สมเด็จปู่ศรีสุทธรรมนาคราช น.29/ครูบาออ/ลป.บุญยัง/ลป.พริ้ง/ลป.จันทร์/ลป.จักร/ลพ.สุพจน์/ลพ.รัตน์ /ลป.ผาด วัดไร่ ฯลฯ

​

รายการที่ 40 พระปิดตาแร่เศรษฐี หลวงปู่ทองย้อย วัดอัมพวัน เนื้อเมฆพัตรแร่โคตรเศรษฐีผสมแร่บางม่วง ปี 2555

พระครูมงคลกิจจาทร หรือหลวงปู่ทองย้อย พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดอัมพวัน (วัดบางม่วง) จ.นนทบุรี เป็นศิษย์หลาน สมเด็จพระวันรัต (เผื่อน) วัดโพธิ์ ท่าเตียน ที่นั่งปลุกเสกพระแทนสมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ

ตามประวัติระบุว่า 'หลวงปู่ทองย้อย' ท่านเป็นลูกศิษย์สายตรงของ 'หลวงพ่อดิษฐ์' ซึ่งท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองนนท์ รุ่นสงครามโลก ผู้สร้างวัตถุมงคลเนื้อ 'แร่บางม่วง' อันวิเศษ ขึ้นชื่อว่าเป็นแร่เศรษฐี มีแต่ทรัพย์ล่าสุดท่านได้จัดทำ 'พระปิดตาแร่เศรษฐี' หรือ 'พระปิดตาแร่บางม่วง'

แร่บางม่วง หรือแร่เศรษฐี เกิดในคลองบางม่วง หลวงปู่ทองย้อย ศิษย์หลวงพ่อดิษฐ์ นำแร่ก้อนเก่าที่หลวงพ่อดิษฐ์ปลุกเสกไว้นำมาสร้าง 'พระปิดตายันต์ยุ่ง' หัวใจเศรษฐี สร้างได้จำนวนไม่มากนักเพราะแร่มีน้อย ท่านทำพิธีปักเทียนเบิกบายศรี กระทงข้าวตอก ถั่วงา ดอกไม้ บอกกล่าวบวงสรวงครูบาอาจารย์ รวมถึงขอบารมีหลวงพ่อดิษฐ์ และเทวดาที่รักษาแร่วิเศษนี้ ในวันอังคารที่ 9 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปี 2555 ฤกษ์มงคลภูมิปาโลฤกษ์ ลูกศิษย์คนหนึ่งเล่าว่า วันนั้นขณะทำพิธีเกิดลมพายุพัดเข้าวัดอย่างน่าประหลาด ฝูงนกแก้วที่อยู่บริเวณวัดร้องระงม ชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ประหลาดใจและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แร่นี้ศักดิ์สิทธิ์นัก เทพเทวาเบื้องบนท่านคงรับรู้ว่าแร่วิเศษเศรษฐีนี้จะเปิดตำนานอีกครั้ง มีอานุภาพจะให้คนรับรู้ขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่หายไปนานร่วม 50 ปี

'พระปิดตาแร่เศรษฐี' เป็นพระปิดตาลอยองค์ยันต์ยุ่งขัดสมาธิเพชรท่านั่งบันลือสิงหนาท ปิดทวารทั้ง 5 เดินยันต์เส้นขนมจีน อิติ ปราศจากศัตรู ยันต์เฑาะว์ หมายถึงมนต์บทอภิธรรมเจ็ดคัมภีร์ ด้านหลังลงยันต์ พิเศษที่พระปิดตามหาอุตม์ไม่มีคือ 'หัวใจเศรษฐี' มั่งมีทรัพย์ เรียกเงิน เรียกทองให้ไหลมาเทมา ทำมาหากินดีจังไม่ฝืดเคือง มือประสานกันที่พระนาภี หรือที่ท้อง หมายถึงประคองทรัพย์สินสมบัติไม่ให้หลุดหล่นหายไปไหน พระปิดตาสร้างเนื้อ เนื้อเมฆสิทธิ์แร่โคตรเศรษฐี ซึ่งผสมแร่บางม่วงและทองคำ เงิน เนื้อจึงเป็นสีทองดอกบวบ แต่มีประกายเขียวอมแดงเหมือนปีกแมลงทับ เนื้อเมฆพัดแร่โคตรเศรษฐี ผสมแร่บางม่วง เนื้ออมดำเงางาม เนื้อสัมฤทธิ์แร่โคตรเศรษฐี ผสมแร่บางม่วง
ข้อมูล : ข่าวสด

พระปิดตายันต์ยุ่ง เนื้อเมฆพัตรแร่โคตรเศรษฐี จัดสร้าง 999 องค์
ขนาดองค์พระ หน้าตักกว้าง 2.0 ซม. สูง 2.5 ซม.

องค์ละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 41 พระสมเด็จปรกโพธิ์ หลังรูปเหมือน รุ่นแรก ปี 53 หลวงปู่นาม วัดน้อยชมภู่ สุพรรณบุรี

หลวงปู่นาม ท่านบอกว่า "เราสร้างรูปพระพุทธเจ้า บูชาพระคุณท่านที่มีมากมาย เหลือประมาณ เราเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า สร้างรูปพระพุทธเจ้า เพื่อบูชาเผยและแพร่บารมีท่าน ประกาศให้ฟุ้งกระจายออกไป สร้างแล้วทำแล้วก็ต้องทำให้ดี คนเขาจะได้ไม่ลบหลู่ดูหมิ่นพระพุทธเจ้าที่ประเสริฐสูงสุด เขาใช้พระที่ฉันสร้างเขาจะได้พึ่งบารมีพระท่านได้จริงๆ"

เนื่องในโอกาสมงคลวันเสาร์ 5 วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม 2553 หลวงปู่นามได้ปิดโบสถ์ ประกอบพิธีปลุกเสก "พระปรกโพธิ์" เพื่อแจกและเปิดให้ลูกศิษย์ลูกหาร่วมบุญบูชา พระปรกโพธิ์รุ่นนี้ ด้านหลังเป็นรูปเหมือนหลวงปู่นาม สร้างจากผงพุทธคุณทั้ง 5 ตามตำรับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม ที่หลวงปู่นามได้ไปอยู่ศึกษากับหลวงปู่นาค และหลวงปู่หิน วัดระฆังฯ

มวลสารสำคัญประกอบด้วย ผงปัถมัง, ผงอิทธิเจ, ผงตรีนิสิงเห, ผงมหาราช และผงพุทธคุณ เสริมด้วยดอกไม้บูชาพระ, ดินกรุบ้านกร่าง, ดินท้องแม่น้ำ หน้าวัดน้อยชมภู่, กล้วย, อ้อย, ปูนเปลือกหอย, ผงพระสมเด็จวัดระฆังฯ, ผงวัดพลับ ผงพระกรุวัดเงินคลองเตยที่แตกหักจำนวนมาก
"พระปรกโพธิ์เสาร์ 5" เป็นพิมพ์ทรง 5 เหลี่ยม พระพุทธเจ้าประทับบัลลังก์ โคนต้นศรีมหาโพธิ์ที่แผ่ใบปรกคุมดุจรัศมี 10 ใบประกาศบารมี 10 ประการพุทธบารมี ขอบเป็นซุ้มกระจังช่างแกะได้สวยคมเข้ม ฝากผีมือช่างสมัยรัตนโกสินทร์ แฝงกระรอกและนกแสดงถึงปรกร่มเย็นอุดมสมบูรณ์ ด้านหลังเป็นรูปหลวงปู่นาม เป็นการสร้างพระปรกโพธิ์รุ่นแรกที่ห้วงนี้ลูกศิษย์ถามหามากที่สุด จัดสร้างฝังตะกรุดและผ้าจีวรจำนวน 3,000 องค์

องค์ละ 900 บาท

 

​

รายการที่ 42 พระกริ่งสายรกพระพุทธเจ้ารุ่นแรก (มีกินไม่รู้จักหมด) หลวงปู่บุญ วัดแสงน้อย

วัดแสงน้อย ต.นาคำใหญ่ อ.เขื่องใน จ.อุบล ราชธานี เป็นแหล่งธรรมที่มีประวัติอันยาวนาน สร้างมาตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นวัดประจำหมู่บ้านแสงน้อย แรกตั้งวัดกำหนดเขตอยู่ทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน โดยมี ′พระอธิการโพธิ พุทธวิริโย′ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสรูปแรก และได้ย้ายมาตั้งวัด ณ สถานที่ปัจจุบัน

วัดแห่งนี้มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ชาวบ้านเคารพนับถือนั่นก็คือ ′พระครูขันตยาธิคุณ′ หรือ ′หลวงปู่พระอุปัชฌาย์บุญ′ ซึ่งดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสตั้งแต่ปีพ.ศ.2489 จนถึงทุกวันนี้ ได้รับการยกย่องในหมู่ศิษย์ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์เทพเจ้าแห่งความเมตตา

พระกริ่งสายรกพระพุทธเจ้า เป็นวิชาเอกของพระเกจิอาจารย์เมืองอุบลราชธานี ′หลวงปู่ญาท่านสวน′ ศิษย์ผู้พี่ของหลวงปู่บุญ ซึ่งจัดสร้างและอธิษฐานจิตปลุกเสก พระกริ่งสายรก ปัจจุบันกลายเป็นวัตถุมงคลยอดนิยม สนนราคาเล่นหากันที่หลักแสน


การจัดสร้าง ′พระกริ่งสายรก′ ต้องมีฤกษ์ยามตามตำราโบราณ หลวงปู่บุญจารแผ่นยันต์ครูลงวิชาสายรก ยอดวิชาทำมาหากิน ยอดวิชาเรียกทรัพย์สิน เหมือนกับองค์พระมหาบุรุษบรมโพธิสัตว์เจ้า อยู่ในพระครรภ์พระบรมชนนี มหาเทพทั่วสากลพิภพต้องมาบำรุงบำเรอองค์บรมโพธิสัตว์เจ้า มิเช่นนั้นหัวแตกเป็น 7 เสี่ยง หล่อพระกริ่งในโภคาฤกษ์ ซึ่งเป็นฤกษ์แห่งสมบัติพระเจ้าจักรพรรดิ ปลุกเสกอีก 3 วัน

พระกริ่งสายรกเป็นยอดพระกริ่ง ผู้สร้างต้องมีบารมี จึงจะสร้างพระกริ่งสายรกที่ทรงพลังได้ ผู้สำเร็จวิชาสายรก บรรจงสร้างเป็นพระกริ่งสายรก บูชาจักไม่รู้จักคำว่าอดอยาก มีแต่คนจักมาอุดหนุน ยศแลศักดิ์เพิ่มพูน ความก้าวหน้า เจริญสืบไปเบื้องหน้าจักเป็นใหญ่เป็นโตกว่าคนทั้งผอง ผู้ใดพบให้บูชาจงดีจักแสดงอานุภาพมากมายสุดพรรณนา มีผลอย่างโบราณว่า เป็นเลิศทางโภคทรัพย์มาก มีกิน มีใช้ไม่ขาดมือ ไม่หาย ไม่จาง จำเริญก้าวหน้า เกิดลาภผลยศศักดิ์สรรเสริญ ความผาสุกเจริญรุ่งเรือง ไม่ตกต่ำแล

เนื้อทองชมพูสดสุกใส สร้างจำนวน 2,992 องค์

องค์ละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 43 พระปรกโพธิ์ (กรรมการ) ด้านหลังฝังตะกรุด 16 ดอก หลวงพ่อแป๋ว วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี

พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง "หลวงพ่อแป๋ว" วัดดาวเรือง อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลประเภทพระเครื่องและเครื่องรางของขลังของท่านกำลังได้รับ ความนิยมในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสม พระครูปัญญาวิมล เป็นเจ้าคณะตำบล พระอุปัชฌาย์ ปัจจุบันสิริอายุ 77 ปี บวชตั้งแต่อายุ 20 ปี เมื่อปี 2496 โดยมี พระราชสิงหมุนี พระครูรัตนาธาร(หลวงพ่อเยื้อน) และพระมหาจำลอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ตามประวัติท่านร่ำเรียนวิชาในสาย "หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์"ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อแพ วัด พิกุลทอง จ.สิงห์บุรี เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค และเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อทอง วัดพระปรางค์

"หลวงพ่อแป๋ว" ท่านสืบวิชาตำราโบราณผ่านทางหลวงพ่อทอง วัดพระปรางค์ ในสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ผ่านทางหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค ในสาย หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ผ่านทางหลวงพ่อเชน วัดสิงห์ ในสายหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา มนต์จินดามณี ผ่านทางหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค ในสายหลวงพ่อเฒ่า วัดค้างคาว ยันต์ค่ายกล ผ่านทางหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค ในสายหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ผ่านทางหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค

คนเมือง สิงห์รู้ดีว่า วัตถุมงคลของหลวงพ่อแป๋ว วัดดาวเรือง มีพุทธคุณเด่นดังเพียงใด ท่านออกเหรียญรุ่นแรก ตั้งแต่ปี 2526 ปัจจุบันสนน ราคาเล่นหากว่าครึ่งหมื่น ท่านทำตะกรุดคงกระพันชาตรีแคล้วคลาดติดอันดับต้นๆ ของเมืองสิงห์บุรี ทำเครื่องรางของขลังผ้าขอด 9 ขอด ทำแหวนพิรอดหัวตะกร้อ กันเขี้ยวงา ว่ากันว่างูอ้าปากไม่ขึ้น สุนัขกัดไม่เข้า ตะขาบกัดไม่บวม ปลิงแกะลื่น ท่านทำผ้ายันต์กันไฟ ตอนไฟไหม้โบสถ์ มีคนเห็นยันต์เป็นเส้นสีแดงคลุมวัด แต่กฎของกรรมฝืนไม่ได้ ท่านบอกเทวดามาช่วยสร้างโบสถ์ เสร็จใช้เวลาไม่ถึง 2 ปี

พระปรกโพธิ์ กรรมการ พิมพ์หน้ากากสำริด หลวงปู่แป๋ว วัดดาวเรือง ด้านหลังฝังดินหัวนอน ผงพระหลวงพ่อกวย เม็ดแร่ พระธาตุ จีวรเสก มวลสารเพียบ ฝังตะกรุด 16 ดอก สร้างจำนวน 999 องค์ มีโค๊ดและหมายเลขกำกับทุกองค์ ขนาดความสูง 4 ซ.ม. กว้าง 2.7 ซ.ม.
เชิญร่วมสร้าง มณฑปกับหลวงพ่อแป๋ว วัดดาวเรือง

หลวงพ่อแป๋ว ศิษย์หลวงพ่อกวย ดำริสร้างมณฑปบูรพาจารย์ ซึ่งจะต้องใช้ทุนทรัพย์จำนวนมาก จึงขอประกาศบอกบุญมายังศิษย์หลวงพ่อกวย ,ศิษย์หลวงพ่อเชน และศิษย์รดน้ำมนต์ของหลวงพ่อแป๋ว มารวมบุญกัน อานิสงส์สูงเท่าสร้างโบสถ์ สร้างวิหาร ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า เป็นมหาทาน คือทานที่สูงที่สุด วิเศษที่สุด และมีผลมากที่สุด ยิ่งเป็นมณฑปบูรพาจารย์ด้วยแล้ว เท่ากับเรายกย่องเชิญชู ครูบาอาจารย์ให้สูงขึ้น ชีวิตเราก็จะยิ่งสูงส่ง มีครูบาอาจารย์พิทักษ์รักษา คอยปัดเป่าทุกข์โศก โรคภัย ให้ทุกเมื่อเชื่อวัน “ศิษย์มีหลักเหมือนพยัคฆ์มีเขี้ยว ศิษย์มีครูเหมือนงูมีพิษ ปัจจามิตร พินาศสูญ”

องค์ละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 44 ตะกรุดปลุกจิต หลวงปู่ขุ้ย วัดซับตะเคียน จ.เพชรบูรณ์

ตะกรุดปลุกจิต หรือ ตะกรุดกลับใจขุนโจร หมายความว่า “โจรเครายาวโหดร้ายอมหิต เพียงใดก็กลับมาใจอ่อนยอมสิโนราบคาบแก้วมาให้เราเพียงผู้เดียว” นี้แลคือเมตตาเกิดขึ้นมาก มหานิยมเกิดขึ้นแรง ต้องตาปลุกจิตปลุกใจ ผู้คนให้ความเอ็นดูช่วยเหลือ แม้ใจแข็งดังหินก็จักอ่อนปานนุ่นได้ หากแม้นโกรธเคือง กันมานานก็จะใจอ่อนหายโกรธา

ตะกรุดปลุกจิต เป็นตะกรุดตะกั่ว ขนาด 4 เซนติเมตร เป็นเคล็ดลับการสร้าง 4 คำ ที่ว่า “มีรัก มีร่วม มีร่วม มีรัก ” (แปลกดีไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ) ถักเชือกลงรักและพันผ้าเหลือง เพราะ ผ้านี้คือธงชัย หมายถึงสำเร็จวิชาแห่งการกลับใจโจรนั้นเอง (องค์คุลีมาร เห็นผ้าเหลืองของพระพุทธองค์และกลับใจ จนบรรลุเป็นยอดคนได้อรหัตผล) ผู้มีตะกรุดพึงได้รับความสำเร็จเห็นผล สุขสมหวังทั้งชายหญิง

วิธีใช้ ท่านให้ตั้งจิตมั่น จะไปสอบ ท่านให้เขียนชื่อ หมายเลข วิชา หรือชื่อครูที่คุมสอบด้วยจะดีมาก รัก ที่จะผูกมิตรกับใคร ให้เขียนชื่อ วันเดือนปีเกิด คนนั้น หรือศัตรูของเราก็ได้ จะให้ใครรักมีจิตฝักไฝกับเราก็เอาชื่อรายละเอียดคนนั้นนั้นแหละ ใส่ในใบพลูสด (ใบพลูที่กินกับหมากแรงเมาเผ็ดดีมีรสจัดจ้าน) ภาวนาคาถาปลุก และม้วนใส่ไว้ใจกลางตะกรุด ว่าคาถาปลุกให้ครบ 7 วัน ตำราท่านว่าเห็นผล เมื่อสำเร็จแล้วต้องรับผิดชอบ ห้ามทอดทิ้ง ห้ามทำทดลองเล่นๆ เป็นอันขาดเพราะอาถรรพ์ คุณของวิชา ครูบาอาจารย์ ต้องตั้งใจมั่นให้ดี ไม่ตั้งใจ ไม่มั่นใจ ไม่ขลัง

หลวงปู่ท่านบอกว่าไม่ต้องทำอย่างที่ว่าหรอกแค่พกไว้กับตัวเองก็มีผลมากมาย ก่ายกองแล้ว

คาถาปลุกตะกรุดว่า... นะโม ๓ จบ ก่อน นะผูกจิต โมผูกใจ พุทรักใคร่ ธาหลงใหล ยะเอ็นดู พุทธังชิวิตัง เอหิ พรหมาจักกรา เอกยักขะ มานิมามา(ชื่อคน) รักกูจนสิ้นชีวัง สะระณังคัจฉามิ เอหิ จิตติ จิตตัง ปิยังมะมะฯ ทุติยัมปิ นะผูกจิต โมผูกใจ พุทรักใคร่ ธาหลงใหล ยะเอ็นดู พุทธังชิวิตัง เอหิ พรหมาจักกรา เอกยักขะ มานิมามา(ชื่อคน)รักกูจนสิ้นชีวัง สะระณังคัจฉามิ เอหิ จิตติ จิตตัง ปิยังมะมะฯ ตะติยัมปิ นะผูกจิต โมผูกใจ พุทรักใคร่ ธาหลงใหล ยะเอ็นดู พุทธังชิวิตัง เอหิ พรหมาจักกรา เอกยักขะ มานิมามา(ชื่อคน)รักกูจนสิ้นชีวัง สะระณังคัจฉามิ เอหิ จิตติ จิตตัง ปิยังมะมะฯ

ดอกละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 45 ตะกรุดแฝด มีคู่อยู่เคียงหมอน หลวงพ่อหนู วัดอัมพวนาราม จ.ร้อยเอ็ด

เมื่อก่อนพวกหมอเสน่ห์ จะทำตะกรุดแฝด ไปไว้ใต้หมอนหญิงหรือชายใด นอนทับตะกรุดแฝดนี้ จะหลงหมอนหลงที่นอน จะหลับทีไร ต้องมาหลับมานอนห้องหอนั้นตลอดไป นอนที่ไหนก็ไม่สุขแสนสุขเท่านอนใต้หมอนฝังตะกรุดแฝด
ปัจจุบันหมอเสน่ห์ที่จริงๆทำตะกรุดแฝดจริงหาทำยาก ยิ่งวิชาตะกรุดแฝดด้วยแล้วยิ่งหายสาบสูญไปเลย

หลวงพ่อหนู ทำตะกรุดแฝดเป็นเรื่องที่ลูกศิษย์เมืองร้อยเอ็ดฮือฮากันมาก เพราะหาเกจิอาจารย์สร้างได้ยากเต็มที ใช้แผ่นตะกั่วลงยันต์แผ่นเดียว เกี่ยวเหนี่ยวรัดพันผูก และม้วนเป็น2 ดอกคู่กัน

* ดอกหนึ่ง ดึงผูกจิต ดึงผูกใจ ดึงผูกมิตร ดึงแนบสนิทให้หญิงมาชิดกาย
* ดอกหนึ่ง ดึงผูกจิต ดึงผูกใจ ดึงผูกมิตร ดึงแนบสนิทให้ชายมาเกยกาย

จากนั้นถักเชือกเป็นถุงมีห่วงด้านบน มีเอกลักษณ์ สวยงามอย่างไม่มีใครเคยสร้างมาก่อน

ตะกรุดแฝดมีคู่อยู่เคียงหมอน ลงบทพุทธคุณ "ฉัพพรรณรังสีแฝดครอบคลุมใจ" จะอยู่ไกลแค่ไหนก็มีรัศมีดึงให้มาอยู่ใน ผ้าห่มผืนเดียวกันได้ ตะกรุดนี้จึงดีไปในทาง "ติดตรึงในความรัก ความสมหวังในคู่ครอง เมื่อใดมีใจ เกี่ยวเนื่อง ผูกพัน รักใคร่ หญิง ชาย จักมีอารมณ์เกื้อหนุน สมานไมตรี ให้สำเร็จทั้งกิจ สมในความรัก หาอุปสรรคขัดขวางมิได้"
**เวลาใช้ติดตัวจะเป็นเมตตา มหาเสน่ห์ เป็นรัศมีออกมาจากกายเรา แต่มีข้อแม้ว่า ทำใจให้ยินดี เบิกบาน ยิ้มได้ทั่วสารทิศ จะมีแต่คนรัก ไม่มีใครเกลียด ถ้ามีคนโกรธเราแม้แต่คนเดียวเขาจะอยู่ไม่ได้ ต้องมาดีกับเรา ถ้าไม่มาจะร้อนจนอกแตกตาย

**เวลาใช้ในทางเสน่ห์ ให้คนรัก ท่านให้ไปหาใบรักขึ้นยอด(เก็บใบยอดต้นรัก) ตอนเก็บท่านให้กลั้นใจ จากนั้นให้นำมาเขียนชื่อคนที่เรามีจิตรักใคร่อยากสมสู่เข้าหอลงโรง จากนั้นเอาตะกรุดแฝดทับใบรักนั้นไว้ สวดคาถาปลุกให้ครบ๗ วันวันละ ๒ ครั้ง ตื่นนอนและก่อนเข้านอน ถ้ามีบุญที่จะสมสู่ผูกมิตรกัน จะเห็นผลใน ๗ วัน แต่ถ้าไม่เคยทำบุญกรรมมากาลก่อนอาจนานเป็นปี แต่ถ้ามีกฎแห่งกรรมปิดบังเห็นผลถัดไปเลย ๓ ปี แต่ไม่เห็นผลเลยไม่มีเด็ดขาด

***ตะกรุดแฝดนี้ ท่านให้พกติดตัวก็ดีสูงสุด เมตตา มหาเสน่ห์สูงท่วมหัวอยู่แล้ว ไม่ต้องไปทำถึงขนาดนั้นก็ได้
***ใช้ตะกรุดด้วยความรับผิดชอบ คนที่มีคู่แล้วท่านห้ามทำ กฎแห่งกกรมฝืนไม่ได้
***มีคาถาปลุกตะกรุดแฝดให้คู่กับตะกรุด***

***สร้าง 1,999 ดอก (มีหมายเลขและโค้ดกำกับทุกดอก)***

ดอกละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 46 ตะกรุดกะเหรี่ยงดง หลวงพ่อวิชัย สำนักสงฆ์พุทธมงคล แม่ฮ่องสอน

ตะกรุดกะเหรี่ยงดง ลพ.วิชัย สำนักสงฆ์ พุทธมงคล แม่ฮ่องสอน ตะกรุดกะเหรี่ยงดง ลพ.วิชัยท่านจารยันต์นะโมตาบอดตำรับอีสานผสมกับตำรับกะเหรียง ลงในแผ่นตะกั่วจนเต็ม ม้วนด้วยมือแล้วท่านก็นั่งถักด้วยเชือก จารไปถักไปเรื่อยๆ ขณะที่ถักก็เสกคาถาลงไปบนตะกรุดตลอดเวลา ท่านทำแบบพิถีพิถัน ทุกดอก อีกทั้งสำนักสงฆ์ที่ท่านจำวัดอยู่นั้นตั้งอยู่บนดอยสูง อากาศเย็นสบาย ไม่มีใครมารบกวน จึงเสกคาถาลงได้เต็มที่ เรียกว่ามีเท่าไหร่ก็ใส่ให้หมด เสกให้มีทุกด้านครบ บารมี เมตตา เข้าหาผู้ใหญ่ เข้าหานารี โชคดี แคล้วคลาด เพราะท่านเห็นว่าผู้คนที่จะนำไปใช้ ต่างก็ต้องการพุทธคุณไม่เหมือนกัน จึงลงคาถาให้ครอบคลุมทุกด้าน จารยันต์ตัวนึงก็เรียกสูตรเรียกนามตัวนึง ไม่ทำแบบลวกๆ จารทุกดอกเสกทุกดอก

แล้วนำมาคลุกผงพุทธคุณอีกแบบบางๆ ลงยางไม้ของกะเหรียงสีน้ำตาลๆ อันยางไม้ชนิดนี้ เป็นของดีของชาวกะเหรี่ยง แม่ลาก๊ะเลยทีเดียว มีที่ดอยนี้แห่งเดียว ชาวกะเหรี่ยงหวงแหนยางไม้ชนิดนี้กันมาก ไม่ยอมให้ใครเข้าไปกรีดเอายางเลย มีสรรพคุณด้าน มหาเสน่ห์อย่างหาที่เปรียบมิได้ ผู้เฒ่าแห่งแม่ลาก๊ะ ซึ่งสมัยก่อนเป็นหมอผีประจำเผ่า เล่าให้ฟังว่า เอายางไม้นี้พกติดตัว ไปหมู่บ้านไหนก็ได้เมียเป็นกะเหรี่ยงสาวรุ่นๆทุกหมู่บ้านเลย เรียกว่ายกลูกสาวให้ทันที

…ผู้เฒ่าบอกว่านี่เห็นเป็น ลพ.วิชัย จะทำของดี เพื่อนำเงินมาสร้างวัด จึงพาเข้าไปกรีดเอายางมาทำตะกรุดนี้โดยเฉพาะ แถมหลวงพ่อวิชัย ยังจารยันต์ที่ตะกรุดด้านนอกอีกหนึ่งแถว เป็นการกำกับ ไม่ให้มีการเสื่อมของพุทธคุณเอาไว้ให้อีกด้วย เพี่อให้ผู้คนทุกชนชั้นได้ร่วมทำบุญสร้างวัดกับหลวงพ่อวิชัย นักบุญแห่งแม่ลาก๊ะ ปลุกเสกคราแรกโดยใช้วิยาไสยเวทย์แห่งเขมรโบราณแล้วเสกต่อด้วยคาถาแห่งดินแดนล้านนา เป็นวิชามหาเสน่หา แคล้วคลาด เรียกหาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง ให้เข้ามามากมี อีกทั้งบารมีเพิ่มพูน จนใช้ไม่มีวันหมด ถ้าจะใช้ด้านเมตตา ก็อธิฐานเอาตามศรัทธาแห่งผู้ใช้ ความเมตตามหาเสน่ห์จะบังเกิดมากมายพูนทวี ยิ่งๆขึ้นตามความศรัทธาที่ท่านมีต่อตะกรุดกะเหรี่ยงดงดอกนี้แล

ตะกรุดกะเหรี่ยงดง (มีโค้ด) สร้าง 1999 ดอก

ดอกละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 47 พระกริ่งประสพโชค รุ่นแรก พ่อท่านประ วัดภูเขาดิน จ.นครศรีธรรมราช เนื้อทองแดง

ประวัติหลวงปู่ประ อคฺคธมฺโม วัดภูเขาดิน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช
เดิม ชื่อนายประ รักษายศ เกิดวันจันทร์ ปีมะเมีย พ.ศ. 2441 พื้นเพเดิมเป็นชาว ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช บิดาชื่อนายกล่อม รักษายศ มารดาชื่อนางท้าว รักษายศ เป็นบุตรคนสุดท้อง มีพี่สาว 2 คน หลวงปู่ประเป็นลูกชายคนเดียว เมื่ออายุได้ 16 ปี หลวงปู่ประได้เข้ารับการบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดสวนขันและได้ศึกษาเล่าเรียน กับพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ เนื่องจากสามเณรประเป็นเด็กขยันหมั่นเพียร สมองดี และใฝ่รู้ในพระพุทธศาสนาจึงเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ จนพ่อท่านคล้ายถึงกับเอ่ยว่า “ให้อยู่ในร่มกาสาวพักตร์เถิด ต่อไปในภายหน้าเจ้าจะเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป” จนเมื่อครบอายุอุปสมบท สามเณรประจึงไม่รอช้าได้อุปสมบทบวชเป็นพระทันที ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ร่ำเรียนวิชาวิปัสสนากรรมฐานและวิชาอาคมกับพ่อท่านคล้ายมาโดยตลอด จนกระทั่งอายุ 30 ปี มารดาได้มาขอให้หลวงปู่ประลาสิกขาบท เนื่องด้วยทางบ้านลำบากไม่มีคนช่วยงาน ท่านจึงต้องลาสิกขาบทออกมาช่วยงานมารดา หลวงปู่ประได้เข้าไปกราบพ่อท่านคล้าย โดยพ่อท่านคล้ายเอ่ยว่า “ไปทำหน้าที่ของท่านเถิด เมื่อถึงเวลาท่านจะกลับเข้ามาอยู่ในร่มกาสาวพักตร์เอง” โดยที่หลวงปู่ประยังไม่ได้กล่าวอะไรทั้งสิ้น เมื่ออยู่ในฆราวาสหลวงปู่ประยังเล่าเรียนวิชาอาคมกับพ่อท่านคล้ายและไปมาหา สู่อยู่เป็นประจำและยังได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมสำนักเขาอ้อ จ.พัทลุง และยังเคยร่ำเรียนวิชาอาคมกับพ่อท่านเอียดดำ วัดอ้ายเขียว จ.นครศรีธรรมราช จนเป็นที่ยอมรับของชาวอ.ทุ่งใหญ่ (หลวงปู่ประท่านบอกกับกระผมว่าสมัยนั้น อ.ทุ่งใหญ่ โจรป่าและโจรไม่รู้สัญชาติเยอะมากเข้ามาปล้น ฆ่า เรียกค่าไถ่ หลวงปู่ประจึงขันอาสาเข้าไปปราบปราม โดยมีอาวุธเพียงมีด 1 เล่มเท่านั้น เพียงชั่วข้ามคืนโจรก็ได้ถอยล้าหนีหาย จนไม่มีโจรป่าหน้าไหนย่างกลายเข้ามาอีกเลย ชาวบ้านจึงยอมรับและแต่งตั้งให้ท่านเป็นผู้ใหญ่บ้าน และขนานนามว่าผู้ใหญ่ประจอมขมังเวทย์ หลวงปู่ประดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านจนกระทั่งเกษียณ ครั้นเมื่อเกษียณแล้วหลวงปู่ประจึงไม่รีรอที่จะกลับเข้ามาสู่ร่มกาสาวพักตร์ อีกครั้ง ก่อนที่จะอุปสมบทอีกครั้งหลวงปู่ประได้นั่งชาญวิปัสสนาและในชาญวิปัสสนานั้น หลวงปู่ประได้พบกับพระรูปหนึ่งซึ่งมีอายุมากหลวงปู่ประเข้าไปกราบนมัสการ แล้วถามว่าหลวงพ่อชื่ออะไรครับ พระรูปนั้นก็หันหน้ามามีเสียงดังก้องโดยที่ปากท่านไม่ได้ขยับมีเสียงเปล่ง ออกมาว่าฉันชื่อสามีราโม แต่ชาวบ้านเรียกเราว่าพ่อทวด แล้วพ่อรูปนั้นก็เอ่ยว่า เราขออนุโมทนาด้วยที่ท่านจะมาถะนุบำรุงพระพุทธศาสนา หลวงปู่ประจึงก้มกราบเมื่อเงยหน้าขึ้นมาพระรูปนั้นได้หายไปแล้ว หลวงปู่ประจึงออกจากสมาธิแล้วก้มกราบไปทางทิศวัดช้างไห้ เช้าวันรุ่งขึ้นหลวงปู่จึงไม่รอช้ารีบไปหาพ่อท่านคล้าย เมื่อเจอพ่อท่านคล้ายหลวงปู่ประก้มกราบพ่อท่านคล้ายยังไม่ทันจะเอ่ยอะไร พ่อท่านคล้ายก็เอ่ยขึ้นมาว่า เมื่อคืนพ่อทวดมาหาใช่มั้ย เราก็ขออนุโมทนาบุญเช่นกัน แต่โยมประต้องไปบวชที่ทุ่งใหญ่ วัดคู่บุญรอโยมประอยู่ หลวงปู่ประจึงถามว่าวัดไหนครับหลวงพ่อ พ่อท่านคล้ายบอกว่าไปเถอะแล้วโยมจะรู้เอง หลวงปู่ประจึงได้กราบลาพ่อท่านคล้ายกลับไปที่ อ.ทุ่งใหญ่ พอถึงหน้าวัดภูเขาหลัก พ่อท่านแดงเจ้าอาวาสวัดภูเขาหลักยืนรออยู่แล้ว พ่อท่านแดงได้เอ่ยว่าโยมประเราเตรียมเครื่องไตรจีวรไว้ให้โยมเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่ประถึงกับงงแต่ก็รับไตรจีวรจากพ่อท่านแดงโดยไม่รอช้าเข้ารับการ อุปสมบททันที ซึ่งมีพระอุปัชฌาย์ พระคู่สวด และพระนั่งลำดับรออยู่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง พระอุปัชฌาย์คือ หลวงพ่อแดงวัดภูเขาหลัก พระกรรมวาจาจารย์คือ หลวงพ่อนาถวัดควนสระบัว เมื่อหลวงปู่ประอุปสมบทได้ 7 วันก็ได้นิมิตเห็นภูเขาลูกหนึ่งทั้ง 7 วันจึงได้ไปกราบพ่อท่านแดง พ่อท่านแดงจึงบอกว่าเรารู้แล้วว่าท่านต้องไปอยู่วัดนั้นไปเถิดที่นั่นเป็น วัดคู่บุญของท่าน หลวงปู่ประจึงได้กราบลาพ่อท่านแดงไปจำพรรษาที่วัดภูเขาดินตั้งแต่นั้นเป็น ต้นมา ด้านการปฏิบัติธรรมท่านปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ทำวัตรเช้าวัตรเย็นไม่เคยขาดถึงแม้ท่านจะอายุมากแล้วก็ตาม ด้านสุขภาพร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคภัยแม้แต่น้อย (เคยมีชาวบ้านไปกราบพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ พ่อท่านคล้ายบอกว่าเธออยู่ทุ่งใหญ่ทำไมมากราบเราถึงที่นี้ ที่ทุ่งใหญ่ก็มีพระดี มีวิชา วาจาสิทธิ์อยู่ที่นั้นทำไมไม่ไปกราบ ชาวบ้านจึงถามว่าใครหรือครับ พ่อท่านคล้ายบอกว่าหลวงปู่ประไงล่ะ)***

พ่อ ท่านประได้มรณภาพลงอย่างสงบเมื่อเวลา 17.05 น. วันที่ 15 พฤษภาคม 2556 ภายในกุฏิวัดภูเขาดิน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ด้วยโรคชรา สิริรวมอายุ 116 ปี 5 เดือน 56 พรรษา ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของญาติโยม และลูกศิษย์ลูกหา ที่ทราบข่าว

องค์ละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 48 รูปเหมือนหล่อเต็มองค์นั่งเมฆ ชนะจน รุ่นแรก สร้างปี 2553 พ่อท่านประ วัดภูเขาดิน เนื้อทองแดง ฝังตะกรุดเงิน

องค์ละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 49 พระผงรูปเหมือนปิดทอง รุ่นแรก สร้างปี 2553 พ่อท่านประ วัดภูเขาดิน นครศรีธรรมราช

องค์ละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 50 ล็อกเก็ตชนะจน รุ่นแรก พ่อท่านประ วัดภูเขาดิน จ.นครศรีธรรมราช สร้างปี 2553

ด้านหลังบรรจุผงพุทธคุณผสมเกษาพ่อท่านประ ตัดชิดรูปเหมือนเนื้อทองเหลือง
ตะกรุดเงินจารมือ จีวร แผ่นเงินตอกโค้ด รันหมายเลขทุกองค์

ฉากแดง สร้าง 300 องค์

องค์ละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 51 เหรียญรุ่นแรก ครูบาเลิศ วัดทุ่งม่านใต้ ลำปาง เนื้อตะกั่ว

เหรียญ รุ่นแรก ...ครูบาเลิศ..แห่งวัดทุ่งม่านใต้ ครูบาท่านบอกว่าสร้างเองรุ่นนี้
ครูบาเลิศศิษย์เอกครูบานันตา แห่งวัดทุ่งม่านใต้ได้ดําริสร้างเหรียญรุ่นแรกขึ้นโดยท่านได้พูดออกมาดังๆว่าข้าจะสร้างเหรียญรุ่นแรกตํารับล้านนาของครูบานันตาพ่อข้า ต้องเป็นเหรียญที่มีรูปข้าครึ่งองค์เพราะข้าจะสร้างเหนือครูบาอาจารย์ของข้าไปไม่ได้
ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์สุริยะประภาและจันทรประภา หนุนดวงคําคูณ การค้าขาย การทํามาหากินเสริมดวงชะตาเป็นมหาโภคทรัพย์ เรียกสมบัติกลับดวงให้ดีอยู่เสมอ

..ลักษณะเหรียญเป็นรูปเหรียญห่มคลุมครึ่งองค์มียันต์หัวใจมนุษย์ผู้ชายและมนุษย์ผู้หญิงเป็นฐานต่อยอดกนกให้ปลายกนกเจริญงอกยกชูยาวออกไปมีความหมายว่าให้ท่านผู้ชายและผู้หญิงที่ใช้เหรียญนี้มีความเจริญงอกงามรุ่งโรจน์

ต่อไปอีกมีคําว่ารุ่นแรกอยู่ด้านล่างส่วนด้านหลังของเหรียญเป็นยันต์ครูสุริยประภา และจันทราประภาล้อมรอบด้วยยันต์อักขระล้านนาตามตํารากํากับให้ท่านทั้งหลายได้เป็นผู้เจริญทั้งกลางวันและกลางคืนเสริมชะตาชีวิตให้ดีขึ้นดวงที่ร้ายให้ดี ดวงที่ดีก็จะยกดีขึ้นไปอีกอีกทั้งเป็นผู้เจริญในการงานอาชีพเงินทองโชคลาภมากมีเป็นมหาสมบัติเงินทองไม่ขาดพร่องมีเสริมต่อให้ไม่มีวันหมดเหรียญนี้ท่านครูบาท่านตั้งใจสร้างขึ้นมาเป็นรุ่นแรกปลุกเสกยาวนานข้ามวันข้ามคืนท่านทําให้ดีเยี่ยมที่สุดสุดยอดจริงๆ

เนื้อตะกั่ว สร้าง 2,200 เหรียญ มีโค๊ดและหมายเลขกำกับทุกเหรียญ

ขนาดความสูงรวมห่วง 3.5 ซ.ม. กว้าง 2.3 ซ.ม.

เหรียญละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 52 เหรียญนั่งพาน ยันต์ครู หลวงปู่หนู ปญฺญาโสโต วัดไผ่สามเกาะ ราชบุรี

เหรียญนั่งพาน ยันต์ครู หลวงปู่หนู ปญฺญาโสโต วัดไผ่สามเกาะ ราชบุรี อายุ 95 ปี เนื้อตะกั่วไม่ตัดปีก จารมือทั้งหน้าและหลัง สร้างน้อย หมายเลข 59 สร้างปี พ.ศ. 2555
หลวงปู่หนูเป็นพระเกจิอาจารย์มีเวทย์มนต์เข้มขลัง สมาธิจิตแก่กล้า ถือมักน้อยสันโดษ มีปฏิปทาน่าเสื่อมใส บริสุทธิ์ผ่องแผ้วทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นศิษย์ผู้สืบทอดไสยเวทย์พุทธาคมจากหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม และหลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม สืบสายวิชาหลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจนบุรี จากพระอาจารย์อู๋ วัดใหม่สำรอง สืบสายวิชาหลวงพ่อแทน ธรรมโชติ วัดธรรมเสน จากหลวงพ่อกล่อม วัดขนอม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หลวงปู่หนู ปัญฺญาโสโต มีเมตตาบารมี เอื้อเฟื้อต่อผู้มากราบนมัสการท่านอย่างเสมอเหมือนไม่เลือกที่รักมักที่ชั่ง เป็นพระสุปฏิปันโณอีกรูปหนึ่งที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ

เหรียญละ 1,000 บาท

 

​

รายการที่ 53 เหรียญเสมาเล็ก เนื้อทองแดง หลวงปู่เช้า วัดห้วยลำใย นครสวรรค์

ด้านหลัง เป็นยันต์กายทิพย์ พระสิวลี
พระที่ดูแลหลวงปู่บอกว่า มีศิษย์จากสุพรรณบุรี นำเหรียญรุ่นนี้ ไปถ่ายรูปด้วยกล้องออร่า ผลคือ องค์พระมีรัศมีสีเหลืองเข้ม ปกคลุม และแผ่ออกมาเต็มภาพคะ

วัตถุมงคลประเภทพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง จึงเป็นที่ต้องการของนักสะสม เมื่อลูกศิษย์ไปหาหลวงปู่เช้ามักจะให้พรว่า 'ขอให้ผู้บูชาพระทุกคนจงจำเริญด้วย ทรัพย์สินเงินทอง ข้าวของเครื่องใช้ ให้มีกินมีใช้ไม่รู้หมด ให้ไม่รู้อดไม่รู้อยาก ไม่รู้ยากไม่รู้จน ให้เหนือคนให้ร่ำรวย ให้ข้าวเต็มนา ให้ปลาเต็มหนอง ให้เงินทองเต็มบ้านให้ลูกหลาน เจริญก้าวหน้า ให้เป็นมหาเศรษฐีทุกคนน

เหรียญละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 54 พญาไก่ฟ้ามหาลาภ หลวงปู่เช้า วัดห้วยลำใย เนื้อทองทิพย์ ฝังข้าวเปลือกเสก 1 เมล็ด

ไก่หลวงปู่เช้า หากินเก่ง คุ้ยเขี่ย หาแก้วแหวนเงินทอง โภคทรัพย์ ยศถาบรรดาศักดิ์ มาให้เจ้าของอยู่เรื่อย ก็ท่านเสกด้วยมหามนต์เมตตา พญาไก่ฟ้า เป็นไก่ฟ้าพญาเลี้ยง หมายถึงเจ้าของหากรับราชการก็เจริญก้าวหน้า เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง หากมีอาชีพทางค้าขาย ก็จะขายของดีมีกำไร มีลูกค้าหมั่นซื้อ หมั่นหาอยู่ตลอด เหมือนพญาไก่ที่คุ้ย เขี่ยหาอาหารอยู่ตลอดเวลา ไม่เหนื่อย ไม่หยุด ไม่เกียจคร้าน การบูชา ให้หาน้ำเปล่า ข้าวเปลือกสักกำ เลี้ยงไก่อย่าให้ขาด แล้วคอยสังเกตดู ร้านค้าที่ว่าเงียบจะมีคนเข้ามา มีลูกค้ามากขึ้น เป็นนักธุรกิจ นักเจรจา พ่อค้าพานิช นายหน้า นายธนาคาร ติดต่อการงาน จะราบรื่น ได้เงินก้อนใหญ่ ได้งานชิ้นโต เหนื่อยน้อยได้มาก ผิดกับเมื่อก่อนที่เหนื่อยมากได้น้อย ทรัพย์สินเงินทองบริบูรณ์ขึ้น หากินง่ายขึ้น ถ้ารับราชการจะเจริญก้าวหน้า เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เป็นไก่ฟ้าพญาเลี้ยง บูชาไว้ที่บ้าน ที่ร้านค้า ที่บริษัท จะร่มเย็นเป็นสุข มีโภคสมบัติหลั่งไหลมาสู่สถานที่นั้นมิได้ขาดแล ยิ่งวันไหน เห็นข้าวเปลือกกระจาย คล้ายไก่เขี่ยกิน ลองเสี่ยงโชค ลาภลอยสักหน่อย ท่านว่า จะมีโชคดีนัก

เนื้อทองทิพย์ (ผิวสีทอง) ตัวพญาเลี้ยง ใต้ฐานอุดผงพญาเลี้ยง ฝังข้าวเปลือกเสก 1 เมล็ด
สร้างจำนวน 1,999 ตัว
ขนาดความสูง 3.4 ซ.ม. กว้าง 2.1 ซ.ม. มีโค๊ดกำกับทุกตัว

องค์ละ 1,000 บาท

 

​

รายการที่ 55 พญาไก่ฟ้ามหาลาภ หลวงปู่เช้า วัดห้วยลำใย เนื้อทองทิพย์(ตัวครู) ฝังข้าวเปลือก ตะกรุดเงินคู่

ไก่หลวงปู่เช้า หากินเก่ง คุ้ยเขี่ย หาแก้วแหวนเงินทอง โภคทรัพย์ ยศถาบรรดาศักดิ์ มาให้เจ้าของอยู่เรื่อย ก็ท่านเสกด้วยมหามนต์เมตตา พญาไก่ฟ้า เป็นไก่ฟ้าพญาเลี้ยง หมายถึงเจ้าของหากรับราชการก็เจริญก้าวหน้า เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง หากมีอาชีพทางค้าขาย ก็จะขายของดีมีกำไร มีลูกค้าหมั่นซื้อ หมั่นหาอยู่ตลอด เหมือนพญาไก่ที่คุ้ย เขี่ยหาอาหารอยู่ตลอดเวลา ไม่เหนื่อย ไม่หยุด ไม่เกียจคร้าน การบูชา ให้หาน้ำเปล่า ข้าวเปลือกสักกำ เลี้ยงไก่อย่าให้ขาด แล้วคอยสังเกตดู ร้านค้าที่ว่าเงียบจะมีคนเข้ามา มีลูกค้ามากขึ้น เป็นนักธุรกิจ นักเจรจา พ่อค้าพานิช นายหน้า นายธนาคาร ติดต่อการงาน จะราบรื่น ได้เงินก้อนใหญ่ ได้งานชิ้นโต เหนื่อยน้อยได้มาก ผิดกับเมื่อก่อนที่เหนื่อยมากได้น้อย ทรัพย์สินเงินทองบริบูรณ์ขึ้น หากินง่ายขึ้น ถ้ารับราชการจะเจริญก้าวหน้า เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เป็นไก่ฟ้าพญาเลี้ยง บูชาไว้ที่บ้าน ที่ร้านค้า ที่บริษัท จะร่มเย็นเป็นสุข มีโภคสมบัติหลั่งไหลมาสู่สถานที่นั้นมิได้ขาดแล ยิ่งวันไหน เห็นข้าวเปลือกกระจาย คล้ายไก่เขี่ยกิน ลองเสี่ยงโชค ลาภลอยสักหน่อย ท่านว่า จะมีโชคดีนัก

เนื้อทองทิพย์ (ผิวสีทอง) ตัวครู หรือจ่าฝูง หากินเก่ง ใต้ฐาน ฝังตะกรุดสาลิกาคู่ ฝังข้าวเปลือกเสก 1 เมล็ด
สร้างจำนวน 999 ตัว
ขนาดความสูง 3.4 ซ.ม. กว้าง 2.1 ซ.ม. มีโค๊ดกำกับทุกตัว

องค์ละ .... บาท (หมดค่ะ)

 

​

รายการที่ 56 ตะกรุดเทพรัญจวน ตะกรุดดอกเล็กพริกขี้หนู ที่มีเมตตาแรง แซงหน้า แม้เทวดา ยังเมตตาต่อเรา !!

นี่แหละตะกรุดเทพรัญจวน ที่หลวงปู่พริ่ง เคยปฎิเสธ ไม่สร้าง ไม่ทำ มาแล้ว (เรื่องของเรื่อง เขาเล่ากันว่าเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว ท่านทำตะกรุดเทพรัญจวน ให้หนุ่มชาวไร่คนหนึ่งไป เพราะเห็นว่า รูปร่างหน้าตาไม่หล่อ ทั้งเป็นคนยากจนเสียอีก ไปหลงชอบ ครูสาวลูกข้าราชการใหญ่มีหน

้ามีตาระดับอำเภอเข้า ครูสาวมีคนมาชอบหลายคน รวยกว่า หล่อกว่า ทั้งนั้น แต่ก็ยอมตัดสินใจเลือกหนุ่มชาวไร่ ลูกศิษย์หลวงปู่พริ้ง มาเป็นคู่ชีวิต สร้างความอับอาย และเจ็บแค้นแก่พ่อตา ที่เป็นข้าราชการใหญ่ระดับอำเภอมาก แต่ก็ต้องยอม เพราะไม่อาจขัดใจลูกสาวได้ โบราณว่า คนไม่ได้เป็นเนื้อคู่กัน ถึงเทพอุ้มสม ก็อยู่กันไม่นาน ,หรือ เพราะบารมีของตะกรุดเทพรัญจวนของหลวงปู่พริ้งแผลงฤทธิ์ ก็ไม่รู้ได้ หนุ่มชาวไร่ ต่อมา กลายเป็นนักรักผู้ยิ่งใหญ่ มีรักใหม่เรื่อย ๆ และไปหลงรักแม่หม้ายต่างอำเภอเสียอีก เลยตัดสินใจหอบผ้า หอบผ่อน ไปอยู่กับแม่หม้าย ทิ้งครูสาวให้กลายเป็นหม้ายผัวร้าง พ่อตา ต้องรับกลับบ้าน และจัดการให้ตกแต่งใหม่ กับหนุ่มที่มีฐานะการงาน การเงินมั่งคงกว่า เรื่องนี้ หลวงปู่พริ้งรู้เข้า ท่านถึงกับบ่นว่า เสียดาย กูอุส่าห์ทำของดีให้มันใช้ เพราะเห็นว่ามันหล่อรวย สู้เขาไม่ได้ ในเมื่อมัน ได้เมียแล้วไม่รับผิดชอบ กลับ หากินไปเรื่อย ๆ แบบนี้ กูก็จะเรียกอาคมในตะกรุดคืนมา ต่อไป ก็ให้มันกลับมาทำไร่ ไถนาอย่างเก่าเถอะ เรื่องนี้จบลงตรงกับปากหลวงปู่พริ่ง คือ หนุ่มชาวไร่ มีอันต้องเลิกกับแม่หม้าย จะกลับไปหาครูสาวก็ไม่ได้ เลยต้องกลับมาทำไร่ ไถนาเหมือนเดิม

หลวงปู่พริ้งบอกว่า ไม่สร้างแล้ว ตะกรุดเทพรัญจวน ทำแล้ว คนเอาไปใช้ ไม่มีศีลธรรม ก็จะเป็นบาปตกถึงท่านและครูบาอาจารย์ของท่าน เป็นอันว่า ตำราตะกรุดเทพรัญจวน ฉบับหลวงปู่พริ้ง เกือบสูญ แต่ท่านอาจารย์ลอย บอกว่า งั้นผมสร้างเอง เพราะแผ่นตะกั่วเก่า ที่หลวงปู่ขุ้ย ปลุกเสกทิ้งไว้ให้นานนับ3 – 5 ปี ยังมีเหลืออยู่ปล่อยไว้นาน ก็จะกินตัว ผมจะทำตะกรุดเทพรัญจวน หาเงินซ่อมวัด นิมนต์หลวงปู่พริ้งบอกหน่อยว่าใช้ยันต์ตัวไหน และบอกคาถาปลุกเสกตอนจาร กับตอนม้วนตะกรุดให้หน่อย และเมื่อผมทำตะกรุดตามตำราหลวงปู่เสร็จแล้ว นิมนต์หลวงปู่ปลุกเสกให้ผมหน่อยเถอะ หลวงปู่พริ้ง มองหน้าพระอาจารย์ลอย พร้อมกับส่ายหัวไปมา แล้วหัวเราะบอกว่า..... เอ๊า ถ้าอาจารย์ลอยจะทำ ก็ให้ทำได้ ผมถือว่า ทำให้อาจารย์ลอยแล้วกันนะ..ผมไม่ได้ทำด้วยความต้องการของผมเอง เอาแผ่นตะกั่วของหลวงปู่ขุ้ยมาทิ้งไว้ที่ผมนี่แหละ จะทำให้ ทำมาตามตำราผม ผมจะเสกให้เต็มที่เลย แต่ท่านต้องบอกคนเขาก่อนเอาไปน๊ะว่า อย่าผิดลูกผิดเมียเขานะ และถ้าได้เขาไปแล้วต้องรับเลี้ยงดูเป็นตัว เป็นตนนะ หรือจะเอาติดตัวเป็นเมตตา มหาเสน่ห์ก็ได้นะ

... บทสรุป ตะกรุดเทพรัญจวน รุ่นนี้ ใช้แผ่นตะกั่ว ที่หลวงปู่ขุ้ย วัดซับตะเคียน เสกทิ้งไว้ให้ โดยเสกนาน 3- 5 ปี (แค่แผ่นตะกั่วก็ขลังไม่รู้ว่าจะขลังอย่างไงแล้ว) สร้างตามตำรา หลวงปู่พริ้ง ทุกกระเบียดนิ้ว เพราะหลวงปู่พริ้งทำ เพียงแต่ ทำเพราะพระอาจารย์ลอย ขอให้ทำ ไม่ใช่หลวงปู่อยากทำ อยากสร้างเอง เข้าใจตรงกันนะ

..เมื่อเข้าใจแล้ว สนใจ อยากมีไว้สักดอก ก็ จัดเลยท่าน สร้าง 884 ดอก ทำน้อยอีกเช่นกัน ทำแค่แผ่นโลหะของหลวงปู่ขุ้ยหมดเท่านั้น ...

ดอกละ 700 บาท

 

​

รายการที่ 57 บาตรพระปัจเจกโพธิ์ อัญเชิญอังคารธาตุ หลวงพ่อจง หลวงปู่ยวง วัดหน้าต่างใน อยุธยา

บาตรพระปัจเจกโพธิ์ อัญเชิญอังคารธาตุ หลวงพ่อจง ไว้ด้านหลัง(แกะจากกะลาตวงข้าว) หลวงปู่ยวง วัดหน้าต่างใน อยุธยา

"วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม"
ลงคาถาในบาตรพระปัจเจกโพธิ์ เนื้อกะลาแกะพระคาถาพระปัจเจกโพธิ์นี้ ท่านพระครูวิหารกิจจานุการ (หลวงพ่อปาน) วัดบางนมโค เรียนมาจากครูผึ้ง เวลานั้นครูผึ้ง อายุได้ ๙๙ ปี เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๒ ท่านเรียนมาแล้วได้ปฏิบัติเห็นผลมามาก ห็นผลทันตา ร่ำรวยยิ่งๆขึ้น

ตัวอย่างนายห้างประยงค์ ตั้งตรงจิตเป็นต้น เมื่อใส่บาตรว่าคาถานึกบูชาพระปัจเจกโพธิ์ ครูผึ้ง อาจารย์เนียร ตลอดจน หลวงพ่อปานวัดบางนมโคหลวงพ่อจง เป็นที่สุด ขอให้จงมาโปรดข้าพเจ้าสวดพระคาถาเป็นนิจ จะมีลาภและความสุขความเจริญเพราะท่านพระปัจเจกพุทธเจ้า หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อจงจะโปรดบุคคลทั้งหลายที่ยากจนขัดสน เพื่อให้พ้นทุกข์จากความอดอยากปฏิบัติตามพระคาถาของพระปัจเจกโพธิ์ จะเห็นคุณในไม่ช้าเพียงเวลา ๖ เดือน
ใครทำนานๆ ได้หลายปีก็จะมีความสุขยิ่งขึ้นไป ทั้งชาตินี้และชาติหน้าใครได้ปฏิบัติตามทำใจให้ผ่องแผ้ว ระลึกถึงพระรัตนตรัยและพระปัจเจกโพธิ์ให้เที่ยงแท้ (อย่าได้ระแวงหรือสงสัย)และให้สังเกตดูให้ละเอียดต่อไปนี้

• ข้าวสาร ข้าวสุกจะเพิ่มขึ้นเองอย่างอัศจรรย์
• ข้าวเปลือกในยุ้งฉางจะเพิ่มขึ้น
• ปลูกข้าวจะงอกงาม แมลงและสัตว์ไม่รบกวน
• ทำการค้าขาย จะมีกำไร ทรัพย์สินก็จะงอกงามผิดปกติ
• ผู้ที่ทำราชการหรือทำงานรับจ้าง ทำนา ทำสวน ค้าขายหรือเป็นแม่ครัวหุงข้าว ต้มแกงเป็นต้น จะเห็นคุณและมีลาภมาก จะมีของสิ่งไรอยู่ ใช้ไม่ค่อยหมดเปลืองเหมือนเช่นเคย มีแต่งอกงามเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป
• จะทำนา ทำสวน รดน้ำพรวนดิน เพาะปลูก งอกงามดี

คาถาพระปัจเจกโพธิ์มีผลมากใครได้ใช้ได้บูชาจะร่ำรวยใหญ่หลวงปู่ยวงจึงเอากะลาที่โบราณใช้ตักข้าวเป็นกะลาตักทรัพย์แกะเป็น บาตรลงคาถาพระปัจเจกพระพุทธเจ้าไว้เพื่อให้เป็นที่พึ่งที่ระลึกถึงการใส่บาตรทำบุญเป็นเนื่องนิจและว่าคาถานี้เป็นประจำ ด้านหลังได้เอาอังคารธาตุ หลวงพ่อจงที่หลวงปู่ยวง ท่านบอกว่า ก็เนื้อหลวงพ่อจง หรือเนื้อพระอรหันต์พระทองคำนั้นแหละ เอาไปเป็นมงคลแห่งชีวิต อย่าลืมว่า หลวงพ่อจงนี้เป็นสหธรรมมิก กับหลวงพ่อปาน มีหลวงพ่อสุ่นวัดบางปลาหมอเป็นอุปัชฌาย์เหมือนกัน

บาตรคาถาพระปัจเจกใครได้ไปให้สวดคาถาพระปัจเจกเป็นประจำจะรวยใหญ่ คล่องตัวทุกคน จะไม่รู้จักจน ทรัพย์สินการงาน การเงินจะไหลมาเทมา เพิ่มขึ้นมากล้นทุกอย่าง ข้อให้ใส่บาตร ทำบุญบ้างใส่ไม่ทันเก็บเงินวันละ บาท วันละสลึง ไปวัดเอาไปถวายพระมีอานิสงค์เหมือนกัน

บาตรพระปัจเจกโพธิ์ เชิญญาณบารมีพระปัจเจกพระพุทธเจ้ามาทำให้เชิญบารมีหลวงพ่อปานมาปลุกเสก เชิญบารมีหลวงพ่อจงมาสถิตให้ท่านรักษาให้ดี เก็บไว้ในที่อันสมควร จะไม่รู้จัก อด อยาก ยากจนสิ้นหวังล้มเหลวง เลย สาธุ

บาตรพระปัจเจกโพธิ์ อุด อังคารธาตุ หลวงพ่อจง สร้าง 999 องค์

องค์ละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 58 ปลัดขิกหัวชะมด รุ่นแรก เนื้อสัมฤทธิ์ หลวงพ่อมนตรี ชลบุรี

ปลัดขิกหัวชะมด รุ่นแรก เนื้อสัมฤทธิ์ หลวงพ่อมนตรี สำนักสงฆ์พูเก่า จ.ชลบุรี เป็นศิษย์เอกบวชรับใช้อยู่กับหลวงพ่อผินะ มาตั้งแต่ปี 2512 จนหลวงพ่อผินะมรณภาพ ในบรรดาลูกศิษย์ของหลวงพ่อที่เล่าเรียนสืบทอดวิชาจากท่านก็มีอยู่หลายรูปแต่ ใกล้ชิดสนิทยาวนานถึง 40 กว่าปี ก็คงมีเพียงองค์นี้องค์เดียวเท่านั้น

ปลัดขิกนี้ จัดสร้างตามตำราวิชาเอกของหลวงพ่อผินะ ปิยะธะโร วัดพระสนมลาวโดยหล่อจากวัตถุชนวนเลขยันต์ล้อมตัวแบบครบสูตร ก้นบรรจุอุดผงเก่าของหลวงพ่อผินะที่ท่านปลุกเสกไว้ให้ถึงหนึ่งบาตรพระผงนี้แหละ วิเศษดีนักแล ท่านสั่งไว้ว่า "จะทำอะไรก็ใช้ผงนี้เถิดนะฉันทำให้ไว้ดีแล้ว" หลวงพ่อมนตรี ศิษย์เอกใกล้ชิดจัดสร้างปลุกเสกเดี่ยว เป็นเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม ดีมากนักแล

พึงว่าคาถา "นะ เต สุ เต" เท่าอายุ แล้วว่า มะ หา สุ เต นะ ชา สามจบ เก้าจบ ก็ได้ลั้ว อธิษฐานเอาเถิดประเสริฐแลฯ

มีท่านหนึ่งบูชาปลัดขิกของ หลวงพ่อท่านเล่า ให้ฟังว่าสมัยหนุ่มๆ เขาชอบและถูกใจสาวสวยข้างร้าน แต่ไม่กล้าจีบ กลัวเขาไม่เล่นด้วย กลัวเสียฟอร์ม จึงใช้คุณปลัด ตามที่หลวงพ่อสอนมา คือ ก่อนไปพบหน้าผู้หญิงคนนี้ เขาจะว่าคาถากำกับก่อนตามเคล็ด แล้วเอาปลัดขิกพกติดตัว โดยใส่ในกระเป๋ากางเกง แล้วเดินไปหาสาวคนนั้น พอเจอหน้าก็ให้อธิษฐานในใจอีกว่า พ่อปลัด ผู้หญิงคนนี้ เคยเป็นเมียพ่อใช่ไหมแล้วให้ ตอบเองว่าใช่ จากนั้นให้ทำการทักทายพูดคุยกับเขาแบบธรรมดา พอตกกลางคืน ให้จุดธูปบอกหลวงพ่อ เอาปลัดขิกมากำไว้ในมือด้วยมือซ้าย เอาน้ำหอมมาประพรม แล้วเอามือขวาถูที่หัว พร้อมว่าคาถา และนึกถึงหน้าผู้หญิงคนนั้นไปด้วย แล้วทำการบอกกล่าว ให้คุณปลัดขิกไปหาผู้หญิงคนนั้น แทนตัวเรา (ตอนว่าคาถาและนึกหน้าผู้หญิงคนนั้น ต้องตั้งจิตนิ่งๆ) พอตอนเช้า ผู้หญิงคนนั้นเห็นหน้าเขา ทำหน้าแดงกล่ำและยิ้มให้เขา เขาจึงซื้อน้ำไปให้กิน 1 แก้ว แต่ก่อนไป เอาคุณปลัดจิ้มไปที่น้ำกิน แล้วอธิษฐานอีกที เขาเล่าว่า ทุกวันนี้ผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของเขาแล้ว การที่เราใช้คุณปลัดไปแทนตัวเรา ตกตอนกลางคืนผู้หญิงคนนั้นจะฝันว่า เรามีอะไรกับเขา แบบเหมือนจริง เรื่องนี้เขาหลอกถามภรรยา ตอนหลัง จึงได้รู้ เขาบอกว่า ตอนนี้ในตัวเขา มีคุณปลัด(เก่งกว่านายอำเภอ) เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ปลัดขิกหัวชะมด รุ่นแรก เนื้อสัมฤทธิ์ หลวงพ่อมนตรี สร้างปี 2555
ปลัดทุกตัวตอกโค้ดและหมายเลขกำกับ

ตัวละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 59 ตะกรุดพิศมรใบลาน ลงรักปิดทองแท้ หลวงปู่โสฬส วัดโคกอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี สร้างปี 2550

ตะกรุดพิศมรใบลาน ลงรักปิดทองแท้ หลวงปู่โสฬส วัดโคกอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี สร้างปี 2550
ตะกรุดดอกนี้ ถ้าเป็นไปได้อยากให้คนที่ประกอบธุรกิจ เป็นเจ้าของกิจการ คนที่กำลังสร้างฐานะ เจ้าของบริษัท องค์กร ใช้เพราะของๆท่านสร้างเศรษฐีใหม่มานับไม่ถ้วน

ตะกรุดพิสมรใบลาน ตะกรุดใบลานที่ขึ้นชื่อลือชาก็ต้องยกให้ ตะกรุดบังปืนของหลวงพ่อแก้ววัดพวงมาลัย ถึงแม้หลวงปู่ท่านจะมิได้ทันเป็นศิษย์ร่ำเรียนมาโดยตรง แต่ท่านก็มีบุญวาสนาได้ล่วงรู้กรรมวิธีและเคล็ดวิชาดังกล่าว ซึ่งได้เป็นมรดกตกทอดกันมา เมื่อได้นำมาเปรียบเทียบกันแล้ว มีความสอดคล้องต้องกันกับอักขระเลขยันต์ กับอีกหนึ่งสุดยอดปรมาจารย์ทางด้านบู้ นั่นคือหลวงพ่อทาวัดพะเนียงแตก คณาจารย์ท่านเดียวที่ได้ที่ได้รับการยกย่องจากหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน ถึงด้านอิทธิฤทธิ์ด้านมหาอุดหยุดปืน เคล็ดวิชาตำรับวัดพวงมาลัยและวัดพะเนียงแตกผสมผสานกับวิชายันต์ครู ของหลวงพ่อจาดวัดบางกระเบาด้วยแล้ว แก้วน้ำเอกหาค่าประมาณมิได้เลย ถึงกระนั้นก็ตามหลวงปู่ท่านก็ยังมิวายถ่อมตนว่า ของฉันแค่ดีทางเมตตามหาลาภ ไม่อด ไม่อยาก ไม่ยาก ไม่แค้นก็พอแล้ว เป็นสำนวนธรรมดาที่มีปริศนาซ่อนอยู่ลึกๆ

นี่แหละคมในฝักยากนักจะหาตัวจับได้ ของท่านทั้งๆที่ปากว่าเมตตาๆ แต่เหล่าทหารกล้า ต่างก็เจอประสบการณ์ชนิดไม่มีวันลืมพระคุณหลวงปู่ก็มีอยู่ไม่น้อย ลองได้พูดถึงตะกรุดเกราะเพชรพระอิศวรรุ่นแรกของท่านสิ มีเงินหมื่นก็ยังหาซื้อไม่ได้ ท่านดูเหมือนหลวงตาใจดี แต่ก็มีความแข็งแกร่งแก่กล้าแฝงอยู่ภายในอย่างลุ่มลึก ดังเคล็ดภาษิตที่ว่า เมตตาอยู่หน้าสุด มหาอุดดุจดวงแก้ว คลาดแคล้วเป็นเครื่องกัน คงกระพันอยู่ข้างใน
การพลีเอาใบลานนั้นท่านให้หาฤกษ์เอาวันมหาอุตม์(ซึ่งมีความหมายทั้งมหาอุดหยุดปืน และมหาอุดสมบูรณ์พูลลาภด้วย) ท่านใช้ใบลานเก่าที่พระท่านใช้เทศนาสั่งสอนท่านถือเคล็ดว่าเป็นการรู้เท่าทันคนดีเด่นด้านสติปัญญา ลงด้วยพระยันต์ตำรับหลวงพ่อจาดวัดบางกระเบา เมื่อ๓๐กว่าปีที่แล้วท่านเคยลงใบลานให้หลานท่าน(ดูรูปประกอบ) ก่อน มาหางานทำในกรุงเทพ ทุกวันนี้ได้ดิบได้ดีเป็นเจ้าของกิจการมีเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาทต่อปี และได้ตอบแทนบุญคุณหลวงปู่ด้วยการสร้างศาลาการเปรียญ มูลค่า๑๔ ล้านบาทเสร็จภายในปีเศษ อีกทั้งยังเป็นหัวเรือใหญ่ในการก่อสร้างสิ่งต่างภายในวัดโคกอู่ทอง นี่เป็นเรื่องเตือนใจ ตะกรุดพิสมรใบลานนี้จัดว่าเป็นงานที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่งทั้งพุทธาคุณและขั้นตอนการจัดสร้าง ถักหุ้มด้วยด้ายมงคลลายจระเข้ขบฟัน (สมัยนี้ไม้ค่อยมีสำนักไหนจัดสร้าง) ลงรักแท้ปิดทองให้ด้วย กรรมวิธีดีท่านถือเคล็ดเป็นมงคล ลงรักแท้เป็นเมตตามหานิยม ปิดทองคำเปลวแท้ ทองอยู่ที่ไหนก็เป็นทองตกน้ำไม้ไหลตกไฟไม่ไหม้ คอยแต่จะเพิ่มค่าขึ้นทุกวัน
จัดสร้างได้เพียง 499 ดอก

ดอกละ หมดค่ะ บาท