กว่าจะได้ฉายา "โหรการเมือง" ดร.บุญเลิศ ไพรินทร์ ส.ว.ฉะเชิงเทรา

ในห้อง 'พุทธศาสนากับคนดัง' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 25 กุมภาพันธ์ 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,173
    ตั้งแต่เด็ก จะเห็นพ่อเก่งในเรื่องไสยศาสตร์อย่างมาก เนื่องจากท่านไปเรียนมาจากเขมร โดยเห็นพ่อปลุกเสกของแล้วให้คนแล้วเอาขวานฟันก็ไม่เข้า
    เวลาชาวบ้านเดือดร้อน วัวควายหาย ก็จะมาหาพ่อเพื่อให้พ่อดูว่าขโมยเอาไปทางไหน ขโมยเป็นคนในหมู่บ้านหรือไม่ มีผิวสีอะไร ส่วนใหญ่พ่อจะทายได้แม่นยำ ทำให้ชาวบ้านให้ความเชื่อถือมาโดยตลอด
    ส่วนตัวกลับไม่เชื่อในเรื่องที่พ่อทำทั้งหมด ก่อนจะมาเชื่อเมื่อประสบกับตัวเอง
    สมัยก่อนรับข้าราชการถือว่าการได้เลื่อนขั้นเป็นชั้นพิเศษ ถือว่าสูงที่สุดของการทำงานราชการ ทำให้อยากได้ชั้นพิเศษบ้าง ช่วงนั้นคิดว่าเราคงไม่ได้แล้ว ก็มีความกังวลใจมาก จึงออกเดินดูดวงตั้งแต่เทเวศร์เรื่อยไปจนถึงสมาคมโหร ท่าพระจันทร์
    ดูหมอถึง ๖ คน โดยหมอดูทั้งหกต่างยืนยันว่าจะได้เลื่อนขั้นเป็นชั้นพิเศษ แม้ว่าหมอดูจะบอกว่าได้ แต่ก็ตอบกับตัวเองว่าไม่น่าจะได้
    "สมัยนั้นเขามีการแบ่งส่วนราชการออกเป็น ๒ ส่วน แต่มีคนอาวุโสที่รอจะเลื่อนชั้นพิเศษถึง ๔ คน พอมองตัวเองก็เป็นแค่ลูกชาวนา ไม่มีเส้นสายอะไร แต่ดวงคนเรามันจะได้ บังเอิญว่าปีนั้นเขาได้แบ่งส่วนราชการออกเป็น ๔ ส่วน ทำให้ทุกคนได้ชั้นพิเศษทั้งหมด เป็น เรื่องประหลาดอย่างมากกับการดูดวง" นี่คือที่มาของความเชื่อไสยศาสตร์
    ส.ว.บุญเลิศ กล่าวต่อไปอีกว่า หลังจากได้แล้วก็มาทบทวนคำทำนายว่าเขาเอาอะไรมาทำนายกัน ถึงได้ทายแม่นอย่างนี้
    พอรู้ว่าได้แน่นอน จึงได้เดินทางไปซื้อหนังสือตำราโหราศาสตร์ที่ร้านเขษมบรรณกิจ เวิ้งนครเขษม โดยซื้อมาทั้งหมด ๑๒ เล่ม อ่านจบ ภายในคืนนั้นตั้งแต่ ๓ ทุ่ม ถึงตี ๔ เชื่อไหมว่าสามารถผูกดวงได้ภายในคืนนั้น แต่ตามปกติ ต้องเรียนกันหลายเดือนกว่าจะผูกดวงได้
    พอศึกษาแล้วทำให้รู้ทันทีว่าที่หมอดูทั้ง ๖ คน ดูดวงว่าจะได้เลื่อนชั้นพิเศษ มีสาเหตุมาจากดาวพฤหัสบดีจะให้คุณอยู่ในตำแหน่งการงาน เป็นมหาอุด ให้คุณสูงสุดในเรื่องของการงาน ใครดูดวงให้ก็ต้องบอกว่าได้ตรงกันแน่นอน
    จากนั้นได้เดินทางไปเมืองนอก จึงได้ซื้อหาตำราโหราศาสตร์ของเมืองนอกมาอ่าน พบว่าตำราโหราศาสตร์ทั่วโลกจะเหมือนกันหมด แต่คนไทยยังคงงมงายเกี่ยวกับเรื่องของไสยศาสตร์อยู่มาก เช่น การกราบไหว้พระราหู ไหว้พระอาทิตย์ พระจันทร์ มากมาย ซึ่งการไหว้เป็น เรื่องที่ดี แสดงถึงความเคารพธรรมชาติที่มีบุญคุณต่อเรา ถ้าใครที่ไหว้เพราะความงมงายไม่ควรทำ หากไปไหว้เพื่อสะเดาะเคราะห์ก็ไม่เป็นไร
    ถ้าคนเราคิดว่าโหราศาสตร์เป็นวิทยาศาสตร์ พลังงานจากดวงดาวเป็นพลังงานที่ไม่สามารถจะเปลี่ยนใจได้ คงไม่มีใครไปยกมือไหว้แล้ว พระอาทิตย์จะส่องแสงดีมาให้มันเป็นไปไม่ได้ ราหูไม่ได้เป็นยักษ์มารอะไร เป็นเพียงเงามืดเหนือดวงจันทร์
    ชาวต่างประเทศมองว่า เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ดิน น้ำ ลม ไฟ ก็เหมือนกัน
    สำหรับการลงสมัคร ส.ว.ครั้งที่ผ่านมา ตั้งใจจะลงสมัครในกรุงเทพฯ เนื่องจากทำงานอยู่ที่ ก.พ.มากว่า ๓๐ ปี รู้จักข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม และความที่มีพื้นฐานเป็นครูมาก่อนจึงพิมพ์ ส.ค.ส.ส่งถึงครู กทม. ๔๐๐ กว่าโรงเรียน เป็นจำนวนหลายหมื่นคน พอดูดวงตัวเอง พบว่าไม่ได้เป็น ส.ว.กรุงเทพฯ แต่จะได้เป็น ส.ว.ที่บ้านเกิด จ.ฉะเชิงเทรา เพราะเป็นวันเกิดครบรอบ ๖๐ ปี โดยมีดาวเสาร์ ดาวพฤหัสบดี มาอยู่ที่เดิมตรงราศีเมษ ลัคนาราศีตุล ทำให้ตัวเองต้องไปเกิดใหม่ที่บ้านเกิดตัวเอง
    ชีวิตหลังหมดวาระก็เตรียมลงสมัคร ส.ส.กับพรรคที่มีนโยบายชัดเจนในเรื่องของการบำรุงพระพุทธศาสนา จึงได้ดูดวงแล้ว ซึ่งก็ปรากฏว่า ได้เป็นส.ส.แน่นอน ได้ทั้ง ส.ส.เขต และส.ส.บัญชีรายชื่อ เพราะไปตรงกับปีที่ได้เป็นประธานนักเรียนทุน ๑๑ จังหวัด รุ่นเดียวกับ ดร.รุ่ง แก้วแดง
    แล้วยังดูดวงอีกว่าหลังจากเลือกตั้ง ส.ส.แล้ว ดวงจะดีขึ้นอีก
    นอกจากนี้ ส.ว.บุญเลิศ ยังกล่าวว่า ปัจจุบันเป็นคนที่ไม่แขวนพระเครื่องแล้ว เพราะมองว่าทุกอย่างอยู่ที่ใจ เพราะถ้าทำตามคำสอนของ พระพุทธเจ้าให้เรารักษาศีล ๕ เอาไว้ได้ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับตัวเอง และทำให้เราเป็นคนดีได้อยู่แล้ว
    การทำความดีหรือความชั่วไว้ในอดีตชาติก็จะส่งผลมาถึงชาตินี้ การตายนั้นร่างกายจะดับสูญก็จริง แต่จิตไม่ได้เปลี่ยน กรรมที่ทำชั่วหรือ ทำดีก็ยังคงติดตามมายังจิตของตัวเองถึงชาตินี้หรือชาติหน้าต่อไป "วันนี้ผมเชื่อหมื่นเปอร์เซ็นต์แล้วว่า คนเรายังต้องเวียนว่ายตายเกิดกันต่อไป จนกว่าเราจะกำจัดความโลภ โกรธ หลงได้ โดยมรรค ๘ คือ ๑.สัมมาทิฏฐิ ๒.สัมมาสังกัปปะ ๓. สัมมาวาจา ๔.สัมมากัมมันตะ ๕.สัมมาอาชีวะ ๖.สัมมาวายามะ ๗.สัมมาสติ ๘.สัมมาสมาธิ เรายังทำกันไม่ได้ และตราบใดที่เราทุกคนยังมี โลภ โกรธ หลง ก็ยังคงต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย เวียนอยู่แบบนี้" ส.ว.บุญเลิศ กล่าวทิ้งท้าย
     

แชร์หน้านี้

Loading...