การปลดปล่อยพลังงานเก่าของโลก เข้าสู่สังขารมนุษย์ เพื่อชำระล้างผ่านสังขารของมนุษย์!

เรื่องที่จะอธิบายต่อไปนี้ เป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างพลังงานของโลกและเกี่ยวโยงถึงตัวมนุษย์ เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและเข้าใจได้ยากอย่างหนึ่ง แต่จะพยายามอธิบายให้ท่านเข้าใจโดยง่ายขึ้น กล่าวคือ พลังงานเก่าที่เกิดจากมนุษย์รุ่นก่อนๆ กระทำไว้ บางส่วน ได้รับการ "ผนึก" ไว้ตามสถานที่ต่างๆ ของโลกอย่างเหมาะสมลงตัว เพื่อให้โลกไม่ได้รับผลกระทบจากพลังงานเหล่านั้นมากเกินไป จึงต้องเก็บพลังงานเหล่านั้นไว้กระจายตามส่วนต่างๆ ของโลก อนึ่ง พลังงานเก่าเหล่านี้ ก็เป็นของท่านทั้งหลายเอง ที่กระทำไว้แต่ในอดีต ที่ท่านเคยเดินทางมายังโลก "ผ่านสังขารอื่น" ที่ได้สลายลงคืนแก่โลกไปแล้ว แต่พลังงานบางส่วนนั้น ยังไม่อาจปรับเข้ากับโลกได้ (สังขารสลายแล้ว ได้ธาตุดิน, น้ำ, ลม, ไฟ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อโลก) ดังนั้น สิ่งที่ท่านคั่งค้างต่อโลกและต้องทำต่อไปคือ "การชำระล้างพลังงานเก่าของท่านเอง" ซึ่งกำลังจะได้รับการ "ปลดปล่อย" ออกมาจากแหล่งต่างๆ ทั่วโลก และทุกครั้งที่มีการปลดปล่อยพลังงานเก่าจากแหล่งนั้นๆ ผลคือ " ภัยพิบัติ" เพราะผลกระทบทางโครงสร้างพลังงานนั้นเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ธาตุทั้งสี่ได้รับความกระเทือน และกลายเป็นภัยพิบัติดังที่ท่านเห็น ยกตัวอย่างเช่น การผนึกพลังงานเก่าของชาวญี่ปุ่นในยุค "ซามูไร" เอาไว้ เพื่อปลดปล่อยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำให้เกิด "ซึนามิ" ที่ประเทศญี่ปุ่น และพลังงานเก่าเหล่านี้ ไม่ได้ประสานผ่านสังขารของชาวญี่ปุ่นปัจจุบัน เพราะพวกเขาไม่ใช่ต้นตอของพลังงานเก่าเหล่านี้ พลังงานเก่าเหล่านี้ บางส่วนได้เคลื่อนย้ายมายังประเทศไทย เพราะสังขารของชาวไทยนั้น อดีตก็เคยสร้างพลังงานเก่าเหล่านี้ ทิ้งค้างเอาไว้ ดังนั้น พลังงานเก่าเหล่านี้จึงเคลื่อนย้ายตามมาที่ประเทศไทย ดังนั้น เราจะเห็นสื่อต่างๆ สร้างกระแสให้คนไทยเปิดใจรับ "วัฒนธรรมญี่ปุ่น" เพื่ออะไร? เพราะนี่คือ "วิธีเปิดใจให้ท่านรับพลังงานเก่าของท่านเอง" ไปชำระล้างเสีย และเป็นสาเหตุที่เราให้สังขารที่ทำงานสื่อสารกับท่านอยู่นี้ ใช้รูป "เรียวมะ" ด้วย นี่เป็นเพียงวิธีเปิดใจให้ประสานกับพลังงานเก่าที่ได้รับการปลดปล่อยออกมาแล้ว เพื่อการชำระล้างเท่านั้นเอง ยังมีกระบวนการที่ยุ่งยากซับซ้อนอีกมาก ที่เราจะอธิบายให้ท่านเข้าใจต่อไป

 

ผลจากการชำระล้างพลังงานเก่า ทำให้ได้พลังงานใหม่ที่สอดคล้องกับจักรวาล


พลังงานเก่าเมื่อชำระล้างแล้วจะกลายเป็น "พลังงานใหม่ ที่สอดคล้องกับจักรวาล" เอง
โดยที่ท่านไม่จำเป็นต้อง "รับพลังงานจักรวาลโดยตรง" เพียงอย่างเดียว อนึ่ง การที่เรา
แนะนำให้ท่าน "เปิดรับพลังงานจักรวาล" เพื่อให้ท่านเรียนรู้, พิสูจน์ และทดลองใช้ก่อน
เมื่อท่านชำนาญและเคยชินกับการใช้พลังงานใหม่จากจักรวาลแล้ว ท่านก็สามารถเลือก
ใช้ "พลังงานใหม่จากโลก" ซึ่งเกิดจาก "การชำระล้างพลังงานเก่า" ได้เช่นกัน ท่านอาจ
เลือกใช้พลังงานใหม่ได้ทั้งสองทาง คือ ๑ พลังงานใหม่จากจักรวาลโดยตรง โดยไม่ต้อง
ผ่านกระบวนการชำระล้าง และ ๒ พลังงานใหม่จากโลก ที่เกิดจากการชำระล้างพลังงาน
เก่า ทั้งสองแบบนี้ ล้วนสามารถใช้ได้และได้ผลดีไม่แตกต่างกันเลย ในช่วงแรกนั้นเรามัก
แนะนำให้ท่านรู้จัก และทดลองใช้พลังงานใหม่จากจักรวาลก่อน เพราะเป็นการง่ายกว่าที่
ท่านจะชำระล้างเอง เมื่อท่านเห็นและเข้าใจถึงวิธีการใช้พลังงานใหม่แล้ว เราก็มักแนะนำ
ให้ท่าน "ใช้พลังงานใหม่จากโลก ที่เกิดจากการชำระล้างพลังงานเก่า" เพราะด้วยวิธีเช่น
นี้ จะทำให้กระบวนการชำระล้างนี้ดำเนินไปมากยิ่งขึ้น และเกิดผลดีต่อการดำรงอยู่ร่วมกัน
ของมนุษย์โลกด้วย ซึ่งในผู้ที่ยังไม่ชำนาญในการชำระล้างมากนักก็มักจะใช้พลังงานใหม่
จากจักรวาลไปก่อน แต่สำหรับผู้ที่มีความชำนาญในการชำระล้างมากขึ้นแล้ว ก็สามารถที่
จะใช้พลังงานใหม่อันเกิดจากการชำระล้างพลังงานเก่าของโลกได้โดยตรงไม่แตกต่างกัน

 

กระบวนการปลดปล่อยพลังงานเก่าของโลก จะค่อยเป็นค่อยไป มากยิ่งขึ้น


เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างราบรื่น ไม่ส่งผลกระทบต่อโลกและมนุษย์มากเกิน
ไป เราจึงแนะนำฯ ให้มีการปลดปล่อยพลังงานเก่าของโลก "อย่างค่อยเป็นค่อยไป"
ทำให้กระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก "ช้า แต่เบาลง" มากขึ้น เพื่อให้มนุษย์โลก
ปรับตัวได้ทัน ซึ่งกระบวนการนี้เคยใช้ระยะเวลาที่สั้นแต่รุนแรง (ตามแผนเก่า) แล้ว
ปรับเปลี่ยนมาเป็น "ยาวนานแต่ค่อยเป็นค่อยไป" มากยิ่งขึ้น คือ ใช้เวลาบนโลกทั้ง
หมด ๑๒ ปี ซึ่งตอนนี้ผ่านมาได้ระยะหนึ่งแล้ว (ไม่ใช่เริ่มนับปีนี้เป็นปีแรกนะครับ) ก็
จะทำให้การเปลี่ยนแปลงที่ท่านได้ทราบข่าวในระยะแรกว่าจะรุนแรงมากนั้นลดระดับ
ความรุนแรงลงไปได้ นั่นไม่ใช่การทำนายที่ผิด ขอให้ท่านให้เครดิตแก่ผู้ทำนายด้วย
แต่เป็นเพียงการ "เปลี่ยนใช้แผนการที่ดีขึ้น ตาม การเปลี่ยนแปลงของมนุษย์โลก"
คือ เมื่อมนุษย์โลกวิวัฒนาการได้ดีมีจิตวิญญาณสูงขึ้น แผนการที่รุนแรงมากเปลี่ยน
เป็น "ละมุนละม่อม" แทน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากท่าน
ทั้งหลายบนโลกมนุษย์ด้วย คือ "ถ้าท่านทั้งหลายช่วยกันชำระล้างพลังงานเก่าของ
ท่าน" อย่างได้ผล เราก็จะหวังผลร่วมกันเป็น "การเปลี่ยนแปลงโดยละมุนละม่อม"
ได้ แต่ถ้าท่านทั้งหลาย ไม่สามารถจะทำได้สำเร็จ เราจำเป็นต้องแสดงความเสียใจ
ล่วงหน้าที่เราอาจต้องดำเนินการตามแผนการเดิม (จะเกิดภัยพิบัติรุนแรง) ด้วยเหตุ
นี้ เราจึงให้ความสำคัญกับ "กระบวนการชำระล้าง" มาก เพราะมัน คือ "จุดเปลี่ยน"
ที่ท่านทั้งหลายล้วนมีส่วนร่วมในการ "กำหนดมันเองได้" หากท่านทั้งหลายต้องการ
ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยละมุนละม่อม ท่านก็ต้องยอม ๑ เปิดรับพลังงานเก่าของ
ตนเอง (กรรมของตน, จิตวิญญาณเก่าของตน) ๒ ชำระล้างพลังงานเก่าของตนเสีย
๓ เปลี่ยนไปใช้พลังงานใหม่ ทั้ง ๓ กระบวนการนี้ ช่วยให้โลกได้รับผลกระทบลดลง

 

ยังมีต่ออีกใช่ไหมคะท่านกำลังรออ่านอยู่ค่ะ

 

การไม่ยอมรับพลังงานเก่าของตนเอง ส่งผลให้ได้รับผลกระทบในรูปอื่นแทน


กรณีที่ท่านไม่ยอมเปิดรับพลังงานเก่าของตน (กรรมเก่าของตน, จิตวิญญาณเก่าของ
ตนที่ตกค้างอยู่บนโลกมนุษย์) จะส่งผลให้ท่านได้รับผลกระทบ จากพลังงานเก่าแบบ
อื่นแทน เช่น แทนที่พลังงานเก่า จะเข้ามาในสังขารของท่าน แต่มันจะเข้ามาผ่านทาง
สังขารอื่นๆ รอบตัวของท่าน แล้วเล่นงานท่านผ่านสังขารรอบๆ ตัวท่านแทน ดังนั้น ถ้า
ท่านยอมรับพลังงานเก่าของตนเอง เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการชำระล้างแล้ว ย่อมส่งผล
ให้ท่านได้รับผลกระทบจากพลังงานเก่าของท่านเอง "น้อยที่สุดและเบาที่สุด" ซึ่งท่าน
เองจะต้องระวัง "การกระทำซ้ำรอยเก่า" ด้วย เพราะพลังงานเก่าของท่าน จะขับดันให้
ท่านกระทำซ้ำตามเดิม, เก่าๆ เมื่อครั้งที่ท่านเคยเดินทางมายังโลกนี้ผ่านสังขารอื่นแล้ว
ถ้าท่านขาด "กระบวนการชำระล้าง" เมื่อใด ท่านก็จะกระทำซ้ำเดิมๆ เมื่อนั้น (ทำกรรม
ซ้ำรอยเกวียนเดิม) ซึ่งไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลย ตรงกันข้ามจะส่งผลให้เกิดผลกระทบ
ด้านลบที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นต่อตัวท่านเองในอนาคต ดังนั้น "กระบวนการชำระล้างนี้"
จึงเป็นกระบวนการที่ตอบโจทย์ที่สุด สำหรับท่านที่จะจัดการกับพลังงานเก่าอย่างได้ผล
ทั้งสองกระบวนการนี้ (การยอมเปิดรับพลังงานเก่า และการชำระล้างพลังงานเก่า) ควร
ดำเนินไปควบคู่กัน หากขาดกระบวนการใดกระบวนการหนึ่ง ก็จะส่งผลเสียต่อตัวท่านได้

 

กระทู้พวกนี้มาอยู่ในห้องร้องเรียน แสดงว่าต้องมีอะไรแน่อ ผมเองดูว่าพวกนี้เพี้ยนทั้งนั้น แต่มันก็เพี้ยนในกระทู้ลึกลับนี่น่า ไหงมีใครร้องเรียนพวกเพี้ยนด้วยกันเองหรือ

 

ท่านควรเปิดรับอดีตของตัวท่านเอง เพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้นบ้าง อย่าติดแต่ปัจจุบัน


การที่ท่านติดแต่ปัจจุบันเพียงเพราะท่านมี "ปัจจุบันที่พอดีแล้ว พอใจแล้ว" นั่นคือ ความ
ประมาทอย่างยิ่ง และหลงเพลินในปัจจุบันอย่างยิ่ง เพราะเราได้เตือนท่านทั้งหลาย มาก
มายหลายครั้ง ผ่านสังขารต่างๆ แล้วว่า "สิ่งต่างๆ ล้วนไม่เที่ยง" และอนาคตจะเกิดอะไร
ขึ้นกับท่านและโลกของท่านบ้าง ไม่ใช่เพื่อสร้างความตื่นตระหนกหรือหวังผลอื่นใด ทว่า
เป็นไปเพื่อ "ปลดปล่อยท่านออกจากความหลงเพลินในสุขที่มีในปัจจุบัน" ดังนั้น อย่าไป
กล่าวร้าย ว่าคนที่หวนนึกถึงอดีต เพราะเขาอาจกำลังทบทวนตัวเอง เพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น
อยู่ก็ได้ เพราะอดีตของเรานั้นๆ "เป็นครูที่ดีสำหรับเรา" และด้วยวิธีการ "เปิดรับพลังงาน
เก่าในอดีตของท่านเอง" จึงเป็นวิธีการเรียนรู้การเดินทางของตัวท่านเองได้ดีที่สุด ทำให้
ท่านได้ "ครูที่ดีที่สุด" ในตัวของท่านเองอีกด้วย ที่เราให้ท่าน "หันมองย้อนอดีต" นี้ไม่ใช่
การให้ไปหลงยึดติดอยู่กับอดีตแต่อย่างใด... ไม่เลย แต่เรากำลังแนะนำให้ท่านชำระล้าง
"พลังงานเก่า อันเป็นอดีตของตัวท่านเอง" และท่านจะเข้าใจที่มาที่ไป ของตัวท่านเองได้
อย่างดีที่สุด เข้าใจการเดินทางอันยาวนาน และหลายต่อหลายครั้ง ที่ท่านหลงผ่านเข้ามา
ในโลกใบนี้ได้อย่างดีที่สุดและด้วยวิธีนี้เองที่ทำให้ท่าน "ไม่ต้องเริ่มนับศูนย์ใหม่" ไม่ต้อง
ไปนั่งเรียนอะไรใหม่ๆ จากศูนย์ ไปฝึกอะไรที่ตนเองไม่เคยมีพื้นฐานมาก่อนเลย ทั้งที่ท่าน
เอง "มีพลังงานเก่า" ที่ได้กระทำไว้บนโลกนี้ อยู่ก่อน, นานแล้ว และท่านสามารถต่อยอด
สิ่งนั้นไปสู่ "พลังงานใหม่" ได้ ดังนั้น เราจึงไม่แนะนำให้ท่าน "ไปเริ่มฝึกอะไรใหม่" ด้วย
วิธีแบบนั้น อาจนำไปสู่ "พลังงานเก่าส่งต่อไปยังโลกอนาคต" คือ สร้างพลังงานเก่าออก
มาใหม่ เพิ่มขึ้นมา แล้วไม่หลุดพ้น ไปรอท่านเองในอนาคต เมื่อท่านไม่สร้างสิ่งใหม่ที่ไม่
หลุดพ้น ให้กลายเป็นพลังงานเก่าของโลกอนาคตได้แล้ว เท่ากับตัดวงจรการสืบต่อของ
พลังงานเก่าไปได้ด้วย (ตัดวงจรการสร้างชาติสืบภพ) ดังนั้น สิ่งที่เราแนะนำให้ท่านนี้จึง
ไม่ใช่การสร้างปัจจุบันให้เกิดใหม่เพื่อสืบไปสู่อนาคตเลยแต่เป็นการ "ยอมรับของเก่าใน
อดีตเพื่อชำระล้างให้หมดสิ้นกระบวนการสืบต่อชาติภพไป" ณ เวลาปัจจุบันนี้ เท่านั้นเอง

 

ในโลกมนุษย์ของท่านนั้น ท่านคงเห็น "กระแสย้อนยุค" แล้ว ทำไมกระแสย้อนยุคจึงเป็นที่ยอมรับ และมนุษย์จำนวนมาก "เปิดใจรับอดีตเหล่านี้" นี่เพราะเขาเหล่านั้น กำลังเข้าสู่กระบวนการ "ชำระล้าง" อยู่ นั่นเอง และสิ่งเหล่านี้ กำลังดำเนินไปข้างหน้าในวงกว้างขึ้น ได้รับการยอมรับจากมนุษย์มากยิ่งขึ้น สิ่งที่เหลือต่อไปนี้คือ "กระบวนการชำระล้าง" ที่เราจะแนะนำแก่ท่านทั้งหลายให้ดำเนินการต่อไป (ผ่านบทความหลายบทความที่ได้นำเสนอแล้ว) เพื่อให้ท่านทั้งหลายพัฒนาตนเอง, เร่งกระบวนการวิวัฒนาการภายในของตัวเอง, ลดผลกระทบจากภัยพิบัติของโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ และท้ายที่สุด ท่านจะได้รับ "ความรอด" เหมือนสัตว์ทั้งหลายบนโลกใบนี้ ที่ได้รับความรอดพ้นจาก "การสูญพันธุ์" เพราะมีการวิวัฒนาการทันต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ นั่นเอง สุดท้ายนี้ ขอลาก่อน สวัสดี

 

จบการสื่อสารจากจักรวาล


๑๖ ก.ค. ๒๐๑๑
รับสื่อสารโดย "อพอลโล่"

 

สิ่งที่เราสื่อสาร เราจะมีประสบการณ์ร่วมกับสิ่งนั้นด้วย

เคลียร์จ้า

ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ ^^

 

กระแสย้อนยุค ใช่เลยคะ

 

รู้ไหมว่าเราซาบซึ้งใจแค่ไหน
และรู้ไหมว่าเรานั้น ปลาบปลื้มเท่าไหร่
ที่ได้มีเธอ เป็นพลังอันสำคัญ
เพราะว่าเรานั้นรู้เธอทำเพื่อใคร
เหน็ดเหนื่อยแค่ไหน เธอไม่ไหวหวั่น
เพื่อที่จะให้เรานั้นได้เดินต่อไป
แม้ว่าจะไม่มีใครมองเห็นเธอ
แต่ว่าสำหรับเรานั้น...
เธอเหมือนดังกับแสง ที่มองไม่เห็น
แต่เมื่อส่องมาสะท้อน สิ่งที่ซ่อนเร้น
ก็เด่นชัดขึ้นทันที
เปรียบเธอกับแสง แม้ไม่มีสี
แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด
ถึงแม้ว่าพรุ่งนี้ จะเป็นเช่นไร
วันและคืนจะหมุนเปลี่ยนสักเท่าไหร่
เรานั้นก็แน่ใจ ว่าจะมีเธอยืนอยู่ข้างหลัง
แม้ว่าจะไม่มีใครมองเห็นเธอ
แต่สำหรับเรานั้น...
เธอเหมือนดังกับแสง ที่มองไม่เห็น
แต่เมื่อส่องมาสะท้อน สิ่งที่ซ่อนเร้น
ก็เด่นชัดขึ้นทันที
เปรียบเธอกับแสง แม้ไม่มีสี
แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด
จึงอยากขอมอบเพลง เพลงนี้ให้
ให้เธอรับรู้ว่าสำหรับเรา เธอสำคัญเพียงไหน
เธอเป็นดั่งแสง ที่มองไม่เห็น
แต่เมื่อส่องมาสะท้อน สิ่งที่ซ่อนเร้น
ก็เด่นชัดขึ้นทันที
เปรียบเธอกับแสง แม้ไม่มีสี
แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด
แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด

(เพลง แสงหนึ่งคือรุ้งงาม ศิลปิน บอย โกสิยพงษ์ feat.นภ พรชำนิ) ​