นับถอยหลัง 66 วัน ที่เราจะต้องลาจากกันไป

ได้ข้มมูลมาจากไหนหรอครับ
ผมก็ได้มาเหมือนกัน ตั้งแต่มีนาคนนี้ พระท่าน...บอกมา.. จะเริ่มต้นการเกิดภัยพิบัติใหญ่ต่างๆขึ้น โรคระบาด...ซินามิ....ภัยสงคราม..ฯลฯ

 

ลองคิดดูบ้าง...เอามาแบ่งกันคิด

1. เนื่องจากคนโบราณตัวโตมากๆ...ย้อนไปแค่สมัยอยุธยา...อาวุธต่างๆใหญ่มาก...ถอยหลังไปไม่กี่ร้อยปี

ดังนั้นหากถอยหลังไปถึง 2500 ปี...มนุษญ์จะตัวใหญ่กว่า...สมัยอยุธยาหลายเท่า...ซึ่งเดาว่าประมาณ 30 ศอก...อายุก็ยาวนาน

จากนั้น...อายุไขลดลง..เรื่อยๆ...จนเหลือ 100 ปี... 80 ปี

คนตัวใหญ่...เดินไม่เท่าไหร่ก็ถึงฝั่งมหาสมุทร...ชมพูทวีป...จึงมีความหมายมากกว่า...การจำกัดไว้แค่...ประเทศอินเดีย...หรือ...แค่เพียงแผนที่ปัจจุบัน

ประเทศไทย...อยู่ทวีปเดียวกัน...ไทย...พม่า...อินเดีย...ประโยขน์อันใด...ที่ประเทศใดประเทศหนึ่งอ้างว่าเป็นสถานที่เกิดของพระพุทธเจ้า

เมื่อวานอ้างโดย...อินเดีย
วันนี้อ้างโดย...ไทย
พรุ่งนี้อ้างโดย...พม่า
สัปดาห์ต่อไป...อ้างโดย...จีน..ทิเบต

หากมองว่า...คนโบราณตัวใหญ่ขนาดนั้น...เดินทางไม่กี่วันก็ถึงขอบมหาสมุทร...ชมพูทวีป...จึงไม่ได้หมายความแค่ประเทศใดประเทศหนึ่ง...แต่หมายถึงโลกทั้งโลก...ก็ย่อมได้

หลักฐานการมีอยู่ของพุทธศาสนาจึงมีอยู่ทั่วไปในแถบนี้...ดังนั้น..ผมว่าไม่ผิดที่...คิดเอาว่าพระพุทธองค์...เมื่อครั้งมีพระชนม์อยู่...พระองค์ทรงประทับที่ประเทศไทย...มีหลักฐานมากกมาย

แต่ก็ไม่ควรตู่ว่า...ที่อินเดียไม่ใช่..ของเราใช่...เอาปัจจุบันเข้าจับ...แต่เพียงอย่างเดียว

แท้ที่จริง...อาจไม่มีใครผิด...พระองค์ทรงพระปรีชาอย่างนั้น...อาจทรงประทับ...อยู่ทุกที่ที่มีหลักฐานปรากฏและไม่ปรากฏ

2. ผมเชื่อว่า...ภัยพิบัติมีและเกิดแน่

2.1 การเกิดภัยพิบัติ...จะค่อยๆ..เกิด...และทวีความรุนแรง...(อ้างอิงจากหลวงปู่เครา)...ตีความต่อไปอีกหน่อยว่า

ภัยพิบัติค่อยๆเกิด...ค่อยๆสร้างความเคยชิน...จนกระทั่งทวีรุนแรง...ถาโถมทำลายทุกอย่าง

คนเมื่อเจอข่าวภัยต่างๆบ่อยๆก็ชิน...หนำซ้ำยังประมาท...แม้ภัยมาถึงตัวก็ยังประมาท...ภัยพิบัติจึง...ทำลายผู้ที่ประมาท...ได้มาก

2.2 ภัยแบบที่...กระหน่ำรุนแรงถล่มโลกมีแน่...และมีเป็นช่วงๆ...คล้ายๆ...กรรมตัดรอนเป็นพักๆ...แต่เมื่อถึงวาระ...สุดท้ายสุกงอม...ก็กวาดล้างทีเดียว เช่น การเกิดสงครามล้างโลก

3. แม้เตรียมหนี...ก็อย่าตั้งหน้าตั้งตาจะหนี...แต่เพียงอย่างเดียว

เราเตรียมของเพื่ออพยพไว้...เป็นเรื่องดี...ไม่ประมาท...แต่อย่าทนงว่า...ฉันมีที่ไปแล้ว...เตรียมตัวแล้ว...ถล่มโลกได้เลย..ฉันพร้อมแล้ว...คนอื่นเป็นไงช่างมัน...กวาดล้างเสียที

น่าสงสารคนประเภทนี้...แทนที่จะช่วยเตือนคนไม่ให้ประมาท...กลับเอาตัวรอดแต่เพียงลำพัง...ถามว่า..เราอยู่เพียงลำพังในโลกได้หรือ ?...คงวังเวง...นะ

ปล. บางข้อก็เกี่ยวกับกระทู้...แต่บางข้อก็ไม่เกี่ยว...ต้องขออภัยด้วย...ครับ

 

เราคนหนึ่งที่สัมผัสถึงเรื่องนี้...การเกิดน้ำท่วมทั้งใลก...เราสัมผัสตั้งแต่เด็กๆ...เป็นการสัมผัสในฝัน...เราเกิดพ.ศ.2520...เราฝันตั้งแต่เด็กถึงน้ำที่เอ่อท่วม...ในฝันเราเคยห้ามไม่ให้เกิดขึ้นหลายครั้ง...แต่ก็ยังเกิด...เราเคยคิดแม้กระทั่งให้เอาชีวิตเราไปแทน...แต่ไม่เป็นผล...เพราะชีวิตเรายังไม่มีค่าเพียงพอ...จนเราโตขึ้น...เราก็ยังสัมผัสถึงเหตุการณ์นี้เรื่อยมา...และยิ่งทวีคูณมากขึ้น...จนเราเริ่มปลงตกกับสภาพที่เป็นอยู่...แต่เราไม่ท้อถอย...เราเริ่มเข้าใจวัฏสงสารนี้แล้ว...เพียงแต่ยังมีความรักความห่วงใยในเพื่อนมนุษย์อยู่...
ครั้งล่าสุด...เราสัมผัสถึงความรุนแรงซึ่งมากมายมหาศาล...ขณะนี้ยังนิ่งอยู่เพราะกำลังสะสมพลังงาน...แต่ก็ยังมีพลังงานเล็ดลอดออกมาเป็นระยะๆ...
ขณะนี้เราตั้งใจไว้ว่าอะไรจะเกิดก็เกิดขึ้นเถิด...เราเตรียมใจไว้แล้ว...
หากเราโชคดีเป็นผู้รอด...เราก็จะได้ช่วยเหลือผู้คนได้...
แต่หากเราไม่สามารถหนีได้...เราไม่รอด...เราจะเป็นผู้นำพาผู้ไม่รู้เดินทาง...
เราหวังว่า...ทุกคนที่เข้ามาศึกษาในเวปนี้...จะมีจิตเมตตา...สงสารผู้ไม้รู้บ้าง...
เราไม่อาจหนีไปไหนได้...เพราะเราทิ้งไปไม่ได้...เรายังไม่อาจตัดขาดจากสรรพสัตว์ได้...หากเราไม่รอด...สรรพสัตว์ก็จักได้เห็นแสงสว่างจากเรานำทาง...

 

อย่างน้อยข่าวสารเหล่านี้ก็เป็นเหตุปัจจัยให้ได้ใช้เวลากับการพิจารณาและฝึกมรณานุสติที่เข้มข้นขึ้นมากอย่างที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้นึกคิดในช่วงวันเวลาที่ผ่านมา

ทำให้ฉุกคิดได้ว่าเราใช้ชีวิตประมาทจริงหนอ ความตายเป็นสิ่งแน่นอน...ต้องเกิดขึ้นในวันหนึ่งข้างหน้า
ซึ่งอาจจะเป็นเย็นนี้หรือพรุ่งนี้ก็ได้...

 

การเปิดเผย ...โลกุตตระธรรม หลักสัจจะธรรม และสัจจะ
ก็ได้ทำไปแล้ว
จึงขึ้นอยู่กับตัวท่านแต่ละคน
ยอมรับสัจจะ !!!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ผมเห็นด้วยอย่างเต็มที่ครับผมก็ได้ข้อมูลเรื่องนี้มาตั้งแต่ปีพ.ศ.2545 และก็มองหาหนทางการช่วยเหลือผู้คนให้รอดจากภัยพิบัติเหล่านี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ช่วยผู้อื่นหรือไม่เพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองจะรอดแต่ถ้ารอดคงได้ช่วยคนอื่นด้วย

 

---------------------------------------
ทำตัวเองให้ดีจนเกินพอ เมื่อเกินพอ ก็จะรู้จักแบ่งปัน และให้ได้เต็มที่ เพราะสิ่งที่ให้ก็จะเกินพอ ผู้รับก็จะรับได้เกินพอ ทำตัวเองให้ดีพอหล่ะกัน
คนบางคนไม่อยากอยู่ อยากจะตายได้ตั๋วตายฟรีตอนภัยพิบัติฯ แต่ถ้ามีหน้าที่ก็จำเป็นจะต้องอยู่ต่อ ถ้าหมดหน้าที่ก็ไปเองนั่นแหละ ถ้ามีกรรมก็จำเป็นต้องอยู่ต่อ อาจจะกลายเป็นอัมพาต ขาหัก นอนจมอยู่กับกองศพ หรือน้ำทะเลเป็นพิษ ไม่ตาย แต่ได้ใช้กรรม หากมีหน้าที่แล้วทำหน้าที่ ณ ปัจจุบันเราให้ดี หน้าที่ต้องดีที่สุด

 

เอามาให้คุณเอกอิสโรอ่านโดยเฉพาะ เพื่อเป็นกำลังใจในงานที่ได้กระทำ

================================
"พระพุทธเจ้าเป็นคนไทย"...ยืนยันโดยองค์หลวงปู่มั่น http://palungjit.org/showthread.php?p=980917#post980917 โดย คนมีกิเลส

​

เรื่องมีอยู่ว่า สมัยที่ผู้เล่าอยู่กับท่านพระอาจารย์ที่บ้านหนองผือ มีชาวกรุงเทพมหานครไปกราบนมัสการ ถวายทานฟังเทศน์ และได้นำกระดาษห่อธูปมีเครื่องหมายการค้า รูปตราพระพุทธเจ้า (บัดนี้รูปตรานั้นไม่ปรากฏ) ตกหล่นที่บันไดกุฏิท่าน พอได้เวลาผู้เล่าขึ้นไปทำข้อวัตร ปฏิบัติท่านตามปกติ พบเข้าเลยเก็บขึ้นไป พอท่านฯเหลือบมาเห็น ถามว่า

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หิมะวิบัติ!! เวียดนามวัวควายตายนับหมื่น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>15 กุมภาพันธ์ 2551 14:12 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ในวันนี้เขตเมืองซาปา (Sapa) กลายเป็น "สวิตเซอร์แลนด์" ไปแล้ว หิมะคลุมยอดเขา น้ำค้างแข็งเกาะไปทั่ว อุณภูมิลบ 5-10 องศาเซลเซียส ในบางพื้นที่ลดลงถึง -15 ในวันพฤหัสบดี (13 ก.พ.) ที่ผ่านมา</CENTER><CENTER></CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>
หิมะกับน้ำค้างแข็งที่ปกคลุมในเขตเขาภาคเหนือมานานแรมเดือน กำลังก่อความวิบัติแก่ราษฎรเวียดนามหลายล้านคน ขณะที่รายงานในเบื้องต้นจากท้องถิ่นต่างๆ พบปศุสัตว์ล้มตายไปแล้วนับหมื่นตัว จำนวนยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นาข้าวได้รับความเสียหายอีกกว่า 400,000 ไร่


หิมะกับน้ำค้างแข็งได้ปกคลุมทั่วเทือกเขาหว่างเลียนเซิน (Hoang Lien Son) รวมทั้งในเขตเมืองซาปา (Sapa) ในวันนี้หิมะได้ทำให้เมืองปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีทัศนียภาพสวยงามกับสภาพโดยรอบ กลายเป็น "สวิตเซอร์แลนด์"

ที่นั่นอยู่ใน จ.ล่าวกาย (Lao Cai) ติดเขตแดนมณฑลหยุนหนัน (Yunnan) ของจีน ซึ่งอุณหภูมิโดยเฉลี่ยทั่วไปจะติดลบ 5-10 องศาเซลเซียส นับเป็นสภาพอากาศที่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 40 ปี

ความหนยาวเย็นยังแผ่คลุมหายจังหวัด เกิดหิมะตกคลุมยอดเขาและน้ำค้างแข็งเกาะตามยอดในเขตหุบเขาในเขต จ.กาวบ่าง (Cao Bang) ติดชายแดนมณฑลหยุนหนันกับมณฑลกว่างซี (Guangxi) มีสัตว์เลี้ยงพวกวัวควายล้มตายไปแล้วกว่า 9,000 ตัว นาข้าวกับพืชเศรษฐกิจหลายชนิดเสียหายหนัก

ใน จ.ล่าวกายเพียงแห่งเดียวมีวัวควายล้มตายไปกว่า 1,000 ตัว ซึ่งกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทกล่าวว่า เป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ความหนาวเย็นระดับนี้ ถ้าหากลากยาวต่อไปอีกจนถึงเดือนข้างหน้า คงยากที่ต้นไม้เมืองร้อนชนิดใดจะอยู่รอดได้ เจ้าหน้าที่เวียดนามกล่าวว่าภูมิอากาศวิปริตที่สุดในรอบ 40 ปี </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>มีรายงานเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงล้มตายอีกกว่า 2,000 ตัวใน จ.โห่วยาง (Hau Giang) ที่ระหว่างล่าวกายกับกาวบ่าง อีกเกือบ 1,500 ตัวใน จ.เซินลา (Son La) ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือติดชายแดนแขวงหัวพันของลาว อีกประมาณ 1,000 ตัว ใน จ.ลางเซิน (Lang Son) ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือติดมณฑลกว่างซี

นายกาวดึกฟ๊าต (Cao Duc Phat) รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทได้เปิดเผยเรื่องราวดังกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (14 ก.พ.) ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์เตี่ยนฟง (Tien Phong)

อากาศหนาวเย็นได้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงแก่นาข้าวฤดูใบไม้ผลิในภาคเหนือของประเทศ กระทรวงเกษตรฯ ได้แจ้งให้ชาวนานเกษตรกรหยุดการออกไปเก็บเกี่ยวข้าวภายใต้อุณหภูมิข้างนอกที่ลดต่ำลงถึงลบ 15 (-15) องศาเซลเซียสในบางท้องที่

นายเหวียนจิหง็อก (Nguyen Tri Ngoc) แห่งกรมกสิกรรมกระทรวงเกษตรฯ กล่าวในรายงานชิ้นหนึ่งว่า อากาศหนาวเย็นได้สร้างความเสียหายแก่นาข้าวที่ต้นข้าวกำลังท้องแก่รวมประมาณ 53,000 เฮกตาร์ (331,200 ไร่) และ ข้าวที่กำลังออกรวงถูกทำลายไปเป็นเนื้อที่ประมาณ 5,000 เฮกตาร์ (ราว 31,000 ไร่เศษ)


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>เกษตรกรครอบครัวนี้อยู่ใน จ.แท็งฮว๊า (Thanh Hoa) ที่อยู่ใต้กรุงฮานอยลงมา ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่ช่วยเหลือเยียวยาควายที่ล้มป่วยลง ขณะที่รายงานเบื้องต้นพบวัวควายล้มตายไปแล้วนับหมื่น </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ตามรายงานของวีเอ็นเอ (Vietnam News Agency) ซึ่งเป็นสำนักข่าวของทางการ ความเสียหายต่อนาข้าวครอบคลุมพื้นที่ 16 จังหวัดในภาคเหนือลงไปจนถึงเขตอู่ข้าวอู่น้ำที่ราบปากแม่น้ำแดง คือ จ.หายซเวือง (Hai Duong) ถายบิ่ง (Thai Binh) ฟุเถาะ (Phu Tho) ฮุงเอียน (Hung Yen) ห่านาม (Ha Nam) บั๊กซยาง (Bac Giang) จนถึงเขตนครหายฟ่อง (Hai Phong)

นายหง็อกได้กล่าวโทษความเสียหายครั้งนี้ว่าเกิดจากชาวนาเพิกเฉยต่อเสียงเตือนของทางการก่อนหน้านี้ให้ต้องรีบเก็บเกี่ยวข้าวที่แก่แล้ว พร้อมทั้งได้เตือน อีกครั้งให้ทุกครบครัวที่ประสบความเสียหายเตรียมปลูกพืชเศรษฐกิจหลายชนิดที่ใช้เวลาสั้นๆ ต่อไปเมื่ออากาศเลวร้ายทุเลาลง

ชาวนาในหลายจังหวัดกำลังเริ่มปลูกข้าวนาปรัง จำต้องใช้ผ้าพลาสติกคลุมต้นกล้าที่ยังอ่อนให้อบอุ่น ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้เกิดน้ำค้างแข็งสร้างความเสียหาย

อย่างไรก็ตามหนังสือพิมพ์เตี่ยนฟงกล่าวว่า ความเสียหายไม่ได้จำกัดอยู่ในจังหวัดภาคเหนือ แต่กำลังแผ่ลามกว้างลงไปถึงภาคกลางตอนล่าง และ ตัวเลขที่รวบรวมจากทางการท้องถิ่นต่างๆ จนถึงวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้พบว่านาข้าวเสียหายไปแล้วถึง 71,000 เฮกตาร์ (443,700 ไร่เศษ)

ใน จ.แท็งฮว๊า (Thanh Hoa) ที่อยู่ใต้กรุงฮานอยลงไป นาข้าวได้รับความเสียหายมากที่สุดคือ 25,000 เฮกตาร์ และ จ.เหงะอาน (Nghe An) ที่อยู่ถัดลงไปเสียหายเป็นอันดับ 2 รวม 10,400 เฮกตาร์


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>นี่ไม่ใช่ "การทำนาแผนใหม่" หากแต่เกษตรกรใน จ.ห่าไต (Ha Tay) ทางตะวันตกกรุงฮานอยกำลังพยายามช่วยเหลือต้นกล้าที่เพิ่งจะงอกใหม่ไม่ให้หนาวเย็นจนแข็ง โดยใช้ผ้าพลาสติกคลุมแปลงเพาะปลูกให้เกิดความอบอุ่น </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ยังมีพืชเศรษฐกิจอื่นๆ ได้รับความเสียหายหรือถูกทำลายรวมเนื้อที่อีกนับหมื่นเฮกตาร์ ไม่ว่าจะเป็นถั่วลิสง ถั่งเหลือ จนถึงสวนผักของเกษตรกรครัวเรือนต่างๆ

จนถึงวันที่ 13 ก.พ.มีรายงานปศุสัตว์ล้มตายไปแล้วจำนวน 8,200 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดตอนเหนือของประเทศ และ จำนวนยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เตี่ยนฟงกล่าว

อากาศเลวร้ายเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. ก่อนหน้านั้นเคยเกิดอากาศหยาวเย็นจัดเป็นเวลา 26 วันในปี 2511 กับอีก 28 วันในปี 2532 วีเอ็นเอกล่าว.

<CENTER>ขอขอบคุณ-ภาพประกอบจาก VietnamNet</C> </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หิมะตกหนักในอัฟกันคร่าชีวิตผู้คนแล้วเกือบ 1,000</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 กุมภาพันธ์ 2551 17:27 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หิมะซึ่งตกหนักในอัฟกานิสถาน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>เอเอฟพี

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รัฐควีนส์แลนด์เร่งอพยพ ปชช.หนีน้ำท่วม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 กุมภาพันธ์ 2551 13:13 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้ท้องถนนในเมืองแมคเค จมอยู่ใต้กองโคลนไม่สามารถสัญจรได้ เช่นเดียวกับสนามบินในเมืองดังกล่าวที่ต้องปิดทำการลง การติดต่อสื่อสารสามารถทำได้เพียงการติดต่อทางโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่ทางการรัฐควีนส์แลนด์ แจ้งเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปในบริเวณที่มีน้ำท่วม และให้ระวังอันตรายจากจระเข้ที่อาจมากับกระแสน้ำ พร้อมกันนี้เริ่มอพยพชาวบ้านนับพันคนไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย
สำนักงานพยากรณ์อากาศ ระบุว่า ฝนตกหนักในเมืองแมคเคครั้งนี้รุนแรงที่สุดในรอบ 90 ปี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ข้อมูลสองด้าน


ชมพูทวีป...อินเดีย

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="85%" height="100%">


</TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"></TD></TR></TBODY></TABLE>
http://www.zone-it.com/19412



ชมพูทวีป...กับประเทศไทย



http://www.life-alonguniversity.com/

 

ชมพูทวีป...กับประเทศไทย (อีกมุมหนึ่ง)

หอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์แห่งปารีส ยืนยันปฎิทินจันทรคติที่ใช้ในพระพุทธศาสนาอยู่ในประเทศไทยฯ มิใช่ในอินเดียหรือเนปาล​

​

 

กำลังหาข้อมูลหลายๆด้าน...เรื่องชมพูทวีป...ครับ

 

ชมพูทวีป...ที่หมายถึงโลกมนุษย์

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=795 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD background=Images/PageBGMiddle.gif>

<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=2 width=700 border=0><TBODY><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC] คำว่า มนุษยภูมิ หมายถึง ที่อยู่อาศัยของมนุษย์หรือของคน มนุษย์ที่อาศัยอยู่บนพื้นแผ่นดินนี้อยู่ในทวีปใหญ่ ๆ ๔ ทวีป ด้วยกัน อยู่ในทิศทั้ง ๔ ของเขาสิเนรุ มีทวีปใหญ่น้อยเป็นบริวาร ทวีปละ ๕๐๐ รวมแล้วได้ ๒๐๐๐ ทวีป มีชื่อดังนี้ ดูภาพประกอบ[/FONT]</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>

​

</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="100%" bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="15%">[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]ภูเขาสิเนรุ [/FONT]</TD><TD width="85%">[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เป็นศูนย์กลางของ มงคลจักรวาล คือ จักรวาลที่เราอาศัยอยู่นี้ ซึ่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ จะอุบัติขึ้นเฉพาะ ในมงคลจักรวาลนี้เท่านั้น เป็นเขาที่ละเอียดมองไม่เห็นด้วยตา ยอดเขาสิเนรุ เป็น ผืนแผ่นดินแห่งแรก ที่โผล่ขึ้นหลังจากโลกธาตุได้ ถูกทำลายลงด้วยน้ำ ซึ่งทำลายขึ้นไปจนถึงเทวโลก และพรหมโลก คือ ถึง ชั้น สุภกิณหา (ตติยฌานภูมิ ๓) แผ่นดินที่โผล่เป็นครั้งแรกนี้ เป็นที่ตั้งของเทวดาชั้น ดาวดึงสาภูมิ [/FONT]</TD></TR><TR bgColor=#f6f6f6><TD> </TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]ภูมิที่อยู่สูงขึ้นไป คือ ยามา ดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวัตดี ต่อจากนั้นก็เป็นภูมิของ รูปพรหม ๑๖ ชั้น และ อรูป พรหม ๔ ตามลำดับ ภูมิเหล่านี้สถิตอยู่สูงขึ้นไป ต่อจากยอดเขาสิเนรุทั้งสิ้น[/FONT]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]ขุนเขาสิเนรุ สูง ๑๖๘,๐๐๐ โยชน์ จมอยู่ใน มหาสมุทรสีทันดร ครึ่งหนึ่ง วัดรอบ
เขาได้ ๒๕๒,๐๐๐ โยชน์ พื้นดินยอดเขาประกอบด้วย รัตนะ ๗ ตามไหล่เขา ๔ ด้าน ด้านตะวันออกเป็น เงิน ด้านตะวันตก เป็น แก้วผลึก ด้านใต้ เป็นแก้ว มรกต ด้านเหนือเป็น ทอง น้ำในมหาสมุทร อากาศ ต้นไม้ ใบไม้ ที่อยู่ในด้านนั้น ๆ จะเป็น สีน้ำเงิน สีผลึก สีเขียว สีทอง ตาม สีของไหล่เขานั้นด้วย [/FONT]</TD></TR><TR bgColor=#f6f6f6><TD> </TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]กลางเขาสิเนรุ เป็นที่ตั้งของเทวดาชั้น จาตุมหาราชิกาภูมิ รอบเขาทั้ง ๔ ทิศ เป็นที่สถิตของท้าวมหาราชทั้ง ๔ คือ ท้าวธตรัฏฐ ประจำอยู่ทิศตะวันออก ท้าววิรุฬหก ประจำอยู่ทิศใต้ ท้าววิรุฬปักข์ ประจำอยู่ทิศตะวันตก และ ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณ ประจำอยู่ทิศเหนือ มหาราชทั้ง ๔ เป็นเทวดาชั้นผู้ใหญ่ที่ดูแลเทวดาในชั้น จาตุมหาราชิกาภูมิ ทั้งหมด รวมทั้งมนุษยโลกของเราด้วย [/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>

<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="90%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffece3>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC] ตอนกลางของภูเขาสิเนรุ ลงมาจนถึงตอนใต้พื้นมหาสมุทร มีชานบันไดเวียน ๕ รอบ คือ[/FONT]</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>

<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="80%" border=0><TBODY><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]ชั้นที่ ๑ ที่อยู่ใต้พื้นน้ำ เป็นที่อยู่ของพญานาค[/FONT]</TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]ชั้นที่ ๒ เป็นที่อยู่ของครุฑ[/FONT]</TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]ชั้นที่ ๓ เป็นที่อยู่ของ กุมภัณฑ์เทวดา[/FONT]</TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]ชั้นที่ ๔ เป็นที่อยู่ของยักเทวดา[/FONT]</TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]ชั้นที่ ๕ เป็นที่อยู่ของ จาตุมหาราชิกา ๔ องค์ [/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>

<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="90%" border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffece6 height=60> [FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]รอบเขาสิเนรุ มีภูเขาล้อมรอบอยู่ ๗ รอบ เรียกว่า สัตตบรรพ์ [/FONT]</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>

<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="80%" border=0><TBODY><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]รอบที่ ๑ ชื่อว่า ยุคันธร[/FONT]</TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]รอบที่ ๒ ชื่อว่า อีสธร [/FONT]</TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]รอบที่ ๓ ชื่อว่า กรวิกะ [/FONT]</TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]รอบที่ ๔ ชื่อว่า สุทัสสนะ [/FONT]</TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]รอบที่ ๕ ชื่อว่า เนมินธร [/FONT]</TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]รอบที่ ๖ ชื่อว่า วินตกะ[/FONT]</TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]รอบที่ ๗ ชื่อว่า อัสสกัณณะ [/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC] นอกจากนี้ ยังมี ภูเขาจักรวาล ซึ่งเป็นภูเขาที่กั้นระหว่างจุฬโลกธาตุด้วย[/FONT]</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC] ในสารัตถทีปนีฎีกา กล่าวไว้ว่า มหานรก ทั้ง ๘ ขุม และ อุสสทนรก ซึ่งเป็นนรกบริวารของมหานรก ตั้งอยู่ที่ใต้พื้นดินธรรมดา ลึกลงไปตรงกันกับ ชมพูทวีป รวมเนื้อที่กว้าง ๑๐,๐๐๐ โยชน์ สูง ๑๐,๐๐๐ โยชน์ เป็นรูปสี่เหลี่ยม [/FONT]</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC] ที่ยกมากล่าวโดยสรุปชี้ให้เห็นว่า ภูมิต่างๆ นั้น มีความสัมพันธ์กับ ขุนเขาสิเนรุ อย่างไร ซึ่ง คนในยุคปัจจุบันที่ไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรม ยากที่จะเชื่อหรือเข้าใจได้ [/FONT]</TD></TR><TR><TD>

[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC](ดูภาพประกอบท้ายชุด)[/FONT]​

</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="90%" bgColor=#ffffff border=1><TBODY><TR><TD vAlign=top width="27%">[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๑. อุตตรกุรุทวีป[/FONT]</TD><TD width="73%">

<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]อยู่ทาง ทิศเหนือ ของเขาสิเนรุ มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้มีใบหน้าเป็นรูป สี่เหลี่ยม มีคุณสมบัติ ๕ ประการ คือ [/FONT]</TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="100%" bgColor=#f6f6f6 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=right width="4%"> </TD><TD width="96%">[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๑. ไม่ยึดถือเอาทรัพย์สินเงินทอง ว่าเป็นของตน[/FONT]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right> </TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๒. ไม่มีการยึดถือในบุตร ภริยา สามี ว่าเป็นของตน[/FONT]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right> </TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๓. มีอายุยืนถึง ๑,๐๐๐ ปี รักษาศีล ๕ เป็นนิตย์[/FONT]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right> </TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๔. เมื่อตายแล้ว จะไปบังเกิดในเทวโลกแน่นอน แต่เมื่อจุติจาก เทวโลกแล้ว อาจจะไปเกิดเป็นมนุษย์ในทวีปอื่น หรือตกลงไปเกิดในอบายภูมิได้ ซึ่งเป็นไปตามอำนาจของกรรม[/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR><TR><TD vAlign=top>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๒. ปุพพวิเทหทวีป[/FONT]</TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]อยู่ทาง ทิศตะวันออก ของเขาสิเนรุ มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้มีใบหน้า ลักษณะคล้าย รูปบาตร อายุยืน ๗๐๐ ปี [/FONT]</TD></TR><TR><TD vAlign=top>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๓. อปรโคยานทวีป[/FONT]</TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]อยู่ทาง ทิศตะวันตก ของเขาสิเนรุ มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้มีใบหน้า กลมคล้าย วงพระจันทร์ อายุยืน ๕๐๐ ปี [/FONT]</TD></TR><TR><TD vAlign=top>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๔. ชมพูทวีป[/FONT]</TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]อยู่ทาง ทิศใต้ ของเขาสิเนรุ มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ มีใบหน้า รูปไข่ อายุขัยไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับคุณธรรม สมัยใดคนในชมพูทวีป มี กาย วาจา ใจ พร้อมไปด้วยคุณธรรมที่สูง สมัยนั้นอายุจะยืนถึง อสงไขยปี สมัยใดถ้าคนในชมพูทวีปมี กาย วาจา ใจ หย่อนในคุณธรรมต่ำสุด สมัยนั้นอายุจะลดลงมาเหลือเพียง ๑๐ ปี เท่านั้น[/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff height=60>

[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]คุณสมบัติของมนุษย์ในชมพูทวีป[/FONT] ​

</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC] ๑. มีจิตใจรุ่งเรืองและกล้าแข็ง เป็นมนุษย์ที่มีจิตใจกล้าหาญที่จะทำดีและไม่ดีได้อย่างสุด ๆ คือ ในทางดีนั้น สามารถทำได้จนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า อัครสาวก มหาสาวก ปกติสาวก อภิญญาลาภี ฌานลาภี ตลอดจนเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ตรงกันข้ามกับในทางที่ไม่ดีนั้น สามารถทำได้ถึงกับฆ่าบิดา ฆ่ามารดา ฆ่าพระอรหันต์ กระทำโลหิตุปบาท และสังฆเภท (อนันตริยกรรม ๕)[/FONT]</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC] ๒. มีความเข้าใจในเหตุอันควรหรือไม่ควร สามารถที่จะวิเคราะห์วิจัย ค้นคว้าหาเหตุผล ให้รู้สภาวะของรูปนามตามความเป็นจริง[/FONT]</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC] ๓. เข้าใจในสิ่งที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ ชาวชมพูทวีป จะรู้และเข้าใจว่า การทำ การพูด การคิด อย่างไร จึงจะให้ประโยชน์ในชาตินี้ ให้ประโยชน์ในชาติหน้า หรือให้ประโยชน์อย่างยิ่ง คือ ทำให้พ้นจากทุกข์โดยเด็ดขาด[/FONT]</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC] ๔. เข้าใจในสิ่งที่เป็นกุศล และอกุศล การทำ การพูด การคิด ที่เป็นไปด้วยอำนาจของความโลภ ความอยากได้ เป็นไปด้วยอำนาจของความโกรธ ความอาฆาตพยาบาท หรือเป็นไปด้วยอำนาจของความลุ่มหลงมัวเมาก็จะหลีกเลี่ยงไม่กระทำ เพราะเข้าใจผลกรรมจากการทำ การพูด การคิดนั้น ๆ แล้วหันมาทำในสิ่งที่เป็นบุญกุศล การให้ทาน การรักษาศีล และการเจริญวิปัสสนา[/FONT]</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC] ๕. เชื่อว่าพวกตนนั้นมีเชื้อสายมาจากพระเจ้ามนุ ซึ่งมีตำนานเล่าว่า พระเจ้ามนุนี้เป็นพระโพธิสัตว์ ที่ปกครองชาวชมพูทวีป มาด้วยความเที่ยงธรรม เสมือนบิดาปกครองบุตร ทำให้ชมพูทวีปมีความ รุ่งเรืองสืบทอดกันมา [/FONT]</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR bgColor=#ffece3><TD colSpan=2 height=60>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]ดังนั้น มนุษย์ในชมพูทวีปจึงมีลักษณะพิเศษกว่าทวีปอื่น ๆ ๓ ประการ[/FONT]</TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD align=right width="12%"> </TD><TD width="88%">[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๑. เป็นผู้มีจิตใจกล้าแข็งแน่วแน่ ในการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา[/FONT]</TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD align=right> </TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๒. มีสติตั้งมั่นในคุณพระรัตนตรัย คือ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ[/FONT]</TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD align=right> </TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๓. ประพฤติพรหมจรรย์ มีการอุปสมบท รักษาศีล เจริญภาวนา[/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR bgColor=#ffece3><TD colSpan=2 height=60>

[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]มนุษย์แตกต่างกันเพราะ กรรม[/FONT]​

</TD></TR><TR><TD width="39%">[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]** อายุสั้น [/FONT]</TD><TD width="61%">[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เพราะได้เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไว้[/FONT]</TD></TR><TR bgColor=#f6f6f6><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]** อายุยืน [/FONT]</TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เพราะงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต[/FONT]</TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]** มีโรคมาก[/FONT]</TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เพราะเบียดเบียนทรมานสัตว์ไว้มาก[/FONT]</TD></TR><TR bgColor=#f6f6f6><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]** มีโรคน้อย[/FONT]</TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เพราะเว้นจากการเบียดเบียนสัตว์[/FONT]</TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]** ผิวพรรณงาม[/FONT]</TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เพราะไม่มีความโกรธความคับแค้นเก็บไว้ในใจ[/FONT]</TD></TR><TR bgColor=#f6f6f6><TD height=31>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]** ผิวพรรณไม่งาม[/FONT]</TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เพราะมากด้วยความโกรธความคับแค้นเก็บไว้ในใจ[/FONT]</TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]** มีอำนาจ [/FONT]</TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เพราะไม่เป็นผู้มีใจอิจฉาริษยาผู้อื่น[/FONT]</TD></TR><TR bgColor=#f6f6f6><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]** ไม่มีอำนาจ [/FONT]</TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เพราะเป็นผู้มีใจมากด้วยความอิจฉาริษยาผู้อื่น[/FONT]</TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]** มีฐานะร่ำรวย[/FONT]</TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เพราะได้ทำบุญทำทานไว้มาก[/FONT]</TD></TR><TR bgColor=#f6f6f6><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]** มีฐานะยากจน [/FONT]</TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เพราะไม่ได้ทำบุญทำทานไว้[/FONT]</TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]** เกิดในตระกูลต่ำ[/FONT]</TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เพราะดูถูกเหยียดหยามคนอื่นว่าต่ำกว่าตน [/FONT]</TD></TR><TR bgColor=#f6f6f6><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]** เกิดในตระกูลสูง[/FONT]</TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เพราะไม่ดูถูกเหยียดหยามคนอื่น[/FONT]</TD></TR><TR><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]** เกิดมามีปัญญาน้อย [/FONT]</TD><TD>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เพราะไม่ชอบไต่สวนทวนถามปัญหาข้อสงสัยแก่ผู้รู้[/FONT]</TD></TR><TR bgColor=#f6f6f6><TD vAlign=top>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]** เกิดมาเป็นคนมีปัญญา [/FONT]</TD><TD vAlign=top>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เพราะชอบไต่สวนทวนถามปัญหาข้อสงสัยแก่ผู้รู้เสมอ ๆ[/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>​

<MAP name=Map><AREA shape=RECT target=_parent alt=กลับไปที่หน้าสารบัญ coords=628,77,694,137 href="ContentSect06B.htm"><AREA shape=RECT target=_parent alt=หน้าต่อไป coords=698,77,771,136 href="Section06B_03.htm"></MAP><MAP name=Map2></MAP>
<MAP name=Map2>http://www.buddhism-online.org/Section06B_02.htm<AREA shape=RECT target=_parent alt=กลับไปที่หน้าสารบัญ coords=327,21,398,98 href="ContentSect06B.htm"><AREA shape=RECT target=_parent alt=หน้าต่อไป coords=401,22,474,98 href="Section06B_03.htm"><AREA shape=RECT target=_top alt=กลับขึ้นข้างบน coords=648,2,778,112 href="#"></MAP>

 

เวปนี้...ท่านมีความเห็นเดียวกับ...คุณเอกอิสโร



"ประวัติศาสตร์ คือสิ่งที่เราทราบ หากเราทราบมาผิดๆ ประวัติศาสตร์ก็ผิดด้วย" คำกล่าวนี้ อาจเป็นจริงสำหรับประวัติพระพุทธศาสนา
เมื่อสองร้อยปีก่อน อินเดียเป็นดินแดนที่ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีประวัติศาสตร์เป็นของตนเอง และไม่มีวัฒนธรรม แต่เมื่อตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ชาวอังกฤษที่มาอยู่ในอินเดียก็กลายเป็นนักโบราณคดี และได้เขียนประวัติศาสตร์อินเดียขึ้นจนกลายเป็นศูนย์กลาง วัฒนธรรมของโลก

พระพุทธศาสนา ก็เช่นกัน ก่อนพ.ศ. ๒๓๙๗ ชาวตะวันตกในยุโรปและอเมริกา ที่มีความรู้เรื่องราวของพุทธศาสนาคงมีไม่มากนักหรือแทบจะไม่มีเลย จนกระทั่งนักโบราณคดีอังกฤษกลุ่มหนึ่ง อาทิ Francis Buchanan ผู้ระบุใน ค.ศ. 1814 ว่า โบสถ์พราหมณ์ ที่ โพธคยาเป็นเจดีย์พุทธJames Prinsepผู้อ่านเสาหินและพบชื่อDevanum Piya Piyadassi แต่ไม่ทราบว่าเป็นใครจนกระทั่ง George Turnour จากCeylon เป็นผู้บอกว่า Devanum Piya Piyadassi คือ พระเจ้า Ashoka และAlexander Cunningham (1814-1893) ซึ่งเป็นผู้เขียนประวัติพระพุทธศาสนาใหม่

นักโบราณคดีเหล่านี้ ได้ทำการขุดต้นที่ต่างๆ เช่น ใน ช่วง พ.ศ. ๒๓๗๗-๒๓๙๗ Alexander Cunningham ได้ขุดสำรวจโบราณสถานในเมืองสารนาท พิศาล สาญจี ฯลฯ หลังจากขุดพบซากสลักปรักพังของโบราณสถานบางแห่งก็ได้ข้อสรุปว่า พระพุทธเจ้าน่าจะประสูติที่ประเทศสมัยนั้นเรียกว่า "ฮินดูสถาน (Hindustani) ดังนั้นความเชื่อที่ว่า พระพุทธเจ้าเป็นชาวอินเดียก็เกิดขึ้น และเผยแพร่ไปทั่วโลก ใน ค.ศ. 1887Alexander ก็ได้รับโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็น Sir Alexander Cunningham
ในประเทศไทยและลาว ดังปรากฏในจารึกและใบลานจาร พงศาวดารท้องถิ่นที่แสดงเรื่องราวในสมัยพุทธกาลของการเกิดพระเจดีย์ พระพุทธบาท พระพุทธฉายและพระพุทธรูปของชาวเหนือและชาวลาว แสดงว่า ประชาชนมีความเชื่อว่า พระพุทธเจ้าของพวกเขาอุบัติขึ้นที่ดินแดนสุวรรณภูมิซึ่งเป็นที่ตั้งของประเทศไทยในปัจจุบัน


ที่สำคัญยิ่งคือ ในสมัยรัชกาลที่ ๑ พระวันรัตน์แห่งวัดพระเชตพน ได้นิพนธ์ หนังสือ "สังคีติยวงศ์" เป็นภาษาบาลี และได้ระบุอย่างชัดเจนในหน้า ๒๘๒ ว่า กรุงสุโขทัยปุระและสยามประเทศตั้งอยู่ในชมพูทวีป ก่อนหน้าที่จะถูกฝรั่งบิดเบือนไม่ถึง 120 ปี จนกระทั่งครอบงำความคิดนักวิชาการไทยและเทศว่า ชมพูทวีป คือ อินเดีย

​

พระธาตุศรีสองรัก: สถานที่ประสูติพระพุทธเจ้า ที่อำเภอด่านซ้ายจังหวัดเลย​

พระแท่นดงรัง: สถานที่ปรินิพพานพระพุทธเจ้า ที่อำเภอท่ามะกา จังหสัดกาญจนบุรี โปรดสังเกตลำแสงบุญเหนือพระแท่น​

http://www.life-alonguniversity.com/buddhabirthplace/tha/index.htm

 

*** ประเทศไทยโชคดีหลายอย่าง ****

บรมจารย์ของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์...คือ โลกุตตระ
ช่วงกึ่งพุทธกาลนี้....โลกุตตระ ได้อุบัติขึ้นบนประเทศไทย
แต่เสียดายที่ไม่มีใครต้อนรับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์
เหมือนหลับกันหมด...จึงเกิดเป็นชะตาลิขิต

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

คุณลุงบอกว่าแล้วในที่สุดความจริงก็จะปรากฎ
ทุกคนจะได้รู้ในความเชื่อผิด ๆ ที่ถูกบิดเบือนไป
เมื่อใดที่ทุกคนได้รับรู้ในสิ่งที่ถูกต้อง ความรู้แจ้งเห็นจริงก็จะปรากฏ
กับผู้ที่เชื่อ เวลานั้นไม่นานเกินรอ

ลองศึกษาเรื่องราวที่ท่านสุนทรภู่ได้แต่งไว้ตามหนังสือเรื่องต่าง ๆ ปริศนา
ซ่อนอยู่ในนั้นนั่นเอง

 

ผมขอแสดงความคิดเป็นส่วนตัวนะครับ ผิดถูกเช่นไรขออภัยด้วยครับ

ใครเคยได้อ่านพระไตรปิฎกตอนหนึ่งว่า มนุยษ์เคยได้กินง่วนดิน เคยได้กินข้าวสารีที่ไม่ต้องปลูกมีขึ้นเอง ประมาณนี้ครับ และหลังจากนั้นไม่นานสิ่งที่เคยอุดมก็ลดน้อยถอยลงไป เพราะเกิดการยึดว่าของเราของเขา

ถ้าคิดย้อนไปก็คือแต่เดิมทุกสิ่งไม่เคยมีสิ่งใดเป็นของใคร แต่สมมุติขึ้นกัน แล้วก็ลืมเลือนกันไปแล้วว่าไม่ใช่ของเรา ผลก็เป็นเช่นที่เห็นกันคือ ยึดติดกันไป ทรัพย์ทั้งหลายก็มีน้อยลงดังนี้

อะไรคือความจริง อะไรคือความเท็จ ผมไม่รู้ขออยู่กับปัจจุบัน ตามหลักการที่ถูกต้อง ซึ่งองค์พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประทานแก่โลกไว้แล้ว เหลือแต่ว่าผู้ใดจะจุดเทียนเล่มน้อยออกแสวงหาเท่านั้นแล