ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    กลาโหมสหรัฐฯยอมเจรจาข้อตกลงการติดต่อทางกองทัพกับรัสเซียหารือกรณีซีเรียร่วมกัน (จริงใจหรือซ่อนเงื่อน?)

    [​IMG]

    -------------
    สุดท้ายสหรัฐฯก็ไม่สามารถเล่นไม้แข็งดื้อรั้นขัดขวางไม่ให้รัสเซียเข้าไปช่วยแก้ไขวิกฤตในซีเรียต่อไปอีกไม่ได้ หลังจากที่ทำฟุดฟัดใส่รัสเซียมาได้สักพัก แต่แล้วก็ต้องทำเสียงอ่อยลงเมื่อรัสเซียยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้สหรัฐฯเข้าไปปู้ยี่ปู้ยำซีเรียอย่างอิรัคและลีเบียอีกต่อไป และทางรัฐบาลซีเรียก็ส่งสัญญาณบอกต่อยูเอ็นเลยว่ามันเป็นสิทธิ์ของซีเรียที่จะอนุญาตให้รัสเซียส่งกองทัพเข้าไปในซีเรียเพื่อช่วยปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายไอซิส ในขณะที่กองทัพพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯไม่เคยได้รับความเห็นชอบจาก UNSC และจากรัฐบาลให้เข้าไปในดินแดนของซีเรียด้วยซ้ำไป ยังหน้าด้านพากันไปทิ้งระเบิดใส่ประเทศเขาได้ แล้วทำไมรัสเซียจะต้องเป็นข้อยกเว้นด้วย นี่ทางซีเรียเขาโวยมาอย่างนี้ สหรัฐฯก็ก้มหน้าสิครับท่าน
    ล่าสุด (18 ก.ย.58) สำนักข่าว RT news ของรัสเซียรายงานว่า ผู้นำของกระทรวงกลาโหมของรัสเซียและเพนตากอนได้ตกลงร่วมกันว่าจะฟื้นฟูความสัมพันธ์ด้านกองทัพและยังคงให้คำปรึกษา (ร่วมกัน) ต่อไป แถลงการณ์จากเจ้าหน้าที่ทางกองทัพของรัสเซีย (เห็นมะ สุดท้ายก็หงอย พอรัสเซียเอาจริงขึ้นมากลับเปลี่ยนท่าทีที่แข็งกร้าวก่อนหน้านี้ทันที ขอเจรจากับรัสเซียดีกว่า ก็คล้ายกับกรณีความขัดแย้งกับจีนที่สหรัฐฯทำเป็นออกมาขู่ฟ่อๆก่อนหน้านี้นั่นแหละ สุดท้ายก็หันไปจับมือกับจีนจนได้)
    รายงานข่่าวบอกว่า Sergey Shoigu รมว.กลาโหมของรัสเซียและ Ashton Carter เพื่อนของเขา (กลาโหมของสหรัฐฯ) ได้คุยกันทางโทรศัพท์เมื่อวันศุกร์นี้เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลางและวิกฤตซีเรีย รวมทั้งประเด็นอื่นๆด้วย ทั้งสองฝ่ายได้ตกตงที่จะฟื้นฟูการติดต่อต่างๆระดับกระทรวงร่วมกัน
    นาย Igor Konashenkov โฆษกกลาโหมของรัสเซียกล่าวว่า "รัฐมนตรีทั้งสองท่านได้มีความเห็น (ร่วมกัน) เกี่ยวกับการฟื้นฟูการติดต่อระหว่างกองทัพกับกองทัพร่วมกัน (military-to-military contacts) และตกลงร่วมกันเพื่อดำเนินการให้คำปรึกษาต่อไป"
    นาย Igor Konashenkov กล่าวต่อไปว่า "รายละเอียดของการปรึกษาหารือกันที่ใช้เวลาชั่วโมงกว่านั้นได้รับการเปิดเผยว่า มุมมองของกรุงมอสโคว์และกรุงวอชิงตันเป็นสิ่งที่ 'ใกล้ชิด หรือ ตรงไปตรงมา' ในทุกประเด็นที่มีการพิจารณา" รัฐมนตรีทั้งสองท่านยังได้พูดคุยในความจำเป็นเกี่ยวกับความร่วมมือในความพยายามทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาดีเพื่อต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายทั่วโลกด้วย
    รายงานข่าวบอกว่านี่เป็นการติดต่อกันเป็นครั้งแรกระหว่างรัฐมนตรี (กลาโหมทั้งสองประเทศ) ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯยังความจมปลักเพราะปัญหาความขัดแย้งในยูเครน
    รัสเซียไม่โง่พอที่จะให้สหรัฐฯหลอกใช้งานได้ง่ายๆหรอกนะ ดูตัวอย่างนี้ซะก่อน ในข่าวเดียวกันนี้สื่อฯรัสเซียก็ลงคำพูดของนาย Jim Jatras อดีตทูตสหรัฐฯที่กล่าวกับสำนักข่าว RT ว่า "ข้อตกลงเมื่อเร็วๆนี้อาจจะการฝ่าอุปสรรคขนาดใหญ่ในความขัดแย้งทั้งในยูเครนและในซีเรีย อย่งไรก็ตาม ผู้ที่มีความเห็นตรงข้ามในความร่วมมือต่อประเทศเหล่านั้นในรัฐบาลของประธานาธิบดีโอบาม่า จะไม่แฮ็ปปี้หรือยินดียอมรับสายชูชีพที่กรุงมอสโคว์กำลังเสนอ เพราะว่าสำหรับคนเหล่านั้นแล้ว ซีเรียเป็นเพียงการแสดงย่อยคั่นเวลา (sideshow) เท่านั้น ก็เหมือนกับยูเครน ศัตรูที่แท้จริงก็คือรัสเซีย และยิ่งกว่านั้นก็คือดามัสกัส" (นั่นไงมุมมองและความต้องการที่แท้จริงของสหรัฐฯหละ นี่คือคำพูดของอดีตทูตสหรัฐฯเลยนะ แต่ดูเหมือนว่าหมอนี่จะสับสนกับคำพูดของตัวเองไปหน่อย ตอนแรกบอกว่าซีเรียเป็นแค่โชว์คั่นเวลา แต่ตอนสุดท้ายบอกว่าศัตรูที่แท้จริงก็คือกรุงดามัสกัสซึ่งก็คือเหมืองหลวงของซีเรียนั่นแหละ เขางงกับคำพูดของตัวเองบ้างไหมนี่?)
    ในขณะที่ด้านหนึ่งสหรัฐฯเหมือนกับว่าแสร้งหันมาเจรจาและพร้อมที่จะร่วมมือกับรัสเซีย แต่อีกด้านหนึ่งก็ส่งระดับลูกกระจ๊อกออกมาขู่ฟ่อๆปนดูถูกรัสเซียตามนิสัยเดิมของอันธพาลโลกอีกว่า "กลุ่มประเทศที่เรียกว่าพันธมิตรของพวกเรา - ซาอุดิอาระเบีย รัฐอ่าวอาหรับ - ซึ่งคาดว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรที่พูดกันตรงๆว่าน่าขบขันเพื่อต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิสได้มีวาระของตนเอง (แล้วคุณจะขำไม่ออก ขนาดรัสเซียบอกว่าจะส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปให้ซีเรีย สหรัฐฯยังเต้นเป็นผีเข้าเลย รอดูตอนจบดีกว่าไหม?)" นาย Jatras จ้อกับ RT ต่อไปอีกว่า "แนวความคิดที่ว่ามีพันธมิตรที่มีประสิทธิภาพเพื่อต่อต้านผู้ก่อการร้ายไอซิสที่นำโดยสหรัฐฯเป็นเรื่องที่ไร้สาระเหมือนกับความล้มเหลวของกลุ่มที่เรียกว่าผู้ก่อการร้ายสายกลางของพวกเราในซีเรีย" (The idea that there is an effective coalition against ISIS led by the United States is as absurd a failure as our so-called moderate terrorists within Syria.) (อ้าว! ตอนแรกเรียกว่า "กบฏสายกลาง" (moderate rebels) คราวนี้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "ผู้ก่อการร้ายสายกลาง" (moderate terrorists) ไปซะแล้วหรือ? ตกลงว่ายอมรับแล้วว่าสหรัฐฯสนับผู้ก่อการร้ายจริงๆใช่ไหมนี่? กรรม!)
    นาย Jatras ยังกล่าวเพิ่มอีกว่า ความร่วมมือของรัสเซียกับสหรัฐฯอาจจะส่งเสริมความมีประสิทธิภาพในแคมเปญจ์ต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายไอซิส ช่วยให้หลีกเลี่ยง "สถานการณ์ที่ไม่ได้ตั้งใจ" (unintended incidents) (คงกลัวว่าจะโดนกองทัพรัสเซียสอยเครื่องบินรบและโดรนของสหรัฐฯรวมทั้งลูกสมุนของสหรัฐฯในซีเรียด้วยหละสิ?) และเปิดประตูให้กับความร่วมมือของสหรัฐฯกับรัฐบาลดามัสกัส (นี่หมอนี่กำลังเสี้ยมให้เกิดความแตกแยกภายในของรัฐบาลซีเรีย หวังให้รัฐบาลซีเรียโค่นอัสซาดเอง เป็นไงเล่าลีลาลิ้นอดีตทูตอีแร้ง ไม่น่าเชื่อว่าพวกนี้คิดแต่เรื่องชั่วๆแบบนี้ได้ยังไง)
    เดี๋ยวจะหาว่ากล่าวหาและต่อต้านอเมริกาอีกงั้นมาอ่านคำพูดของนาย Jatras กันต่อเลยว่าความต้องการที่แท้จริงของสหรัฐฯนั้นคืออะไรกันแน่ Jatras กล่าวว่า "สิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นสำหรับกรุงวอชิงตันก็คือเพื่อยืนยันในที่สุดว่าอัสซาดจะไม่หนีไปไหน เรื่องนี้ทำให้มโน (fantasy) ไปได้ว่า "พวกเขาได้สนุกสนานมาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว (ก็คงจะเหมือนกับที่รัฐบาลโอบาม่าเอ็นเตอร์เทนในการทำสงครามมาได้ 6 ปีกว่าแล้วสินะ?) และด้วยการผลักเบาๆอัสซาก็จะจากไปแล้ว อัสซาดจะต้องไป (Assad must go) จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกว่าจะถึงวันนั้น (nothing can happen till then) นั่นคือจุดสิ้นสุด พวกเขาจะต้องรับรู้ความเป็นจริง (ความเป็นจริงในมุมองของใคร?) ที่ว่า รัฐบาลซีเรียจะอยู่ที่เดิม ซึ่งอาจจะมีการปรองดองในทางการเมืองกับองค์ประกอบทางการเมืองที่แท้จริงภายในซีเรีย"
    The Eyes
    19/09/2558

    ภาพจาก Russian Defense Minister Sergei Shoigu (L) and U.S. Secretary of Defence Ashton Carter. © RIA Novosti / Reuters

    ----------
    Russian defense, Pentagon chiefs agree to restore military contacts, discuss Syria — RT News
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    [​IMG]

    คอมมิวนิสต์จีนบุกอเมริกาประชาธิปไตยเบอร์1ของโลก... จีนร่วมทุนกับสหรัฐฯสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงตะวันตกของสหรัฐฯ (อ้าวววว! ยังไงหละนี่? ก็ไหนว่าของจีนไม่มีคุณภาพและประชาธิปไตยอเมริกาเขาไม่ค้าขายกับประเทศที่เป็นคอมมิวนิสต์ไม่ใช่รึ? ฮิ้ววววว)
    -----------
    เมื่อวันที่ 17 ก.ย.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักมากต่างก็ลงข่าวนี้เช่น Sputnik ของรัสเซีย AP, Reuters, BBC, The Wall Street Jounal, Bloomberg, People's Daily Online ยกเว้น CNN ฮ่าๆๆๆ หาข่าวนี้จาก CNN ไม่เจอจริงๆ มันเป็นอะไรอ่ะ กะอีแค่ข่าวบริษัทรถไฟความเร็วสูงของจีนไปลงทุนในสหรัฐฯก็ไม่กล้าลงข่าวให้ชาวอเมริกันรู้เลยหรือ? เป็นเอามากนะสื่อฯอเมริกาบางสำนัก
    อ่านข่าวต่อดีกว่านะครับ... รายงานข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาบอกว่า จีนจะเข้าร่วมในโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูง (high-speed rail line) ในสหรัฐฯ
    สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียอ้างข่าวจาก BBC ว่า สมาคมผู้ประกอบการรถไฟของจีนกำลังจะร่วมมือกับบริษัท XpressWest ของสหรัฐฯเพื่อก่อสร้างเส้นทางรถไฟสาย Las Vegas-Los Angeles
    บริษัท XpressWest จะจัดตั้งรูปแบบการร่วมทุนกัน (joint venture) กับบริษัท China Railway International USA ของจีนซึ่งเป็นการรวมต่างๆซึ่งเป็นกิจการของรัฐในกลุ่ม China Railway Group, CRRC, China State Construction Engineering Corporation และ China Railway Signal & Communication Corporation เข้าด้วยกัน โครงการนี้มีมูลค่าถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.77 แสนล้านบาท)
    เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วสื่อฯจีนประกาศว่าได้กลายเป็นผู้นำของโลกในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง อันนี้จริง รอยเตอร์ก็ยืนยันเช่นนั้น โดยในบรรทัดแรกของย่อหน้าแรกของข่าวนี้รอยเตอร์สบอว่า กลุ่มบริษัท CRRC Corp ของจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยวัดจากผลประกอบการ (the world's biggest train maker by revenue) ได้ลงนามข้อตกลงที่จะช่วยสร้างการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟความเร็วสูงตามที่ได้มีการวางแผนไว้จากลาสเวกัสไปถึงลอสแองเจลลิส ซึ่งตอกย้ำความทะเยอทะยานที่สูงส่งในต่างประเทศของยักษ์ใหญ่เจ้ารถไฟ (ฮั่นแน่... ดูการใช้คำพูดของพวกสื่อฯขี้อิจฉาสิ พวกนี้มันเก็บอาการขี้อิจฉาตาร้อนไว้ไม่ไหว จะแสดงออกมาทางคำพูดให้เราเห็นถึงบางอย่างที่ซ่อนอยู่ลึกๆภายในของพวกเขา ก็ไหนว่ามีเสรีภาพในการค้าขายในระบบทุนนิยมไง พอจีนเข้าไปลงทุนและชนะคู่แข่งรายอื่นเช่นฝั่งเศสและเยอรมันสื่อฯแคนาดากลับใช้คำว่า "ทะเยอทะยานสูงในต่างประเทศ (lofty overseas ambitions)" ซะงั้นหละครับ? เก็บอาการหน่อยสิครับรอยเตอร์ส)
    ยังมีอีกนะในย่อหน้าที่สามรอยเตอร์สยังแซะจีนอีกว่า "บริษัทฯ (CRRC Corp ของจีน) เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำหลายแห่งไล่ล่าข้อตกลงการในการสร้างรถไฟความเร็วสูงอย่างก้าวร้าวของจีน (China's aggressive pursuit overseas high-speed rail deals) ในการแข่งขันกับผู้ประกอบการท้องถิ่น..." เป็นไงเล่าลีลาการเล่าข่าวแบบไม่เต็มใจจะเขียนข่าวของรอยเตอร์ส เฮียสีบอกปล่อยให้มันบ่นไป เราก็เดินหน้าโครงการนี้เต็มที่ เดี๋ยวมันก็พากันใช้บริการรถไฟความเร็วสูงของจีนเองนั่นแหละ ไอ้พวกปากว่าตาขยิบ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกงนี่จะไปเอาอะไรกันมันมาก ไปจิบชาจีนชั้นดีดีกว่า คริๆ
    ส่วนรายงานข่าวจากสื่อฯจีนบอกว่า โครงการเส้นทางรถไฟความเร็วสูงโครงการแรกในการลงทุนร่วมกันระหว่างสหรัฐฯกับจีนนี้จะเริ่มลงมือก่อสร้างได้ในเดือนกันยายนปี 2016 อ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน โครงการนี้มีความยาว 370 กิโลเมตร มีชื่อเรียกว่า "Southwest Rail Network" ซึ่งจะเชื่อมต่อ Las Vegas, Nevada และ Los Angeles, California เข้าด้วยกัน
    ข้อมูลเบื้องต้นจากเว็บไซต์ของ XpressWest บอกว่าเป็นรถไฟความเร็วสูงประมาณ 150 ไมล์./ชม.ใช้ระยะเวลาเดินทางจากลาสเวกัส (ถึงแอลเอ) ประมาณ 80 นาทีแบบไม่มีหยุดพักระหว่างทาง จะมีการเช็กอินแบบโรงแรมและบริการต่างๆแบบภัตตาคาร และยังมีคลับบรรเทิงพร้อมทั้งอาหารและ Wi-Fi ให้บริการแก่ลูกค้าด้วย
    รายงานข่าวจากรอยเตอร์สยังบอกอีกว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา CRRC ของจีนได้ก่อสร้างโรงงานในสหรัฐฯซึ่งจะผลิตรถไฟสำหรับระบบรถไฟใต้ดินให้กับเมือง Boston รัฐ Massachusetts ด้วย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงมูลค่า $556 ล้านเหรียญสหรัฐฯที่บริษัท CNR ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ CRRC ได้บรรลุข้อตกลงกับทางสหรัฐฯเมื่อเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา
    อัยย๊ะ! ทำไมจีนผู้ก้าวร้าวและไม่เป็นประชาธิปไตยถึงได้เข้าไปฮุบโครงการเมกาโปรเจคในสหรัฐฯตัดหน้ามหามิตรอย่างอียูและญี่ปุ่นไปเฉยเลยหละนี่? เอ… พักนี้รู้สึกว่าสหรัฐฯจะหันมานิยมใช้ของจีนมากขึ้นแบบไม่เกรงใจโปรอเมริกากันบ้างเลยนะ หรือว่าสหรัฐฯแอบปิ้งคอมมิวนิสต์จีนเข้าให้แล้วหนอ? คริๆ ตายหละหว่า.... ถ้าวันหนึ่งรัฐบาลสหรัฐฯบอกว่าเบื่อประชาธิปไตยแล้ว จะหันไปเป็นสังคมนิยมอย่างจีนบ้าง เพราะสังคมนิยมบริหารไม่ขาดดุลการค้าต่างประเทศเลย ในขณะที่รัฐบาลประชาธิปไตยของสหรัฐฯบริหารแล้วขาดดุลกับจีนและญี่ปุ่นติดต่อกันหลายปี โปรอเมริกาจะว่าอย่างไรบ้างหละนี่? อันนี้เรื่องจริงนะครับ เรื่องการบริหารการค้าระหว่างประเทศแล้วขาดดุลติดต่อกันหลายปีของสหรัฐฯนี่ เคยลงข่าวให้อ่านแล้วเมื่อเดือนก่อนที่นักเศรษฐศาสตร์สหรัฐฯบางคนออกโวยวายว่าเยอรมันบริหารเศรษฐกิจอย่างไรถึงได้เกินดุลและได้กำไรตลอด แบบนี้ในสายตาของนักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกันคนนั้นบอกว่า เยอรมันบริหารเศรษฐกิจผิดพลาด ดังนั้นจะจึงเสนอให้ประเทศสมาชิกอียูที่เหลือช่วยกันขับเยอรมันออกจากอียู ซะงั้น ฮ่าๆๆ มีอย่างนี้ในโลกด้วยนะ ต้องที่อเมริกาเท่านั้นครับ
    เออ… พอพูดถึงเรื่องรถไฟความเร็วสูง ก็นึกขึ้นได้ จำได้ว่าช่วงที่รัฐบาลคสช.หันไปจับมือกับจีนในการลงทุนในโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูงในประเทศไทยเพื่อเชื่อมโยงเข้ากับเส้นทางสายไหมของจีนในอนาคต ก็มีพวกค้านสุดซอย โปรอเมริกาทั้งหัวดำหัวหงอกดาหน้ากันออกมาคัดค้าน ขนาดอดีตทูตคอลัมนิสต์บางคนยังไปเขียนเหน็บประมาณว่าคอมมิวนิสต์จีนจะยึดประเทศไทยเพราะไทยหให้จีนมาสร้างเส้นทางรถไฟให้ อุยยยยส์ พ่อเจ้าประคุณเอ๊ยยยย ไปมุดอยู่ในรูไหนมาครับ หัดเสพข่าวให้ทันโลกบ้างเหอะ ไปดูซิว่าตอนนี้มีบริษัทจีนไปลงทุนในโครงการเมกาโปรกในสหรัฐฯแล้วเท่าไรบ้าง จีนเขารุกเข้าไปในสหรัฐฯตั้งแต่สมัยไหนแล้ว ไม่เห็นสหรัฐฯและยุโรปจะออกมาบอกว่าถูกคอมมิวนิสต์จีนบุกซักหน่อยเลยนิ
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    19/09/2558

    ภาพจาก © REUTERS/ Stringer

    ----------
    China to Take Part in Constructing High-Speed Rail Line in Western US
    http://en.people.cn/n/2015/0918/c90000-8951597.html
    China joins project to build high-speed rail between Los Angeles and Las Vegas | The Verge
    China, U.S. Reach Agreement on High-Speed Rail Before Xi Visit - Bloomberg Business
    Chinese firms to build high-speed rail in the US
    The US and China Just Made a Deal To Build High-Speed Rail Between LA and Vegas
    Chinese company to help build high-speed train between LA and Vegas
    A high-speed rail from L.A. to Las Vegas? China says it's partnering with U.S. to build - LA Times
    The Project • XpressWest Website
    https://en.wikipedia.org/wiki/XpressWest
    China Stresses the Positive Ahead of Xi Jinping’s U.S. Trip - WSJ
    XpressWest: A $6.9B bullet train from Victorville to Vegas - San Jose Mercury News
    China rail giant CRRC ramps up overseas drive as unit signs Las Vegas-Los Angeles deal | Reuters
    China, U.S. Reach Agreement on High-Speed Rail Before Xi Visit - Bloomberg Business
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ทูตซีเรียประจำยูเอ็นประกาศรัสเซียมีสิทธิ์ทุกอย่างที่จะต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายไอซิสบนแผ่นดินซีเรีย รัสเซียบอกว่าพร้อมจะส่งทหารเข้าไปตามคำร้องขอของซีเรีย

    [​IMG]

    -----------
    เอาแล้วไง ไม่ต้องปล่อยข่าวลือ จะเข้าก็บอกไปเลยว่าจะเข้าหละนะ แบบลูกผู้ชายไปเลย... ก่อนหน้านี้มีสื่อฯตะวันตกและของสหรัฐฯออกมาโพสต์ที่แชร์มาจากโซเชียลเน็ทเวิร์กอ้างว่าถ่ายโดยสมาชิกกลุ่ม Nusra Front สาขาของกลุ่มก่อการร้ายอัลเอด้าในซีเรียว่าเป็นเครื่องบินรบและโดรนของรัสเซียบินคู่กับเครื่องบินรบของซีเรียในซีเรีย และเห็นทหารของรัสเซียร่วมต่อสู้กับทหารซีเรียโดยบอกว่าได้ยินเสียงคุยกันทางวิทยุเป็นภาษารัสเซียจึงสรุปไปว่าน่าจะเป็นทหารรัสเซีย แต่สื่อฯที่เอาข่าวนั้นมาลงก็ไม่สามารถยืนยันหรือพิสูจน์แหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือได้ของข่าวดังกล่าว แต่ก็ยังเดินหน้าเล่นข่าวโจมตีดิสเครดิตรัสเซียต่อไป ฝั่งรัสเซียก็ออกมาปฏิเสธว่าข่าวนั้นไม่เป็นความจริง มีทหารของรัสเซียอยู่ในซีเรียจริง แต่ไม่ใช่เพื่อไปช่วยทหารของรัฐบาลซีเรียรบกับผู้ก่อการร้ายหรือพวกกบฏที่ต่อต้านรัฐบาล แค่ไปฝึกการใช้อาวุธและสนับสนุนทางเทคนิคให้ฝึกการใช้อุปกรณ์ทางทหารให้กับทหารของรัฐบาลซีเรียเท่านั้น และล่าสุดก็ช่วยขนสิ่งของบรรเทาทุกข์เพื่อไปช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และตั้งค่ายผู้ลี้ภัยในซีเรียเท่านั้น แล้วข่าวโจมตีรัสเซียแบบไม่มีมูลก็หายไป
    วันที่ 17 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ทูตซีเรียประจำยูเอ็นประกาศรัสเซียมีสิทธิ์ทุกอย่างที่จะต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายไอซิสบนแผ่นซีเรีย" (Syria Says Russia Has Every Right to Combat Islamic State on Its Soil) โอ้… อันนี้ชัดเจนมาก! นี่คือก้าวที่หนึ่งในการเปิดประตูบ้านเชิญกองทัพรัสเซียเข้าไปในซีเรียอย่างเป็นทางการ และไม่ใช่เฉพาะทหารช่างที่ไปช่วยสร้างค่ายผู้อพยพเท่านั้น คราวนี้เปิดทางให้รัสเซียสามารถส่งกองทัพจู่โจมเข้าไปได้เต็มรูปแบบเลย แหล่ม...
    เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Bashar Ja’afari เอกอัครราชทูตซีเรียประจำยูเอ็นกล่าวกับผู้สื่อฯข่าวว่า "ทำไมพวกอเมริกันถึงต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายไอซิสด้วยเครื่องบินรบของพวกเขาได้ และรัสเซียควรจะถูกห้ามจากการกระทำเช่นนั้นด้วยหละ? มันฟังขึ้นไหม? ไม่ ฟังไม่ขึ้นเลย" (Does it make sense? It doesn’t make sense. นี่เจ้าของประเทศเขาพูดอย่างนี้ จะให้หมายความว่าอย่างไรหละนี่? ก็แสดงว่างานนี้ซีเรียไฟเขียวให้รัสเซียส่งเครื่องบินรบเข้าไปในซีเรียอย่างเป็นทางการได้นะสิครับ)
    ทูตซีเรียกล่าวต่ออีกว่า "เหนือสิ่งอื่นใด พวกเรากำลังต่อสู้กับศัตรูคนเดียวกัน การให้ความช่วยเหลือทางด้านกองทัพของรัสเซียต่อกรุงดามัสกัสกำลังมาถึง ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือด้านความมั่นคงระยะยาวระหว่างสองประเทศ"
    แล้วฝ่ายรัสเซียมีปฏิกิริยาต่อทาทีที่เป็นบวกและอบอุ่นแบบนี้จากฝ่ายซีเรียอย่างไรบ้าง? วันที่ 18 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "รัสเซียก็พร้อมที่รับพิจารณาคำร้องของจากซีเรียเพื่อปฏิบัติการทางทหารต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายไอซิส" (Russia Ready to Consider Syria's Request for Military Action Against ISIL) ตะลึง ตึง โป๊ะ! เตรียมเชิดสิงโตได้เลยพี่น้องเอ๋ย
    วันนี้นาย Dmitry Peskov โฆษกกรุงเครมลินกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การมีส่วนร่วมทางกองทัพของรัสเซียในปฏิบัติการต่างๆ ในการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายไอซิสในซีเรียอาจจะมีการหารือในรูปแบบทวิภาคี ต่อคำร้องขอดังกล่าว
    นาย Dmitry Peskov กล่าวว่า "หากมีคำร้องขอ ดังนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการปรึกษาหารือกันและมีการทบทวนในกรอบสัญญาระดับทวิภาคี และการเจรจาระดับทวิภาคีด้วย ณ ตอนนี้ยังเป็นการยากที่จะถกเถียงกันในทางสมมุติฐาน" (แต่ไม่ได้บอกว่าในทางปฏิบัตินั้นยากหรือไม่นะ คริๆ)
    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา รมว.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าวว่า "กรุงดามัสกัสอาจจะร้องขอให้กรุงมอสโคว์ส่งกองทัพเข้าไปต่อสู้เคียงข้างกับกองทัพของฝ่ายรัฐบาลในการต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายในสงครามกลางเมืองหากมีความจำเป็น"
    เป็นอย่างไรเล่าทีนี้... งานนี้ปูตินเอาจริงซะด้วย สมุนของสหรัฐฯที่อยู่ในซีเรียมีอาการหนาวสั่นหน้าร้อนแน่ๆ มิน่าทางสหรัฐฯถึงได้ออกอาการกระวนกระวายลุกลี้ลุกลนนั่งไม่ติดรีบออกมาบอกว่ายินดีต้อนรับหากรัสเซียจะร่วมกองกำลังพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯด้วย ใครบอกหละว่ารัสเซียจะร่วมกับสหรัฐฯโดยให้สหรัฐฯนำ แบบนี้พวกกบฎก็รู้หมดสิว่ารัสเซียจะโจมตีจุดไหนเวลาใดบ้าง มันก็ไหวตัวทันและหลบหนีกันหมดพอดีสิ
    ในวันเดียวกันนี้หนังสือพิมพ์ Le Temps ของสวิทลงข่าวที่ไม่แน่ใจว่าชมหรือเหน็บกันแน่ว่า "ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ต้องการที่จะเป็นฮีโร่ ผู้สนับสนุนหลักที่จะช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้น (saves the day) และหยุดการนองเลือดในซีเรีย" (เป็นคำวิพากษ์วิจารณ์จากนักข่าวและนักสิทธิมนุษยชน)
    และในวันเดียวกันนี้ (18 ก.ย.58) Sputnik news ก็พาดหัวข่าวว่า "ไม่ว่าคุณจะชอบมันหรือไม่ก็ตาม: สหรัฐฯไม่สามารถเอาชนะกลุ่มก่อการร้ายไอซิสได้โดยปราศจากรัสเซีย" (Love It or Hate It: US Cannot Defeat ISIL Without Russia) อูยยยยส์... งานนี้สื่อฯรัสเซียเล่นแรงอ่ะ ก็สหรัฐฯเขาพึ่งจะประกาศไปหยกๆเองนิว่าเขามีชัยในสงครามปราบปรามการก่อการร้ายในซีเรีย (ประชาชนชาวอเมริกันส่วนมากก็เชื่อตามที่รัฐบาลของเขาพูดแบบนั้นด้วยนะ กรรม!)
    สื่อฯรัสเซียกล่าวว่า "ณ ตอนนี้บางคนอาจจะทึกทักเอาเองว่าสหรัฐฯได้เข้าใจว่ากำลังนำสันติภาพไปให้ซีเรียและปราบปรามผู้ก่อการร้ายไอซิสนั้นใกล้จะ (ประสบความสำเร็จแล้ว) โดยไม่ต้องให้รัสเซียเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย"
    นิตยสาร National Interest ด้านกิจการต่างประเทศของอเมริกายืนยันว่า "ในส่วนลึกแล้ว ผลประโยชน์ของรัสเซีย สหรัฐฯ ยุโรป อิหร่าน ซาอุดิอาระเบีย จีน และอินเดียอยู่ฝั่งเดียวกันในการต่อสู้กับศัตรูที่คุกคามพวกเขาทั้งหมด ทุกฝ่ายมีความเห็นร่วมกันว่าผู้ก่อการร้ายไอซิสจะต้องพ่ายแพ้ แม้ว่าประเทศเหล่านั้นจะมีความเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องของวิธีการ" (ก็ถ้าปล่อยให้สหรัฐฯและพันธมิตรเดินหน้าต่อไป ซีเรียคงไม่เหลืออะไรแน่ งั้นงานนี้คอยดูผลงานของเฮียปูตินบ้างดีไหม? ส่วนสหรัฐฯกับพวกก็ please step aside a little bit and watch the pro handles it. คริๆ)
    นิตยสาร National Interest กล่าวว่า "รัสเซียกำลังเรียกร้องให้มีการจัดตั้งกองกำลังพันธมิตรขึ้นมา ซึ่งด้านหนึ่งจะมีความสามารถอย่างแท้จริงในการยืนหยัดต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรง และอีกด้านหนึ่งจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอัสซาด ถ้าสร้างกองกำลังผสมนี้ขึ้นมาได้ ข้อตกลงนี้ก็จะรวมถึงตุรกี จอร์แดน และซาอุดิอาระเบียด้วย" (นั่น! ตายหละหว่าพันธมิตรปัจจุบันของสหรัฐฯทั้งนั้น แล้วกองกำลังผสมของรัสเซียจะมาจากไหน? ก็สมาชิกรัฐเอกราชอดีตสหภาพโซเวียต (CIS) ซึ่งได้จัดตั้งองค์กรสนธิสัญญาความปลอดภัยร่วม (CSTO) ขึ้นมา และอาจจะรวมถึงองค์กรร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ (SCO) ด้วย ก็เยอะอยู่นะ ส่วนมากก็เป็นอดีตโซเวียตเก่า แต่งานนี้จะมีทั้งจีน อิหร่าน และอินเดียเข้าร่วมด้วยนะสิ ก็เมื่อสหรัฐฯและยุโรปมีนาโต้ได้ แล้วทำไมฝั่งรัสเซียจะมี CSTO บ้างไม่ได้ แต่จุดประสงค์หลักในการเคลื่อนไหวของ CSTO ในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อไปรุกรานหรือท้ารบหรือแข่งขันกับนาโต้ แต่เพื่อต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายสากลไอซิสในตะวันออกกลาง)
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    18/09/2558

    ภาพจาก © Flickr/ kuhnmi

    ----------
    Syria Says Russia Has Every Right to Combat Islamic State on Its Soil
    Russia Ready to Consider Syria's Request for Military Action Against ISIL
    Love It or Hate It: US Cannot Defeat ISIL Without Russia
    Putin Saves the Day: Russia Plans to Unite World to Solve Syrian Conflict
    https://en.wikipedia.org/wiki/Collective_Security_Treaty_Organization
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    [​IMG]

    "ในการกล่าวสุนทรพจน์รางวัลโนเบลของเขาในปี 2009 โอบาม่าได้พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาโดยจำเพาะเจาะจง ผมหมายถึงว่าเขาผู้ซึ่งในความเป็นจริงแล้วได้ก่อสงครามขึ้นมาทั้งสองแห่งคือในอัฟกานิสถานและในอิรัค จะได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพได้ยอย่างไร? เขาจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร?" Geir Lundestad อดีตผู้อำนวยการสถาบันโนเบลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ (Nobel Peace Prize) ให้กับประธานาธิบดีบารัค โอบามาในปี 2009 กล่าว

    Geir Lundestad กล่าวว่า "คณะกรรมการรู้อยู่แก่ใจดีว่ามันเป็นข้อจำกัดกับสิ่งที่เขาได้รับ แต่พวกเราก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่จะสนับสนุนเขาในความพยายามที่สำคัญเหล่านี้ แม้กระทั่งโอบาม่าเองก็ไม่ได้คิดว่าเขาควรค่าต่อเกียรติยศนี้เลย"

    ภาพจาก © AP Photo/ Susan Walsh


    Meddle to the Medal
    http://sputniknews.com/.../nobel-peace-prize-obama-us.html
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    เหตุผลที่แท้จริงเบื้องหลังของสหรัฐฯและพันธมิตรบุกซีเรีย แฉโดยอดีตวุฒิสมาชิกชาวอเมริกันเองเลยนะครับ

    [​IMG]

    -----------
    Ron Paul และ Daniel McAdams อธิบายว่าทำไมนาง Samantha Power เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็นถึงพยายามสร้าง propaganda ตบตาประชาชนชาวอเมริกันด้วยนิทานที่แต่งขึ้นเอง (fabricated tales) เกี่ยวกับการดำเนินการทางกองทัพของรัสเซียในซีเรีย
    ด็อกเตอร์ Ron Paul อดีตสมาชิกสภาคองเกรสพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ และนาย Daniel McAdams ผู้อำนวยการสถาบัน Ron Paul Institute for Peace and Prosperity ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ยุทธศาสตร์ต่างๆของสหรัฐฯในตะวันออกกลางเกี่ยวกับนัยสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศต่างๆเช่น ลิเบีย อัฟกานิสถาน และซีเรีย
    McAdams กล่าวว่า "แถลงการของนาง Samantha Power เกี่ยวกับซีเรียในตอนหนึ่งซึ่เธอกล่าวว่า 'มันไม่ใช่ยุทธศาสตร์เพื่อชัยชนะ (it’s not a winning strategy)' นั้นช่างเป็นเรื่องที่น่าขบขัน (comical ตลกรับประทานเหลือหลาย) เพราะว่าหล่อนไม่เคยสร้างยุทธศาสตร์เพื่อชัยชนะเลย หล่อนเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญหลายคน (big voices) ที่ชอบนำระบบประชาธิปไตยไปสู่ลิเบียและมันก็ไม่ได้ผลเป็นอย่างมากซะด้วย" (นี่นักวิชการของสหรัฐฯเขาออกมาวิจารณ์เกี่ยวกับความล้มเหลวในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯที่มีต่อลีเบียนะ)
    MaAdams กล่าวต่ออีกว่า "รายงานที่มีการเปิดเผยเมื่อเดือนกรกฎาคมจากคณะกรรมการด้านข่าวกรองของสหรัฐฯบอกว่าการโจมตีของสหรัฐฯต่อผู้ก่อการร้ายไอซิสมีประสิทธิ์ผลน้อยมาก (had very little effect) หลังจากมีการเผยแพร่รายงานฉบับนี้ออกมา หลายคนได้ออกมากล่าวอ้าง (แก้ตัว) ว่าสหรัฐฯถูกดิสเครดิต เช่นอัสซาดรมแก๊สประชาชนของตัวเองตามที่มีการกล่าวหา"
    "ในปี 2013 สหัฐฯเกือบจะโจมตีอัสซาดโดยตรงสำหรับข้อกล่าวหานี้ แต่มันกลับกลายเป็นว่าข้อกล่าวหา (ที่ใส่ความอัสซาด) ไม่เป็นความจริงซักแอะเดียว แต่นาง Samantha Power ก็ยังพูดย้ำๆอยู่ว่าหากมันเป็นความจริง มันก็เป็นการสร้าง propaganda จริงๆ" (กรรม! นี่เขาปั้นเรื่องสร้างสถานการณ์ขึ้นมาเพื่อที่จะโค่นล้มรัฐบาลอัสซาดตั้งแต่ปี 2013 แล้วหรือนี่? จำได้ว่าตอนนี้ทั้งสื่อฯสหรัฐฯและสื่อฯตะวันตกมีการประโคมข่าวว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีทำร้ายประชาชนเสียชีวิตไปมากมาย แต่ก็ไม่มีหลักฐานใดๆว่าเป็นฝีมือของใครกันแน่ ตอนนี้มีการตั้งคณะกรรมการกลางจากยูเอ็นเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว รัสเซียก็ส่งคนของตนเองเข้าไปร่วมพิจารณาด้วย เพราะไม่ไว้ใจสหรัฐฯและพรรคพวก นี่เป็นเรื่องการเมืองที่ใช้ชีวิตประชาชนชาวซีเรียเป็นเครื่องมือ ก็คล้ายกับกรณีของเครื่องบิน MH317 ของมาเลเซียที่ตกในยูเครนตะวันออกเมื่อวันที่ 17 ก.ค.2557 นั่นแหละ มีการกล่าวหารัสเซียมาโดยตลอดเพื่อจะดึงมาสู่เกมการเมืองในความขัดแย้งของยูเครนให้ได้ และเพื่อที่จะได้ประนานและแซงชั่นรัสเซีย แต่จนบัดนี้คณะกรรมการที่พิสูจน์หลักฐานก็ยังไม่กล้าชี้ชัดออกมาซักที)
    ส่วนดร. Ron Paul ได้กล่าวว่า "ข้อกล่าวหาเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นข้ออ้าง (pretext) ในการตำหนิรัสเซีย และสร้างความเป็นปรปักษ์ (animosity) ระหว่างนาโต้กับรัสเซียขึ้นมา ซึ่งมันก็ได้ผลและขยายความรุนแรงต่อไปยังส่วนต่างๆของยุโรป เช่นยูเครนและลัตเวีย ซึ่งเป็นประเทศที่สหรัฐฯกำลังจะเอาขีปนาวุธแบบ cruise missiles เข้าไปติดตั้งไว้ มันเป็นส่วหนึ่งของโครงการ" (เป็นไงครับ พฤติกรรมพระเอกหนังฮอลลิวูดกับโลกแห่งความเป็นจริง สุดๆ สุดจะพรรณาครับท่าน!)
    McAdams กล่าวเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ (US airstrikes) ในซีเรียว่า "มีปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเฉพาะในซีเรียประเทศเดียวถึง 2,500 ครั้ง พวกเขาได้ทำลายโรงงานต่างๆ และระบบสาธารณูปโภค และสถานที่ทางธุรกิจต่างๆ นั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ประชาชน (ชาวซีเรีย) พากันหลบหนีออกไปเนื่องจากความสิ้นหวังโดยสิ้นเชิงทางเศรษฐกิจ" (กรรม! พฤติกรรมแบบนี้สหรัฐฯและนาโต้เคยใช้มาก่อนในการถล่มโคโซโว ( Kosovo War : 28 ก.พ.1998-11 มิ.ย.1999) ในยุคบิล คลินตันเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ซึ่งโคโซโวเละพอๆกับเมือง Kobani ของซีเรียนั่นแหละ กลายเป็นป่าช้าซากปรักหักพังคอนกรีดที่ไม่มีมนุษย์คนใดสามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้อีกต่อไป ให้โอบาม่ายกทำเนียบขาวไปอยู่ที่นั่นเอาไหม?)
    McAdams กล่าวต่ออีกว่า "ถ้าคุณฟังนัง Samantha Power (พูด) คุณก็จะชี้ชัดออกมาได้ว่าหากสหรัฐฯไม่หนุนหลังการเปลี่ยนแปลงระบบนี้ (โค่นประธานาธิบดีอัสซาด) มากพอแล้วหละก่อ มันก็จะกลายเป็นว่าประเทศนี้ได้เข้าสู่ความวุ่นวายถึงที่สุด" (ฮึ่ม! นี่ยังไม่วุ่ยวายหายนะพออีกหรือไง? ยังจะมีที่สุดของที่สุดกว่านี้อีกรึ? นักการเมืองอเมริกันพวกนี้ที่ชอบออกมาเรียกร้องเรื่องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพตอนทางการของประเทศต่างๆจับโจรได้เขาเห็นชีวิตพลเมืองของประเทศอื่นเป็นผักปลาไปหมดหรือไง?)
    Ron Paul ตั้งข้อสังเกตว่า "ผลประโยชน์ในทรัพยากรธรรมชาติของซีเรียอาจจะเป็นเหตุผลที่แท้จริงของการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯในกิจการต่างๆของประเทศนั้น" (นั่นไง! ความจริงเริ่มปรากฎออกมาแล้ว ผู้ก่อการร้ายไอซิสก็แค่ตัวละครตัวหนึ่งที่จักรวรรดิเฮเกยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการยึดพื้นที่บางส่วนของซีเรียและรุกรานซีเรียเท่านั้นเอง)
    Ron Raul กล่าวต่ออีกว่า "มันกลายเป็นยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯเพื่อพยายามลดอิทธิพลด้านภูมิรัฐศาสตร์ของรัสเซียและวิธีหนึ่งที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ก็คือลดความสำคัญของท่อน้ำมันของรัสเซียที่จะส่งไปยังยุโรปตะวันตก ซีเรียถือว่าเป็นศูนย์กลางที่สำคัญในแนวเส้นท่อเหล่านี้ ดังนั้น นี่จึงเป็นการแยกรัสเซียและอิหร่านในระดับหนึ่ง" (ย่อหน้าต่อไปเด็ดกว่านี้อีก แฉให้หมดเปลือก ปอกให้เกลี้ยงกันไปเลย โดยคนอเมริกันด้วยกัน)
    อดีตวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯที่ชื่อ Ron Paul คนนี้กล่าวต่อไปอีกว่า "เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาก็คือน้ำมัน (Their real goals are oil) แนวท่อ (แก๊ส) และภูมิรัฐศาสตร์หลังจากที่กำจัดอัสซาดออกไปได้แล้ว หากคุณมองไปที่ภูมิภาคทั้งหมด (ก็จะเป็นว่า) นโยบายของพวกเรา (รัฐบาลอเมริกัน) ไม่ได้ผล ขบวนการผู้ก่อการร้ายไอซิสเป็นผลมาจากสิ่งที่สหรัฐฯได้ก่อไว้ในตะวันออกกลาง" (นี่เขาพูดแบบรักษาหน้าประเทศของเขาเองอยู่นะ โดยไม่บอกว่าใครสร้างไอซิสขึ้นมา บอกแต่ว่ามันเป็นผลจากการกระของสหรัฐฯที่ไปทำไว้ในตะวันออกกลาง แล้วสหรัฐฯไปทำอะไรไว้ในตะวันออกกลางหรือถึงได้มีไอซิสโผล่ขึ้นมามากมายขนาดนั้น คุณเอาเม็ดพันธุ์ข้าวโพดฝังลงไปในดินจากนั้นก็รดน้ำใส่ปุ๋ยดูแลอยู่ประจำ แล้วมันจะงอกและเติบโตขึ้นเป็นต้นแอ็ปเปิลได้หรือเปล่า? ผู้มีสติปัญญาย่อมเข้าใจว่า Ron Paul หมายถึงอะไร)
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    18/09/2558

    ภาพจาก © AFP 2015/ STR


    ----------
    Is US Attempt to Change Regime in Syria All 'About Oil and Pipelines'?
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จักรวรรดิ์สหรัฐฯ ควรถูกตำหนิสำหรับวิกฤตการณ์ผู้ลี้ภัย
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ย. 18, 2015

    [​IMG]
    (ภาพ) เด็กชายลี้ภัยคนหนึ่งมองผ่านหน้าต่างตู้โดยสารของรถไฟไปเซอร์เบียขบวนหนึ่ง ที่ศูนย์ส่งต่อผู้ลี้ภัยแห่งใหม่ที่แนวชายแดนระหว่างกรีซและมาซิโดเนีย ใกล้เมือง เกฟเกลิจา เมื่อ 28 สิงหาคม

    เพรสทีวี – เอ็ดเวิร์ด ซาอิด นักทฤษฎีวรรณกรรมชาวอเมริกัน-ปาเลสไตน์ผู้มีชื่อเสียง ได้จำแนกความแตกต่างระหว่างลัทธิอาณานิคม(colonialism) กับลัทธิจักรวรรรดินิยม(imperialism) โดยกล่าวว่า การตั้งอาณานิคมเกิดขึ้นเมื่อผู้มีอำนาจเหนือกว่าเข้ามาช่วงชิงประเทศหนึ่งด้วยกำลัง ในขณะที่ลัทธิจักรวรรดินิยมเป็นการใช้อำนาจแบบนุ่มนวลซึ่งจะค่อยๆ แปลกแยกคนออกจากวัฒนธรรมแห่งมาตุภูมิของตน

    ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นมหาอำนาจแห่งจักรวรรดินิยมโดยเนื้อแท้ แต่มหาอำนาจของโลก ตามที่มันถูกเรียกนี้ จะไม่คิดอะไรเลยในการเปิดเผยเครื่องจักรสงครามที่ถูกห่อหุ้มไว้ของมันเมื่อใดก็ตามที่ลัทธิจักรวรรดินิยมไม่ได้เอื้อต่อผลประโยชน์ของวอชิงตัน


    ปัจจุบัน วิกฤติการณ์ผู้ลี้ภัยกำลังอยู่ในความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการเสียชีวิตอย่างน่าอนาถของเด็กชายอัยลัน เคอร์ดี้ วัย 3 ขวบ นอกชายฝั่งตุรกี สื่อรายงานไปพร้อมกับการแสดงความคิดเห็นอย่างมากมายเพื่อรับมือกับวิกฤติการณ์ที่กำลังเลวร้ายลง โดยที่กลุ่มผู้สนับสนุนการตั้งค่ายผู้ลี้ภัยพากันเรียกร้องให้ชาติต่างๆ ในยุโรปรับผู้ขอลี้ภัยเพิ่มขึ้น และกลุ่มขวาจัดก็ใช้วาทกรรมสร้างความเกลียดกลัวชาวต่างชาติและเหยียดชนชาติต่อผู้ลี้ภัยมุสลิมและผิวสี แต่สิ่งที่มักจะถูกละเลยในการรายงานข่าวของสื่อเกี่ยวกับสถานการณ์เหล่านี้ก็คือ ต้นกำเนิดของความชั่วร้ายทั้งหมดนี้ อันได้แก่ ความโลภของมหาอำนาจตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สหรัฐฯ ในการสถาปนาอำนาจครอบงำของตนเองเหนือโลกโดยผ่านวิธีการทางอ้อม และถ้าจำเป็น ก็ทางตรง


    จ้าวแห่งการล่าอาณานิคมและจักรวรรดินิยมสหรัฐฯ ยังคงทำงานอย่างเต็มกำลังในตะวันออกกลาง เอเชียกลาง และแอฟริกา ตามที่ ที.เจ. เปโทรว์สกี กล่าวไว้ในบทความของเขาเรื่อง “วิกฤติการณ์ผู้ลี้ภัยคือวิกฤติการณ์แห่งลัทธิจักรวรรดินิยม” (The Refugee Crisis is a Crisis of Imperialism.)

    นักวิเคราะห์ผู้นี้ยังเชื่อว่า จำนวนของผู้ลี้ภัยเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจนับตั้งแต่เริ่มต้น “สงครามต่อต้านการก่อการร้าย” ของสหรัฐฯ


    “ที่ใดก็ตามที่สหรัฐฯ และพันธมิตรจักรวรรดินิยมของมันได้เข้าไปแทรกแซง ไม่ว่าโดยผ่านปฏิบัติการทางทหารโดยตรงหรือการใช้สงครามตัวแทนทางอ้อม, การบ่อนทำลายเศรษฐกิจ และการทำรัฐประหาร ในนามของ ‘ประชาธิปไตย’, ‘สงครามต่อต้านการก่อการร้าย’ หรือ ‘ความรับผิดชอบในการปกป้อง’ ประชาชนผู้บริสุทธิ์หลายล้านคนถูกบีบให้พบกับความตายและความสิ้นหวัง พวกเขาไม่เหลือทางเลือกอื่นใดนอกจากต้องละทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองเพื่อไปเริ่มต้นเสี่ยงอนาคตกับการต่อสู้ดิ้นรนที่สิ้นหวัง” เขากล่าว


    พลเมืองชาวอัฟกัน “ผู้ยากจน, บอบช้ำ และสิ้นหวัง” ได้เผชิญกับการต่อสู้อย่างรุนแรงระหว่างผู้รุกรานต่างชาติที่นำโดยสหรัฐฯ กับนักรบตอลีบันมาเป็นเวลาหลายปี และยังคงล้มเหลวในการค้นพบสันติภาพและเสถียรภาพในแผ่นดินเกิดของพวกเขา


    สถานการณ์ของประเทศอาหรับในภูมิภาคนี้ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกกวาดไปด้วยรัศมีแห่งความหวังของการตื่นตัวของโลกอิสลาม ป่าวประกาศถึงยุคใหม่แห่งประชาธิปไตยและความเจริญรุ่งเรือง แต่ไม่นานความฝันนั้นก็ได้เปลี่ยนไปเป็นฝันร้ายเมื่อสหรัฐฯ และพันธมิตรได้เข้ามาอยู่ในสมการของรัฐอาหรับ ด้วยอ้างถึงความพยายามที่จะปกป้องสิทธิ์ของผู้แสวงหาประชาธิปไตย


    “ในปี 2011 เมื่อการประท้วงอาหรับสปริงได้กวาดไปทั่วตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ จักรวรรดิ์ตะวันตกได้จี้เอาความคับข้องใจอันชอบธรรมของมวลชนไปเป็นข้ออ้างเพื่อเข้าแทรกแซงในนามของ ‘ความรับผิดชอบในการปกป้อง’ และ ‘การส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย’” เปโทรว์สกี้ กล่าวต่อไป


    ตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดของความเจ็บปวดอันถาวรคือลิเบีย ที่ซึ่งการปฏิวัติอย่างมีความหวังของประชาชนต่อระบอบการปกครองอันยาวนานของจอมเผด็จการมุอัมมาร์ กัดดาฟี ต้องลงท้ายด้วยหายนะภัยเต็มขั้น อันเป็นผลมาจากการเข้าแทรกแซงของต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้
    “การโจมตีทางอากาศของนาโต้ได้ทำให้พลเมืองหลายร้อยคนเสียชีวิต และผลักดันให้ลิเบียต้องถอยกลับไปสู่ยุคหิน… หลายพันคนถูกสังหารเมื่อกลุ่มชนเผ่าที่เป็นอริกันและกลุ่มหัวรุนแรง ที่บางกลุ่มเป็นพันธมิตรกับไอซิซในเวลานี้ กำลังต่อสู้กันเพื่อควบคุมประเทศ” นักวิเคราะห์ผู้นี้ระบุ


    ดังนั้น มันจะเป็นเรื่องแปลกอะไรถ้าชาวลิเบียจะตัดสินใจหนีไปจากแผ่นดนิเกิดของตัวเองภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ที่ประเทศของพวกเขากำลังขับเคี่ยวอยู่กับสูญญากาศทางอำนาจอย่างรุนแรงและปัญหาความมั่นคงปลอดภัยอย่างหนัก?

    และความจริงก็เป็นเช่นเดียวกันนั้นกับสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย ซึ่งถูกกลืนกินด้วยไฟแห่งการต่อสู้ที่ต่างชาติหนุนหลังมาตั้งแต่ปี 2011 ไม่มีใครสามารถปฏิเสธความจริงที่ว่า กลุ่มก่อการร้ายดาอิชตักฟีรีกลุ่มนี้เป็น “ผลผลิตของการยึดครองอิรักอย่างผิดกฎหมายของสหรัฐฯ ที่ได้เข่นฆ่าชาวอิรักไป 1 ล้านคน” เปโทรว์สกี้บอกว่า หลักฐานที่โต้แย้งไม่ได้ยังยืนยันต่อไปอีกว่า “สหรัฐฯ และพันธมิตรได้ทำการฝึกซ้อมและสนับสนุนกลุ่มต่างๆ ของไอซิซ(ดาอิช) อย่างแข็งขัน นับตั้งแต่เริ่มต้นสงครามตัวแทน (proxy war) ในซีเรีย”


    สถานการณ์ในซีเรียกลายเป็นเรื่องประหลาดและน่าขัน เมื่อมหาอำนาจกลุ่มเดียวกันกับที่ได้สร้างและบ่มเพาะพวกดาอิชขึ้นมา กลับตัดสินใจในภายหลังที่จะระเบิดที่ตั้งของกลุ่มตักฟีรีกลุ่มนี้ด้วยข้ออ้างที่จะสะกัดกั้นการรุกคืบของลัทธิก่อการร้ายและหัวรุนแรงในภูมิภาคนี้ ด้วยเหตุนี้ ประชาชนชาวซีเรียจึงไม่มีหนทางอื่นนอกจากต้องเลือกระหว่างถูกตัดหัวโดยพวกตักฟีรี กับถูกสังหารโดยปฏิบัติการทางอากาศที่นำโดยสหรัฐฯ คุณยังเห็นว่ามันน่าประหลาดใจอีกหรือที่ผู้ลี้ภัยที่มุ่งหน้าไปยังยุโรปทุกวันนี้ส่วนใหญ่มาจากซีเรีย?!


    มันเป็นไปโดยไม่ต้องพูดออกมาว่า ไม่สามารถจินตนาการถึงทางออกที่ยั่งยืนสำหรับวิกฤติการณ์ผู้ลี้ภัยนี้ได้เลยโดยที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในนโยบายต่างประเทศของวอชิงตัน และสิ่งที่ดูเหมือนจะสำคัญก็คือ ท่าทีของผู้สร้างนโยบายในยุโรปต่อวิกฤติการณ์นี้ บางทีมันคงจะถึงเวลาแล้วสำหรับยุโรปที่จะต้องยืนบนขาของตัวเอง และหลีกเลี่ยงการเดินตามนโยบายของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้อย่างคนตาบอด ผู้ลี้ภัยต้องหนีเอาชีวิตรอด และมีสิทธิ์ที่จะหนีเอาชีวิตรอด ตราบใดที่ผู้ค้าสงครามและตัวแทนของพวกเขายังคงปฏิบัติการอยู่ในภูมิภาคนี้ คุณต้องการให้ไม่มีผู้ลี้ภัยใช่ไหม? ก็หยุดการทำสงครามสิ!


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    จักรวรรดิ์สหรัฐฯ ควรถูกตำหนิสำหรับวิกฤตการณ์ผู้ลี้ภัย | abnewstoday
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปธน.อัสซาด ชี้ ตะวันตกที่หนุนกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย คือต้นตอของวิกฤตผู้อพยพในขณะนี้ โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ย. 18, 2015

    [​IMG]

    presstv – ประธานาธิบดี บาชาร์ อัลอัสซาดของซีเรียกล่าวว่า ชาติตะวันตกกำลังร้องไห้สงสารผู้ลี้ภัยที่ทะลักเข้ายุโรป แต่การที่ตะวันตกสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายในซีเรียคือต้นตอของวิกฤตผู้อพยพในขณะนี้

    ประธานาธิบดี อัสซาดให้สัมภาษณ์สื่อรัสเซียที่กรุงดามัสกัสในซีเรียว่า ยุโรปจะต้องหยุดการสนับสนุนผู้ก่อการร้ายเพื่อยุติวิกฤตผู้อพยพ

    ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ออกจากซีเรียเพราะการก่อการร้าย เหตุผลหลักคือหนีกลุ่มก่อการร้ายและการไล่ฆ่า เหตุผลรองคือหนีผลกระทบจากการก่อการร้ายที่ทำลายโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ จนไร้ซึ่งสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต ชาติตะวันตกกำลังร้องไห้สงสารผู้ลี้ภัย แต่ก็ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายตั้งแต่ต้น โดยอ้างว่าเป็นการลุกฮืออย่างสงบ หากเป็นห่วงผู้ลี้ภัยก็เลิกสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายเพราะเป็นต้นตอของวิกฤตผู้อพยพทั้งมวลในขณะนี้

    รายงานข่าวบอกว่า ขณะนี้ยุโรปกำลังเผชิญกับวิกฤตผู้อพยพอย่างหนัก ด้วยผู้ขอลี้ภัยจำนวนหลายแสนคนที่ไม่มีเอกสารจากประเทศต่างๆ ที่เกิดสงครามกลางเมืองในตะวันออกกลางที่พากันเดินทางไปถึงอียูด้วยความหวังที่จะมีชีวิตที่ดีกว่า

    ประธานาธิบดี อัสซาด ผู้นำของซีเรียกล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวรัสเซียว่า “ถ้าคุณรู้สึกเป็นกังวลใจเกี่ยวกับพวกเขา ก็จงหยุดสนับสนุนผู้ก่อการร้าย นั่นคือสิ่งที่พวกเรากำลังคิดเกี่ยวกับวิกฤตนี้ ที่เป็นใจกลางของปัญหาทั้งเกี่ยวกับผู้อพยพ”

    ปธน.บาชาร์ อัสซาดได้เรียกร้องให้กองกำลังทั้งหมดในซีเรีย ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายโดยพูดว่า “ผมอยากจะถือโอกาสนี้เพื่อเรียกร้องให้ทำกำลังทั้งหมดให้ร่วมกันต่อสู้กับขบวนากรก่อการร้าย เพราะว่ามันเป็นหนทางที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายต่างๆทางการเมือง ซึ่งพวกเราในฐานะชาวซีเรียต้องการผ่านการเจรจาและการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง”

    อัสซาดเน้นย้ำว่า “การเจรจาทางการเมืองที่ประสบผลสำเร็จในซีเรียเป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่เป็นไปได้ หลังจากที่ขบวนการก่อการร้ายได้รับความพ่ายแพ้ในประเทศนี้ พวกราจะต้องเดินหน้าการเจรจากันเพื่อให้บรรลุฉันทามติ (consensus) ตามที่ผมได้กล่าวเอาไว้ แต่หากคุณต้องการที่จะดำเนินการใดๆที่เป็นจริง มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำอะไรก็ได้ในขณะที่คุณยังมีประชาชนให้ถูกสังหาร การปล่อยปละละเลยไม่ได้หยุดผู้คนจากความรู้สึกไม่ปลอดภัย ดังนั้นพวกเราสามารถที่จะได้รับฉันทามติ แต่พวกเราจะไม่สามารถดำเนินอะไรได้เลย จนกว่าพวกเราจะเอาชนะขบวนการผู้ก่อการร้ายในซีเรีย”

    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    ปธน.อัสซาด ชี้ ตะวันตกที่หนุนกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย คือต้นตอของวิกฤตผู้อพยพในขณะนี้ | abn
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เนทันยาฮู ประกาศเพิ่มระดับการลงโทษขั้นรุนแรงแก่ชาวปาเลสไตน์
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ย. 18, 2015

    [​IMG]

    ในขณะเดียวกันหลังจากเกิดการปะทะกันเป็นวันที่สี่ทั้งในและรอบๆ มัสยิดอัลอักซอและในเขตเวสต์แบงก์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้ออกมาประกาศให้เพิ่มมาตรการการลงโทษที่รุนแรงกับชาวปาเลสไตน์ที่มีอาวุธแค่เพียงหินที่ใช้ขว้างปา

    โดยในรอบล่าสุดได้มีการต่อสู้ในมัสยิดอัลอักซอในกรุงเยรูซาเล็มแม้จะมีการอุทธรณ์จากหน่วยงานต่างๆประเทศอย่างมากมายเพื่อรักษาความสงบในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งได้มีกองกำลังทหารอิสราเอจำนวนมากได้ออกมาปราบปรามกลุ่มวัยรุ่นชาวปาเลสไตน์ที่ใช้เพียงก้อนหินเปรียบเสมือนสิ่งของชนิดเดียวที่สามารถปกป้องตนเองได้

    กองกำลังทหารอิสราเอลพยายามที่จะใช้ระเบิดเสียงเพื่อปราบปรามและสลายกลุ่มคนประท้วง

    เนทันยาฮู ได้ออกมาประกาศว่า สำหรับชาวปาเลสไตน์ที่เป็นวัยรุ่นหรือมีอายุน้อยและได้เข้าร่วมขว้างหินในการปะทะดังกล่าวจะต้องได้รับโทษอย่างหนัก และผู้ปกครองของพวกเขาจะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

    ผลกรทบความรุนแรงที่เกิดขึ้นในวันจันทร์ที่ผ่านมาทำให้มัสยิดหลังหนึ่งถูกเผาจากการจู่โจมของทหารอิสราเอลกว่า 200 คน ชาวปาเลสไตน์ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่งและกว่าสิบคนถูกจับตัวไป

    การปะทะที่เกิดมาตั้งแต่วันอาทิตย์เหตุเกิดจากการเข้ามาตั้งถิ่นฐานพิ่มขึ้นของชาวอิสราเอลกว่า 120 แห่งในพื้นที่ของชาวปาเลสไตน์

    ตามกฏระเบียบปัจจุบันนั้นชาวยิวสามารถเข้าเยี่ยมชมมัสยิดอัลอักซอได้แต่ไม่สามารถที่จะเข้าไปทำพีธีกรรมศาสนาในสถานที่แห่งนั้นได้

    กลุ่มผู้ประท้วชาวปาเลสไตน์มีความกังวลว่าอิสราเอลพยายามจะเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบของสถานที่แห่งนี้ ซึ่งกลุ่มขวาสุดโต่งของชาวยิวได้เรียกร้องมากขึ้นโดยให้สร้างที่พักอาศัยบริเวณรอบและยังเรียกร้องให้สร้างสถานที่ประกอบพิธีกรรมศาสนาใหม่ขึ้นมาใกล้ๆ

    มัสยิดอัลอักซอตั้งอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มอันเก่าแก่ เป็นสถานที่ที่มีความศักดิสิทธิ์สำหรับศาสนาอิสลาม รองมาจากมัสยิดอัลฮะรอมและมัสยิดอันนะบี


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    เนทันยาฮู ประกาศเพิ่มระดับการลงโทษขั้นรุนแรงแก่ชาวปาเลสไตน์ | abnewstoday
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สงครามในตะวันออกกลางทำให้ “เด็ก 13 ล้านคน” ไม่ได้เรียนหนังสือ
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ย. 18, 2015

    [​IMG]

    bbc – สงครามความขัดแย้งในตะวันออกกลางทำให้เด็กมากกว่า 13 ล้านคน ไม่ได้เรียนหนังสือ พร้อมเตือนว่า “ความหวังของคนรุ่นหนึ่ง” อาจสูญสลายไป หากพวกเขาไม่มีโอกาสกลับเข้าโรงเรียน รายงานจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยเมื่อวันที่ 3 ก.ย.

    กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) แถลงรายงานว่าด้วยผลกระทบจากความขัดแย้งที่มีต่อการศึกษาใน 6 ประเทศและดินแดนทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง พบว่า โรงเรียนกว่า 8,500 แห่งไม่สามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ เนื่องจากเกิดความไม่สงบในพื้นที่

ยูนิเซฟ ยกตัวอย่างกรณีนักเรียนและครูที่ตกอยู่ท่ามกลางห่ากระสุน ห้องเรียนถูกแปลงเป็นที่หลบระเบิด และเด็กๆ ที่ต้องเสี่ยงชีวิตเดินผ่านแนวปะทะระหว่างกลุ่มขัดแย้ง 2 ฝ่ายเพื่อจะไปเข้าห้องสอบ

ปีเตอร์ ซาลามา ผู้อำนวยการยูนิเซฟประจำภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ กล่าว
 “ความโหดร้ายของสงครามกำลังส่งผลต่อเยาวชนทั่วทั้งภูมิภาค”

    “ไม่ใช่แค่ตัวอาคารโรงเรียนเท่านั้นที่เสียหายจากระเบิด แต่เด็กนักเรียนรุ่นนี้ก็รู้สึกท้อแท้ เมื่อเห็นความมุ่งหวังและอนาคตของพวกเขาถูกทำลาย”

เฉพาะปีที่แล้ว ยูนิเซฟ ได้รับรายงานการโจมตีโรงเรียนถึง 214 ครั้งในซีเรีย อิรัก ลิเบีย ดินแดนปาเลสไตน์ ซูดาน และเยเมน

ในกรณีของซีเรีย โอกาสทางการศึกษาของเยาวชนถูกปิดกั้นอย่างร้ายแรงด้วยพิษของสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมานานถึง 4 ปีครึ่ง โรงเรียน 1 ใน 4 ของประเทศต้องปิดตัวลงหลังจากความขัดแย้งปะทุขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2011 เยาวชนซีเรียกว่า 2 ล้านคนต้องออกจากโรงเรียน และอีกราว 500,000 คนเสี่ยงที่จะไม่ได้รับการศึกษา

ยูนิเซฟ ชี้ว่า เหตุโจมตีสถานศึกษาโดยตรงครั้งเลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นในเยเมน เมื่อมีการยิงถล่มห้องพักครูที่โรงเรียนในเมืองอัมรานทางตะวันตกของประเทศ จนทำให้ครู 13 คน และนักเรียนอีก 4 คนเสียชีวิต

รายงานฉบับนี้ ระบุ ว่า “การสังหาร ลักพาตัว และจับกุมนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา เกิดขึ้นเป็นประจำ” 
ในบริเวณฉนวนกาซ่าซึ่งเคยเกิดการยิงปะทะ นาน 50 วัน ระหว่างกลุ่มฮามาสและกองทัพอิสราเอล จนมีผู้เสียชีวิตมากถึง 2,200 คนในฝั่งปาเลสไตน์ และอีก 73 คนในฝั่งอิสราเอล

    ยูนิเซฟ ระบุว่า โรงเรียนอย่างน้อย 281 แห่งได้รับความเสียหายจากผลของการยิงโจมตี และมี 8 แห่งที่ “พังย่อยยับ”

    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    สงครามในตะวันออกกลางทำให้ “เด็ก 13 ล้านคน” ไม่ได้เรียนหนังสือ | abnewstoday
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัสเซีย เตรียมเปิดมัสยิดกลางที่ใหญ่ที่สุดในโลกตะวันตก
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ย. 18, 2015

    [​IMG]

    abna24 – พิธีเปิดมัสยิดกลางที่ใหญ่ที่สุดในกรุงมอสโก รัสเซีย จะมีขึ้นในวันที่ 23 กันยายน ศกนี้ โดยมี วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดี รัสเซีย เป็นประธานในพิธี และตัวแทนจากคณะประเทศอิสลามจำนวนหนึ่งเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน

    มัสยิดกลางกรุงมอสโก ใช้เวลาในการก่อสร้าง สิบกว่าปี ซึ่งขณะนี้แล้วเสร็จแล้วอย่างสวยงาม โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเนื่องในโอกาสวันตุรุษอีดดิ้ลอัฎฮา

    ตามคำประกาศของสภาชูรอรัสเซีย เผยว่า รอวีล อัยนุดดีน ประธานสภาชูรออิสลามรัสเซีย เป็นประธานในการดูแลการก่อสร้างมัสยิดดังกล่าว ซึ่งจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 23 กันยายน ก่อนวันอีดอัฎฮาหนึ่งวัน

    ตามรายงานระบุว่า วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซียจะเข้าร่วมในพิธีเปิดระดับนานาชาตินี้ด้วย

    นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากประเทศอิสลาม เช่น ซาอุดิอาระเบีย อิหร่าน อิรัก จอร์แดน คูเวต กาตาร์ ตุรกี และลิเบีย เข้าร่วม

    มัสยิดแห่งนี้มีเนื้อที่ 18,900 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้นมาซได้มากกว่า 10,000 คน เป็นอาคารหกชั้น มีหออะซานสูง 72 เมตร และโดมสูง 46 เมตร ถือเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในโลกตะวันตก

    การเปิดมัสยิดใหญ่ของกรุงมอสโกเป็นสัญลักษณ์ของเอกภาพ ความสามัคคีและการมีส่วนร่วมของทุกมัซฮับ (นิกาย) ในรัสเซีย และเป็นย่างก้าวที่ยิ่งใหญ่ในการยกระดับสถานะของชาวมุสลิมด้วยเหตุนี้จึงเป็นพิธีเปิดมัสยิดที่ยิ่งใหญ่ระดับนานาชาติ

    รัสเซียมีประชากรมุสลิมมากกว่า 20 ล้านคน อาศัยอยู่ในกรุงมอสโก ประมาณ 3 ล้านคน และมีมัสยิดประมาณ 7,000 มัสยิด


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    รัสเซีย เตรียมเปิดมัสยิดกลางที่ใหญ่ที่สุดในโลกตะวันตก | abnewstoday
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    สหรัฐฯบอกว่าพร้อมที่จะต่อรองกับรัสเซียและอัสซาดกรณีซีเรีย ฮิ้ววววว! (US Says Ready to Negotiate With Russia, Assad on Syria)

    [​IMG]

    ---------
    วันที่ 19 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news รายงานข่าวล่าสุดว่า นาย John Kerry รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯกล่าวว่า "สหรัฐฯยินดีจะเจรจารต่อรองกับรัฐบาลซีเรียเพื่อแก้ไขความขัดแย้งในซีเรีย โดยปราศจากการขับประธานาธิบดีซีเรียออกจากตำแหน่ง ในฐานะป็นเงื่อนไขที่มีการกำหนดไว้ล่วงหน้าอย่างชัดเจน"
    รายงานข่าวบอกว่าแถลงการณ์นี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯได้กล่าวว่าสหรัฐฯจะเจรจาต่อรองกับประธานาธิบดีในประเด็นนี้ ความขัดแย้งในซีเรีย ในกรณีที่ประเทศซีเรียได้เกิดการสู้รบกับกลุ่มกบฏขึ้นในปี 2011 ซึ่งสนับสนุนโดยสหรัฐฯในทางการทูต และต่อมาในทางด้านทหาร ได้นำไปสู่วิกฤตต่างๆทั้งด้านการเมืองและด้านมนุษยธรรมเป็นจำนวนมาก จากการลุกฮือขึ้นของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสไปจนถึงวิกฤตผู้ลี้ภัยในยุโรป
    สำนักข่าวรอยเตอร์สอ้างคำพูดของจอห์น แคร์รี่เมื่อวันเสาร์นี้ว่า "พวกเราต้องการจะเจรจา นั่นคือสิ่งที่พวกเรา (สหรัฐฯ) กำลังมองหา และพวกเราก็หวังว่ารัสเซียและอิหร่าน และประเทศอื่นๆที่มีอิทธิพลจะช่วยนำพาเรื่องนี้ด้วย เพราะว่านั่นคือสิ่งที่จะช่วยป้องกันวิกฤตนี้จากสูญสิ้น" (ตอนแรกก่อนจะส่งเครื่องบินรบไปถล่มบ้านเขาทำไมถึงไม่เลือกวิธีเจรจาแบบนี้ แต่รู้สึกว่างานนี้สหรัฐฯจะแย่งซีนของปูตินไปนะ เพราะว่าปูตินได้กล่าวไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าปัญหาของซีเรียจะสามารถคลี่คลายได้ด้วยการเจรจาและทางการทูตเท่านั้นเช่นเดียวกับกรณีของยูเครนตะวันออก และนั่นคือแนวทางของรัสเซียสมัยนี้ในการคลี่คลายปัญหาความขัดแย้ง แต่เมื่อสถานการณ์ถูกบีบเข้าเรื่อยๆ สหรัฐฯที่มีท่าทีแข็งกร้าวมาโดยตลอดไหงอันมาขอเจรจาต่อรองกับซีเรียและของความร่วมมือจากรัสเซียและพันธมิตรของรัสเซียซะงั้นหละ ผิดปรกติไปหรือเปล่า? กลัวนานาชาติจะรุมประนามในเวทียูเเอ็นหรือไง? คริๆ)
    นายจอห์น แครรี่กล่าวต่อไปอีกว่า "สหรัฐฯเตรียมพร้อมจะเจรจา (งั้นเพื่อทำให้บรรยากาศการเจรจาราบรื่น ก็สั่งให้กลาโหมของสหรัฐฯระงับโปรแกรมการฝึกซ้อมให้กับกบฏชุดใหม่ก่อนสิ และที่สำคัญบอกให้ลูกน้องของตนเองวางอาวุธให้หมดและมอบตัวแก่กองทัพรัฐบาลซีเรียซะ แค่นี้ problem solved!) อัสซาดหละเตรียมพร้อมที่จะเจรจา หมายถึงเจรจาจริงๆหรือไม่? (ปัดโถ... คนที่ปฏิเสธการเจรจามาโดยตลอดก็คือสหรัฐฯไม่ใช่รึ? แหม… มามุกชิงเจาะไข่แดงก่อนคนอื่นตอลดเลยนะ ทำไมพวกนี้ถึงมีนิสัยอย่างนี้นะ? การชิงดิสเครดิตคนอื่นเพื่อทำให้ตัวเองดูดีนี้คืองานถนัดของมนุษย์พวกนี้เลยหรือไง?) แล้วรัสเซียหละ เตรียมพร้อมที่จะนำตัวเองเข้าสู่โต๊ะเจรจาหรือเปล่า? (ว้าวววว! ชักจะลามปามใหญ่แล้ว วอนซะแล้วไหมหละ พวกปากกล้าขาสั่น กล้ามากเลยนะที่ออกมาท้าทายรัสเซียอย่างนี้หนะ ดูข้างหลังปูตินซะก่อนรู้จักกองทัพ CSTO รุ่นใหม่หรือยัง?)"
    นายจอห์ แคร์รี่ (นักการทูตผู้ชูธงประชาธิปไตยและเสรีภาพจากประเทศที่กำลังจะกลายเป็นอดีตมหาอำนาจเบอร์หนึ่งของโลก) ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในขณะที่สหรัฐฯกำลังพยายามขจัดอัสซาดออกไปจากอำนาจนั้นได้มาถึงจุดติดขัด (ไปต่อไม่ได้) คราวนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ต้องการที่จะช่วยให้การเจรจาต่อรองมาเป็นอันดับแรก" (เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า... "สหรัฐฯล้มเหลวในกรณีของซีเรีย" ก็พูดมาตรงๆสิครับท่านแคร์รี่ จะอายทำไมครับ ชาวโลกเขารู้กันทั่วแล้วว่าไม่สหรัฐฯขาดแคลนยางอายมาเป็นเวลานานแล้ว)
    รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯกล่าวว่า "มันไม่จำเป็นต้องเป็นหนึ่งวัน หรือหนึ่งเดือน... มีกระบวนการโดยที่ทุกๆฝ่ายสามารถที่เข้าร่วมการเจรจาด้วยกันเพื่อให้ไปถึงความเข้าใจว่าวิธีที่ดีที่สุดนี้จะประสบความสำเร็จได้อย่างไร"
    เอ… รู้สึกว่างานนี้สหรัฐฯจะลุกลี้ลุกลนผิดปรกตินะ เหมือนกำลังหวาดผวาอย่างหนักว่าคนของตัวเองจะโดนเก็บเรียบในซีเรียอย่างนั้นแหละ หรือถ้าลูกสมุนของสหรัฐฯในซีเรียถูกกองทัพของรัฐบาลกลางของซีเรียและกองทัพของรัสเซียและพันธมิตร (ในอนาคต) จับได้จะแฉความจริงออกมาจนหมดเปลือก ครั้นจะเข้าไปตัดตอนเองเพื่อไม่ให้สามารถสาวไปถึงตัวบงการที่แท้จริงได้ ก็ทำไม่ได้ซะแล้วในตอนนี้เพราะว่ากองทัพของซีเรียเข้มแข็งขึ้นทุกวันภายใต้การสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัสเซียและพันธมิตร งานนี้สหรัฐฯก็เลยจิ๊กมุกขอเจรจาหลายฝ่ายจากบทเรียน "การเจรจราสันติภาพกรุงมินส์ก" ระหว่างรัฐบาลยูเครนกับกลุ่มกบฏยูเครนโดยมารัสเซีย ฝรั่งเศส และเยอรมันเป็นคนกลางมาใช้ซะงั้น เพราะมันได้ผล
    มาดูเหตุการณ์บางอย่างที่คาดว่าเป็นปัจจัยหนุนให้สหรัฐฯต้องรีบยกมือขอเวลานอกในครั้งนี้ซิว่ามีอะไรบ้าง วันที่ 18 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่านาย Nicolas Sarkozy อดีตประธานาธิบดีของฝรั่งเศสออกมาเรียกร้องให้มีการเจรจากับรัสเซียในความพยายามที่สนับสนุนรัฐบาลซีเรียเพื่อป้องกันตัวเองจากผู้ก่อการร้ายไอซิส หลังจากที่ได้มีการเรียกร้องในลักษณะเดียวกันนี้จากทำเนียบขาว ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นการเลี้ยวแบบ U-Turn จากฝั่งตะวันตก
    Sarkozy กล่าวกับหนังสือพิมพ์ Le Parisien ว่า "พวกเราจะต้องสร้างเงื่อนไขสำหรับการก่อสร้างกองทัพปลดปล่อยแห่งซีเรีย และพึ่งพาเพื่อนบ้านของพวกเรา ซึ่งรวมถึงการเจรจากันที่มากขึ้นกับรัสเซียและปูติน"
    วันที่ 16 ก.ย.58 Sputnik news รายงานข่าวว่า Jimmy Carter อดีตประธานาธิบดีคนที่ 39 ของสหรัฐฯอเมริกา (1977 - 1981) ได้เป็นนักการเมืองคนล่าสุดที่ออกมาเรียกร้องให้สหรัฐฯร่วมกองกำลังกับรัสเซียและอิหร่านเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาวิกฤตซีเรียที่ยืดเยื้อ รายงานข่าวบอกว่าเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งนี้มีประชาชนถูกสังหารไปแล้วมากกว่า 220,000 ราย และไร้ที่พักอาศัยถึง 7.6 ล้านคน
    Jimmy Carter เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2002 และปัจจุบันเป็นสมาชิกองค์กรรัฐบุรุษอาวุโสอดีตผู้นำระดับโลก (The Elders) ซึ่งก่อตั้งโดยอดีตประธานาธิบดี Nelson Mandela แห่งแอฟริกาใต้ ปัจจุบันมีนาย Kofi Annan อดีตเลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติเป็นประธาน ได้กล่าวว่า "ผมคิดว่าสหรัฐฯผิดพลาดตั้งแต่ครั้งแรกที่ตัดความเป็นไปได้ของประธานาธิบดีอัสซาดออกจากการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น [ในซีเรีย] ในอนาคต... กล่าวอีกนัยหนึ่ง ก็อย่างที่คุณรู้นั่นแหละ รัสเซียและอิหร่านได้สนับสนุนรัฐบาลของอัสซาด และปัจจุบันนี้กลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิสก็เข้ายึดส่วนสำคัญทางตะวันออกของซีเรียไปแล้ว"
    สุดท้าย Jimmy Carter กล่าวว่า "อเมริกาจำเป็นต้องอยู่ข้างเดียวกันกับรัสเซีย และรวมทั้งจีนด้วย เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเราสามารถกระทำได้ โดยวิธีการสนับสนุนสันติภาพในโลกและความสามัคคี และการพัฒนาด้านเศรษฐกิจในอนาคตสำหรับทุกๆคน" (นี่ก็ไม่ใช่ว่านักการเมืองชาวอเมริกันจะเลวร้ายไปซะทุกคนนี้ คนที่เขารู้ทันพวกเจ้าเล่ห์เพทุบายก็ยังมีอยู่ แต่เสียงนั้นบางครั้งแทบจะไม่สามารถเล็ดลอดเข้าไปถึงหูของรัฐบาลชุดปัจจุบันของสหรัฐฯได้เลย)
    เพื่อตอบโต้ต่อคำพูดของสหรัฐฯที่พยายามบีบให้ผู้นำซีเรียที่มาจากการเลือกตั้งก้าวลงจากอำนาจ เพราะไม่สนองนโยบายของสหรัฐฯ วันที่ 16 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news รายงานว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมานาย Michael McFaul อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำรัสเซียออกมากล่าวว่า ประชาชนชาวซีเรีย ไม่ใช่สหรัฐฯ ต้องเป็นผู้ตัดสินใจในความชอบธรรมทางกฎหมาย (legitimacy) ของประธานาธิบดีของประเทศ ซึ่งก็คือบาซาร์ อัสซาด (โอบาม่าได้ยินหรือเปล่า?)
    เดาซิว่างานนี้สหรัฐฯจะมาไม้ไหน? อย่าบอกนะว่าแบ่งแยกแล้วปกครอง ลืมไปเลยเรื่องจะลักไก่มุกเลือกตั้งใหม่ขึ้นมาใช้เพราะว่างานนี้ปูตินเป็นคนเสนอก่อนแล้ว ถ้าสหรัฐฯด้านที่จะเสนอในการต่อตองว่าแบ่งแยกซีเรียให้พวกไอซิสปกครองเป็นเขตปกครองตนเองหรือเป็นประเทศใหม่ งั้นกรณีของยูเครนหละจะอธิบายอย่างไร? DPR/LPR ในยูเครนตะวันออกก็มีความชอบธรรมที่จะปกครองตนเองเช่นกัน และมันก็เป็นสิทธิ์ของ DPR/LPR ด้วยว่าจะตัดสินกับอนาคตของพวกเขาเขาอย่างไร? แต่งานนี้ทั้งรัสเซียและซีเรียคงจะไม่ปล่อยให้สหรัฐฯงัดมุกนี้มาใช้แน่ ไม่ใช่สไตล์ปูติน เพราะก็เท่ากับว่ารัสเซียไม่ได้คิดที่จะปราบปราบผู้ก่อการร้ายจริงๆอย่างที่พูดกลับพันธมิตรของตนเอง หากเป็นเช่นนั้นภาพพจน์ของผู้นำรัสเซียและประเทศรัสเซียก็จะเละและจะถูกสหรัฐฯและตะวันตกเย้ยหยันเอาได้ มุกนี้ตื้นไปหน่อยนะ
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือ ทรรราช
    20/09/2558

    ภาพจาก © AP Photo/ MLADEN ANTONOV

    -----------
    US Says Ready to Negotiate With Russia, Assad on Syria
    West Signals U-Turn Over Syria, Seeks Dialogue With Russia
    Jimmy Carter Urges Obama to Solve Syrian Crisis With Russia, Iran
    Assad's Legitimacy Must Be Decided by Syrian People, Not US - McFaul
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    รู้ข่าวดีกันบ้างหรือยัง? ลุงตู่ส่งทีมเจรจาบุกกรุงบรัสเซลส์เคลียร์ปัญหาอุตสาหกรรมประมงไทย อียูยอมผ่อนผันให้เวลาไทยแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป ซึ่งจะเปิดทางให้ไทยส่งสินค้าประมงเข้าขายในอียูต่อได้

    [​IMG]

    -----------------
    ข่าวจากทำเนียบรัฐบาล: พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผู้แทนรัฐบาลไทยที่เดินทางไปให้ข้อมูลเรื่องความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการ ทำประมงผิดกฎหมายกับสหภาพยุโรป (EU) ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ได้รายงานผลการเจรจาล่าสุดว่า ทาง EU ได้ผ่อนผันระยะเวลาให้ไทยดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป จากเดิมที่ขีดเส้นตายไว้ที่ 6 เดือนนับจากได้รับใบเหลือง เมื่อ 21 เม.ย. 58 คือสิ้นสุดใน ต.ค. 58 อย่างไรก็ตามภายใน ต.ค. 58 นี้ ขอให้ไทยดำเนินการให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมก่อนอย่างน้อย 3 เรื่องที่สำคัญได้แก่ 1) การประกาศใช้กฎหมายประมงใหม่ 2) การประกาศใช้แผนบริหารจัดการประมงทะเล และ 3) การประกาศใช้แผนปฏิบัติการระดับชาติ ซึ่งถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า EU มีความเข้าใจการทำงานของรัฐบาลมากขึ้น
    ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาไปแล้วหลายเรื่อง เช่น การปรับปรุงพระราชบัญญัติการประมงและกฎหมายลำดับรอง การจัดทำแผนระดับชาติในการป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำประมง ที่ผิด กม. การเร่งจดทะเบียนเรือประมงและออกใบอนุญาตทำการประมง การพัฒนาระบบควบคุมและเฝ้าระวังการทำประมง โดยเฉพาะการควบคุมการเข้า-ออกท่าของเรือประมง การจัดทำระบบติดตามตำแหน่งเรือ (VMS) และการปรับปรุงระบบการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability)
    “ท่านนายกฯ รู้สึกยินดีที่ EUเข้าใจเจตนารมย์ของรัฐบาลและยินยอม ผ่อนผันให้ไทยแก้ปัญหาต่อไป เพราะที่ผ่านมาไทยได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหาและมี ความคืบหน้าในหลายเรื่อง โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อรักษาทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำประมง และยกระดับมาตรฐานการส่งออกอาหารทะเลในฐานะที่ไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ อันดับ 3 ของโลก ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลชุดนี้ และหวังว่า ผลจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ตลอดจนพี่น้องชาวประมง จะส่งผลให้ไทยสามารถแก้ไขปัญหา การทำประมงที่ผิด กม. ตามข้อห่วงใยของ EU ได้
    เห็นฝีมือรัฐบาลลุงตู่หรือยัง? แหล่มใช่ป๊ะ นี่ถ้าไม่มีคสช.ทำไม่ได้นะนี่ ขอเป็นกำลังใจให้ลุงตู่ คสช. พร้อมทั้งรัฐบาล และทีมงานเจรจาในครั้งนี้ด้วยครับผม
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    19/09/2558
    --------------
    http://www.thaigov.go.th/index.php?option=com_k2&view=item&id=95625:id95625&Itemid=339&lang=th
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข้อความ "ดาวเคราะห์น้อยขนาดยักษ์ 6 ดวง กำลังมาทางเรา ดังที่มีผู้คนบางส่วนยืนยันว่าโลกจะสิ้นสุดในวันที่กำลังจะมาถึง
    Text "SIX GIANT ASTEROIDS ARE COMING OUR WAY AS SOME INSIST WORLD WILL END IN THE COMING DAYS AHEAD


    [​IMG]

    https://youtu.be/Lm4E8W1zxMg

    ดาวเคราะห์น้อย 2012 TT5 มีกำหนดที่จะผ่านในวันที่ 24 กันยายน ระยะห่าง 5.1million ห่างออกไป จากการคาดการณ์อย่างร้ายแรง ความมีอยู่ ่ซึ่งได้จำลองขึ้นมาได้บอกว่าจะมีหินจากอวกาศขนาดกว้างถึง 2.5 miles จะชนเปอร์โตริโก ช่วงวันที่ 21 กันยายน ถึงปลายเดือนกันยายน แต่คนส่วนใหญ่ได้คาดว่าจะอยู่ในระหว่างวันที่ 23 หรือ 24 กันยายน อันเนื่องมาจากเป็นช่วงของรหัส พระคัมภีร์คำพยากรณ์ ที่ถูกนำมาอ้างอิงกับการพยากรณ์ต่าง ๆ
    Please scroll down for video The asteroid called 2012 TT5 is due to pass September 24 at 5.1million miles away Wild predictions being made online claim a space rock up to 2.5miles wide will strike Puerto Rico. Dates range from September 21 to the end, but most are homing in on between September 23 or 24 due to a range of Bible codes, so-called prophecies, and alleged other predictions.

    แต่อย่างไรก็ตาม การทำนายตามดวงจันทร์เลือด, กล่าวว่า จุดจบจะเกือบ 28 กันยายนที่จะเกิดขึ้นพร้อมกับ 'ดวงจันทร์ในเลือด ครั้งที่ 4 (คราสรวมทั้งหมดด้วยหกดวงจันทร์เต็มรูปแบบในระหว่าง) ที่ผ่านมา 18 เดือน ผู้เผยพระวจนะ(ศาสดาพยากรณ์) Efraid Rodriguez ได้เขียนจดหมายถึงนาซ่าเพื่อเตือนการจู่โจม หลังจากที่เขาได้รับข้อความจากพระเจ้า เขาอ้างว่าเขาได้เห็นทรรศนะวิสัยของมัน "เข้าสู่น่านฟ้าของเมือง Arecibo ในเปอร์โตริโก กระแทกลงทะเลระหว่างเกาะ Mona และ เกาะ Mayagüezและและเกิดแผ่นดินไหว ขนาด 12. คำพยากรณ์ออนไลน์ล่าสุดวันโลกาวินาศได้รับการอ่านโดยผู้คนจำนวนมาก ีแต่นาซ่าูได้ออกแถลงการณ์ย้ำว่าโอกาสของผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวในช่วงเวลานั้น หรือภายในไม่กี่ร้อยปีข้างหน้ามีความเป็นไปได้เท่ากับ ศูนย์
    However, the Blood Moon Prophecy, says the end is nigh on September 28 as that coincides with the last of four 'blood moons' (total eclipses followed with six full moons in between) over the past 18 months. self-proclaimed prophet Rev Efraid Rodriguez, who says he wrote to Nasa warning of the strike after receiving a message from God. He claims he saw a vision of it "entering the airspace of the town of Arecibo in Puerto Rico, striking the sea between the island of Mona and Mayagüez and triggering a magnitude 12 earthquake. The latest online doomsday prophecies have been read by so many people that NASA was forced to issue a statement, that it reiterated this week, saying the chances of an impact around that time or within the next few hundred years were next to zero.

    SIX Giant Asteroids ARE Coming Our Way As Some Insist World Will End In The Coming Days Ahead
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โลกนี้มีแต่พวกสร้างข่าวน่ะครับ จนทุกวันนี้ผมสงสัยพวกศาสดาพยากรณ์ทำไมถึงชอบสร้างข่าวลือที่ไม่เป็นจริง ทั้งที่พวกเขาทราบ หรือไม่ทราบแต่มั่วขึ้นเองแบบบรรดาผู้วิเศษทั้งหลาย ในประเทศไทยก็มี พวกที่ชอบแสดงว่า กูรู้ กูเห็น กูได้ยินแต่ไม่รู้ว่าเขาเห็นอะไรเขารู้อะไรเขาได้ยินอะไรกันแน่ สงสัยไหมครับ
     
  15. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ...ปล่อยข่าวให้คนสนใจอย่างอื่น เบนความสนใจการแทรกแซงทำลายบ้านเมืองทั้งภายในภายนอกเพื่อกอบโกยผลประโยชน์อย่างบ้าคลั่ง ไร้ศีลธรรมน่ะครับ..

    ขอบคุณข้อมูลครับท่าน สุกิจSukit.. :cool::cool:
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [​IMG]

    ดูจากภาพ และเรื่อง5776 ปีเสียงเขาสัตว์ (Jubilee) ปีแห่งอิสรภาพและการไถ่ ที่นำมาลงให้อ่านน่ะครับ ว่าทำไม ข้อความจาก https://www.dropbox.com/…/kjmatul…/AABKec86-s24s1ns6NRXBanVa ที่ผมนำมาลงเขาถึงคิดว่า วันที่ 28 กันยายน 2015ถึงจะเป็นวันที่ สลักที่ 4 และ 5 และ 6 ของพระคัมภีร์ จะเปิดขึ้น และวันที่ 26 มีนาคม 2016 จะเป็นวันที่จะเกิดเหตุการณ์สำคัญ รอชมกันครับ ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นไหม และปีที่ 1คือก่อนคริสต์ศักราช 4001 เป็นยุคของอดัมครับ
    5776 ปีเสียงเขาสัตว์ (Jubilee) ปีแห่งอิสรภาพและการไถ่
    สวัสดีครับเพื่อนผู้อ่านที่รักทุกท่าน เนื่องในโอกาสการเริ่มต้นปีใหม่ Rosh Hashanah(โรชชะชานาห์) ในปี 5776 นี้ผมขอกล่าวคำว่า Shana Tovah (ชานา โตวาห์) ขอพระยาห์เวห์ทรงอวยพระพรให้สุขสวัสดีในปีใหม่ 5776 นี้สำหรับในปีนี้ Rosh Hashanah จะเริ่มในเย็นวันที่ 13 ก.ย. 2015 นี้ และหลังจากนั้นในช่วงวันที่ 13-23 ก.ย. เป็นช่วง10 วันห่งความยำเกรง (Days of Awe-
    เดย์ อ๊อฟ ออว์) ในวันที่ 23 ก.ย.จะเป็นวันลบมลทินบาป(Yom Kippur) หลังจากนั้นจะเป็นเทศกาลอยู่เพิง หรือ Sukkot สุคคท ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 4 ต.ค. จะเห็นได้ว่าช่วงนี้เป็นช่วงเวลาแห่งการนัดหมาย(Divine Appointment)กับพระยาห์เวห์เพื่อจะพักสงบในการทรงสถิตของพระองค์
    ในปี 5776 นี้ตามปฏิทินฮีบรูถือเป็นปีพิเศษที่เรียกว่า ปีเสียงเขาสัตว์ (Jubilee Year) หรือภาษาฮีบรูคือ โยเบล (Yovel) ถือเป็นปีเสียงเขาสัตว์ (Jubilee) ปีแห่งอิสรภาพและการไถ่ คือปีที่ครบ 50 ปีในรอบแห่งการพักสงบตามวงจรเวลาของพระยาห์เวห์ ตามที่กล่าวในพระธรรมเลวีนิติ 25:8-12
    เหตุที่ชาวยิวเชื่อว่าปี 5776 นี้เป็นปีเสียงเขาสัตว์ (Jubilee) ปีแห่งอิสรภาพและการไถ่ เมื่อศึกษาประวัติของประเทศอิสราเอล หลังจากปี ค.ศ.70 พระวิหารหลังที่ 2 ถูกทำลายโดยชาวโรมันและชาวยิวได้กระจัดกจะจายไปทั่วโลก ไม่มีชาติและแผ่นดินของตนเอง จนกระทั้งมติของสหประชาชาติในวันที่ 14 พ.ค.ปี 1948 ประเทศอิสราเอลจึงได้กลับมาเป็นประเทศอีกครั้ง แต่เขายังไม่สามารถยึดกรุงเยรูซาเล็มมาครองได้ จนกระทั้งเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ในช่วงระหว่างวันที่ 24 กันยายน ปี1966 จนถึง13 ตุลาคม ปี1967 ช่วงเวลานั้นเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองปีเสียงเขาสัตว์ (Jubilee) เป็นปีที่พวกเขาได้รับการไถ่ตามพระสัญญา เป็นปีที่พวกยิวชนะสงครามที่เรียกว่า สงคราม 6 วัน (Six days War) สามารถครองกรุงเยรูซาเลมกลับมาได้สำเร็จในวันที่7 มิถุนายน 1967 ฉะนั้นในวันที่ 23 ก.ย. 2015 จะครบ 50 ปีซึ่งเป็นปีเสียงเขาสัตว์ (Jubilee) ปีแห่งอิสรภาพและการไถ่อีกครั้งหนึ่ง
    นอกจากนับย้อนไปในเรื่องของประวติศาสตร์และในปี 5776 นี้มีหมายสำคัญเกิดขึ้นคือ จะมีดวงจันทร์สีเลือด(Blood moon) ในวันที่ 28 ก.ย.2015 เป็นการเกิดขึ้น 4 ครั้งในรอบปีปฏิทินเดียวกัน ที่เรียกว่า เทดแทรด (Tetrad) ตรงกับวันแรกเทศกาลอยู่เพิงและในปีนี้เป็นปีพิเศษที่จะมีเดือนอาดาร์ 2 ครั้ง
    เรามาทำความเข้าใจในเรื่อง ปีเสียงเขาสัตว์ (Jubilee) ปีแห่งอิสรภาพและการไถ่ ร่วมกัน
    เมื่อกล่าวถึง ปีเสียงเขาสัตว์ (Jubilee Year (Yovel)" ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า "ยูบิลลี่" - Jubilee และในภาษาฮีบรูคือ โยเบล- Yovel: יובל) ความหมายตามตัวอักษร( literally) หมายถึง เขาของแกะ (Ram's Horn) แตรเขาสัตว์จะมีอีกคำที่เราคุ้นเคยคือ โชฟาร์ (Shofar)
    แต่พระคัมภีร์ฉบับแปลจากภาษษาฮีบรูเป็นกรีก หรือ เซ็ปทัวจินท์ (Septuagint-LXX) แปลคำว่า Yovel ว่า เสียงแตรแห่งอิสรภาพ "a trumpet-blast of liberty" ในพระคัมภีร์ได้กล่าวไว้ใน เลวีนิติ 25:8-12 (ในฉบับมตรฐานปี 2011 ใช้คำว่า ปี‍อิสร‌ภาพ ฉบับปี 1971 ใช้คำว่า ปีเสียงเขา‍สัตว์)
    8“จงนับปีสะ‌บา‌โตเจ็ดปีคือเจ็ดคูณเจ็ดปี (7X7) เวลาปีสะ‌บา‌โตเจ็ดปีจึงเป็นสี่‍สิบ‍เก้า(49)ปีแก่เจ้า
    9จงให้เป่าเขา‍สัตว์ดัง‍สนั่นในวัน‍ที่สิบเดือนที่เจ็ด เจ้าจงให้เป่าเขา‍สัตว์ทั่วแผ่น‍ดินในวันลบมลทิน
    10จงถือปีที่ห้า‍สิบ (50)ไว้เป็นปีบริ‌สุทธิ์ และประ‌กาศอิสร‌ภาพแก่บรร‌ดาคนที่อาศัยอยู่ทั่วแผ่น‍ดินของเจ้า ให้เป็นปี‍อิสร‌ภาพแก่เจ้า ให้ทุก‍คนกลับไปยังภูมิ‍ลำ‌เนาอันเป็นทรัพย์‍สินของตน และกลับไปสู่ครัว‍เรือนของตน
    11ปีที่ห้า‍สิบ(50)นั้นเป็นปี‍อิสร‌ภาพ(Jubilee)ของเจ้า ในปีนั้นเจ้าอย่าหว่านพืชหรือเกี่ยว‍เก็บผลที่เกิด‍ขึ้นมาเอง หรือเก็บองุ่นจากเถาที่ไม่‍ได้ตก‍แต่ง
    12เพราะเป็นปี‍อิสร‌ภาพ จะเป็นปีบริ‌สุทธิ์แก่เจ้า เจ้าจงรับ‍ประ‌ทานพืช‍ผลที่งอก‍ขึ้นเองในปีนั้น
    ในพระคัมภีร์กล่าวถึงปีสะบาโต (Sabbatical year) ในภาษาฮีบรูเรียกว่า ซามิตะห์ (שמיטה -Shmita หรือ Shemitah ซึ่งหมายถึง การปลดปล่อย (release) มาจากคำว่า เชวิอิท ( sheviit שביעית) หมายถึงลำดับที่ 7 (seventh) ซึ่งในปี 5775 หรือ 2014 ที่ผ่านมาเป็นปีซามิตะห์
    (ผมได้เขียนบทความเรื่อง พักสงบในปีสะบาโต (Shmita year) สามารถ click เข้าไปอ่านได้ครับ)
    และเมื่อปีซามิตะห์ครบ 7 รอบ (49 ปี) ในปีที่50 จะเป็นเวลาของการเฉลิมฉลองและดีใจสำหรับชาวอิสราเอล เขาแกะที่ถูกเป่าในวันที่ 10 เดือนที่ 7 (เดือนทิชรี) (ลนต.25:9) ที่จะเริ่มต้นปีที่ 50 หรือ ปีปีเสียงเขาสัตว์( Jubilee Year (Yovel) ของการไถ่ถอน การปลดปล่อยภาระหนี้สิน
    เหตุที่เป่าในวันที่ 10 ทั้งนี้เนื่องจากในวันที่ 1 ของเดือนทิชรี จะเป็นการเป่าเขาสัตว์(Shofar) เพื่อเริ่มต้นปีใหม่ หรือที่เรียกว่า โรช ชะชานาห์ (Rosh Hashanah) หลังจากนั้นจะเป็นช่วง 10 วันตั้งแต่ Rosh Hashanah ถึง Yom Kippur (วันลบมลทินบาป) เป็นช่วงวันแห่งความยำเกรงพระเจ้า (Days of Awe)(Awesome) ก่อนจะเข้าสู่เทศกาลอยู่เพิง หรือสุคคท(Sukkot) ในวันที่ 15 ดือนที่ 7 (เดือนทิชรี)
    สามารถอ่านได้ในพระธรรมเลวีนิติ บทที่ 23:23-37
    เหตุที่มีการเป่าเขาแกะในวันที่ 10 ของเดือนทิชรี(ปี 5776 นี้จะเริ่มเข้าสู่ปีเสียงเขาสัตว์ (Jubilee)ในเย็นวันที่ 23 ก.ย.2015 นี้) ทั้งนี้เพราะเป็นการป่าวประกาศการยกโทษบาปแล้วโดยพระยาห์เวห์ สิ่งเหล่านี้เล็งถึงพระเยซูคริสต์ที่ทำการลบมลทินให้กับเราผ่านทางกางเขนแล้ว เราไม่ต้องชำระมลทินบาปผ่านทางมหาปุโรหิตที่ทำตั้งแต่สมัยพันธสัญญาเดิม
    (ผมได้เขียนบทความเรื่องนี้ไว้ คือ เทศกาลลบมลทินบาป สามารถเข้าไปอ่านได้ครับ)
    การเป่าแตรของปีเสียงเขาสัตว์( Jubilee Year (Yovel) เล็งถึงเสียงแตรสุดท้ายของโอกาสแห่งการกลับใจใหม่ แตรสุดท้ายเพื่อการพิพากษาโลกและพระเยซูคริสต์ทรงเสด็จมาเป็นครั้งที่ 2 เพื่อมารับผู้เชื่อไปร่วมครอบครองในแผ่นดินสวรรค์ด้วย
    พระเยซูคริสต์กล่าวถึงการให้อภัยและเล็งถึงโอกาสสุดท้ายในการกลับใจใหม่ก่อนจะมีการพิพากษาโลกนี้
    พระเยซูตรัสตอบเขาว่า "เรามิได้ว่าเพียงเจ็ดครั้งเท่านั้น แต่เจ็ดสิบครั้งคูณด้วยเจ็ด (มธ.18:22)
    (สิ้นสุดสัปตะสุดท้าย 70 สัปตะ (70x7=490)
    ด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าเองจะเสด็จมาจากสวรรค์ ด้วยเสียงกู่ก้อง ด้วยสำเนียงของเทพบดี และด้วยเสียงแตรของพระเจ้า และคนทั้งปวงที่ตายแล้วในพระคริสต์จะเป็นขึ้นมาก่อน ( 1 ธส.4:16)
    แต่บัดนี้เขาปรารถนาที่จะอยู่ในเมืองที่ประเสริฐกว่านั้น คือเมืองสวรรค์ เหตุฉะนั้นพระเจ้าจึงมิได้ทรงละอายเมื่อเขาเรียกพระองค์ว่าเป็นพระเจ้าของเขา เพราะพระองค์ได้ทรงจัดเตรียมเมืองหนึ่งไว้สำหรับเขาแล้ว (ฮบ.11:16)
    หลังจากนั้น ข้าพเจ้าเห็นพระวิหารคือเต็นท์แห่งสักขีพยานในสวรรค์เปิดออก (วว. 15:5)
    ปีเสียงเขาสัตว์( Jubilee Year :Yovel) เป็นปีแห่งการปลดปล่อยจากภาระหนี้ (เลวีนิติ 25: 23-38) และการไถ่จากการเป็นทาสให้เป็นไท (เลวีนิติ 25: 39-55) นักโทษและเชลยถูกปล่อยเป็นอิสระพวกเขาได้รับการอภัยและบ้านเรือนไร่นาที่ถูกยึดก็จะต้องคืนกลับไปสู่เจ้าของเดิม นอกจากนี้งานทุกอย่างก็จะยุติการเป็นเวลา 1 ปีและสัญญาแรงงานจะสิ้นสุด ลูกจ้างได้รับการปล่อยตัว ประโยชน์ของปีเสียงเขาสัตว์ หรือปีอิสรภาพ( Jubilee Year :Yovel) คือที่ดินและผู้คนก็สามารถที่จะพักผ่อน
    ปีเสียงเขาสัตว์ หรือปีอิสรภาพ( Jubilee Year :Yovel) เป็นภาพที่สวยงามในรูปแบบพันธสัญญาใหม่ของการไถ่ถอนและการให้อภัย พระคริสต์ทรงเป็นพระผู้ไถ่ผู้ที่เป็นทาสได้กลายเป็นไทและพ้นจากความบาป
    รม. 8:2 เพราะว่ากฎของพระวิญญาณแห่งชีวิตในพระเยซูคริสต์ ได้ทำให้ข้าพเจ้าพ้นจากกฎแห่งบาปและความตาย
    กท. 5:1 เพื่อเสรีภาพนั้นเอง พระคริสต์จึงได้ทรงโปรดให้เราเป็นไท เหตุฉะนั้นจงตั้งมั่น และอย่าเข้าเทียมแอกเป็นทาสอีกเลย
    กท. 3:22 แต่พระคัมภีร์ได้บ่งว่าทุกคนอยู่ในความบาป เพื่อจะประทานตามพระสัญญาแก่คนทั้งปวง ที่เชื่อโดยอาศัยความเชื่อในพระเยซูคริสต์เป็นหลัก
    หนี้ของบาปเราเป็นหนี้กับพระเจ้าได้จ่ายเป็นบนไม้กางเขนพระเยซูสิ้นพระชนม์ในนามของเรา
    คส. 2:13 -14
    13และท่านที่ตายแล้วด้วยการละเมิดทั้งหลายของท่าน และด้วยเหตุที่เนื้อหนังของท่านมิได้เข้าสุหนัต พระองค์ได้ทรงให้ท่านมีชีวิตร่วมกับพระองค์ และทรงโปรดยกโทษการละเมิดทั้งหลายของท่าน
    14 พระองค์ทรงฉีกกรมธรรม์ซึ่งได้ผูกมัดเราด้วยบัญญัติต่างๆ ซึ่งขัดขวางเรา และได้ทรงหยิบเอาไปเสียให้พ้นโดยทรงตรึงไว้ที่กางเขน
    และเราได้รับการอภัยหนี้ไปตลอดกาล เราไม่ได้อยู่ในทาสทาสไม่ทำบาปได้รับอิสระจากพระคริสต์และเราอย่างแท้จริงสามารถเข้าสู่ส่วนที่เหลือให้พระเจ้าที่เราหยุดทำงานหนักเพื่อให้ตัวเองได้รับการยอมรับจากผลงานของพระเจ้าของเราเอง (ฮีบรู 4: 9-10) .
    ฮบ. 4:9-10
    9 ฉะนั้นจึงยังมีการพำนักสะบาโตสำหรับชนชาติของพระเจ้า
    10 เพราะว่าผู้ใดที่ได้เข้าสู่การพำนักของพระเจ้าแล้ว ก็ได้พักงานของตน เหมือนพระเจ้าได้ทรงพักพระราชกิจของพระองค์
    สำหรับเราในฐานะคริสตชน ปีเสียงเขาสัตว์ (Jubilee) มีความหมายอย่างไรในชีวิตของเรา
    เป็นปีแห่งการพักสงบเพื่อที่จะวางใจในการจัดสรรของพระยาห์เวห์ ยีเรห์
    เป็นปีแห่งการไถ่ เราจึงเชื่อในเรื่องการไถ่จากพันธนาการทั้งฝ่ายวิญญาณและฝ่ายกายภาพ เชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีแห่งการจัดสรรด้านการเงินให้เราพ้นจากสภาวะหนี้สิน เราจะได้รับการไถ่จากพระองค์
    เป็นปีแห่งการหันกลับมาแสวงหาพระยาห์เวห์ เพราะเสียงแตรเป็นสัญญาณเตือนใจเราให้เรากลับใจจากบาป ก่อนที่วาระแห่งการอภัยจะสิ้นสุดเสียงแตรสุดท้ายจะดังขึ้นและการพิพากษาของพระยาห์เวห์จะมาถึง
    เป็นปีแห่งการนัดหมาย ทุกเทศกาลเป็นเวลาที่เราจะเตรียมพร้อมเสมอในการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์
    เป็นปีแห่งการป่าวประกาศอิสรภาพให้แก่บรรดาเชลยเพื่อจะรับการไถ่ให้เป็นไท เช่นเดียวกับพระเยซูคริสต์เริ่มต้นพระราชกิจด้วยการอ่านพระวจนะในพระธรรมอิสยาห์ 61:1-4 และพระองค์ก็เป็นผู้นำการไถ่มาถึงเราทั้งหลาย และพระองค์มอบหมายให้เราออกไปประกาศข่าวดีนี้เพื่อให้คนได้รับความรอด
    นอกจากนี้ยังเป็นปีที่เราจะต้องจับตาและเฝ้าระวังในการอธิษฐานเผื่ออิสราเอลและสถานการณ์ต่างๆของโลก ที่กำลังเคลื่อนไปสู่วาระเวลาของพระยาห์เวห์ มีหลายสถานะการณ์ของโลกที่เราจะเฝ้าดูและอธิษฐานเผื่อ เช่น ในระหว่างวันที่25ถึง27กันยายน 2015 นี้ ที่เมืองนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีผู้นำโลกทั้วโลกรวมทั้งพระสันตปะปาฟรานซิสไปร่วมประชุมและกล่าวสุนทรพจน์ หัวใจของการประชุมเรื่องความยั่งยืนคือธรรมาภิบาลของโลก (global governance) เพื่อจะมีการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Summit) สิ่งนี้อาจจะเป็นการรวมตัวของรัฐบาลของโลกใหม่หรือ (New world order) และจะนำไปสู่การเกิดผู้ที่ต่อต้านพระคริสต์หรือ The Anti Christ หรืออื่นๆที่จะเกิดขึ้นตามที่พระคัมภีร์ในพระธรรมวิวรณ์ได้กล่าวไว้หรือไม่
    ติดตามในบทความครั้งต่อไปนะครับ ขอพระเจ้าอวยพระพร
    เขียนโดย ปัทมโรจน์ มากสุริวงศ์
    09 กันยายน 2558
    ย้อนกลับไปนับพระพรก่อนเข้าสู่ปี 5776
    ก่อนที่เราจะเข้าสู่เทศกาล Rosh Hashanah ปี 5776 ปี Ayin Vav ในค่ำวันที่ 14 ก.ย.นี้ ผมขอนำเพื่อนผู้อ่านทุกท่านย้อนกลับไปนับพระพรถึงสิ่งที่พระองค์ทรงทำตั้งแต่ปี 5771-5775 ที่ผ่านมา
    ตอนนี้เรากำลังเริ่มต้นปีใหม่! พวกเรากำลังเข้าสู่ปีฮีบรู 577ุ6
    5700 = “ขอให้เป็นปีแห่ง...” 70 = อักษรฮีบรู เรายังอยู่ในช่วงทศวรรษ 70 ทศวรรษแห่งการมองเห็น อักษร Ayin “อัยยิน” เป็นภาพของ”ดวงตา” ในฤดูกาลอัยยิน พระเจ้าต้องการเพิ่มความสามารถของเราในการเห็น! พระองค์กำลังบอกว่า ดูใหม่อีกครั้ง! เราคิดว่าเราเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นแล้ว แต่ให้มองใหม่อีกครั้งและเราจะเห็นชัดเจนขึ้นอีก! เราลองมองกลับไปนับพระพรในแต่ละปีกันอีกครั้งดังนี้
    (สามารถ click เข้าไป อ่านบทความแต่ละปีตาม link ได้นะครับ)
    ปี 5771 ปี Ayin Aleph ปีแห่งฤดูกาลแห่งสิทธิอำนาจใหม่ ด้วยฤทธานุภาพ การยอมจำนนต่อจอมกษัตรา (A season of new authority,power,and submission to the King)
    ปี 5772 ปี Ayin Beth ปีแห่งพันธสัญญา พระเจ้าทรงมองมาที่บ้านของพระองค์
    ปี 5773 ปี Ayin Gimel ปีแห่งมวลอฐ ปีแห่งพระพรความมั่งคั่ง ปีการรื้อฟื้นสู่การไถ่กลับมาทั้งหมด ปีที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างช่องว่างของอดีตไปสู่อนาคต (From recovery to wholeness : A year to bridge the gap between past and future)
    ปี 5774 ปี Ayin Dalet ปีแห่งประตู "เชิญเข้ามาเถิด เพื่อจะเห็นการเปิดประตูสู่สายธารน้ำพุใหม่" (Enter In! Seeing the Open Door to New Springs!)
    ปี 5775 ปีแห่งพายุหมุน อ้าแขนรับเสียงลมหมุนแห่งสวรรค์! ( Embracing the Sound of the Whirlwind of Heaven!)
    ปี 5775 เป็นปีแห่งอักษร เฮ้ ถ้าเรามองดูสิ่งที่ขัดเป็นตารางบนหน้าต่าง มันทำจากตัวอักษรเฮ้ตัว
    เล็กๆ จำนวนมาก! ภาพของหน้าต่าง
    ความหมายของ “เฮ้” คือ เสียงลมที่พัดผ่านช่องตารางบนหน้าต่าง นอกจากนี้ยังหมายถึง ลม
    เสียง
    คำว่า เฮ้ หมายถึง ลมหายใจ พระวิญญาณ และการสำแดง การสรรเสริญเสียงดังอย่างรุนแรง! “ฮาเลล!” (ฮาเลลูยา)
    ดังนั้น ปีแห่งอักษรเฮ้ เป็นปีแห่งลม เสียง ถ้อยคำ ลมหายใจ พระวิญญาณ และการสำแดง
    สดุดี 91 กล่าวถึง “การดำเนินชีวิตในตาแห่งพายุ ท่านจะไม่กลัวความสยดสยองในกลาง
    คืนหรือกลัวลูกธนูที่ปลิวไปในกลางวัน หรือโรคภัยที่ไล่มาในความมืด หรือโรคซึ่งทำลายใน
    เที่ยงวัน …เพราะท่านได้กระทำให้พระเจ้าผู้เป็นที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า คือองค์ผู้สูงสุด เป็นที่อยู่
    ของท่านไม่มีการร้ายใดๆ จะตกมาบนท่าน ไม่มีภัยมาใกล้เต็นท์ของท่าน…”
    ในปีฮีบรูที่ 5775 เสียงแห่งสวรรค์จะซึมซาบในที่ใหม่ของคุณ ปีข้างหน้าดูเหมือนกับลม
    หมุน เป็นลมพายุที่จะปลดปล่อยเมล็ดต่างๆ เพื่อจะหว่านสำหรับ อนาคตของคุณ ประตูต่างๆ
    ของยุ้งฉางที่กักเมล็ดพันธุ์ทั้งหลายสำหรับอนาคตของเรา จะถูกพัดให้เปิดออก จงโอบรับเอา
    เสียงแห่งลมพายุ จากสวรรค์ และปลดปล่อยเมล็ดพันธุ์ต่างๆ สำหรับอนาคตของเรา!"
    ในปี 5776 นี้เราจะมีการนมัสการเฉลิมฉลองและอธิษฐานป่าวประกาศการเริ่มต้นปี Rosh Hashanah ด้วยเสียงแตรเขาสัตว์ (Shofar)เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับประเทศอิสราเอล ในวันจันทร์ที่ 14 ก.ย. เวลา 18.30 - 22.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 4 ตึก Glory บางนา
    ลนต. 23:24 “จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า ในวันที่หนึ่งของเดือนที่เจ็ด(Tishrei) เจ้าทั้งหลายจงถือเป็นวันหยุดพักสงบวันหนึ่ง เป็นวันประชุมบริสุทธิ์ประกาศเป็นที่ระลึกด้วยเสียงแตร(Shofar)
    สำหรับความหมายปี 5776 ปี Ayin Vav เราจะได้รับฟังจากอ.นิมิต และร่วมฉลอง Rosh Hashanah 5776 ในวันอาทิตย์ที่ 27 ก.ย.2015 โปรดติดตามอ่านได้เร็วๆนี้ครับ
    เขียนโดย ปัทมโรจน์ มากสุริวงศ์
    วันสำคัญของอิสราเอล ตามปฏิทินปี 5776 ปี Ayin Vav (เอยิน วาฟว์ –หลักหมุดเต้นท์)

    [​IMG]


    หมายเหตุ
    * ปี 5776 หากนับตามปฏิทินยิวแบบใหม่จะเป็นปีที่ 50 หรือปีเสียงเขาสัตว์ เรียกว่า โยเบล(Yobel)หรือ จูบิลี่ (Jubilee) (ลนต.25:10 เจ้าจงถือปีที่ห้าสิบไว้เป็นปีบริสุทธิ์ และประกาศอิสรภาพแก่บรรดาคนที่อาศัยอยู่ทั่วแผ่นดินของเจ้า ให้เป็นปีเสียงเขาสัตว์แก่เจ้า ให้ทุกคนกลับไปยังภูมิลำเนาอันเป็นทรัพย์สินของตน และกลับไปสู่ตระกูลของตน)
    **วันที่ 28 ก.ย.มีปรากฏการณ์ดวงจันทร์สีเลือด(Blood moon)* เป็นครั้งที่ 4 ในรอบปี เรียกว่า เทแทรด (Tetrad) มักจะมีเหตุการณ์ร้ายเกี่ยวกับอิสราเอล
    *** ปี 5776 ในปีพิเศษ ปีอธิกสุรทิน (leap year) จะมีเดือนอาดาร์ 2 เดือน (เดือนอาดาร์ที่ 1 หรือ อาดาร์ อาเลฟ (Adar א) เดือนอาดาร์ที่ 2 หรือ อาดาร์ เบท (Adar ב) สาเหตุที่มีเดือนอาดาร์ 2 หนในปีที่เป็นปีอธิกสุรทิน (leap year) ทั้งนี้เพราะปฏิทินฮีบรูเป็นการนับปฏิทินสุริยจันทรคติ จะมีการนับเดือนจันทรคติที่ 13 โดยการเพิ่ม 7 ครั้งทุก 19 ปีเข้าไปในเดือนจันทรคติ 12 เดือนในปีปกติสุรทินเพื่อให้ปีปฏิทินไม่คาดเคลื่อนจากฤดูกาลเร็วเกินไป
    http://pattamarot.blogspot.com/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2015
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    กองทัพซีเรียยิงถล่มกลุ่มกบฏและผู้ก่อการร้ายที่เมือง Ghouta ตะวันออกของกรุงดามัสกัส (20 ก.ย.58)
    https://www.youtube.com/watch?v=TvHOnTPuNQ0

    เมืองผีในซีเรีย มีแต่โจรผู้ก่อการร้ายและพวกกบฏเท่านั้นที่หลบซ่อนอยู่ภายในต่อสู้กับกองทัพของรัฐบาลซีเรีย ส่วนชาวบ้านอพยพหนีไปหมดแล้ว ตอนนี้กองทัพซีเรียกำลัง ไล่ยึดคืนพื้นที่เข้าไปเรื่อยๆ
    https://www.youtube.com/watch?v=GO65AVG_ZHk

    ของจริงกองทัพซีเรียร่วมมือกับกองกำลังของHezbollah ดวลกันกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิสที่เมือง Nabua Zabadani (19 ก.ย.58)
    https://www.youtube.com/watch?v=clb-kgzjztM

    กองทัพซีเรียส่งอาวุธหนักโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มกบฎในเมือง Manshia จังหวัด Daraa (16 ก.ย.58) สนามรบแห่งนี้สู้กันมาอย่างน้อยตั้งแต่ปี 2013
    https://www.youtube.com/watch?v=Cpivw9UCDn0

    ของจริงไม่ได้อิงนิยายที่ซีเรีย เมื่อประชาชนแตกแยกความสามัคคีปล่อยให้ต่างชาติมาปลุกปั่นให้คนในชาติขัดแย้งกันเองโดยไม่รู้เท่าทัน สุดท้ายก็เกิดการสู้รบกันเองภายในประเทศ บ้านเมืองจึงต้องมีสภาพแบบนี้ (ซีเรีย : 17 ก.ย.58 กองทัพรัฐบาลยิงถล่มกลุ่มกบฏและกลุ่มก่อการร้าย)
    https://www.youtube.com/watch?v=KW1NSwuow-M
     
  18. Spammer

    Spammer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    976
    ค่าพลัง:
    +3,498
    การสร้างความกลัวทำให้คนศัทธา ศัทธาทำให้ลัทธิอยู่เหนือเหตุผล
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พออ่านบทความ เรื่อง5776 ปีเสียงเขาสัตว์ (Jubilee) ปีแห่งอิสรภาพและการไถ่ ที่นำมาลงให้อ่านน่ะครับ เลยเกิดความสงสัยว่าการที่ฮิตเล่อร์ พยายามฆ่าล้างเผ่าพันธ์ ยิว เพื่อ ไม่ให้เกิดประเทศชองยิวเกิดขึ้น เพราะจากที่ผมดูหนังที่ฝรั่งสร้างมาเยอะ จะมีหนังที่นาซีพยายามค้นคว้าศาสตร์ในยุคโบราณต่าง ๆ พวกเขาอาจคิดว่าถ้าเกิดมีประเทศอิสราเอลขึ้น แล้วจะเป็นการเริ่มนับการเกิดเหตุการณ์อะไร และจะมีอะไร เกิดขึ้นหรือเปล่า เลยต้องฆ่าล้างเผ่าพันธ์ยิว

    "เหตุที่ชาวยิวเชื่อว่าปี 5776 นี้เป็นปีเสียงเขาสัตว์ (Jubilee) ปีแห่งอิสรภาพและการไถ่ เมื่อศึกษาประวัติของประเทศอิสราเอล หลังจากปี ค.ศ.70 พระวิหารหลังที่ 2 ถูกทำลายโดยชาวโรมันและชาวยิวได้กระจัดกจะจายไปทั่วโลก ไม่มีชาติและแผ่นดินของตนเอง จนกระทั้งมติของสหประชาชาติในวันที่ 14 พ.ค.ปี 1948 ประเทศอิสราเอลจึงได้กลับมาเป็นประเทศอีกครั้ง แต่เขายังไม่สามารถยึดกรุงเยรูซาเล็มมาครองได้ จนกระทั้งเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ในช่วงระหว่างวันที่ 24 กันยายน ปี1966 จนถึง13 ตุลาคม ปี1967 ช่วงเวลานั้นเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองปีเสียงเขาสัตว์ (Jubilee) เป็นปีที่พวกเขาได้รับการไถ่ตามพระสัญญา เป็นปีที่พวกยิวชนะสงครามที่เรียกว่า สงคราม 6 วัน (Six days War) สามารถครองกรุงเยรูซาเลมกลับมาได้สำเร็จในวันที่7 มิถุนายน 1967 ฉะนั้นในวันที่ 23 ก.ย. 2015 จะครบ 50 ปีซึ่งเป็นปีเสียงเขาสัตว์ (Jubilee) ปีแห่งอิสรภาพและการไถ่อีกครั้งหนึ่ง"

    แต่ผมยังไม่เข้าใจความหมายของคำว่า พระเยซูตรัสตอบเขาว่า "เรามิได้ว่าเพียงเจ็ดครั้งเท่านั้น แต่เจ็ดสิบครั้งคูณด้วยเจ็ด (มธ.18:22) (สิ้นสุดสัปตะสุดท้าย 70 สัปตะ (70x7=490) และเมื่อครบกำหนดของเวลา (50 ปี) สิ่งนี้จะบังเกิดขึ้นจริงหรือไม่
    หรือจะต้องรอไปอีก 490 - 50 = 440 ปี

    เลวีนิติ 25:8-12 (ในฉบับมตรฐานปี 2011 ใช้คำว่า ปี‍อิสร‌ภาพ ฉบับปี 1971 ใช้คำว่า ปีเสียงเขา‍สัตว์)
    8“จงนับปีสะ‌บา‌โตเจ็ดปีคือเจ็ดคูณเจ็ดปี (7X7) เวลาปีสะ‌บา‌โตเจ็ดปีจึงเป็นสี่‍สิบ‍เก้า(49)ปีแก่เจ้า
    9จงให้เป่าเขา‍สัตว์ดัง‍สนั่นในวัน‍ที่สิบเดือนที่เจ็ด เจ้าจงให้เป่าเขา‍สัตว์ทั่วแผ่น‍ดินในวันลบมลทิน
    10จงถือปีที่ห้า‍สิบ (50)ไว้เป็นปีบริ‌สุทธิ์ และประ‌กาศอิสร‌ภาพแก่บรร‌ดาคนที่อาศัยอยู่ทั่วแผ่น‍ดินของเจ้า ให้เป็นปี‍อิสร‌ภาพแก่เจ้า ให้ทุก‍คนกลับไปยังภูมิ‍ลำ‌เนาอันเป็นทรัพย์‍สินของตน และกลับไปสู่ครัว‍เรือนของตน
    11ปีที่ห้า‍สิบ(50)นั้นเป็นปี‍อิสร‌ภาพ(Jubilee)ของเจ้า ในปีนั้นเจ้าอย่าหว่านพืชหรือเกี่ยว‍เก็บผลที่เกิด‍ขึ้นมาเอง หรือเก็บองุ่นจากเถาที่ไม่‍ได้ตก‍แต่ง
    12เพราะเป็นปี‍อิสร‌ภาพ จะเป็นปีบริ‌สุทธิ์แก่เจ้า เจ้าจงรับ‍ประ‌ทานพืช‍ผลที่งอก‍ขึ้นเองในปีนั้น
    ในพระคัมภีร์กล่าวถึงปีสะบาโต (Sabbatical year) ในภาษาฮีบรูเรียกว่า ซามิตะห์ (שמיטה -Shmita หรือ Shemitah ซึ่งหมายถึง การปลดปล่อย (release) มาจากคำว่า เชวิอิท ( sheviit שביעית) หมายถึงลำดับที่ 7 (seventh) ซึ่งในปี 5775 หรือ 2014 ที่ผ่านมาเป็นปีซามิตะห์
    (ผมได้เขียนบทความเรื่อง พักสงบในปีสะบาโต (Shmita year) สามารถ click เข้าไปอ่านได้ครับ)
    และเมื่อปีซามิตะห์ครบ 7 รอบ (49 ปี) ในปีที่50 จะเป็นเวลาของการเฉลิมฉลองและดีใจสำหรับชาวอิสราเอล เขาแกะที่ถูกเป่าในวันที่ 10 เดือนที่ 7 (เดือนทิชรี) (ลนต.25:9) ที่จะเริ่มต้นปีที่ 50 หรือ ปีปีเสียงเขาสัตว์( Jubilee Year (Yovel) ของการไถ่ถอน การปลดปล่อยภาระหนี้สิน
    เหตุที่เป่าในวันที่ 10 ทั้งนี้เนื่องจากในวันที่ 1 ของเดือนทิชรี จะเป็นการเป่าเขาสัตว์(Shofar) เพื่อเริ่มต้นปีใหม่ หรือที่เรียกว่า โรช ชะชานาห์ (Rosh Hashanah) หลังจากนั้นจะเป็นช่วง 10 วันตั้งแต่ Rosh Hashanah ถึง Yom Kippur (วันลบมลทินบาป) เป็นช่วงวันแห่งความยำเกรงพระเจ้า (Days of Awe)(Awesome) ก่อนจะเข้าสู่เทศกาลอยู่เพิง หรือสุคคท(Sukkot) ในวันที่ 15 ดือนที่ 7 (เดือนทิชรี)
    สามารถอ่านได้ในพระธรรมเลวีนิติ บทที่ 23:23-37
    เหตุที่มีการเป่าเขาแกะในวันที่ 10 ของเดือนทิชรี(ปี 5776 นี้จะเริ่มเข้าสู่ปีเสียงเขาสัตว์ (Jubilee)ในเย็นวันที่ 23 ก.ย.2015 นี้) ทั้งนี้เพราะเป็นการป่าวประกาศการยกโทษบาปแล้วโดยพระยาห์เวห์ สิ่งเหล่านี้เล็งถึงพระเยซูคริสต์ที่ทำการลบมลทินให้กับเราผ่านทางกางเขนแล้ว เราไม่ต้องชำระมลทินบาปผ่านทางมหาปุโรหิตที่ทำตั้งแต่สมัยพันธสัญญาเดิม
    (ผมได้เขียนบทความเรื่องนี้ไว้ คือ เทศกาลลบมลทินบาป สามารถเข้าไปอ่านได้ครับ)
    การเป่าแตรของปีเสียงเขาสัตว์( Jubilee Year (Yovel) เล็งถึงเสียงแตรสุดท้ายของโอกาสแห่งการกลับใจใหม่ แตรสุดท้ายเพื่อการพิพากษาโลกและพระเยซูคริสต์ทรงเสด็จมาเป็นครั้งที่ 2 เพื่อมารับผู้เชื่อไปร่วมครอบครองในแผ่นดินสวรรค์ด้วย
    พระเยซูคริสต์กล่าวถึงการให้อภัยและเล็งถึงโอกาสสุดท้ายในการกลับใจใหม่ก่อนจะมีการพิพากษาโลกนี้
    พระเยซูตรัสตอบเขาว่า "เรามิได้ว่าเพียงเจ็ดครั้งเท่านั้น แต่เจ็ดสิบครั้งคูณด้วยเจ็ด (มธ.18:22)
    (สิ้นสุดสัปตะสุดท้าย 70 สัปตะ (70x7=490)
    ด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าเองจะเสด็จมาจากสวรรค์ ด้วยเสียงกู่ก้อง ด้วยสำเนียงของเทพบดี และด้วยเสียงแตรของพระเจ้า และคนทั้งปวงที่ตายแล้วในพระคริสต์จะเป็นขึ้นมาก่อน ( 1 ธส.4:16)
    แต่บัดนี้เขาปรารถนาที่จะอยู่ในเมืองที่ประเสริฐกว่านั้น คือเมืองสวรรค์ เหตุฉะนั้นพระเจ้าจึงมิได้ทรงละอายเมื่อเขาเรียกพระองค์ว่าเป็นพระเจ้าของเขา เพราะพระองค์ได้ทรงจัดเตรียมเมืองหนึ่งไว้สำหรับเขาแล้ว (ฮบ.11:16)
    หลังจากนั้น ข้าพเจ้าเห็นพระวิหารคือเต็นท์แห่งสักขีพยานในสวรรค์เปิดออก (วว. 15:5)
    ปีเสียงเขาสัตว์( Jubilee Year :Yovel) เป็นปีแห่งการปลดปล่อยจากภาระหนี้ (เลวีนิติ 25: 23-38) และการไถ่จากการเป็นทาสให้เป็นไท (เลวีนิติ 25: 39-55) นักโทษและเชลยถูกปล่อยเป็นอิสระพวกเขาได้รับการอภัยและบ้านเรือนไร่นาที่ถูกยึดก็จะต้องคืนกลับไปสู่เจ้าของเดิม นอกจากนี้งานทุกอย่างก็จะยุติการเป็นเวลา 1 ปีและสัญญาแรงงานจะสิ้นสุด ลูกจ้างได้รับการปล่อยตัว ประโยชน์ของปีเสียงเขาสัตว์ หรือปีอิสรภาพ( Jubilee Year :Yovel) คือที่ดินและผู้คนก็สามารถที่จะพักผ่อน
    ปีเสียงเขาสัตว์ หรือปีอิสรภาพ( Jubilee Year :Yovel) เป็นภาพที่สวยงามในรูปแบบพันธสัญญาใหม่ของการไถ่ถอนและการให้อภัย พระคริสต์ทรงเป็นพระผู้ไถ่ผู้ที่เป็นทาสได้กลายเป็นไทและพ้นจากความบาป
    รม. 8:2 เพราะว่ากฎของพระวิญญาณแห่งชีวิตในพระเยซูคริสต์ ได้ทำให้ข้าพเจ้าพ้นจากกฎแห่งบาปและความตาย
    กท. 5:1 เพื่อเสรีภาพนั้นเอง พระคริสต์จึงได้ทรงโปรดให้เราเป็นไท เหตุฉะนั้นจงตั้งมั่น และอย่าเข้าเทียมแอกเป็นทาสอีกเลย
    กท. 3:22 แต่พระคัมภีร์ได้บ่งว่าทุกคนอยู่ในความบาป เพื่อจะประทานตามพระสัญญาแก่คนทั้งปวง ที่เชื่อโดยอาศัยความเชื่อในพระเยซูคริสต์เป็นหลัก
    หนี้ของบาปเราเป็นหนี้กับพระเจ้าได้จ่ายเป็นบนไม้กางเขนพระเยซูสิ้นพระชนม์ในนามของเรา
    คส. 2:13 -14
    13และท่านที่ตายแล้วด้วยการละเมิดทั้งหลายของท่าน และด้วยเหตุที่เนื้อหนังของท่านมิได้เข้าสุหนัต พระองค์ได้ทรงให้ท่านมีชีวิตร่วมกับพระองค์ และทรงโปรดยกโทษการละเมิดทั้งหลายของท่าน
    14 พระองค์ทรงฉีกกรมธรรม์ซึ่งได้ผูกมัดเราด้วยบัญญัติต่างๆ ซึ่งขัดขวางเรา และได้ทรงหยิบเอาไปเสียให้พ้นโดยทรงตรึงไว้ที่กางเขน
    และเราได้รับการอภัยหนี้ไปตลอดกาล เราไม่ได้อยู่ในทาสทาสไม่ทำบาปได้รับอิสระจากพระคริสต์และเราอย่างแท้จริงสามารถเข้าสู่ส่วนที่เหลือให้พระเจ้าที่เราหยุดทำงานหนักเพื่อให้ตัวเองได้รับการยอมรับจากผลงานของพระเจ้าของเราเอง (ฮีบรู 4: 9-10) .
    ฮบ. 4:9-10
    9 ฉะนั้นจึงยังมีการพำนักสะบาโตสำหรับชนชาติของพระเจ้า
    10 เพราะว่าผู้ใดที่ได้เข้าสู่การพำนักของพระเจ้าแล้ว ก็ได้พักงานของตน เหมือนพระเจ้าได้ทรงพักพระราชกิจของพระองค์
    สำหรับเราในฐานะคริสตชน ปีเสียงเขาสัตว์ (Jubilee) มีความหมายอย่างไรในชีวิตของเรา
    เป็นปีแห่งการพักสงบเพื่อที่จะวางใจในการจัดสรรของพระยาห์เวห์ ยีเรห์
    เป็นปีแห่งการไถ่ เราจึงเชื่อในเรื่องการไถ่จากพันธนาการทั้งฝ่ายวิญญาณและฝ่ายกายภาพ เชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีแห่งการจัดสรรด้านการเงินให้เราพ้นจากสภาวะหนี้สิน เราจะได้รับการไถ่จากพระองค์
    เป็นปีแห่งการหันกลับมาแสวงหาพระยาห์เวห์ เพราะเสียงแตรเป็นสัญญาณเตือนใจเราให้เรากลับใจจากบาป ก่อนที่วาระแห่งการอภัยจะสิ้นสุดเสียงแตรสุดท้ายจะดังขึ้นและการพิพากษาของพระยาห์เวห์จะมาถึง
    เป็นปีแห่งการนัดหมาย ทุกเทศกาลเป็นเวลาที่เราจะเตรียมพร้อมเสมอในการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์
    เป็นปีแห่งการป่าวประกาศอิสรภาพให้แก่บรรดาเชลยเพื่อจะรับการไถ่ให้เป็นไท เช่นเดียวกับพระเยซูคริสต์เริ่มต้นพระราชกิจด้วยการอ่านพระวจนะในพระธรรมอิสยาห์ 61:1-4 และพระองค์ก็เป็นผู้นำการไถ่มาถึงเราทั้งหลาย และพระองค์มอบหมายให้เราออกไปประกาศข่าวดีนี้เพื่อให้คนได้รับความรอด
    นอกจากนี้ยังเป็นปีที่เราจะต้องจับตาและเฝ้าระวังในการอธิษฐานเผื่ออิสราเอลและสถานการณ์ต่างๆของโลก ที่กำลังเคลื่อนไปสู่วาระเวลาของพระยาห์เวห์ มีหลายสถานะการณ์ของโลกที่เราจะเฝ้าดูและอธิษฐานเผื่อ เช่น ในระหว่างวันที่25ถึง27กันยายน 2015 นี้ ที่เมืองนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีผู้นำโลกทั้วโลกรวมทั้งพระสันตปะปาฟรานซิสไปร่วมประชุมและกล่าวสุนทรพจน์ หัวใจของการประชุมเรื่องความยั่งยืนคือธรรมาภิบาลของโลก (global governance) เพื่อจะมีการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Summit) สิ่งนี้อาจจะเป็นการรวมตัวของรัฐบาลของโลกใหม่หรือ (New world order) และจะนำไปสู่การเกิดผู้ที่ต่อต้านพระคริสต์หรือ The Anti Christ หรืออื่นๆที่จะเกิดขึ้นตามที่พระคัมภีร์ในพระธรรมวิวรณ์ได้กล่าวไว้หรือไม่
    ติดตามในบทความครั้งต่อไปนะครับ ขอพระเจ้าอวยพระพร
    เขียนโดย ปัทมโรจน์ มากสุริวงศ์
    09 กันยายน 2558

    Pattamarot
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc

    [​IMG]

    FYI ~~~ >>> อีกเพียง 2 วัน จนกว่าจุดสูงสุดของคลื่นทางช้างเผือกคลื่นจะมาถึง และเปลี่ยนทุกอย่างในทางที่มันผ่าน
    fyi ~~~>>> only 2 days until the peak of the Galactic Wave arrives and Transforms EVERYTHING in it's way อีโมติคอน wink อีโมติคอน heart

    พวก ................... ตามที่อธิบายไว้ถ้าคุณไม่พยายามที่จะเชื่อมต่อกับ Gaia (แม่พระธรณี) เมื่อพลังงานใหม่เหล่านี้ผ่านโลกที่มีมนต์ขลังของเราแล้ว เรื่องเศร้านี้จะ ส่งผลกระทบต่อคุณมากกว่าที่คุณเคยได้ลองนึกภาพ ........
    ................... guys, as explained, if you do nOt try to CONNECT with Gaia (Mother Earth) when these new enerGies pass through our maGical planet then sadly this will affect yOu muCh more than yOu can eVer Imagine........

    เพื่อให้คน ซึ่งรู้แจ้งแล้ว คุณจะสังเกตเห็นโดย 28 กันยายน จะมีเพื่อนและเพื่อนร่วมงานของคุณหลายๆ คน จะมีอารมณ์ร้าย วิตกกังวล สับสน รู้สึกสูญเสียโดยสิ้นเชิง ฯลฯ ......... เรื่องใหม่เหล่านี้ LO อีโมติคอนหัวใจพลังงาน E อยู่ที่นี่เพื่อช่วยให้เราพัฒนากลายเป็นมนุษย์ที่ดีกว่า การตัดสินใจเป็นของคุณอย่างใดอย่างหนึ่งที่คุณยอมรับพลังงานเหล่านี้ .... หรือคุณจะสานต่อการดำรงชีพ "ชีวิตทางการเงิน 3 มิติ" และมี "การล้มเจ็บ" เพราะ ร่างกายของคุณจะกลายเป็นคนอ่อนแอ ที่ไม่สามารถที่จะรักษาตัวเอง
    to the already enlightened guys out there, you will notice by the 28th September that many of your friends and colleagues will be moody, bitchy, on edge, confused, feel totally LOST, etc......... these new LO อีโมติคอน heart E enerGies are here to help us evolve into better Humans, the choice is yours, either you accept these enerGies.... or yOu carry on living your "monetary 3d life" and have a "break down" because your bodies will become weak, not able to sustain yourselves.....

    ..... น่าเศร้าไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเปลี่ยนแปลงไปยังมิติที่ 5d แต่ไม่ต้องกังวล นี้เป็นเพียงคลื่นลูกแรก จากคลื่นอีกูหลายลูก คนที่รู้แจ้งแล้วมีอยู่แล้วความรู้สึกใหม่ ๆ เหล่านี้ พลังงาน เมื่อคลื่นได้ขึ้นสูงสุด โดยดวงจันทร์สีเลือด การเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอจำนวนมากจะเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในหน่วยความจำจะกลับมาคุณจะจำว่าคุณเป็นใครและทำไม ..... คุณอยู่ที่นี่ .....
    sadly, nOt everyone will 'make' this Transformation to 5d, but not to worry, this is only the 1st Wave, many who already enlightened are ALREADY Feeling these new enerGies, once the wave has peaked by the Blood Moon many Dna CHANGES will start taking place, memory will return, you will remember WHO YOU ARE..... and WHY you are here.....

    ฮ่าเราทุกคนที่นี่จะช่วยกันรักษาดาวเคราะห์
    เราเท่านั้นที่สามารถรักษาเธอกับ LO อีโมติคอน E หัวใจ
    เวลาที่จะตื่นขึ้นเป็นตอนนี้
    ha ha, we are ALL here to help save the planet,
    we can ONLY save Her with LO อีโมติคอน heart E
    the time to wake up is now,

    เร็ว ๆ นี้คุณจะจำได้ว่ามีเพียงความรักอีโมติคอนหัวใจ
    คลื่นลูกแรกจะปล่อยให้ได้รับการเยียวยา, การฝึกอบรม และแล้วพวกเขาก็จะกลับมาคลื่นลูกที่ 2 ที่จะช่วยให้พวกเขา ฯลฯ เราจะพยายามที่จะใช้วิญญาณเป็นจำนวนมากผ่านไปยังมิติที่ 5 ผู้ที่ทำไม่ได้ก็จะมีโอกาสอีกครั้ง waaaaay ในอนาคต .......
    จะทราบว่าจะเตรียมความปลอดภัยเป็นแท้จริงอีโมติคอนหัวใจอิเล็กทรอนิกส์
    soon you will remember that there is Only loVe อีโมติคอน heart
    the 1st Wave will leave, be healed, trained and then they will return for the 2nd wave to help them, etc, we will try to take as many Souls through to the 5th dimension, those who do not make it will have another chance, waaaaay in the future.......
    be aware, be prepared, be safe, be lo อีโมติคอน heart e
     

แชร์หน้านี้

Loading...