ทำไมจิตมันไม่เป็นสมาธิซักที

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย แค่ร่างกาย, 11 มีนาคม 2010.

  1. แค่ร่างกาย

    แค่ร่างกาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +71
    ทำมาหลายครั้งแล้ว เหมือนเดิมทุกครั้ง

    พอมันกำลังเริ่มจะสงบนิดนึง เหมือนหัวใจมันเต้นแรง เต้นเร็ว หายใจไม่ปกติ แต่สุดท้ายมันก้ไม่เป็นสมาธิ
    ไม่รู้จะทำไง ไม่มีครูบาอาจารย์

    เป็นเพราะว่าไปจ้องมมันเกินไปรึปล่าว
     
  2. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เขาเรียกหลายอย่างนะ จ้อง ก็ใช่ เพ่งก็ใช่

    แต่ให้ปราณีต ละเอียด เห็นจะพูดว่า ถลำตามไปรู้

    คือ เวลาภาวนา ใจที่เคยสดับธรรมมามาก ปัญญามันจะมาขวางกั้น

    มันจะนำหน้าการภาวนาหนึ่งก้าว ทำให้เกิดการ ค้นคว้า การควาน
    หา การกระโจนตามไปเห็นสิ่งที่เอะใจ จะเห็นว่า มันเกิดจากการนึก
    เอะใจสงสัยว่าเห็นนี้ถึงจะถูก เห็นนั่นถึงจะถูก มันก็เลยคว้ามา แล้วก็
    ตามไปดู เผื่อว่าจะเห็นมันดับ

    พยายามดูห่างๆ ดูให้อยู่ที่ฐานของจิต คือ แค่รู้ ไม่ใช่ จะไปรู้ว่ามัน
    คืออะไร มันจะดับไหม มันจะนิ่งไหม

    พอวางอารมณ์แค่ระลึกรู้ ดูห่างๆ จิตจะถอยออกมา ไม่กระโจนเข้า
    ไป ไม่หยิบขึ้นมาแล้วจ้องดู มันก็จะผ่านไป ผ่านมา ให้เราเห็น โดย
    แรกๆ เราจะเอียงตามมันไปด้วย บางคนตัวเอียงไปเลย บางคนวูบ
    ไปกับมัน นี่แปลว่า เราเพ่งเกินไป จับมันแน่นไป

    เรียกตามปริยัติคือ ยังมีอุปทานขันธ์ ( แต่อย่าพึ่งเข้าใจว่าเห็น
    อุปทานขันธ์หละ ยังก่อน )

    อย่าลืมไปถาม ธรรมาบรรณารักษ์ชื่อ วิษณุ นะ เขาจะหาธรรมะของ
    หลวงพ่อพุธให้ใกล้เคียงกับปัญหาได้ ....เอ่อ ยังไงก็ลองพิสูจน์นะ
    อย่าเชื่อผมเสียทีเดียว
     
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    ฐานของจิตเคลื่อนนะง่ายๆ.....พยายามอย่าสนใจอะไรนอกจากกรรมฐานที่กำหนดนะ......

    เมื่อสถาวะที่หัวใจเต้นอย่าได้กลัว....เพราะไม่ตายหลอก......

    สบายๆ...นะ...หายใจลึกๆให้ทั่วท้อง..ผ่อนคลายทั้งกายและใจ....ไม่นานก็หายไปเอง....

    จิตก็จะรวมตัวดีมากขึ้น.....ตั้งมั่นมากขึ้น...

    ครูบาจารย์มีมากครับ...ลองหาพระธรรมเทศนามาฟังก่อน....ข้องใจอะไรก็ถามได้.....หรือถ้าอยากไปหาครูบาอาจารย์.....ตอนนี้ก็ยังมีมากท่านอยู่ครับ..

    โมทนาสาธุบุญ.....ตั้งใจปฏิบัติ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2010
  4. chura

    chura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,971
    ใช้การทำสมถะในรูปแบบไหนล๊ะครับ ถ้าให้เดาคงจะดูลมหายใจใช่มั๊ยครับ เพราะตาม

    ดูลมนานๆลมมันจะหดสั้นๆ เหมือนไม่ได้หายใจ ดูนานๆกลายเป็นอึดอัดคล้ายมันบีบหัวใจ

    ลมหายใจจะถี่ๆ..แนะนำว่าลองเปลี่ยนมาเป็น ภาวนาในใจโดยไม่ต้องตามเพ่งลมหายใจ

    เปลี่ยนเป็นภาวนา พุทโธๆๆๆๆ หรือ สัมมาอรัหังๆๆๆๆ ก็ได้ในใจเพียงอย่างเดียวโดยไม่

    ต้องไปดูลมหายใจน๊ะครับ ทำใจให้สบายๆผ่อนคลายแล้วภาวนาไปครับ การภาวนาใช้

    ควบคู่กับการดูจิตได้ด้วย เมื่อภาวนาพุทโธๆๆ จะสังเกตุได้ว่าจิตไหลไปคิด ให้รู้ให้ทัน

    จิตที่ไหลไปคิดแล้วให้กลับมาภาวนาพุทโธๆๆๆ ต่อไปเรื่อยๆครับ ลองดูน๊ะครับเผื่อจะ

    ถูกจริต...ค่อยไปหาแนวทางดูจิตพัฒนาต่อยอดต่อไป
     
  5. แค่ร่างกาย

    แค่ร่างกาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +71
    ถูกครับ ผมแค่ดูลม ไม่กำหนดบทบริกรรม เดี๋ยวลองพุทโธมั่งดีกว่า

    ขอบคุณทุกท่านครับ
     
  6. แค่ร่างกาย

    แค่ร่างกาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +71
    ใช่ ๆ ผมแค่ดูลม อาการเป็นอย่างท่านเดาเลย เพราะไม่ได้กำหนดบทบริกรรม เดี๋ยวลองพุทโธมั่งดีกว่า

    ขอบคุณทุกท่านครับ
     
  7. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,608
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,019
    อย่าไปสนใจว่า จิตเราจะนิ่งหรือไม่ครับ ถ้าไม่นิ่งก็ไม่ต้องไปสน จับอยู่ที่คําบริกรรมของเราเเละลมหายใจพอครับ ยิ่งไปสน มันจะยิ่งดื้อไม่นิ่งครับ มาอ่านอันนี้เเล้วกันครับ จะได้กระจ่างครับ อนุโมทนาครับ

    การรักษาจิตคล้ายดูแลควาย..พระอาจารย์ มิตซูโอะ คเวสโก<!-- google_ad_section_end -->

    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start --> <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "pub-2576485761337625"; /* 250x250, created 31/01/09 */ google_ad_slot = "7252767143"; google_ad_width = 250; google_ad_height = 250; //--> </script> <script type="text/javascript" src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </script><script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></script><script src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></script><script>google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</script><ins style="display: inline-table; border: medium none; height: 250px; margin: 0pt; padding: 0pt; position: relative; visibility: visible; width: 250px;"><ins style="display: block; border: medium none; height: 250px; margin: 0pt; padding: 0pt; position: relative; visibility: visible; width: 250px;"><iframe allowtransparency="true" hspace="0" id="google_ads_frame1" marginheight="0" marginwidth="0" name="google_ads_frame" src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-2576485761337625&output=html&h=250&slotname=7252767143&w=250&lmt=1268362736&flash=9.0.124&url=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff4%2F%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A9%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B9%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A2-%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%258B%25E0%25B8%25B9%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B0-%25E0%25B8%2584%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AA%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%2581-213388.html&dt=1268362747487&correlator=1268362747501&frm=0&ga_vid=1543894967.1264735631&ga_sid=1268351905&ga_hid=1048707583&ga_fc=1&ga_wpids=UA-7034934-1&u_tz=-480&u_his=5&u_java=0&u_h=450&u_w=600&u_ah=428&u_aw=600&u_cd=24&u_nplug=10&u_nmime=25&biw=587&bih=314&eid=36813006&ref=http%3A%2F%2Fwww.google.com%2Furl%3Fsa%3Dt%26source%3Dweb%26ct%3Dres%26cd%3D1%26ved%3D0CAYQFjAA%26url%3Dhttp%253A%252F%252Fpalungjit.org%252Ff4%252F%2525E0%2525B8%252581%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B8%2525B1%2525E0%2525B8%252581%2525E0%2525B8%2525A9%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%252588%2525E0%2525B8%2525B4%2525E0%2525B8%252595%2525E0%2525B8%252584%2525E0%2525B8%2525A5%2525E0%2525B9%252589%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%2525A2%2525E0%2525B8%252594%2525E0%2525B8%2525B9%2525E0%2525B9%252581%2525E0%2525B8%2525A5%2525E0%2525B8%252584%2525E0%2525B8%2525A7%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%2525A2-%2525E0%2525B8%25259E%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B8%2525B0%2525E0%2525B8%2525AD%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%252588%2525E0%252&dtd=287&xpc=tN8uKeAFVz&p=http%3A//palungjit.org" style="left: 0pt; position: absolute; top: 0pt;" vspace="0" width="250" frameborder="0" height="250" scrolling="no"></iframe></ins></ins>
    "คนเลี้ยงควาย" (การรักษาจิตคล้ายดูแลควาย)
    โดย "พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก" วัดป่าสุนันทวราราม

    [​IMG]


    เวลาเลี้ยงควาย
    เราปล่อยควายให้เดินไปตามถนน
    เจ้าของก็เดินตามหลังควาย สบาย ๆ?
    สองข้างทางเป็นไร่นา
    บางครั้งควายเดินออกนอกถนน
    ไปกินข้าวในนาของเพื่อนบ้าน
    เจ้าของก็ต้องตีบ้าง กระตุกเชือกบ้าง
    ให้ควายกลับขึ้นมาบนถนนใหม่
    เมื่อควายเรียบร้อย
    เดินบนถนนก็เดินตามหลังควายสบาย ๆ
    เมื่อควายเข้าไปในนากินต้นข้าว
    รีบดึงควายให้กลับออกมาบนถนน
    ทำอยู่อย่างนั้นเรื่อย ๆ ไป
    เจ้าของควาย คือ สติ
    ควาย คือ จิต
    ถนน คือ ลมหายใจ
    ถนนยาว ๆ คือ ลมหายใจยาว ๆ
    ต้นข้าว คือ นิวรณ์ 5
    เอาสติผูกจิตไว้กับลมหายใจ
    พยายามกำหนดรู้ลมหายใจออก ลมหายใจเข้า
    ติดต่อกันสม่ำเสมอ
    เหมือนเอาสติผูกจิตไว้กับลมหายใจ
    ความรู้สึกอยู่ที่ไหน จิตก็อยู่ที่นั่น
    เมื่อสติรู้ลมหายใจออก ลมหายใจเข้า
    จิตก็อยู่ที่นั่น ขาดสติเมื่อไร
    จิตก็คิดไปต่าง ๆ นานา
    ตามกิเลส ตัณหา ตามนิวรณ์?ก็รีบต่อสติ
    กำหนดรู้ลมหายใจออก ลมหายใจเข้า
    อานาปานสติ ขั้นที่ 1-2
    เมื่อจิตคิดออกไป
    รีบเรียกมาอยู่ที่ลมหายใจออกยาว
    ลมหายใจเข้ายาว
    หายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกยาว ๆ สบาย ๆ
    การเจริญอานาปานสติเหมือนกับคนเลี้ยงควาย
    คอยควบคุมควายให้เดินบนถนน
    หายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกยาว ๆ สบาย ๆมีสติรู้อยู่กับลมหายใจ
    ให้ติดต่อกันตลอดสาย
    ----------
    ขอบคุณที่มา:การรักษาจิตคล้ายดูแลควาย
     
  8. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ตั้งใจทำจนเครียดมากไป

    ฝึกสมาธิต้องผ่อนคลายสบายๆ

    ปลดเปลื้องเครื่องผูกทั้งปวงแล้ว

    ธรรมที่แท้จริงจึงไม่ต้องเห็นอะไร เพราะธรรมญาณไม่มีรูปลักษณ์ให้เห็นได้เลย
     
  9. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    ถ้าพวกฝึกสะกดจิตเค้าจะแก้ด้วยการอัดปราณเข้าท้องน้อยก่อนฝึก
    วิธีฝึกก็นอนราบ
    1จังหวะที่ทำท่าสะพานโค้งหายใจเราลึกสุดยกตัวขึ้น
    2วางตัวลงหายใจออก

    เหมือนจังหวะเปลี่ยนเกียร์หน่ะ พอเราเหยียบคันเร่งจนรอบเครื่องสูง
    เราไม่เปลี่ยนเกียร์ มันก็ลากเกียร์ก็ไปความเร็วสูงไม่ได้
    วิธีแก้ก็เปลี่ยนจากรู้ลมเข้าออกเป็นรู้ไม่มีลมเฉยๆ
    เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาก็ได้นี่ครับ ลมหายก็ระลึกลมกลับมา
    กลับมาก็ดูต่อจนแผ่วไปหายไป

    นั่งสมาธิตามรู้ลมเฉยๆ นั่งผ่อนคลายทุกส่วนเด๊วไปของเค้าเอง ไม่ต้องอยาก
    มี2ทางไป ทางแรก อิสราเอน เลบานอน อาหลับ
    ทางที่2 เหลือแต่รู้มีสติรู้ตัวอยู่ ตัวแข็งเหมือนเป็นก้อนดิน
     
  10. Ayukawa

    Ayukawa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +573
    ขออนุโมทนาในกุศลจิดของทุกๆท่านครับ และของเป็นกำลังใจในการปฏิบัติของทุกท่านครับ ขอให้สติจงอยู่กับท่านตลดไป
     
  11. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    โอ้ว
    เหมือนกับพวกสตาร์วอร์ อวยพรกัน
    may the force be with you ขอพลังจงสถิตย์กับคุณ
    เปลี่ยนเป็น
    may the conscious be with you ขอให้มีสติ
     
  12. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    จิตไม่ส่งออกนอกกาย....กำหนดสิ่งใด สิ่งหนึ่ง เป็นอารมณ์ (วิตก) ระลึกรู้ ต่อสิ่งนั้น อยู่ตลอดเวลา (วิจาร) เมื่อจิตรวมตัวกันดีแล้ว ตั้งมั่นดีแล้ว วางอารมณ์ดีแล้ว ปิติก็เกิด
    จิตระลึกรู้อยู่ใน ปัจจุบันอารมณ์ เมื่อได้ที่แล้ว จิตก็ตั้งมั่น เป็นสมาธิ สู่ เอกัคคตารมณ์

    เทคนิค.. นั่งลืมตา แล้วใช้จิตสำรวจดูว่า ในห้องที่เรานั่งอยู่ มีสิ่งของใด ๆ อยู่ตรงไหนบ้าง ใช้จิตสำรวจโดยไม่ต้องหันไปมอง สัมปชัญญะจะรู้ตามไปด้วย ต่อมาก็กำหนดสติวางลงตรงหน้า หรือจุดที่ลมกระทบใต้จมูก(รู้สึก) หรือที่ลิ้นปี่ ยุบ-พอง ตามใจชอบ สักพักหนึ่งตามันก็จะหลับเอง

    กำหนด อารมณ์ให้เป็นปัจจุบัน มีความรู้สึกตัว(สัมปชัญญะ) ให้พร้อมที่จะ รู้ (สติ) ถึงการเคลื่อนไหว ของลมที่ เข้า-ออก , การยุบ-พอง แล้วแต่กรณี

    จิตมีที่ระลึก ที่ยึดเกาะ(หลวงพ่อพุธ..กล่าว) ก็จะ นิ่ง สักระยะหนึ่ง ความสงบก็เข้ามาสู่จิตใจ พร้อมกับความสบายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะทั้งวันไม่เคยอยู่นิ่ง คิดไปในเรื่องต่าง ๆ นาตลอดเวลา ไม่มีเวลาหยุด เมื่อหยุดคิดจึงสงบ และสบาย (ปิติ)

    จากนั้นดึงจิตเข้ามาสู่ภายในกลางกาย , หรือด้านในหลังโพรงจมูก จิตก็จะไม่รับรู้สิ่งภายนอกกาย นิ่งสงบอยู่ภายใน จนกระทั่งไม่รู้สึกถึงลมเข้า-ออก หรือ พอง-ยุบ ทางกายต่อไป ความรู้สึกตอนนี้ไม่มีกายแล้ว เหลือแต่จิต รู้อย่างเดียวเงียบ ๆ และมีแต่ความสว่าง ไม่มืดมิด ถ้าสามารถกำหนดภาพที่เราต้องการได้ก็กำหนดดู จะเห็นภาพนั้นอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง

    แล้วจะทำอย่างไร ต่อก็แล้วแต่วาสนาของท่าน..........ครับ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2010
  13. บรมบรรพต

    บรมบรรพต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +245
    ที่เข้าใจนี่ผิดนะ คือสมาธิมีอยู่แล้วทุกคนแต่ทำไมเข้าฌานลึกๆไม่ได้ไม่เห็นผลสักทีต่างหาก ตั้งจิตไว้ที่อิทธิบาท ๔ วันหนึ่งก็จะเห็นผลเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...