ถ้าคุณจับได้ว่าสามีแชทหรือคบกับหญิงอื่น

ถ้าคุณจับได้ว่าสามีแชทหรือคบกับหญิงอื่น เราควรจะทำอย่างไร คือว่าปกติเราจะเป็นคนไม่ค่อยพูด และจะไม่ชอบดูเรื่องส่วนตัวเขา แต่บังเอิญเห็นเว็ปแชทเว็ปหนึ่งที่สามีไม่ได้ล็อคไว้ เราเลยลองเปิดดู ก็อ่านเจอว่าเขาแชทกันกับหญิงอื่นในทำนองชู้สาว และขออีเมล์กัน กลัวว่ามันจะมีอะไรมากกว่านี้ เราก็ยังไม่พูดอะไรแต่ว่ามันก็ทำให้เราเสียใจ และรู้สึกไม่ไว้ใจเชื่อใจเขาเลย ถ้าชีวิตคู่ใครเคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน เราก็อยากจะได้คำแนะนำหน่อยค่ะ

 

๒๒ เม.ย. ๓๕

ภรรยาแผ่ส่วนกุศลให้สามี


มีข้าราชการซี ๗ คนหนึ่งรับราชการที่จังหวัดลพบุรี แต่ตอนนี้ย้ายไปแล้ว
จะไม่ขอออกชื่อ สามีรับราชการระดับซี ๘

สามีเป็นคนเจ้าชู้ เล่นการพนัน กลับบ้านเที่ยงคืนทุกวัน
ภรรยาก็เสียใจ ร้องไห้มาหาอาตมา
บอกว่า สามีไปชอบเด็กสาวที่ศาลากลาง ชื่อนางสาววาสนา

อาตมาก็บอกว่า เอาละคุณนายไม่เป็นไร จะแก้ที่โยมภรรยา
โยมลาพักร้อนสัก ๗ วันได้ไหม มานั่งกรรมฐาน เขาก็มาที่นี่

พอนั่งกรรมฐานเสร็จ แผ่เมตตาทุกวัน
ให้สามีมีความสุข แผ่เท่านี้เป็นการแก้กรรม

กลับไปบ้านแล้วก็ไปนั่งสวดมนต์ไหว้พระ
สามีมาก็ไม่ว่ากระไร ไม่ชวนทะเลาะอีกต่อไป
หากับข้าวให้เต็มสำรับไว้ เขาจะทานหรือไม่ทานก็แล้วไป
ทำหน้าที่แม่บ้านการเรือนอย่างดียิ่ง และจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก

ขอเจริญพรว่า จะแก้บทใดอย่าพูดเรื่องนั้น
อย่าไปด่าว่าสามีเจ้าชู้ เล่นการพนัน จะไม่มีทางแก้ไขได้
จะเป็นการหยิกเล็บเจ็บเนื้อ จะเหลือวิสัย
อย่าไปจี้แผลนัก เดี๋ยวจะกลายเป็นโรคมะเร็ง และจะแก้ไขปัญหาไม่ได้

ในที่สุดสามีก็กลับใจ เลิกเที่ยว
หันมาดูแลลูกเพิ่มขึ้น มานั่งสวดมนต์กับภรรยา

และนางสาววาสนาที่ศาลากลางก็กลับมาหาคุณนายนี้
บอกว่า “คุณพี่ขา หนูไม่มีอะไรหรอกนะ”

คุณนายก็บอกว่า “ฉันไม่ว่าอะไรเธอหรอก ตามใจเธอ
ฉันแผ่ให้เธอมีความสุขแล้ว” เลยร้ายกลับกลายดี




http://www.jarun.org/v6/th/lrule06p0101.html

 

ถามตรงๆไปเลย เก็บไว้ตัวเองเป็นทุกข์ ส่วนอีกคนสุขสบาย มันไม่แฟร์หรอก

 

ผู้ชายเจ้าชู้ชอบอะไรใหม่ ๆ ตื่นเต้น ๆ

คุณมะลิ๙๙๙๙๙ ต้องหาอ่านเทคนิคเรื่องบนเตียง , เสน่ห์ปลายจวัก

หาข้อผิดพลาดตัวเองว่าว่ามีอะไรที่สามีไม่ชอบ มีอะไรที่ต้องแก้ไข

ที่สำคัญ ปฏิบัติตาม โพสท์ #3 ของคุณ2499 ได้นั้นแหละดีมาก ๆ

 

อันนี้แหละคือทุกข์ รู้แล้วทำอะไรไม่ได้ เลยทุกข์ซ้ำทุกข์

รู้ทุกข์แล้วต้องมองหาเหตุของมัน ว่าจะเริ่มต้นที่ไหน แก้ยังไง และผลจะเป็นยังไง

ในชีวิตคู่เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่เมื่อเกิดกับใครอาจเป็นเรื่องใหญ่ก็ได้

เรื่องธรรมดาก็ได้ มันอยู่ที่เราวางอารมณ์ไว้ตรงไหน ต้องใช้สตินำอารมณ์ เพราะวิธี

แก้ไขในโลกนี้มีมาก อยู่หลายทาง มีผลลัพธ์ต่างกันไป แต่ถ้าใช้สติที่ถูกต้องแล้ว

บางครั้งเราจะเห็นทางแก้อยู่ไม่ไกลจากตัวเราเลย เพราะทุกข์ในชีวิตคู่ มันมีมาเรื่อย

ซ้ำไปซ้ำมา ไม่อยากให้มีก็มี อยากให้มีก็ไม่มี เป็นอนิจจังแท้

__________________
ดูจิต.........ด้วยสติ

 

ใช้วิกฤตเป็นโอกาส ในทางธรรมแล้ว ทุกข์นั้นมีค่ายิ่งกว่าทอง ยิ่งกว่าเพชร(ถ้าไม่เข้าใจสงสัยให้ฟังๆ แล้วปล่อยไปก่อน) บุคคลที่จะพ้นทุกข์ได้ ต้องรู้ซึ้งและเข้าใจในทุกข์(ทรมาน)อย่างชัดเจนทีเดียว หันเข้าหาทางธรรม พึ่งพระรัตนตรัย ให้คิดเสียว่า ตั้งแต่นี้ต่อไปทุกข์หรือสุข(ทุกข์น้อย)อะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นกับเรา ล้วนไม่เที่ยงทั้งหมด (คือมันเอาแน่อะไรไม่ได้ เปลี่ยนได้ เสื่อมได้) หากคิดอย่างนี้ไม่ไหวก็ไม่เป็นไร นั่งไหว้พระ สวดมนต์ไปก่อนก็ได้ ขอให้มีก้าวแรกเถอะ (อริยสัจ4 พระพุทธเจ้าเริ่มด้วย ทุกข์ ไม่มีคำว่าสุขเลย คุณโชคดีแล้ว) ถ้าหากปฏิบัติธรรมไปเรื่อยๆ นานๆ มันจะไม่โทษใคร จะโทษตัวเองอย่างเดียว ไล่ไปไล่มา ก็จะพบว่า ผิดที่เราเกิดเอง เป็นคำตอบสุดท้าย เป็นกำลังใจนะ

 

โมทนากับทุกคำตอบ ของเราชอบคำตอบที่ 3 คะ เราลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญค่ะ พ้นทุกข์ได้เห็นสัจจะธรรมได้ก็เพราะหลวงพ่อ ปัจจุบัน แม่เราและสามีสวดมนต์ทุกวัน มีโอกาสก็ไปปฏิบัติธรรมแล้วค่ะ คิดว่าความทุกข์ทำให้เราหาทางพ้นทุกข์ โดยการปฏิบัติธรรมโดยไม่สนใจปัญหา (สามี) นานๆ วันเข้า เขาก็ดีเอง (7 ปี) เอาใจช่วยค่ะ จขกท.คุ้นๆกับปัญหานี้เพราะชีวิตจริงพบมากที่ สามีเป็นเช่นนี้

 

อันดับแรกต้องตั้งสติค่ะ อย่าฟูมฟาย หาโอกาสคุยกันตรงๆ ด้วยอารมณ์ที่นิ่งๆ เน้นที่นิ่งที่สุด อย่าใช้อารมณ์เด็ดขาด ถ้าเรานิ่งเขาจะเกรงใจค่ะ
อีกวิธีสวดมนต์ในใจด้วยก็ดีค่ะ เอาบทง่ายๆ พุทโธ ธัมโม สังโฆ ก็ได้ค่ะ เป็นเทคนิคง่ายๆ ในการเสริมความมั่นใจ เสริมความนิ่งให้กับตัวเอง เอาใจช่วยนะค่ะ สู้ๆ

 

คิดมากไปหรือเปล่าคะ เขาอาจไม่มีอะไรก็ได้ อาจแค่คุยสนุกๆ ของดิฉันสามีก็เป็น ดิฉันก็ไม่ว่า เขาคุยไปคุยมา เขาก็เบื่อของเขาไปเองค่ะ มีอยู่วันหนึ่ง ขับรถสวนกัน รถสามีแต่มีผู้หญิงนั่งข้างๆมาด้วย มากันสองต่อสอง สามีไม่เห็นดิฉัน เป็นคุณโกรธมั๊ยคะ ก็อยากจะโกรธนะ แต่ขอถามเขาก่อนเพราะสิ่งที่เห็นอาจไม่เป็นอย่างที่คิด สรุปก็คือไม่มีอะไร ลูกน้องมาทางเดียวกัน ขอติดรถมาด้วย

 

เราเคยโดน ^^ แต่มันเป็นธรรมดานิ๊ มันเป็นเรื่องส่วนตัว

แค่เราพยายามซึมเข้าไปในโลกส่วนตัวของเขา ทำให้เขาเห็นเป็นเรื่องธรรมดา

ให้เขารู้ว่าเรารับได้ (อดทนไว้ ยิ้ม^^ ) ไม่ตีโพยตีพายว่ามันร้ายแรง มันเป็นธรรมดา

ใครๆก็ทำกัน แต่ฉันรับได้ เพราะเธอไม่ใช่พระอริย เป็นแค่คนธรรมดา แอบอ่านบ้าง ให้เขา

รู้ว่าเรารับรู้ แต่ไม่ยุ่ง เราก็ทำทุกอย่างปกตินะ แต่ก็ตามประกบแบบเงียบๆ ตลอด

เดี๋ยวนี้ ก็เลยต้องรับรู้ทุกเรื่อง ต่ก็รับรู้ในฐานะเพื่อนคนนึงที่ไม่เข้าไำปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา

แต่ถ้าเรื่องมาถึงเรา ก็น่าจะแหลกราญลงคามือเมี้ยนกัน เจ้าค่ะ ^___^

 

โมทนากับข้อความนี้ค่ะ ช่วยได้จริงๆนะค่ะ จาก

ร้ายกลายเป็นดีได้ ยืนยันค่ะ แบบเรา จากการที่แฟนเราจะต้องถูกไล่ออก กลับ

กลายเป็นโดนย้ายงานใหม่ กลับรุ่งไปเลย ตอนนี้ก็เลยพอสวดมนต์เสร็จแล้วก็

แผ่ให้พ่อ,แม่ สามี ลูกสาว น้องสาว ญาติ ผู้มีพระคุณ ครูบาอาจารย์ เป็นประจำ

ไปเลย

 

ดิฉันก็เป็นค่ะ คำแนะนำของหลายๆคนนำไปปรับใช้แลัพิจารณาดูนะคะ อย่างสามีดิฉันตอนแรกก็ธรรมดา เราทำให้เขารู้ตัวว่าเรารู้ แต่เขาไม่ยอมหยุดอยากทำมากกว่านั้น สุดท้ายเขาจริงจังกันมากมาย เราเองอดและทนไม่ไหว คุยก็แล้ว ขอร้องก็แล้ว สุดท้ายเชิญเขาออกไปจากชีวิต แยกกันอยู่ 2 ปีกว่ายังไม่หย่า เขา+ผญ.กลับไปโกหกทุกๆคนว่าเลิกแล้ว หย่าแล้ว จัดงานแต่งงานใหญ่โต ไม่สนใจลูก เมีย เอาลูกมาเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับใบหย่า ตอนนี้ดิฉันฟ้องหย่า พร้อมได้ลูกมาดูแล และปล่อยเขาไปตามวิถีกรรมของเขา เพราะดิฉันเชื่อว่า ดิฉันใช้กรรมให้พวกเขาทั้ง 2 คนพอแล้วกับน้ำตาทุกๆๆๆหยด และต่อไปพวกเขาต้องใช้กรรมในสิ่งที่พวกเขาได้ทำค่ะ

 

สุดยอด

ขอธรรมะรักษาค่ะ พ้นวิบากกรรมมาได้แล้ว นับว่าหมดกรรม เป็นช่วงของบุญ

แล้วค่ะ แถมยังได้สิ่งที่ดีที่สุดมา (ลูก) อุเบกขา ความอดกลั้นอดทน นี้เป็น

อาวุธของลูกผู้หญิงจริงๆ ค่ะ เราเองเมื่อถึงเวลานั้นจะทำได้เท่าคุณหรือป่าวก็ยัง

ไม่รู้เลย

 

ใช่ครับ แผ่เมตตาให้คนที่เรารักครับ ดีที่สุด.
ผมเลิกกับแฟนมาเกือบปีแล้ว..ก็แผ่เมตตาให้ทุกครั้งที่ทำบุญ
ทุกวันนี้ก็ยังทำ แต่...เค้าก็ยังไม่กลับมา อธิฐานเลิกเหล้าตลอดชีวิตด้วย.
รอต่อไป...

 

อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ครับ
ปกติเราดูหนังต้องดูตั้งแต่ต้นจนจบถึงจะรู้เรื่อง บางทีต้องไปรอดูอีก 2-3 ภาคถึงจะอ๋อ บางครั้งเรามาดูตอนกลางๆเรื่อง ผู้ร้ายอาจจะเป็นพระเอกไปก็ได้ ^^ ใจเย็นๆ และทำตามที่คุณ 2499 ว่าไว้นะครับ ^_^

 

ขอบคุณทุกคำตอบค่ะ เราก็สวดมนต์ทุกวันแต่ไม่ค่อยจะมีสมาธิเท่าที่ควร ไม่มีโอกาสได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดเลย เคยไปปฏิบัติที่วัดอัมพวันนานมาแล้ว แต่เวลาปฏิบัติอยู่บ้านใจเราไม่สงบเลย กับสามีเราก็จะทำตามที่เพื่อนๆแนะนำค่ะ คิดว่าหากไม่ใช่คู่เราสักวันก็ต้องได้แยกกัน

ที่โพสท์กระทู้นี้ขึ้นก็เพราะคิดว่าคงมีหลายคู่ประสพกับปัญหาคล้ายๆกัน กับหลายๆคำตอบจะได้เป็นแนวทางแก่คนที่เจอเหตุการณ์เช่นนี้ได้ค่ะ ขอบคุณทุกคำแนะนำอีกครั้งค่ะ

 

ผมว่าเรื่องแบบนี้ต้องหาโอกาสคุยนะครับ
แต่ไม่แนะนำให้รีบเปิดเผย ว่าทราบเรื่องนี้จากการแอบดูการแชท
ในระบบของเขา ควรหาทางจับผิดโดยใช้หลักฐานอื่น
เขาจะได้ไม่สามารถทำทีเป็นหัวเสีย ว่าเราละเมิดสิทธิ

ถามใจคุณเองให้ดีก่อนว่ารับได้ไหม ถ้าเรื่องมีอีกคนเกิดขึ้นจริง
ไม่ว่าจะเป็นกรณีเล่นๆ หรือจริงจัง แล้วค่อยหาโอกาสคุย
เพราะหากต้องอยู่อย่างทุกข์ใจไปเรื่อยๆ อยู่ฝ่ายเดียว
โดยอีกฝ่ายไม่มีความเห็นอกเห็นใจ ไม่ยอมปรับตัวเลย
อยู่ไปก็ไม่เรียกว่ารัก เขาเรียกว่าหลง
มีแต่ความทุกข์ แยกกันไป อาจจะสุขกว่าก็ได้ครับ

 

^ ^

เหตุการณ์ผม ก็คล้ายๆ จขกท ครับ คือจับได้ว่าแฟน คุยและมีใจกับคนในเฟซบุ๊ค คนหนึ่ง แรกเลย ผมก็บอกว่าถ้าไม่เลิกผมก็จะเลิกเอง เพราะผมบอกแฟนแล้วว่าคนเราส่วนใหญ่ จะเริ่มจากทำผิดนิดหน่อยจนกลายเป็นความผิดที่มากขึ้นๆตามลำดับ ถ้าไม่ตัดไฟแต่ต้นลม ความรู้สึกของแฟนผมที่จะไปมีให้กับเขาก็จะมากขึ้นดังนั้น ถ้าแฟนผมยังต้องการสานสัมพันธ์กับเขาต่อ ผมเองก็คงไม่อยู่รอ เพราะไม่เห็นประโยชน์อะไรที่รอ เพราะผมว่าการมีแฟนมันเหนื่อยนะครับถ้าไม่ใช่คนที่ใช่ ต้องไปหาต้องหาเวลาอยู่ด้วยกัน เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา ก็บอกแค่ว่าถ้าไม่เลิกคุยกับคนนั้น ผมก็ขอยุติแค่นี้ ยังไงก็ลองไปคบกันดูก็ได้ไม่ว่าอะไร(แต่ในใจนี่ร้อนเป็นฟินเป็นไฟ) แต่ตอนนั้นแฟนก็เลิกคุยกับคนนั้นครับ แต่มาตอนหลังก็จับได้ว่าเขายังแอบคุยกันอีก แถมยังนัดเจอกันด้วย ครั้งล่าสุดนี้ค่อนค่างหนักครับ ยอมรับว่าเสียใจมากๆ แต่ก็คิดว่าเขาก็ไม่ใช่ของๆเราขนาดร่างกายเราบางครั้งเรายังยึดเหนี่ยวไว้ไม่ได้ ขนาดใจเราบางครั้งเราก็ยังสั่งการอะไรมันไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับคนอื่น ถ้าเรารักแฟนเราจริงๆ เขาจะไปมีความสุขก็น่าจะดีใจไปกับเขา คิดอย่างนี้ก็พยายามไม่โกรธ ทั้งสองคน ถึงแม้ความโกรธมันจะแว่บมาเป็นระยะๆบ่อยๆ แต่ก็พยายามไม่โกรธไม่เกลียดเพราะ เวลาที่รู้สึกอย่างงั้นมันทุกข์มากๆ และรู้สึกตัวเองดูแย่ลงไปอีก โชคดีที่เคยอ่านธรรมะฟังธรรมะมาบ้าง ว่าโกรธเกลียดใครก็พยายามแผ่เมตตาให้กับเขา ให้มากๆมองให้เขาป็นมิตร มองให้เขาเป็นเพื่อนร่วมทุกข์เหมือนกันกับเราที่ยังติดอยู่ในวังวน ของรัก โลภ โกรธ หลง คิดยังงั้นจากที่โกรธ ก็สงบลงได้บ้าง

หลังจากนั้นก็สวดมนต์แผ่เมตตาให้กับเขาทั้งสองทุกๆคืน แรกๆ ก็ค่อนค่างฝืนแต่พอทำไปเรื่อยๆ ทิฏฐิ ก็เบาบางลง ความพยายาบาทแค้นเคืองก็น้อยลงตามลำดับครับวันนึงเลยตัดใจได้ คิดว่าตัดใจได้อย่างเด็ดขาด เช้าวันนั้นเองก็ไปทำบุญให้เขา ทั้งสองคนครับ คิดในใจว่าขอให้เขาทั้งสองคนมีความสุข คิดว่าเราจะไม่เอาแล้วควาทุกข์นี้ จะปล่อยมันไปเสียที

แล้วเหตุการณ์ก็เปลี่ยนไปครับ วันนั้นเองอยู่ดีๆแฟนก็มาดีกับผม เหมือนเดิม ส่วนผมก็อภัยให้เขาครับเพราะผมยังรักเขาอยู่ เรามานั่งเคลียร์และตกลงกันว่าจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก ทุกวันนี้ เราก็จะคุยเล่นกันเหมือนในเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นเป็นเรื่องตลกครับ แต่กว่าจะผ่านมันมาได้ -*-

แต่ทุกวันนี้ทุกครั้งเวลาผมสวดมนต์ผมก็ยังคงอุทิศให้กับแฟนและคนๆนั้นอยู่นะครับ และพยายามคิดเสมอว่าวันนึงแฟนผมยังไงก็ต้องไปจากผม ไม่จากเป็นก็คงจากตาย ทุกวันนี้ผมก็พยายามรักด้วยความเข้าใจให้มากกว่าแต่ก่อน และก็สาบานกับตัวเองไว้ด้วยว่ายังไงชาตินี้ผมจะรักษาศีลข้อกาเมไปจนตลอดชีวิต หากคบกับใครก็จะไม่ผิดลูกผิดเมียเด็ดขาดเพราะรู้เลยว่า อีกฝ่ายนั้นเค้าจะทุกข์ขนาดไหน ไม่อยากไปสร้างบาปสร้างเวรให้เพิ่มขึ้นอีก เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมาผมก็คิดว่ามันคงเป็นบาปเป็นกรรมของผมเองน่ะครับ

ทุกวันนี้ผมก็พยายามดีกับเขาให้มาก พูดดีกับเขา พยายามคิดว่าถ้าวันพรุ่งนี้ไม่มีเขา เราจะได้ไม่เสียใจที่ยังทำดีไม่พอเราจึงเสียเขาไป ผมคิดว่า ถ้าผมทำดีที่สุดแล้ว แล้ววันนึงเขาเลือกที่จะไป ก็คงต้องสุดแท้แต่เขา เราไม่ใช่เจ้าของชีวิตเขานี่นา แค่ทำตัวเราให้ดีที่สุด คิดดี พูดดี ผมก็เชื่อว่า ถ้าเขาไปอย่างน้อยมันก็ไม่ได้เป็นตราบาปอะไรที่เราอยากจะกลับมาแก้ไขในอนาคต เพราะเมื่อก่อนผมค่อนค่างหงุดหงิดง่ายและ พูดจาค่อนค่างแรง แต่ตอนนี้ก็ไม่เป็นแล้ว

ประมาณนี้ครับ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะครับ ส่วนตัว ผมอาจจะแอบสนับสนุนในเรื่องของการทำบุญและสวดมนต์แผ่เมตตาให้กับเขาทั้งสองครับเหมือนที่ หลายๆคนแนะนำไปแล้ว และพยายามอภัยให้ได้มากที่สุดเท่าที่ใจเราจะอภัยให้ได้ เพราะอย่างนึงที่จะปรากฏชัดแน่ๆเขาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่เป็นเหมือนเดิมหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ ถ้าเราไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่พยาบาท ไม่อยากได้ของที่ไม่ใช่ของเรา ผมว่าความทุกข์ก็ลดลงฮวบๆแล้ว เผลอ ออร่าจะแผ่ไปเตะตา คู่บุญแท้จริงมาเกื้อหนุนกันก็เป็นได้ครับ ยังไงก็ สู้ๆครับผม ^ ^

 

เห็นใจครับ ผมเจอเรื่องแปลกกว่าอีก มีผู้ชายคนนึงเล่าให้ฟังว่า ภรรยาแกไม่ชอบและไม่อยากมี sex ด้วยและก็ไม่อนุญาตให้ฝ่ายชายไปมี sex กับคนอื่นด้วย สรุปแล้ว คนที่เล่าให้ฟังอยากมีเมียใหม่ แต่ก็ทำไม่ได้ กลัวบาป ตอนเช้าและก่อนนอนก็หันมาเจริญสติแทน สรุปที่เล่าให้ฟังก็เพราะไม่อยากให้โทษฝ่ายชายเพียงฝ่ายเดียว ตัวฝ่ายหญิงก็ต้องพิจารณาตัวเองด้วยเหมือนกัน

 

เห็นด้วยนะค่ะ ว่าคุยกันให้ชัดเจนไปเลย
ว่าเขาสามารถปรับปรุงตัวได้ไหม
ถ้าไม่ได้ เราเองก็ต้องทำใจ หรือว่าเลิกเท่านั้น
ซึ่งถ้าเป็นดิฉันคงไม่ทนค่ะ