ความคิดไม่ใช่จิต อย่าไปตามรู้ หรือรู้ตาม จะไม่มีเวลาตามทันเลยสักที เหมือนคนตามรอยโคไม่เห็นตัวมัน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Saber, 27 มกราคม 2016.

  1. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819


    หนังสือเรื่องหลวงปู่ฝากไว้ หลวงปู่ดุลย์ อตุโล


    จิตที่ส่งออกนอก เป็นสมุทัย
    ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก เป็นทุกข์
    จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นมรรค
    ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิต เป็นนิโรธ


    [​IMG]

    [​IMG]



    ความคิดเป็นแค่อาการของจิต ความคิดที่ส่งออกทั้งหมดเป็นสมุทัย

    หนังสือเรื่องหลวงปู่ฝากไว้ หลวงปู่ดุลย์ อตุโล


    .
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    [​IMG]

    อย่าไปตามรู้ หรือรู้ตาม จะไม่มีเวลาตามทันเลยสักที เหมือนคนตามรอยโคไม่เห็นตัวมัน

    หนังสือหลวงปู่ฝากไว้ หลวงปู่ดุลย์ อตุโล

    .
     
  3. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    แล้วทำไมพระปราโมทย์บอกให้ตามรู้ทันความคิดความรู้สึก???
     
  4. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ไม่มีเนื้อหามาแย้งเพราะคุณพ่อเอาไปทิ้งหมดแล้ว...
     
  5. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    คุณนิวรณ์ด่าดิฉันเป็นหมาเห่าใส่พระหรือคะ?
     
  6. mangathai

    mangathai สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2015
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +11
  7. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    หราาจ้ะ
     
  8. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    เคยจมไปกับความคิดจนเครียดจนเป็นทุกข์มั้ยล่ะ
    แล้วพอทุกข์แล้วทำยังไงต่อ
     
  9. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    หยุดคิด เพราะรู้ตัวว่าฟุ้งซ่านคิดไร้สาระอยู่
     
  10. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ..อิอิ..ก็ ในบทความ ข้างต้น มี คำว่า "รู้เท่าทัน." ด้วยนี่..(แต่หลุดกรอบ)....:cool: คนเรา ยังเตาะแตะ ก็ ต้อง ระลึกถึง มรรคอยู่แหละ...เหมือนที่พระท่าน บอกว่า 3 องค์ มรรค ที่แวดล้อม ในทุก มรรคทุกองค์ คือ...สัมมาทิฐฐิ สัมมาสติ และสัมมาวายามะ(ความเพียร)......สัมมาวายามะ ก็ คล้าย สัมมัปธานสี่ นั้น คือ เพียรรู้รักษาความดี ละ เว้นความไม่ดี ...(4อย่าง ดู เอาเอง)...เรา ก็ จะยังคงมี ความเพียร อยู่ตลอดแหละ ...ถ้าไม่รู้ เท่าทัน ก้ จมโลก ตามปรกติ (แต่นั้น มันก็ ธรรมดาของ เราท่านอยู่แล้ว ) จึง มีการ ภาวนา เกิดขึ้น ไง ครับ...ถ้า บรรลุแล้ว จะ ภาวนาทำไม:cool: ก็ ตอนท้ายบทความ เขียนว่า----ถ้าตามใจ ของตนไม่ทัน หรือ ไม่เห็นใจของตน มันจะไปหรือมันจะอยู่ หรือ มันคิดดี คิดร้ายอย่างไรก็ไม่รู้เรื่อง ของมัน นั้นใช้ไม่ได้ เลย จมดิ่ง กามภพ โดยแท้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2016
  11. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    นั่นแหละๆ ให้รู้ตัวบ่อยๆ รู้ทันความฟุ้งซ่านหลงคิดไร้สาระบ่อย ๆ
     
  12. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    [​IMG]

    วิธีเจริญจิตภาวนา ดูจิต ของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล บิดาแห่งการภาวนา ดูจิต

    วิธีเจริญจิตภาวนา

    ตามแนวการสอนของ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

    1.เริ่มต้นด้วยอิริยาบถที่สบาย ยืน เดิน นั่ง นอน ได้ตามสะดวก

    รักษาจิตให้ "รู้อยู่เฉยๆ" ไม่ต้องไปจำแนกแยกแยะ อย่าบังคับ อย่าพยายาม อย่าปล่อยล่องลอยตามยถากรรม

    ฐานแห่งจิตที่คำนึงพุธโธปรากฏชัดที่สุดนี้ย่อมไม่อยู่ภายนอกกายแน่นอนต้องอยู่ภายในกายแน่

    เมื่อกำหนดถูก และพุธโธปรากฏในมโนนึกชัดเจนดี ก็ให้กำหนดนึกไปเรื่อย อน่าให้ขาดสายได้

    ดังนั้นในการนึก พุธโธ การเพ่งเล็งสอดส่อง ถึงความชัดเจน และความไม่ขาดสายของพุธโธจะต้องเป็นไปด้วยความไม่ลดละ


    2.ดูจิตเมื่ออารมณ์สงบแล้ว ให้สติจดจ่ออยู่ที่ฐานเดิมเช่นนั้น เมื่อมีอารมณ์อะไรเกิดขึ้น ก็ให้ละอารมณ์ทิ้งไป


    3.อย่าส่งจิตออกนอก กำหนดรู้อยู่ในอารมณ์เดียวเท่านั้น อย่าให้ซัดส่ายไปในอารมณ์ภายนอก เมื่อจิตเผลอคิดไป ก็ให้ตั้งสติระลึกถึงฐานกำหนดเดิมรักษาสัมปชัญญะให้สมบูรณ์อยู่เสมอ

    ระวังจิตไม่ให้คิดถึงเรื่องภายนอกสังเกตการหวั่นไหวของจิตตามอารณ์ที่รับมาทางอายตนะ ๖

    4.อารมณ์ความนึกคิดต่างๆก็จะค่อยๆ ดับไปเรื่อยๆ จนจิตว่างจากอารมณ์ แล้วจิตก็จะเป็นอิสระ อยู่ต่างหาก จากเวทนาของรูปกาย

    5.จิต กับ กาย อยู่คนละส่วนได้แล้ว ให้ดูที่จิตต่อไป

    มรรคปฏิปทา นั้น จะต้องอยู่ใน มรรคจิต เท่านั้น มิใช่มรรคภายนอกต่างๆนานาเลย


    *************************************************************************

    วิธีเจริญจิตภาวนา ของหลวงปู่ดูลย์ สอนไว้ชัดเจนครับ.


    บรรลุสมาธิในที่สุด (พุทโธ จน จิต เป็นสมาธิ กาย กับ จิต แยกจากกันเป็นเบื้องต้น ของผู้ ดูจิต นั้นเองครับ)


    สิ่งสำคัญ ของ การพิจารณาธรรม คือ จิต ต้องเป็น สมาธิ ก่อน เป็นเบื้องต้น ของผู้ ปฏิบัติ ดูจิต ตามแนวทางตามหลักคำสอนของหลวงปู่ดูลย์



    สรุปย่อพิมพ์มาจากหนังสือ “อตุโลรำลึก จิต คือ พุทธะ”

    ของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ฉบับนี้ “อตุโลรำลึก จิต คือ พุทธะ ” (ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๑)


    .
    .
     
  13. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    รู้ทันใครๆ ก็โม้ได้ แต่หยุดไม่ทัน แถมยังตามความคิดไปอีกไกล

    "หยุด" ไม่ใช่ "รู้ทัน" แต่เป็นการรู้เท่าทัน คือ "รู้แล้ววาง"

    เจริญในธรรมทุกท่าน
     
  14. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +682
    เกิดแต่กรรม ทั้งนั้นและ หลาน
    ๆๆเอ้ย
     
  15. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +494
    แล้วทำไมมีประโยคว่า
    รู้วาระจิต
    ทิพยจักษุ
    อ่านใจ
     
  16. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    พี่ภูติ ถ้ารู้ทันจริงๆ มันปล่อย
    มันวางเองโดยอัตโนมัติแหละครับ
    ไม่ต้องรู้แล้ววางอะไรต่อไปอีก
    ถ้ายังมีต้องทำกิริยาอาการวางต่อ อันนั้นคือ
    ยังหลงจมอยู่กับความคิดอยู่เลยครับ

    ทีนี้ไอ้ที่รู้แล้ว บางทีทำไมยังปล่อยยังวางไม่ลง
    ก็เพราะยังรู้ไม่ถูกตัวที่ทำให้ทุกข์จริงๆ นั่นเองครับ
    ถ้าว่ารู้ทันตัวการจริงๆ คือรู้เหตุแห่งทุกข์จริง ๆ
    ทุกข์นั้นมันดับไปเองครับ สงบเดี๋ยวนั้นเลย
     
  17. pinit417

    pinit417 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +164
    นี่ใช่สมถะสมาธิหรือเปล่าครับ
     
  18. เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา

    เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา เพื่อมวลมนุษย์แลสรรพสัตว์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    872
    ค่าพลัง:
    +1,936
    หลักการคือดูอยู่ ไม่ใช่ตามดู ไม่ปรุงต่อ ไม่เติมสัญญา
    และผู้ดู ต้องดูด้วยความเป็นกลาง ไม่มุ่งจัดการกับจิต ..
    ในความเข้าใจผมว่าเป็นสมถะเจือวิปัสนานิดๆ
     
  19. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ใกล้เคียงแล้วครับ

    ตรงที่พูดว่า " ต้องดูด้วยความเป็นกลาง ไม่มุ่งจัดการกับจิต .. "

    ให้ผ่อนคำว่า "ต้อง" ลงเพื่อ ลดเจตนา จะดูให้เป็นกลาง

    ให้ผ่อนคำว่า "ไม่มุ่งจัดการ" ลงเพื่อ ลดเจตนา จะปล่อยจิต

    พอเราภาวนา โดยไม่เจตนา และ ไม่จงใจปล่อยจิต จิตจะ
    แสดงความไม่เที่ยง ให้เห็น พอเห็น จิตไม่เที่ยง ก็จะปรารภ
    ได้ว่าเห็น " ทุกข์ " เพราะสิ่งใดไม่เที่ยง หากเข้าไปเห็น
    ตามความเป็นจริง ผัสสะที่ได้รับจะรับรู้ว่านั่นเป็นทุกข์ และ
    ทันทีที่เกิดการระลึกได้ว่า นั่นทุกข์ จะเกิดอริยสัจจปรากฏ
    คือ ปล่อยการยึดมั่นถือมั่นให้เห็น ...แล้ว เราจะระลึกย้อน
    ดู กระบวนการนี้อีกที เพื่อยกเป็น การเข้าไปเห็นอริยสัจจ4

    ดังนั้น เรามีสติระลึกเห็น ความคิดเกิดดับ เพื่อเป็น อุบาย
    ย้อนมา เห็นจิตไม่เที่ยง .....

    เน้นอีกทีว่า มันเป็น อุบาย ให้ย้อนกลับมาเห็น จิตไม่เที่ยง

    ซึ่ง อุบายที่จะให้พิจารณาจิตไม่เที่ยง จะมี 14อย่าง ตาม
    หน้าที่ของจิต ตามอภิธรรม

    พิจารณา จิตใจจิต เป็นประจำ จะเห็นอริยสัจจ4 ได้ ดังนั้น
    สติปัฏฐาน ใช้ ฐานใดฐานหนึ่งก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปพิจารณา
    ครบทั้งสี่ฐาน ยกตัวอย่าง หลวงปู้เจี๊ยะ ใช้ กายในกาย ตัวเดียว

    บางองค์ที่เป็นระดับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ครั้งแรกได้โสดาบัน
    พระลูกศิษย์ท่านระบุว่า หลวงตาบอกเองว่า ใช้ เวทนาในเวทนา ....
    ได้สิกทาคาได้จากการพิจารณา จิตในจิต ได้อนาคา เพราะพิจารณา
    กายในกาย( แปลกกว่านั้นคือ พิจารณาโดย ใช้สุภะ แทนอสุภะ )
    แล้วจบลง ด้วยธรรมในธรรม เห็นกองขี้ควาย(การออกรู้ออกเห็น
    ญาณทัสนะ เป็นสิ่งเกิดดับ)


    ลองดูนะครับ

    แล้วจะ แยกออกว่า สมัยใดเป็น สมถะ และ สมัยใดเป็น วิปัสสนา

    ต้องแยกออกให้ได้ ถ้าแยกออกได้ ถึงจะ ดูจิตได้ถึงฐาน ฐีติจิต ฐีติวิญญาณ

    ถ้า ยังสังขยา รวมกันอยู่ สมถะ กับ วิปัสสนา แยกกันไม่ออก จะถือ
    ว่า ยังจงใจ เจตนา ภาวนาอยู่ มันเลย " เหมาเข่ง " เห็นว่า รวมกัน


    ปล. กรณียกสิกขาบทได้ หากยังไม่สำเร็จอะไร ก็จะเรียกว่า "จุฬโสดาบัน"
    คือ อย่างน้อยไปตายไป เกิดมาใหม่ จะเกิดพร้อมปัญญา3 มีอินทรีย์ภาวนา
    ตั้งแต่เกิด แต่จะไม่รู้ตัวว่า ภาวนาอยู่ จะเกิดมาแล้วรู้สึก ว้าเหว่ หาบ้านไม่เจอ
    แต่พอได้ฟังธรรมปั๊ป จะระลึกได้ว่า เราเคยภาวนาอย่างนี้ๆ มาหลายชาติแล้ว
    [ แล้วต้องเท่าไหร่ ก็ต้องภาวนาแบบนี้ หนึ่งอสงไขย แสนกัปป สำหรับสาวก
    กว่าจะยอมรับว่า วิธีนี้แหละ ใช่ว่า ภาวนาได้แล้วจะระลึกได้ว่า อันไหนใช่ทาง อันไหนไม่ใช่ทาง ]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2016
  20. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ขั้นเริ่มต้น ทำจิตให้เป็นสมาธิ ก่อนที่จะ ดูจิต ตามแนวทางของหลวงปู่ดูลย์ ครับ

    บรรลุสมาธิในที่สุด (พุทโธ จน จิต เป็นสมาธิ กาย กับ จิต แยกจากกันเป็นเบื้องต้น ของผู้ ดูจิต นั้นเองครับ)
     

แชร์หน้านี้

Loading...