ถาม:การติดเกมมีผลอย่างไรต่อการปฎิบัติธรรมบ้าง

คือปกติแล้วผมจะไม่เล่นเกมนะครับ(เล่นบ้างแต่ไม่ติด) แต่พอช่วงสอบนี้ก็อ่านหนังสือเยอะ พอสักพักก็จะเกิดอาการเบื่อ แล้วผมก็โหลดเกมมาเล่น เล่นเสร็จก็ติด ติดก็ไม่ได้อ่านหนังสือ หรือ อ่านได้น้อยลง พอสอบเสร็จรู้สึกผิดก็เลยลบทิ้ง แต่พอสอบใหม่ก็โหลดใหม่อีก เป็นเช่นนี้มาหลายรอบแล้วอะครับ คือผมก็อยากใช้การภาวนาตอนอ่านหนังสือเบื่อๆแต่ใจดึงไว้ไม่อยู่สักที
1.อยากทราบว่าถ้าเราอยู่ในอาการติดเกมนี่จะมีผลอะไรต่อจิตใจเราบ้าง แล้วส่งผลต่อการปฏิบัติธรรมยังไงบ้าง
2.มีคำบาดใจแรงๆที่ทำให้ผมเลิกติดเกมในช่วงสอบได้มั้ยครับ ขอบคุณครับ 555

 

ลองหาให้เจอว่าเล่นเกมจนติด มันติดเพราะอะไร ส่วนใหญ่จะติดประสบการณ์ที่ได้รับจากเกม เช่น การใช้ความคิดสร้างสรรค์ การทำบางสิ่งได้เหนือกว่าคนอื่น การเอาชนะคนอื่นได้ การเป็นที่หนึ่ง การเอาชนะอุปสรรค การทำอะไรได้สมบูรณ์แบบ หรืออะไรก็แล้วแต่ ส่วนใหญ่เป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากในโลกความเป็นจริง แต่หาได้ง่ายจากการเล่นเกม ถ้าเราหาเจอว่าเราใช้เกมเป็นเครื่องมือในการสร้างประสบการณ์อะไร เราก็จะเริ่มเปลี่ยนจากการเสพติด กลายเป็นมองเห็นมันเป็นเครื่องมือหนึ่งของเรา แล้วก็ลองชั่งน้ำหนักดูว่าประสบการณ์ที่ได้จากการเล่นเกม กับประสบการณ์ที่เราอยากได้จากการอ่านหนังสือเตรียมสอบ เพื่อทำข้อสอบได้ดี เราให้ความสำคัญกับประสบการณ์ไหนมากกว่ากัน

 

1. ติดเกม เหมือนติดสาวเลยครับ มีผลคล้าย ๆ กัน
เพียงแต่เกม ให้ความสมหวังเราได้มากกว่าสาว (ที่เราอาจจะได้หรือไม่ได้ก็ได้)
ที่นี้ พอเราสมหวังเรื่อย ๆ เราก็จะพอใจ และอยากทำอีก เรื่อย ๆ

ทำไม คนเราถึงชอบเล่นเกม?
เพราะมีความสุขไงครับ
เพราะเราเหมือนได้สร้างโลกขึ้นมาอีกใบ
ซึ่งโลกใบนี้ ดีกว่าโลกที่เราอยู่เยอะ
เพราะโลกที่เราอยู่มันน่าเบื่อ แปรปรวน ไม่ได้ดั่งใจ

แล้วเราจะเบื่อเกม ได้ไง?
มีอยู่ 2 อย่างคือ ถ้าเคลียรจนไม่รู้จะเคลียรยังไงอีกละ
ก็จะเบื่อครับ
เพราะมันไม่มีอะไรให้ค้นหาแล้ว มันไม่ตื่นเต้นแล้ว

หรืออีกอันคือ แพ้เรื่อย ๆ ก็เบื่อครับ
เพราะที่เราเล่นแล้วสนุก เพราะเราชนะ เลยสนุก
ถ้าแพ้เรื่อย ๆ ก็จะหงุดหงิดและเลิกไป
แต่ว่าก็อาจจะแค่ชั่วคราว มันอาจจะกลับไปเล่นใหม่

มันขึ้นอยู่กับเล่นเกมอะไรด้วย
ถ้าเล่นเกมออนไลน์ เกมฟุตบอล เกมที่มันเล่นกันคนหลายคน
อันนี้จะติดนานมาก ยากที่จะเลิกครับ
ยิ่งเล่นกับเพื่อนยิ่งยากครับ

มีอีกทางคือ ต้องมีอะไรที่น่าสนใจกว่าครับ
แล้วเราก็จะติดสิ่งนั้นแทน
สรุป วิธีการทั่วไป ก็คือ ย้ายจากติดนู้น นั้น นี้ ไปติดอีกอย่าง
ย้ายไปย้ายมาแค่นั้นเอง
แต่จิตก็ยังมีความผูกพันธ์ มีความพอใจ ในสิ่ง ๆ หนึ่งอยู่ดี

แม้น้องจะเลิกเกมได้ แต่เชื่อไหมครับว่า น้องจะติดสิ่งใหม่แทน
เช่น อาจจะกลายเป็นติดสาว ติดดนตรี ติดออกกำลังกาย ติดอ่านนิยาย
ติดดูหนัง ติดไปเที่ยวกับเพื่อน ติดทำอาหาร ติดฟิตเนส ฯลฯ
คือกิจกรรมมนุษย์ มันเกี่ยวข้องกับกามทั้งสิ้นครับ

เพราะนี้ เป็นกาม อีกตัวหนึ่งครับ ที่ชนะได้ยาก
มันคือความพอใจ

จะชนะตัวนี้ได้ต้องปฏิบัติเป็นเรื่องเป็นราวครับ

คือชนะพวกนี้ได้คือ ต้องเป็นพระอริยะระดับขั้นอนาคามีเลยนะครับ
คือไม่เกี่ยวข้องกับกามทั้งปวง

แต่ในขั้นต้นนี้ แนะนำว่า ให้คลายออกจากความกำหนัดก่อน
คำว่าคลายออกจากความกำหนัดนี้ ไม่ได้หมายถึงชนะแบบสิ้นซากก็จริง
แต่มันคือจุดแรกครับ

คือคนเราพอจิตมันเกิดความกำหนัด มันก็ยึดมั่นถือมั่นสิ่งนั้นเอาไว้
เวลามันคลายออกจากความกำหนัด มันก็คลายจากความยึดมั่นถือมั่นนั้น
สรุปง่าย ๆ คือ จากเมื่อก่อนที่แบบ กลับบ้านมา อยากเล่นเกมเป็นบ้า
ตอนเรียนอยู่ในหัวก็คิดแต่เรื่องเกม ๆ ๆ ๆ แบบนี้คือจิตมีความกำหนัด
แต่ถ้ามันคลายได้ ก็คือ กลับบ้านมา อืม รู้สึกเหนื่อย ๆ เกมวันนี้ไม่เล่นก็ได้
เอาเวลาเล่นเกม ไปพักผ่อนดีกว่า แบบนี้เรียกว่าคลายจากความกำหนัดได้แล้ว ชนะได้ส่วนหนึ่ง
คือมันไม่บ้าคลั่งเหมือนเมื่อก่อนแล้ว จึงเรียกว่าคลาย
คือจะเล่นก็ได้ ไม่เล่นก็ได้
สำหรับน้องแล้ว ในขั้นต้น เอาแบบนี้ให้ได้ก่อนดีกว่า

วิธีปฏิบัติ สำหรับการจะเอาชนะกามได้
แรกสุดเลย
ไปถืออุโบสถศีล ให้ได้สักวัน
อุโบสถศีล คือศีล 8 ในวันพระ
ในอาทิตย์หนึ่ง โดยปกติ จะมีแค่ครั้งเดียว
ดูยังไง ดูจากปฏิธินได้ วันไหนที่มีรูปพระ วันนั้นแหละ วันอุโบสถ

วิธีนี้เป็นวิธีที่พระพุทธเจ้าสอน ฆราวาสทุกคน ที่อยากก้าวหน้า
เป็นวิธีที่มีมาแต่โบราณ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ไม่คัดค้าน
เป็นของดี ของวิเศษ มีอานิสงฆ์มาก
แม้ถือได้แค่วันเดียว ผลบุญที่จะได้รับ ก็มหาศาลมากมาย
ถ้าอยากรู้ว่ามากแค่ไหน ก็ต้องลองไปหาอ่านเพิ่มดู

แต่แนะนำเบื้องต้น สำหรับเรื่องนี้ ที่น้องถามมา
ก็คือ ลองถืออุโบสถศีลดู
แล้วทำได้ติดกันสักเดือน เด่วมาคุยต่อว่าจะทำยังไง

ส่วนคำบาดใจแรง ๆ ไม่มีครับ
มีอย่างเดียว คือต้องปฏิบัติด้วยความเพียร เท่านั้นครับ

 

แต่น้องบอกว่า เล่นช่วงสอบ
มันอาจจะเป็นเพราะเครียด ร่างกายเราเลยอยากผ่อนคลาย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
แต่ต้องถามว่าแล้วผลสอบเป็นได้อย่างที่เราพอใจไหม?

ถ้ามันได้มาพอใจแล้ว ก็อาจไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่ม เพราะฝืนมากไป บางทีมันจะหนักเกิน
แต่ถ้ามันออกมาได้เกรดน้อย ต่ำ ๆ เพราะผลจากการที่เราเล่นเกมมากเกินไป จนสมองมึน อ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง
แบบนี้ต้องปรับปรุง โดยการแบ่งเวลา
คือกำหนดตารางขึ้นมาว่า อ่านหนังสือ กี่ชั่วโมง จะพักผ่อนกี่ชั่วโมง แล้วก็ทำตามนั้น
แบบนี้ก็ง่ายครับ ถ้าจะเอาแค่เฉพาะในตอนสอบ

ถ้าจะเอาตลอดกาล ก็ไปถือศีลอุโบสถแบบที่บอกไว้ข้างบน
อันนั้นคือ permanent stat เลยครับ

ถ้าจะเอาคำคม ทั่วไป ที่ใช้เฉพาะตอนสอบ
ก็คือ เราต้องเป็นคนรับผิดชอบครับ หน้าที่ของเราอย่าให้ใครมาว่า
งานต้องมาก่อน งานเสร็จ จะเล่นจนโลกถล่มก็ไม่มีใครว่า
งานต้องมาก่อน
งานของเรา ณ เวลานี้ ก็คือการเรียนที่ดี นั้นเองครับ

ขอออกความเห็นเพียงเท่านี้ครับ

 

ไม่ต้องถึงการปฏิบัติธรรมหรอก..แค่ปัจจุบันมันก็บอกผลลัพธ์แล้ว..ติดเกมส์มากๆก็สั่งใจตัวเองให้อ่านหนังสือมากๆเท่าที่ติดเกมส์สิ

 

เมื่อก่อนผมก็ติดครับ แต่ถ้าลองคิดย้อนคืนกลับไปไม่ว่าจะเกมออนไลน์ หรือ ออฟไลน์ ท้ายที่สุดเราก็จะต้องเลิกเล่นเกมนั้นไปเป็นธรรมดา แต่ยังไงแล้วก็ต้องหาเกมใหม่ๆมาเล่นเรื่อยๆอยู่ดี
เกมออฟไลน์ดีหน่อย ตรงที่เคลียร์เกมก็จบๆไป + โกงได้ง่าย

ง่ายๆครับ ลองเล่นเกมไม่อ่านหนังสือเลย แล้วไปกามั่วทำข้อสอบ แล้วดูผลครับ จะได้เห็นภัยเห็นโทษ หรือตระหนักรู้ได้
ว่าเกมที่แค่เล่นๆไปขำๆเพลินๆเดี่ยวก็เลิกเล่น กับ อนาคตข้างหน้า
(ที่ต้องทำตามกระแสสังคม แข่งขัน ทำคะแนนสอบให้ดีๆ เข้ามหาลัยดีๆ จะได้มีงานดีๆทำ หรือเอาเวลาไปศึกษาในสิ่งที่สนใจ ไปทำในสิ่งที่ชอบ อะไรยังไงก็ว่ากันไป)

ถ้าจะอ้างไปว่า ขี้เกียจแข่งขัน เรียนไปงั้นๆก็ไม่ได้ใช้ หรือประมาณว่า บางคนเรียนไม่จบยังประสบความสำเร็จได้ ก็ไม่ผิดครับ แต่ต้องเดินให้ถูกทาง

แต่ก็อย่าลืมว่าชีวิตจริงมันก็ไม่ต่างจากเกม เพราะยังไงมันต้องมีการแข่งขัน มีเกณท์ต่างๆไว้ชี้วัดถึงระดับ ความรู้,ทักษะ ,ความสามารถ, สกิล ,Lv
มีอุปสรรคให้ก้าวข้ามไปเรื่อยๆ

แต่ยังไงแล้วในชีวิตจริงท้ายที่สุดก็ลงเอยที่ว่า ทำอะไรยังไง ถึงจะได้เงิน
ถ้าจะบอกว่าหาเงินจากการเล่นเกม ก็ต้องดูว่า มันยั่งยืนมั้ย ? เวลาและโอกาสที่เสียไปมันคุ้มค่ากันมั้ย

ปล.ถ้าบ้านรวยมีฐานะ ไม่มีหนี้สินท่วมตัว ก็ไม่ต้องคิดไรมาก ไม่ต้องตั้งใจเรียนก็ได้ ไม่ต้องไปตามกระแสสังคมที่วัดผลจากใบปริญญา คณะและเกรดเฉลี่ย ให้มาก เรียนๆไปให้ จบ ป.ตรี ป.โท อะไรก็ได้ ไปงั้นๆให้พบปะผู้คน มีเพือนฝูง แล้วเพียงแค่มุ่งศึกษาหาความรู้ที่จำเป็นที่จะทำให้เงินงอกเงยมาพอ