ร่างกายไม่ใช่เรา จิตนี่ก็ไม่ใช่เราแล้วอะไรล่ะที่เป็นเรา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 3 พฤศจิกายน 2015.

  1. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    อะไรคือคำตอบที่ดี ผมเองเคยคิด ค้น ตั้งคำถาม หาคำตอบกับคำถามเหล่านี้
    มันเป็นส่วนของการคิด ในการปฏิบัติ ที่เจอ อยู่ที่ตรงระลึกได้ ไม่ต้องตอบอะไร
    ทีนี้ มันจะสร้างคำถามหลังจากนั้น อะไร ยังไง บ่อยครั้งที่ต้องตามตอบ ไม่จบ

    พอได้ระลึก คำหลวงพ่อท่านกล่าวถึงอาหาร หากเราไม่กินอาหารเราก็ตาย
    กิเลสมันก็ต้องกินอาหาร ไม่มีอาหารก็ตาย

    พอสะกิดได้ก็มาเพียรต่อ
     
  2. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    จิตกับกายต้องอาศัยซึ่งกันและกัน (เขียนไปชักจะยาวต้องย่นให้ได้แต่เนื้อหายังอยู่)
    ใจเราต้องประคับคองดูแลให้เกิดสมดุลย์เพื่อการดำรงอยู่ด้วยการให้น้ำให้อาหารเพื่อการทรงอยู่เพื่อเสื่อมและ
    อาศัยกายนั้นทำกุศลบ้าง อกุศลบ้าง ตามสตื
    ตามปัญญาที่จะจัดการกับกายและจิตนี้ได้
    ประเด็นว่าเป็นกิเลสหรือไม่ อยู่ที่การพิจารณา
    ความจริงทุกเรื่องราวได้ หรือไม่ ถ้าปล่อยๆ ไปตามแรง
    ตัณหาก็เป็นกิเลส
     
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ใครเป็นผู้ดูจิต
    จิตที่มีสติควบคุมเป็นผู้ดูจิตและฝึกอบรมจิต
    ใช่มิใช่
    ดังนั้น แสดงว่าไม่มีตัวเรา
    ตามที่หลงไปว่าเราคือผู้ควบคุม
    พระเอกตัวจริงคือสติใช่มิใช่
     
  4. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ถ้าร่างกายเป็นของเรา
    หรือใจเป็นของเราจริง เราคงไม่ปล่อยให้
    กายสื่อมโทรมหรือเจ็บป่วยเกิดขี้น

    จิตก็เช่นกันเหตุใด จิตเศร้า จิตเบิกบาน จิต
    โกรธกริ้ว อิจฉาริษยา ไปตามสิ่งล่อสิ่งเร้าต่างๆ
    ได้เสมอ
    ถ้าจิตนั้นของเราจริง เราก็ต้องทำให้มันรื่นเริง
    บันเทิงใจอยู่เสมอได้สิ ยามที่จิตเศร้า เราควรเศร้า
    ตามจิตไหม ยามจิตโกรธเราควรโกรธตามจิตไหม
    ไม่ควรเลย
    ที่ควรทำคือแค่มีสติตามรู้ใช่มิใช่
     
  5. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ไม่ใช่ ๆ
     
  6. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ยังงัยฮะ
     
  7. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    มันเป็นไปตามเหตุปัจจัย
    เพราะสิ่งนี้มีอยู่ สิ่งนี้จึงมีอยู่
    เพราะสิ่งนี้ไม่มีอยู่ สิ่งนี้จึงไม่มีอยู่
    แค่นั้น
    ถ้าไปสำคัญมั่นหมายเป็นจริงเป็นจังเมื่อไหร่
    ก็มีตัวตนขึ้นมาทันทีเลย

    (เน็ตช้า วันนี้)
     
  8. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    เข้าใจคับ
    เรื่องเหตุปัจจัย
    แต่จะอธิบายว่าความเพียรเป็นการสร้างเหตุให้
    เเจ้งในธรรมต่างๆ ได้โดยไม่สำคัญมั่นหมายยังงัยฮะ
     
  9. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    เหตุปัจจัยที่ว่าคงหมายรวมถึงบุพกรรมกุเลชาติ
    ด้วยถูกไหมฮะ
     
  10. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    หมายถึงประโยคนี้ครับ

     
  11. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ผมจะชี้ธรรมสักบทนะครับ ผมขอถามก่อนว่า ดอกกุหลาบสวยใหมครับ ลุง555
     
  12. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    อีกอย่างหนึ่ง คนเราฝึกอย่างไรก็ได้อย่างนั้น
    ตามเหตุปัจจัย เป็นเรื่องธรรมดา
    สรรพสิ่งล้วนแปรปรวนไปตามเหตุปัจจัย
    เห็นอย่างนั้นเข้าใจอย่างนั้นแล้ว
    หายสงสัยก็วางได้เอง ไม่ยึดถือ ไม่ติดใจจะเอาอะไรอีก
    ไม่สำคัญมั่นหมายว่า
    สิ่งนี้เท่านั้นใช่ สิ่งอื่นเปล่า ดังที่เขาว่านั่นเอง
     
  13. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ฮะ.....สวย!!
     
  14. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ผมแค่ชี้ท่านพิจารณาเองนะครับ กุหลาบมันก็คือกุหลาย ที่สวยนะใจเราว่ามันสวย เหตุเพราะผัสสะและเวทนาทำงานมันจึงมีสวยมีไม่สวย แล้วกุหลาบมันเคยถามท่านใหมว่าฉันสวยรึไม่สวย ทุกอย่างมีตัวเ_ือกที่คอยกำกับเข้าไปกำกับว่ากุหลาบสวย ทั้งๆที่กุหลาบมันก็เป็นของมันเช่นนี้ ใครจะว่าสวยมันก็เป็นกุหลาบใครว่าไม่สวยมันก็เป็นกุหลาบมันไม่รุ้ไม่ชี้กับเราด้วยเลย. นี่แหละที่ผมจะชี้ให้ท่านเห็นว่า ทุกสรรสิ่งเรานั้นแหละที่ไปกำหนดกฏเกณ์ให้มันมีรึไม่มีค่าเอง ดังเช่นกุหลาบ มันคือสมมุติ ลึกลงไปมันก็มิใช่กุหลาบ มันเป็นที่ชุมนุมของธาติขันธ์ทั้ง4ลึกลงไปมันมีเหตุมีปัจจัยในการเกิดคือมีดินมีน้ำ มีปุ๋ยคืออาหาร มีเกษรที่ผสมกันแล้วมารวมกันให้มันเกิด และสุดท้ายมันก็แตกสลายไปตามกาล
    ถ้ายกขึ้นเปรียบมันก็คลายกับคนนั้นเเหละมันมีสวย มีเหี่ยวมีเฉาสลับหมุนเวียนกันไปตามกาล ไปยึดมั่นถือมั่นไม่ได้
    แต่ถ้าเรารุ้ตามความเป็นจริงตะรู้ว่ากุหลาบมันก็คือดอกไม้ตามธรรมชาติของมัน เรารุ้ด้วยความจริงใครจะว่าสวยก็สวยตามโลกว่า แต่จิตมันจะรุ้แจ้งเห็นชัดประจักจิตว่ามันเป็นกุหลาบเป็นธรรมชาติที่คนตั้งชื่อสมมุติให้มันว่ากุหลาบทั้งๆที่มันเองก็ไม่เคยขอให้คนตั้งชื่อให้มัน จริงไหมครับ. มันไม่รุ้อีโน่อีเหน่อะไรกับเราหรอก จริงไหมครับ
    นี่แหละคือธรรมมันมีตลอดเวลาที่ผัสสะ เมื่อผัสสะให้เห็นตามธรรมดาว่าสิ่งนี้คืออะไร ใช้ปัญญาพิจารณาตามความเป็นจริงของมัน ส่วนไอ้ตัวเ_ือกที่อยุ่ในใจก็ให้มันทำงานน้อยๆลงหน่อยรึไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้ จงกำจัดไอ้ตัวนี้ออกจากจิตจากใจ ไอ้ตัวนี่แหละคือตัวที่ท่านถามว่าเรามีไหม?ท่านตอบเองละกันว่ามีรึไม่มี ท่านจะเห็นธรรมตามธรรม และประจักแก่จิตเองโดยมิต้องถามใครรึเชื่อใครอีกเลยเพราะแจ้งแก่จิตแล้ว.
    ผมแค่ชี้ท่านก็ใช้ปัญญาพิจารณาเองนะครับ ธรรมนั้นต้องมาจากจิต มิใช่สัญญา จำได้หมายรู้ คือคิด ด้น ดันเดา ธรรมจะหมุนวนโดยรอบ สามารถกลับไปกลับมา ยิ่งสาวจากผลไปหาเหตุปัจจัย ยิ่งลึกไม่มีที่สิ้นสุด พิจารณาด้วยสติปัญญา ไม่มีอะไรไปเกี่ยวไปข้อง สวัสดี
    ป.ล. ทุกสรรสิ่งคือสมมุติ ดับสมมุติคือวิมุตติ สมมุติคือตัวอวิชชา อวิชชาเป็นที่มาของอาการแห่งเหตุทั้งปวง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2015
  15. Jsus Christ

    Jsus Christ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +82
    การให้ที่ประกอบตัวตน จะแฝงด้วยมลทิน ย่อมเป็นการให้ที่ไม่ได้มาจาก ใจอันบริสุทธิ์ ดุจดั่งน้ำโคลน สาดใส่ตัวผู้รับ

    การให้ที่ไร้ตัวตน จะเป็นการให้ที่ล้ำค่า แม้ผู้รับจะไม่สามารถรับได้ก็ตาม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2015
  16. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ตอบ
    ต้นไม้ใง...
     
  17. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เคยดูหนังเรื่อง Lucy ไหม

    หนังเรื่องนี้ก็เอา ปรัชญาแนวคิดของพุทธ ไปทำหนัง

    กายไม่ใช่เรา จิตไม่ใช่เรา แม้นสมองทำงาน100% ก็ไม่ใช่เรา

    แล้ว ในหนังก็ไปเห็น " ต้นไม้ " ปิดฉากด้วยการเป็น สาแหลก
    ข่ายโยงใยแบบสุ่ม(ผลิกกลับไป ทฤษฏีสตริง ของ ฮวอกกลิ้ง
    กลายเป็น สารสีดำ สะสารมืด ก็เลย คลาดธรรมที่เป็น อมตะของแท้ไป )


    ทีนี้ ต้นไม้เป็นธรรมชาติที่พ้นการแปรปรวนหรือเปล่า !?

    ต้นไม้เหมือนพ้นกิเลส มีสุขโดยส่วนเดียว แต่มันไม่ทราบ
    ปฏิปทาในการทำให้ได้มาซึ่งสุขโดยส่วนเดียว อีกทั้งไม่เคยเห็น

    ซ้ำร้าย ต้นไม้ก็แปรผันไปตามปัจจัยการ ธาตุ อุตุ ฯลฯ

    มนุษย์ที่เล็งเห็นได้ กายไม่ใช่เรา จิตไม่ใช่เรา และ เล็งเห็น
    ได้ว่า แม้นต้นไม้ก็แปรผันไปตามปัจจัยการ มีชรา มียืนต้นตายเปล่า
    ผิดจากมนุษย์ ที่สามารถยกเห็น รสแห่งความสงบสุข น้อมไปสู่
    ธรรมที่มีสุขโดยส่วยเดียวไม่มีทุกข์ เป็นอมตะ ได้
     
  18. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ทัศนะดีมาก เป็นอรรถเป็นธรรมแต่ทำไมมีแต่ถัวแดงยาวยืด..พอตอบได้ไหมฮะ
     
  19. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    ความยึดถือก็ไม่ใช่เรา เป็นไปตามเหตุปัจจัยเช่นเดียวกัน
     
  20. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    เพราะมีอวิชชา จึงมีโลภะ โทสะโมหะ จึงยึดขันธ์๕
    เพราะยึดขันธ์จึงมีเรา
    เพราะมีเรา จึงมีอุปาทาน
    ไม่มีเรา ไม่มีอุปาทาน
    อย่างนี้ใช่มิใช่ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...