รบกวนขอวิธีที่จะทำให้โลภะและราคะเบาบางโดยไม่ต้องปลงอสุภะ

แล้วรับอิสลาม?

 

ถามว่าไปรับมายัง แล้วอันนี้เรื่องของตัวเองหรือตัดของคนอื่นมาแปะผสมให้อ่าน

 

ดิฉันโรคจิตหรือใจมืดบอด ชอบเห็นคนดีเบตกัน

 

ดูหนังฝรั่งมากไป ผมก็ดูถ้าพูดถึงพระคริสต์ ของฝรั่ง ผ้าคลุมสีขาว

เก้าอี้สีขาวๆ ล่องลอยอยุ่บนปลุยเมมฆ สีขาวๆๆ ใชช่เลยนะ

คุณ ศรี จิตนาการกว้างไกล ไร้ขีดจำกัด ละเม้อเพ้อพก เพ้อฝัน ได้สุดยอด

เหมาะแก่ การ เป็นนักเขียน นวนิยาย ผมอ่านบทความคำโพสท์ของคุณแล้ว

ผมแนะนำ อาชีพ ให้คุณนะ นักเ ขี ยน นวนิยาย เหมาะแก่คุณ คุณศรี

 

ไม่เป็นไร ในเมื่อตัวคุณออกมารับสารภาพเองว่า ได้ไปเข้ารีตนับถือศาสนาอื่นด้วยผมก็พอใจแล้วละ
ต่อไปนี้หลายคนคงจะได้รับรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด และหากจะมีคำสอนใดๆ
ที่ฟังดูแล้วมันขัดกับหลักคำสอนในพระไตรปิฎก เขาจะได้เข้าใจว่าเป็นเพราะ
ตัวผู้พูดมันนับถือหลายศาสนาพร้อมกันนั่นเอง จึงไม่มีทางรู้ได้ว่าที่แท้จริงแล้วใจเขานับถือศาสนาไหน

ในเมื่อยอมรับออกมาเองว่านับถือศาสนาอื่นด้วยก็เท่ากับบอกให้พุทธศาสนิกชนรู้ว่า ไม่ใช่โพธิสัตว์ ไม่ใช่อริยบุคคล และไม่ใช่สัมมาทิฏฐิ

สำหรับการศึกษาหลายศาสนาเพื่อเทียบเคียงนั้น ตัวผมเองไม่มีปัญหา
หรือไปตำหนิติฉินหรอกนะ มันขึ้นอยู่กับว่าเมื่อศึกษาแล้ว จะมีใจโน้มเอียง
หันไปนับถือ เชื่อฟังคำสั่งสอนของเขาและยึดเป็นสรณะหรือเปล่าต่างหาก
หากว่าศึกษาแล้วมีใจโน้มเอียงหันไปนับถือคำสอนของศาสนาเหล่านั้น
แล้วยึดถือเป็นสรณะ ทั้งยังจะกลับแสดงหลักคำสอนที่ค้านกับหลักคำสอน
ที่มีอยู่ในทางพุทธศาสนานี้ต่างหาก คือสิ่งที่จะยอมกันไม่ได้

สุดท้ายนี้ขอประกาศให้ทราบอีกครั้งว่า Sriaraya5 ได้โพสต์ข้อความยอมรับ
ด้วยตนเองแล้วว่า เขาได้ไปเข้ารีตนับถือศาสนาอื่นอีก ดังนั้นตัวเขาจึงไม่ใช่โพธิสัตว์ ไม่ใช่อริยสาวก และไม่ใช่บุคคลผู้มีสัมมาทิฏฐิ
ตามหลักธรรมในทางพุทธศาสนา ผู้ใดจะรับฟังคำสอน จากเขาก็ควรต้องระวัง
จะถูกชักจูงให้มีความเห็นผิดตามเขาไปด้วย

 

พี่ศรี ยังโชคดี
ที่มีเพื่อนเขามาคอยค้าน ไม่เอออวยไปตามความหลงตน


หากเจตนาอยากรวมศาตร์

ทำไมไม่ไป ถกธรรมกับพระสงฆ์ ตามสถานที่ต่างๆ

ดั่งเช่นที่พระพุทธเจ้าทำมา

สยบกันด้วย ธรรม อาเทศนาปาฏิหาร

หากพี่ศรี เป็นของจริง นะ พี่จะได้บริวาร ของสำนักต่างๆมาด้วย

หากพี่ศรีเป็นของปลอม พี่ศรีจะได้ หายมืดบอด

ดีกว่านะผมว่า ไม่มีใครเขาคิดร้ายกับพี่ศรีหรอกมีแต่คนหวังดี

องค์แรกที่ผมแนะนำ ไปสนทนากับหลวงพ่อ สงบ มนัสสันโต ราชบุรี

ให้พี่ทีแกพาไปก็ได้ แกรู้จักทางดี


ไปแล้ว ไปแอบถ่ายรูปแล้วเอามาโชว์
หรือ แบบคุยกันด้วยโทรจิต ไม่เอานะ

เอาแบบ อัดวีดีโอ ถกธรรม จะมีประโยชน์มาก

 

ดิฉันนับถือคุณศรีมากในตอนแรก แต่ตอนนี้คงต้องหันมานับถือตัวเองให้มากกว่า ดิฉันขอไปด้วยนะคะ จัดรถตู้ไปกันหลายๆคนเลย อยากไปกราบท่านเหมือนกัน ท่านดีเบตกรณีพระปราโมทย์ ปราโมชโช มาแล้วนะ

 

คือตกลงใครเป็นยังไง ต้องใช้ระยะเวลาพิสูจน์จริงๆ ดิฉันอธิษฐานไว้ขอเกี่ยวข้องกับมนุษย์และเทวดา ที่มีสัมมาทิฏฐิ ศีล๕บริสุทธิ์ และใจเป็นเทวดา ^_^

 

ถ้าคุณศรีเป็นของจริง ก้อขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ตอนนี้ดิฉันสับสนมาก

 

หากติดตามศึกษาประวัติครูบาอาจารย์ที่ท่านมีอัฐฐิ แปรเป็นพระธาตุ

ทุกท่าน จริยาวัตร จะเหมือนๆกัน
ความงดงาม การเทศน์การสอน จะคล้ายๆกัน
มีความเคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
ไม่มีการ เอา มายำ รวมกันกับที่อื่น
ญาติโยมเห็น ใส่บาตร กราบได้ สนิทใจ

หากเห็นใครประกาศตัว เป็น อรหันต์ แต่ จริยาวัตร ผิดแปลก แหวก แนว

ไม่ต้องคิดมากเลยครับ

เดินตามครูอาจารย์ที่มีจริยาวัตรงดงาม ยังมีอัฐฐิแปรเป็นพระธาตุอีก
หรือจะเดิมตาม
ฆราวาส ที่อ้าง ว่าบรรลุธรรม แถมอ้างว่าเป็นพระศรีอาริยะเมตตรัยอีก

คิดว่าคนฉลาดจะเลือกสิ่งไหน
คนโง่จะเลือกสิ่งไหน



นี่คิดกับแบบเป็นเหตุเป็นผลแบบง่ายๆ

 

แนะนำวิธีดูว่าพระรูปไหนจริงปลอม เบื้องต้น นะครับ

หลวงพ่อเคยเทศน์สอนไว้ในวงในกรรมฐาน ถ้าอยู่วงนอกอาจจะไม่รู้ ก็คือ

1.ดูว่าพระรูปนั้นมาจากสายไหน ศิษย์ใคร ต้องมีที่มาที่ไปชัดเจน
2.ดูว่าได้รับการอบรมจากครูบาอาจารย์มาแล้วกี่ปี มีครูบาอาจารย์รับรองไหม
3.ดู ผลของการสอนว่าจริงตามหลัก หรือว่าแย้งคำสอนหรือไม่
4ดูผลของการปฏิบัติของคนกลุ่มนั้น ว่ามีมรรคคล มีความจริงหรือไม่ บลาๆๆ

คร่าวๆจำได้ประมานนี้ละ

ถ้าเป็นประเภทที่ว่า อยู่ๆเปิดตัวมาเลย ตั้งสำนักเอง คิดเองเออเอง แถมไม่เคยบวชแล้วอยู่ไกล้ชิดกับครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติดีชอบมาก่อน แล้วยกตัวเองว่าเป็นพระอริเจ้าแบบนี้ ส่วนใหญ่ของปลอมทั้งนั้น

หรือพวกที่ว่า พอครูบาอาจารย์สิ้นชีวิตไปแล้ว แล้วค่อยออกมาเปิดตัว ออกมาประกาศว่าตัวเอง ได้รับรองได้รับคำรับรองจากครูบาอาจารย์ที่เสียชีวิตไปแล้ว ตัวเองพูดเองเอง แต่งเรื่องเอาเอง อย่างนี้ ก็ให้สังเกตุได้เลยว่า น่าจะเป็นของปลอม

โดยเฉพาะยิ่งดูจากคำเทศน์สอนของพระรูปนั้น ถ้าไปขัดแย้งกับคำสอนของครูบาอาจารย์ โดยบอกว่าธรรมของตัวเองเป็นสายตรง สายลัด ของจริง แต่ปรากฏว่าคำสอนของเค้าผู้นั้นนั้น ไปแย่งธรรมสอนของครูบาอาจารย์ไปทั่วไปหมด นั้น ก็ให้เดาได้เลยว่า ของปลอม แต่อาศัยครูบาอาจารย์ที่เสียชีวิตไปแล้วมายกตัวเอง ว่าท่านเคยรับรองผล หรือ เป็นศิษย์ใกล้ชิดอะไรพวกนี้ ก็ให้ระวังให้ดีครับ

เพราะในวงในกรรมฐานของพระป่าสายหลวงปู่มั่น นั้นจะมีการตรวจสอบอยู่ มีพระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบอยู่ ว่าพระรูปไหนจริงปลอม เพื่อป้องกันพุทธศาสนา อยู่ครับ

อยู่ๆถ้ามีใครบวชเป็นพระขึ้นมา แล้วมีชื่อเสียงเที่ยวประกาศไปทั่วว่า หลวงพ่อองค์นั้นนี้ รับรองผล ว่าตัวเองมีธรรม นี่ เค้าจะไล่ประวัติสืบประวัติไปเลย ว่า เป็นใคร บวชกับใคร เคยอยู่กับครูบาอาจารย์ใกล้ชิดหรือไม่กี่ปี 5 - 10 ปีหรือไม่ คำเทศน์สอนจริงหรือค้านคำสอนครูบาอาจารย์หรือไม่ และที่สำคัญ จะดูผลการปฏิบัติของกลุ่มคนนั้นๆ ว่ามีผลที่สอนให้ศิษย์บรรลุอริยเจ้า โสดาบัน บ้างหรือไม่ ถ้าไม่มี หรือ เป็นแบบ โสดาบันปลอม เพราะแต่งตั้งกันเอง ไม่มีธรรมความจริงในหัวใจ อย่างนี้ ก็แสดงว่าของปลอม

แล้วก็จะรับรู้กันในพระวงในกรรมฐาน นั้นเอง
.

 

สำหรับผม ไม่ได้มีอคติหรือความโกรธแค้นเป็นส่วนตัวกับคุณ Sriaraya5
แต่ที่ต้องค้านกันสุดฤทธิ์สุดเดช เพราะเห็นว่าคำสอนที่คุณ Sriaraya5 นำมาแสดงนั้น
ขัดแย้งกับหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก
แต่เมื่อคุณ Sriaraya5 ออกมายอมรับเองว่า ได้ไปเข้ารีตนับถือลัทธศาสนาอื่นด้วย
ก็นับว่าได้ทำให้พุทธศาสนิกชนส่วนมากได้เข้าใจกระจ่างแจ้ง(ตาสว่าง)ดีแล้ว
ตัวผมจึงไม่มีอะไรติดใจอีกต่อไป ต่อจากนี้ก็หวังแต่เพียงว่า พุทธศาสนิกชนท่านใด
หากต้องการรับคำชี้แนะในทางธรรม จากคุณ Sriaraya5 สมควรต้องระวังให้มาก
พิจารณาให้มากว่า คำแนะนำที่ได้รับนั้น ถูกต้องตามหลักธรรมทางพุทธศาสนาหรือไม่ ?

 

พระครูอาจาร์ย สมัยก่อนน่านับถือที่กระดูกกลายเป็นพระธาตุ
แต่ปัจจุบันวิทยาศาสตร์เขาทำได้ โดยการดึงคาร์บอนมาผ่านความร้อนจนเกิดกราไฟท์ และเพิ่มแรงอัดและความร้อนไปอีก กระดูกก็กลายเป็นเพชร แต่น้ำจะไม่งามเท่าเพชรจริง. นะยอดคะน้า. อย่าไปยึดติดกับพระธาตุ

 

ตอนนี้จขกท.ชอบใส่ทองปลอม น่ารักสวยถูกใจ ราคาจับต้องได้ สีเหมือนของแท้เปี๊ยบ แต่ตอนนี้เริ่มลอกแล้ว ตรงช่วงห่วงที่ต่อกันเป็นข้อๆ เสียดายถ้าไม่ลอก จะซื้อมาใส่อีก

 

ไม่ได้กะเกณ ว่าจะต้องแปรเป็นพระธาตุหรอก



พระโบราณบ้านเรา

แม้ไม่ต้องเผา เส้นผมก้แปรเป็นพระธาตุ


ที่ยกตัวอย่างมานี้ อยากให้ดูจริยาวัตร
ของท่าน ครูอาจารย์โบราณ
ท่านสอนกันจริง ฝึกกันจริง

แล้วเอาเป็น สิ่งแรก ที่เลือกเฟ้น
เพราะคำสอนท่านเหล่านั้น ล้วนสอนตามพระไตรปิฎก
ดีกว่าไปเลือก เอา สิ่งที่เป็นเนื้องอกมาเดินตาม

 

ผมมาเล่าให้สับสนขึ้นนะครับ คุณนวลปราง

ก่อนอื่นขออภัยชาวคริสต์ทุกคนเลยครับ แต่ทางฝั่งตะวันตกส่วนใหญ่มีความคิดเป็นวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว ไม่ค่อยมีปัญหาหรอกครับในการแสดงความคิดเห็น แต่นี่ก็ไม่ใช่ความคิดเห็น มันเป็นเรื่องเล่า เหมือนไปฟังเรื่องเล่าจากปากคนตายแล้วฟื้น เราจะเลือกที่จะเชื่อดีไหม ในเมื่อเครื่องจับเท็จมันจับโกหกไม่ได้ (แต่แม้คนไม่โกหก ก็ไม่ได้แปลว่ามัน คือ สัจจะ)???

เรื่องเล่า

ได้ยินมาว่า พระเยซู ท่านมาเกิดเป็นพระในพระพุทธศาสนาแล้ว ท่านเป็นพระโพธิสัตว์เสียด้วย ผมไม่ทราบว่า เราจะเชื่อกันได้ไหม แล้วชาวคริสต์เค้าจะว่าอย่างไร คือ ตอนนั้นได้ยินคนเล่าลือในหมู่ผู้ปฏิบัติธรรมกรรมฐานแบบเปิดโลก(แถวลพบุรี) แต่ผมไม่ทราบว่า บุคคลที่เชื่อกันว่า เป็นพระเยซู กลับชาติมาเกิดนั้นระลึกเองหรือ คนอื่นระลึกรู้ กันแน่

เหมือนได้อ่านหนังสิือ อันนี้นานมาก จนจำไม่ได้ว่า พระสังฆราชองค์ใดหรือเปล่า ไปช่วยกันค้นคว้าก็ดี ได้เล่าอย่างนี้ เป็นหนังสือเลย และน่าแปลก ความจริง ผมได้ฟังเรื่องเล่านี้ก่อนอ่านหนังสือเล่มนั้น แถมเจ้าตัวคนเล่าอายุแค่ ๑๕ ปี ไปสอดคล้องกับคำบอกเล่าในหนังสิือเก่าแก่ได้(หนังสือน่าจะอยู่หอสมุดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๒๐ ปีผ่านไปแล้วที่อ่าน) ซึ่งดูจากสภาพผู้เล่าไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้แน่ (ต่างจังหวัดเมื่อ 30 ปีก่อน ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง ร้านหนังสือไม่มี) ความตรงกันอย่างนี้ เท่าที่ขีดเส้นใต้

สมัยพุทธกาล พระโพธิสัตว์ออกบวชบำเพ็ญเพียรเพื่อโพธิญาณ พญามารมีดำริให้ลูกสาวสามคน ไปผจญพระโพธิสัตว์ ลูกสาวสามองค์แรก ตอบ ไม่เจ้าค่ะท่านพ่อ มหาบุรุษเกินกว่าความสามารถของลูกที่จะให้ละความเพียรได้ พญามารสั่งให้ลูกสาวอีกสามองค์ผู้พี่กว่าไปผจญ พวกพี่มีความหนาพอ ก็ไปกัน ก็พ่ายแพ้กลับมา จนถึงกาลเวลาอันอัศจรรย์ พญามารรู้แน่ว่า พระโพธิสัตว์จะบรรลุ จำต้องยกเหล่าผองมารกันไปผจญเสียทีเดียว สุดท้าย พระพุทธเจ้าก็อุบัติขึ้นในโลก เทพธิดามารองค์หนึ่งที่ปฏิเสธไม่ไปผจญพระโพธิสัตว์ มักส่องเนตรทิพย์มามองพระพุทธเจ้าอยู่ห่างๆ จนในที่สุด เทพธิดารังเกียจความเป็นมารของตน นางเผาผลาญตนก่อนเวลาโลกอันน้อยนิดที่มีพระพุทธองค์จะหมดไป เพียงเพื่อจุติไปเป็นลูกลิง ลูกลิงตัวผู้ถูกอำนาจแห่งเทพธิดามารก่อนจุติไว้ ทำให้คอยมองถนนหรือทางๆ หนึ่ง อันพระพุทธองค์จะดำเนินมา ลิงน้อยเมื่อเห็นพระพุทธเจ้าแต่ไกล ดำเนินมาและจะดำเนินไปแล้ว เนื่องด้วยสติสัมปชัญญะไม่บริบูรณ์ได้นำกล้วยอันเกินกำลังของตน ปีนป่ายระหว่างต้นไม้เพื่อไปถวายกล้วยแด่พระพุทธองค์ ลิงนั้น ก็ร่วงหล่นตกมาตาย ...

แต่ด้วยจิตของลิงน้อยและด้วยพระเมตตา ลิงน้อยได้อาบพระฉัพพรรณรังสีและพระเมตตา ลิงนั้น ถึงกาลแล้ว ไปอุบัติบนสวรรค์ชั้นยามา (ที่เดียวที่ม้าของพระโพธิสัตว์ไปอุบัติ)

กาลเมื่อล่วงไปเหล่ามหาเทพชั้นยามา ได้หยั่งรู้ว่า โลกมนุษย์จะมีความแตกแยก และการรบราฆ่าฟันกัน ผู้คนจะพากันลงอบายภูมิด้วยความทุกข์จากสงคราม เหล่ามหาเทพได้ปรึกษาและเห็นพ้องกันที่จะช่วยอภิบาลโลก พากันเล็งญาณก็หยั่งรู้ว่า ในหมู่เหล่านี้ มีพระโพธิสัตว์อันประเสริฐ และอยู่ในฐานะจำทำงานรวมจิตวิญญาณผู้คนได้ จึงได้เรียกพระโพธิสัตว์ และกล่าวอาราธนาอัญเชิญจุติ ทำนองว่า ลูกเอย สรรพสัตว์จะถึงคราววิบัติจากความดีและมีความทุกข์ยากอันนำไปสู่อบายภูมิ ขอลูกจงไปสร้างดินแดนอันประเสริฐให้อุบัติในโลกมนุษญ์เทิด จะได้เป็นการเพิ่มพูนบารมีของลูกด้วย พระโพธิสัตว์พระองค์นี้(พระเยซู) ได้รับแล้วไปจุติ ข้างฝ่ายมหาเทพก็ได้ดลใจแก่มนุษย์และอำนวยพรแก่พระเยซู จนเมื่อพระเยซูได้ระลึกชาติเพียงเฉพาะชาติก่อนหน้า ระลึกตอนที่ได้รับคำสั่งจากมหาเทพชั้นยามา (เรียกว่า พ่อ หรือพระบิดา) จึงได้นำความระลึกนั้น เป็นกำลังใจทำงานจนสำเร็จ เมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์ลงบนไม้กางเขน เหล่าทวยเทพชั้นยามาล้วนมาสาธุการ ยินดีด้วยในบารมีครั้งนั้น

จากคำบอกเล่านี้ เทพธิดามาร(เป็นพระโพธิสัตว์ที่ตกไปเป็นฝ่ายมาร เพราะผู้เล่าเป็นพระโพธิสัตว์เช่นกัน) ลิงน้อย มหาเทพชั้นยามา คือ พระบิดาหรือพระเจ้า ในศาสนาคริสต์ ส่วนพระเยซู คือ เทพบุตร คือ พระโพธิสัตว์

ปล. คุณนวลปราง ต้องพิจารณาให้ดีครับ

 

เห็นย้ำบ่อย ในจุดนี้ มาหลายปีก็ยังย้ำ ผักคะน้า
ถ้าผักคะน้าได้ฟังเทปของหลวงปู่ชา ท่านจะบอกไว้ชัดเจนมากเรื่องนี้หาเองนะงานถนัดของนายอยู่แล้ว

 

รู้สึกเมากาแฟ

 

ต้องดูจังหวะนะว่า

คนที่จะเลือก
การเลือกเฟ้น ที่จะเริ่ม

สิ่งไหนที่สมควรให้เป็นแนวทางเริ่ม

ส่วนคนที่รับเดินตามนั้น จะเลือกสิ่งไหน มันก็ขึ้นอยู่กับเขาเลือกเอง
ทำได้แค่แนะนำ

 

จริงๆแล้วไม่อยากจะให้กลายเป็นประเด็นความขัดแย้งระหว่างศาสนา
และเท่าที่ผ่านมานั้นผมจะหลีกเลี่ยงไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์ศาสนาอื่นๆ
แต่จะโต้แย้งกันเฉพาะในแง่หลักคำสอนทางพุทธศาสนาเท่านั้น ว่าอันไหนถูกอันไหนผิด