ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
    โอ๊ะโอวววว!... อียูยอมรับ "ส่งออกขบวนการก่อการร้ายสร้างสงครามในประเทศต่างๆ" กรรม!

    [​IMG]

    -------------
    วันที่ 9 ต.ค.58 สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "นาง Mogherini กล่าวว่า: อียูส่งออกขบวนกรก่อการร้ายไปยังประเทศที่ได้รับความเสียหายจากสงคราม" (Mogherini: EU 'Exports' Terrorism to War-Torn Countries) (นี่หล่อนพยายามพูดแบบรักษาหน้ากลุ่มประเทศอียูแล้วนะนี่ จริงๆแล้วหล่อนคงจะต้องการที่จะพูดดว่า "อียูส่งออกผู้ก่อการร้ายไปสร้างสงครามกลางเมืองในประเทศต่างๆ" ต่างหากหรือเปล่า? เอ… หรือว่าเธอจะเก็บคำพูดนี้ไว้ให้โอบาม่าโดยเปลี่ยนจาก "อียู" เป็น "อเมริกา" ดีนะ คริๆ)
    อ้อ… นี่หลังจากที่เพจ "ปอกเปลือก ทรราช" โพสต์ข่าวเกี่ยวกับอิสราเอลสำรวจพบแหล่งน้ำมันดิบขนาดใหญ่ใน Golan Heights พื้นที่ยึดครองของอิสราเอลแต่เป็นดินแดนของซีเรีย ก็ได้มีบางคนสำเนียงคล้ายๆโปรอเมริกา (?) และดูเหมือนจะติดเชื้อไวรัส Russophobia ด้วยมาแสดงความคิดเห็นเชิงดิสเครดิตเพจนี้ว่า "แหม่ คนเขียนก็เขียนกันไปเรื่อย ตั้งแต่รัสเซียลุยไอซิส ข้อมูลและทฤษฎีต่างๆมาวันละ100เรื่องล่ะครับ จะมีข้อมใดให้เชื่อว่า..." บอกแล้วว่าเดี๋ยวพวกนี้ก็จะออกมาดิ้นเอง งั้นแนะนำให้โปรอเมริกาตั้งใจอ่านข่าวนี้ให้ดีนะครับ บางครั้งมันก็ยากที่จะยอมรับความจริงได้ว่าฝ่ายที่ตัวเองเชียร์และให้เครดิตนั้นชั่วเกินจะยอมรับได้ แต่ครั้นจะออกมาประนามก็คงจะกลัวเสียหน้าหรือเข้ากลุ่มเดิมไม่ได้อีกต่อไป ก็จำเป็นต้องออกมาแถเชิงบิดเบือนข้อมูลทำให้สังคมเกิดความสับสนแบบนี้อยู่เรื่อยๆใช่ไหม? พฤติกรรมแบบนี้เรียกว่า "confusing the public" (ทำให้สังคมเกิดความสับสน พักหลังนี้พวกนี้จะเริ่มออกมาทำงานแบบนี้ค่อนข้างถี่ขึ้นตามโลกซีเชียลและสื่อฯกระบอกเสียงของอเมริกาทั้งหลาย)
    กลับมาที่ข่าวต่อนะครับ Federica Mogherini ประธานด้านนโยบายต่างประเทศของอียูกล่าวเมื่อวันศุกร์นี้ว่า "บรรยากาศการสู้รบในต่างประเทศในกลุ่มประเทศที่ได้รับความเสียหายจากสงคราม (war-torn countries) เช่นอิรัค และซีเรีย ได้ทำให้สหภาพยุโรปกลายเป็นหนึ่งในประเทศผู้ส่งออกขบวนการก่อการร้าย" (ชัดไหมครับโปรอเมริกา?)
    นักการทูตยุโรปได้เน้นย้ำว่า "บ่อยครั้งมากที่พลเมืองของอียูออกไปหารายได้จาก jihad ที่ใช้ความรุนแรงในซีเรีย และที่อื่นๆ และไม่ย้อนกลับมา" (ก็ถูกเฮียปูตินเก็บเรียบอยู่ในตอนนี้จะให้กลับไปได้อย่างไรหละครับ? คริๆ)
    Mogherini กล่าวในที่ประชุมประชุมประจำปีของสถาบันการศึกษาด้านความมั่นคงของสหภาพยุโรป (European Union Institute for Security Studies - EUISS) ว่า "ความจริงก็คือว่า ทวีปของพวกเราส่งออกขบวนการก่อการร้ายมากกว่านำเข้า" (The reality is that our continent exports more than imports terrorism.) (มันไม่จริงใช่ไหมครับโปรอเมริกา และโปรตะวันตก? บอกสิครับว่า Mogherini โกหก Mogherini รับเงินมาจากรัสเซียให้พูดแบบนั้น Mogherini หักหลังโปรอเมริกา? คริๆ หรือไม่ก็บอกว่าสื่อฯรัสเซียบิดเบือน ใส่ร้ายตะวันตกหละสิ?)
    Mogherini กล่าวว่าความจำเป็นในการแก้ไขวิกฤตปัญหาต่างๆที่ดูเหมือนว่ามีมากมายจนนับไม่ถ้วนนี้ จำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ที่เป็นเอกภาพแทนที่จะ "หันเข้ามาภายใน" และสร้างกำแพงปิดกั้น (เธอกำลังส่งสัญญาณไปยังอังกฤษและฝรั่งเศสและสหรัฐฯที่ไม่ยอมร่วมมือกับรัสเซียในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในซีเรียและตะวันออกกลาง เริ่มเห็นท่าทีของอียูบ้างหรือยังครับ? ระวังนะเดี๋ยวโอบาม่าก็จับได้หรอกว่าแอบปันใจให้ปูตินอ่ะ ฮ่าๆๆ)
    Mogherini ได้เน้นย้ำว่า "มีการใช้งานกำแพงเพียงเล็กน้อยเมื่อไม่มีเส้นแบ่งที่ชัดเจนแยกด้านในออกจากด้านนอก" ในการกล่าวสรุปแนวความคิดหลักในยุทธศาสตร์ต่อต้านวิกฤตในยุโรป
    สถาบันวิจัย Soufan Group ที่มีสำนักงานอยู่ในนิวยอร์ก และศูนย์ศึกษากลุ่มหัวรุนแรงและความรุนแรงทางการเมือง (International Center for the Study of Radicalization and Political Violence) ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในลอนดอนได้ประมาณการว่า อาจจะมีชาวยุโรปถึง 5,000 คนที่ไปต่อสู้เคียงข้างกับกลุ่มหัวรุนแรง (ก่อการร้าย) ในอิรัคและในซีเรียด้วย
    สถาบันวิจัยเหล่านี้ได้ตั้งข้อสมมุติฐานว่า พวกนักรบต่างชาติที่ไปร่วมขบวนการก่อการร้ายไอซิสส่วนมากเป็นความดุร้ายป่าเถื่อนด้านสิทธิมนุษยชนที่อย่างน้อยที่สุดก็ได้ก่อให้เกิดวิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดในหลายทศวรรษโดยทางอ้อม (หมายถึงว่าพวกที่ไปร่วมกับขบวนการก่อการร้ายในตะวันออกกลางนั้น ส่วนมากก็เป็นพวกนักกิจกรรมที่ชอบอ้างเรื่องสิทธิมนุษยชนนั่นแหละ เท่าที่สังเกตการให้ข่าวแถลงข่าวจากกลุ่มที่อ้างว่าเป็นนักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชน (ปลอม) ในกลุ่มประเทศที่มีการก่อการร้ายและสงครามกลางเมืองเหล่านั้น ส่วนมากพวกนี้จะเสนอข่าวเอียงไปทางพวกหัวรุนแรง และต่อต้านรัสเซียที่เข้าไปถล่มไอซิส ทำตัวเป็นกระบอกเสียงให้กับกลุ่มหัวรุนแรง เหมือนกับนายสุ... อะไรซักอย่างนี่แหละ)
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    10/10/2558

    ภาพจาก © AFP 2015/ JOHN THYS

    ----------
    Mogherini: EU 'Exports' Terrorism to War-Torn Countries
    เพจสำรองของ "ปอกเปลือก ทรราช" เฟซบุคค่ายรัสเซีย : https://vk.com/theeyesproject
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ข่าวดี… ไทย-จีน ตกลงเร่งความเร็วความร่วมมือในโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟ.... sweeeeeet!

    [​IMG]

    -------------
    วันที่ 9 ต.ค.58 สำนักข่าว Xunhua ของจีนพาดหัวข่าวว่า "China, Thailand agree to speed up railway cooperation" (โอว… น่าสงสารโปรอเมริกาที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ Sinophobia จริงๆอ่ะ คริๆ) ข่าวดีแบบนี้เราต้องรีบขยายและเผยแพร่ให้ประชาชนคนไทยได้รับรู้ เพราะก่อนหน้านี้มีพวกจอมเสี้ยมแก๊งเตะตัดขาค้านสุดซอยหวังแบ่งแยกประชาชนออกจากทหาร ออกมาปล่อยข่าวดิสเครดิสรัฐบาลลุงตู่และคสช.ประมาณว่าโครงการสร้างทางรถไฟที่ร่วมมือกับจีนไม่คืบหน้า เพราะพักหลังมานี้ไม่เห็นเป็นข่าวเลย สงสัยจะเจ๊งซะหละมั๊งว่างั้นนะ ในระหว่างการเจรจาต่อรองกันเพื่อไม่ให้ไทยเสียเปรียบ ก็ยังไม่ต้องเสนอข่าวก็ได้ แต่คณะทำงานระหว่างสองประเทศก็มีการติดต่อประสานงานกันอยู่เรื่อยๆ วันนี้พึ่งจะเห็นข่าวนี้จากสื่อฯจีน ดังนั้นจึงนำข่าวความคืบหน้าในโครงการนี้มาเล่าสู่กันฟัง เดี๋ยวจะแปลตามต้นฉบับภาษาอังกฤษให้นะครับ
    กรุงปักกิ่ง 9 ต.ค. (Xinhua) -- ไทยและจีนตกลงเร่งความเร็วความร่วมมือในโครงการก่อสร้างทางรถไฟร่วมกัน ในความพยายามเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถลงมือก่อสร้างได้ภายในปีนี้ (ลองเดาดูซิว่าพวก Sinophobia จะออกมาดิ้นอย่างไรบ้าง? ก็คงจะอ้างว่าไม่ผ่านประชามติไม่เป็นประชาธิปไตยอีกหละสิ?)
    โครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟ (รางคู่) นี้เป็น "โครงการที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรกและมีความจำเป็นอย่างยิ่ง" (priority and highlight) ในความร่วมมือระหว่างไทยกับจีน จีนหวังว่าทั้งสองประเทศจะสามารถรับประกันได้ว่าจะมีการเริ่มต้นโครงการนี้โดยเร็ว นายกรัฐมนตรี Li Keqiang ของจีนกล่าวระหว่างพบปะหารือกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศของไทยในกรุงปักกิ่ง
    รายงานข่าวบอกว่า ระหว่างที่นายกฯหลี่ เค่อเฉียงเดินทางมาเยือนประเทศไทยเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว นายกฯหลี่ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกันกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (ลุงตู่) นายกรัฐมนตรีของไทย เพื่อพัฒนาเส้นทางรถไฟความเร็วขนาดกลาง (medium-speed railway) ร่วมกัน ซึ่งเชื่อมต่อจังหวัดหนองคายทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยเข้ากับกรุงเทพมหานคร และจังหวัดระยองทางตะวันออกของไทย เส้นทางรถไฟสายนี้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟที่ได้มีการวางแผนเอาไว้ที่จะวิ่งผ่านไปยังตอนใต้ของจีน ลาว และไทย (เฮ… คนหนองคายจะมีรถไฟความเร็วปานกลางใช้แล้วครับท่าน ยินดีด้วยครับผมพี่น้อง พากันไปเที่ยวหนองคายกันเยอะนะครับ เห็นมะ... พอลุงตู่มาอะไรๆก็เจริญขึ้นผิดหูผิดตาจริงๆ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เลิฟลุงตู่ได้อย่างไรหละคร้าบบบ ว้าววว! เชื่อม 3 ประเทศเข้าด้วยกันเลย พี่น้องชาวลาวเพื่อนบ้านของพวกเราก็มีเอี่ยวด้วย แหล่มเลย มิน่าหละทางอเมริกาและอียูถึงได้ออกอาการผีเข้าสิงร่างพยายามออกมาดิสเครดิตรัฐบาลนี้และประเทศไทยอยู่บ่อยๆและถี่ขึ้น แล้วก็เสี้ยมให้คนไทยหัวใจขี้ข้าอเมริกาและตะวันตกสร้างความแตกแยกในสังคมด้วยวิธีการต่างๆ เพราะว่าเขาอิจฉาไทยกับจีน และอยากจะครอบครองภูมิภาคนี้ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ชั้นดีเอาไว้ซะเองหละสิ)
    ท่านรมว.ดอน กล่าวว่า "เส้นทางรถไฟสายนี้จะสนับสนุนส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ และอำนวยความสะดวกในความร่วมมือด้านการค้าและการแลกเปลี่ยนไปมาหาสู่กันระหว่างประชาชน-กับ-ประชาชนด้วยกัน (people-to-people exchanges) ระหว่างจีนกับไทย และคาบสมุทรอินโดจีน (Indo-China Peninsula)" (นี่… ที่ทำนี่ก็เพื่อประชาชนเพื่อประเทศชาติส่วนรวมด้วยกันทั้งนั้น ยังจะบอกว่าไม่ดีกันอยู่อีกรึ? ต้องทำเพื่ออเมริกากับตะวันตกเท่านั้นถึงจะบอกว่าดีใช่ไหม?)
    นาย Wang Yi รมว.ต่างประเทศของจีนได้กล่าวกับท่านรมว.ดอน ว่า "การก่อสร้างจะเป็นความก้าวหน้าสำหรับเครือข่ายเส้นทางรถไฟ trans-Asia ที่ฟักตัวอยู่หลายปี เส้นทางรถไฟสายนี้จะเอื้อต่อการพัฒนาในระยะยาวของไทย และช่วยให้ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อทั้งในประเทศและระดับภูมิภาคด้วย" (ชุมทางรถไฟอาเซียนก็จะอยู่ที่ประเทศไทยนี่แหละครับ เตรียมข้าวเหนียวไก่ย่างเอาไว้ขายเยอะๆด้วยนะครับ คริๆๆ)
    ท่านดอนได้เน้นย้ำว่า "ประเทศไทยได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในความร่วมมือกับจีนและก็พร้อมที่จะร่วมมือในการสนับสนุนให้มีการเริ่มก่อสร้างโดยเร็ว"
    ท่านรมว.ต่างประเทศของไทยยังได้กล่าวสนับสนุนโครงการ "Belt and Road initiative" ของจีนด้วย และตกลงที่จะสนับสนุนความร่วมมือระดับทวิภาคีภายในกรอบความร่วมมือที่เปิดเผยและโปร่งใส (in the spirit of open and transparent ไม่เหมือนโครงการขายข้าวแลล G-to-G เก๊นะครับ คริๆ)
    นายหวังยังกล่าวอีกว่า ทั้งสองประเทศได้ตกลงร่วมกันที่จะเริ่มต้นกลไกความร่วมมือในโครงการ Lantsang-Mekong ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือประเทศต่างๆที่อยู่ตามแม่น้ำโดยตระหนักถึงการพัฒนาขั้นพื้นฐานผ่านความร่วมมือเชิงบูรณาการ
    ท่านดอน รมว.ต่างประเทศของไทยกล่าวว่า ประเทศไทยมีความประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำให้มีความเข้มแข็ง การควบคุมภัยแล้ง และการบรรเทาภัยพิบัติภายใต้กรอบกลไกลความร่วมมือ Lantsang-Mekong
    นอกจากนี้แล้วยังมีการปรึกษาหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและอาเซียนด้วย (ASEAN) ในตอนหนึ่งนายกฯหลี่ได้พูดถึงความร่วมมือระหว่างจีนกับอาเซี่ยนว่า … จีนพร้อมที่จะสร้างความพยายามกับทุกฝ่ายเพื่อเดินหน้าผลักดันไปสู่ความสัมพันธ์กับอาเซียน และดำรงค์ไว้ซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคนี้
    ก็เป็นการบอกให้รู้ว่าที่หวังจะเอาขบวนการก่อการร้ายหรืออะไรก็แล้วแต่มาแพร่ขยายในภูมิภาคนี้เพื่อหวังว่าจะทำให้ภูมิภาคนี้ปั่นป่วนแบบตะวันออกกลางหรือเต็มไปด้วยวิกฤตผู้อพยพอยู่ในยุโรป อย่าได้หวังเลย เพราะจีนจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นในภูมิภาคแห่งนี้ได้เด็ดขาด หากอเมริกาคิดจะงัดกับจีนโดยใช้ชาติอาเซียเป็นเบี้ย งั้นเศรษฐกิจของอเมริกาคงจะต้องพังก่อนแน่ๆ อย่าเสี่ยงดีกว่า ตอนนี้เงินหยวนของจีนแซงหน้าเงินเยนของญี่ปุ่นกลายเป็นสกุลเงินที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับที่สี่ของโลก และที่สำคัญจีนกับพันธมิตรกำลังนำร่องระบบการโอนเงินระหว่างประเทศระบบใหม่ซึ่งก็คือ Renminbi Cross-border Interbank Payment System - CIPS รันคู่ขนานไปกับระบบเก่า SWIFT ที่ควบคุมโดยอเมริกาและตะวันตกด้วย
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    10/10/2558
    ----------
    China, Thailand agree to speed up railway cooperation - Xinhua | English.news.cn
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    สาเหตุที่อิสราเอลมีเอี่ยวในสงครามกลางเมืองซีเรียและสนับสนุนกบฏซีเรีย ก็เพราะค้นพบแหล่งน้ำมันดิบขนาดใหญ่ในดินแดนของซีเรียที่อิสราเอลเข้ายึดครองอย่างผิดกฎหมายตั้งแต่สงครามในปี 1967 แสบไหมหละ?

    [​IMG]

    -------------
    วันที่ 7 ต.ค.58 สำนักข่าว RT news พาดหัวข่าวว่า "ค้นพบแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ในเขต Golan Heights - สื่ออิสราเอลรายงาน" (Huge oil discovery in Golan Heights - Israeli media) ส่วน Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "อิสราเอลค้นพบบ่อน้ำมันขนาดใหญ่มหึมาในเขตยึดครอง Golan Heights" (Israel Discovers Enormous Oil Deposit in Occupied Golan Heights) ถะด้าาาา... และแล้วปริศนาก็ถูกเปิดเผยออกมาจนได้นะบีบี้
    RT รายงานว่า ได้มีการค้นพบบ่อน้ำมันในเขต Golan Heights ที่ยึดครองโดยอิสราเอล ซึ่งมีปริมาณน้ำมันสำรองให้กับอิสราเอลใช้ได้นานหลายสิบปี อ้างรายงานข่าวจากสื่อฯของอิสราเอล
    การปรากฏตัวของอิสราเอลในเขต Goland Heights ยังอยู่ในข้อพิพาท พื้นที่แห่งนี้ได้รับการรับรองโดยนานาชาติว่าเป็นดินแดนของซีเรีย (อ้าว! แล้วอิสราเอลทำไมถึงหน้าด้านเข้าไปรุกรานและยึดครองดินแดนของเขาหน้าตาเฉยเลยหละนั่น?) ซึ่งได้ถูกอิสราเอลเข้าไปยึดครองไว้ตั้งแต่สงครามวันในปี 1967 ระหว่างอิสราเอลและชาติอาหรับอื่นๆ ข้อมติของยูเอ็น ที่ 242 (1967) [UN Resolution 242 (1967)] ได้มีคำสั่งให้อิสราเอลถอนกองทัพติดอาวุธออกไปจากดินแดนที่เข้าไปยึดครอง (อย่างผิดกฎหมาย) ในความขัดแย้ง แต่อิสราเอลไม่เห็นด้วย (disagree) กับคำพูดในข้อมติแก้ไขปัญหาของยูเอ็น โดยกล่าวว่าดินแดนแห่งนี้ยังมีปัญหาอยู่ (saying the territories are disputable) (ก็ถ้าอิสราเอลถอนออกไปมันก็จะไม่มีปัญหาเลย ที่มันยังเป็น disputable นี้ก็เพราะอิสราเอลเข้าไปรุกรานเขานี่แหละ นี่ขนาดยูเอ็นสั่งนะ อิสราเอลยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของยูเอ็นได้เลย ให้รู้ซะบ้างว่าใครใหญ่กว่ายูเอ็นกันแน่ นอกจากจะไล่ที่ปาเลสไตน์แล้ว อิสราเอลก็ยังรุกรานซีเรียอีก ล่าสุดก็เอาสไนเปอร์ไปยิงหัวเด็กเยาวชนชาวปาเลสไตน์ที่ขว้างก้อนหินใส่อิสราเอลนั่นแหละ)
    รายงานข่าวบอกว่าศักยภาพในการผลิตน้ำมันอาจจะมีถึงหลายพันล้านบาร์เรล ในขณะที่ (ปัจจุบันนี้) อิสราเอลใช้น้ำมันตกวันละประมาณ 270,000 บาร์เรล ปัจจุบันนี้อิสราเอลนำเข้าน้ำมันหนึ่งในสามส่วนจากพื้นที่กึ่งเขตปกครองตนเองกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเคิร์ดในอิรัค หนังสือพิมพ์ Financial Times ของอังกฤษรายงานในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา (นี่แหละสหรัฐฯถึงต้องการยึดอิรัคให้ได้ แต่พอยึดไม่ได้ก็จะแบ่งซอยอิรัคออกเป็นสามส่วน ส่วนหนึ่งยกให้ไอซิส ส่วนที่สองยกให้ชาวเคิร์ด และที่เหลือก็เป็นของรัฐบาลกลาง ใครที่คบและสนับสนุนอาวุธให้ชาวเคิร์ดและไอซิสก็ได้น้ำมันดิบราคาถูกๆไม่ต้องเสียภาษีอะไรมากมายไปกินสบายๆ)
    รายงานการค้นพบในครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมๆกับสงครามกลางเมืองที่บ้าคลั่งในซีเรีย อิสราเอลถูกกล่าวหาว่าฉกฉวยผลประโยชน์ในความขัดแย้งนี้ เขตยึดครอง Golan Heights โดยอิสราเอลยังมีชายแดนติดกับดินแดนของซีเรียที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏต่อต้านรัฐบาลซีเรียด้วย รายงานข่าวบอกว่าอิสราเอลสนันสนุนความช่วยเหลือด้านการแพทย์แก่กลุ่มกบฏ และได้มีการตอบโต้ต่อจรวดที่ยิงมาจากตำแหน่งของกองทัพซีเรียในในดินแดนที่กบฏซีเรียยึดครอง (พูดง่ายก็คืออิสราเอลหนุนกลุ่มกบฏกลุ่มนี้ทุกอย่าง เป็นแบ็คให้ด้วย ถ้ากลุ่มกบฏได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบกับกองทัพรัฐบาลซีเรีย อิสราเอลก็จะรักษาให้ ถ้ากองทัพซีเรียโจมตีกลุ่มกบฏในเขตนี้ อิสราเอลก็จะช่วยคุ้มครองและรบให้ วันหนึ่งอิสราเอลก็จะบอกว่าสามารถขยายเขตยึดครองออกไปได้อีก ส่วนพวกกบฏซีเรียก็โง่ให้อิสราเอลหลอกแดร็กตามเคย) การขยาย (อาณาเขต) ของอิสราเอลก็คือการตอบโต้ต่อกองทัพซีเรียสำหรับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในดินแดนของซีเรียเอง (แสบไหมหละ?)
    มุกนี้แบบเดียวกันกับที่สหรัฐฯสนับสนุนกลุ่มกบฏให้ต่อสู้กับกองทัพของรัฐบาลอัสซาดและช่วยกบฏถล่มกองทัพของรัฐบาลอัสซาดนั่นแหละ สูตรเดียวกันเลย แต่งานนี้รัสเซียลงมือแล้ว อย่าหวังว่าทั้งสหรัฐฯและอิสราเอลจะทำตามอำเภอใจได้อีก ถ้ารัสเซียสามารถช่วยซีเรียยึดเขต Golan Heights กลับคืนมาได้นี่จะเจ๋งมากๆ ดูซิว่างานนี้อิสราเอลจะรับมืออย่างไรศึกนอกเจอกับซีเรียและอิหร่านใน Golan Heights ศึกในก็เจอกับปาเลสไตน์ น่าลุ้นอ่ะ... ฮ่าๆๆ
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    09/10/2558

    ภาพจาก © AFP 2015/ JALAA MAREY

    ----------
    Israel Discovers Enormous Oil Deposit in Occupied Golan Heights
    https://www.rt.com/business/317906-oil-golan-heights-israel/
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ข่าวบันเทิง... เพนตากอนกำลังแพร่เชื้อไวรัส North Korea Phobia: สหรัฐฯเริ่มปอด กลัวคิมน้อยนู๊กอเมริกา

    [​IMG]

    -------------
    มาแล้วครับเชื้อไวรัสสายพัน North Korea Phobia นึกว่าจะมีแต่ Russophobia กับ Sinophobia อย่างที่เคยเล่าให้ฟังวันก่อน เล่นเอาแฟนเพจตกอกตกใจไปตามๆกัน ฮ่าๆๆ ดูเหมือนว่าสหรัฐฯกำลังพยายามแพร่เชื้อไวรัสชนิดนี้แล้วนะ สงสัยเพนตากอนจะติดเชื้อไวรัส North Korea Phobia เองซะหละมั๊ง วันที่ 9 ต.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "เพนตากอน: คิม จอง-อึน มีศักยภาพในการยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ใส่สหรัฐฯได้ แต่ว่าทางกรุงวอชิงตัน ดีซี ก็พร้อมสำหรับเขา" (Pentagon: Kim Jong Un Has Capability of Nuking US, But DC's 'Ready for Him') (นั่นไง... คิมน้อยบอกตั้งหลายครั้งแล้วว่ามีนิวเคลียร์จริงๆ นะ หลายคนพากันหัวเราะ มองว่าเป็นเรื่องตลก แต่เกาหลีใต้ที่เพื่อนบ้านของคิมน้อยไม่ตลกด้วย)
    เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเพนตาก้อนกล่าวว่า กรุงวอชิงตันเชื่อว่าเกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์ที่มีศักยภาพยิงไปถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯได้ และกำลังเตรียมการเพื่อป้องกันการโจมตีดังกล่าว
    อ่ะนี่ไม่ได้พูดเล่นหรืออ้างแหล่งข่าวผีบอกอย่าง CNN ของสหรัฐฯนะครับ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า Admiral Bill Gortney ผู้บัญชาการกองบัญชาการภาคเหนือ (Northern Command) และกองบัญชากรป้องกันภัยการบินอวกาศอเมริกาเหนือ (North American Aerospace Defense Command) ของสหรัฐฯกล่าวว่าเขาเห็นด้วยกับการประเมินด้านข่าวกรองของสหรัฐฯที่ว่า เกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์ รวมทั้งความสามารถในการย่อส่วนและติดตั้งในจรวดซึ่งอาจจะยิงไปถึงสหรัฐฯได้
    นายพล Gortney กล่าวว่า "พวกเราประเมินแล้วว่าพวกเขามีศักยภาพที่จะมาถึงแผ่นดินแม่ ด้วยอาวุธนิวเคลียร์จากจรวด" นายพล Gortney กล่าวต่ออีกว่า พฤติกรรมที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ของคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ บีบให้สหรัฐฯต้องเตรียมพร้อมสำหรับทุกอย่าง
    Gortney กล่าวว่า "พวกเราพร้อมสำหรับเขาแล้ว และพวกเราก็พร้อมตลอด 24 ชั่วโมงในหนึ่งวัน ถ้าเขากล้าพอที่จะยิงบางอย่างมาใส่เรา" (ฮ่าๆๆ... ดูครับดู... เป็นเอามากจริงๆนะนี่ นายพลใหญ่ของสหรัฐฯติดเชื้อไวรัส North Korea Phobia เข้าไปเต็ม เคยเห็นสุนัขที่มันเห่าไหมครับ ถ้าเราตกใจวิ่งหนี มันก็จะไล่ตาม แต่ถ้าเราหยุดอยู่นิ่งๆแล้ววิ่งเข้าใส่มัน มันก็จะตกใจวิ่งเข้าไปเห่าเราอยู่ในบ้านตัวเอง หรือวิ่งไหนไปเห่าอยู่ที่อื่นแทน)
    นายพล Gortney กล่าวว่า "ผมมั่นใจทีเดียวว่า พวกเราจะสอย (ขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ) ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งกำลังจะยิงออกมา" (เอา… เอาเข้าไป ตกลงว่าใครมันก้าวร้าวบ้าสงครามกันแน่นี่ สมัยก่อนที่ไปรุกรานอิรัค พวกนี้ก็พูดแบบนี้แหละ คิมน้อยเขาก็อยู่ของเขาดีๆ ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับอเมริกาเลย แต่คุณเธอก็ชั่งขยันเที่ยวกล่าวหาระรานชาวบ้านตามส.ด.อันธพาลของตัวเองไม่ลดละจริงๆ)
    เมื่อเดือนที่ผ่านมา องค์การอวกาศของเกาหลีเหนือกล่าวว่า เกาหลีเหนือกำลังสร้างดาวเทียมดางใหม่ และพร้อมที่จะปล่อยขึ้นสู่อวกาศแล้ว เครื่องปล่อยจรวจทุกชนิดเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอวกาศที่มีความชอบธรรม โดยมุ่งไปที่การปล่อยจรวดเข้าสู่วงโคจร
    เกาหลีเหนือได้เยาะเย้ยตะวันตกโดยการกล่าวอวดอ้างถึงศักยภาพทางด้านนิวเคลียร์ของประเทศตนเอง เกาหลีเหนือยังได้ทำการทดลองขีปนาวุธซึ่งเป็นการท้าทายคำเตือนและการแซงชั่นของนานาชาติ การทดลองเหล่านั้นได้รับการตอบรับด้วยคำมั่นสัญญาแบบคุ้มดีคุ้มร้ายในการที่จะยุติการทำการทดลองเพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ หรือการสัมปทานทางการทูต
    เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายพล Gortney กล่าวว่าเพนตากอนกำลังหาทางพัฒนาระบบป้องกันภัยจากขีปนาวุธให้ทันสมัย แต่เงินทุนต่างๆที่จะใช้ในการลงทุนอาจจะได้รับอันตรายจากการตัดลดงบประมาณจากรัฐสภา
    ก็แค่นั้น มุกเดิมกับบางประเทศในยุโรปที่บอกว่าพบเรือดำน้ำของรัสเซียอยู่ในน่านน้ำของตัวเอง เล่นประโคมข่าวซะใหญ่โตตกอกตกใจทั่วโลก สื่อฯต่างๆที่เป็นกระบอกเสียงของสหรัฐฯและตะวันตกก็พากันออกมาด่าประนามรัสเซียว่าก้าวร้าย ชอบรุกราน ระรานเพื่อนบ้าน แต่หลังจากที่กลาโหมของประเทศนั้นอนุมัติงบประมาณให้แล้ว ก็ออกมายอมรับว่าแท้ที่จริงที่บอกว่าวัตถุลึกลับที่คาดว่าจะเป็นเรือดำน้ำของรัสเซียนั้น จริงๆแล้วเป็นเรือพาณิชย์ของเพื่อบ้านเอง เป็นเรือลากจูงในตอนโพล้เพล้ย่ำค่ำ ไม่ใช่เรือดำน้ำของรัสเซียอย่างที่เล่นข่าวไปก่อนหน้านี้หรอก ขอบคุณนะรัสเซียที่ช่วยให้กลาโหมของประเทศนั้นได้รับงบประมาณก้อนใหม่ ถ้าไม่มีรัสเซียรับบทเป็นผู้ร้ายแม้จะไม่เต็มใจ งบประมาณก้อนนั้นก็คงจะไม่ผ่านแน่ๆ งานนี้เพนตาก้อนก็หยิบมุกนี้ขึ้นมาหากินอีกแล้วครับท่าน
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    09/10/2558

    ภาพจาก © REUTERS/ KCNA

    ----------
    Pentagon: Kim Jong Un Has Capability of Nuking US, But DC's 'Ready for Him'
    De-Escalation of Tensions Key to Solving North Korea’s Nuclear Problem
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สงครามผิดพลาด! ศัตรูผิดตัว! …ถึงเวลาต้องให้รัสเซียนำในการต่อสู้กับไอซิซ โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ต.ค. 9, 2015

    [​IMG]

    (ภาพ) ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งที่ 70 ของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่สำนักงานใหญ่ U.N. ในนิวยอร์ค เมื่อ 28 กันยายน 2015© Carlo Allegri / Reuters
    เขียนโดย แคเธอรีน ชัคดัม
    Source : www.rt.com

    เกิดอะไรขึ้นเมื่อพันธมิตรที่คุณถือว่าใกล้ชิดที่สุดของคุณกลับกลายเป็นคนที่กำลังจะฆ่าคุณให้ตาย? ที่แย่กว่านั้น จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าความจริงที่คุณถือว่าจริงแท้แน่นอนกลับไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าใยแห่งความโกหกที่เหล่านักการเมืองถักทอออกมาขายให้คุณเกี่ยวกับสงครามของพวกเขา?

    เรากำลังอยู่ในยุคที่แปลกจริงๆ เป็นยุคสมัยที่นักการเมืองและรัฐบาลสามารถให้เหตุผลโต้แย้งเพื่อสนับสนุนกลุ่มหัวรุนแรงได้ในนามของความมั่นคงแห่งชาติและประชาธิปไตย และขณะที่พวกคุณหลายคนอาจเลือกที่จะส่ายหน้าด้วยความไม่เชื่อ และยังโต้แย้งว่าโลกตะวันตกมีประวัติศาสตร์อยู่ในฝ่ายที่ถูกต้อง มีประวัติอยู่ในฝ่ายที่เจริญแล้ว แต่ขอให้ฉันได้เตือนความจำคุณเกี่ยวกับหมู่มิตรที่บรรดาผู้นำประเทศของพวกคุณคบหาสมาคม, ปกป้อง และสนับสนุนอยู่เรื่อยไป

    ถ้าหากว่าเครื่องจักรทางสงครามสื่อของสหรัฐฯ เจตนาที่จะวาดภาพว่าการที่มอสโกเข้าไปจัดการกับไอซิซ กลุ่มหัวรุนแรงที่ถูกกระตุ้นด้วยแนวคิดวะฮาบีในซีเรีย ว่าเป็นการโจมตีต่อสิทธิ์ที่จะตัดสินใจทางการเมืองด้วยตัวเองของชาวซีเรีย ฉันก็ขอพูดอะไรบางอย่างให้ชัดเจน : การละเมิดสิทธิ์ของชาวซีเรียที่เคยเกิดขึ้นนั้นล้วนมีมาจากเส้นทางที่มีความเชื่อมต่อกับทำเนียบขาวเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะวอชิงตันและพันธมิตรในการต่อต้านการก่อการร้าย ดินแดนลิแวนท์ก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อของฝูงฆาตกรไอซิซพวกนี้

    จริงๆ แล้ว ไอซิซก็จะไม่เกิดมีขึ้นมาตั้งแต่แรก ถ้าไม่ใช่เพราะวอชิงตันมีความปรารถนาต่อน้ำมันและก๊าซในตะวันออกกลาง!

    กลุ่มผู้แจ้งเบาะแส, เจ้าหน้าที่ข่าวกรอง และนักข่าวสายสืบสวน จะต้องตะโกนบอกอีกกี่ครั้งถึงความหลอกลวง เพื่อให้ประชาชนชาวตะวันตกเข้าใจว่า กลุ่มคนบ้าคลั่งที่เขาบอกว่ามุ่งมั่นจะทำลายเสรีภาพของพวกเขานั้น ถูกออกแบบและสร้างขึ้นมาโดยรัฐบาลปีกขวาผู้คิดว่าตัวเองถูกต้องอยู่เสมอ ที่พวกเขาชื่นชอบกันเหลือเกินนั่นเอง?

    เราอย่าลืมพันธมิตรที่มีค่าที่สุดของอเมริกาในภูมิภาคนี้ นั่นก็คือ ซาอุดิอารเบีย มหาอำนาจด้านน้ำมันของโลก ภายใต้การจับตามองของเชื้อพระวงศ์วิกลจริตที่ตะวันตกรู้แล้วว่าต้องก้มหัวให้เหล่านั้น มันเป็นการเกิดขึ้นของอาณาจักรใหม่แห่งอัสซีเรียนที่พวกเราทุกคนได้เห็นเป็นประจักษ์ และยังไม่ได้ทำอะไรกับมันเลย

    สงครามที่ตะวันตกกำลังต่อสู้อยู่นั้น เป็นการต่อสู้กับศัตรูผิดตัว

    เมื่อนักข่าวสายสืบสวนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและดีที่สุดคนหนึ่งของอเมริกา ซีมัวร์ เอ็ม. เฮิร์ช ได้เปิดเผยเมื่อปี 2014 ถึงการโกหกของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัก โอบาม่า ในลิเบีย และการทำงานร่วมกันของตุรกีกับกลุ่มอัล-นุสรอ ในซีเรีย สื่อตะวันตกได้ทำอะไรบ้าง? พวกเขาได้เรียกร้องให้วอชิงตันตัดสัมพันธ์ทั้งหมดกับอังการ่า พันธมิตรชาติหนึ่งของนาโต้หรือไม่? พวกนักการเมืองได้ลุกขึ้นเรียกร้องการรับผิดชอบหรือไม่? ไม่ และก็ไม่ สิ่งที่อเมริกาและชาติตะวันตกทำก็คือ การพูดให้ร้ายเฮิร์ชที่กล้าเปิดเผยความจริง

    จากการเปิดเผยทางวิกิลีกส์ของจูเลี่ยน อัสซานจ์ ไปจนถึงการที่เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดนค้นพบความลับด้านการเฝ้าระวังของอเมริกา องค์กรสื่อก็พากันทำสงครามกับความจริง ด้วยการขายนิยายแฟนตาซีเกี่ยวกับประชาธิปไตยสำเร็จรูปให้แก่สาธารณชนตะวันตกที่เงียบสงบ

    แต่จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อแม้แต่การโกหกคำโตที่สุดก็ไม่สามารถอุดปากความจริงได้อีกต่อไป? จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อชาติตะวันตกทั้งหลายถูกจับได้คาหนังคาเขาว่าเป็นตัวช่วยในการก่อการร้าย?

    ที่จริงแล้ว ชาติตะวันตกและ “พันธมิตร” ของพวกเขาถลำลึกลงไปในเนื้อในของการก่อการร้ายจนแม้กระทั่งประธานาธิบดีโอบาม่าผู้ลื่นไหลก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้มากไปกว่าส่งเสียงครางคัดค้านการตัดสินใจโจมตีไอซิซในซีเรียของรัสเซีย วอชิงตันจะว่าอะไรอย่างก้าวร้าวได้ต่อการตัดสินใจของประธานาธิบดีปูตินที่จะทำลายการก่อการร้าย?

    อย่างไรก็ดี นั่นไม่ใช่สิ่งที่สหรัฐฯ ประกาศหรอกหรือว่ากำลังทำอยู่ในตะวันออกกลางตลอดทศวรรษที่ผ่านมา? เหตุผลทั้งหมดเบื้องหลังการเข้าแทรกแซงทางทหารของอเมริกาไม่ใช่เพื่อกำจัดการก่อการร้ายและให้เปลวไฟแห่งเสรีภาพส่องแสงสดใสหรอกหรือ? แต่ถึงกระนั้น พันธมิตรนาโต้ก็ยังคงผูกพันตัวเองอยู่กับมหาอำนาจเหล่านั้นที่ต่อต้านประชาธิปไตย, มีอุดมการณ์ที่สุดโต่งและทุจริต ราวกับว่าตะวันตกยินดีอย่างยิ่งที่จะให้ลัทธิฟาสซิสม์มีชีวิตอยู่
    ตั้งแต่การสนับสนุนการทำรัฐประหารของกลุ่มฟาสซิสต์ในเคียฟ ซึ่งนิวยอร์คไทม์อธิบายเมื่อต้นปี 2014 ว่า “เป็นเสมือนดอกไม้แห่งประชาธิปไตยอีกดอกหนึ่ง” ไปจนถึงการสมรู้ร่วมคิดของตุรกีกับกลุ่มนักรบก่อการร้ายที่ชื่เสียง และปฏิบัติการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธ์ในเยเมนของซาอุดิอารเบีย แต่ชาติตะวันตกทั้งหลายก็ยังคงเก็บความชั่วช้าที่สุดของพวกเขาเหล่านั้นไว้ใกล้หัวใจและกระเป๋าของตนอยู่

    คุณว่าเป็นการกล่าวร้ายอย่างนั้นหรือ? ถ้าเช่นนั้น เรามาดูข้อเท็จจริงที่น่าสนใจบางอย่างกัน

    เมื่อเดือนกรกฎาคม 2015 ฮัฟฟิงตันโพสต์ ได้ตีพิมพ์บทความชิ้นหนึ่งของ Associated Press ที่มีเนื้อหาว่า “โดยไม่ใยดีกับความกังวลของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือกลุ่มหัวรุนแรง ตุรกีและซาอุดิอารเบียตกลงกันที่จะใช้ยุทธศาสตร์ใหม่ในการโค่นล้มประธานาธิบดีบะชัร อัสซาด”

    สองพันธมิตรที่ซื่อสัตย์ที่สุดของอเมริกาในตะวันออกกลางได้ออกมายอมรับอย่างเปิดเผยว่าให้การช่วยเหลือและสนับสนุนนักรบก่อการร้ายเพื่อประโยชน์ทางการเมือง

    ถอดความหมายได้ว่า : รัฐบาลเทวาธิปไตยที่รุนแรงที่สุดในโลกกับเพื่อนของมันที่เป็นฟาสซิสต์มากขึ้นทุกทีในอังการ่ากำลังเล่นเกม ‘ให้อาวุธนักรบไอซิซกันเถอะ’ และเราน่าจะเชื่อว่ารัสเซียกับอิหร่าน ที่ยับยั้งขัดขวางการก่อการร้ายอย่างแข็งขันทั้งคู่ เป็นอันตรายที่แท้จริง?

    เราถูกคาดหวังจริงๆ หรือว่าจะต้องซื้อการโฆษณาชวนเชื่อของวอชิงตัน เมื่อ “เพื่อน” ของมันกำลังเชือดเฉือนและบั่นทอนประชาธิปไตยในบ้านให้เข้ากับร่องเสียงของระบอบเอกาธิปไตย(เผด็จการ)? เมื่อแม้แต่เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ยังปล่อยหน้ากากให้เลื่อนลงเล็กน้อย ด้วยการยอมรับว่าจริงๆ แล้วทำเนียบขาวก็มีการติดต่อสัมพันธ์ที่น่ารังเกียจ แม้จะไม่ใช่นโยบาย ยังไม่ถึงเวลาอีกหรือที่จะกลับมาวางแผนกันใหม่และทบทวนความสัมพันธ์กันอีกที?

    วุฒิสมาชิก ดิ๊ก แบล๊ก จากรัฐเวอร์จิเนีย บอกกับ RT เมื่อเดือนกันยายนนี้ว่า “ถ้าสหรัฐฯ หยุดฝึกซ้อมนักรบญีฮาดและหยุดให้อาวุธแก่นักรบญีฮาด สงครามก็จะจบ”

    แต่เมื่อมหาอำนาจตะวันตกยังคงยุ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์อันตรายเหล่านั้นอยู่ ก็มีบางอย่างที่จะต้องขบคิด จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อพันธมิตรที่คุณเรียกว่าเพื่อนและถูกใช้เพื่อเข้าถึงทางภูมิประเทศและทางการเมืองของพวกเขา เติบโตเร็วกว่าคุณ?

    https://youtu.be/nXe4gy_ABf8

    ต้องคิดให้เร็ว เพราะนี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจริงในซาอุดิอารเบีย สัปดาห์นี้เองที่ราชอาณาจักรแห่งนี้กดดันให้เนเธอร์แลนด์และประเทศอื่นๆ ในยุโรป ในจำนวนนั้นมีฝรั่งเศสซึ่งเป็นสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ล้มเลิกการเรียกร้องให้ทำการสอบสวนอย่างเต็มรูปแบบเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเยเมน

    “ด้วยการล้มเหลวในจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนอย่างจริงของยูเอ็นเกี่ยวกับเยเมนที่เสียหายจากสงคราม คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนได้สูญเสียโอกาสในการที่จะยังยั้งการล่วงละเมิดต่อไป” ฟิลิลปเป แดม รองผู้อำนวยการเจนีวาของยูเอ็น กล่าวในแถลงการณ์

    ด้วยอำนาจจากเงินและความมั่นใจทางการเมืองที่เพิ่งพบใหม่ ซาอุดิอารเบียไม่เพียงแค่ปิดปากทั้งยูเอ็นและมหาอำนาจตะวันตกได้เท่านั้น แต่ยังข่มให้ปฏิบัติตามได้ด้วย

    เมื่อพิจารณาสิ่งต่างๆ ทั้งหมดแล้ว เราสามารถสนับสนุนรัสเซียและทำลายการก่อการร้ายได้แล้วหรือยัง?


    —-
    By : Catherine Shakdam

    เกี่ยวกับผู้เขียน : แคเทอรีน ชัคดัม เป็นนักวิเคราะห์การเมือง, นักเขียน และนักวิจารณ์เกี่ยวกับตะวันออกกลาง โดยเน้นเป็นพิเศษในเรื่องขบวนการหัวรุนแรงและเยเมน ผลงานของเธอตีพิมพ์เผยแพร่ในสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีชื่อเสียงของโลก เช่น Foreign Policy Journal, Mintpress News, The Guardian, Your Middle East, Middle East Monitor, Middle East Eye, Open Democracy, Eurasia Review และอีกมากมาย เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางสถานี RT ยังเขียนบทวิเคราะห์ให้กับ Etejah TV, สถานีวิทยุ IRIB, Press TV และ NewsMax TV เป็นผู้อำนวยการโครงการต่างๆ ของสถาบัน Shafaqna เพื่อการศึกษาตะวันออกกลาง และเป็นที่ปรึกษาให้กับ Anderson Consulting งานวิจัยและผลงานเกี่ยวกับเยเมนของเธอถูกนำไปใช้โดยคณะมนตรีความมั่นคงสห ประชาชนในเรื่องที่เกี่ยวกับเยเมนถูกปล้นกองทุนในปี 2015


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    สงครามผิดพลาด! ศัตรูผิดตัว! …ถึงเวลาต้องให้รัสเซียนำในการต่อสู้กับไอซิซ | abnewstoday
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2015
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นาโต้ประกาศความพร้อมที่จะส่งกองกำลังเข้าตุรกีเพื่อป้องกันชายแดน
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ต.ค. 8, 2015

    [​IMG]

    (แฟ้มภาพ ทหารของนาโต้)
    presstv – เลขาธิการนาโต้ประกาศความพร้อมที่จะส่งทหารไปยังตุรกีเพื่อป้องกันภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้นตามชายแดนทางตอนใต้ของตุรกี

    Jens Stoltenberg กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ (พฤหัส ที่ 8 ต.ค.) ก่อนการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการป้องกันของประเทศสมาชิกสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ในกรุงบรัสเซลส์ ว่า นาโต้พร้อมและมีศักยภาพความสามารถที่จะปกป้องพันธมิตรทั้งหมด (ของตัวเอง ) รวมทั้งตุรกี จากภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้น

    การออกมาพูดดังกล่าว มีขึ้นหลังจากที่ล่าสุด ตุรกีมีการกล่าวหารัสเซีย ว่า ได้ละเมิดน่านฟ้าของตุรกี ในการปฏิบัติการโจมตีกลุ่มไอซิสในซีเรีย พร้อมกับออกมาเตือนรัสเซียให้หยุดการเคลื่อนไหวในลักษณะเช่นนี้

    เลขาธิการนาโต้ ถือว่า การโจมตีทางอากาศและขีปนาวุธของรัสเซีย นั้น “ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดเป็นที่สิ่งน่ากังวลอย่างอย่างมาก” และกล่าวเสริมว่า ก่อนหน้านี้ นาโต้ ได้แสดงปฏิกิริยาความพร้อมในด้านกองกำลัง ความสามารถทุกรูปแบบในการส่งกองกำลังไปประจำการ รวมทั้งในชายแดนทางตอนใต้ของตุรกี

    ตามรายงานที่มีการนำเสนอนั้น ในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการป้องกันของประเทศสมาชิกสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (องค์การนาโต) ในกรุงบรัสเซลส์ จะมีการหารือในศักยภาพทางทหารของรัสเซียที่มีต่อเหตุความขัดแย้งในซีเรีย

    รัสเซียได้เริ่มปฏิบัติการโจมตีกลุ่มก่อการร้ายทางอากาศ โดยเฉพาะฐานที่มั่นของกลุ่มไอซิส เมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา ตามการเรียกร้องของซีเรีย

    ขณะเดียวกันการปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย ในซีเรียนั้น ได้สร้างความกังวลและหวาดวิตกให้กับอเมริกา และบางประเทศในตะวันตกและพันธมิตรของพวกเขาในระดับภูมิภาค รวมทั้งตุรกีซึ่งหวังที่จะโค่นล้ม บาชาร์ อัลอัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย ด้วยการสนับสนุนกลุ่มนักรบต่างๆที่ต่อต้านรัฐบาลซีเรีย

    อเมริกาและพันธมิตร ต่างเรียกชื่อ กลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ ที่ส่วนใหญ่เป็นนักรบจากต่างชาตินั้น ว่า “เป็นกลุ่มสายกลาง” พร้อมกับอ้างว่า รัสเซียโจมตีทางอากาศโดยมุ่งเป้าโจมตีกลุ่มก่อการร้ายสายกลาง ขณะที่มอสโก ระบุว่าเป็นการโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ รวมทั้งกลุ่มไอซิส

    นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองกำลังรัสเซียจัดการถล่มแล้วกว่า 112 เป้าหมาย

    อย่างไรก็ตาม นายปูตินบอกว่ายังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงผลลัพธ์ปฏิบัติการของรัสเซียในซีเรีย และสั่งการให้นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหม เดินหน้าประสานงานกับ อิหร่านและอิรักในประเด็นซีเรีย

นายพลรายหนึ่งของมอสโก ตำหนิว่า การที่วอชิงตันปฏิเสธแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับพวกเขาเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งต่างๆของพวกนักรบไอซิส แสดงให้เห็นว่าอเมริกากำลังหาข้ออ้างสำหรับไม่ต่อสู้กับก่อการร้าย


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    นาโต้ประกาศความพร้อมที่จะส่งกองกำลังเข้าตุรกีเพื่อป้องกันชายแดน | abnewstoday
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    อียูเริ่มเอียงรัสเซีย โดดเดียวสหรัฐฯ... ฝรั่งเศสแฉกันเอง "ฝรั่งเศสปกป้องเครือข่าวกลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้า ควรจะสนับสนุนรัสเซียแทน", ประธานคณะกรรมาธิการอียูเรียกร้องให้มีการปรับปรุงความสัมพันธ์กับรัสเซีย สหรัฐฯไม่สามารถออกคำสั่งได้ ฮ่าๆๆ

    [​IMG]

    -------------
    1.) วันที่ 9 ต.ค.58 สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "France Protects al-Qaeda Affiliates, Should Help Russia Instead" Oopz!… เป็นงั้นไป ที่แท้หนึ่งในสปอนเซอร์รายใหญ่ของกลุ่มก่อการร้ายก็คือฝรั่งเศสนี่เอง
    Marine Le Pen หัวหน้าพรรค National Front ของฝรั่งเศสกล่าวว่า "แทนที่จะให้ความช่วยเหลือรัสเซียจัดการกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในซีเรีย ฝรั่งเศสกลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม - ให้ความช่วยเหลือกลุ่มก่อการร้ายที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอัลเคด้าซะงั้น" Sputnik news รายงานโดยอ้างข้อความจากทวีตเตอร์ของ Marine Le Pen (ชัดไหมครับท่าน?)
    Marine Le Pen ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลฝรั่งเศสโดยกล่าวว่า ฝรั่งเศสเลือกข้างนโยบายเหยียบเรือสองแคม (duplicitous) เราไม่สามารถที่จะเชื่อถือนโยบายต่างๆของกรุงวอชิงตันได้อีกต่อไป
    นักการเมืองฝรั่งเศสกล่าวว่า ในขณะที่รัสเซียกำลังต่อสู้กับพวกไอซิส พยายามแก้ไขวิกฤตปัญหาในซีเรีย ฝรั่งเศสกำลัง "ปกป้อง" พวกนักรบ al-Nusra ที่เป็นเครือข่่ายของขบวนการก่อการร้าย al-Qaeda ในซีเซีย แทนที่จะทำงานที่ไม่มีความหมายนี้ ฝรั่งเศสควรจะต่อสู้กับพวกไอซิสเคียงข้างรัสเซียในตะวันออกกลาง
    รายงานข่าวบอกว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมากองทัพอากาศของรัสเซียได้โจมตีทางอากาศใส่ตำแหน่งต่างๆของไอซิสถึง 140 ครั้ง ได้ทำลายศูนย์บัญชาการ ค่ายฝึกทหาร และคลังอาวุธของกลุ่มก่อการร้ายเป็นจำนวนมาก เรือรบของรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธนำวิถีจากทะเลแคสเปียนจำนวน 26 ลูกเข้าใส่เป้าหมายได้อย่างแม่นยำได้ทุกลูกเมื่อวันพุธที่ผ่านมาด้วย (ข้อมูลนี้ยืนยันโดยกลาโหมของรัสเซีย) แต่ CNN ของสหรัฐฯอ้างแหล่งข่าวผีบอกว่ามีขีปนาวุธของรัสเซีย 4 ลูกไปตกในอิหร่าน แต่ทางการของอิหร่านออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวว่าไม่มีเหตุการณ์เช่นนั้น ไม่มีหลักฐานใดๆยืนยันรายงานข่าวจากแหล่งข่าวผีบอกของ CNN เลย เล่นเอาทั้ง CNN และรัฐบาลสหรัฐฯหน้าแตกเย็บไม่ติดไปแล้ว
    2.) มาดูอีกข่าวหนึ่งเกี่ยวกับท่าทีของอียูบ้างนะครับ วันเดียวกันนี้สำนักข่าว RT news พาดหัวข่าวว่า "จุดเปลี่ยนหรือเปล่า? ประธานคณะกรรมาธิการใหญ่ของอียูกล่าวว่า จะต้องมีการปรับปรุงความสัมพันธ์กับรัสเซีย สหรัฐฯไม่สามารถมาออกคำสั่งกำหนดได้" (Turning point? EU Commission head says relations with Russian ‘must be improved,’ US ‘can’t dictate’) (ฮิ้ววววว! เป็นไงเล่า งานนี้อียูเตะโด่งก้นก้นดำๆของนายโอบาม่าออกจากยุโรปเห็นๆ นายแน่มาก Mr. Juncker แห่งบรัสเซลส์)
    รายงานข่าวบอกว่า นาย Jean-Claude Juncker ประธานคณะกรรมาธิการใหญ่ของอียู (European Commission President) ได้สร้างความแปลกใจให้กับผู้ฟังเป็นอย่างมากในการกล่าวสุนทรพจน์ในประเทศเยอรมันนีว่า ยุโรปจะต้องปฏิบัติต่อรัสเซียด้วยความเหมาะสมมากขึ้น พัฒนาปรับปรุงความสัมพันธ์ และไม่ปล่อยให้นโยบายต่างๆของอียูถูกกำหนด (dictated) โดยกรุงวอชิงตัน (อีกต่อไป?) (เอ่อ… ดูเหมือนว่าตอนนี้สหรัฐฯกำลังจะกลายเป็นอะไรซักอย่างที่เขาเรียกว่า.... หัวเน่านี่แหละนะ คริๆ เห็บหมัดเริ่มพากันกระโดนหนีหมดแล้วครับท่าน)
    ปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่อียูจะต้องหันมาทำงานสร้างความสัมพันธ์ร่วมกับรัสเซีย นาย Juncker กล่าวที่เมือง Passau ทางตอนใต้ของเยอรมันว่า: "พวกเราจะต้องสร้างความพยายามเดินหน้าสู่ความสัมพันธ์ที่เป็นรูปธรรมกับรัสเซีย มันไม่ได้เซ็กซี่ แต่จะต้องเป็นกรณี (ที่จะต้องทำ) พวกเราไม่สามารถที่จะเดินหน้าทำแบบนี้ได้อีกต่อไปแล้วนะ"
    นี่แสดงให้เห็นว่าอียูอึดอัดมานานมาก ที่ถูกสหรัฐฯจักรวรรดิเฮเกโมนี่ให้อำนาจบาตรใหญ่กดขี่ข่มเหงอียูตามอำเภอใจโดยรวมหัวกันกับพวกนักการเมืองในอียูนั่นเอง พอรัสเซียและจีนผงาดขั้นมางัดข้อกับสหรัฐฯแบบไว้หน้าอีกต่อไป ก็ทำให้อียูมีความรู้สึกว่าเริ่มจะมีแสงสว่างส่องลอดเมฆหมอกที่กำลังอึมคลึมในอียูบ้างแล้ว ที่เหลือก็คือปลุกกระให้ประชาชนชาวยุโรปตื่นรู้ รับรู้ความจริงว่าจริงๆแล้วรัสเซียไม่ได้เป็นผู้ร้ายอย่างที่ปรากฎในหนังฮอลลิวูดที่เขียนบทโดยสหรัฐฯเลย ชาวยุโรปจะต้องหันมาร่วมมือกับรัสเซีย หากต้องการที่จะรอดพ้นจากวิกฤตต่างๆ
    Juncker กล่าวเพิ่มว่า "ยิ่งกว่านั้น สหรัฐนำเอาอิทธิพลของตัวเองออกจากความสัมพันธ์กับอียูและประเทศอื่นๆออกไปซะ" (...the US needs to keep its influence out of EU relations with other countries) (ว้าววว! นายกล้ามากที่กล้าเฉดหัวอเมริกาออกจากอียูอย่างเปิดเผยแบบนี้)
    Juncker กล่าวว่า "รัสเซียจะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเหมาะสม... พวกเราไม่สามารถที่จะปล่อยให้ความสัมพันธ์ของพวกเรากับรัสเซียถูกกำหนด (แบบเผด็จการ) โดยกรุงวอชิงตันอีกต่อไป" (Russia must be treated decently … We can’t let our relationship with Russia be dictated by Washington.) (สังเกตว่านาย Juncker ได้ใช้คำว่า "dictated" ในที่นี้ด้วย ซึ่งมีรากศัทพ์เดียวกันกับคำว่า "dictatorship" ที่แปลว่า "เผด็จการ" นั่นแหละ มันหมายความว่าอย่างไรครับ? ในสายตาของนักการเมืองยุโรปเขามองว่า สหรัฐฯนั่นแหละคือ dictatorship ตัวพ่อเลย เพราะอ้างประชาธิปไตยแล้วมีสิทธิ์ที่จะทำได้ทุกอย่าง จะรุกรานประเทศไหนก็ได้แม้จะไม่ได้รับอนุมัติจากเจ้าของประเทศหรือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติก็ตาม จะบอมบ์โรงพยบาลนานถึง 30 นาทีก็ได้ ไม่มีใครกล้าตำหนิอเมริกาเลย)
    3.) คราวนี้มาฟังสื่อฯของฝรั่งเศสบ้างนะครับว่าเขามีความคิดเห็นเช่นไรเกี่ยวกับพฤติกรรมอันธพาลของสหรัฐฯ วันที่ 9 ต.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "สหรัฐฯสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายไอซิส เพื่อรักษาผลประโยชน์ของกรุงวอชิงตันเอง" (US Supports Islamic Militants When it Serves Washington's Interests)
    Sputnik เอาข่าวนี้มาจากหนังสือพิมพ์ Boulevard Voltaire ของฝรั่งเศสซึ่งรายงานว่าว "ไม่เหมือนกับสหรัฐฯที่พยายามเผด็จการ (dictate) นโยบายต่างๆของตนเอง และครอบครองโลก รัสเซีไม่ได้ต้องการที่ผลักดันโลกทัศน์ของตนเองไปยังประเทศอื่นเลย นั่นคือเหตุผลที่ว่านโยบายต่างๆของรัสเซียในซีเรีย เป็นวิถีทางที่สมเหตุผลสมผลและคงเส้นคงวากว่าความปรารถนาของกรุงวอชิงตันที่จะรักษาความทะเยอทะยานแบบจักรวรรดินิยมของตนเองเอาไว้" (อย่าคิดว่าชาติอื่นๆเขาจะไม่รู้ทันแผนยุดครองโลกแต่เพียงผู้เดียวของอเมริกานะครับ แรกๆอาจจะยังไม่มีใครกล้าออกมาพูด แต่พอเห็นรัสเซียเป็นหัวขบวนงัดกับจักรวรรดิเฮเกเจ้าโลกบ้าง เสียงคัดค้านอเมริกาก็เริ่มจะดังขึ้นเรื่อยๆแล้ว ตอนนี้ทางยุโรปเริ่มต่อต้านการค้าแบบ TTIP ของสหรัฐฯมากขึ้น ส่วนเอเซียทัั้งรัสเซียและจีนก็ไม่เอาด้วยกับ TPP ที่นำโดยสหรัฐฯหวังจะดึง APEC ออกมาจากจีนและรัสเซียแล้วให้ตัวเองเป็นหัวขบวนแทน งานนี้ไม่ง่ายซะแล้ว ที่สำคัญดูเหมือนว่านางคลินตันก็ออกมาแสดงอาการไม่เห็นด้วยกับ TPP ภายในพรรคดิโมแครทเองซะงั้น ฮ่าๆๆ สนุกหละงานนี้)
    Christian Vanneste อดีตสมาชิกของสมัชชาแห่งชาติของฝรั่งเศสเขียนไว้ในหนังสือพิมพ์ Boulevard Voltaire ของฝรั่งเศสเขียนว่า "เมื่อมาถึงกรณีของซีเรีย รัสเซียได้ให้การสนับสนุนด้านความปลอดภัยแก่รัฐบาลของปธน.บาชาร์ อัสซาด ที่มาจากการเลือกตั้งโดยชอบธรรมเสมอ ซึ่งเป็นเครื่งรับประกันถึงเสถียรภาพในซีเรีย ในขณะเดียวกัน ตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ (ถูกจูงจมูกโดยสหรัฐฯ) และพันธมิตรเศรษฐีน้ำมันอย่างซาอุดิอาระเบีย และกาตาร์ได้ให้การสนับสนุนปัจจัยต่างๆแก่กลุ่มกบฏในซีเรีย พวกเขาทำอย่างนั้นก็เพราะว่าสหรัฐฯและพันธมิตรของพวกเขาต้องการที่จะโค่นล้มรัฐบาลของปธน.อัสซาด"
    สหรัฐฯแสวงหาแต่ผลประโยชน์ของประเทศตัวเองในซีเรียเท่านั้น และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมกรุงวอชิงตันถึงไม่ต้องการให้ al-Assad อยู่ในอำนาจ
    Vanneste กล่าวว่า "รัสเซียไม่ได้ต้องการที่จะควบคุมโลกทั้งหมด และกำหนดอุดมการณ์ให้กับประเทศอื่นๆ (อย่างที่อเมริกาอันธพาลเจ้าโลกกำลังทำอยู่ในขณะนี้) สิ่งเดียวกันนี้ไม่อาจจะพูดได้กับกรณีของสหรัฐฯ นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ [ในนโยบาลต่างประเทศของสหรัฐฯ] ตั้งแต่การล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน ฝรั่งเศสอาจจะกระทำความผิดพลาดหากเพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงนี้ สหรัฐฯจะให้การสนับสนุนทุกๆฝ่ายที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถรักษาอำนาจแบบเจ้าโลก (hegemony) ของพวกเขาเอาไว้ได้"
    Vanneste กล่าวว่า นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไม มันจึงดูเหมือนว่าเป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับกรุงวอชิงตันที่จะไม่โจมตีพวกสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มก่อการร้ายของ Osama bin Laden ที่ลาโลกไปแล้ว ก็เพราะว่าพวกเขา [สหรัฐฯและอัลเคด้า] เป็นพี่น้องกันนะสิ... (because they [the US and al-Qaeda] are brothers…)
    4.) คราวนี้ก็มาฟังเสียงของชาวอเมริกันเองบ้างนะครับ วันที่ 10 ต.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "สหรัฐฯควรจะหลีกเลี่ยงการติดอาวุธให้กับกบฏซีเรียด้วย MANPADS - อดีตเจ้าหน้าที่กลาโหมของสหรัฐฯกล่าว" (US Should Avoid Equipping Syrian Rebels With MANPADS - Ex-DoD Official)
    Lawrence Korb อดีตผู้ช่วยกลาโหมของสหรัฐฯให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Sputnik news ว่าทำเนียบขาวควรจะต่อต้านการติดอาวุธให้กับกองกำลังกบฎฝ่ายค้านของซีเรียด้วยอาวุธหนัก เช่นระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบพกพา (MANPADS) เพราะว่าพวกเขา (กบฏซีเรียและไอซิส) อาจจะใช้อาวุธเหล่านั้นมาต่อต้านกับพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯก็ได้ซึ่งรวมถึงเครื่องบินรบของรัสเซียด้วย
    Lawrence Korb กล่าวว่า "ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญก็คือการไม่ส่ง MANPADS ให้พวกเขา เพราะว่าคุณอาจจะยิงเครื่องบินของรัสเซียตกก็ได้ และไม่ใช่เฉพาะเครื่องบินของปธน.บาชาร์ อัสซาดเท่านั้น หรือบางที [MANPADS] อาจจะตกไปอยู่ในมือของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสก็ได้ ซึ่งหลังจากนั้นพวกไอซิสก็จะใช้มันมายิงเครื่องบินรบของพวกเราเอง หรือยิงเครื่องบินรบของตุรกี หรือของอังกฤษ หรือของซาอุดิอาระเบียก็ได้" (ฮ่าๆๆ.... นั่นแหละที่เขาต้องการให้มันเกิดขึ้น แล้วก็จะโทษรัสเซียได้ว่า รัสเซียเป็นฝ่ายยิงเครื่องบินของกองทัพพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯตกในซีเรีย คราวนี้ก็จะได้รุมยำรัสเซียได้อย่างเต็มที่)
    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯกล่าวว่ากรุงวอชิงติันจะเดินหน้าติดอาวุธให้กับกลุ่มกบฎฝ่ายค้านซีเรียต่อไป แต่จะไม่สนับสนุนอาวุธหนักให้พวกเขาซึ่งรวมทั้ง MANPADS ด้วย (แต่สหรัฐฯไม่รับระกันว่าหากสหรัฐฯไม่ส่ง MANPADS ให้กับพวกกลุ่มกบฏแล้ว พันธมิตรของสหรัฐฯอย่างฝรั่งเศส อังกฤษ ซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ ยูเออี หรือแม้กระทั่งอิสราเอลจะสนับสนุน MANPADS ให้กลุ่มกบฏเหล่านั้นหรือไม่? ตั้งแต่เกิดสงครามกลางเมืองในซีเรียในปี 2011 เป็นต้นมาเครื่องบินรบของซีเรียถูกพวกกบฏและไอซิสยิงตกไปหลายลำแล้ว)
    5.) อีกซักข่าวนะครับเกี่ยวกับท่าทีของอียู วันที่ 9 ต.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "อียูได้ยกเลิกการแซงชั่นต่อต้านรัสเซียบางส่วนไปแล้ว" (EU Partially Lifts Anti-Russian Sanctions) รายงานข่าวจากเว็บไซต์ของ Official Journal of the European Union ของอียูได้เผยแพร่เอกสารว่า สหภาพยุโรปได้ยกเลิกแซงชั่นต่างๆที่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบของเชื้อเพลิงจรวดของรัสเซีย ที่มีความจำเป็นต่อการดำเนินงานในโครงการอวกาศของยุโรป
    แถลงการณ์ระเบียบปฏิบัติของอียูกล่าวว่า "สภาได้ยอมรับการตัดสินใจ (CFSP) ข้อที่ 2015/1767 เพื่ออนุญาติให้มีการดำเนินการบางอย่าง... สำหรับใช้ในการเปิดตัวโปรแกรมอวกาศของสหภาพ ประเทศสมาชิกขององค์อวกาศของยุโรป"
    รายงานข่าวบอกว่า ระเบียบปฏิบัติฉบับนี้ได้อนุญาตให้นำเข้า จัดซื้อ และขนส่ง Hydrazine, unsymmerical dimethyl hydrazine และ monomethyl hydrazine ได้ โดยมีผลบังคับในวันศุกร์ (นั่นก็หมายความว่าถ้าขาดรัสเซีย อียูก็เป็นอัมพฤกษ์ไปครึ่งตัวหละ อียูจะเอาโครงการอวกาศของตนเองไปพึ่งพาสหรัฐฯทั้งหมดเลยรึ? ไม่มีทาง ถ้าอย่างนั้นอียูคงไม่พยายามออกมาก่อตั้งโครงการอวกาศของตัวเองต่างหากหรอก พอขาดวัตถุดิบ สุดท้ายก็ต้องแอบยกยกเลิกแซงชั่นรัสเซียแบบเนียนๆเพื่อเปิดทางให้ตัวเองสามารถนำเข้าเชื้อเพลิงจรวดอวกาศจากรัสเซียมาใช้ได้ ก็เหมือนกับที่สหรัฐฯออกมาดูถูกและหยามรวมทั้งกล่าวหาใส่ร้ายรัสเซียอยู่ตลอดนั่นแหละ สุดท้ายนาซ่าก็หันไปใช้เครื่องยนต์จรวดอวกาศของรัสเซียซะงั้น คริๆ)
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    11/10/2558

    ภาพ France Protects al-Qaeda Affiliates, Should HelpRussia Instead จาก © AP Photo/ Claude Paris

    ----------
    France Protects al-Qaeda Affiliates, Should Help Russia Instead
    https://www.rt.com/news/318074-eu-russia-relations-improve-juncker/
    US Supports Islamic Militants When it Serves Washington's Interests
    US Should Avoid Equipping Syrian Rebels With MANPADS - Ex-DoD Official
    EU Partially Lifts Anti-Russian Sanctions
    Obama Advisors Recommend US Military Withdrawal From Syria
    West Should Seek Compromise With Putin Instead of ‘Demonizing’ Him
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ปธน.โปโรเชนโกหุ่นเชิดของอเมริกาในยูเครนบอกว่า "รัสเซียกำลังทำลายระเบียบโลกด้วยการโจมตีผู้ก่อการร้ายไอซิสในซีเรีย" (กรรม! ทำไมพักหลังนี้พวกโปรอเมริกาถึงได้มีอาการเอ๋อแบบนี้เป็นส่วนมากนะ)

    [​IMG]

    -------------
    1.) วันที่ 9 ต.ค.58 สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Poroshenko Claims Russia Destroys 'World Order' by Striking ISIL in Syria" รายงานข่าวบอกว่าตามความเห็นของผู้นำยูเครนมองว่า ปฏิบัติการของกองทัพอากาศรัสเซียในยูเครนต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายไอซิสกำลังนำไปสู่ความไรเสถียรภาพทั่วโลก (According to the Ukrainian leader, the Russian Air Force’s operation in Syria against ISIL is leading to global instability.) หนึ่งวันก่อนที่เปโตร โปโรเชนโกจะออกมากล่าวหานั้น กรุงดามัสกัสกล่าวว่า เครื่องบินรบของรัสเซียได้ทำลายอาคารที่ทำการสิ่งปลูกสร้างต่างๆของขบวนการก่อการร้ายไอซิสในซีเรียไปแล้วประมาณ 40%
    ประธานาธิบดี Petro Poroshenko ของยูเครนเชื่อว่าการบอมบ์สิ่งฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้ายไอซิสในซีเรียนั้น รัสเซียกำลังทำลาย "กฎระเบียบด้านความมั่นคงของโลก" (global security order) (สงสัยหมอนี่จะเมาช็อกโกแล็ตของตนเองมากไปอ่ะ ฮ่าๆๆ มันเกิดอะไรขึ้นกับสมองของผู้นำยูเครนในยุคนี้ครับท่าน?)
    ในการให้สัมภาษณ์ในรายการ "News Night" ของ BBC โปโรเชนโก้กล่าวว่า "วลาดิมีร์ ปูติน ต้องการที่ความไร้เสถียรภาพทั่วโลก" ด้วยการเปรียบเทียบกับปฏิบัติการของเครื่องบินรบของรัสเซียในซีเรียกับสถานการณ์ในภูมิภาค Donbass ของยูเครน ซึ่งตามคำพูดของเขาบอกว่า "เมื่อ 15 เดือนที่แล้ว มีทหารรัสเซีย" (แต่แกไม่พูดตรงๆว่าอยู่ที่ไหน) อย่างไรก็ตาม โปโรเชนโก้ก็ไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับการแสดงตัวของกองกำลังติดอาวุธของรัฐบาลกลางรัสเซียในยูเครน (จำได้ว่าหมอนี่ถือพาสปอร์ตเล่มสีแดงๆประมาณ 4-5 เล่มขึ้นไปกล่าวในสภาแล้วก็บอกว่านี่คือหลักฐานว่ามีทหารรัสเซียอยู่ในยูเครน นั่นแหละมุกของเขา แต่พิสูจน์ไม่ได้เช่นกันว่าหนังสือเดินทางที่แกโชว์นั้นเป็นของจริงหรือปลอม หรือไปขอยืมมาจากชาวยูเครนที่ถือหนังสือเดินทางทั้งของยูเครนและรัสเซียด้วย ทางสื่อฯของรัสเซียก็เอาตัวอย่างหนังสือเดินทางของทหารรัสเซียมาโชว์ให้โปโรเชนโก้ ว่านี่ถ้าของจริงต้องเป็นแบบนี้ ไม่ใช่แบบที่โปโรเชนโก้แสดงให้ดู หน้าแตกยับ! แต่ก็ไม่เข็ดซักที)
    โปโรเชนโกกล่าวว่า ปูตินมีแนวโน้มว่าจกำลังสร้างความวุ่นวายไปทั่วโลก "เพราะว่าปัญหาเศรษฐกิจและการสูญเสียการสนับสนุนในประเทศของเขาเอง" สื่อฯรัสเซียก็เลยช่วยเปิดหูเปิดตาให้กับโปโรเชนโก้ว่า แต่จากผลโพลครั้งล่าสุดบอกว่า ตัวนายโปโรเชนโกเองนั้น มีเสียงสนับสนุนเพียง 3% เท่านั้น
    เอ… ตรรกะของนายโปโรเชนโก้นี่จะทำให้ลูกพี่ของตัวเองอย่างสหรัฐฯอเมริกาและตะวันตกสะดุ้งไปด้วยหรือเปล่านะ เพราะว่าโอบาม่าบอกว่าที่ส่งเครื่องบินรบเข้าโจมตีในซีเรียโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลซเรียและ UNSC เลยก็เพื่อทำลายขบวนการก่อการร้ายไอซิส ไม่ใช่รึ? ก็เมื่อโปโรเชนโก้บอกว่าปูตินส่งเครื่องบินรบไปทำลายไอซิสเป็นการทำลายเสถียรภาพของโลก แล้วที่อเมริกาและตะวันตกทำไปนั้นจะได้บทสรุปแบบไหนเอ่ย? โอบาม่า ออลลองด์ และคาเมร่อน จะรู้ตัวหรือไม่ว่าถกโปโรเชนโก้ลูกน้องตัวเองหลอกด่าอยู่นะนั่นหละ คริๆ
    วันที่ 7 ต.ค.58 ที่ผ่านมา RT news พาดหัวข่าวว่า "เจ้าที่ของยูเครนสนับสนุนแนวความคิดให้ความช่วยเหลือผู้ก่อการร้ายไอซิสให้แก้แค้นทหารรัสเซียในซีเรีย" (Top Ukraine official backs idea 'to help ISIS take revenge on Russian soldiers in Syria’) (เอาเข้าป๊ะ!)
    มีรึที่รัสเซียจะปล่อยให้พวกนี้ออกมาพ่นน้ำลายอยู่ได้ อัยการรัสเซียได้ยื่นฟ้องนักการเมืองระดับแถวหน้าชาวยูเครนด้วยข้อหาปลุกระดม (สนับสนุน) การก่อการร้าย หลังจากที่เขาเรียกร้องให้กลุ่มก่อการร้ายไอซิสโจมตีนักบินของรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญจ์ต่อต้านไอซิสในซีเรีย
    นาย Anton Gerashchenko ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของนาย Arsen Avakov รมว.มหาดไทยของยูเครนได้แชร์ข้อความจากเฟซบุค "เพื่อน" ผู้ต้องการให้ช่วยกลุ่มก่อการร้ายไอซิสแก้แค้นกองทัพรัสเซียในซีเรีย "ตามกฎหมาย Sharia" Gerashchenko กล่าวแถไปว่า เขาได้รับข้อความจากเฟซบุคที่กล่าวว่า "Russian propaganda channels" (ไร้สาระไปเรื่อยนักการเมืองพวกนี้)
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    11/10/2558

    ภาพจาก © AFP 2015/ GENYA SAVILOV

    ----------
    Poroshenko Claims Russia Destroys 'World Order' by Striking ISIL in Syria
    https://www.rt.com/news/317849-ukrainian-russia-isis-revenge/
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    <iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/iK3RWdjywMg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


    วุฒิสมาชิกหญิงเชื้อสายอินเดียน-อเมริกา Tulsi Gabbard แห่งสภาคองเกรสของสหรัฐฯกล่าวว่า....
    1.) สื่อกระแสหลักเผยแพร่ข้อมูลผิดๆที่ว่า: รัสเซียทิ้งระเบิดใส่กองกำลังฝ่ายกบฏที่อเมริกาหนุนหลัง รัสเซียทิ้งระเบิดใส่กลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้า/อัล-นุสรา ไม่ใช่พันธมิตรของสหรัฐฯ
    2.) เครื่องบินรบของรัสเซียทิ้งระเบิดใส่กลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้า/อัล-นุสรา และกลุ่มก่อการร้ายอิสลามอื่นๆในซีเรีย McCain, Rubio, ทำเนียบขาว: ทำไมถึงมองว่าสิ่งนี้ไม่ดี?
    3.) แย่พอแล้วที่สหรัฐฯไม่ได้ทิ้งละเบิดใส่ กลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้า/อัล-นุสรา ในซีเรีย แต่เหลือเชื่อที่พวกเราพากันประท้วงการทิ้งระเบิดของรัสเซียใส่กลุ่มผู้ก่อการร้ายเหล่านั้น
    ชัดไหมครับโอบาม่า? สื่อรัสเซียรีบติดต่อขอสัมภาษณ์วุฒิสมาชิก Tulsi Gabbard ทันทีเลย ในคลิปเธอพูดเปรียบให้เห็นว่าหลังจากเกิดเหตุการ 9/11 แทนที่บุชจะไล่ล่ากลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้า แต่กลับไปโค่นล้มซัดดัม ฮุซเซน ในอิรัค และกัดดาฟี่ในลิเบีย ดูอิรัคและลิเบียตอนนี้สิ เราเห็นความวุ่นวายในประเทศเหล่านั้นที่เต็มไปด้วยผู้ก่อการร้าย ในกรณีเดียวกันนี้ปธน.บารัคโอบาม่าและฮิลลารี่ คลินตันแทนที่จะไล่ล่าพวกผู้ก่อการร้ายในซีเรีย แต่กลับไปมุ่งโค่นล้มอัสซาดแทน หากประชาชนไม่ตั้งคำถามหรือไม่ตอบคำถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่โค่นล้มปธน.อัสซาดได้แล้ว เราก็จะเห็นสิ่งที่เกิดซ้ำรอยขึ้นในซีเรียเหมือนกับที่เกิดขึ้นในอิรัคและลีเบีย ซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้าและไอซิส
    ป.ล. คลิปสัมภาษณ์ https://www.youtube.com/watch?v=iK3RWdjywMg
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    11/10/2558
    ----------
    https://www.youtube.com/watch?v=iK3RWdjywMg
    https://twitter.com/TulsiGabbard/status/649453676369567744
    https://twitter.com/TulsiGabbard/status/649457240991100928
    https://twitter.com/TulsiGabbard/status/649458891168714752
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    อิสราเอลโจมตีทางอากาศใส่ฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ส่งผลให้หญิงตั้งครรภ์เสียชีวิต พลเรือนได้รับบาดเจ็บหลายคน บ้านเรือนถูกทำลายเสียหายย่อยยับ สหรัฐฯ, ยูเอ็น, องค์กรสิทธิมนุษยชน และซาอุดิอาระเบียในฐานะประธาน UNHCR คนใหม่ว่ายังไงบ้างครับ หรือพากันประท้วงรัสเซียที่ถล่มกลุ่มก่อการร้ายในซีเรียอยู่?
    https://www.rt.com/news/318261-israel-gaza-strike-iron-dome/
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    สื่อฯเยอรมันเย้ย: สหรัฐฯต้องยอมรับความล้มเหลวยุทธศาสตร์ในซีเรีย, สื่อฯอเมริกันช่วยกระทืบซ้ำ: โอบาม่าติดแหง็กเป็นอัมพฤกษ์กรณีปฏิบัติการของรัสเซียในซีเรีย คริๆ
    -------------

    [​IMG]

    วันนี้สื่อฯต่างๆพากันรุมยำโอบาม่าและรัฐบาลสหรัฐฯแบบไม่ยั้งมือยั้งอีนเอาซะเลย วันที่ 10 ต.ค.58 สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "US Has to Admit Failure of Its Strategy in Syria – German Newspaper" หนังสือพิมพ์ Die Welt ของเยอรมันนีกล่าวว่า "รัฐบาลสหรัฐฯได้ระงับโปรแกรมฝึกให้กับนักรบกบฏในซีเรียแล้ว คราวนี้ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐฯได้เสนอแนวทางใหม่ ซึ่งก็มีคำถามตามมาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของแผนใหม่นี้เช่นกัน" อันนี้สื่อฯตะวันตกพูดนะครับ ไม่ใช่สื่อฯรัสเซียไปใส่ร้ายสหรัฐฯนะ สื่อฯรัสเซียแค่เอามาเผยแพร่ต่อเท่านั้นเอง (โปรอเมริกาทำใจหน่อยนะครับ คริๆ)
    หนังสือพิมพ์ Die Welt ของเยอรมันเขียนเอาไว้ว่า "หลังจากที่ใช้เงินไปจำนวนหลายล้านดอลล่าในโปรแกรมฝึกทหารซีเรีย (กบฏ) ซึ่งไม่ได้นำผลที่เป็นบวกมาให้เลย ปธน.บารัค โอบาม่าได้เสนอแผนใหม่เพื่อซ่อนอำพรางความล้มเหลวของสหรัฐฯ" (จริงอย่างที่สื่อฯเยอรมันพูดหรือเปล่าครับคุณโอบาม่า? น่าคิดเหมือนกันนะนี่ คริๆ... มันเป็นความเห็นต่างแบบเยอรมันอ่ะนะครับ ฮี่ๆๆ)
    สื่อฯเยอรมันวิจารณ์ว่า ประการแรกเลย นายโอมบาม่าได้ยอมรับแล้วว่าเขาไม่มียุทธศาสตร์ใดๆ (First, Obama admitted that he had no strategy.) (Oopz! แล้วจะเอากระบวนท่าไหนไปต่อกรกับปูตินได้หละนี่ ขนาดเครื่องบินรบและโดรนของอเมริกาเองก็ยังไม่กล้าบินเข้าเฉียดน่านฟ้าซีเรียที่มีเครื่องบินรบของรัสเซียอยู่เลยอ่ะ อย่าลืมนะเครื่องบินรบของตุรกีโดนสั่งสอนไปสองรอบแล้วนะ จำได้หรือเปล่าครับ?) จากนั้นเขาก็พยายามที่จะรื้อฟื้นโปรแกรมการฝึกให้กับนักรบ (กบฏ) ซีเรียอีก อย่างไรก็ตาม เมื่อโปรแกรมนี้ไม่ได้ส่งผลที่เป็นบวก (พวกพวกที่สหรัฐฯฝึกขึ้นมามันแปรพักตร์ไปร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายเกือบหมด) ประธานาธิบดีสหรัฐฯจึงจำเป็นต้องยุติโครงการนี้ และยอมรับถึงามไร้ศักยภาพของปฏิบัติการทางกองทัพของเพนตาก้อน (recognize the inefficiency of the Pentagon’s military operation) (ว้าววว! งานนี้ได้ทีสื่อฯเยอรมันซัดไม่เลี้ยงเลย เอาอีกๆๆๆ... คริๆ)
    สื่อฯเยอรมันกล่าวต่อไปอีกว่า แทนที่จะใช้เงินจำนวนหลายล้านเหรียญในการฝึกทหาร (กบฏ) ซีเรีย คราวนี้สหรัฐฯกลับตั้งใจที่จะสนับสนุนกองทัพอาหรับและกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเคิร์ดด้วยอาวุธ ยุทโธปกรณ์ และช่องทางในการติดต่อสื่อสาร รวมทั้งสนับสนุนคำแนะนำทางด้านทหารให้พวกเขาแทน (มันยังไม่หยุดเลว ยังมุ่งหน้าส่งเสริมสนับสนุนให้ประเทศเขาเกิดความแตกแยกต่อไป เคยเห็นรัฐบาลสหรัฐฯใช้การทูตแบบสันตินำหน้าการทหารแบบไม่ต้องให้เกิดความขัดแย้งในประเทศที่ตกเป็นเป้าหมายบ้างหรือไม่? พอเกิดมีความขัดแย้งในประเทศใดขึ้นมา ทำไมสหรัฐฯต้องรีบสนับสนุนอาวุธให้ประชาชนในประเทศเหล่านั้นเข่นฆ่ากันเองอยู่บ่อยๆด้วย นี่หรือคือการแสวงหาสันติวิธีแบบอเมริกา)
    อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์เยอรมันก็ได้ตั้งข้อสงสัยเอาไว้ด้วยว่า แผนใหม่นี้จะมีการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่? โดยกล่าวว่า "แนวทางใหม่นี้ดูเหมือนว่าเป็นเพียงความพยายามที่จะอำพรางความไร้ประโยชน์ (helplessness) ของรัฐบาลโอบาม่าเท่านั้น และอย่างน้อยที่สุดก็เพื่อนำเสนออะไรบางอย่างที่มองดูว่าคล้ายยุทธศาสตร์ออกมา แค่นั้นเอง" (แรงอ่ะ... ฮิ้วววว!)
    ตามรายงานข่าวของเยอรมันบอกว่า รัฐบาลสหรัฐฯพยายามที่จะนำเสนอแผนการใหม่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดโดยรวม ซึ่งได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในเงื่อนไขต่างๆ อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ดูเหมือนว่าความคิดริเริ่มนี้จะนำมาซึ่งความสำเร็จได้มากมายอะไรเลย และ (ไม่น่าจะ) นำไปสู่การแก้ไขวิกฤตปัญหาได้
    สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯไม่สามารถให้คำตอบหรือรับประกันได้ก็คือ หากสหรัฐฯและพันธมิตรสามารถโค่นล้มอัสซาด หรืออัสซาดยอมลงจากเก้าอี้แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าซีเรียจะสงบทันที? จะมั่นใจได้อย่างไรว่าพวกไอซิสจะหายไปจากซีเรีย? จะมั่นใจได้อย่างไรว่าสงครามกลางเมืองจะยุติ? จะมั่นใจได้อย่างไรว่าพวกกบฏหรืออำนาจใหม่จะไม่ต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายไอซิสอย่างที่เกิดขึ้นในอิรัคและในลิเบียอยู่ในขณะนี้หลังจากที่โค่นล้มผู้นำที่แข็งแกร่งของเขาแล้ว? จะมั่นใจได้อย่างไรว่าอิสราเอลจะไม่รุกคืบเข้าไปไล่ที่ฮุบดินแดนของซีเรียและเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น? หรือจะมั่นใจได้อย่างไรว่าผู้ที่จะเข้าไปยึดครองซีเรียหลังอัสซาดลงจากเก้าอี้จะไม่เป็นไอซิสซะเอง? แล้วสหรัฐฯและพันธมิตรก็จะหาข้ออ้างไปถล่มซีเรียได้ทั้งปีทั้งชาติต่อไปไม่สิ้นสุดอยู่เรื่อยๆอย่างนี้หรือ? แล้วอียูก็รับดูแลผู้อพยพยเป็นล้านๆคนต่อไปเรื่อยๆอย่างนี้หรือ? โปรอเมริกาช่วยตอบหน่อยสิ...
    คราวนี้มาดูสื่อฯของอเมริกาเขารุมยำกันเองบ้างนะครับ วันที่ 11 ต.ค.58 สำนักข่าว Sputnik news อ้างข่าวจาก The New York Times ของสหรัฐฯว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของอเมริกา - พร้อมกับเหล่าผู้ช่วยของเขา - เป็นความล้มเหลวแบบเดียวกับการแก้ไขปริศนาลูก Rubik’s Cube ในกิจการทางการเมืองในตะวันออกกลาง ดูเหมือนว่าทุกก้าวย่างใหม่ๆยิ่งทำให้เขาห่างไกลออกจากการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่กำลังดำเนินไปอยู่ในขณะนี้ (ถ้าอเมริกาหยุดยุ่งกับซีเรีย ทุกอย่างจะจบลงทันที ปัญหาทุกอย่างจะแก้ไขได้ ที่มันวุ่นๆกันอยู่นี้ก็เพราะอเมริกาตัวแสบนี่แหละที่เข้าไปทำให้มันยุ่ง ด้วยข้ออ้างสารพัด แต่สุดท้ายก็เพื่อผลประโยชน์ของตนเองทั้งนั้น)
    The New York Times วิจารณ์ว่า เขา (โอบาม่า) ไม่มียุทธศาสตร์ที่เหมาะสมใดๆในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลางเลย (ก็สหรัฐฯเป็นผู้จุดไฟความขัดแย้งขึ้นมาเองอ่ะ เขาจะมีหนทางในการดับไฟแห่งความขัดแย้งได้อย่างไร เขาเป็นนักวางเพลิง เขาไม่ใช่นักดับเพลิง) เขาไม่มีแผนการที่จะต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรงในภูมิภาค และเหนือสิ่งอื่นใด เขาไม่พร้อมที่จะลงมือจัดการกับวิกฤตในซีเรีย
    ลงมืออย่างไรรึ? หนึี่งปีที่สหรัฐฯและพรรคพวกพันธมิตรบอมบ์ซีเรียไปเต็มยังไม่พอและยังไม่เรียกว่าลงมือจัดการกับวิกฤตซีเรียสไตล์สหรัฐฯอยู่อีกรึ? วันที่ 22 พฤษภาคม 2015 BBC พาดหัวข่าวว่า "Syria crisis: 'Children died' in US air strike" แปลว่า "วิกฤตซีเรีย: เด็กๆเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ"
    + BBC รายงานในส่วนของการเสียชีวิตของพลเรือทั้งหมด ณ เวลานั้นว่า...
    - แถลงการณ์ในวันพฤหัสบดีกล่าวว่าสหรัฐฯรับทราบการสูญเสียชีวิตของพลเรือนที่มีสาเหตุมาจากแคมเปญจ์การโจมตีทางอากาศ แม้ว่าเอกสารของกลุ่มนักกิจกรรมที่มีสำนักงานอยู่ในอังกฤษ (พวกเดียวกันกับกบฏ?) จะบอกว่ามียอดผู้เสียชีวิตมากว่า 100 คนก็ตาม
    - กลุ่มสังกตการด้านสิทธิมนุษยชน (SOHR) กล่าวเมื่อวันพุธว่า มีพลเรือนจำนวน 131 รายถูกสังหารในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศตั้งแต่เดือนกันยายน (ปีที่แล้ว) ซึ่งรวมถึงเด็กๆจำนวน 42 รายด้วย (ตัวเลขมันน้อยไปหรือเปล่า?)
    - กลุ่ม SOHR กล่าวว่าการโจมตี (ทางอากาศโดยพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ) เพียงครั้งเดียวในจังหวัด Aleppo ทางตอนเหนือของซีเรียทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตถึง 52 ราย รวมทั้งเด็กๆ 7 รายด้วย
    - โฆษกของศูนย์บัญชาการกลางของกองทัพสหรัฐฯ กล่าวว่า ณ ช่วงเวลานั้นสหรัฐฯไม่มีข้อมูลยืนยัน คำกล่าวอ้างดังกล่าว แต่กล่าวเพิ่มเติมว่า "พวกเรายอมรับทุกข้อกล่าวหาอย่างจริงจัง ละจะพิจารณาในรายละเอียดต่อไป" (ก็แสดงว่าไม่ยอมรับตัวเลขดังกล่าว ก็นักบินของคุณอยู่บนท้องฟ้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามีคนตายกี่คน? เป็นเด็กเท่าไร เป็นผู้หญิงเท่าไร? เพราะว่าคุณนั่งบังคับโดรนจากที่อื่นในระยะไกล บอมบ์เสร็จแล้วคุณก็บินหนี พอรัสเซียโจมตีฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้ายไอซิสในวันแรก คุณก็เล่นประโคมข่าวในวันเดียวกันทันทีเลยด้วยรูปภาพประกอบข่าวเก่าที่เกิดขึ้นก่อนรัสเซียจะบอมบ์ตั้ง 5 วันโดยบอกว่าการโจมตีทางอากาศของรัสเซียส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตจำนวน 36 ราย มีแต่ตัวเลขแต่ไม่มีหลักฐาน แต่สื่อฯกระบอกเสียงของรัฐบาลสหรัฐฯและตะวันตกก็เล่นข่าวนี้ไม่เลิก โดยอิงหลักฐานปลอมนั่นเอง แต่พอมีตัวเลขการสูญเสียชีวิตของพลเรือชาวซีเรียหลายร้อยคนจากการโจมตีทางอากาศของพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ สหรัฐฯก็บอกว่ายังไม่มีข้อมูลยืนยันแล้วข่าวก็เงียบหายไป)
    - องค์กร SOHR กล่าวว่ามีประชาชนทั้งสิ้น จำนวน 2,440 คนถูกสังหารจากการโจมตีทางอากาศของพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ (ในซีเรีย) บางส่วนเป็นผู้ก่อการร้ายไอซิส (ก็แสดงว่าที่ไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายไอซิสก็รวมอยู่ในนั้นด้วย แล้วสหรัฐฯ และพันธมิตรจะรับผิดชอบต่อกรณีนี้อย่างไร? ตอบคำถามนี้ให้ได้ก่อนแล้วค่อยไปต่อว่าหรือกล่าวรัสเซียแบบไม่มีมูลดีกว่าไหม?)
    รายงายข่าวบอกว่า พวกที่ปรึกษาของโอบาม่ายอมรับว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรมากเพื่อเปลี่ยนแปลงเกมในซีเรีย และโอบาม่าก็ไม่ต้องการที่จะเผชิญหน้ากับรัสเซีย เนื่องจากเขากลัวความเสี่ยงที่จะขยายความขัดแย้งออไป (สื่อฯรัสเซียอ้างจากสื่อฯอเมริกา)
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    11/10/2558

    ภาพจาก © AP Photo/ Islamic State social media account via AP, File

    Read more: US Has to Admit Failure of Its Strategy in Syria – German Newspaper

    ----------
    US Has to Admit Failure of Its Strategy in Syria – German Newspaper
    Syrian 'Moderate' Opposition Gets Funds, Modern Weapons From Jordan, Turkey
    Obama 'Stricken With Political Paralysis' Over Russia’s Actions in Syria
    Syria crisis: 'Children died' in US air strike - BBC News
    https://en.wikipedia.org/wiki/Casualties_of_the_Syrian_Civil_War
    http://airwars.org/wp-content/uploa...for-concern-civilians-killed-by-coalition.pdf
    Hundreds of Civilians Dead in Coalition Airstrikes | Al Jazeera America
    UN calls Syrian air strike unacceptable, deaths toll nears 100 | world | Hindustan Times
    http://www.nytimes.com/2015/08/15/w...-linked-to-civilian-deaths-in-syria.html?_r=0
    http://www.nytimes.com/2015/08/15/w...-linked-to-civilian-deaths-in-syria.html?_r=0
    Civilian deaths claimed in 71 US-led airstrikes on Isis | World news | The Guardian
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จากคำแถลงการณ์ของประธานาธิบดีแอร์โดอานที่ว่า ขอประณามอย่างรุนแรงต่อการก่อเหตุชั่วร้ายต่อเอกภาพและสันติภาพของประเทศ ผู้อยู่เบื้องหลังต้องการสร้างความแตกแยกขึ้นในสังคมตุรกี ขอให้ชาวตุรกีสมัครสมานสามัคคีและมีกำลังใจเพราะเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการตอบโต้การก่อเหตุร้าย ทางการจะตามล่าตัวผู้ก่อเหตุโดยเร็วที่สุดเพื่อนำตัวมารับโทษ และไอ้ที่ไปส่งเสริมให้มีการก่อเหตุชั่วร้ายต่อเอกภาพและสันติภาพของประเทศอื่นๆ ออกมาประณามตัวเองบ้างสิ

    ผู้นำตุรกีประณามเหตุระเบิดในเมืองหลวง | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ธรรมคือสิ่งธรรมดา กลับสู่สภาพเดิมก่อนกำเนิด หลุดพ้นโดยไม่ยึดติด ก่อนมี อวิชา ก็มีสภาพที่ว่างเปล่า เพียงแต่กลับสู่สภาพนั้นได้ก็หลุุดพ้น และสภาพนั้นคือพุทธะ จึงนับได้ว่าทุกสรรพสิ่งมีธาตุแห่งพุทธะทั้งสิ้น ทุกสรรพสิ่งจึงสามารถเป็นพุทธะได้ เพียงแต่ขอให้มีความมุ่งมั่นที่จะเป็น และขัดเกลาดวงจิตของตนให้ใสสะอาด ไม่ย่อท้อแม้ต้องผจญในทุกข์โศก แห่งการเวียนว่าย ตาย เกิด ในห้วงสังสารวัฎที่ไม่รู่จบ ผู้มีความเพียร วันหนึ่งก็ย่อมถึงฝั่ง

    ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร
    คำว่า “ปรัชญา” หมายถึง ปัญญา หรือ ญาณ คือการรู้แจ้งแทงตลอด
    คำว่า “ปารมิตา” หมายถึง พาให้ถึงฝั่ง คือ พระนิพพานนั่นเอง
    คำว่า “หฤทัย” คือ หัวใจ หมายถึง มีความสำคัญยิ่งเปรีบประดุจหัวใจ
    รวมความแล้ว “ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร” มีความหมายว่า พระสูตรที่เน้นปัญญาเป็นสำคัญพาไปให้ถึงฝั่งพระนิพพาน

    เมื่อทราบถึงความสำคัญของพระสูตรนี้แล้ว เราควรจะพิจารณาต่อไปถึงความอันลึกซึ้ง ซึ่งอาจทำได้โดยการนำประโยคแต่ละประโยคขึ้นมาพิจารณาในเชิงธรรมะดังนี้คือ
    ๑.( กวน จือ ไจ ผู่ สัก เฮ้ง ชิม ปัว เยียก ปอ ลอ มิก ตอ ซี้ )
    คำว่า กวน จือ ไจ ผู่ สัก คือพระนามของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ( เจ้าแม่กวนอิม ) เป็นชื่อที่ท่านพระถังซำจั๋งตั้งและเขียนขึ้นเป็นครั้งแรก มีความหมายว่า ผู้มีกายและใจเป็นอิสระจากสิ่งทั้งปวง ผู้ประกอบด้วยโลกุตรปัญญาอันลึกซึ้ง
    ๒.( เจา เกียน โงว อุง ไก คง )
    พิจารณาเล็งเห็นว่าโดยธรรมชาติที่แท้แล้ว ขันธ์ทั้งห้านั้นว่างเปล่า
    ( ขันธ์ ๕ คือ รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ โดยรวมได้เป็น ๒ ลักษณะคือ รูปขันธ์ และ นามขันธ์ รูปขันธ์ก็คือ รูป ส่วน นามขันธ์ ได้แก่ เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ หรืออาจเรียกอีกอย่างว่า กาย กับ ใจ โดยรูปขันธ์ก็คือ กาย ส่วนนามขันธ์ก็คือ ใจ นั่นเอง
    รูปขันธ์ คือ ร่างกาย อวัยวะน้อยใหญ่ทั้งภายใน ภายนอก
    เวทนาขันธ์ คือ ความรู้สึกในอารมณ์ มีสุข ทุกข์ และไม่สุขไม่ทุกข์
    สัญญาขันธ์ คือ ความจดจำได้ เช่นได้กลิ่นก็รู้ว่าทุเรียน แม้ไม่ได้เห็นลูกทุเรียนเลยก็ตาม
    สังขารขันธ์ คืออารมณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นเพราะเราคิดปรุงแต่งเอาเอง
    วิญญาณขันธ์ คือ ความเข้าใจ เช่นเมื่อตามองเห็นแก้วบรรจุน้ำสีแดงอยู่ เรียกว่าตาเห็นรูป รู้ว่าเป็นแก้วน้ำ ( สัญญาขันธ์ ) คาดว่าน้ำจะเป็นน้ำหวาน ( สังขารขันธ์ ) รู้ว่าน้ำหวานสีแดงคือ น้ำ- น้ำตาล- และสีแดง มารวมกัน ( วิญญาณขันธ์ ) ไม่ใช่วิญญาณในความหมายที่ว่าล่องลอยคอยเข้าสิงผู้หนึ่งผู้ใดก็หาไม่
    คำว่า ความว่าง หรือ สุญตา หรือ อนัตตา นั่นเอง มิใช่ว่าไม่มีตัวตนให้เห็นหรือไม่มีอยู่เลย ตามวิสัยของโลกย่อมมีอยู่ แต่เราทำใจได้ว่ามันไม่มีอยู่ คือไม่เอาใจไปยึดว่ามี เพราะถ้าไปยึดว่ามีก็เกิด ชอบ-ชัง-หวงแหนขึ้นมา คำว่าใจว่าง มิใช่ใจที่ขาดสติไม่รู้ดีรู้ชั่ว แต่เป็นใจเหมือนคนธรรมดาเพียงแต่เอาความยึดมั่นถือมั่นออก ไม่เอาทุกสิ่งภายนอกมาเป็นอารมณ์ )

    ๓.( โต่ว เจก เชียก โค้ว แอะ )
    จึงได้ก้าวล่วงพ้นจากความทุกข์ทั้งปวงได้

    คือเมื่อเล็งเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่คงทน ( อนิจจัง ) ล้วนเป็นความว่าง ( อนัตตาหรือสุญตา ) แม้นจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่เกิดความทุกข์ความเดือดร้อนใดๆกับใจของผู้รู้อีกต่อไป คือการรู้เท่าทันตามสภาพความจริงของสิ่งนั้นๆ ดังนั้นจึงเป็นผู้ปราศจากความทุกข์ทั้งปวง

    ๔. ( เสีย ลี่ จือ )
    คำว่าแสหลี่จือ แปลได้สองความหมาย คือพระสารีบุตร และอีกความหมายหนึ่งคือ พระบรมสารีริกธาตุ แต่ในพระสูตรนี้แปลว่าพระสารีบุตร

    ท่านสารีบุตร
    เหตุที่ต้องเอ่ยนามของท่านพระสารีบุตร ก็เพราะท่านเป็นผู้ขอให้พระอวโลกิเตศวร ( เจ้าแม่กวนอิม ) เป็นผู้แสดงธรรมบทนี้ ดังนั้นพระอวโลกิเตศวร จึงตรัสเรียกท่านเป็นการเท้าความก่อนที่แสดงธรรมโดยละเอียดต่อไป

    ๕.
    ( เสก ปุก อี คง ) รูปไม่ต่างจากความว่าง
    ( คง ปุก อี เสก ) ความว่าง ก็ไม่ต่างไปจากรูป
    ( เสก เจียก สี่ คง ) รูปคือความว่างนั่นเอง
    ( คง เจียก สี่ เสก ) ความว่างก็คือรูปนั่นเอง
    ( ซิ่ว เสียง เฮง เสก ) เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญาณ
    ( เอีย หอก หยู่ สี ) ก็เป็นดังนี้ด้วยเช่นกัน

    ๖.
    ( เสีย ลี่ จือ ) ท่านสารีบุตร
    ( สี่ จู ฮับ คง เซียง ) ธรรมทั้งปวงมีความว่างเป็นลักษณะ

    ๗.
    ( ปุก เซง ปุก มิก ) ไม่เกิด ไม่ดับ
    ( ปุก อู ปุก เจ๋ง ) ไม่มัวหมอง ไม่ผ่องแพ้ว
    ( ปุก เจง ปุก เกี้ยม ) ไม่เต็ม ไม่พร่อง
    ( ในข้อนี้เป็นการอธิบายขยายความในข้อข้างบน คือเน้นที่ความว่าง-สุญตา-อนัตตา นี้เป็นภาษาธรรม จะนึกคิดง่ายๆเหมือนภาษาที่เราพูดจากันนั้นไม่ได้ คำว่าความว่างไม่ได้แปลว่าไม่มีเลย คือมันมีอยู่แล้วตามธรรมชาติ คือสภาวธรรมที่เป็นอยู่แล้วดั้งเดิมของสภาวะที่เรียกว่านิพพาน คือเป็นสิ่งที่ไม่มีการเกิด-ไม่มีการดับ(สิ้นสุด) –ไม่สวยงามหรือมัวหมอง –ไม่มีส่วนที่ขาดตกไม่ครบและ-ไม่มีความหมายว่าเต็มบริบูรณ์แล้วในความหมายของภาษาพูดของคน คือเป็นสภาวะที่ไม่อาจใช้คำพูดอธิบายให้เข้าใจได้นั่นเอง จะรู้ได้ก็โดยผู้มีจิตว่างที่แท้จริง คือ มองทุกอย่าง-รับเอาทุกอย่างด้วย จิตว่างที่แท้จริงตามธรรมชาติ ตัวธรรมชาติแท้ๆดั้งเดิมของมนุษย์นี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่า สุญตา-อนัตตา-นิพพาน นั่นเอง )

    ๘.( สี่ กู่ คง ตัง บ่อ เสก )
    ดังนั้น ในความว่างจึงไม่มีรูป

    ๙. ( บ่อ ซิ่ว เสียง เฮง เสก )
    ไม่มี เวทนา –สัญญา –สังขาร –วิญญาณ

    ๑๐.( บ่อ งั้ง ยือ พี จิ เซง อี่ )
    ไม่มี ตา –หู –จมูก –ลิ้น –กาย –ใจ

    ๑๑.( บ่อ เสก เสียง เฮียง บี ตก หวบ )
    ไม่มีรูป –เสียง –กลิ่น -รส –สัมผัส -ธรรมารมณ์

    ๑๒. ( บ่อ งัน ไก่ ไน จี้ บ่อ อี้ เสก ไก่ )
    ไม่มีผัสสะ และวิญญาณ ในอายตนะทั้ง ๖
    ( ความหมายของคำว่าวิญญาณในที่นี้คือ ความรู้สึกที่ได้จากอายตนะภายในและอายตนะภายนอกกระทบกันเข้า คือ

    ตา มองเห็น รูป เรียกว่า จักษุวิญญาณ
    หู ได้ยิน เสียง เรียกว่า โสตวิญญาณ
    จมูก ดม กลิ่น เรียกว่า ฆานวิญญาณ
    ลิ้น ได้ลิ้ม รส เรียกว่า ชิวหาวิญญาณ
    กาย ได้สัมผัสแตะต้อง เรียกว่า กายวิญญาณ
    ใจ ได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ เรียกว่า มโนวิญญาณ )

    ๑๓.
    ( บ่อ บ่อ เม้ง ) ไม่มีอวิชชา ไม่มีวิชชา
    (เอีย บ่อ บ่อ เมง เจ๋ง ) ไม่มีความดับลงแห่งอวิชชาและวิชชา
    ( ไน จี้ บ่อ เหลา ซี้ เอีย บ่อ เหลา ซี้ จิ๋ง )
    จนถึงไม่มีความแก่และความตาย และไม่มีความดับลงซึ่งความแก่และความตาย

    ( คำว่า วิชชา ในที่นี้คือ ความรู้อย่างชัดแจ้งใน ทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ การดับทุกข์ และแนวทางเพื่อการดับทุกข์ คือรู้แจ้งในอริยสัจ ๔ นั่นเอง ส่วนคำว่า อวิชชา ก็มีความหมายตามนัยตรงข้ามกับคำว่า วิชชา

    เมื่อมีใจเป็นสุญตาหรือพิจารณาแจ้งชัดแล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นความว่างอยู่แล้ว ดังนั้นใจก็หลุดพ้นได้ถึงนิพพานแล้ว จึงไม่สนใจหรือยอมรับว่า วิชชา แห่งการดับทุกข์เป็นเรื่องที่ต้องทำให้แจ้งอีกแล้ว และเมื่อใจว่างแล้วก็เป็นใจที่ไม่มีอวิชชาอยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงระบุว่าไม่มีวิชชาและอวิชชาอยู่เลย จึงไม่มีความสิ้นไปแห่งวิชชาและอวิชชา เมื่อมีใจว่างเป็นวิมุติ คือหลุดพ้นแล้ว ไม่ต้องวนเวียนในวัฏฏะอีกต่อไปอีก ดังนั้นจึงไม่มีความแก่และความตาย )

    ๑๔.( บ่อ โค้ว จิก มิก เต๋า )
    ไม่มีความทุกข์ –สมทัย –นิโรธ –มรรค
    ( เมื่อมีใจเป็นสุญตาหรือพิจารณาแจ้งชัดแล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นความว่างอยู่แล้ว ดังนั้นใจก็ไม่มีทุกข์ เมื่อไม่มีทุกข์ย่อมไม่มีเหตุที่ให้เกิดทุกข์เหลืออยู่ต่อไป ก็ไม่ต้องมีการดับทุกข์ และไม่จำเป็นต้องมีมรรคเพื่อการดับทุกข์ )

    ๑๕.( บ่อ ตี่ เอีย บ่อ เต็ก )
    ไม่มี ญาณ ( การประจักษ์แจ้ง ) และไม่มีการบรรลุถึง

    ๑๖.( อี บ่อ ซอ เต็ก กู่ )
    เพราะไม่มีอะไรที่จะต้องบรรลุถึงอีกต่อไป

    (เมื่อเป็นผู้สามารถบำเพ็ญปัญญาบารมีจนถึงสภาวะจิตว่าง หรือพิจารณาแจ้งชัดแล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นความว่างอยู่แล้ว ดังนั้น ปัญญา หรือ ญาณ ย่อมมาถึงที่สุด ดังนั้นจึงไม่ต้องแสวงหาปัญญาอื่นอีก และไม่ต้องขวนขวายใดๆที่จะให้บรรลุถึงอีก )

    ๑๗.
    ( ผู่ ที สัก เตย ) พระโพธิสัตว์
    ( ฮี ปัว เยียก ปอ ลอ มิก ตอ กู่ ) ผู้บำเพ็ญปัญญาบารมี
    (ในตำราจีนกล่าวว่า มีพระโพธิสัตว์จำนวนมากมาย ที่ถือกันว่าอาวุโสหรือเป็นพระมหาโพธิสัตว์นั้นมีด้วยกัน ๗ พระองค์
    ๑.พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ ( เจ้าแม่กวนอิม ) ( กวน ซี อิม ผู่ สัก )
    ๒.พระมหาสถามปราปต์มหาโพธิสัตว์ ( ไต้ ซี จี้ ผู่ สัก )
    ๓.พระมัญชูศรีมหาโพธิสัตว์ ( บุน ชู ผู่ สัก )
    ๔.พระสมันตภัทรมหาโพธิสัตว์ ( โผ้ว เฮียง ผู่ สัก )
    ๕.พระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์ ( ตี่ ใช่ หวั่ง กวง )
    ๖.พระศรีอารียเมตไตยมหาโพธิสัตว์ ( หมี เล็ก ผู่ สัก )
    ๗.พระวัชรปราณีมหาโพธิสัตว์ ( กิม กัง ผู่ สัก )

    ๑๘.
    ( ซิม บ่อ ควง ไก่ ) จิตของพระองค์เป็นอิสระจากความกังวลใดๆ
    ( ปอ ควง ไก่ กู่ ) ไม่ถูกผูกมัดขวางกั้น

    ๑๙.( บ่อ อู่ คง ปู่ ) พระองค์จึงไม่มีความกลัวใดๆ

    ๒๐.( เอียง ลี้ เต็ง เต้า ม่วง เซียง ) ก้าวล่วงพ้นไปจากมายาหรือสิ่งลวงตา

    ๒๑.( กิ้ว เก่ง เน็ง พวง ) ในที่สุดก็บรรลุถึงพระนิพพาน

    ๒๒.( ซา ซี่ จู ฮุก ) พระพุทธเจ้าทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

    ๒๓.( อี ปอ เยียก ปอ ลอ มิก ตอ กู่ ) ล้วนแต่ได้บำเพ็ญปัญญาบารมีมาทุกๆพระองค์

    ๒๔. ( เตก ออ นอ ต่อ ลอ ซำ เมา ซำ ผู่ ที้ )
    เพราะได้บำเพ็ญปัญญาบารมีแล้วจึงได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมโพธิญาณ

    ๒๕.( กู่ ใจ ปัว เยียก ปอ ลอ มิก ตอ ) ดังนั้น ควรได้ทราบเถิดว่า ปัญญาบารมีนี้

    ๒๖. ( สี่ ไต่ เซ้ง จิ่ว ) เป็นมหามนต์อันศักดิ์สิทธิ์

    ๒๗. ( สี่ ไต่ เม่ง จิ่ว ) เป็นมนต์แห่งความรู้อันยิ่งใหญ่

    ๒๘.( สี่ บ่อ เซียง จิ่ว ) เป็นมนต์อันไม่มีมนต์อื่นยิ่งกว่า

    ๒๙. ( สี่ บ่อ เต้ง เต้ง จิ่ว ) เป็นมนต์อันไม่มีมนต์อื่นใดมาเทียบได้

    ๓๐.
    ( แนน ตี่ เจก เขียก โค๋ว ) ซึ่งจะตัดเสียได้ซึ่งความทุกข์ทั้งปวง

    ( จิง สิก ปุก ฮี ) นี่เป็นสัจจะเป็นอิสระจากความเท็จทั้งมวลอย่างไม่ต้องกังขา

    ๓๑. (กู่ ส่วย ปัว เยียก ปอ ลอ มิก ตอ จิ่ว )
    ดังนั้น จงหมั่นสวดภาวนามนต์แห่งโลกุตรปัญญานี้เถิด

    ๓๒. ( เจียก ส่วย จิว เฮียก ) ด้วยเหตุนี้แล

    ๓๓.
    ( กิด ที้ กิด ที้ ) จงไป จงไป

    (ปอ ลอ กิด ที้ ) ไปยังฟากฝั่งโน้น

    (ปอ ลอ เจง กิด ที้ ) ไปให้พ้นอย่างสิ้นเชิง

    ( ผู่ ที สัก พอ ลอ ) ไปสู่ความเป็นผู้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณ

    เนื้อหาบทความ : มหาโพธิญาณฺณ
    [ 2008-01-15 23:28:13 ]
    แก้ไข้และเรียบเรียง : มหาเทพ เทวาพิทักษ์
    [2008-05-17 05:27]
    ^
    ^
    จาก ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร : ซิมเกง : จีนแต้จิ๋ว | MAHAYARN : มหายาน

    ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ขอรับ
    ขอบพระคุณครับ
    JitZungkabuai

    ต้นฉบับเดิมขึ้นว่า

    [​IMG]

    "ปฺรชฺญาปารมิตา หฺฤทยํ สูตร โอม นมห ภควตฺไย อารฺยา ปฺรชฺญาารมิตาไย"

    นมห สรฺวชฺญาย(บางฉบับมี2คำนี้) อารฺยาวโลกิเตศฺวร โพธิสตฺโตฺว คมฺภีรํ (บางฉบับใช้วา คมฺภีรายำ) ปรชฺญาปารมิตา (บางฉบับใช้ว่า ปารมิตายำ) จารฺยำ จรมโณ วฺยวโลกยติ สฺม ปญฺจ สฺกนฺธาสฺ ตำสฺ(ตำศ) สฺวภาว ศูนฺยานฺปศฺยติ สฺม(บางฉบับใช้ว่า ปญฺจ สฺกนฺธาห ตำ ศฺจ สฺวภาว ศูนฺยานฺปศฺยติ สฺม)

    -พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ผู้เจริญ ปฏิบัติเข้าถึงปรัชญาปารมิตาอันลึกซึ้ง เลงเหนว่าธรรมชาติแท้จริงแล้ว ขันธ์๕ว่างเปล่า จึงข้ามพ้นทุกข์

    อิห ศาริปุตฺร รูปํ ศูนฺยตา ศูนฺยไตว รูปํ รูปานฺ น ปฺฤถกฺ ศูนฺยตา ศูนฺยตายา น ปฺฤถคฺ รูปํ(ปฺฤถคฺรูปํ) ยทฺ รูปํ(ยทฺรูปํ) สา ศูนฺยตายา ศูนฺยตา ตทฺรูปํ(ตทฺ รูปํ) เอวเมว(เอวํ เอว) เวทนา สํชฺญา สํสฺการ วิชฺญานานิ
    -โอ สารีบุตร! รูปคือวามว่าง ความว่างคือรูป รูปไม่ต่างจากความว่าง ความว่างไม่ต่างจากรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ คือความว่างเปล่าอย่างนั้นแล

    อิห ศาริปุตฺร สรฺวธรฺมาห ศูนฺยตา ลกฺษณา อนุตฺปนฺนา อนิรุทฺธา อมลา น วิมลา โนนา น ปริปูรฺณาห
    -โอ สารีบุตร! ธรรมทั้งหลายมีความว่างเป็นลักษณะ ไม่เกิด ไม่ดับ ไม่มัวหมอง ไม่บริสุทธิ์ ไม่เพิ่ม ไม่ลด

    ตสฺมาจฺฉาริปุตร(ตสฺมา ศาริปุตร) ศูนฺยตยำ น รูปํ น เวทนา น สํชฺญา น สํสการ น วิชฺญานานิ
    -เพราะเหตุนั้น สารีบุตร ไม่มีความว่าง ไม่มีรูป ไม่มีเวทนา ไม่มีสัญญา ไม่มีสังขาร ไม่มีวิญญาณ

    น จกฺษุห โศฺรตฺร ฆฺราณ ชิหฺวา กาย มนำสิ
    -ไม่มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

    น รูป ศพฺท คนฺธ รส สฺปฺรษฺฎวฺย ธรฺมาห
    -ไม่มีรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส พระธรรม

    น จกฺษุรฺธาตุรฺยาวนฺ น มโนวิชฺญานธาตุห
    -ไม่มีจักษุธาตุ ไม่มีมโนธาตุ

    น วิทฺยา นาวิทฺยานา น วิทฺยากฺษโย นาวิทฺยากฺษโย ยาวนฺ
    -ไม่มีวิชชา ไม่มีอวิชชา ไม่มีความสิ้นไปของวิชชา ไม่มีความสิ้นไปของอวิชชา

    น ชรามรณํ น ชรามรณกฺษโย
    -ไม่มีความแก่ความตาย ไม่มีความสิ้นไปของความแก่ความตาย

    น ทุหข สมุทย นิโรธ มารฺคา น ชฺยานํ น ปฺราปฺติรปฺราปฺติเตฺวน
    -ไม่มีทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไม่มีญาน ไม่มีบรรลุเพราะไม่มีอะไรให้บรรลุ

    โพธิสตฺตฺวสฺย ปฺรชฺญาปารมิตามาศฺริตฺย วิหรตฺย จิตฺตาวรณห จิตฺตาวรณนาสฺติตฺวาทตฺราโสฺต วิปรฺยาสาติกฺรำโต(อ่านว่า กฺรานโต) นิษฺฐนิรฺวาณห
    -พระโพธิสัตว์ทรงบำเพ็ญปัญญาบารมิ เป็นผู้มีจิตปราศจากอุปสรรคทั้งหมด ไม่มีความกลัว ไม่มีความกังวล เป็นผู้เห็นชอบ เป็นผู้ทำกิจถูกต้อง และเข้าถึงนิพพาน

    ตฺรฺยถว วฺยวสฺถิตาห สรฺวพุทฺธาห ปฺรชฺญาปารมิตามาศฺริตฺยานุตฺตรำ สมฺยกฺสํโพธิมาภิสํพุทฺธาห
    -พระพุทธเจ้าทั้งหลายที่สถิตทั้งสามสมัย(อดีต ปัจุบัน และอนาคต)เคยบำเพ็ญปัญญาบารมีไม่มี(ใคร)ยิ่งกว่าและได้สัมโพธิญาณ

    ตสฺมาชฺชฺญาตวฺโย ปฺรชฺญาปารมิตามหามนฺโตฺร มหาวิทฺยมนฺโตฺร นุตฺตฺรมนฺโตฺร สมสมมนฺตฺรห
    -เพราะเหตุนั้นควรทราบว่าปรัชญาปารมิตาคือมหาศักดามนต์ มหาวิทยามนต์ นุตตรมนต์ สมสมมนตร์

    สรฺวทุหข ปฺรศมนห สตฺยมมิถฺยตฺวาตฺ ปฺรชฺญาปารมิตายำ อุกฺโต มนฺตฺราห ตทฺยถา คเต คเต ปารคเต ปารสํคเต โพธิสฺวาหา
    -สามารถระงับทุกข์ทั้งปวงได้โดยสัจจะมิได้หลอกลวง จึงประกาศปรัชญาปารมิตา มนต์ดังนี้ คะเต คะเต ปาระคเต ปาระสังคะเต โพธิสวาหา

    อิติ ปฺรชฺญาปารมิตาหฺฤทยํ สมาปฺตํ


    [​IMG]

    แหล่งที่มา PANTIP.COM : Y7630916
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    เป็นเรื่องจนได้บทเรียนราคาแพงสำหรับสื่อฯอังกฤษจอมเต้าข่าวอ้างแหล่งข่าวผีบอก รัสเซียจี้อังกฤษชี้แจงกรณีสื่อฯอังกฤษปล่อยข่าวว่านักบินอังกฤษได้รับอนุญาตให้ยิงเครื่องบินรบรัสเซียในอิรัคได้

    [​IMG]

    ------------
    วันที่ 11 ต.ค.58 สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "อังกฤษควรจะอธิบายรายงานเกี่ียวกับการอนุญาตให้ยิงเครื่องบินรบของรัสเซียในอิรัคได้" (UK Should Explain Report of Permission to Shoot Down Russian Jets Over Iraq)
    เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงลอนดอนได้ร้องขอให้กระทรวงต่างประเทศของอังกฤษตรวจสอบเกี่ยวกับรายงานสื่อตามที่มีการกล่าวหาว่ามีการอนุญาตให้ยิงเครื่องบินรัสเซียเหนือน่านฟ้าของอิรัคได้
    ก่อนหน้านี้แหล่งข่าวกลาโหมของอังกฤษได้กล่าวกับหนังสือพิมพ์ Daily Star Sunday ว่านักบินของอังกฤษและนาโต้รายงานว่าได้รับคำสั่งให้ยิงเครื่องบินรบของรัสเซียเหนือน่านฟ้าอิรัคได้
    แหล่งข่าวกลาโหมของอังกฤษเน้นย้ำว่า นักบินจากกองทัพอากาศราชอาณาจักรอังกฤษ (RAF) ได้รับคำสั่งให้หลีกเลี่ยงการปะทะกับเครื่องบินรบของรัสเซียในทุกกรณ๊ แต่ได้เตือนนักบินว่าจะต้องเตรียมพร้อมเพื่อโจมตีเครื่องบินรบของรัสเซีย "หากชีวิตของพวกเขาขึ้นอยู่กับมัน (/ตกอยู่ในความเสี่ยง)" (if their lives depend on it.)
    มีการแจ้งว่าเครื่องบินรบ Tornado ของกองทัพอากาศอังกฤษได้ติดตั้งขีปนาวุธแบบอากาศ-สู่-อากาศพิศัยใกล้ชั้นสูงจำนวนสี่ลูก (ASRAAM) เพื่อยิงเครื่องบินรบของรัสเซียที่พวกเขาพบให้ตก ขีปนาวุธที่มีความเร็ว 2,300 ไมล์ต่อชั่วโมงติดหัวรบติดตั้งวัตถุระเบิดแรงสูงล็อกเป้าด้วยตัวค้นหาความร้อนแบบอินฟราเรด
    ก่อนหน้านี้ Michael Fallon รมว.กลาโหมของอังกฤษกล่าวว่า เขากำลังหาทางขยายความพยายามในการต่อต้านขบวนการก่อการร้ายไอซิสของ RAF ในอิรัคออกไปยังซีเรีย
    รายงานข่าวบอกว่า รัสเซียได้เปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่แม่นยำไปยังเป้าหมายกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในซีเรียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตามคำร้องขอของประธานาธิบดีบาชาร์ อัสซาด นาย Dmitry Peskov โฆษกรุงเครมลินกล่าวว่ากรุงมอสโคว์ไม่ได้รับการร้องขอใดๆจากกรุงแบกแดดให้มีปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายไอซิสในอิรัค
    กองกำลังพันธมิตร 60 ประเทศนำโดยสหรัฐฯได้ทำการโจมตีทางอากาศต่อต้านไอซิสในอิรัคและซีเรีย เป็นเวลาปีกว่า โดยข้ามการอนุมัติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและปธน.อัสซาด (ถามว่าสหรัฐฯและพรรคพวกทำถูกต้องไหม?)
    ก่อนหน้านี้สื่อฯอังกฤษหลายสำนักต่างก็พากันประโคมข่าวว่าเครื่องบินรบของรัสเซียถูกยิงตกโดยตุรกี ซึ่งป่านนี้ก็ยังไม่มีการยืนยันใดๆจากทั้งสองประเทศ ตอนนี้ข่าวปล่อย ข่าวปลอมแบบอ้างแหล่งข่าวผีบอก (แหล่งข่าวนิรนาม หรือไม่ประสงค์ออกนาม) มีเยอะมากโดยเฉพาะจากฝั่งสหรัฐฯและตะวันตก ใครที่เชื่อง่ายโดยไม่ตรวจสอบให้แน่ใจและรอบด้านก่อนก็จะตกเป็นเหยื่อของสำนักข่าวเหล่านั้นได้โดยง่าย การกระทำแบบนี้ไม่เป็นผลดีต่อความน่าเชื่อถือของสื่อฯเหล่านั้นเลย เพราะต่อไปผู้อ่านจะไม่เชื่อถือข่าวที่สำนักข่าวเหล่านั้นนำเสนออีกต่อไป
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    11/10/2558

    ภาพจาก © Flickr/ UK Ministry of Defence
    --------------
    Moscow:UK Should Explain Report of Permission to Hit Russian Jets Over Iraq
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    อิสราเอลและปาเลสไตน์วันนี้

    <iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/dMT0JulZRQ8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    https://www.youtube.com/watch?v=dMT0JulZRQ8

    เด็กปาเลสไตน์โจมตีตำรวจอิสราเอลด้วยก้อนหิน, ความไม่สงบได้แพร่กระจาย
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    กรุงอังการา ตุรกีเดือด มีรถไฟรุ่นใหม่ออกมาวิ่งบนท้องถนนด้วย

    <iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/JryDtNomyeQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    https://www.youtube.com/watch?v=JryDtNomyeQ

    ผู้ประท้วงสาดระเบิดเพลิงด้วยปืนใหญ่น้ำที่ปะทะกับตำรวจหลังจากเกิดการระเบิด ในเมือง ankara เมืองหลวงของตุรกีตั้งแต่ปี 1923;
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ปูตินประกาศชัด จะไม่ส่งทหารภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรีย, ปูตินเย้ย: หน่วยข่าวกรองของอเมริกาเจ๋ง แต่หาได้รู้ไปซะทุกอย่างไม่ (คริๆ), ปูติน: รัสเซียจะติดตั้งอาวุธนำวิถีที่มีความแม่นยำหากพบว่าถูกคุกคาม (ไม่ได้ขู่), รัสเซียเขี่ยมหาอำนาจสหรัฐออกจากซีเรีย - สื่อฯอิตาลี่ซ้ำ (แปลว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า), ซาอุดิอาระเบียส่งรมว.กลาโหมขอเจรจากับรัสเซียด่วน ฯลฯ

    [​IMG]

    -----------
    1.) มีแต่ข่าวเด็ดๆทั้งเลยเดี๋ยวจับมาเล่ารวบยอดพร้อมกันเลยดีกว่านะครับ เริ่มที่ข่าวแรกกันเลย วันที่ 11 ต.ค.58 สำนักข่าว RT news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "ปูตินกล่าวว่า: รัสเซียไม่มีความตั้งใจที่จะมีปฏิบัติการภาคพื้นดินในซีเรีย รัสเซียต้องการที่จะเห็นการประนีประนอมทางการเมือง" (Putin: Russia has no intention of mounting Syria ground operation, wants to see political compromise) ตรงนี้ "political compromise" (การประนีประนอมกันทางการเมือง) นี้สหรัฐและตะวันตกไม่เคยพูดมาก่อน ยกเว้นเยอรมันที่พึ่งจะมีท่าทีเมื่อเร็วๆนี้หลังจากรัสเซียเอาจริงด้วยการส่งเครื่องบินรบเข้าไปถล่มกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในซีเรียโดยไม่เกรงกลัวอำนานเจ้าโลกของอเมริกาและพันธมิตรตะวันตกเลยแม้แต่น้อย ส่วน Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ปูตินบอกปัดการมีส่วนร่วมของกองทัพรัสเซียในปฏิบัติการภาคพื้นดินในซีเรีย" (Putin Rules Out Russian Army's Participation in Ground Operation in Syria)
    รายงานข่าวบอกว่าเมื่อวันอาทิตย์นี้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินได้ตัดความเป็นไปได้ของกองทัพรัสเซียในปฏิบัติการภาคพื้นดินในซีเรียออกไป (แปลว่ารัสเซียจะไม่ส่งทหารของตนเองเข้าไปสู้รบในซีเรียเด็ดขาด)
    ปูตินกล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง Rossiya-1 TV ของรัสเซียซึ่งเป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของรัสเซียในปฏิบัติการภาคพื้นดินในซีเรียว่า "เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน (This is out of question…) ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราก็จะไม่ทำสิ่งนี้ (เด็ดขาด) และเพื่อนชาวซีเรียของพวกเราก็ทราบเรื่องนี้ดี"
    ปูตินยังได้กล่าวอีกว่าปฏิบัติการในซีเรียนั้นได้มีการวางแผนล่วงหน้ามาเป็นอย่างดีแล้ว มันไม่ใช่การกระทำที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ (spontaneous action) รัสเซียได้มีปฏิบัติการทางอากาศ มีการสอดแนมจากอวกาศ (space reconnaissance) ก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติการในซีเรีย
    ปธน.ปูตินกล่าวว่า "พวกเรา (รัสเซีย) ได้มีการลาดตระเวน (/สอดแนม) ทั้งในอากาศ เปรียบเทียบกับข้อมูลที่ได้จากแหล่งข่าวต่างๆ และผู้เชี่ยวชาญจากคณะกรรมการอ่าว... ในการให้ความร่วมมือกับหุ้นส่วนของพวกเราที่ได้มีการจัดตั้งขึ้น อย่างที่คุณรู้ ซึ่งก็คือศูนย์ข้อมูลข่าวสารในกรุงแบกแดด" (หมายความว่ารัสเซียจับตาดูเหตุการณ์ในซีเรียทั้งทางดาวเทียมจากนอกโลกและ จากโดรนในท้องฟ้าด้วย)
    ปธน.ปูตินกล่าวต่ออีกว่า "ผู้เชี่ยวชาญด้านเสนาธิการ [ของรัสเซีย] ที่ประสานงานอยู่กับหุ้นส่วนซีเรียและประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้ได้ก่อตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารขึ้นในกรุงแบกแดด ตามที่คุณทราบอยู่แล้วนั่นแหละ และได้รับข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติมด้วย ดังนั้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในท้องฟ้าและบนโลก ไม่ได้เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ (/ไม่ได้เกิดขึ้นตามปรกติ) แต่เป็นแผนการที่มีการกำหนดแนวทางเอาไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว"
    ปูตินกล่าวว่ากรุงมอสโคว์ได้แจ้งให้หุ้นส่วนชาวตะวันตกทราบเกี่ยวกับปฏิบัติการต่อต้านขบวนการก่อการร้ายไอซิสในซีเรียล่วงหน้า (beforehand) แล้ว
    ประธานาธิบดีของรัสเซียกล่าวว่า "พวกเราได้เตือนเพื่อนของพวกเรา - ในสหรัฐ หุ้นส่วนอื่นๆอีกหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาค [ตะวันออกกลาง] - เกี่ยวกับเจตนาของพวกเรา และแผนการของพวกเรา บางคนกล่าวว่า พวกเราดำเนินการช้าไปมาก แต่ผมต้องการที่จะดึงความสนใจของคุณมาที่ข้อเท็จจริงที่ว่า ไม่มีใครเคยเตือนเราเกี่ยวกับการวางแผนปฏิบัติการในลักษณะนี้เลย (หมายถึงพันธมิตรนำโดยสหรัฐไม่เคยแจ้งให้รัสเซียทราบเลย ในกรณีที่สหรัฐพาพรรคพวกไปรุมกินโต๊ะซีเรีย แต่ปูตินเป็นสุภาพบุรุษกว่าและก่อนที่จะลงมือก็ได้ประกาศให้ทุกฝ่ายรับรู้ด้วยว่าจะลุยจริงหละนะ ใครไม่เกี่ยวหรือไม่อย่างซวยไปกับพวกไอซิสด้วยก็ให้ถอยไป เดี๋ยวจะว่าหล่อไม่เตือนไม่ได้นะ)"
    สำนักข่าว RT news อ้างคำพูดของปธน.ปูตินซึ่งกล่าวว่า "ถ้ากองทัพซีเรียพิสูจน์ศักยภาพและความพร้อมของตนเองในการต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายได้ ดังนั้นความน่าจะเป็นในการบรรลุการประนีประนอมทางการเมืองก็จะอยู่ในระดับที่สูงมาก" โดยยืนยันว่าปฏิบัติการทางกองทัพของรัสเซีย (กองทัพอากาศ) ในซีเรียอาจจะถูกจำกัดไว้เฉพาะปฏิบัติการต่อสู้ของกองทัพซีเรียเท่านั้น (ให้กองทัพซีเรียลุยภาคพื้นดิน ส่วนการโจมตีทางอากาศและการคุ้มกันภัยทางอากาศเป็นหน้าที่ของกองทัพอากาศรัสเซีย)
    Sputnik news อ้างคำพูดของปธน.ปูตินว่า "เราไม่สามารถที่แสดงความรับผิดชอบที่นอกเหนือไปจากนี้ได้ และไม่เคยที่จะรับผิดชอบ (เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับปฏิบัติการของรัสเซีย) ใดๆเลย ผมได้พูดไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า งานภาคปฏิบัติของพวกเราในซีเรียจะจำกัดอยู่แต่ในกรอบของการใช้กำลังของกองทัพซีเรียเท่านั้น"
    "ภัยคุกคามจากขบวนการก่อการร้ายยังคงมีอยู่ในหลายประเทศ แต่กลุ่มประเทศอิสลามและรัสเซียสามารถที่จะตกเป็นเหยื่อเป็นอันดับแรก" (รายงานข่าวจาก Sputnik news เมื่อวันที่ 11 ต.ค.58 บอกว่ารายงานเบื้องต้นบอกว่ามีการจับกุมผู้ต้องสงสัยว่ากำลังวางแผนการโจมตีด้วยการก่อการร้ายในกรุงมอสโคว์ โดยอ้างแหล่งข่าวจากฝ่ายควบคุมกฎหมายของรัสเซีย ก่อนหน้านี้นายแอชตัน คาร์เตอร์ออกมาเตือน (/ขู่?) รัสเซียประมาณว่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะการโจมตีที่น่ากลัวขึ้นในรัสเซียให้ระวังไว้ให้ดี หลังจากนั้นไม่กี่วันก็เกิดเหตุการณ์บึ้มพลีชีพสองครั้งในกรุงอังการาเมืองหลวงของตุรกี ล่าสุดสหรัฐออกมาเตือน (/ขู่?) พม่าอีกว่าระวังการก่อเหตุร้ายในช่วงการเลือกตั้งที่จะถึงในเร็วๆนี้ และก่อนหน้านี้สหรัฐก็ได้เตือน (/ขู่?) มาเลเซียว่าจะมีการก่อการร้ายในมาเลเซียด้วย เอากะสหรัฐดิ รู้สึกว่าสหรัฐนี่จะชำนาญข่าวเกี่ยวกับการก่อการร้ายจังเลยนะ)
    ปธน.ปูตินกล่าวว่า "ภัยคุกคามการก่อการร้ายได้แพร่สะพัดไปในหลายประเทศในภูมิภาค... ซึ่งก็คือพวกเรา เหล่าประเทศที่อยู่ในภูมิภาคนี้ กลุ่มประเทศอิสลาม เป็นเหยื่อรายแรกของขบวนการก่อการร้าย และพวกเราต้องการ และกำลังจะต่อสู้กับพวกมัน (ขบวนการก่อการร้าย)"
    ปูตินประกาศชัดเมื่อวันอาทิตย์นี้ว่า รัสเซียไม่ประสงค์ที่จะฟื้นฟูจักรวรรดิขึ้นมาอีกครั้ง จุดประสงค์เดียวของรัสเซียก็คือปกป้องเอกราช (independence) และอธิปไตย (sovereignty) (ต่างกับนักล่าอย่างอเมริกาและตะวันตกไหมครับท่าน?)
    สุดท้ายปูตินกล่าวว่า "พวกเราไม่มีความปรารถนาใดๆที่สร้างจักรวรรดิขึ้นมาอีกครั้ง (หรือ) เพื่อปลุกชีพสหภาพโซเวียตกลับคืนมา แต่พวกเราจำเป็นต้องปกป้องเอกราชและอธิปไตย... "
    รัสเซียส่งเครื่องบินรบเข้าไปปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มก่อการร้ายไอซิสในซีเรียตามคำร้องขอและการอนุมัติของปธน.อัสซาด ผู้นำของซีเรีย แต่สหรัฐและพันธมิตรไม่เคยได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลซีเรียและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติให้เข้าไปรุกรานและละเมิดอธิปไตยของซีเรียเลย แต่ก็ทำไปแล้ว เพราะสหรัฐถือว่าประชาธิปไตยและเสรีภาพของตนเองอยู่เหนือประชาธิปไตยแลเสรีภาพของประเทศอื่นๆแม้จะเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยก็ตาม นี่สรุปจากการกระทำและการดำเนินนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ ดังนั้นสหรัฐจึงมีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวที่จะชวนก๊วนของตัวเองไปบอมบ์อิรัค ลิเบีย ซีเรีย ได้ตามใจชอบ
    2.) คราวนี้มาพูดถึงเรื่องข่าวกรองของสหรัฐในสายตาของปธน.วลาดิมีร์ ปูตินบ้างนะครับ วันที่ 11 ต.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "หน่วยข่าวกรองของสหรัฐนั้นดี แต่หาได้รู้ไปซะทุกอย่างไม่ - ปูตินกล่าว" (US Intelligence Is Good, But Does Not Know Everything - Putin) Oopz! งานนี้ปูตินเล่นแรงอ่ะ จริงหรือเปล่าครับท่านโอบาม่า? (ชอบเพลงนี้หรือเปล่า "ขอบคุณที่ซ้ำเติม... จุดเดิมที่เคยเจ็บ..." คริๆ)
    ปธน.ปูตินได้แสดงความคิดเห็นต่อคำพูดของนาย Vladimir Solovyov นักข่าวสถานีโทรทัศน์ Russian TV ยอดนิยมของรัสเซียที่ว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐได้หยุดทำงานหลังจากที่รัสเซียเริ่มยิงขีปนาวุธในซีเรีย (จริงดิ? กลัวขนาดนั้นเลยรึ? งานนี้รัสเซียแฉแหลกครับท่าน โอ๋ย... มิน่าหละพักนี้ถึงเห็น CNN กับสื่อฯของอังกฤษถึงได้ชอบอ้างแหล่งข่าวผีบอกอยู่บ่อยๆ เป็นเพราะหน่วยข่าวกรองของสหรัฐพากันโกยแน็บออกจากซีเรียนี่เอง นึกว่าจะรอกินข้าวหลามน้อยไฮเทคของรัสเซียในซีเรียร่วมกับไอซิสซะอีก ฮี่ๆๆ)
    โดยปธน.ปูตินกล่าวว่า "ขอให้พวกเราอย่าได้ขว้างปาก้อนหินใส่เขาเลย (Let's not throw stones at it. ว้าววว! ชอบคำนี้จัง) เขาเป็นหนึ่งในหน่วยงาน [ข่าวกรอง] ที่ทรงพลังมากที่สุด (ในโลก) แม้ว่าเขาจะไม่รู้อะไรซักอย่างเลยก็ตาม (อูยยยยส์.... เจ็บๆๆ... ไม่ยักกะรู้ว่าผู้นำรัสเซียก็เก่งเรื่องมีดโกนอาบน้ำผึ้งเช่นกันนะนี่)"
    ปูตินกล่าวเพิ่มว่า "รัสเซียได้ใช้อาวุธนำวิถีที่มีความแม่นยำ (precision-guided weapons) ในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส โดยเฉพาะอย่างยิ่งขีปนาวุธครูสมิสไซล์ (cruise missile)"
    ปูตินกล่าวว่า "ขีปนาวุธที่ใช้ไปนั้นไม่ได้มีความยาวมากตั้งแต่ปี 2012 พิศัยทำการของมันอยู่ที่ 1,500 กิโลเมตร และขีปนาวุธเหล่านั้นก็เป็นอาวุธไฮเทค เป็นอาวุธสมัยใหม่ มีความแม่นยำสูง" (มันจะไปตกในอิหร่านตั้ง 4 ลูกตามท่ CNN ซึ่งอ้างแหล่งข่าวผีบอกรายงานได้อย่างไร? ขนาดรมว.ต่างประเทศของสหรัฐก็ยังไม่กล้ายืนยันรายงานดังกล่าวเลย รัสเซียกำลังจะบอกว่าทั้้งหน่วยข่าวกรองและสื่อฯของสหรัฐฯสมัยนี้กระจอกมาก - ขออภัยที่พูดตรงไปนิดนึง แต่มันก็เป็นความจริงไม่ใช่รึ? คริๆ)
    3.) วันที่ 11 ต.ค.58 Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "ปูตินกล่าวว่า: รัสเซียพร้อมจะติดตั้งอาวุธนำวิถีที่มีความแม่นยำ หากถูกคุกคาม" (Putin: Russia to Apply Precision-Guided Weapons if Threatened) นี่เป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังสหรัฐฯ อียู และเหล่าพันธมิตรของสหรัฐในตะวันออกกลางด้วย และที่สำคัญก็คือังกฤษตัวแสบที่ออกมาปล่อยข่าวว่านักบินของอังกฤษได้รับอนุญาตให้สอยเครื่องบินรบของรัสเซียในน่านฟ้าของอิรัคได้ เพื่อให้รัสเซียเข้าใจผิดและเปิดฉากยิงเครื่องบินรบของอังกฤษและพันธมิตรนาโต้ก่อน จากนั้นก็จะได้หาข้ออ้างประกาศสงครามกับรัสเซียหรือแซงชั่นรัสเซียได้ในโอกาสต่อไป รัสเซียต้องการการยืนยันให้แน่ใจจากอังกฤษจึงส่งเอกอัครราชทูตของรัสเซียประจำกรุงลอนดอนไปขอความชัดเจนจากก.ต่างประเทศของอังกฤษซะเลยว่าข่าวที่ลือในสื่อฯเมืองผู้ดีนั้นจริงหรือเปล่า? ถ้าเป็นจริง และถ้าจู่ๆเครื่องบินรบของอังฤษตกในอิรัคหรือในซีเรียจากขีปนาวุธของรัสเซียก็อย่าโวยวายนะ เพราะว่ารัสเซียถือว่าการกระทำของอังกฤษเป็นภัยคุกคามอย่างหนึ่งต่อเครื่องบินรบของรัสเซียเช่นกัน และการกระทำของรัสเซียก็จะเป็นไปในลักษณะป้องกันตนเองไม่ใช่การรุกรานด้วย ซวยเลยอังกฤษ เงียบกริ๊บ เสียยี่ห้อเมืองผู้ดีแต่ในนามจริงๆ
    ปูตินกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Rossiya-1 ของรัสเซียว่า "โดยทั่วไปแล้ว เหล่าหุ้นส่วนของพวกเรา อย่างสน้อยที่สุดก็ในระดับผู้เชี่ยวชาญ ต่างก็ตระหนักดีว่ารัสเซียมีอาวุธ [นำวิถีที่มีความแม่นยำสูง] เช่นนั้นอยู่ในครอบครอง" (นี่ปูตินหมายถึงว่า ส่วนพวกที่ไม่รู้นั้นก็น่าจะจัดอยู่ในประเภทที่ไม่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญอะไรเลย และถ้ารู้แล้วก็อย่าได้ซ่าเที่ยวแกว่งปากหาบาทาหรือแกว่งเท้าเสี้ยนอีก จำไว้นะสื่อฯอเมริกาและสื่อฯอังกฤษ คริๆ)
    และปูตินก็ยังกล่าวเพิ่มอีกว่า "รัสเซียมีเจตนาที่จะติดตั้ง [อาวุธนำวิถีที่มีความแม่นยำ precision-guided weapons] หากมันอยู่ในเส้นผลประโยชน์ของประเทศชาติและของชาชนชาวรัสเซีย" (พูดแบบนี้ได้ใจชาวรัสเซียสิครับท่าน เวลารัฐบาลสหรัฐฯจะรุกรานประเทศอื่นเขาก็จะอ้างเรื่องผลประโยชน์ของชาติและประชาชนนำหน้า (ตามด้วยประชาธิปไตย เสรีภาพ และสิทธิมนุษยชน) งานนี้ปูตินก็อ้างเรื่องผลประโยชน์ของชาติและประชาชนชาวรัสเซียเช่นกัน แต่ไม่ใช่เพื่อการรุกรานหรือแย่งชิงทรัพยากรของประเทศอื่นอย่างที่สหรัฐฯและมหาอำนาจตะวันตกกระทำ แต่เพื่อป้องกันประเทศของตนเองจากการถูกรุกรานโดยประเทศเหล่านั้นต่างหาก เพราะอะไร? อ้าว… ก็อังกฤษพึ่งจะขู่ว่าจะยิงเครื่องบินรบของรัสเซียในอิรัคไปหยกๆ จะให้รัสเซียปรบมือยินดีกับข่าวนี้หรือไง?)
    4.) คราวนี้มาฟังเสียงรัวกลองเชียร์จากสื่อฯอิตาลีบ้างนะครับ วันที่ 11 ต.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "รัสเซียได้เขี่ยมหาอำนาจอย่างสหรัฐออกไปจากซีเรีย - สื่อฯอิตาลีเย้ยอเมริกา (คริๆ)" (Russia Has Snatched Away US Superiority in Syria – Italian Media) (ขออภัยนะครับที่สำนวนการแปลอาจจะทำให้ใครบางคนรับไม่ค่อยได้อ่ะ แต่มันเรียกความสะใจให้กับเหล่ากองเชียร์ปูตินอย่างไรก็ไม่รู้ คริๆ)
    คอลัมนิสต์ Luciano Tirinnantsi เขียนในนิตยสาร Panorama รายสัปดาห์ของอิตาลีว่า การพัฒนาเมื่อเร็วๆนี้ในซีเรีย ได้ทำลายมหาอำนาจทางกองทัพของสหรัฐฯในภูมิภาค (ตะวันออกกลาง) (อันนี้สื่อฯรัสเซียไม่ได้เขียนเองนะครับ เอามาจากสื่อฯอิตาลี อย่าบอกนะว่ารัสเซียหว่านเงินจ้างให้สื่อฯอิตาลีเขียนให้หนะ ฮ่าๆๆ พอมีใครแสดงความเห็นต่างจากฝ่ายที่เชียร์หรือสนับสนุนอเมริกาบ้างก็มักจะถูกมองว่าถูกรัสเซียเอาเงินฟาดหัวแน่ๆ ซะงั้น)
    ด้วยการยิงขีปนาวุธแบบ cruise missiles โจมตีเป้าหมายไอซิสจากเรือ flotilla ของรรัสเซียในทะเลแคสเปี้ยน รัสเซียได้แสดงให้เห็นแล้วว่าใครกันแน่ที่ควบคุมสถานการณ์ (อยู่ในตอนนี้)
    Tirinnantsi เขียนเอาไว้ว่า "การโจมตีได้เริ่มจากทะเลแคสเปี้ยน ซึ่งใช้ขีปนาวุธพิศัยไกลที่แม่นยำ (precise long-range missiles) ซึ่งลอยไปได้ไกลถึง 1,500 กิโลเมตร เหนืออิหร่านและอิรัค และพุ่งเข้าสู่เป้าหมาย (ที่เป็นลูกน้องของจักรวรรดิเฮเกโมนี่?) การขยับในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ขณะนี้น่านฟ้าแห่งนี้เป็นของรัสเซีย และชะตากรรมของตะวันออกกลางก็ขึ้นอยู่กับรัสเซีย"
    คอลัมนิสต์ชาวอิตาลียังได้เขียนต่ออีกว่า คราวนี้โอบาม่าและรัฐบาลของเขาได้เกิดความผิดหวังเป็นระยะเวลาอีกหลายปี "อเมริกาได้สร้างความผิดพลาดขึ้นมาทั้งหมดในการคาดการณ์และแทคติกของพวกเขา สูญเสียตำแหน่งและความน่าเชื่อถือ ซึ่งรวมทั้งบรรยากาศทางการทูตด้วย (Americans have made all-out errors in their forecasts and tactics, losing positions and trust, including in the diplomatic spheres.)" (แรงอ่ะ... จะไม่ให้มีที่ยืนกันบ้างเลยหรือนี่? Go home! don't try to make a mess in the Middle East or any other country again and take care your people well, then peace will come to the world. - กลับบ้านไปซะ อย่าได้พยายามสร้างความวุ่นวายในตะวันออกกลางหรือประเทศไหนๆอีก และดูและประชาชนของตัวเองให้ดี จากนั้นสันติภาพก็จะกลับมาสู่โลก)
    5.) ไปดูการเคลื่อนไหวฝั่งซาอุดิอาระเบียบ้างนะครับ วันที่ 11 ต.ค.58 RT news พาดหัวข่าวว่า "ปูตินและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของซาอุดิฯพบปะกันในรัสเซีย ได้ตกลงในเป้าหมายร่วมกันในซีเรีย" (Putin and Saudi defense minister meet in Russia, agree on common goals in Syria) (เป็นไปได้ไง?)
    นาย Sergey Lavrov รมว.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าวว่า "ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กับรมว.กลาโหมของซาอุดิอาระเบียได้ตกลงร่วมกันว่ากรุงมอสโคว์และกรุงริยาดห์ควรจะเป้าหมายร่วมกันในซีเรีย ซึ่งรวมทั้งการปรองดอง (reconciliation) ในประเทศ และการต่อสู้กับพวกผู้ก่อการร้ายด้วย"
    รมว.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าวว่า "ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันว่าทั้งซาอุดิอาระเบียและรัสเซียต่างก็มีเป้าหมายที่เหมือนกันเกี่ยวกับซีเรีย ประการแรก พวกเขาจะป้องกันหัวหน้าผู้ก่อการร้ายจากการยื่นมือเข้าไปในซีเรีย" (พูดอย่างนี้ก็คงจะรู้แล้วสินะว่าใครคุมและสั่งการระดับหัวหน้าของขบวนการก่อการร้ายไอซิสในซีเรียได้)
    นาย Sergey Lavrov กล่าวต่ออีกว่า จุดมุ่งหมายที่สองซึ่งพวกเรามีความเห็นร่วมกันกับกรุงริยาดห์ก็คือ "การทำให้สร้างความมั่นใจให้กับชัยชนะของการปรองดองแห่งชาติในซีเรีย เพื่อให้ชาวซีเรียทั้งหมด โดยไม่เกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติหรือศาสนา จะได้รู้สึกว่าเป็นเจ้าของของแผ่นดินของพวกเขา" (…all Syrians, regardless of their nationality or religion, will feel masters of their land) (สุดยอดไหมครับ?... เคยได้ยินปธน.สหรัฐพูดอย่างนี้เกี่ยวกับซีเรียบ้างไหม?)
    รมว.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าวต่ออีกว่า "ในส่วนของพวกเรานั้น (รัสเซีย) พวกเราได้แสดงความพร้อม ซึ่งได้พบกับการตอบสนองที่เป็นบวกจากทายาดมกุฏราชกุมารเพื่อเริ่มสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิดกันระหว่างกองทัพของพวกเราและหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อขจัดความสงสัยใดๆ ที่มีต่อเป้าหมายของกองทัพอากาศรัสเซียซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายไอซิส อัล-นุสราฟร์อนท์ และองค์กรก่อการร้ายอื่นๆ"
    ในระหว่างการสนทนา al-Jubeir (Adel bin Ahmed Al-Jubeir รัฐมนตรีต่างประเทศของซาอุดิอาระเบีย ลูกชายของกษัตริย์ซาอุดิฯองค์ปัจจุบัน) ได้แสดงความพร้อมในการที่จะกระชับความพยายามของซาอุดิเพื่อร่วมมือกับรัสเซียในเรื่องที่เกี่ยวกับปฏิบัติการต่อต้านผู้ก่อการร้าย
    การหารือกันเกี่ยวกับอนาคตของปธน.บาชาร์ อัสซาดในฐานประธานาธิบดีของซีเรียนั้น ทั้งรัสเซียและซาอุดิฯมีความเห็นต่างกันคือ รัสเซียบอกว่าอัสซาดจะต้องอยู่ในตำแหน่งต่อไป เรื่องนี้ไม่ได้เป็นการปิดกั้นไม่ให้มีการเริ่มกระบวนการแก้ไขปัญหาความแตกแยกทางการเมืองเลย แต่กรุงริยาดห์เชื่อว่า อัสซาดจะต้องก้าวลงจากตำแหน่ง เพื่อให้มีการเปลี่ยนถ่าย (อำนาจ) ทางการเมืองในซีเรีย (อึ่ม… งั้นก็ให้คิงซาอุดิอาระเบียและโอบาม่าก้าวลงจากตำแหน่ง แล้วให้คนอื่นขึ้นปกครองแทนเพื่อเป็นการเปลี่ยนถ่ายทางการเมืองบ้างดีไหม? บางคนอาจจะแย้งว่าก็ซาอุดิฯและสหรัฐฯยังไม่มีสงครามกลางเมืองและไอซิสอย่างในซีเรียนี่ จึงไม่จำเป็นต้องให้ผู้นำก้าวลงจากตำแหน่ง อ้อ… เรื่องนั้นไม่น่าจะใช่ปัญหาใหญ่สำหรับสหรัฐฯนะ ว่าไหมครับท่านโอบาม่าและซีไอเอและเพนตากอนด้วย?).
    นายลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าวว่า "รัสเซียได้เรียกร้องให้ผู้เล่นภายนอกทั้งหมดที่มีอิทธิพลต่อกระบวนการทางการเมืองในซีเรีย สนับสนุนการเปิดเจรจาทั่วประเทศขึ้นในซีเรียให้เร็วที่สุด"
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    12/10/2558

    ภาพ Russian President Vladimir Putin จาก © Aleksey Nikolskyi / RIA Novosti

    ----------
    https://www.rt.com/news/318298-putin-interview-syria-operation/
    Putin Rules Out Russian Army's Participation in Ground Operation in Syria
    US Intelligence Is Good, But Does Not Know Everything - Putin
    Putin: Russia to Apply Precision-Guided Weapons if Threatened
    Russia Has Snatched Away US Superiority in Syria – Italian Media
    https://www.rt.com/news/318324-putin-saudi-goals-syria/
    Moscow Terror Attack Plot: Three Suspects Detained
    Russia In, US Out: Moscow 'Flies its Flag' in the Middle East
    https://www.youtube.com/watch?v=erjfFtg_Kz8
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    [​IMG]

    อียูแลสหรัฐฯฟังให้ดี ผู้นำเบลารุสบอกว่าจะอยู่ข้างกรุงมอสโคว์หากรัสเซียถูกโจมตี คริๆ

    ภาพจาก © Sputnik

    Belarus Will Side With Moscow if Russia is Attacked – Lukashenko

    (เบลารุส) ไม่ได้อยู่ในนาโต้ แต่อยู่ใน CSTO ครับและตอนนี้อยู่ในฐานะประเทศผู้สังเกตการณ์ของกลุ่ม SCO ด้วย
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักวิเคราะห์ชี้ นโยบายของวอชิงตันในซีเรีย สะท้อน “ความล้มเหลว ความอ่อนแอ และไร้ประสิทธิภาพ” โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ต.ค. 11, 2015

    [​IMG]

    presstv – นักวิเคราะห์ชาวอเมริกัน ให้สัมภาษณ์กับเพรสทีวี ระบุ แผนนโยบายของรัฐบาลโอบามาที่จะยุติการสนับสนุนการฝึกฝนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียนั้น ถือเป็นการออกมายอมรับความพ่ายแพ้และความล้มเหลวของนโยบายวอชิงตันที่มีต่อรัฐบาลซีเรียอย่างสมบูรณ์แบบ

    เจมส์ เฮนรี เฟตเซอร์ (James Fetzer) อาจารย์นักวิเคราะห์ จาก เมดิสัน รัฐวิสคอนซิน อเมริกา ให้สัมภาษณ์ กับ สำนักข่าวเพรสทีวี เมื่อวันศุกร์ (9 ตุลาคม) ว่า การสนับสนุนกลุ่มไอซิส เพื่อที่จะโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดแห่งซีเรีย เป็นหนึ่งในนโยบายของอเมริกาที่มีต่อประเทศอาหรับและเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้กับอิสราเอล

    นักวิเคราะห์ ชาวอเมริกัน กล่าวเสริมว่า เรารู้ว่าอเมริกาให้เงินสนับสนุนและส่งสองนายพลอเมริกันเพื่อให้คำแนะนำและให้การปรึกษาแก่กลุ่มดังกล่าว

    เขากล่าวเสริมว่า สิ่งที่เราเห็นในวันนี้ คือ ความล้มเหลวของนโยบายต่างประเทศที่ผิดพลาดแบบสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งมันเริ่มต้นจากเหตุการณ์ 11 กันยายน เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยฝีมือของ ซีไอเอ นีโออนุรักษ์นิยม กระทรวงกลาโหมอเมริกาและหน่วยงานมอสสาด เพื่อปูทางให้อเมริกาสามารถเข้าไปปรากฏตัวในสนามสงครามต่างๆ

    ความสับสนวุ่นวายและความไม่สงบในตะวันออกกลางเกิดขึ้นจากการ “แทรกแซงของอเมริกา” เขากล่าว

    นางคริสติน วอร์ธัม ผู้ช่วยด้านนโยบายของรัฐมนตรีกลาโหมอเมริกา (เพนตากอน) แถลงเมื่อวันศุกร์ ยอมรับ ความล้มเหลว และผลลัพธ์อันไม่พึงประสงค์ของโครงการฝึกฝนการสู้รบให้แก่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีจึงมีมติร่วมกันให้ยกเลิกโครงการดังกล่าว

    ถ้อยแถลงของวอร์ธัม สอดคล้องกับรายงานของหนังสือพิมพ์ เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส ฉบับวันพฤหัสดี ที่ระบุว่า เพนตากอน ยุติโครงการเกณฑ์นักรบกบฏซีเรียให้การเข้ารับฝึกฝนทางเทคนิคการสู้รบจากผู้เชี่ยวชาญของเพนตากอนก่อน ที่ประจำการอยู่ในจอร์แดน กาตาร์ ยูเออี และซาอุดิอาระเบีย อย่างไรก็ตามรัฐบาลอเมริกา เปลี่ยนแผนไปตั้งศูนย์ปฏิบัติการขนาดย่อมแทนในตุรกี แทน เพื่อฝึกฝนกลุ่มนักรบที่ส่วนใหญ่เป็นระดับแกนนำและมอบความช่วยเหลือด้านอาวุธยุทโธปกรณ์

    นายกแม็ค ธอร์นเบอรรี ประธานคณะกรรมาธิการด้านอาวุธของสภาพผู้แทนราษฎรสหรัฐ ก็ออกมาวิจารณ์ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวของรัฐบาลวอชิงตัน ว่า สะท้อนความอ่อนแอและไร้ประสิทธิภาพของนโยบายในซีเรียและนโยบายต่อต้านกลุ่มไอซิส

    สภาคองเกรสอนุมัติงบประมาณพิเศษให้แก่เพนตากอนมากถึง 500 ล้านดอลลาร์ สหรัฐ เมื่อช่วงเดือน มิถุนายน สำหรับโครงการฝึกฝนนักรบฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียโดยเฉพาะ

    ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ของอเมริกา ได้ตอกย้ำ ให้วองชิงตัน มุ่งเน้นในการช่วยเหลือแก่ กองกำลังชาวเคิร์ดและกลุ่มอื่นๆ แทนควรพยายามที่จะเสริมสร้างความต่อเนื่องของหน่วยกองกำลังของกบฏซีเรีย


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    นักวิเคราะห์ชี้ นโยบายของวอชิงตันในซีเรีย สะท้อน “ความล้มเหลว ความอ่อนแอ และไร้ประสิทธ
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การปะทะของยักษ์ใหญ่แห่งตะวันออกกลาง : ความเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์การเมืองที่แน่นอนในเวลาที่ไม่แน่นอน
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ต.ค. 11, 2015

    [​IMG]

    (ภาพ) ประชาชนรวมตัวกันในบริเวณที่ถูกโจมตีทางอากาศโดยการนำของซาอุดี้ฯ ในซานาอฺ เมืองหลวงของเยเมน © Khaled Abdullah / Reuters
    เขียนโดย แคเธอรีน ชัคดัม
    Source : www.rt.com

    ในระหว่างการเข้าแทรกแซงทางทหารของรัสเซียในซีเรีย และการที่อิหร่านท้าทายอำนาจอิทธิพลของซาอุดิอารเบียในตะวันออกกลาง ภูมิภาคนี้กำลังประสบกับความขัดแย้งทางการเมืองอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    ความเจ็บปวดที่เพิ่มมากขึ้นในท้ายที่สุดจะได้เห็นการสำแดงระเบียบแบบแผนใหม่ออกมาอย่างหนึ่ง ซึ่งจะเป็นแบบไหนนั้น ยังคงต้องพิจารณากันต่อไป

    ถ้าตะวันออกกลางเป็นพื้นที่กลัดหนองมายาวนานเนื่องจากความวุ่นวายทางการเมือง ความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ และความตึงเครียดจากลัทธิความเชื่อ ที่น่าจะเป็นผลผลิตโดยตรงจากนโยบายที่ล้มเหลวของตะวันตก การยืนหยัดท้าทายมหาอำนาจของทั้งรัสเซียและอิหร่านได้ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวของพลวัตใหม่ ซึ่งยังสามารถมองเห็นการเริ่มต้นของระเบียบใหม่ทางภูมิศาสตร์การเมือง ที่ระบบได้สิทธิ์ข้อยกเว้นพิเศษของอเมริกาและความเป็นจ้าวอำนาจของซาอุดี้ฯ จะไม่มีอำนาจสั่งการเหนือชาติต่างๆ ในโลกอีกต่อไป

    ในขณะที่นักวิเคราะห์การเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐถกเถียงกันถึงนโยบายต่างประเทศและยุทธศาสตร์ในซีเรีย โต้แย้งกันไปมาว่าชาติไหนควรจะแบกรับภาระผู้นำในการต่อสู้กับการก่อการร้ายทั่วโลก รัสเซียก็ได้ถอดรหัสความเงียบออกมา เป็นการท้าทายต่อการผูกขาดทางการเมืองของอเมริกาอย่างเปิดเผย

    อย่าทำผิดพลาด ‘Make no mistake’ : การรณรงค์ครั้งใหม่ของวอชิงตันเพื่อคัดค้านการเข้าแทรกแซงในซีเรียของมอสโก เลยเถิดไปมากกว่าเรื่องการเป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีปูตินกับประธานาธิบดีบะชัร อัสซาดในการต่อสู้กับไอซิล(ISIL) หรือแม้แต่เรื่องการเลือกเป้าหมายทางทหารของเขาในดินแดนนี้ แต่หัวใจของเรื่องนี้คือการควบคุมและครองอำนาจทางการเมือง

    แต่ลืมซีเรีย และลืมการแทรกแซงทางทหารของรัสเซียเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายสักประเดี๋ยว ขอให้ฉันได้พาคุณข้ามพ้นความสับสนวุ่นวายทางการเมืองในขณะนี้ไปยังแง่มุมที่ใหญ่กว่า แต่ขอเตือนไว้หน่อยว่า ฉันไม่ได้บอกตรงนี้ว่าตัวเองมีความจริงครบถ้วนใดๆ เกี่ยวกับเรื่องราวของโลก ฉันแค่เสนอว่าให้เรามองถึงความเป็นไปได้ต่างๆ จากมุมมองที่กว้าง ขณะเดียวกัน ปัญหามากมายของโลกนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาบอกกับเราที่เป็นประชาชนว่า แบบอย่างเดียวเท่านั้นที่ควรค่าแก่การมีก็คือ… ความฝันของอเมริกาที่น่าชังที่สุด!

    เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่สหรัฐฯ ได้ผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจของโลก เป็นยักษ์ใหญ่ที่ตั้งอยู่บนกองเถ้าของจักรวรรดิ์อังกฤษ อเมริกาไม่รู้จักอำนาจท้าทายที่แท้จริงต่ออิทธิพลทางการเมืองของมันเลย อาจจะยกเว้นแค่จากสหภาพโซเวียตรัสเซีย ย้อนกลับไปในสมัยสงครามเย็น แต่ตอนนั้น แรงดึงของโซเวียตรัสเซียมีจำกัดอยู่แค่การไปให้ถึงอุดมการณ์ทางการเมืองของตน ในขณะที่ระบอบทุนนิยมอเมริกาลงแข่งขันเพื่อควบคุมทรัพยากรทั้งหมดทั่วโลกไปแล้ว
    รัสเซียวันนี้แตกต่างกันมากจากรัสเซียในยุค 1980s … รัสเซียวันนี้กลายเป็นผู้นำประเทศต่างๆ เป็นสัญลักษณ์การระดมพลสำหรับกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และที่สำคัญพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า วิธีของอเมริกาไม่ใช่วิธีเดียวที่มี นี่ไม่ใช่การโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซียแต่อย่างใด! ข้อความข้างบนเป็นแค่การสะท้อนความเป็นจริงทางการเมืองที่เรากำลังประสบอยู่ รัสเซียได้กลายเป็นทางเลือกอื่นที่แท้จริงจากความเป็นจ้าวอำนาจของอเมริกาเพียงทางเลือกเดียวในด้านอิทธิพลทางการเมืองภายในประชาคมระหว่างประเทศ และไม่ใช่แค่ในตะวันออกกลาง แต่ทุกที่ และในขณะที่หลายคนอาจไม่เห็นด้วยกับสไตล์การเมืองของประธานาธิบดีปูติน แต่อย่างไรก็ตาม หลายคนยอมรับว่านโยบายต่างประเทศและเป้าหมายของรัสเซียมีความแผ่กระจายน้อยกว่าการนำของสหรัฐฯ มาก รัสเซียไม่ได้หวังที่จะเป็นอาณาจักรหนึ่งเหมือนที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เสนอ แต่จะเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ของโลกตัวหนึ่งภายในเครือข่ายแน่นหนาของความสัมพันธ์และความร่วมมือเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย

    กลุ่มอนุรักษ์นิยมใหม่ (Neo-cons) คัดค้านเรื่องนี้ ฉันแน่ใจว่าตอนนี้คุณคงต้องการจะระเบิดใส่บทความนี้และทำให้ฉันรู้ว่าฉันเบาปัญญาแค่ไหนที่ไม่เชื่อว่าอเมริกาถูกเลือกมาจากพระเจ้าเพื่อให้เป็นผู้นำของมนุษย์และประเทศต่างๆ
    เรากลับไปที่ตะวันออกกลางกัน ต่อไปนี้คือพัฒนาการบางอย่างที่คุณอาจจะพลาดไปเพราะองค์กรสื่อได้ระดมข้อมูลที่ผิดๆ เข้าใส่สมองทั้งสองซีก

    ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซาอุดิอารเบียซึ่งเป็นราชอาณาจักรที่ปกครองด้วยแนวคิดวะฮาบีขั้นสูง ได้มีการออกคำฟัตวา (คำวินิจฉัยของอิสลาม) โดยนักการศาสนาหลายครั้งที่ระบุว่า กองทหารรัสเซียทั้งหมดในซีเรียนั้นเป็นคนนอกศาสนา ด้วยเหตุนี้จึงเรียกร้องให้สังหารพวกเขาโดยทันที และอย่าง “เป็นธรรม” เท่าที่ผู้นำอัลซาอูดสนใจก็คือ ทุกคนที่ต่อต้าน “กฎหมายศักดิ์สิทธิ์” ของตนก็คือศัตรูของพระเจ้าด้วย… อเมริกาดูเอาไว้ คุณไม่รู้หรอกว่าวะฮะบีพวกนั้นจะเตรียมฟัตวาอะไรไว้เป็นลำดับต่อไป

    คุณอาจจะถามว่าทำไมมันจึงสำคัญนัก? ซาอุดิอารเบียเปลี่ยนจากการสนับสนุนการก่อการร้ายในตะวันออกกลางอย่างลับๆ มาเป็นการเรียกร้องให้ปกป้องนักรบก่อการร้ายที่มีค่าของมันในภูมิภาคนี้อย่างเปิดเผย แล้วตอนนี้รัสเซียเป็นอันตรายต่อปฏิบัติการของมันในซีเรีย ริยาดจึงต้องเอาปืนใหญ่ออกมาและเล่นเกมศาสนา

    ตอนนี้ “นั่น” ทำให้วอชิงตันอยู่ในจุดที่ยากลำบาก เพราะจากเงินหลายพันล้านดอลล่าร์และน้ำมันดิบหลายพันล้านบาร์เรล อัล-ซาอูดกำลังกลายเป็นภาระรับผิดชอบที่สหรัฐฯ ไม่ปรารถนาจะมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเล่นกับการก่อการร้ายเพื่อเพิ่มแต้มทางการเมืองไม่ได้ผลอย่างแท้จริง ถามว่าทำเนียบขาวจะทำอะไรได้? ประธานาธิบดีบารัก โอบาม่า ไม่สามารถตำหนิพันธมิตรที่ไว้ใจได้มากที่สุดและร่ำรวยที่สุดในภูมิภาคนี้ของเขาอย่างเปิดเผยได้จริงๆ ใช่ไหม? อย่างน้อยก็ทำไม่ได้โดยไม่ให้มีผลสะท้อนกลับทางการเงินและการเมืองอย่างร้ายแรง

    ถ้าเพียงแต่มีสักประเทศหนึ่งที่สามารถและอยากจะจัดการกับซาอุดิอารเบีย?

    เดี๋ยวก่อน! มีสิ… อิหร่านไง

    จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวอชิงตันจะสนับสนุนอิหร่านอย่างลับๆ ในขณะที่เตหะรานไล่ตามริยาดอยู่ในเกมการแข่งขันช่วงชิงความเป็นจ้าวอำนาจแห่งภูมิภาคครั้งใหญ่? นั่นคงจะเป็นตัวแทนที่ถูกส่งมาจากสวรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนโยบายต่างๆ ของอิหร่านอยู่ในนิยามของการต่อต้านซาอุดิอารเบีย หรือน่าจะเป็นต่อต้านวะฮาบีมากกว่า อิหร่านไม่ได้มีปัญหาในเนื้อแท้ใดๆ กับซาอุดิอารเบีย ตัวผู้นำและการแพร่ความสุดโต่งทางศาสนาของมันต่างหากที่เตฮะรานรังเกียจมากที่สุด

    ความคิดเรื่องการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับอเมริกาอาจจะฟังดูเหมือนไม่น่าจะเป็นไปได้เมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ใช่วันนี้

    วันนี้ วอชิงตันพบว่าตัวเองอยู่ตรงทางแยกที่ยากลำบาก

    อเมริกาสามารถที่จะยืนเคียงข้างพันธมิตรในตะวันออกกลางของตนและเฝ้ามองขณะที่เงินหลายพันล้านของอัล-ซาอูดกลืนกินอิทธิพลของตะวันตก หรือไม่ก็วางตัวเองให้อยู่ในแนวเดียวกับมหาอำนาจเหล่านั้นที่พยายามจะนำดุลยภาพแบบใหม่เข้ามาสู่ภูมิภาคนี้

    เวลากำลังจะหมดลงสำหรับวอชิงตัน เมื่อตอนนี้มอสโกได้เข้ามาสู่การต่อสู้นี้

    สาระสำคัญปรากฏขึ้นแล้วนะกลุ่มอนุรักษ์นิยมใหม่! อาณาจักรทั้งหลายกำลังเสื่อมถอย และเรื่องเล่าของโลกบทใหม่กำลังจะอารัมภบทขึ้น โดยการอนุเคราะห์ของประธานาธิบดีปูติน ไม่มีแม่แบบตายตัวให้ต้องปฏิบัติตามอีกต่อไป ยินดีต้อนรับเข้าสู่ระบบ “พหุนิยม” (pluralism)



    —-

    เกี่ยวกับผู้เขียน : แคเทอรีน ชัคดัม เป็นนักวิเคราะห์การเมือง, นักเขียน และนักวิจารณ์เกี่ยวกับตะวันออกกลาง โดยเน้นเป็นพิเศษในเรื่องขบวนการหัวรุนแรงและเยเมน ผลงานของเธอตีพิมพ์เผยแพร่ในสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีชื่อเสียงของโลก เช่น Foreign Policy Journal, Mintpress News, The Guardian, Your Middle East, Middle East Monitor, Middle East Eye, Open Democracy, Eurasia Review และอีกมากมาย เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางสถานี RT ยังเขียนบทวิเคราะห์ให้กับ Etejah TV, สถานีวิทยุ IRIB, Press TV และ NewsMax TV เป็นผู้อำนวยการโครงการต่างๆ ของสถาบัน Shafaqna เพื่อการศึกษาตะวันออกกลาง และเป็นที่ปรึกษาให้กับ Anderson Consulting งานวิจัยและผลงานเกี่ยวกับเยเมนของเธอถูกนำไปใช้โดยคณะมนตรีความมั่นคงสห ประชาชนในเรื่องที่เกี่ยวกับเยเมนถูกปล้นกองทุนในปี 2015


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    การปะทะของยักษ์ใหญ่แห่งตะวันออกกลาง : ความเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์การเมืองที่แน่นอนใน
     

แชร์หน้านี้

Loading...