กิตติธัชชูหลักธรรม-บ่มเพาะตำรวจภาค5ให้เชื่อในกฎแห่งกรรม

ในห้อง 'พุทธศาสนากับคนดัง' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 3 มีนาคม 2007.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    'กิตติธัช'ชูหลักธรรม-บ่มเพาะตำรวจภาค5ให้เชื่อใน' กฎแห่งกรรม'

    "กิตติธัช"ชูหลักธรรม บ่มเพาะตำรวจภาค 5 ให้เชื่อในกฎแห่งกรรม

    คอลัมน์ เครื่องเคียง

    โดย จินตนา กิจมี



    [​IMG]

    หลังนั่งในตำแหน่งจเรตำรวจกว่า 1 ปี พล.ต.ท.กิตติธัช เรือนทิพย์ ได้รับความวางใจจากผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปนั่งตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ผบช.ภ.5) รับผิดชอบความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด

    แต่ด้วยบุคลิกที่นุ่มนวล สุภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใส ทำให้ภาพของ พล.ต.ท.กิตติธัช ดูจะสวนทางกับบทบาทที่จะต้องต่อกรเหล่าอาชญากร

    แต่ พล.ต.ท.กิตติธัช กลับอธิบายว่า "ภาพดังกล่าวไม่ใช่อุปสรรคในการบริหารจัดการให้ตำรวจเดินตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน"

    พร้อมอธิบายถึงหลักคิดในการทำงานว่า "มั่นใจ เชื่อมั่น เชื่อถือและศรัธทา"

    "มั่นใจ" คือ ทำให้ประชาชนมั่นใจในความปลอดภัยเกี่ยวกับชีวิตและทรัพย์สิน ด้วยการปรับปรุงจัดระบบสายตรวจ วิเคราะห์อาชญากรรมที่เกิดในแต่พื้นที่ เก็บสถิติอาชญากรรมรายงานผลให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

    ซึ่งขณะนี้คณะทำงานที่ตั้งขึ้นกำลังปรับระบบสายตรวจให้สอดคล้องกับลักษณะของอาชญากรรมและช่วงเวลาที่เกิดเหตุ

    หลังจากนั้นจะเรียกสายตรวจในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ เข้ารับการอบรมหลักสูตรใหม่ที่จะให้ความรู้ ตลอดจนการป้องกันอาชญากรรมให้ได้ผล

    โดยเฉพาะการฟื้นฟูเทคนิคของสายตรวจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รับรองว่าตำรวจทำงานกันเต็มที่ไม่มีเกียร์ว่างแน่นอน

    "เชื่อมั่น" คือเน้นไปที่พนักงานสอบสวน ด้วยการผลักดันมาตรฐานงานสอบสวนให้สูงขึ้น ปรับปรุงความรู้เพิ่มประสิทธิภาพบุคลากร จัดทำคู่มือ ตรวจสำนวนแต่ละระดับชั้นผู้บังคับบัญชา จัดระบบการทำงานระหว่างสืบสวนและสอบสวนให้มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิด

    โดยให้ความสำคัญต่อการร้องเรียนของประชาชนทุกประเภท ต้องตรวจสอบ สอบสวน และดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

    จากความมั่นใจและเชื่อมั่น จะโยงไปสู่ เชื่อถือและศรัทธา

    ซึ่งตำรวจทุกนายต้องเสริมสร้างจิตสำนึกในการบริการประชาชน โดยยึดคุณธรรม จริยธรรม

    เพราะปัจจุบัน บช.ภ. 5 มีโครงการอบรมความรู้คู่คุณธรรมให้กับตำรวจทุกนาย อย่างน้อยต้องเข้าอบรมเดือนละ 1 ครั้ง

    ซึ่ง"พล.ต.ท.กิตติธัช"ได้อธิบายถึงเหตุผลถึงการจัดโครงการว่า "ที่ผ่านมาส่วนราชการทุกหน่วยละเลยเรื่องนี้มาก จนประชาชนเรียกร้องหาคุณธรรม และรัฐบาลเน้นในเรื่องคุณธรรม และจริยธรรมมาก เพราะเชื่อว่าธรรมคือคุณากร

    ผมบอกตำรวจทุกนายว่า ให้เชื่อในกฎแห่งกรรม บาปบุญคุณโทษ เขาสนใจกันนะ เพราะเราไม่ใช่แค่บอก แต่ต้องให้เขาเข้าใจและเห็นประโยชน์ที่จะได้จากการทำความดี

    ประโยชน์ที่ได้ทางวัตถุเป็นส่วนหนึ่ง แต่ประโยชน์ที่จะได้ทางด้านจิตใจทุกคนต้องทำเอง บอกให้เขารู้ว่าอะไรดี ไม่ดี คุณประโยชน์ของการทำความดี การทำเลวทำง่าย แต่มีโทษมหาศาลอย่างไร อยากให้เขามีกำลังใจที่จะทำความดี"

    ผบช.ภ. 5 ยังย้ำว่า "แม้จะมีคำกล่าวที่ว่าไม้อ่อนดัดง่ายไม้แก่ดัดยาก แต่ก็เชื่อว่าถึงจะแก่ก็ทำได้ ขอแค่พยายามกล่อมเกลาเขาไปเรื่อยๆ หากเราไม่เชื่อมั่นในการทำความดีแล้วจะนำไปสอนคนอื่นต่อได้อย่างไร

    ซึ่งในเดือนมีนาคมนี้ "พล.ต.ท.กิตติธัช" เตรียมตัวออกเดินสายไปพบปะเยี่ยมเยียนและอบรม (ธรรม) ตำรวจในทุกจังหวัดที่รับผิดชอบ นอกเหนือไปติดตามงานตามนโยบายที่ได้สั่งการไว้เมื่อ 4 เดือนหลังเข้ารับตำแหน่ง

    อย่างไรก็ตามสำหรับการบริหารจัดการในพื้นที่รับผิดชอบ "พล.ต.ท.กิตติธัช" บอกว่า ใช้หลักเดียวกันคือ ปรับไปตามสภาพภูมิประเทศ ขอให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศึกษาพื้นที่และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และผมกำกับดูแลอีกชั้นหนึ่ง

    สิ่งหนึ่งที่ขอ คือให้ตำรวจมีหัวใจอยู่กับประชาชนแล้วทุกอย่างไม่ว่าจะพูด ปฏิบัติ หรือให้บริการก็จะราบรื่น"

    เมื่อถามถึงการก่อกวนทางการเมืองลักษณะคลื่นใต้น้ำ พล.ต.ท.กิตติธัช บอกว่า โชคดีที่คนภาคเหนือไม่มีความรุนแรง ทำให้ความกังวลเรื่องคลื่นใต้น้ำไม่น่าวิตก

    แม้ว่าจะยังมีกลุ่มคนที่ยังนิยมในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนากยรัฐมนตรีอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยารุนแรงอะไร

    อาจจะมีบ้างเรื่องระเบิด ขู่วางระเบิดทั้งจริงและของปลอม หรือสร้างสถานการณ์

    ตำรวจมีหน้าที่ทำให้ทุกคดีมีความกระจ่างว่ามาจากเรื่องอะไร สาเหตุจากอะไร

    ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดยืนยันได้ว่าไม่เกี่ยวกับการสร้างสถานการณ์ทางการเมือง

    เมื่อวกมาถามถึงแรงบันดาลใจที่ผลักดันโครงการอบรมธรรมะให้กับตำรวจ"พล.ต.ท.กิตติธัช" บอกว่า "มีโอกาสบวชเรียนที่วัดชัยพฤกษ์มาลา 3 เดือน ขณะติดยศ ร.ต.อ. เป็นช่วงเวลาที่ได้ศึกษาหนังสือธรรมอย่างละเอียด ปัจจุบันยังคงให้ความสนใจและฟังธรรมอย่างต่อเนื่อง

    จึงนำหลักธรรมมาใช้ในการบริหารงานตำรวจด้วย เพราะเชื่อว่าธรรมสามารถผสานเป็นเนื้อเดียวกับทุกอาชีพ โดยเฉพาะอาชีพตำรวจ"

    ก่อนที่จะกล่าวทิ้งท้ายว่า "สิ่งสำคัญนอกเหนือจากความห่วงใยในชีวิตประชาชนเป็นที่ตั้งแล้วตำรวจต้องมีความจริงใจ ปรารถนาดีต่อทุกคน มีสติ รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนอย่างเคร่งครัดสังคมก็จะเป็นสุข"
    -----------------------
    Ref.
    http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01jud14030350&day=2007/03/03&sectionid=0117
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...