กรรมเหนือหมอดู

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย paang, 17 กันยายน 2009.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,326
    [​IMG]

    กรรมเหนือหมอดู
    โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

    ผมเป็นศิษย์โหร แต่มิได้เป็นโหร หลวงพ่อเจ้าคุณพระภัทรมุนี หรือมหาอิ๋น เจ้าอาวาสวัดทองนพคุณ ธนบุรี (สมัยนั้น) เป็นโหราจารย์ชั้นยอด สมัยนั้นมีโหราจารย์ที่ดังอยู่เพียงสองท่านเท่านั้น คือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อยู่ ญาโณทยมหาเถระ) ซึ่งต่อมาเป็นสมเด็จพระสังฆราช อีกรูปหนึ่งคือพระภัทรมุนี

    แต่โหรสมัยก่อนเขามิได้ทายส่งเดช อย่างหลวงพ่อเจ้าคุณพระภัทรมุนี ท่านเป็นที่ปรึกษาทางจิตใจให้แก่ศิษย์มากกว่าเป็นหมอดู เรื่องประเภทไหนควรทาย ไม่ควรทายท่านมี “จรรยาบรรณ”

    บางทีกว่าจะทายได้สักราย ท่านคำนวณแล้วคำนวณอีกถึงสองสามวันก็มี ไม่แน่ใจท่านก็ไม่ทาย

    มีเรื่องเล่าว่า หนุ่มสาวคู่หนึ่งจูงมือมาให้หลวงพ่อกำหนดวันแต่งงานให้ ท่านดูๆ แล้ว บอกว่าท่านไม่สามารถให้ฤกษ์ได้ ขอให้ไปหาสมเด็จฯ วัดสระเกศ สองคนก็ไปหาสมเด็จฯ และก็ได้ฤกษ์ไป มีผู้ถามสมเด็จฯ ภายหลังว่า ทำไมเจ้าคุณอิ๋นไม่ให้ฤกษ์ สมเด็จฯ บอกว่า “เจ้าคุณท่านดูแล้วสองคนนี้จะอยู่ด้วยกันไม่ตลอด แต่อาตมาถือว่า เขาเป็นคู่กันต้องได้แต่งงานกัน ส่วนต่อไปนั้นจะเป็นอย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง จึงให้ฤกษ์แต่งไป”

    ถูกทั้งสองรูป รูปหนึ่งมองว่าถ้าจะแต่งงานกันก็ควรไปได้ตลอด อีกรูปหนึ่งมองว่า ดวงมันเป็นคู่กันก็ต้องได้แต่งงานกัน ส่วนจากนั้นไป จะอยู่ด้วยกันยืดหรือไม่ เป็นเรื่องของทั้งสองคน แล้วแต่จะมอง

    เมื่อผมสอบเปรียญเก้าประโยคได้แล้ว หลวงพ่อพยายามชักจูงให้ผมเรียนโหราศาสตร์ ผมก็ยืนยันว่า ไม่อยากเป็น “หมอดู” หลวงพ่อบอกว่า โหร มิใช่หมอดู เราศึกษาโหราศาสตร์ให้เชี่ยวชาญ เพื่อนำไปใช้ในการแก้ปัญหาชีวิต ไม่จำเป็นต้องพยากรณ์ใคร คล้ายจะบอกว่า โหราศาสตร์กับพยากรณ์ศาสตร์แยกกันได้

    แต่ผมก็เห็นโหรส่วนมากท่านก็พยากรณ์ทั้งนั้น

    ผมแย้งว่าพระพุทธเจ้าท่านตำหนิเป็น “ติรัจฉานวิชชา” มิใช่หรือ ท่านตอบว่า ถ้าเอาคำจำกัดความว่า ติรัจฉานวิชชาคือ วิชชาที่ขวางต่อการบรรลุมรรคผลนิพพาน เณรเรียนนักธรรมบาลีก็เข้าเกณฑ์นี้ทั้งนั้น

    ผมจำนนท่าน แต่ผมก็ไม่ยอมเรียนอยู่ดี ไม่งั้นป่านนี้เป็นหมอดูแม่นๆ ไปแล้ว

    หลวงพ่อเล่าว่า ปราชญ์โบราณท่านเรียนโหราศาสตร์ทั้งนั้น สมเด็จพระจอมเกล้าฯ รัชการที่สี่ สมเด็จมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เป็นต้น ก็ทรงเชี่ยวชาญโหราศาสตร์ทั้งนั้น แต่ก็ไม่เห็นท่านใช้โหราศาสตร์พยากรณ์ใครเป็นอาชีพ แล้วท่านก็เล่าเรื่องที่ต่างๆ ให้ผมฟังแล้วก็ตื่นเต้นด้วยความดีใจที่ได้รับรู้เรื่องราวเก่าๆ ชนิดจะไปหาอ่านที่ไหนไม่ได้

    ก่อนทรงศึกษาโหราศาสตร์นั้น พระวิชรญาณ (สมเด็จพระจอมเกล้าฯ รัชกาลที่สี่) ทรงได้รับพยากรณ์จากหลวงตาเฒ่ารูปหนึ่งดูเหมือนชื่อ ทอง แห่งวัดตะเคียนว่า จะได้ราชสมบัติแน่นอน รับสั่งว่าให้เป็นจริงเถอะ จะสมนาคุณอย่างงามเลย แล้วในที่สุดก็ทรงได้ขึ้นครองราชย์จริงๆ ทรงรำลึกถึงหลวงตาเฒ่าวัดตะเคียนขึ้นมา ตั้งพระทัยจะไปนมัสการ ก็ทรงทราบว่า หลวงตาเฒ่ามรณภาพไปนานแล้ว จึงทรงปฏิสังขรณ์เป็นการบูชาคุณหลวงตาเฒ่าแล้วพระราชทานนามวัดใหม่ว่า วัดมหาพฤฒาราม (แปลว่า วัดที่สร้างถวายพระผู้เฒ่า)

    เมื่อทรงเชี่ยวชาญในโหราศาสตร์แล้ว ก็มิได้ทรงใช้วิชาโหราศาสตร์ทำนายทายทักอะไร นอกจากทรงวิพากษ์วิจารณ์ดวงพระชาตาของพระราชโอรสบางองค์ ดังทรงวิจารณ์ดวงพระชาตากรมหมื่นพิชิตปรีชากร ที่โหรทั้งหลายว่าเป็นดวงแตก เอาดีไม่ได้ ว่าถ้าถอดดวงให้ละเอียดแล้ว กลับเป็นดวงดีอย่างยิ่งเป็นต้น

    และทรงสามารถใช้โหราศาสตร์แก่เคล็ดได้อีกด้วย ดังทรงเห็นว่าดวงพระชาตาพระอนุชาธิราชแข็งมาก จะได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน เมื่อถูกอัญเชิญลาสิกขาเพื่อไปครองราชย์ พระองค์จึงทรงสถาปนาพระอนุชาธิราชให้เป็นกษัตริย์พระองค์หนึ่งพระนามว่า พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่ากันว่าทรงแก้เคล็ดทางโหราศาสตร์

    สองสามวันมานี้มีข่าวโหร หรือหมอดูแม่นชื่อ หมอดูอีที (ขอประทานโทษถ้าฟังมาผิด) เป็นชาวพม่า ทำนายดวงนักการเมืองดังๆ มามาก หลายท่านก็ว่าทำนายได้แม่นยำ

    อย่างป๋าเหนาะท่านว่า ท่านเองก็เคยให้หมอดูอีทีทำนาย แม่นมาก “ขนาดเงินกระเป๋าผม ยังทายได้เลยว่า มีใบพัน ใบห้าร้อย ใบร้อยกี่ใบๆ และแต่ละใบเลขอะไร” แล้วท่านเล่าต่อ หมอเขาก็เตือนว่า

    ระวังจะถูกหลักหลัง ดวงทำบุญคนไม่ขึ้น หมอยังบอกว่าใครควรคบไม่ควรคบ ถึงตรงนี้เสียงนักข่าวแทรกขึ้นว่า “แล้วหมอบอกหรือเปล่าว่าคนหน้าเหลี่ยมไม่ให้คบ” ป๋าท่านก็บอกว่าไม่เอาแล้วๆ อย่าถามมาก อะไรประมาณนั้น

    หมอดูที่ทายแม่นยังกับตาเห็น มีมาทุกยุคทุกสมัย แต่ส่วนมากทายอดีตและปัจจุบันค่อนข้างแม่น แต่ทายอนาคตไม่ค่อยแม่น นานๆ จะทายอนาคตค่อนแม่นยำ ดังกรณีซินแสมองหน้าพระหนุ่มสองรูปกำลังเดินบิณฑบาตอยู่ แล้วก็หัวเราะชอบใจ พระหนุ่มสองรูปถามว่า หัวเราะอะไร ซินแสตอบว่า

    “ลื้อสองคงนี้จะได้เป็นพระเจ้าแผ่งลิง (แผ่นดิน)” แล้วก็หัวเราะเห็นฟันเหลือง

    คราวนี้ พระคุณเจ้าทั้งสองรูปหัวเราะบ้าง ดังกว่าเสียงของซินแส ไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้อย่างไร สองคนเป็นพระเจ้าแผ่นดินพร้อมกัน ! ถ้าซินแสแกมีอายุยืนยาวจนได้เห็นว่าอดีตพระหนุ่มสองรูปนั้นได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินจริง คือ พระสินได้เป็นสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระทองด้วงได้เป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

    แกก็คงหัวร่อชอบใจที่แกพยากรณ์แม่นจริงๆ

    ทำไมการพยากรณ์อดีตจึงแม่น พยากรณ์อนาคตไม่แม่น

    ตอบง่ายนิดเดียว เพราะชีวิตคนมิได้ขึ้นอยู่กับโหราศาสตร์เป็นเงื่อนไขอย่างเดียว มันย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามเงื่อนไขปัจจัยอีกมากมาย อดีตนั้น “นิ่ง” แล้ว ไม่มีเงื่อนไขอะไรมาผลักดันให้เป็นอื่นได้ เพราะฉะนั้น การทำนายทายทักจึงมักจะตรง แต่ปัจจุบันและอนาคต มันยังเคลื่อนไหวเพราะเหตุปัจจัยอีกหลายอย่าง ยังไม่นิ่ง

    เงื่อนไขที่สำคัญที่สุดคือ “กรรม” (การกระทำ) ของคนๆ นั้นเอง เขาทำทั้งกรรมดีและกรรมไม่ดีคละกันไป สิ่งเหล่านี้แหละมีแนวโน้มจะให้ผลในอนาคต ไม่ว่าดีหรือไม่ดี

    พูดอีกนัยหนึ่ง เราเป็นผู้กำหนดอนาคตเราเอง ถ้าต้องการให้ชีวิตเป็นไปอย่างใด ก็ต้องสร้างเงื่อนไขที่ดีๆ ไว้ให้มาก แล้วอนาคตจะไปดีเอง ตรงข้ามถ้าสร้างแต่เงื่อนไขไม่ดี อนาคตก็เป็นไปตามนั้น

    ลองฟังนิทานชาดกนี้ดู พระราชาสองเมืองทำสงครามกัน ผัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ถึงฤดูฝนก็หยุดพักสิ้นฤดูฝนก็รบใหม่ เป็นอย่างนี้มานาน จนมีคนไปถามฤๅษีว่า พระราชาองค์ไหนจะชนะ ฤๅษีก็ไปถามพระอินทร์อีกต่อ พระอินทร์บอกว่าพระราชาเมือง ก. จะชนะ เมือง ข. จะพ่ายแพ้ ข่าวนี้ก็ไปเข้าพระกรรณของพระราชาทั้งสององค์ที่ได้รับคำทำนายว่าจะชนะ ก็ดีใจ ประมาท เลี้ยงฉลองกันมโหฬารตั้งแต่ยังไม่รบ ไม่ฝึกปรือกองทัพให้พร้อม สบายใจว่าจะชนะแน่ ส่วนพระราชาที่หมอทำนายว่าจะแพ้ ก็ไม่ยอมถอดใจ ตั้งหน้าตั้งตาฝึกปรือกองทัพอย่างเข้มงวด วางแผนรุกแผนรับไว้อย่างพร้อมสรรพ

    เมื่อถึงคราวรบจริง เรื่องก็กลับตาลปัตร ฝ่ายที่ว่าจะชนะ ก็ถูกตีกระจุย ฝ่ายที่ว่าจะแพ้ ก็กำชัยชนะไว้ได้ พระราชาองค์ที่ฤๅษีว่าจะชนะ จึงไปต่อว่าฤๅษีหาว่าทำนายส่งเดช ฤๅษีก็หน้าแตกไปตามระเบียบ จึงไปต่อว่าพระอินทร์หาว่าทายซี้ซั้ว ทำให้แกผู้นำคำทำนายไปเผยแพร่เสียหน้า พระอินทร์กล่าวว่า

    “ไม่ผิดดอก ถ้าปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของมัน พระราชา ก. จะชนะแน่นอน แต่บังเอิญว่ามีเงื่อนไขใหม่เข้ามาเกี่ยวข้องคือ ความพากเพียรพยายามฝึกฝนฝึกปรือกองทัพของพระราชาเมือง ข. การณ์จึงกลายเป็นตรงกันข้าม”

    แล้วพระอินทร์จึงกล่าวปรัชญาว่า

    “คนที่พยายามจนถึงที่สุดแล้ว แม้เทวดาก็กีดกันไม่ได้”

    อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องของเหลียวฝาน ที่มิสโจ แปลไว้ในหนังสือ โอวาทสี่ของเหลี่ยวฝาน ที่พิมพ์เผยแพร่มาหลายครั้งแล้ว

    เหลี่ยวฝานเดิมชื่อเสวียห่าย ได้พบผู้เฒ่าข่ง ผู้เฒ่าทำนายว่าจะได้เป็นขุนนาง ปีไหนจะเป็นอย่างไรบอกไว้หมด และว่าท่านเหลี่ยวฝานจะไม่มีบุตร และจะตายเมื่ออายุได้ 50 ปี

    คำพยากรณ์ของท่านผู้เฒ่า แม่นยำมาตลอด จนท่านคิดว่าชะตาชีวิตคนเราถูกฟ้าดินกำหนดมาแล้ว ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เลยไม่คิดที่จะขวนขวายพยายามต่อไป ปล่อยให้เป็นไปตามฟ้าลิขิต ต่อมาท่านได้พบ พระเถระนาม ฮวิ๋นกุ ท่านได้สอนว่า ชะตาชีวิตเป็นสิ่งไม่แน่นอน อนาคตเราต้องสร้างเอง คนทำดีชะตาก็ดี ทำชั่วชะตาก็ชั่ว เมื่อต้องการอนาคตดี ต้องทำดี ถ้าประกอบแต่ความไม่ดี แม้ชีวิตดีมาแล้วก็กลายเป็นร้ายได้

    เหลี่ยวฝานได้เล่าคำทำนายของท่านผู้เฒ่าให้พระเถระฟัง ว่าที่ท่านทำนายไว้ถูกต้องแม่นยำมาตลอด ยังเหลือแต่สองข้อสุดท้าย คือจะไม่มีบุตร และสิ้นชีวิตเมื่ออายุ 50

    พระเถระกล่าวว่า ให้ตั้งปณิธานว่าจะทำดีให้มาก สั่งสมบารมีให้มาก ไม่ยอมตนอยู่ในอิทธิพลของคำพยากรณ์ต่อไป บุญกุศลใดที่ทำด้วยความจริงใจ บริสุทธิ์ใจ แม้กระทำครั้งเดียว ก็เท่ากับกระทำหมื่นครั้งทีเดียว

    ท่านก็เชื่อพระเถระ ตั้งหน้าทำแต่ความดีงาม สำรวจความดีความชั่วของตนเองว่า วันหนึ่งๆ ทำความชั่วอะไรบ้าง ความดีอะไรบ้าง แล้วพยายามลบความชั่วด้วยความดีเรื่อยๆ จนมีความดีเพิ่มมากขึ้น แล้วท่านก็ชนะชะตาชีวิต คือได้บุตรชายคนหนึ่ง เมื่อถึงอายุ 50 ปี ก็มิได้ตายดังคำทำนายของผู้เฒ่าข่ง อยู่มาถึงอายุ 69 ปี

    ท่านจึงแน่ใจว่า คนเราถ้าไม่ขวนขวายพยายาม ปล่อยชีวิตไปตามยถากรรม ก็ตกอยู่ใต้อิทธิพลของฟ้าดิน แต่กรรมเท่านั้นที่เป็นตัวกำหนดอย่างแท้จริง นั่นคือเราต้องสร้างอนาคตของเราเอง คนที่พยายามพึ่งตัวเองด้วยการกระทำแต่ความดีถึงที่สุดแล้ว ย่อมอยู่เหนือโชคชะตา ถ้าใครคิดว่าชีวิตถูกลิขิตมาอย่างใดก็ย่อมเป็นอย่างนั้น แก้ไขไม่ได้เลย ผู้นั้นถึงจะเป็นคนคงแก่เรียนเพียงใด ก็นับว่าโง่อยู่นั้นเอง



    catt14
    ที่มา http://www.budpage.com/
     
  2. ployk

    ployk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +43
    บุญไม่เคยทำ บารมีไม่เคยสร้าง ดังนั้นอย่ามัวรอใครที่ไหนให้มาช่วยเรา ตัวเราเองนี่ล่ะ จักเป็นที่พึ่งแห่งตน

    เรื่องบุญนี่ อย่าไปทำเพราะอยากได้บุญ เพราะยิ่งอยาก มันก็ยิ่งห่างจากพุทธวิถี

    จงอย่าเชื่อแบบไร้สติครับ


    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p>ผมว่าอ่านแล้วได้แง่คิดมากๆ ยกนิ้ว 10 นิ้ว ให้ ทุกวันนี้มีแต่คนมีญาณ สแกนกรรม ผมว่าจะเป็นธุรกิจมากกว่า 80 % 20 % อาจจะจริง (ยังไม่เคยเจอ)</o:p>
     
  3. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,247
    ค่าพลัง:
    +68,038
    เห็นด้วย คือ ส่วนตัวแล้วไม่ชอบการดูหมอดู แม้แต่ดูฟรียังไม่ดูเลยค่ะ
    คือ เห็นตัวอย่างจากคุณน้าที่เป็นญาติกัน ตอนแรกๆ แกก็มีความสงบสุขดี
    แต่ไม่รุ้นึกไง แกไปดูหมอ หมอก็ดั๊นทักแก ว่าระวังนะสามี จะมีเมียน้อย เท่านั้นล่ะ
    แกเลยไม่เป็นอันกินอันนอน คอยคุมสามีทุกฝีก้าว ทำให้ครอบครัว ไม่สงบสุข
    จริงๆแล้วแกไม่ได้เชื่อมากมายอะไร แต่เรื่องนี้มันมาสะกิดใจ น้าเราพอดี เพราะน้าเรามีสามีหล่อ
    หมอดูก็ดันมาทักซะงั้น เขาเรียกอยู่ดีๆ ไม่ว่าดี......
    เป็นที่ประหลาดใจว่าคนมีญาณ สเก็ชท์กรรม สแกนกรรม มีออกมาเยอะจริงๆ
    หากท่านเหล่านั้นสามารถมองเห็นกรรมเวร ผู้อื่นได้ ทำไม ไม่ บอกเขาแก้กรรมเป็นทานไปฟรีๆ
    ทำไมต้องเสียค่าใช้จ่าย อันนี้ไม่ได้ต้องการจะต่อว่าท่านผุ้ใดนะคะ ในเมื่อเกี่ยวกับเวรกรรม ทำไมไม่ทำบุญทำทานโดยการสแกนกรรมให้ผู้อื่นฟรีๆ หนอ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2009
  4. mmie

    mmie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +1,986
    จริงแท้ที่สุด...จะดีจะชั่ว...อยู่ที่ตัวเราเอง...คิดดี พูดดี ทำดี
     
  5. anucha_de

    anucha_de เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +206
    อนุโมธนาครับ
    อ่านแล้วมีกำลังใจดีขึ้นครับ
     
  6. ดาโกต้า

    ดาโกต้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +210
    เห็นด้วย ตอนนี้มีหมอดูจิตดูกรรมเยอะมาก แล้วก็บอกว่าเงินที่ได้จะนำไปทำบุญ ตั้งราคาค่าดูเท่านั้นเท่านี้ บอกเงินที่ได้จะเอาไปทำบุญ เราว่าการที่คนเราอยากช่วยคนให้พ้นจากทุกข์จริง ๆ แล้วแต่ผู้มาดูจะทำบุญตามกำลังทรัพย์เขาไม่ดีกว่าเหรอ เพราะเราเห็นหมอดูแต่ละท่านมีฐานะดีขึ้นจากแต่ก่อนมาก ๆ ใกล้ ๆตัวเนี่ยแหละ
    *** เราได้เห็นในสัจธรรมความเป็นไปของสัตว์โลกที่แสวงหาความโลภไม่สิ้นสุด
    แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะในเมื่อทุกคนต้องกินต้องใช้เงินเป็นปัจจัยหล่อเลี้ยงชีพ สุดแท้แต่ใครมีใจเพื่อเป็นกุศลจริง ๆ***
     
  7. budsayamasp

    budsayamasp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +278
    เห็นด้วย

    เห็นด้วยค่ะ เพราะช่วงนี้ไร้สติบ่อยมาก
    เพราะส่วนใหญ่ทำบุญเพราะอยากได้บุญ อยากให้บุญที่ทำเปลี่ยนอะไรๆ หลายๆ อย่าง ทั้งอธิษฐาน ร้องขอ อ้อนวอน
    ตอนนี้พยายามทำบุญเพราะอยากทำ

    ขอบคุณอีกครั้งสำหรับข้อเขียนสั้นๆ แต่มีความหมาย

    และขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่นำสิ่งดีๆ มาให้อ่านได้ข้อเตือนใจมากมาย
     
  8. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,247
    ค่าพลัง:
    +68,038
    พวกแสกนกรรม เขาไม่ใช่หมอดู เขาเป็นคนที่มองเห็นกรรมคนอื่น และก็เป็นกรรมแต่ชาติ

    ปางก่อน เขาก็จะชี้แนะให้ไปแก้กรรม ทำบุญ แต่ใครอย่าไปคิดว่าเขาดูดวงต้องแม่นเพราะ

    คนละเรื่องกัน

    แต่สำหรับดิฉัน นะคะ ความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว คนเราผ่านการเวียนว่ายตายเกิดมาหลาย

    ร้อยชาติ อาจเป็นพันชาติเลยก็ได้ การที่เราจะตามไปแก้กรรม เสียทุกเรื่อง มันคงแก้ได้ไม่

    หมด แน่ๆ เอาแค่ชาติปัจุบันนี้ คุณทำความดี ไม่เบียดเบียน ไม่คดโกง ไม่หลอกลวงผู้อื่น

    บน ความทุกข์ นี่ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ทำบุญทำทาน ตามกำลังเงินที่มี กตัญญูต่อผู้มีพระ

    คุณ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว


    เข้าใจค่ะว่า มันพิสูจน์ไม่ได้ เราไปแก้กรรมตามที่เขาบอก แน่นอนสิ่งที่ได้อันดับแรกก็คือ

    ความสบายใจ แต่คุณนึกดูดีๆ นะคะ ว่าเงินในกระเป๋าของคุณมันปลิวออกไปกับตรงนี้เท่า

    ไหร่

    อย่างไรก็ตาม การดูดวง ดูกรรม ก็เป็นความชอบของแต่ละท่าน ว่ากันไม่ได้ค่ะ

    ยังไงก็ ลองคิดดูดีๆ เรากำลังเดือดร้อน พอทำไปแล้วมันก็ ไม่ต่างจากที่ไม่ได้ทำ แต่สิ่งที่

    มีแน่ๆ คือ คุณต้องจ่ายเงินกับ ค่าดูกรรมของคุณเอง รู้สึกมันจะเป็นกรรมซ้ำสองนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2009
  9. ladycrying

    ladycrying เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +781
    ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
     
  10. นิพ_พาน

    นิพ_พาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,984
    ค่าพลัง:
    +7,810
    ที่คุณพูดมันก็ถูกนะคะ แต่เพียงครึ่งเดียวค่ะที่ว่า ทำดีกตัญญูก็พอ จริงๆ แล้วมันไม่พอเลยค่ะ หากเราได้ทราบว่าเจ้ากรรมนายเวรเป็นใครหรือไม่ทราบคุณก็สามารถทำบุญแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร มันก็จะช่วยได้ระดับหนึ่งค่ะ
    โดยส่วนตัวแล้วเคยดูกรรมกับคุณต้นมา คุณต้นดูให้และช่วยเหลือคนโดยไม่เรียกร้องเงินทองเลยค่ะ แถมท่านยังติดตามว่าหลังจากที่ท่านแนะนำไปแล้ว เราทำตามแล้วเป็นไง แล้วท่านก็ไม่ได้ให้เราต้องเสียเงินทองอะไร ท่านก็แนะนำว่าให้จุดธูปขอขมากับต่อเจ้ากรรมนายเวร ให้หมั่นส่วนมนต์ แผ่เมตตา หากทำได้ไม่เดือดร้อนก็ให้ทำสังฆทานไปให้ ที่มาบอกนี่เพราะประสบกับตัวเองมาค่ะ เพราะหลังจากทำตามที่ท่านแนะนำแล้ว อะไรๆ ที่มันแย่ๆก็เริ่มดีขึ้นค่ะ นอกจากคุณต้นแล้ว ยังน้องบอลวสุพลที่พิการเสียขา 2 ข้าง ก็ดูกรรมยังกับตาเห็นโดยไม่รับสตางค์ค่ะ ถึงคนจะให้แก่ก็ไม่รับแกขอแค่ให้ใส่บาตรพระให้แก่ 1 องค์พอค่ะ อย่ามองว่าคนแก้กรรมทุกคนจะเหมือนกันหมด บางคนที่เขาเก็บเงินก็เพราะเขาต้องใช้เลี้ยงชีพเขาค่ะ อย่างคุณต้นนี่นอกจากจะไม่รับเงินแล้วบางครั้งแกยังเดินทางไปหาคนที่แกดูให้ถึงที่บ้าน มีเคสหนึ่งที่เขาแย่มากจนคุณต้นต้องไปหาเช่าพระแล้วเอาไปให้เขาถึงบ้านก็มีค่ะ ในสังคมที่ปากกัดตีนถีบแบบนี้
    คนที่ช่วยเหลือคนโดยไม่หวังผลตอบแทนนั้นหาได้ยากเต็มที่ แต่ขอบอกว่ายังมีคนแบบนี้อยู่ในสังคมนี้จริงๆค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2009
  11. กรึงไกร

    กรึงไกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    179
    ค่าพลัง:
    +295
    ตอนนี้มีแสกนกรรมฟรีของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย (เขากะลา)ครับ ไม่เสียตังรองเข้าไปอ่านดูนะครับที่เว็ปนี้

    เมื่อผมกลายเป็นคนเห็นกรรม
     
  12. lekbmw

    lekbmw Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2009
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +88
    เห็นด้วยค่ะเพราะได้เปิดกรรมกับคุณบอลมาแล้วด้วยค่ะ


    คนแบบคุณบอลดีมาก ๆ ค่ะ
     
  13. เฮฮา

    เฮฮา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +52
    อย่างนี้คิวคงยาวแน่เลย
     
  14. harryp05

    harryp05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +123
    หมอดู ... เชื่อไว้สำหรับเป็นแนวทาง มิใช่งมงาย ทักมีเคราะห์ก็จะระวังตัวในเรื่องนั้น
    เพราะหากว่าหมอดูทักว่าจะถูกหวยรางวัลที่1 แต่หากเราไม่ซื้อหวย ... มันก็คงไม่ถูกแน่นอน

    ดังนั้นส่วนตัวเคยดูหมอค่ะ ... แต่น้อยมาก เพราะเสียดายเงิน (55+) แต่เชื่อตัวเองมากกว่าเพราะทุกอย่างขึ้นอยู่ที่การกระทำของตัวเอง

    ทำดีได้ดี ทำชั่วก็ได้ชั่วไปนั่นเอง
     
  15. ikron

    ikron สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +6
    การปฎิบัติธรรมคือคำตอบของทุกสิ่ง
     
  16. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,247
    ค่าพลัง:
    +68,038
    สาธุ เห็นด้วยค่ะ จริงแท้แน่อนค่ะ
     
  17. paul1234

    paul1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2009
    โพสต์:
    392
    ค่าพลัง:
    +634
    <TABLE style="WIDTH: 194pt; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=258 border=0><COLGROUP><COL style="WIDTH: 38pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 1865" width=51><COL style="WIDTH: 65pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 3145" width=86><COL style="WIDTH: 65pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 3181" width=87><COL style="WIDTH: 26pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 1243" width=34><TBODY><TR style="HEIGHT: 15pt" height=20><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 38pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 15pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=51 height=20> </TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 65pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=86> </TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 65pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=87> </TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 26pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=34> </TD></TR><TR style="HEIGHT: 15.75pt" height=21><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 15.75pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" height=21> </TD><TD class=xl67 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8; mso-ignore: colspan" align=left colSpan=2>อนุโมทนา... สาธุ...</TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"> </TD></TR><TR style="HEIGHT: 24.75pt; mso-height-source: userset" height=33><TD class=xl68 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #002060 2pt double; HEIGHT: 24.75pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8; mso-ignore: colspan" align=left colSpan=4 height=33>ขอให้เจริญในธรรม..และถึงซึ่งนิพพาน</TD></TR><TR style="HEIGHT: 23.25pt; mso-height-source: userset" height=31><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" height=31> </TD><TD class=xl69 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8; mso-ignore: colspan" align=left colSpan=2>ทาน ศิล สมาธิ ปัญญา</TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. NooF

    NooF เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +112
    ไม่เห็นด้วยกำคำที่ว่า บุญ อย่าไปทำเพราะอยากได้บุญ
    ถ้าพูดแบบนี้ทุกคนที่อยากทำบุญก็ต้องไม่ทำบุญสิครับเพราะมันอยาก

    อันตัวทุกท่านเป็นผู้ละกิเลสแล้วก็คงไม่ใช่
    ที่จะพูดว่าทำทุกอย่างเพราะไม่มีความอยาก
    แม้แต่การเป็นคนดี ก็คือความอยากที่จะได้ดี เป็นความอยากด้านกุศล
    เหมือนคำพูดของคุณที่ว่า "อย่าไปทำบุญเพราะอยากได้บุญ"
    ก็มีความอยาก คืออยากที่จะหลุดพ้นที่จะมีความอยาก ในความอยากทำบุญ
    เรื่อของจิตใจเป็นสิ่งซับซ้อน สิ่งใดทำแล้วเป็นกุศล ทำเถิด

    พุทธวิถี ไม่เคยมีคำสอนว่าห้ามอยากทำบุญ
    มีแต่ใจความที่ทุกคนเคยได้ยินกันว่า ให้ละชั่วทำดี

    การทำบุญของแต่ละคนต่างกัน แต่พื้นฐานที่ทุกคนรู้ดีคือ
    อยากรวยให้ทำทาน อยากสวยให้รักษาศีล อยากมีสติปัญญาให้หมั่นภาวนา

    การทำบุญไม่ว่าทำเพราะอยากหรือไม่ ล้วนแต่ได้บุญ
    บุญเป็นธาตุบริสุทธิ์ การทำแม้จะเต็มใจหรือไม่เมื่อทำแล้วบุญย่อมเกิด
    แต่จะส่งผลมากน้อยเช่นไรขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ

    เส้นทางคนเราต่างกันแต่สามารถมาบรรจบที่เดียวกันได้
    หากชาตินี้ทำบุญด้วยความอยากที่จะได้ดี แต่ตั้งผังให้ตัวเองไว้

    - ชาติหน้าเราจะไม่จน ด้วยการหมั่นทำทานในชาตินี้
    เพื่อจะได้ไม่เป็นเครื่องกังวล ไม่มีอันจะกิน นั่งสมาธิก็มีแต่ฟุ้งในปัญหา

    - เราจะมีลักษณะมหาบุรุษเพื่อให้เอื้อต่อการปฏิบัติธรรม ด้วยการรักษาศีล
    บางคนนั่งสมาธิไม่ได้ก็มี ร่างกายไม่พร้อมที่จะปฏิบัติธรรมก็มี

    - ให้มีปัญญาที่จะทำวิปัสนาได้ ด้วยการภาวนา
    หากเกิดมาเป็นคนสติไม่ดี ก็คงยากจะปฏิบัติธรรม

    บวกกับแรงอธิฐานให้ได้เกิดมาในครอบครัวสัมมาทิฐิ
    ให้มีดวงตาเห็นธรรม ให้ได้เข้าถึงธรรมโดยง่าย
    ให้มีโอกาศได้บวชตั้งแต่ยังเยาว์วัย
    หากเป็นเศรษฐีก็ขอให้เป็นเศรษฐีใจบุญค้ำจุนพระศาสนา ฯลฯ เป็นต้น

    ตรงนี้เรียกว่า อธิฐานบารมี

    มีตรงไหนที่ไม่ดี ที่ไม่ใช่พุทธวิถีบ้าง

    การเห็นกรรม คงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนที่ปฏิบัติธรรมจนเข้าถึง
    และก็ไม่ใช่มิจฉาทิฐิด้วย เพราะนั้นคือการเห็นจริง รู้จริงในสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
    เป็นสัมมาทิฐิ แม้แต่พระพุทธเจ้าเอง ก็สามารถละลึกชาติได้

    อยากเตือนไว้ในเรื่องที่ว่า การห้ามคนทำบุญนั้นด้วยเหตุผลใดก็ตาม
    ระวังวิบากกรรมจะตกกับตัวเองนะครับ

    เพราะคนที่จะทำ เค้าจะทำกับใคร ตัวผู้ทำย่อมได้บุญ แต่ไม่ใช่เอาเงินไปให้คนซื้อเหล้าแบบนั้นก็ไม่ใช่ เพราะฉะนั้น คำว่าอย่าทำบุญ บอกตัวเองได้ แต่อย่าบอกกับคนอื่น ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม จะบาปเอา
     
  19. เกลี่ยง

    เกลี่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +428
    ความจริงแท้ คือ กรรม
    รู้-ไม่รู้อนาคต ก็ต้องบำเพ็ญบารมีอยู่ดี
     
  20. tax108

    tax108 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +86
    เกี่ยวกับหมอดูนั้นผมทั้งรักและรำคาญผสมกันไป ส่วนมากจะเชื่อหมอดูที่ดูดวงแบบไม่เห็นหน้ามากกว่าเพราะที่ผ่านมาหมอดูหลายคนชอบดูโหงวเฮ้ง และที่สำคัญหลายคนแนะนำหมอดูให้ ซึ่งผมไม่ดูเพราะว่ารู้สึกไม่สบายใจและไม่ถูกโฉลก เพราะผมรู้สภาพอารมณ์ผมดี หลายครั้งที่ผมต้องขอแย้งวิธีที่แนะนำให้แก้เคล็ด แต่ด้วยอาชีพเป็นช่างปั้นก็มีหมอดูเข้ามาหาประโยชน์บ้างประปรายสำเร็จบ้าง ล้มเหลวบ้าง ล่าสุดก็โดนให้ปั้นพระพิราพ ปั้นเสร็จหายเงียบมัดจำก็ไม่จ่าย สุดท้ายที่อยากบอกคือ ดวงขึ้นอย่าลืมตัว ดวงตกจิตอย่าตก มีสติทำ ณ ปัจจุบันให้ดีที่สุด พอแล้วครับ ลิขิตจากฟ้าหรือจะสู้เรากำหนดชะตาชีวิตเราเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...