นับถอยหลัง 66 วัน ที่เราจะต้องลาจากกันไป

นับถอยหลัง 66 วัน ที่เราจะต้องลาจากกันไป<O</O​

<O</O

ย้อนหลังไปเมื่อ เดือน พฤษภาคม 2544 ผมได้เริ่มเข้ามาสัมผัสกับสิ่งลี้ลับ โลกวิญญาณ และการย้อนเรื่องราวของอดีต โดยเริ่ม จาก ซากปรักหักพัง ของกองศิลาแลง ที่จมอยู่ใต้ผืนดิน ในที่สาธารณะบ้านหนองร้านหญ้า ตำบลหัวหนอง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น จนนำมาสู่การทำบุญสืบชะตาบ้านต่อชะตาเมือง ซึ่งเป็นงานทำบุญที่เป็นการร่วมมือร่วมใจกันของคนทั้งอำเภอบ้านไผ่ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2544 โดยที่ยังงงๆ ว่า จากจุดประกายเล็กๆ ในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ได้ถูกพัฒนาเป็นงานระดับอำเภอ ชนิดที่ แม้แต่ป้ายคัทเอาท์ยังเขียนไม่ทัน ได้อย่างไร?

<O</Oเดือน พฤษภาคม 2545 ผ่านมาอีก 1 ปี ที่อำเภอบ้านไผ่ ยังคงมีกำหนดจัดงาน ทำบุญสืบชะตาบ้านต่อชะตาเมือง เป็นปีที่ 2 ต่อจาก เมื่อปีที่แล้ว ที่แตกต่างก็คือ ผมไม่ได้ไปร่วมด้วย เพราะ ได้ไปทำพิธีกรรมแยกต่างหาก ก่อนที่จะถึงกำหนดวันงานบุญที่ทางอำเภอกำหนดขึ้น เนื่องจาก ได้มีผู้แนะให้ได้รู้จัก “อาจารย์ไก่” และแนะนำให้ผม ไปทำพิธี “ล้างอาถรรพ์คำสาป” เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2545 เพื่อที่จะทำลายอาถรรพ์ของคำสาปที่ว่ากันว่า ในอดีตย้อนหลังไปเมื่อ 1,200 กว่าปีที่แล้ว ตรงกับสมัยของกษัตริย์ขอม ผู้มีพระนามว่า “พระเจ้าชัยวรมันที่ 3"
<O</O
หลังจากนั้น อีก 6 เดือนเศษ เรื่องราวที่เกินกว่าที่จะบอกกล่าวให้คนทั้งหลายเชื่อ หรือเห็นคล้อยตามได้ ก็เกิดขึ้นในระบบการรับรู้ของผม ซึ่งแม้กระทั่งผ่านมา 5 ปีแล้ว ก็ยังไม่สามารถที่จะให้มีคนเชื่อในเรื่องที่ผมรับรู้มาได้ถึง 100 คน เพราะเรื่องราวที่ผมรับรู้มา ก็คือเรื่องที่ว่า

<O</O
<O</O
“พระพุทธเจ้าเป็นคนไทย ตรัสรู้ที่ประเทศไทย”
<O</O

ซึ่ง ผลพวงจากการรับรู้ เรื่องดังกล่าว เป็นที่มาของการเชื่อมโยง กับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น อันเนื่องมาจาก “ผลกรรม” ของการ บิดเบือนความจริงของแผ่นดิน ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของการปฏิเสธที่จะดำเนินชีวิตตามวิถีของคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านได้ตรัสรู้ และประกาศคำสอน และได้มีการบันทึกไว้สืบทอดกันมาที่เรียกว่า “พระไตรปิฎก” แต่เมื่อหลังกึ่งพุทธกาลมา แม้แต่ในเมืองไทยที่ถือว่าเป็นเมืองแห่งพระพุทธศาสนา กลับหาได้ยึดมั่นในการที่จะดำเนินชีวิต ให้เป็นไปตามวิถีของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า “พระไตรปิฎก จึง เป็นเสมือน กฎหมายชราภาพ ที่ไม่มีผู้ใดกลัวเกรง หรือบังคับใช้ไม่ได้แล้ว” นี่เอง จึงเป็นหนทางเดินไปสู่ความเสื่อม ซึ่งบาลีเรียกว่า “วิบัติ” แปลกลับมาเป็นภาษาปัจจุบันคือ “ฉิบหาย”

 

ดังนั้น ในช่วงปี 2546 เป็นต้นมา ผมจึงเริ่มพูดถึงภัยพิบัติ ที่จะเกิดขึ้น โดยพยายามถอดรหัสกรรม ในอดีต ไปพร้อมๆ กับความพยายาม ที่นำเสนอเรื่องราวการค้นคว้า เรื่องราวการกำเนิดเกิดขึ้นของ

 

ซึ่ง ผมเองก็ยอมรับมตินี้โดยดี ในช่วงแรกๆ ด้วยการหยุดความพยายามที่จะเผยแพร่เรื่องนี้ หรือแม้แต่หยุดที่จะค้นคว้าเรื่องนี้ ทั้งด้วยความน้อยใจเล็กๆ และความที่อยากจะพิสูจน์ความเชื่อของตัวเองที่ว่า

 

โดย เนื้อหาในจดหมายตอนหนึ่งว่า ตามที่ผมได้มีโอกาสรับทราบข้อมูลจากทางอินเทอร์เนต ซึ่งได้มีการนำเสนอเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่เรียกว่าขั้วแม่เหล็กโลกพลิก (Magnetic Pole Reversal) ซึ่งจากการที่ได้ศึกษาจากเว๊บไซต์ต่างๆ พบว่า เรื่องดังกล่าว มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นได้จริง ทั้งมีสถาบัน หรือองค์กรที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ เช่น องค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐ (นาซา) ออกมายืนยันถึงความเป็นไปได้ ที่จะเกิดปรากฏการณ์ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกตัวที่จะเกิดขึ้นใน ปี ค.ศ.2012 หรือปีพ.ศ.2555 ที่จะถึงอันใกล้นี้

<O</O
ซึ่งหากท่านประธานคณะกรรมาธิการฯ จะได้พิจารณาจาก เอกสารที่กระผมส่งมาด้วยนี้ ซึ่งเป็นแต่เพียงข้อมูลเพียงส่วนน้อย ที่กระผมจะสามารถแปลจากภาษาต่างประเทศ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก และไม่สามารถนำมาเสนอได้ทั้งหมด จะเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความร้ายแรงต่อมวลมนุษยชาติทั้งโลก แต่เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดที่ในประเทศไทยเองกลับไม่มีการกล่าวถึงปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นในแวดวงนักวิชาการ ทั้งที่ผลกระทบข้างเคียงในระหว่างกระบวนการที่จะเกิดการพลิกตัวของขั้วโลก จะส่งผลต่อสภาวะแวดล้อม รวมทั้งวิถีการดำเนินชีวิต ซึ่งอาจจะต้องเผชิญกับอุบัติภัยต่างๆ มากมาย ดังที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นลมพายุรุนแรง ภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วม ดินถล่ม หรือบางพื้นที่เกิดความแห้งแล้ง รวมทั้งแผ่นดินไหว ล้วนแล้วแต่เป็นผลเกิดจากกระบวนการที่ขั้วแม่เหล็กโลกเกิดการเคลื่อนตัว และจะนำไปสู่การพลิกตัวของขั้วแม่เหล็กในที่สุด

<O</O
กระผมจึงใคร่ขอเสนอต่อท่านประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ เพื่อเชิญหน่วยงาน และผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มาให้ข้อมูลในเรื่องนี้ เพื่อที่จะนำไปสู่การศึกษาข้อเท็จจริงและผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมจากปรากฏการณ์ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกตัวดังกล่าว และแจ้งให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบ หากจะนำมาซึ่งการเผชิญกับภัยพิบัติที่อาจมีขึ้นตามมา

<O</Oและท่านประธานฯ นพดล ก็ได้เห็นความสำคัญในเรื่องดังกล่าว และได้มีการนำเรื่องเข้าที่ประชุม คณะกรรมาธิการฯ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2548 แต่ ข้าราชการระดับสูงจากกรมกองที่เกี่ยวข้องที่มาชี้แจงในวันนั้น ไม่ได้ให้ความสำคัญ โดยเห็นว่า เรื่องที่ผมนำเสนอนั้น เป็นไปไม่ได้ จึงไม่มีการตั้งคณะทำงาน ซึ่งผมได้แต่กล่าวฝากไว้ต่อที่ประชุมว่า ปี 2555 นั้น เหลือเวลาอีกไม่กี่ปี และผมคงยังไม่ทันได้ตาย และคงจะได้อยู่รอดูว่า เหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆ จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่?

 

ซึ่ง เมื่อผ่านเข้าสู่ ปี 2549 ผมก็ได้มีโอกาส ได้พบ BIBLE CODE ที่มีคำนายที่เกี่ยวกับประเทศไทย แต่หลังจากที่ผมได้ SAVE ไฟล์คำทำนายนั้นไว้แล้ว ก็ปรากฏว่า คำทำนายนั้น ถูกลบออกจาก เว๊บไซต์ดังกล่าว ซึ่ง ผมได้นำคำทำนายนั้น มาประกอบการเขียน e-mail ส่งเตือนไปยังเพื่อน ฝูง คนรู้จัก รวมทั้งตั้งกระทู้ในเว๊บไซต์ต่างๆ จนนำมาสู่การ FW mail ไปทั่ว ถึงขนาดว่า คุณ"28 August 2006" ปรากฎการณ์ "ขั้วแม่เหล็กโลกพลิก" เชื่อหรือไม่??? จากคุณ : ศรีวรุณะอิสโร
โหรโสรัจจะ พยากรณ์ดวงเมืองว่า
สิงหาคม หุ้นตกอย่างรุนแรง จะเกิดดีเปรสชั่นผ่านตอนเหนือของประเทศ น้ำป่าเริ่มไหลบ่าจากทางเหนือและอีสานลงมาทางใต้ ต่อเลยมาถึงกรุงเทพฯ เขื่อนทั้งเล็กและใหญ่จะพังทลาย เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัด พืชพันธุ์ธัญญาหารเสียหายยิ่งกว่าครั้งใด
กรุงเทพฯ ต้องจมอยู่ใต้บาดาลเป็นเวลายาวนาน<O</O
ปลายเดือน จะมีเรือชนกันเสียหายมากที่อ่าวไทย เรือบรรทุกน้ำมันเสียหายที่สุด น้ำทะเลจะเต็มไปด้วยคราบน้ำมันลอยเป็นแพทั่วไป<O</O
ปลายเดือน สนามบินแห่งใหม่จะถูกก่อวินาศกรรม
ไม่เท่านั้น แม้แต่ใน BIBLE CODE ก็ถูกถอดรหัสออกมา ซึ่งเกี่ยวกับประเทศไทยว่า "จะถูกทำลายล้างในวันที่ 28 August 2006" ดังในภาพประกอบข้างล่างนี้<O</O
...................<O</O
หลายท่านอาจจะดูเป็นเรื่องเหลวไหล แต่..คุณรู้มั้ยว่า<O</O
"ทำไมพม่าจึงย้ายเมืองหลวงจากย่างกุ้งไปเมืองเปียงมะนา?"<O</O
ถ้าคุณรู้..คุณก็จะตอบได้ว่า<O</O
"ทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ และเครือญาติจึงรีบเร่งขายหุ้นชินคอร์ป ทั้งที่เป็นเรื่อง Sensitive ทางการเมือง?"<O</O
ที่รีบขายก็เพราะ โหรพม่าตาบอดที่ท่านและคุณหญิงเชื่อเข้ากระดูกดำ ก็ทำนายได้เหมือนโหรโสรัจจะว่า "น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ" และพื้นที่ 13 จังหวัด โดยรอบอ่าวไทย<O</O
แล้วทำไมพวกท่านจึงคิดเอาตัวรอดแต่พอตัว โดยไม่บอกความจริงกับประชาชน? เรื่องนี้ไม่ใช่เพียงแค่คำทำนายของโหรเท่านั้น...<O</O
แต่เป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ และหลายประเทศให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก โดยเฉพาะองค์การอวกาศ NASA และ ESA หรือสถาบัน <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-comเปลว สีเงิน</st1ersonName> แห่ง หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ได้เขียนถึง FW mail ดังกล่าว เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2549 ภายใต้ชื่อตอนว่า ถอดรหัส

 

โดย คุณเปลว สีเงิน เขียนทิ้งท้ายว่า

ครับ..เป็นไงครับ ผมว่าสนุกดีออก ผมไม่มีความรู้ที่จะปฏิเสธ และก็ไม่มีความเข้าใจที่จะยอมรับ จึงอ่านแบบ "รู้รอบขอบจักรวาล ดีกว่าจมบาดาลอยู่คนเดียว" ไม่ต้องไปตื่นตระหนก ไม่ต้องไปเชื่อ หรือไม่ต้องเชื่อ ปกติใช้ชีวิตแบบไหน อย่างไร ก็ให้เป็นแบบนั้น อย่างนั้นไปเถอะ โหรโสรัจจะ นั้น ผมชอบอ่านที่ท่านทำนาย เพราะซาดิสม์ดี แต่ละปี แต่ละเดือนที่ทำนาย ถ้าเป็นจริงตามนั้น ป่านนี้ไม่มีโลกใบนี้ และทั้งไม่มีประเทศไทยเหลือให้โหรมานั่งทำนายอยู่แล้วครับที่เชื่อมโยงไปถึงนายกฯ ทักษิณกับการขายหุ้น และไปโทษท่านว่า "รู้แล้วไม่บอก" นั้น ผมขอเถียงแทนท่านนายกฯ หน่อยเถอะว่า มันพูดจากันเกินเลย และไร้รากฐานอันควรแก่การเชื่อถือมากไปหน่อย! ส่วนเรื่องน้ำท่วมอันสืบเนื่องมาจากภาวะธรรมชาติที่ว่าด้วย "ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกตัว" นั้น ผมว่าน่ารับฟัง และน่าใคร่ครวญ
<O</O
เรื่องภัยจากน้ำนี้ ดูเหมือนผมก็เคยนำมาคุย มาเตือนกันตรงนี้ไปบ้างแล้ว ถ้าตัดเรื่องนายกฯ ออกไป และตัดฝอยคำทำนายชนิดบู๊สะบั้นหั่นแหลกของโหรโสรัจจะออกไปบ้าง "กรุงเทพฯ จมบาดาล" ไม่ใช่คำทำนายที่เกินเลย!
<O</O

 

หลังจาก หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ลงบทความนี้ และในโลกไซเบอร์ ก็มีการ FW mail กันไปเรื่อย เหมือนจดหมายลูกโซ่ จนกระทั่งอีก 10 วัน ก่อนถึงวันที่ 28 สิงหาคม 2549 ผมได้ตั้งกระทู้ นับถอยหลัง 10

 

อะไร ทำให้ผมเชื่อมั่นว่า จะเกิดนานาพิบัติภัย ในเร็ววันนี้?

</O
ผมไม่ใช่ผู้มีพลังจิต ไม่มีอภิญญา 6 ไม่มี วิชชา 3 จึงไม่มีความสามารถที่จะหยั่งรู้ อนาคตได้ ดีแต่เป็นนักวิเคราะห์แพะ วิเคราะห์แกะ จับมาชนกันไปชนกันมา แล้วก็เอาข้อมูลจากแหล่งโน้น แหล่งนี้ มายำรวมกัน จนกระทั่งตอนหลังชักขยาด ไม่กล้าฟันธงอะไรอีก แม้กระทั่งล่าสุด เมื่อหมอดูบราซิล ทำนายเหตุการณ์สึนามิ วันที่ 23 ธันวาคม 2550 ก็ไม่กล้าผสมโรงด้วย ได้แต่บอกกับคนที่อยู่ใกล้ๆ ตัว แล้วก็นอนรอลุ้นอยู่ที่บ้านพัก ที่ ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา คอยท่าว่ามันจะเกิดซ้ำอีกจริงๆ หรือเปล่า?

<O</Oแล้วมันก็ผ่าน วันที่ 23 ธันวาคม 2550 เข้าสู่วันที่ 24 ธันวาคม 2550 ไปเสียเฉยๆ แต่ในใจยังคิดอยู่ว่า เอ หรือเขาจะมาวันที่ 26 ธันวาคม 2550 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 3 ปี นะ พอถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2550 ช่วงเวลาบ่าย 3 บ่าย 4 โมง มีฝนตกลงมาแฮะ ทั้งที่เป็นหน้า High Season และฝนก็ไม่ตกมาเป็นเดือนแล้ว เอ ชักเหมือนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เพราะตอนนั้น ผมมีกำหนดลงไปที่ภูเก็ต เย็นวันที่ 26 ธันวาคม 2547 พอดี แต่ไปไม่ได้ เพราะเที่ยวบินถูกยกเลิก จึงได้แต่ดูทีวีอยู่ที่กรุงเทพฯ ยังเห็นว่า ตอนที่หน่วยกู้ภัยไปช่วยเหลือผู้รอดชีวิต ทำด้วยความลำบากเพราะฝนตกหนักด้วย แต่แล้วลางสังหรณ์ก็ผิดพลาด เพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้น

<O</Oก็ผมบอกแล้วว่า ประเทศไทยมีข้อเสียก็คือ อย่าให้รู้อะไรล่วงหน้า เพราะถ้ารู้ก่อนมักจะไม่เกิด และที่สำคัญ คือรู้ก่อนแล้วมีคนเชื่อเยอะๆ มักจะไม่เกิด เพราะแต่ละคนก็จะขวานขวาย ที่จะหาทางขจัดปัดเป่า ด้วยวิธีการต่างๆ นานา

<O</Oซึ่งครั้งนี้ ผมก็อยากจะไม่ให้มีคนเชื่อผมเลยสักคนเดียว แล้วก็สบประมาท ทั้งช่วยกันส่ง mail มาต่อว่า ต่อขาน หรือจะด่าผมให้มากๆ จนไม่มีเวลาไปบนบานให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือ เพื่อที่ผมจะได้พิสูจน์ความเชื่อของผมทีสิว่า ถ้ารู้ล่วงหน้าแล้ว ไม่มีใครแก้ไขอะไร? มันจะเกิดขึ้นหรือไม่? โดยเฉพาะหากเป็น

 

ซึ่ง ในการฟันธง ครั้งนี้ ก็ด้วยอาศัย ซึ่ง คำนายที่มีมาแต่โบราณกาล โดยในใบลานระบุว่า เป็นคำทำนายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่แม้ว่า ไม่ได้ระบุศักราชไว้โดยแน่ชัด แต่จากการประมวลเรื่องราวที่ผ่านมา ที่ได้เข้าสัมผัสเรื่องลี้ลับ โลกวิญญาณ การย้อนเข้าไปสู่อดีต และความพยายามที่จะถอดรหัส เพื่อทำนายเหตุที่จะเกิดในอนาคต จึงขอฟันธงว่า ปีกุนต่อปีชวด ในพุทธศักราช 2551 นี้ คือช่วงเวลาที่จะเกิดมหันตภัยพิบัติ อย่างแน่นอน ฟันธง โดยมีข้อมูลสนับสนุนอ้างอิง ดังนี้<O</O
<O</O

พุทธทำนายแห่งอีสานประเทศ...ประกอบหมายเหตุ

<O</Oพุทธทำนายนี้ มีอยู่ในใบลาน
ตั้งแต่บูฮาน มีมาก่อนเก่า
ในศาสนาของพระพุทธเจ้า ถือเป็นเค้าแต่ก่อนมา
*ข้าสินำมูลเค้า ความฝันอันประหลาด
สิเป็นลางเหตุฮ้าย หรือใดเจ้าให้ฮำเพิง

*ในคืนนั้น เป็นคืน สิบห้าค่ำ <O</O
แต่ฟ้าดำเมฆกุ้ม จันโทเศร้า บ่ ผ่องใส
*คือพระทัยของเจ้า ปัสเสน กะเหงาหง่วม
ย่อนว่าความฮักกุ้ม สุมไหม้ดั่งไฟ
*ไฟตัณหาความฮักใคร่ ในผัวเขาเมียท่าน
ไฟนารก กะบ่ปาน มีแต่ควันอูดเอ้า ในใจเจ้าอยู่ บ่ เซา
*จนยามสามล่วงเข้า จึงเนาว์นอนนิททะเน่ง
เสียงระเม็งเสพสร้อง จึงลาห้องเสพ งัน
*พระทรงธรรม์สุบินเบื้อง เผดียงฝันประหลาดต่าง
สิเป็นลางเหตุฮ้าย หรือใดแท้ สิ่งใด
*ในพระทัยองค์เจ้า พระปัสเสน สะดุ้งตื่น<O</O
พระองค์ฮู้เมื่อขึ้น อรุณรุ่ง ฮู่งมา
*มัลลิกาเทวีเหง้า เห็นราชาหน้า บ่ ซื่น
สมบัติมีหมื่นตื้อ สีหน้า ผัดหล่าหมอง แท้น้อ
*พระองค์ทรงสืบสร้าง ครองเมืองตุ้มไพร่
แต่หัวคิดบอดใบ้ ปัญญาตื้นตีบตัน
*พระทรงธรรม์ควรเข้าเฝ้า สัพพัญญู ฮู้แจ้งโลก
สิบรรเทาโศกฮ้อน รีบไปถ่อนอย่าอยู่นาน
*พระภูบาลฟั่งฟ้าว ตกแต่งเดาดา<O</O
มัลลิกาเทวี แม่เมือง เคียงข้าง
*พระก็ ดำเนินเข้า เชตวัน วิหารใหญ่
พระอานนท์ทราบเรื่อง พาไปเฝ้า ศาสดา
*พระราชาทูลไหว้ พระจอมไตรโลกนาถ
กราบพระบาท สามเทื่อ แล้ว หยับไปเฝ้าอยู่ที่ควร
*ส่วนว่าองค์พุทโธเจ้า เนาว์บนพุทธอาสน์
ตรัสโอวาทอิ่นอ้อย แถลงถ้อย ก่อนพระยา
ว่าดูรา เจ้า ราชายศใหญ่ <O</O
ผู้เป็นจอมไพร่ฟ้าสองแคว้นยอดเมือง
พระองค์เคืองขัดข้อง หมองพระทัย จั่งใดแน
วรรณะเขียว พ่องแหล่ สีหน้า บ่ ชื่นบาน แท้น้อ
พระภูบาลเจ้า ปัสถเวน ทูลเหตุ <O</O
แห่งสุบินประประหลาดล้ำ สิบหก ข้อ ต่อไปฯ

<O</O
ข้อ 1 ….
<O</O

ข้อ 11 ฝันไปหน้า เห็นไม้แก่น จันทน์แดง <O</O
ของที่มีราคาแพง ค่าสูงแสนตื้อ
เขาพากัน เอาไป ซื้อ ขายกิน แลกไก่ <O</O
เอาจันท์แดง ใส่กระซ้า น้อยๆ พากันดั้น เที่ยวขาย
อันนี่ ภายหน้าพุ้น เคิ่งศาสนาพุทธ
มนุษย์ มี โลภา มืดมัวเมากุ้ม
ซูมถือศีลสร้าง เจ้าหัว จัว บ่าว <O</O
เห็นผู้ สาวแล้ว กะเอิ้น เสิน เล่น ดั่งสหาย
นอกจากนั้น กะ สิเป็นผู้ ร้าย ขาย ศาสนาพุทธ
เอาพระธรรม ลงมุด จ่าย ยาย ขาย จ้าง
ตั้ง เป็นตึกเป็นห้าง ขายกินเกลี้ยง มินหลิ่น <O</O
ทั้งพระสูตร พระวินัย เขาเอาใส่กระซ้า โซนผ้าเที่ยวขาย
นี่จั่งแม่น ต่อนฮ้าย เขาขาย ศาสนาพุทธ
สัพพัญญู เล็งเห็นหน่าย สะอาง ผางฮ้าย
ในภายหน้า ปีกุนแถมล่วง ม้ม <O</O
จากนั่น แล้ว สิแววขึ้นกว่าหลัง
ตั้งแต่นั้น คน สิค่อย มีสุข <O</O
จั่ง สิ หาย ความทุกข์ หมู่ภัย สิไกลเนื้อ
ไผผู้ ยังเหลือค้าง สิเห็นทางฟ้า ล่วง
คน สิพ้นจาก บ่วงฝูง หมู่มาร บาปฮ้าย เมือฟ้าอยู่ เกษม
เริ่ม แต่เค้า เดือน สี่ ปีกุน <O</O
ไผ มี บุญค่อย สิเห็นหน่อพระธรรม เด้อ ป้า
พากันถือศีล สร้างภาวนา เด้อ แม่
จั่ง สิ เห็น เที่ยงแท้ บ่ มี เว้น ฮ่อม ใด
<O</O

ข้อ 12 ….<O</O
<O</O

ข้อ 16 ....

<O</O

กลอน 16 ข้อ เอามาจากใบ ลาน <O</O
ในวิหาร ของสงฆ์ แต่เดิม ดาเค้า
นักปราชญ์เจ้า เพิ่นได้แต่งมานาน
ในสมัยพุทธกาลแห่งพุทโธ คราวพุ้น
หมุนเวียนมื่อ ปี เดือน แถมถ่าย
สองพัน ห้าร้อย สี่สิบเก้าปีปลาย
ศาสนา มีแต่เงี่ยงที่ลี่ มีแต่คล้อยต่ำลง <O</O
ปลงไว้ นี่โยติกาซ้ำสาก่อน
ยังมีกลอนอีกมากล้น กำลังค้น อ่านเขียน

<O</O
---------------------------

 

หมายเหตุโดยเอกอิสโร ประกอบ การถอดรหัสคำทำนายความฝัน ข้อที่ 11 หากหลังกึ่งพุทธกาลที่จะเกิดภัยพิบัติ เป็นรอบนักษัตรนี้
<O</O
<O</O
ปีกุนแถมล่วงม้ม (end of date) หมายถึง เมื่อผ่านพ้นปี กุน เข้าปีชวดไปแล้ว วันสุดท้ายของปีกุน คือวันแรม 15 ค่ำเดือน 4 ปีกุน ตรงกับวันที่ 5 เมษายน 2551 วันเริ่มต้นของปีชวด คือวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ปีชวด ตรงกับวันที่ 6 เมษายน 2551

<O</Oเริ่มแต่เค้า (start point) เดือนสี่ ปีกุน หมายถึง เริ่มต้นเดือน สี่ ปี กุน หรือ วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 4 ปีกุน ตรงกับวันที่ 6 มีนาคม 2551

<O</Oนั่นหมายถึงว่า จะเกิดภัยพิบัติใหญ่ที่จะชำระล้างโลกอันสกปรกโสมมใบนี้ เพื่อการเริ่มนับถึงแห่งการกลับมาของศีลธรรมอันดี หรือโลกใหม่ (New World) ในระหว่าง ช่วงวันที่ 6 มีนาคม 2551 ถึงวันที่ 5 เมษายน 2551 เป็นระยะเวลาประมาณ 31 วัน และจะมีการเริ่มฟื้นฟูใหม่ (Renaissance) ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2551 เป็นต้นไป.

(บทความนี้ อ้างอิงการนับข้างขึ้น-แรม ที่อาจจะมีข้อผิดพลาด ตามปฏิทิน ที่ทุกคนมีอยู่ วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 4 ปี กุน คือวันที่ 7 มีนาคม 2551 ดังนั้น หากจะเริ่มเกิดภัยพิบัติจริง จะเริ่ม ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2551 จึงขอแจ้งให้ทราบ มา ณ ที่นี้ และขออภัย ในความคลาดเคลื่อนของข้อมูล - 21 ก.พ. 51)<O</O

 

ดังนั้น นับถอยหลัง จากวันที่ 1 มกราคม 2551 นี้ ไปอีก 66 วัน คือวันที่เราจะต้องพลัดพรากจากกันไป นัยหนึ่ง คือ หากเกิดภัยพิบัติใหญ่จริง เราอาจจะต้องตายจากกันไป และคงจะไม่สามารถที่จะมาสื่อสารกันได้อีก ในโลกไซเบอร์นี้ หรืออีกนัยหนึ่ง หากผ่านวันที่ 66 โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังที่ผมฟันธง เมื่อก้าวเข้าวันที่ 67 ก็จะเป็นอันว่า เราก็จะต้องลาจากกันไป เช่นกัน โดยที่ผมจะขอรับผิดชอบ ด้วยการลาจาก โลกแห่งกระทู้ และการส่งข่าวเตือนทาง e-mail ตลอดไป และขอให้ถือว่า 5-6 ปีที่ผ่านมา มีไอ้บ้าตัวหนึ่ง ที่มันชอบจับแพะ ชนแกะ และก่อกวนให้ผู้คนรำคาญ และเสียเวลาต้องมาอ่านกระทู้ไร้สาระสิ้นดี และถือโอกาสนี้ กล่าวลาล่วงหน้าไว้ก่อน 66 วัน...ลาก่อน<O</O

 

ขอบคุณคุณเอกอิสโรครับ
วันเวลาใกล้เคียงกันกับหลายๆ แหล่งนะครับ
สอดรับกันเป็นอย่างดี
แต่ ... อย่าประมาทดีกว่า เพราะมันจะมาเหมือนขโมย ไม่มีใครรู้
มาก่อน? มาหลัง? มาตรง? เรียกว่าต้องมีสติและไม่ลืมตายทุกลมหายใจเข้าออกเลยทีเดียว

ช่วงนี้ เห็นหลายท่านพัฒนาไปไกลก็พลอยโมทนาไปด้วยครับ เตรียมพร้อมรับมือกันอย่างขะมักเขม้นจริงๆ

 

ขอบคุณนะค่ะกับบทความดี ๆ ที่ให้ความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป ส่วนเรื่องที่
เขียนมาจะจริงหรือไม่จริงนั้น เมื่อถึงเวลาย่อมจะพิสูจน์ได้ด้วยตัวของเขาเอง
ส่วนเรื่องภัยพิบัติต่าง ๆ จะเกิดหรือไม่เกิด ก็ขอให้เป็นบุญกรรมวาสนาของ
พวกเขาแล้วกัน โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าทุก ๆ คนในเวปนี้ต้องการเผยแพร่
เพื่อเตือนสติให้ตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท บางครั้งดูเหมือนเป็นเรื่องเหลวไหล
ไร้สาระ เหมือนที่อาจารย์ท่านหนึ่งเคยพูดไว้ว่า พวกเราคือคนบ้าที่มีสติ
บางทีการมุ่งมั่นมากเกินไป แล้วไม่เป็นอย่างที่เราหวัง ก็ท้อใจเหมือนกันนั้น
เข้าใจดีค่ะ แต่ถ้าเราหัดปล่อยวางซะบ้าง ทำหน้าที่ของเราไป ใครจะพูด จะว่า
จะด่า ก็ช่างเขา ถ้าเรารักเพื่อนมนุษย์จริง ๆ เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็
แล้วกัน เมืองไทยคนชั่วก็มี คนดีก็เยอะ ซึ่งคนดี ๆ เหล่านี้ ทุก ๆ คนก็พยายาม
ทำบุญทำกุศล เพื่อยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น อย่างน้อยภัยพิบัติถ้าเกิดขึ้น คนไทย
ก็จะได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด ทุกวันนี้สวดมนต์ก็ขอให้คุณความดีที่ทำอยู่นี้
ทำให้ภัยพิบัติหรือเหตุการณ์ร้ายต่าง ๆ อย่าได้เกิดขึ้น หรือถ้าเกิดก็ขอให้อย่าได้
ร้ายแรงเลย คำทำนายต่าง ๆ ไม่สามารถหวังผลได้ 100% หรอกค่ะ เพราะ
ปัจจัย คือผู้กระทำจะเป็นตัวผันแปรว่าจะ้เกิดหรือไม่เกิด อย่างน้อยสิ่งที่ทุก ๆ คน
ช่วยกันโพส ช่วยกันเขียนเรื่องภัยพิบัติต่าง ๆ นั้น ก็มีคนหนึ่งคนแหละค่ะ ที่หัน
หน้ามาปฏิบัติธรรม หมั่นทำบุญทำกุศล อย่างน้อย ๆ ถ้าตายไป ก็ขอให้ไปสู่
ภพภูมิที่ดีนั้นแหละค่ะ

 

ผมว่าคุณเอกสิโรอย่าไปวิตกกังวลเลยครับใครเขาจะคิดยังไงก็เรื่องของเขา เราทำหน้าที่สื่อสารให้เขาได้รับรู้ข้อมูลแล้วก็แล้วกันครับเกิดหรือไม่เกิดไม่เป็นไรครับ เพราะไม่เกิดช่วงนี้ก็ไปเกิดช่วงหน้า ยังไงๆก็ต้องเกิดครับเพียงแต่จะเร็วหรือช้าเท่านั้นเอง ทำบุญทำกุศลทำสมาธิปฏิบัติธรรมดีที่สุดครับตายไปก็ยังพอหวังได้บ้างว่าไม่ต้องลงนรกภูมิครับ ผมก็ไม่คิดว่าตัวผมจะรอดตายครับ

 

ตามความฝันของดิฉัน แปลความหมายได้เป็นเลข ๔๔๕๑ ค่ะ ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าหมายความว่าอะไร คือฝันว่า ไปที่โต๊ะกินข้าว ๔เหลี่ยม มีเก้าอี้ข้างละ ๒ ก็เป็น๔ แล้วเห็นธนบัตร ๕ บาทโบราณ และธนบัตร ๑ บาทโบราณ เห็นสีชัดเจน พับวางอยู่บนโต๊ะค่ะ

 

อีก 66 วันก็ไม่มีภัยพิบัติล้างโลกอะไรหรอก

 

งั้นทำไม..ชาวพลังจิตไม่ช่วยกันอธิษฐานให้มันเกิดตามที่ได้ทำนายไว้ละครับ
เพราะเป็นช่วงที่เราประมาทน้อยอยู่..ถ้ามันไม่เกิดตามที่ทำนายบ่อยๆคนก็จะ
ประมาทขึ้นเพราะไม่เชื่อเเละมันจะเกิดโดยไม่ทันตั้งตัวจะลำบากมากๆ
คิดยังไงอย่าว่ากันนะ

 

ถึงเหตุการณ์จะไม่เกิด ก้อ อย่าให้ถึงกลับต้อง ลาจากเลย ผมยังชอบข้อเขียนของคุณเอกอิสโร หลายๆ เรื่อง ก็ช่วยเตือนใจไม่ให้ประมาท ขอให้กำลังใจครับ

 

ก็ผมบอกแล้วว่า ประเทศไทยมีข้อเสียก็คือ อย่าให้รู้อะไรล่วงหน้า เพราะถ้ารู้ก่อนมักจะไม่เกิด และที่สำคัญ คือรู้ก่อนแล้วมีคนเชื่อเยอะๆ มักจะไม่เกิด เพราะแต่ละคนก็จะขวานขวาย ที่จะหาทางขจัดปัดเป่า ด้วยวิธีการต่างๆ นานา

(good) นี่คือจุดสำคัญ

การที่พวกเรารู้มาก ๆขึ้น

แสดงว่า จะไม่เกิดแล้วครับ