ ภายในจิตใจ หมดเหตุที่จะก่อปัญหาความเดือดร้อนวุ่นวายต่างๆแก่ชีวิตและสังคม

    ๓. ดับทุกข์ หมายถึง หมดความทุกข์ บรรลุความสุขอันสูงสุด

    เมื่อนิพพานแล้ว จะพ้นจากวัฏฏะ (วน) 3 คือ กิเลส กรรม วิบาก ชาตินี้ ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า (ประเด็นที่ 1)

    -ประเด็นที่ 2 ตอบสั้นๆ คือ ต้องปฏิบัติตามแนวสติปัฏฐาน 4 ที่ถูกต้อง

    - ประเด็นที่ 3 (ไม่ทราบรายละเอียด) แต่นั่นยังไม่ใช่นิพพาน ถึงไม่นิพพานก็ไม่ควรตอบแทนเขาด้วยกรรมชั่ว เพราะมีแต่จะทุกข์เดือดร้อนไปด้วยกัน (เช่น เขาตายเราติดคุก ตัวอย่างมีให้เห็นทุกวัน)

    สังคมมนุษย์มีการเอารัดเอาเปรียบกันทุกที่ ก็ว่ากันไปตามตัวบทกฎหมายที่เป็นกฎของสังคม ดังนั้น การแสวงความรู้ชีวิตและโลกเป็นสิ่งจำเป็น
     
  13. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    สติปัฏฐานในฐานะสัมมาสติ

    สติปัฏฐาน แปลว่า ที่ตั้งของสติบ้าง การที่สติเข้าไปตั้งอยู่ คือมีสติกำกับอยู่บ้าง ฯลฯ ว่าโดยหลักการก็ คือ การใช้สติ หรือวิธีปฏิบัติเพื่อใช้สติให้บังเกิดผลดีที่สุด ดังความแห่งพุทธพจน์ในมหาสติปัฏฐานสูตรว่า

    "ภิกษุ ทั้งหลาย ทางนี้เป็นมรรคาเอก เพื่อความบริสุทธิ์ของสัตว์ทั้งหลาย เพื่อข้ามพ้นโสกะ และปริเทวะ เพื่อความอัสดงแห่งทุกข์และโทมนัส เพื่อบรรลุโลกุตรมรรค เพื่อกระทำให้แจ้ง ซึ่งนิพพาน นี้คือสติปัฏฐาน ๔" (ที.ม.10/273/245...)

    การเจริญสติปัฏฐาน ๔ นี้ เป็นวิธีปฏิบัติธรรมที่นิยมกันมาก และยกย่องนับถือกันอย่างสูง ถือว่ามีพร้อมทั้งสมถะ และวิปัสสนาในตัว ผู้ปฏิบัติอาจเจริญสมถะจนได้ฌาน ก่อนแล้ว จึงเจริญวิปัสสนาตามแนวสติปัฏฐานไปจนถึงที่สุดก็ได้ หรือจะอาศัยสมาธิเพียงขั้นต้นๆ เท่าที่จำเป็นมาประกอบ เจริญวิปัสสนาเป็นตัวนำตามแนวสติปัฏฐานนี้ ไปจนถึงที่สุดก็ได้
     
  14. DR-NOTH

    DR-NOTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    581
    ค่าพลัง:
    +1,276
    สุขอื่นเสมอเหมือน นิพพาน ไม่มี ... ^__^
     
  15. Prasit5000

    Prasit5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +228
    ....ถ้าถามว่า นิพพานคืออะไร

    ....การอธิบายเรื่องนิพพาน ถือว่า เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนากันทีเดียว

    ....คำถาม ว่านิพพานคืออะไร ในส่วนตัวผม เข้าใจอย่างนี้นะครับ
    ....นิพพาน แปลว่า ดับเย็น
    ....สภาวะนิพพาน คือสภาวะดับเย็น
    ...จิตที่เข้าสู่นิพพาน คือจิตที่ ปราศจากกิเลส คือจิตที่ดับเย็น กิเลสคือ ความโลภ ความโกรธความหลง
    ....การเข้าสู่สภาวะนิพพาน ก็คือการเข้าสู่การดับเย็น

    ....นิพพานธาตุ คือธาตุที่ดับเย็น

    .....นิพพานธาตุคืออะไร อันนี้สิน่าสนใจกว่า

    ....ถ้าจับสัตว์โลก เช่นตัวผมนี้แหละ มาชำแหละ จะได้ สี่อย่าง คือ จิต เจตสิค รูป และนิพพานธาตุ

    ....รูป ก็คือร่างกายผมนี้แหละ ส่วนที่เหลือเป็น นามธรรมทั้งสิ้น
    ...จิต กับ เจตสิค เกิดร่วมกัน ทำให้จิตเกิดแต่ละครั้ง มีลักษณะต่างกันไป แล้วแต่ตัวเจตสิค ที่ร่วม ทำให้จิต มีอารมณ์ได้
    ......รูป จิต เจตสิค รวมกันเรียกว่า ขันธ์ห้า
    ......นิพพานธาตุ คือนามธรรม ที่เป็นอสังขตะธรรม คือธรรมที่ไม่เกิดอารมณ์ เที่ยง แต่ก็ยังเป็นอนัตตา

    ......นิพพานธาตุ คือธาตุที่ดับเย็น ทำไมมันอยู่ในตัวผมละ และมันก็อยู่ในตัวของทุกๆ คนด้วย ถ้าเราสามารถควักเอา ตัวนิพพานธาตุ ออกจาก ตัวเราได้ ตัวเราก็กลายเป็นหุ่นยนต์ทันที่

    .......ทางผู้ศึกษาศาสนาพุทธทาง ตะวันตก เขากล่าวว่า นิพพานธาตุนี้แหละ คือ เรา

    ......นิพพานธาตุ ยึดเอาขันธ์ห้า ด้วยกิเลสสังโยชน์ สิบเส้น ถ้าเราสามารถ ตัด กิเลสสังโยชน์ได้หมด จิตเรา ก็จะเข้าสู่สภาวะ ดับเย็น คือสภาวะนิพพานนั้นเอง

    .....จิตที่เข้าสู่สภาวะนิพพาน กับ นิพพานธาตุ มิใช่อันเดียวกัน

    .....จิต เป็นนามธรรม ที่มีการรับรู้ รู้และเกิดอารมณ์
    .....นิพพานธาตุ ก็เป็นนามธรรมที่มีการรับรู้ รู้แต่ไม่เกิดอารมณ์

    .....การตัดกิเลสสังโยชน์ ก็คือการภาวนา ตามแนวสติปัฏฐานสี่ เพื่อให้เกิด ญาณ และใช้จิต น้อม ให้เกิดการรู้ความเป็นไตรลักษณ์ เรียกว่าเกิดการตรัสรู้ เมื่อตรัสรู้แต่ละครั้งก็ตัดกิเลสสังโยชน์ได้เป็นลำดับไป


    ......เมื่อตัดกิเลสสังโยชน์ได้หมด ก็เรียกว่า พระอรหันต์

    .....เมื่อพระอรหันต์ ดับขันธ์ ทุกสิ่งสลาย เหลือแต่ นิพพานธาตุ ล่องลอยอยู่ในจักรวาล พระองค์ให้หลักประกันว่า นิพพานเป็นสุข อย่างยิ่ง

    ......นิพพานธาตุคือธาตุที่ รับรู้ ด้วย อายัตนะนิพพาน มิใช่ไม่รู้อะไรนะครับ
     
  16. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    นิพพานคือการพ้นทุกข์ พ้นการเวียนว่ายตายเกิด คือการปลดปล่อยความยึดมั่นในร่างกาย และจิต การเข้าถึงได้ในปัจจุบันคือการที่ไม่มีส่วนไหนของกายและใจที่ไปอยู่ที่อื่นเลย รู้ตัวทั่วพร้อมอยู่ในปัจจุบัน อาจจะเข้าถึงนิพพานได้ชั่วขณะสั้นๆ การปฏิธรรมจะช่วยให้เราเพื่อลดกิเลศ รวมถึงการรับใช้ธรรมมะจะทำให้เราเข้าใกล้นิพพานครับ
     
  17. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    นิพพาน ตรงๆ คือ ดับกิเลสสนิทแม้กระทั่งเชื้อก็ไม่เหลือ เปรียบเปรย เหมือนจะให้ต้นไม้ตาย ก็ต้องถอนกระทั้งราก

    เมื่อดับ กิเลส วงจรวัฏฏ ๓ กงล้อแห่งกิเลส กรรม วิบาก ก็หยุดหรือถูกทำลายลง เป็นผลให้สังสารวัฏฏ์ยุติลง ไม่ต้องเวียนว่ายในสังสารวัฏฏ์อีก

    หากอยากเข้าใกล้นิพพานมากที่สุดในช่วงชีวิตมนุษย์ ?

    ปุถุชน ต้องได้ตทังคนิพพาน กับ วิกขัมภนนิพพาน คือ ดับกิเลสเป็นคราวๆ ไปด้วยองค์ธรรมอย่างใดๆ ที่มีสติเป็นประธาน หรือดับกิเลสชั่วคราว เพราะข่มไว้ด้วย ฌาณ ๑ - ๘ หรือ ด้วยกำลังจิตในวิปัสสนาญาณ ๑ - ๑๓

    โดยต้องเข้าใจว่า นิพพานชั่วคราว เป็นของที่ยังไม่จบกิจ ไม่ควรหยุดอยู่แค่นั้น แนะนำให้ฝึกจิตโดยวิปัสสนาญาณ ๑ - ๑๓ มากกว่า เพราะเป็นทางที่ใกล้ที่สุด กว่าวิธีอื่น เพราะตทังคนิพพาน กำลังน่าจะอ่อน ส่วนการเข้าฌาณ ๑ - ๘ จิตมักจะแช่ไว้ ทำให้เสียเวลามากกว่า เว้นแต่จะนำกำลังของฌาณ มาประกอบการวิปัสสนาญาณ ก็จักนับเป็นการเข้าใกล้นิพพานแบบอาศัยวิปัสสนาญาณ

    การไม่ทุกข์ร้อน ไม่ยินดียินร้าย การยินยอมให้คนเอาเปรียย การอดทน การไม่สู้เขา ไม่ตอบแทนเขาด้วยกรรมชั่ว นี่คือการเข้าถึงนิพพานหรือไม่คะ ?

    ดูเหมือนจะคล้ายอาการของการดับกิเลส แต่ผมว่าไม่ใช่ครับ ต้องพิจารณาให้ดีครับ ให้ศึกษากริยาของพระอรหันต์จะตรงกว่า ใกล้เคียงกว่าครับ
     
  18. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    เมื่อมีที่มืด ก็มีที่สว่าง
    เมื่อมีที่ร้อน ก็มีที่เย็น
    เมื่อที่เกิดแก่เจ็บตาย ก็มีที่ไม่เกิดไม่แก่ไม่เจ็บไม่ตาย

    เจ้าชายพิจารณาอย่างนี้ตอนกลับจากอุทยาน..
    เลยหนี้ออกจากวัง...ไปแสวงหา ที่ไ่ม่ต้องเวียนว่ายตายเกิด...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2017
  19. เล่งชิว

    เล่งชิว บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    คงต้องฉลาด มีสติปัญญา รู้จักสงบเป็น รู้จักออกจากทุกข์เป็นก่อน ส่วนว่าจะเข้าใกล้หรือไม่เข้าใกล้รึยัง ถ้าทำได้จริง ก็จะน่ารู้เองแล้วครับ


    ถ้าทุกการกระทำเป็นเรื่องของจิตสั่ง ไม่ใช่สติปัญญาสั่ง ยังไม่รู้จักอะไรเป็นอะไร ก็ยังไม่ต้องไปไกลถึงเรื่องนิพพานหรอก เอาพื้นๆนี่ก่อนดีกว่ามั้ยครับ
     
  20. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    นิพพาน ตาม พระวจนะ คือ ความสิ้นไป แห่ง ราคะ ความสิ้นไป แห่ง โทสะ ความสิ้นไปแห่ง โมหะ คือ นิพพาน...:)...................เราปุถุฃน ต่าง แสวงหาสุข ไม่อยากเจอทุกข์....แต่เราไม่รู้ทำอย่างไร หรือ เผลอเผลอ ยังไม่รู้จัก ว่า อะไร คือ สุข ทุกช์ เลย....พระท่าน ประกาศ อริยะสัจสี่ ครบถ้วนแล้ว คือ ....ทุกข์ สมุทัย นิโระ มรรค เกือบ ทุกอย่าง มี คำตอบอยู่ ใน พระ อริยสัจสี่
     

แชร์หน้านี้

Loading...