ทอดกฐินสามัคคี สร้างฐานพระเจดีย์สมเด็จองค์ปฐมฯ สูง21 เมตรเเละหลวงปู่เทพโลกอุดร

​

มหาอานิสงส์..ขอเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธา ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี เพื่อสมทบทุนสร้างฐาน”พระเจดีย์พุทธสิกขีทศพล(สมเด็จองค์ปฐม)” สูงจากพื้นดิน 21เมตร และรูปเหมือนองค์”หลวงปู่เทพโลกอุดรสูง”จากพื้นดิน19เมตร ณ.สวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่ บ้านหัวถนนซอย 21 ถนนโพธิ์พระยาสายเก่า ต.สนามชัย อ.เมือง สุพรรณบุรี (ดังแบบ)

​

รายละเอียดการจัดสร้าง
การจัดสร้าง พระเจดีย์สมเด็จองค์ปฐมและหลวงปู่เทพโลกอุดร บนอาคารขนาดใหญ่ เพื่อใช้พื้นที่ด้านล่างของตัวอาคารสำหรับเป็นที่ปฏิบัติธรรมฯ ซึ่งขนาดของตัวอาคารคือ 28X29เมตร ความสูงของพระเจดีย์พุทธสิกขีทศพล(สมเด็จองค์ปฐม) สูงจากพื้นดิน 21เมตร และองค์หลวงปู่เทพโลกอุดรสูงจากพื้นดิน19เมตร โดยมีวัตถุประสงค์การจัดสร้างดังนี้

1.การสร้าง "พระเจดีย์สมเด็จองค์ปฐม" ถวายเป็นพุทธบูชา องค์เจดีย์ดังกล่าวนั้นจะอยู่ด้านบนสุดของตัวอาคารชั้นที่ 2 ซึ่งในองค์เจดีย์นั้นจะประดิษฐานพระประธาน “สมเด็จองค์ปฐม” และเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระบรมธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า พระธาตุพระสิวลี พระธาตุพระสังกัจจาย พระธาตุพระอุปคุต พระธาตุพระอานนท์ พระธาตุพระอัญญาโกญทัญญะ พระอรหันต์ธาตุและ พระธาตุ เกศา อัฐิพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย อาทิ พระธาตุหลวงปู่เทพโลกอุดร เกศาหลวงปู่สรวง ชานหมากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ พระธาตุหลวงปู่ดู่ ไม้กระดานกุฏิหลวงปู่มั่น พระธาตุหลวงตามหาบัวฯลฯ และบรรจุกรุพระเครื่องถวายเป็นพุทธบูชา

2.การสร้างรูปเหมือนองค์หลวงปู่เทพโลกอุดร เป็นที่สักการะบูชาก่อให้เกิดสังฆานุสติ เป็นที่ระลึกถึงพระเถระพระองค์หนี่งนามว่า พระอุตระเถระ (หนึ่งในพระธรรมทูตที่นำพระไตรปฏิฏกเข้ามายังดินแดนสุวรรณภูมิ) ซึ่งพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงท่านก็ยืนยันว่า หลวงปู่นั้นคอยช่วยเหลือ ชี้แนะนักปฏิบัติมาหลายยุคหลายสมัย จนมีเรื่องเล่า แนวคำสอน และอภินิหารมหัศจรรย์ไม่รู้จบ ซึ่งทางคณะศิษย์หลวงปู่เห็นพ้องต้องกันที่จะจัดสร้างไว้ตามที่กล่าวไว้ ด้านบนศรีษะท่านจะบรรจุพระเครื่องเเละพระธาตุพระอุตระเถระ

3. ทั้งองค์พระเจดีย์ทั้งองค์หลวงปู่เทพโลกอุดร ประดิษฐานอยู่บนตัวอาคาร ซึ่งอาคารชั้นล่างนั้น หลวงปู่ มีดำริให้คณะศิษย์ออกแบบเพื่อให้สามารถเป็นอาคารปฏิบัติธรรมได้ สามารถเข้าไปนั่งได้ถึง 300-400คน เป็นการจัดสรรพื้นที่ให้คุ้มค่า

4.การก่อสร้าง. “พระเจดีย์และองค์หลวงปู่เทพโลกอุดร” ดังกล่าว เพื่อเป็นปูชนียสถานสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้มั่นคงถาวรสืบไป และก่อให้เกิดขวัญกำลังใจและนำความเป็นสิริมงคลมาสู่ชุมชนและคนทั่วไป ที่ได้มาสักการบูชาหรือปฏิบัติบูชาที่สวนพุทธรรมหลวงปู่ใหญ่ สุพรรณบุรี

บริเวณที่จะจัดสร้าง: จะสร้างบริเวณลานพิธีเททองหล่อพระ ซึ่งได้ประกอบพิธีวางศิลฤกษ์ไปเเล้วเมื่อวันที่ 30มีนาคม 2557ที่ผ่านมา สามาถชมภาพได้ในโพสต์ที่ 3

กำหนดการ
เวลา9.00น . บวงสรวงบูรพาจารย์หลวงปู่เทพโลกอุดร
เวลา 10.00น. ทอดกฐินสามัคคีเเละถวายผ้าป่ามหาสังฆทาน
เวลา 11.00น. ถวายภัตตาหารเพลเเด่พระสงฆ์​

​

​

ท่านสามารถร่วมบุญเป็นเจ้าภาพได้ตามกำลังศรัทธาเเละสามารถร่วมบุญในส่วนที่ขาดได้ดังนี้​

อานิสงส์เเรง! เชิญร่วมเป็นสะพานบุญ ทอดกฐินสามัคคีสร้างฐานพระเจดีย์สมเด็จองค์ปฐมที่กำลังก่อสร้าง

​

(ทางสวนพุทธธรรมฯ จะส่งซองและพระผงหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์-หลวงปู่เทพโลกอุดรเนื้อผงพุทธคุณรุ่นผสมพระธาตุอัฐิหลวงปู่สอซองละ 1 องค์มอบแด่ผู้ร่วมบุญตามกำลังศรัทธา)
ซอง1ปึกมี 25ซอง หากสนใจสามารถแจ้งที่อยู่และจำนวนซองมาได้ ยินดีจัดส่ง โทร 0868032001 หรือส่งที่อยู่ทาง pm ขออนุโมทนา

..........................................................................................................



หมายเหตุ****
-ท่านสามารถแจ้งความจำนงขอรับเป็นเจ้าภาพเสาแต่ละประเภทที่บอกบุญทั้งต้น หรือร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธา การบอกบุญของสวนพุทธธรรมนั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดเสมอมาว่า บอกบุญจริง สร้างจริงและมีการนำเสนอความคืบหน้าการก่อสร้างมาโดยตลอดทุกโครงการ
-การบอกบุญจะบอกบุญทีละส่วน ในส่วนที่ญาติธรมด้านนอกร่วมบุญเเล้วจะไม่นำมาบอกบุญ

ท่านสามารถร่วมบุญได้ที่

พระอาจารย์ธนพล ธนพโล
สวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่
บ้านหัวถนน ซอย 21 ถนนโพธิ์พระยาสายเก่า
อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
โทร 0868032001


สามารถโอนปัจจัยร่วมทำบุญได้ที่.....


เลขบัญชี 591-249435-3
ธนาคาร ไทยพานิชย์ สาขาสุพรรณบุรี
ชื่อบัญชี พระธนพล ธนพโล
(แจ้งsmsที่ 0868032001 )

................................................................................
-ท่านที่ต้องการร่วมบุญสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ 0868032001 เเละสามารถเดินทางมาชมสถานที่ก่อสร้างจริงได้
-สวนพุทธธรรมฯมีการเททองหล่อพระสร้างพระเเละได้สร้างวิหารทานควบคู่ไปด้วยขอเชิญร่วมบุญกันนะครับ วันหน้าจะมีวัด เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนาเเละเเผ่นดินสืบไป
-หากการก่อสร้างคืบหน้าเช่นไรจะนำภาพมาให้ชมครับ

 

อานิสงส์เเรง! เชิญร่วมเป็นสะพานบุญ ทอดกฐินสามัคคีสร้างฐานพระเจดีย์สมเด็จองค์ปฐมที่กำลังก่อสร้าง (อีก 3 เดือน) ทอดวันที่19 ตุลาคม2557 (ทางสวนพุทธธรรมฯ จะส่งซองและพระผงหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์-หลวงปู่เทพโลกอุดรเนื้อผงพุทธคุณรุ่นผสมพระธาตุอัฐิหลวงปู่สอซองละ 1 องค์มอบแด่ผู้ร่วมบุญตามกำลังศรัทธา)
ซอง1ปึกมี 25ซอง หากสนใจสามารถแจ้งที่อยู่และจำนวนซองมาได้ ยินดีจัดส่ง ขออนุโมทนา

​

 

ประมวลภาพพิธีบวงสรวงวางศิลาฤกษ์-ตอกไม้มงคลสร้างพระเจดีย์สมเด็จองค์ปฐมพุทธสิกขีทศพล-หลวงปู่เทพโลกอุดรองค์ใหญ่ บริเวณที่จะสร้าง เมื่อวันที่ 30มีนาคม 2557ที่ผ่านมา














อานิสงส์การสร้างพระเจดีย์
1. เป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ ไม่ประมาทมัวเมาในชีวิต
2. เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย
3. เมื่อใกล้ดับขันธ์ไม่หลงลืม
4. ย่อมได้เกิดในประเทศที่เหมาะสมสำหรับสร้างบารมี
5. ย่อมไปบังเกิดในสวรรค์เมื่อยังไม่หมดกิเลสในพระพุทธศาสนา
6. ย่อมได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุมรรคผล นิพพานโดยง่าย

อานิสงค์การเป็นเจ้าภาพตอกเสาเข็ม

"บุญเสาเข็มถือว่าเป็นบุญใหญ่มาก เพราะถ้าไม่มีเสาเข็มการก่อสร้างก็จะไม่สามารถสร้างได้ ถึงสร้างได้ก็ไม่เเน่นหนามั่นคง"

"หลักเเห่งชีวิต..เพื่อความมั่นคงถาวรของชีวิต..เเละความมั่นคงของครอบครัว..เเละหน้าที่การงาน...การตอกเสาเข็มที่ได้ตอกเพื่อเป็นฐานเเห่งการรองรับตัวอาคารฐานของพระเจดีย์สมเด็จองค์ปฐมและองค์หลวงปู่เทพโลกอุดรนั้นมีอานิสงค์มากเพราะเป็นวิหารทาน ทั้งเป็นที่ประดิษฐานพระประธานสมเด็จองค์ปฐมและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุฯลฯ รวมถึงเป็นอาคารปฏิบัติธรรมไว้ในพุทธศาสนา พุทธศาสนิกชนได้สักการะบูชา เเละเป็นบ่อเกิดเเห่งบุญกุศลทั้งปวง

"การเป็นเจ้าภาพตอกเสาเข็ม เปรียบเสมือนการสร้าง "ฐานรองรับ" เป็นการเริ่มต้นที่มั่นคง เเน่นหนาถาวร"

"ฐานอาคาร ...อันจะเป็นฐานเเห่งความศรัทธา...(สาธุชนเข้ามาพักพิง กราบไหว้บูชาพระพุทธเจ้า)
ฐานเเห่งชีวิต...(เพราะวิหารทานมีอานิงค์มากเป็นเหตุให้มีปัจจัยในการดำเนินชีวิตอย่างคล่องตัว)
ฐานเเห่งธรรม...เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมสวดมนต์
ฐานเเห่งบุญ...เป็นสถานที่จัดพิธีบุญในงานเทศกาลต่างๆ
ฐานเเห่งความมั่นคง...บ้านจะอยู่ได้ก็เพราะเสา จะมั่นคง ถาวรได้เพราะตอกเสาเข็ม พระศาสนาจะอยู่ได้ก็ต้องอาศัยสาธุชนร่วมกันบทำนุบำรุง จะมั่นคงได้ถาวรเพราะพุทธศาสนิกชนมีความมั่นคงในพระรัตนตรัย"

 

15 พ.ค. 2557 -ความคืบหน้าการก่อสร้าง เป็นวันช่างเริ่มตีผังเพื่อเตรียมตอกเสาเข็มเเล้วครับ กำลังดำเนินการก่อสร้างไปเรื่อยๆ

​

 

​

 

ภาพความคืบหน้าการก่อสร้างในขณะนี้(20 สค 2557)

​

 

​

 

​

 

วันที่23/07/57เวลา17.03น.ได้ร่วมทอดกฐินสามัคคี-สร้างฐานพระเจดีย์สมเด็จองค์ปฐมฯ-สูง21-เมตรเเละหลวงปู่เทพโลกอุดรจำนวน19บาทเสียค่าธรรมเนียม25บาทและขอนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้เร่วมทำบุญในครั้งนี้ทุกๆท่านครับ สาธุๆๆอนุโมทนามิ

 

สาธุ กับ อนุโมทนา ใน ศาสนา พุทธ
ความหมายของคำว่า “สาธุ”
พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต)
เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม ราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร




สาธุ มาจากรากศัพท์ว่า สาธฺ (หรือ สธฺ) ในความหมายว่า สำเร็จ
และประกอบด้วย รู ปัจจัย (สาธฺ + รู = สาธุ)

ส่วนในคัมภีร์อภิธานัปปทีปิกา ได้จำแนกการใช้คำว่า สาธุ ไว้ ๖ นัย กล่าวคือ

(๑) สุนทระ หมายถึง ดีงาม
(๒) ทัฬหิกัมมะ เป็นการย้ำอีกครั้ง เพื่อให้การกระทำนั้นมั่นคงยิ่งขึ้น
(๓) อายาจนะ เป็นคำอ้อนวอนหรือเรียกร้อง เมื่อเริ่มต้นจะพูดอย่างอื่นต่อไป
(๔) สัมปฏิจฉนะ เป็นการรับคำหรือยอมรับคำพูดของผู้อื่น
(๕) สัชชนะ หมายถึง คนดี
(๖) สัมปหังสา เป็นคำแสดงความยินดีหรือพอใจ

ก่อนจะอธิบายธรรม ขออธิบายคำว่า “สาธุ” ให้ฟังสักหน่อย พวกเราได้ยินแต่ว่า สาธุ ๆ แต่ไม่รู้แปลว่าอะไร สาธุในภาษาไทยมีความหมายอย่างน้อย ๕ อย่าง

(๑) สาธุ หมายถึง อนุโมทนา คือแสดงความยินดี ตกลง เห็นด้วย เช่น เวลาเราเห็นด้วยกับใคร ตกลงโอเค เราก็บอกว่า สาธุ เห็นด้วย ๆ สมมุติว่าเราลงสมัครรับเลือกตั้ง เห็นคะแนนเสียง เราก็บอก สาธุ ไม่ต้องปรบมือกราว ๆ เพราะการปรบมือเป็นของฝรั่งเขา ของไทยคือ สาธุ เห็นด้วยเหมาะสมแล้ว หรืออาจารย์รู้ว่าลูกศิษย์กราบสวย อาจารย์ก็บอก สาธุ ดีแล้วอนุโมทนายินดีด้วย

(๒) สาธุ หมายถึง ยังประโยชน์ให้สำเร็จ คือให้สำเร็จประโยชน์ เช่น ได้ยินคำว่า มัตตัญยุตตา สทา สาธุ ความรู้จักประมาณให้สำเร็จประโยชน์เสมอ

(๓) สาธุ หมายถึง ขอให้สมพรปากกับคำอวยพรที่ท่านให้ อย่างเช่น อันนะภาระ ในครั้งสมัยพุทธกาลเป็นคนยากจนเข็ญใจ เมื่อมีโอกาสทำบุญกับพระปัจเจกพุทธเจ้า จึงได้อธิฐานว่า คำว่าจนอย่าได้มีและจงได้รู้ธรรมอย่างท่าน พระปัจเจกพุทธเจ้าได้ให้พรว่า

อิจฉิตัง ปัตถิตัง ตุมหัง ขิปปะเมวะ สะมิชฌะตุ สัพเพ ปูเรนตุ
สังกัปปาจันโท ปัณณะระโส ยะถา มะณิ โชติระโส ยะถา

แปลว่า ขออิฏฐผลที่ท่านปรารถนาแล้วตั้งใจแล้วจงสำเร็จโดยฉับพลัน
ขอความดำริทั้งปวงจงเต็มที่ เหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ เหมือนแก้วมณีอันสว่างไสวควรยินดี ฯ

จึงรับว่า สาธุ ขอให้สมพรปากท่าน

(๔) สาธุ หมายถึง ขอโอกาส อันนี้เป็นสำนวนของพระ อย่างสมมุติว่าจะอาราธนาศีลก็จะขึ้นว่า สาธุ สาธุ มะยัง ภันเต เคยได้ยินบ้างไหม เหมือนกับว่าคนเป็นครูบาอาจารย์จะทำอะไรก็ขอโอกาสพระเถระเสียก่อน เช่น จะเปิดหน้าต่างก็ขอโอกาสท่านอาจารย์ครับผมจะเปิดหน้าต่าง ทำอะไรต้องบอกผู้ใหญ่เสียหน่อย ไม่ใช้ทำพรวด ๆ ไปขาดความเคารพ การทำขอโอกาสอย่างนี้ท่านเรียกว่าสาธุภาษาบาลี ภาษาไทยว่าขอโอกาส

(๕) สาธุ หมายถึง แสดงความต้อนรับ แสดงความยินดีไชโยโห่ร้องกราบไหว้ ยกตัวอย่าง เวลาสมเด็จพระสังฆราชหรือท่านก็ตามเสด็จไปต่างประเทศ เช่น ประเทศเนปาล เขานิยมเวลามาต้อนรับ เขาจะร้องสาธุตลอดทางที่มาต้อนรับ สาธุตัวนี้ก็คือขอยินดีต้อนรับ

ความหมายของคำว่า “อนุโมทนา”
พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต)
เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม ราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
และหนังสือศาสนพิธี เล่ม ๒ ฉบับมาตรฐาน
โดยคณาจารย์แห่งโรงพิมพ์เลี่ยงเชียง

มีคำอยู่คำหนึ่งที่ชาวพุทธพูดกันจนติดปาก คำนั้นก็คือ “อนุโมทนา” ความหมายของอนุโมทนาคืออะไร และเมื่อไหร่ที่ควรใช้คำนี้ คำตอบก็คือ...ในหนังสือ ‘คำวัด’ โดยพระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต) วัดราชโอรสาราม ราชวรวิหาร ได้อธิบายความหมายของคำนี้ไว้ว่า

อนุโมทนา หมายถึง การแสดงความชื่นชมยินดีในบุญหรือความดีที่ผู้อื่นทำ การอนุโมทนานั้นอาจทำได้ด้วยการพูด เขียนหนังสือ หรือแสดงกิริยาก็ได้ เช่น เมื่อได้ยินเสียงย่ำฆ้องกลองที่วัดในตอนเย็น แสดงว่าพระท่านทำวัตรเย็นจบ ก็ยกมือขึ้นประนมไหว้ เปล่งวาจาว่าสาธุ เป็นการอนุโมทนาต่อพระสงฆ์ที่วัด หรือมีใครทำบุญแล้วมาบอกให้ทราบ ทราบแล้วก็ยกมือขึ้นสาธุ เป็นการอนุโมทนาบุญของเขาด้วย

เรียกการพูดแสดงความยินดีในความดีของผู้อื่นว่า “อนุโมทนากถา”

เรียกหนังสือรับรองการบริจาคที่วัดออกให้แก่ผู้บริจาคทรัพย์ทำบุญว่า “อนุโมทนาบัตร หรือใบอนุโมทนา”

เรียกบุญที่เกิดจากการอนุโมทนาตามตัวอย่างข้างต้นว่า “อนุโมทนามัยบุญ”

และการที่ภิกษุกล่าว สัมโมทนียกถา อันแปลว่า ถ้อยคำอันเป็นที่บันเทิงใจ ใช้เรียกการที่ภิกษุพูดแสดงความขอบคุณหรือกล่าวถึงประโยชน์และอานิสงส์ของความดี ของบุญกุศล ที่ทายกทายิกาได้ทำ เช่น ถวายอาหาร สร้างกุฏิ สร้างหอระฆัง เป็นต้น ไว้ในบวรพระพุทธศาสนา บางทีเรียกว่า อนุโมทนากถา

ส่วนในหนังสือศาสนพิธี เล่ม ๒ ฉบับมาตรฐาน โดยคณาจารย์แห่งโรงพิมพ์เลี่ยงเชียง ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า

ธรรมเนียมของพระภิกษุสามเณร เมื่อได้รับถวายปัจจัยสี่ ไม่ว่าจะเป็นภัตตาหาร หรือทานวัตถุใด ๆ ก็ตามจากทายกทายิกา จะต้องทำพิธีอนุโมทนาทานนั้น ไม่ว่าจะได้รับรูปเดียวหรือหลายรูปก็ตาม ต้องอนุโมทนาทุกครั้ง จะละเว้นเสียมิได้ถือว่าผิดพระพุทธานุญาต ต่างแต่ว่าอนุโมทนาต่อหน้าหรือลับหลังเท่านั้น

ธรรมเนียมนี้ปฏิบัติกันมาแต่ครั้งพุทธกาลแล้ว ฉะนั้น การอนุโมทนาทานจึงเป็นประเพณีมานานในหมู่สงฆ์ การประกอบพิธีอนุโมทนาลับหลังทายกทายิกามีวิธีเดียว คือ การบิณฑบาตที่ต้องออกรับในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วไปไม่จำกัด กรณีเช่นนี้ไม่ต้องอนุโมทนาต่อหน้าขณะที่รับบิณฑบาต แต่กลับมาถึงวัดฉันอาหารเรียบร้อยแล้ว จึงอนุโมทนา หรือยกไปอนุโมทนาในช่วงทำวัตรสวดมนต์เช้า-เย็นก็ได้ ส่วนพิธีอย่างอื่นนอกจากนี้ควรจะอนุโมทนาต่อหน้าเสมอไป จึงจะสมควร

พิธีอนุโมทนาแบ่งออกเป็นหัวข้อใหญ่ ๆ ได้ ๒ หัวข้อคือ

๑. สามัญอนุโมทนา คือ การอนุโมทนาที่นิยมใช้ปฏิบัติกันโดยทั่วไป ไม่จำกัดงานหนึ่งงานใด ก็คงใช้คำอนุโมทนาแบบเดียวกัน

๒. วิสามัญอนุโมทนา คือ การอนุโมทนาด้วยบทสวดพิเศษ คือ อนุโมทนาเฉพาะทาน เฉพาะกาล และเฉพาะเรื่อง

สำหรับคำว่า “สาธุ” แปลว่า “ดีแล้ว ชอบแล้ว” ดังนั้น การเปล่งวาจาว่าสาธุ ก็เพื่อแสดงความเห็นชอบด้วยชื่นชม หรือยกย่องสรรเสริญ เพื่ออนุโมทนาในบุญหรือความดีที่ผู้อื่นทำนั่นเอง

ในพระไตรปิฎก ได้พูดเรื่อง ผลบุญของการอนุโมทนา ที่ทำให้ไปเกิดในวิหารวิมานว่า

ท่านพระอนุรุทธเถระได้ถามนางเทพธิดาตนหนึ่งว่า เหตุใดมีวรรณะงามยิ่งนัก มีรัศมีส่องสว่างไสวไปทั่วทุกทิศ สถิตอยู่เหมือนดาวประกายพฤกษ์ มีเสียงอันเป็นทิพย์น่าฟัง รื่นรมย์ใจ มีกลิ่นทิพย์อันหอมหวนยวนใจ เสียงของเครื่องประดับผมก็ดังเสียงไพเราะดุจเสียงดนตรี แม้พวงมาลัยบนศีรษะก็มีกลิ่นหอมชวนให้เบิกบานใจ หอมฟุ้งไปทั่วทุกทิศ ขอท่านจงบอก นี้เป็นผลแห่งกรรมอะไร ?

นางเทพธิดาตอบว่า ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ นางวิสาขามหาอุบาสิกาเป็นสหายของดิฉัน อยู่ในเมืองสาวัตถี ได้สร้างมหาวิหารถวายสงฆ์ ดิฉันเห็นมหาวิหารนั้นแล้วมีจิตเลื่อมใสอนุโมทนา ก็วิมานอันเป็นที่รักนี้อันดิฉันได้แล้วเพราะการอนุโมทนาด้วยจิตบริสุทธิ์แต่อย่างเดียวเท่านั้น วิมานนี้เป็นวิมานอัศจรรย์น่าดูน่าชม โดยรอบสูง ๑๖ โยชน์ เลื่อนลอยไปในอากาศ ได้ตามความปรารถนาของดิฉัน ดิฉันมีปราสาทเป็นที่อยู่อาศัย อันบุญกรรมจัดแจงเนรมิตให้เป็นส่วน ๆ งามรุ่งโรจน์ตลอดร้อยโยชน์โดยรอบทิศ...วิมานอันมีรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศ น่าอัศจรรย์ น่าดูน่าชมเช่นนี้ เกิดแต่ดิฉันเพราะกุศลกรรมทั้งหลาย ควรทำบุญโดยแท้

สรุปแล้วการอนุโมทนาเป็นสิ่งดี แต่สิ่งที่ดีกว่าก็คือการลงมือทำความดีสร้างบุญกุศลนั้น ๆ ด้วยตนเอง

 

ความคืบหน้าการก่อสร้างฐานพระเจดีย์สมเด็จองค์ปฐม

​

 

อานิสงส์การเป็นเจ้าภาพเสาเข็ม เชื่อกันว่า.. ทำให้มีจิตใจมั่นคง เสมือนปักมั่นศรัทธาในแดนพระนิพพาน เปรียบเป็นการตอกเสาเข็มเรือนแก้วของเราที่แดนพระนิพพาน ให้เรารักพระนิพพานอย่างไม่มีเสื่อมคลาย ปักมั่นในคำสั่งสอนของคุณพระพุทธ คุณพระธรรม และคุณพระอริยสงฆ์ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน

 

ร่วมทำบุญกฐินสร้างพระเจดีย์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม และหลวงปู่เทพโลกอุดร 50 บาทค่ะ โอนเข้าบัญชีแล้วค่ะ

 

อนุโมทนาครับ

 

ร่วมบุญกฐิน 211 บาท


วันพุธ ที่ ๖ ส.ค.๕๗ เวลา ๑๘.๒๘ น.

ได้โอนปัจจัยเข้า ธ. ไทยพาณิย์ ๕๙๑-๒๔๙-๔๓๕๓

จำนวน ๒๑๑ บาท