"ของจริง ของปลอม" (หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ)

ในห้อง 'หลวงปู่ดู่ และ หลวงตาม้า' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 28 สิงหาคม 2012.

  1. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    เมื่อหลายปีก่อน ได้เกิดไฟไหม้ที่วัดสะแกบริเวณกุฏิตรงข้ามกุฏิหลวงปู่ แต่ไฟไม่ไหม้กุฏิหลวงปู่
    เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจแก่ศิษย์และผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง ถึงขนาดมีฆราวาสท่านหนึ่ง คิดว่า
    หลวงปู่ท่านมีพระดี มีของดี ไฟจึงไม่ไหม้กุฏิท่าน

    ผู้ใหญ่ท่านั้นได้มาที่วัดและกราบเรียนหลวงปู่ว่า
    “หลวงปู่ครับ ผมขอพระดีที่กันไฟได้หน่อยครับ”

    หลวงปู่ยิ้มก่อนตอบว่า
    “พุทธัง ธัมมัง สังฆัง ไตรสรณคมน์นี่แหละ พระดี”

    ผู้ใหญ่ท่านนั้นก็รีบบอกว่า
    “ไม่ใช่ครับผมขอพระเป็นองค์ ๆ อย่างพระสมเด็จน่ะครับ”

    หลวงปู่ก็กล่าวยืนยันหนักแน่นอีกว่า
    “ก็พุทธัง ธัมมัง สังฆัง นี่แหละมีแค่นี้ล่ะ ภาวนาให้ดี”

    แล้วหลวงปู่ก็มิได้ให้อะไร จนผู้ใหญ่ท่านนั้นกลับไป หลวงปู่จึงได้ปรารภธรรมอบรมศิษย์ที่ยังอยู่ว่า
    “คนเรานี่ก็แปลก ข้าให้ของจริงกลับไม่เอา จะเอาของปลอม”

    ที่มาจากหนังสือ "ตามรอยธรรม ย้ำรอยครู หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ"
    ฉบับปรับปรุง พิมพ์ครั้งที่ ๓ : ๖ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๓
    จัดทำโดย : กลุ่มเพื่อนธรรมเพื่อนทำ
     
  2. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    พระเครื่องก็มาจากการเจริญ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ นี่แหละครับ
     
  3. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ทุกวันนี้มีไสยศาสตร์ ต่าง ๆ เกิดขึ้นในพระพุทธศาสนาเป็นต้นว่า พวกรูป เหรียญ ล็อคเก็ตแขวนคอ เหล่านี้เป็นต้น สำหรับตัวของข้าพเจ้าไม่ได้ยินดีด้วยมาแต่ไร ๆ แล้ว และองค์หลวงปู่มั่นก็ไม่ส่งเสริมด้วย ครูบาอาจารย์องค์หลวงปู่มหาบัวก็คือไม่ส่งเสริมและติเตียนฝ่ายที่เคยเป็น ลูกศิษย์หลวงปู่มั่นที่เคยเอาหลวงปู่มั่นไปอ้างอิงว่าเป็นอาจารย์ของตน แล้วก็ทำรูปเหรียญขึ้น รุ่นนั้นรุ่นนี้ แต่ข้าพเจ้าเป็นผู้มีกิเลสมาก ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตายมากกว่าเม็ดหิน เม็ดทรายในท้องมหาสมุทร ๔ มหาสมุทรก็ตาม ย่อมไม่ยินดีด้วยทั้งนั้น

    เมื่อเป็นดังนี้ เมื่อท่านผู้ใดทำรูป ทำเหรียญข้าพเจ้าไปขายก็ดี หรือเอาไปแจกฟรีก็ดี ข้าพเจ้าไม่ยอมอนุญาตเป็นอันขาด ถ้าใครฝืนก็จะขออารักขาต่อทางการ ถ้าไม่ฟังก็เอาเรื่องตามกฎหมายของบ้านเมือง เพราะทุกวันนี้ยุ่งเหยิ่งในเรื่องเหล่านี้มาก ข้าพเจ้าเข้าใจว่าผู้เล่นไสยศาสตร์มาเป็นพรรคพวกล้าน ๆ คน ไม่เท่าได้ผู้ถึงธรรมแท้มาเป็นพรรคคนเดียว

    ปรารภ น้อยไม่พออธิบาย ปรารภหลายหาว่าอวดดีจองหอง ถ้าความเห็นของข้าพเจ้าเป็นมิจฉาทิฏฐิก็มอบให้ทุกข์กับสมุทัยซะ ถ้าหากว่าเป็นสัมมาทิฏฐิก็ทูลถวายต่อมรรคกับนิโรธ ส่วนตัวข้าพเจ้ามีความเห็นอย่างนี้ถอนไม่ออกเสียแล้ว จะว่าอุปาทานก็ยอมรับ

    ยุคสุดท้ายบ้านหนองผือ สกลนคร ข้าพเจ้าได้อยู่ร่วมองค์หลวงปู่มั่น ๔ พรรษาติด ๆ กัน ๒๔๘๙, ๙๐, ๙๑, ๙๒, ๙๓ จนถึงฌาปนกิจองค์หลวงปู่มั่นเสร็จเรียบร้อย ในพ.ศ. ๒๔๙๓ องค์หลวงปู่มั่น ไม่มีปฏิปทาไสยศาสตร์ทำรูป ทำเหรียญ ล็อคเก็ต เครื่องลางของขลังอยู่ยงคงกระพัน และวิชาเสน่ห์ วิชาหุงปรอท เป็นต้น เหล่านี้ไม่มีในองค์ท่านเลย จึงลงไปปักษ์ใต้กับองค์หลวงปู่เทสก์ ๓ พรรษา แล้วกลับขึ้นมาจำพรรษากับองค์หลวงปู่มหาบัว ยุคบ้านห้วยทรายอีก ๓ พรรษา คราวอยู่กับองค์หลวงปู่มั่น ๔ พรรษา ติด ๆ กันนั้นจนถึงฌาปนกิจ ถ้าจะบวกกันเข้าก็คล้าย ๆ ๔ ปีกว่า มีองค์หลวงปู่มหาบัวเป็นมือขวาขององค์หลวงปู่มั่นควบอยู่ด้วย ให้เข้าใจว่ายุคบ้านหนองผือนั้น องค์หลวงปู่มั่นไปอยู่ก่อน ๑ พรรษาแล้ว คือ พ.ศ. ๒๔๘๙ ติดต่อกันจนถึงฌาปนกิจ ๒๔๙๓ ดังกล่าวแล้วนั้น มีองค์หลวงปู่มหาบัวเป็นพยานได้

    เมื่อเป็นดังนี้ ถ้าข้าพเจ้าปีนเกลียวส่วนนี้ ก็เท่ากับว่าข้าพเจ้าเอาหัวองค์หลวงปู่มั่นมาเหยียบเล่นจริงไหม เทวดาเอ๋ย...

    อัตตโนประวัติหลวงปู่หล้า เขมปัตโต
    วัดบรรพตคีรี ( ภูจ้อก้อ ) อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
     
  4. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    [๑๑๔] ๑. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
    เช่นอย่าง สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพ
    โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ ทายอวัยวะ ทายนิมิต ทายอุปบาต ทำนายฝัน
    ทำนายลักษณะ ทำนายหนูกัดผ้า ทำพิธีบูชาไฟ
    ทำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน ทำพิธีซัดแกลบบูชาไฟ
    ทำพิธีซัด รำบูชาไฟ ทำพิธีซัดข้าวสารบูชาไฟ ทำพิธีเติมเนยบูชาไฟ ทำพิธีเติมน้ำมันบูชาไฟ
    ทำพิธีเสกเป่า บูชาไฟ ทำพลีกรรมด้วยโลหิต เป็นหมอดูอวัยวะ ดูลักษณะที่บ้าน ดูลักษณะที่นา
    เป็นหมอปลุกเสก เป็นหมอผี เป็นหมอลงเลขยันต์คุ้มกันบ้านเรือน เป็นหมองู เป็นหมอยาพิษ
    เป็นหมอแมลงป่อง เป็นหมอรักษาแผลหนูกัด เป็นหมอทายเสียงนก เป็นหมอทายเสียงกา
    เป็นหมอทายอายุ เป็นหมอเสกกันลูกศร เป็นหมอทายเสียงสัตว์
    แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๙ หน้าที่ ๖๔/๓๘๓
     
  5. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    กล่าวเรื่องคือไปอีก ปฏิปทาของหลวงปู่ทอดสะพานให้ลูก ๆ หลาน ๆ ยังมีอยู่อีกมากมายนัก การเรี่ยไรแผ่ ๆ ขอ ๆ ในทางตรงและทางอ้อม และจัดงานขึ้นในวัด เพื่อหารายได้สมทบการก่อสร้างหรือซ่อมแซมที่เกี่ยวกับตัวเงิน ๆ ไม่มีในขันธสันดานขององค์หลวงปู่เลย ของรางของขลังไม่มีในปฏิปทาเลย รูปเหรียญ ขายพระเล็กพระน้อย พุทธาภิเษกก็ไม่มีในปฏิปทาขององค์ท่านเลยนา วิชาปลุกเสก แกะหู แกะตา แคะหู แคะตา ให้พระพุทธรูปหรือทำพิธีบวชให้พระพุทธรูปก็ไม่มีในสันติวิธีขององค์ท่าน

    องค์ท่านกล่าวว่า

    “สมมุติเป็นพระพุทธรูปแล้วก็เสร็จกัน เราดีอย่างไรจึงจะไปบวชให้องค์ท่าน องค์ท่านบวชก่อนเราแล้ว เราดีอย่างไรจึงจะไปปลุกท่านให้ตื่น ท่านตื่นก่อนเราเข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพานแล้ว เราดีอย่างไรจึงจะไปแคะหูแคะตาให้องค์ท่าน ตานอก ตาใน หูนอก หูในขององค์ท่านดีกว่าเราแล้ว จะภิเษกภิษันให้องค์ท่านเป็นอะไรอีก องค์ท่านเป็นพระพุทธเจ้าเต็มภูมิแล้ว จะเอาไสยศาสตร์ไปพอกไปทาองค์ท่านทำไม นั้นแหละตัวบาป นั้นแหละขุมนรกขุมมิจฉาทิฏฐิ เห็นผิดเต็มภูมิแล้วยังสำคัญว่าเห็นชอบ เข้าข้างตัวแต่ไม่เข้าข้างธรรมวินัย เพียงเท่านี้ก็ยังไม่รู้จักผิดรู้จักถูกแล้ว ธรรมอันละเอียดลออก็ยังมีขึ้นไปกว่านี้มาก ไฉนจะรู้ได้”

    พูดไปมากเป็นภัย แต่มีประโยชน์แก่นักปราชญ์ แต่บาดหูผู้ไม่ชอบและจะถูกกล่าวตู่ว่า ขัดขวางรายได้แห่งวัตถุตัว ง. แต่เมื่อไม่พูดยามมีชีวิตอยู่ ก็ไม่รู้ว่าจะไปพูดในเวลาไหน เพราะตายแล้วพูดไม่ได้ และคนเราเป็นส่วนมาก มักจะเข้าใจผิดไป คือเราจะทำดีตอนไหน ๆ ก็เป็นคนขี้ขลาด แต่เมื่อมีผู้พาทำชั่ว กลับอาจหาญใส่ อยากจะอวดว่าตนเป็นผู้ใจถึง นักปราชญ์อวดว่าใจถึงทางทำดี คนพาลอวดใจถึงทางทำชั่ว ผลฝ่ายรับ ได้รับผิดกัน รสชาติของผลที่ได้รับก็ผิดกันราวฟ้ากับแผ่นดิน

    อัตตโนประวัติหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ๐๗
    วัดบรรพตคีรี ( ภูจ้อก้อ ) อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
     

แชร์หน้านี้

Loading...