นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (นิมิตรอัศจรรย์...รุ่นสรรพสิ่งล้วนเป็นหนึ่งเดียว)

ทำบุญรับปีใหม่ไทยครับ

 

ผู้มีจิตศรัทธาบูชาพระแหวกม่านผมได้ทำบุญกับปรมาจารย์ งานบุญหลายที่ และล่าสุดฝากสหายธรรมทำบุญกับพระอริยเจ้าปิดท้ายครับ...

 

ไม้ชองระอา ไม้งิ้วดำ


ผงแร่เหล็กน้ำพี้

ผงที่ถือว่าแปลกไม่เคยได้ ผงหลวงปู่คง อาจารย์ของขุนแผนนะครับ สาย อ.ชุมจะรู้จักกันดี... อาจารย์ขาวเล่าว่า หลวงปู่คงให้เอาไปเก็บที่พระธาตุเพื่อไว้ยามสำคัญค่อยนำออกมา แต่มีปรมาจารย์ท่านนึงจะอิ๊บไว้ส่วนตัว หลวงปู่คงท่านรู้ได้ไงไม่ทราบมานิมิตรบอกให้เอาออกมาไปเก็บไว้

โดยอาจารย์ขาวได้มาส่วนนึงและผสมรวมตามภาพ

มีผงพรายกุมาร, ผงหลวงปู่ดู่ด้วยและอีกหลายอย่าง..และแน่นอนมีผงหลวงปู่โตด้วย...

 

ช่วงอารมณ์อิ่มตัว เบื่อ สร้างพระมามาก ความสุขที่สุดของผม คือ มีคนห้อยพระที่สร้างมาแล้วชีวิตดีขึ้น



ได้คุยกับอาจารย์ขาว ท่านกล่าวถึงหลักการอย่างนึง...

สมมติเราไปสักยันต์ให้คนอื่น เราลงอักขระ... เหมือนเราเขียนหนังสือบนกระดาษ แต่ๆๆ ในมุมกลับกัน...

หากเราสักยันต์ใส่ตัวเองละ หรือ เขียนหนังสือบนหน้าอกตัวเอง เราจะเขียนยังไง ???

ทีนี้ หากเราไปตัดผม เรามองในกระจก เห็นช่างปกติถนัดขวา ตัดผมเราด้วยมือซ้าย แต่จริงๆช่างเขาใช้มือขวาตัดผมเรา!!!!

โดยสรุป นี่คือหลักวิชาในตำนาน ที่เหมาะกับยุคปัจจุบัน มิถุนายนจะมาเล่าต่อครับ

เคยมีหนังฝรั่งเรื่องนึง ที่ว่าทุกอย่างในโลกนั้นย้อนกลับหมด ชนิดที่คนแซว ดูหนังนี้จบคงเดินแบบถอยหลังกันแล้ว...

 

เหตุเพราะหลักวิชานี้เอง ผมจึงต้องเลิกเล่นตัว เพราะคิดว่ามวลสารตัวเองมีมากพอแล้ว เลยขอมวลสารจากอาจารย์ขาวมาเพิ่ม ตามที่ลงภาพไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่มี ...

.....ผงหลวงปู่คง อาจารย์ของขุนแผน...

......ผงหลวงปู่ดู่ ......

........ผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม (ไม่ได้ถามอาจารย์ได้มายังไง)...

.........ว่านหลายร้อยชนิด ฯลฯ นำมารวมกับที่ผมมี


เพื่อเวลาเสก ซึ่งอาจารย์ใช้คำว่าบรรจุคุณได้ดึงอานุภาพแห่งหลักวิชานี้ ซึ่งอาจารย์กล่าวว่า "ขลังดีว่าเดิม"

.......เสกกันเป็นเดือนครับ....... แล้วผม plan ว่า ปิดท้ายโดยการอธิษฐานของพระอริยเจ้าที่สูงที่สุด ถึงสะใจ ..

มิถุนายน.. จะมาเล่าให้ฟังครับ

 

ครบรอบ 1 ปีที่ได้ผงหลวงปู่โตมาไม่นานนัก (ตามความทรงจำในเฟส)

เมื่อเช้าพี่ที่มอบผงหลวงปู่โตให้ เฟสมาให้ชม เขาเล่าว่า มีคนมาขอผงวิเศษ ซึ่งผงในภาพ เป็นผงรวมหลายอย่างนะครับ วันไปรับผงหลวงปู่โตผมก็เห็น แต่ผมเอาแบบเพียวๆ หัวเชื้อเลยไม่ได้ขอแบบในภาพมา (ใจจริงอยากได้เพราะผสมหลายอย่างมีพระหลวงปู่โต๊ะบดผสมด้วยแต่เดี๋ยวเขาจะว่าโลภเอา)

ผงในภาพในขณะที่พี่เขาจะตักแบ่งคนมาขอ ก็เห็นพระธาตุเลยไม่ตักเลย บอกคนขอว่ายังไม่พร้อม (ฮาเลยคนขออด)55

สำหรับพระธาตุเสด็จในผงหลวงปู่โตพี่เขาเจอหลายครั้ง ตามภาพ


องค์ขนาดเท่าหัวแม่มือ


องค์นี้แยกออกมาจากจากองค์ใหญ่


รวม ๆ ในรอบ 20 กว่าปี

โดยพี่เขาบอกว่า ผงหัวเชื้อที่ตักให้ผมกับอาจารย์ขาว ก็เพิ่มจำนวนมาเท่าเดิมแล้ว (เขาชั่งกิโลเลย บวกกับจำนวนที่เห็นกับตา) ซึ่งผมก็ยินดีด้วยเพราะปีที่แล้วตอนได้มาก็อธิษฐานกับกระปุกที่เขาตักให้แล้วว่าขอให้เพิ่มจำนวนเท่าเดิม...

ต่อไปของที่ผมบูชานะครับ ซึ่งผงก็เพิ่มจำนวนขึ้นมาหน่อยยังไม่ถึงขนาดเต็มกระปุกอีกครั้ง พี่เขาว่าต้องใช้เวลาหน่อย เพราะบางคนก็เพิ่ม บางคนได้ไปผงหายไปก็มี ทั้งที่ก็เป็นคนดี

...แต่ผมก็ไม่ได้ขนาดชั่งกิโลทดสอบ ก็รอวันกลับมาเต็มกระปุกอีกครั้งถึงชัวร์ แต่ประหลาดใจตรงด้านบนมีเม็ด ๆ เลยขยายดู...



ผงนี้ผมก็ใช้ไปพอสมควรนะครับ เยอะเลยตอนรุ่นมหาจักรพรรดิ์ราชาโชค แต่มองตาเปล่าก็รู้สึกว่าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะให้ชัวร์ก็ตอนที่กลับมาเต็มนั่นละครับ แต่ล่าสุดก็ใช้ไปกับรุ่นเสกย้อนกลับนั่นละครับตักไปพอสมควรเลย กลางเดือนมิถุนายนถึงมาเล่าให้ฟังได้

 

เคสล่าสุด แฟนของรุ่นน้องได้เล่า... รุ่นน้องเขาเจอเรื่องแย่ๆ ตลอด ซึ่งตรวจดูก็เจอโรคประหลาด จึงใช้มีดหมอทำน้ำมนต์ให้ไปอาบทั้งบ้านเลย และให้พระรุ่นมณีรัตนมงคลให้ไป (เพราะยังเหลือส่วนตัวอยู่) ซึ่งเขาก็ไปเลี่ยมห้อยกับลูกเขา และชีวิตก็ดีขึ้นทันตา... มีคนมาช่วยเหลือแก้ปัญหาให้โดยเฉพาะเรื่องเงินๆ ทอง ๆ (ผมรู้ดีเพราะรุ่นน้องผมมาเล่าเองตอนเขามาปรึกษาซึ่งก็ได้ช่วยเหลือไป)

สรุป.... 1 ปีกว่าจากการนำผงหลวงปู่โตแบบหัวเชื้อเพียวๆ เสกเพิ่มมา 10 กว่าปีโดยพี่เขา จึงหายห่วงครับ ถ้าได้นำไปห้อยคอ (ถ้าวางบนหิ้งก็จบไม่เกิดผล) และสวดมนต์ภาวนาหน่อย รับประกันว่าจะคุ้มค่าแบบไม่กล้าห้อยพระอื่นอีกเลย.. ผมชอบตรงพรรคพวกผมเขาไม่ได้สะสมพระมากไม่สนใจเท่าไร ซึ่งคนแบบนี้พอเราให้ไปการันตีไปเขาห้อยกันทันทีและเห็นผลชัดเจนนี่ละครับ ไม่ต้องห้อย ไม่ต้องพกมากมาย เกิดผลจริงๆ และผมก็ได้ทำตามสัจจะตอนได้ผงมาด้วย ว่า ..."จะนำมาช่วยคนให้เกิดประโยชน์ รวมถึงได้ให้คนบูชาและนำค่าบูชาไปทำบุญให้คุ้มค่าสมกับที่หลวงปู่โตมอบให้มา..."

 

ชุดเสกย้อนกลับ กำลังอยู่ระหว่างการเสกโดยท่านอาจารย์ขาวครับ จริง ๆ อาจารย์ให้ใช้คำว่าบรรจุคุณ.....

ความพิเศษคือ เน้นลงด้านไสยเวทย์ก่อน เมื่อเป็นรูปลักษณ์พระพุทธเจ้าเราปฏิเสธไม่ได้ว่า... รูปลักษณ์ของพระพุทธเจ้ามีพลังโดยอัตโนมัติ ที่ว่าไม่ต้องเสกไม่ต้องเบิกเนตรยังได้ แต่การทำพิธีต่างๆ คืออาราธนาบรรจุคุณท่าน

 

พระแหวกม่านเสก 9 ยกไม่ทำให้ผิดหวังครับ...

ทั้งนี้ทั้งนั้น มวลสารสำคัญที่สร้างพระแหวกม่านได้นำเสกพร้อมพระด้วย บวกกับล่าสุดที่ อาจารย์ขาวท่านให้มาเพิ่ม เพื่อประยุกต์สร้างต่อไป (ตอนนี้อยู่ระหว่างเสก ซึ่งผมก็ไม่รบกวนสอบถามใด ๆ อาจารย์ ฝากท่านจัดให้เต็มที่ 1 เดือนขึ้นไป)...

 

ดังผมได้เล่าในการอธิษฐานจิตของพระอริยเจ้าที่สูงที่สุด....

ผมทำบุญกับท่านมายาวนานหลายปี ซึ่งเคยคุยกับผู้แนะนำ เรายังคุยกันเล่นๆ ว่าท่านลงมหาสะท้อนได้ไหม ผู้แนะนำกล่าวว่า "ท่านลงได้แต่ท่านลีลา"

ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรก ผมกล้าขอท่าน โดยกล่าวเกริ่นนำว่า "ยุคปัจจุบัน ผู้ดีเดินตรอก ขี้ครอกเดินถนน เขาไม่กลัวบาปกรรมกันแล้วครับ มันช้า แม้เคยบอกสอนบางคนว่า ตกนรกนะ ยังทำฮาบอก พระพุทธเจ้าบอกเราไม่ลงนรกใครจะลงนรก..."

ท่านจึงเมตตาอธิษฐานให้พร้อมกล่าวว่า "เขาเรียกกาสะท้อน หรือก๋าสะท้อน ไปใช้ดีๆ นะอย่าไปคิดร้ายใคร แบบใครทำเราเจ็บจะให้เจ็บกว่าเราเป็นสิบเท่างี้..." (ท่านย้ำ 2-3 รอบเลย)

ดังนั้น ผมเชื่อของผมเองครับ ว่าท่านอธิษฐานให้ด้วยเมตตาจิตคือสงเคราะห์เราจริงๆ คนอื่นครูบาอาจารย์อื่นแม้เก่งกล้าสามารถลงแนวนี้ได้แค่ไหน แต่ผมเชื่อในความสูงส่งของครูบาอาจารย์ผมว่าทำได้ และทำได้จริง ชัวร์แบบลุยได้ทั่วสารทิศ

 

ยังมีเหลือให้บูชามั้ยครับ

 

อาจารย์ขาว นำพระไว้หัวเตียงเลยครับ ปลุกเสกเต็มที่

 

ว่ากันโดยพื้นฐาน ปางพระพุทธรูป หรือพระพิมพ์แต่โบราณมีอยู่ไม่กี่ปาง มาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้รู้รวบรวมไว้ได้ราว 50-60 ปาง แต่ก็จำกัดอยู่ใน 4 ปาง ภาษาชาวบ้านก็ ยืน เดิน นอน และนั่ง

ปางนั่งปางหนึ่งคุ้นตา คือพระปางมารวิชัย มือหนึ่งวางแปะหัวเข่า ปางนี้เรียกกันอีกชื่อว่า ปางสะดุ้งมาร

อีกปางดูเหมือนจะนอกตำราเหมือนปางสะดุ้งมาร เพียงแต่มือที่แปะหัวเข่ากลับด้าน เรียกกันว่าปางสะดุ้งกลับ

แรกๆที่เห็นพระพิมพ์นี้ ก็เข้าใจกันว่าช่างแกะพิมพ์ผิด ผมเพิ่งมาเข้าใจเมื่อได้อ่านหนังสือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว (บางกอกสาส์น

ของเจ๊พิมพา พิทักษ์กมลพันธุ์ จัดพิมพ์) ของมูลนิธิพระพุทธวิถีนายก (หลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม)

นอกจากเบี้ยแก้ ที่หลวงปู่บุญเป็นต้นตำรับ หลวงปู่บุญทำพระเครื่องไว้หลายสิบพิมพ์ คุณสุธน ศรีหิรัญ ศิษย์เก่าที่ต้องนับเจ้าตำนาน ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ จัดพิมพ์นางพญาสะดุ้งกลับ ไว้เป็นลำดับที่ 13

พิมพ์เศียรโล้นสะดุ้งกลับ ปรกโพธิ์ เป็นพิมพ์ที่ 14

คุณสุธน เป็นเด็กข้างวัดกลางบางแก้ว ทันหลวงปู่บุญ เคยถามท่าน หลวงปู่บอกว่า พิมพ์สะดุ้งกลับ ช่างไม่ได้แกะพิมพ์ผิด แต่ตั้งใจแกะตามที่ท่านสั่ง

สรรพตำราการสร้างพระเครื่อง บอกถึงการสร้างพระสะดุ้งกลับไว้ เป็นพระที่สร้างได้ยาก เป็นการทดลองวิชาด้านพุทธาคมขั้นสูง หากผู้สร้างกระแสจิตไม่กล้าแข็งในการปลุกเสก มักจะต้องเสียจริตไปในทันที

ต้องใช้บทคาถาท่องถอยทวนขึ้นหาต้นบท การแผ่กระแสจิต ยอกย้อนกว่าการปลุกเสกธรรมดา การถ่ายทอดพลังจิตลงในองค์พระเครื่อง ทำได้ยากลำบากกว่า มีกรรมวิธีสร้างไว้เฉพาะแบบ ทั้งละเอียดทั้งพิสดาร

หลวงปู่เพิ่ม ศิษย์เอกผู้ถ่ายทอดสรรพวิชาหลวงปู่บุญองค์ต่อมา อธิบายให้คุณสุธนฟังว่า พุทธคุณพระสะดุ้งกลับนั้น แรงกล้าอย่างยิ่ง สามารถดลบันดาลให้ผู้ที่มีพระ กลับเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้
คนดวงไม่ดีหรือมีเคราะห์ร้าย ก็คลายสิ้น

มีเรื่องเล่าสืบกันมา พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา (โอรสเสด็จกรมฯหลวงชุมพรฯ) ได้รับพระสะดุ้งกลับไปจากหลวงปู่บุญ เมื่อคราวพบปัญหาการเมือง ช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครองปี พ.ศ.2475

เมื่อเข้าไปชี้แจงทำความเข้าใจกับคณะราษฎร แทนที่จะถูกลงโทษ พระองค์กลับได้รับการสถาปนา เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแทนพระองค์ ในรัชกาลที่ 8

ผมไล่เรียงอ่านเรื่องพระสะดุ้งกลับทั้งสองพิมพ์ หลวงปู่ท่านทำไว้หลายเนื้อ ตั้งแต่เนื้อดินเผา เนื้อผสมว่าน ฯลฯ และเนื้อผงยาจินดามณี

เนื้อหลังนี้ท่านสร้างไว้น้อย ราคาขึ้นหลักหลายแสน ของปลอมจึงมีมากเป็นทวีคูณ

ระดับการปลอมซับซ้อน ถึงขนาดที่ตีพิมพ์ไว้ในหนังสือหลวงปู่บุญ บางเล่ม คุณสุธนบ่นว่า พิมพ์เจ้าสัวเนื้อทองแดง ที่ซื้อขายผ่านเซียน มีของปลอมแทรกเข้าไปหลายองค์

อ้างอิงเครดิต https://www.thairath.co.th/news/politic/187208

 

โดยสรุป พระปางสดุ้งกลับ ก็คือพระปางมารวิชัยหรือปางสะดุ้งมารกลับด้านนี่เอง... จากพระหัตถ์ขวางวางที่พระชานุ (เข่า) ก็สลับด้าน เป็นพระหัตถ์ซ้ายวางพระชานุ

ทีนี้ เมื่อได้อ่านเรื่องการสร้างพระสดุ้งกลับหลวงปู่บุญทำให้เกิดความสงสัย และอยากรู้ขึ้นมาจึงได้สอบถาม ท่านอาจารย์ขาว เพราะเชื่อในความรอบรู้ของท่านจากที่พี่ที่มอบผงหลวงปู่โตได้การันตีมาว่า ...เรียนวิชามาตั้งแต่ 8 ขวบสำเร็จวิชามา 4 สายคือ

1.สายท้าวมหาพรหม
2.สายเขาอ้อ โดยเรียนมากับท่านอาจารย์ชุม
3.สายหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา
4.สาย จ.สุพรรณบุรี..

และจากความสุดยอดของตะกรุดมหาอุดพิชัยสงครามของท่าน ที่ส่งให้พรรคพวกที่เป็นทหารลองปืนมาแล้ว ว่าได้ผลจริงๆ ...

และสิ่งสำคัญ ท่านอาจารย์ขาวยังชำนาญสายเทพด้วย ซึ่งท่านก็เมตตาจารยันต์พญาวาสุกรีนาคราชให้ผมด้วย แต่ท่านห้ามลงภาพในเว็บหรือให้ใครชม

ท่านอาจารย์ขาวได้ให้ความรู้ว่า...

จริงๆ พระสดุ้งกลับ ก็มาจากปางมารวิชัย คือเป็นการเชิญอำนาจพระพุทธเจ้าชนะมารนั่นเอง

ต้องเข้าใจพระปางมารวิชัยก่อน คือ...พระพุทธรูปแต่ละปางนั้นมาจากเหตุการณ์จริงๆ สมัยพุทธกาล และแต่ละปาง เรารู้กันว่า รูปพระพุทธเจ้าย่อมศักดิ์สิทธิ์โดยปกติแม้ไม่ต้องมีการเบิกเนตร ปลุกเสกใด ๆ อยู่แล้ว จริงๆ ต้องใช้คำว่าบรรจุคุณ หรือน้อมเชิญพุทธบารมีนั่นเอง

แต่ละปาง หากว่ากันโดยหลัก จะมีอานุภาพแตกต่างกันบ้างในความพิเศษ เพราะเป็นรูปจำลองที่เป็นเหตุการณ์จริงๆ ของพระพุทธองค์ ดังเช่น พระปางห้ามสมุทร ก็จะนิยมมาสร้างพระพิชัยสงคราม โดยถือเคล็ดว่า ห้ามสมุทัย (เหตุแห่งทุกข์)

ในเหตุการณ์จริงๆ ครั้งเผชิญพญามาร พระพุทธเจ้าท่านใช้พระหัตถ์แตะผืนดินด้วย เพื่อขอเชิญพระแม่ธรณีเป็นพยานในการสร้างบารมีของท่าน แต่ทีนี้ ในการปั้นพระ ก็ปั้นมาแตะที่พระชานุแทน...

ดั้งนั้นพระแม่ธรณีจึงเป็นสิ่งที่ควรระลึกถึงอย่างยิ่ง..

ส่วนเรื่องการใช้คาถาย้อนกลับบรรจุคุณ ก็เป็นเรื่องความขลังที่ขลังกว่าเดิมนี่เอง เพราะคาถาย้อนกลับจะเน้นด้านการถอดถอนสิ่งไม่ดี...และการป้องกัน..

 

สุุดยอดมวลสารที่ผมยังไม่มี ... ที่ชอบสุดก็ผงหลวงปู่ดู่ ผงหลวงปู่คง อาจารย์ของขุนแผน ผงพรายกุมารฯ ...


ชันโรง ใช้ชันโรงหลวงปู่เอี่ยม ที่พี่เขาให้มาและเคยนำมาบรรจุพระปิดทวารมาแล้ว... อาจารย์ให้เหตุผลว่า ชันโรงตามตำรับการสร้างสำคัญดังนี้

1.ชันโรง เป็นของอยู่ใต้ดิน

2. มีทางเข้าทางเดียว เหมือนโบสถ์มหาอุด

3. เป็นของทนสิทธิ์

สิ่งสำคัญคือ ใช้มวลสารดินศักดิ์สิทธิ์ จากอิฐยอดพระธาตุพันปีที่บดแล้ว และดิน 4 สังเวชนียสถานที่พรรคพวกผมไปแสวงบุญที่อินเดียหลายปีก่อนและได้บูชามาวัดที่พุทธคยา... (ใช้ตอนสร้างล็อคเก็ตหลวงปู่ใหญ่)

 

โครงการนี้จริง ๆ คิดมานานแล้วแต่ปีที่แล้ว หลังจากผมได้รับความรู้ด้านไสยเวทย์จากท่านอาจารย์ขาว และอึ้ง ทึ่งเสียวกับวิชาตบทองหายกันจะ ๆ แบบไม่ใช่มายากล...

รวมทั้งเคล็ดในสิ่งที่ผมคาดไม่ถึง ที่ทำให้เข้าใจว่า วิชาโบราณนั้นแข็งแกร่งเพราะเหตุนี้นี่เอง จึงคัดถอน ทำลายได้ยาก กว่าจะสอนกันก็เรียกว่ารู้ใจกัน ทำให้ของขลังยุคโบราณและความขลังของระดับปรมาจารย์ถึงขลังเชื่อถือได้ อันทำให้หายสงสัยในตะกรุดมหาอุดพิชัยสงครามที่ผ่านการยิงมาแล้ว...

 

การสร้างพระและปลุกเสกหรือผ่านการบรรจุคุณก็เรียกว่าสร้างมาหลายสิบรุ่นได้ ซึ่งก็จะแตกต่างตามมวลสาร และการอธิฐานจิตของครูบาอาจารย์ แต่สิ่งสำคัญที่ยังไม่เคยสร้างคือ พระสดุ้งกลับ

จากความประทับใจในพระสดุ้งกลับของปรมาจารย์ยุคก่อนนี่เองที่กลับร้ายเป็นดี ซึ่งผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ต่างจากที่เราเคยสร้างอย่างไรในพุทธคุณ ซึ่งที่ผมเห็นก็สั่งมา แล้วนำเข้าพิธีเสกรวม ๆ หรือผ่านพิธีเบิกเนตรพระบรรจุคุณรวม ๆ กับพระอื่นที่เป็นพิมพ์ปกติ หากพิธีดีจริง พลังพุทธคุณก็เข้าสู่ตามแต่ละพิมพ์กันเอง ซึ่งเขาก็ว่า กระแสพระจะจัดสรรกันเอง ซึ่งก็จริง...

แต่หลักวิชาการย้อนกลับต่างๆ ที่ผมได้ยินบางท่านทำ บรรจุด้วยคาถาย้อนกลับ กลับหลังทั้งหมดตามตำนานที่ได้นำมาให้ชมนั่นละครับน่าสนใจยิ่งนัก....

"มวลสารต้องสุดยอด" ครูบาอาจารย์กล่าวไว้ ผมจึงได้เริ่มต้นด้วยการนำมวลสารหัวเชื้อเข้าเสกมาตลอด และที่ดุเดือดสุดก็รุ่นสร้างสมเด็จมหาจักรพรรดิ เสก 16 พิธี รุ่นพระแหวกม่าน 9 พิธีล่าสุด

รวม ๆ ก็ 25 ยกขั้นต่ำ ก็น่าจะพอ แต่สุดท้ายท่านอาจารย์ขาวก็เมตตาให้มวลสารมาเพิ่มนั่นละครับ น่าจะเด็ดพอ...

 

ที่สุดแห่งปี แห่งสายพระผง พระสดุ้งกลับระงับภัย......

....ภัยที่ว่า ก็อย่างที่เห็นและจะมาอีก ภัยจากโรค ภัยจากความลำบาก ภัยจากอุปสรรค ภัยจากความฝืดเคืองและความเศร้าหมองทั้งปวง ระงับไปสิ้น ด้วยเคล็ด กลับร้ายเป็นดี......

ปฐมฤกษ์โดยฆราวาสผู้ทรงจิต ท่านอาจารย์ขาวประมาณหนึ่งเดือน ด้านหลังจารด้วยยันต์กลับ.... เป็นเคล็ดกลับร้ายเป็นดี "ขลังกว่าเดิม...ฯ"

จารที่ด้านล่างทุกองค์... เคล็ดการเสกต่างๆ ผมสอบถามหลายรอบถึงพอได้ใจความสำคัญ เพราะอาจารย์ขาวต้องยอมรับว่า มุกเยอะ 555 ถามไรไม่ค่อยบอก พอถามละเอียดก็จะ "อันนี้บอกไม่ได้ บอกเฉพาะศิษย์ที่ยกครูให้ แต่ผมไม่ได้หมายถึงให้คุณมายกครูกับผมนะ..."

สรุป ท่านไม่ค่อยบอกอะไรมาก ต้องถามหลายรอบ แล้วก็ถามมากก็จะบอกความลับไปเลย ซึ่งผมเองก็หมดไฟที่จะไปยกครูกับใครแล้วครับ สมองไม่ค่อยแจ่มแล้ว55

1. อาจารย์บรรจุคุณตามสูตรหลักของท่าน คือรู้จักสิ่งที่จะทำ รู้จักตัวตน เรียกรูปเรียกนาม .. เรียกอาการ 32 ตั้งธาตุ หนุนธาตุ และลงคาถาต่างๆ แล้วอธิษฐานปิดท้าย ซึ่งท่านกล่าวว่า "ถ้าไม่รู้ 3 สิ่งนี้ถือว่าไม่รู้จักพระเวทย์"
พอผมถาม 3 สิ่งคืออะไรครับ "อันนี้บอกไม่ได้"

สรุป ท่านลงทีละองค์นั่นละครับ เสกทางการ หลายรอบ แล้วไว้หัวนอนบรรจุคุณเต็มที่

2. ลงอำนาจเชิญบารมีพระแม่ธรณี ดังท่านบอกหัวใจพระแม่ธรณี "เมกะมะอุ"

3. เชิญครูบาอาจารย์ท่านมาบรรจุคุณเต็มที่ ซึ่งผมถามท่านใดบ้างก็ไม่ยอมบอกอีก 555



พระอริยเจ้าที่สูงส่ง อธิษฐานจิตซ้ำ...



สุดยอดพระอริยเจ้าทรงอภิญญาในตำนาน ผมประทับใจสุด ๆ ... ขอท่านเน้นมหาอำนาจ เรียกลาภ



ปิดท้ายมหาปราบ ...มหาอำนาจบารมี....

 

รีวิวกระแสพลัง... !!!!!

จะบอกว่าเป็นที่สุดแห่งปีก็ย่อมได้ ... กระแสพลังระเบิดมาเป็นสีแดง สีทอง และปิดท้ายสีขาว 3 ช่วง ....

เป็นพลังที่ไม่เคยพบ และอ่านแปลความหมายยากจนต้องโทรไปถามท่านอาจารย์ขาว แต่ก็สไตล์เดิม ไม่ค่อยบอกอะไรอีก บอกแค่ว่าอยู่ที่การอธิษฐานปิดท้าย ตามหลักที่ว่าหากไม่รู้ 3่ สิ่งนี้คือไม่รู้พระเวทย์ แล้วแต่ว่าจะให้อำนาจด้านใด...

แต่จากการแปลความหมายและถามท่าน ในกระแสที่ออกมาเป็นช่วงๆ สลับไปมา ต่างจากรุ่นอื่นๆ ที่กระแสพลังออกมาต่อเนื่องเหมือนสายน้ำ แต่รุ่นนี้ออกมาเป็นช่วง ๆ ดังว่า เป็นพลังแห่งการสะกด ปรับเปลี่ยนแบบสิ่งไม่ดีพุ่งมาก็จับให้หันกลับไป ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์คือกลับร้ายเป็นดี และพลังช่วงกลางและท้ายที่ว่าสีทองและสีขาวคือพลังที่คุ้นเคยคือมหาลาภและกระแสสีขาวเป็นพลังแห่งเทพ ซึ่งมีพระแม่ธรณีตามที่ท่านได้ลงเชิญอำนาจเอาไว้

พลังแห่งมหาปราบมาตอนปิดท้ายตามที่ได้ขอความเมตตาครูบาอาจารย์

โดยสรุป กระแสพระที่พบมาจะออกมาเป็นคลื่นเหมือนสายน้ำจะมีแตกต่างตรงรัศมีที่หนุนเสริมให้วิจิตรอลังการณ์

แต่รุ่นนี้ออกมาสลับ ๆ หลายช่วงไม่ซ้ำแบบแต่เป็นพลังด้านสะกด ปรับเปลี่ยนออกมาช่วงแรก พลังแนวพระที่สร้างมาออกตอนท้าย...