เพราะเหตุว่า นิพพานตั้งเป้าหมายค้นหาไม่ได้ นิพพานจึงไม่อาจจะพบเจอได้ในอนาคต เพียงแค่หยุดดิ้นรนแสวงหาหรือหยุดการ กระทำทั้งทางกาย...
ในแก่นของศาสนาพุทธ ที่ว่าด้วยเรื่องจิตเเละเน้นที่เรื่องราวของ จิตโดยเฉพาะ เช่น จิตอวิชชา จิตกุศล จิตอกุศล จิตเมตตา จิตบริสุทธิ์ จิตเศร้าหมอง...
ความฉลาดทางจิตที่มีความพอใจอยู่ทุก วินาทีปัจจุบันจึงจะเหมาะสมต่อการ บรรลุนิพพาน ดังนั้น นิพพานจึงไม่ใช่ความหวังและไม่ ใช่การฝึกความอดทนเพื่อ...
รูป จิต เจตสิก นิพพาน 4 สิ่งนี้ ท่านยึดสิ่งใด สิ่งหนึ่งแล้วพ้นทุกข์บ้างคับ
จิตพุทธะกับจิตใต้สำนึก ต่างก็มีพลังในตัว เองทั้งคู่แต่การจะปลุกพลังเหล่านั้น ให้ลุกขึ้นมาทำงาน ก็ต้องอาศัยสมาธิคือความสงบตั้งมั่นของ...
วลี ที่ทรงตรัส สอน ให้ท่านพาหิยะบรรลุธรรม ในทันที คือ เมื่อเห็น เธอจงสักว่าเห็น เมื่อรู้ จงสักว่า รู้ ข้อสงสัยคือ ใครเห็น ใครรู้ และเห็นอะไร...
ธรรมแท้ไม่ได้เกิดจากการลงมือทำ ของผู้ใดผู้หนึ่ง หากแต่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ จึงไม่ต้องลงมือกระทำเพื่อให้ได้ครอบครอง ธรรมแท้
ธรรมแท้คือธรรมที่ไม่ต้อง แสดง ธรรมที่แสดง ยังไม่ใช่ธรรมแท้
ต้นจิต(อวิชชา) เป็นสังขารจิต ที่ผุดขึ้นมาตามเหตุปัจจัย มีสภาพเกิดดับเกิดเองดับเอง ปลายจิต(จิตที่คิดนึกปรุงแต่ง)มีสภาพเกิดดับ เกิดเองดับเอง แค่รู้...
สิ่งใดเกิด สิ่งนั้นย่อมดับ แต่สิ่งที่มีอยู่ โดยไม่มีการเกิดสิ่งนั้นย่อมไม่มีการดับ ดังนั้น ความพยายามที่ทำสิ่งใดเกิด...
เพราะอวิชชาจึงมีผู้ยึด เพราะมีผู้ยึดจึงมี เรา เพราะมีเราจึงมีผู้ทุกข์ เมื่อปัญญาใจเข้าใจในอวิชชา ผู้ยึดจึงไม่มี ผู้ปล่อยวางก็ไม่มี...
รูปกายเป็นสิ่งสังขาร(ปรุงแต่ง)ที่มีสภาวะ เกิดดับอย่างต่อเนื่องซึ่งไม่ได้มี ปรากฎอยู่จริงเพราะผ่านไปแล้ว ผ่านไป แล้วผ่านไปแล้ว...
เมื่อหรั่ยเจอหนองอ้อ เมื่อนั้นเจอนิพพาน ท่านเข้าใจว่าอย่างไรคับ
ครั้งหนึ่ง มีคนถามพระพุทธเจ้าว่า ปฏิบัติธรรมแล้ว จะได้อะไร? พระพุทธเจ้าตอบว่า"ไม่ได้อะไรเลย" เขาจึงถามต่อไปว่า... ถ้าเช่นนั้นจะปฏิบัติไปเพื่ออะไร?...
การเจริญสติให้ได้ตลอดเวลา นอกจากใช้คำบริกรรมด้วย "พุทโธ" ตลอดเวลา (เหมือนการหายใจเป็นปกติตลอดเวลา) ท่านมีคำอื่นใดที่จะง่ายกว่านี้ มาแชร์ คับ
เพราะอวิชชา จึงมีเรา.จึงมีตัณหาและมีอุปปาทาน โดยมีเราเป็นผู้ยึด ยึดทั้งตัณหา อุปปาทาน ยึดผัสสะ ยึดเวทนา... และยึดทุกๆ อย่างรวมทั้งทุกข์ ด้วย...
ดังที่ พระอริยเจ้ากล่าวว่าจบกิจ การปฏิบัติของท่านมีที่สิ้นสุดก่อนตายหรือไม่?? หรือยังไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดตรงไหน ฮับ
ไม่มีผู้ปล่อยวาง ไม่มีผู้ทุกข์ ถ้าเพียง เข้าใจถูกต้องว่า"อัตตาตัวตน"เป็นสิ่งเกิดดับไม่มีจริง (แต่มีจริงจากอวิชชาตัณหาอุปปาทาน) เช่น...
ถ้าต่างคนต่างยังไม่รู้ปลายทางของการ แสวงหาว่าจุดจบอยู่ ณ จุดไหน ต่างคนก็จึงพยายามเดินทางเพื่อ ค้นหาไปเรื่อยๆ แต่โอกาสที่จะถึง...
สิ่งหนึ่งสิ่งใดทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน แล้วก็เกิดมีขึ้นมา และกลับคืนไปสู่ความไม่มีดังเดิม สิ่งเหล่านั้นคือสังขารธรรมย่อมเป็นทุกข์...
เมื่อตัว"รู้" ยังไม่ทำงาน ทุกกิริยาอาการ ย่อมถูกคาดหวังและมีความหมาย กล่าวคือ นั่นเค้าเป็นยังงั้น นี่เราต้องเป็นยังงี้ เค้าไม่น่าจะพูดยังงั้น...
การให้ค่ากับสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ไม่เคยมีมาก่อน แล้วอยู่ๆ ก็เกิดมีขึ้นมา และมีแนวโน้มว่าจะกลับ ไปสู่ความไม่มี (แตกดับ ทำลาย)และกลับคืนมาสู่ความ...
ในท่ามกลางความว่างสงบสงัดของใจ ย่อมมีสิ่งเคลื่อนไหวของรูปนาม (ขันธ์5) รูป เวทนา สัญญา สังขารซึ่งปรุงแต่ง เกิดดับ เกิดดับ อยู่ตลอดเวลา...
ธรรมทั้งหลายที่ได้รับฟังมาดีอย่างเป็นลำดับถ้าถูกต้องดีแล้ว ย่อมจะทำให้ผู้ฟังเกิดเข้าใจ จนลดราคะโทสะ กิเลสต่างๆ ให้เบาบางลงบ้าง...
กายกับจิต(วิญญาณขันธ์)มีไว้เพื่อรู้ เพราะมันเป็นเพียง"สิ่งที่ถูกรู้" ไม่ใช่มีไว้ยึดมั่นถือมั่นว่า "เป็นเราเป็นของเรา" ดังนั้น...
ความสงบของจิตที่เห็นอยู่ ณ จิตปัจจุบันขณะ นั่นแหล่ะใช่ ส่วนความสงบที่หวังจะเดินทางไปพบเอาข้างหน้ามันย่อมไม่ใช่และไม่มีวันพบ คับ
ในปริยัติ บัญญัติธรรมะว่าไม่มีสัตว์ บุคคล คัวตน เรา เขา ดังนั้น ตราบใดที่การปฏิบัติธรรมไปโดย ยังไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้อง...
มีปัญหาอีกหลายสิ่งสาระพัด ที่ แต่ละคนพยายามหาทางแก้เอง ไม่ได้ แต่ก็ยังมีหนทางที่ไม่ต้องต้องให้ปัญหา ใดใดค้าง คาใจ หากแก้จบปัญหาสำคัญอันเดียว ได้...
ความจริงของ"พุทธะ" มีอยู่ว่า ตัวเราจริงๆ นั้นไม่ใช่กายนี้และจิตนี้ และจึงไม่ใช่จิตที่คอยรับ คอยปล่อยอารมย์ หรือคอยรัก คอยชัง คอยโกรธแค้น...
ผู้มีบุญเก่ามากเข้าหาศาสนาได้ง่าย ผู้มีบุญเก่าน้อยเข้าหาศาสนาได้ยาก ผู้ไม่มีบุญเลย ก็เข้าไม่ถึงศาสนา
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา