วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ

ขอหนึ่งชุดเหมือนกันนะคะ แบบซีดีค่ะ
<!-- / message -->

 

ไม่แน่ใจว่ามีทีมจัดทำเป็นซีดี หรือยังนะคะ

ถ้ายังหรือต้องการคนเสริมเรื่องตรงนี้

ยินดีรับทำไฟล์เสียง บันทึกลงแผ่นซีดี และส่งให้โดยไม่คิดมูลค่าใดๆค่ะ ฟรี

แต่ถ้ามีทีมทำอยู่แล้ว ...ก็ ขออภัยด้วยค่า

 

ความปราถนาดี...แทรกอยู่ทุกอณู...ในสังคมนี้

ขออนุโมทนาบุญครับ

 

ขออนุโมทนากับทุกท่านที่มีจิตเป็นกุศลค่ะ ขอให้ทุกท่านมีธรรมบารมียิ่งๆขึ้น
และขอให้รวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเมื่อ
ภัยมาถึง สาธุ

 

อยู่ดีๆ ผมก็ได้โอกาสในการเผยแพร่ การสอนสมาธิอีกแล้วครับ คราวนี้เป็นโปรเจ็กใหญ่เลยครับ คือว่าเป็นการแข่งขันการเสริมสร้างความมั่นคงยั่งยืนแก่เอกลักษณ์ของชาติ โดยผมจะส่งการสอนสมาธิในไฟล์ที่แนบมาด้วยนี้เข้าประกวดในวันที่ 15กพ. โดยอยากจะให้ทุกๆท่านช่วยกันแนะนำนะครับ เพราะว่าหากผมชนะขึ้นมานี่ จะ โก ไทยแลนด์เลยนะครับ เพราะว่าผู้ชนะจะได้เวลาในการสาธิตการปฏิบัติจริงด้วยครับ เพราะฉะนั้นขอให้ทุกๆท่านช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

อ่านแล้ว
เข้ามาชื่นชมครับ อายุขนาดนี้ เขียนได้แบบนี้เก่งมากครับ
...
ขอแสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ การเสริมสร้างความมั่นคงยั่งยืนแก่เอกลักษณ์ของชาติ

มีสามส่วนนะครับ
ส่วนแรก บทนำและปัญหา
...เอกลักษณ์ของชาติ คืออะไร ทำไมถึงคิดว่าเป็นสิ่งนี้ เอกลักษณ์อันนี้มีมานานแค่ไหน หรือว่าพึงมี
...ความมั่นคงยั่งยืน ของ เอกลักษณ์นี้มีปัญหาอยู่หรือไม่ และสำคัญอย่างไร
...ทำไมชาวไทยต้องมาเสริมสร้าง การปลุกตื่นจากภายใน

ส่วนสอง วิธีการ
...ผมเห็นด้วยกับ คำว่า ลมสบาย ครับ
ถ้าสามารถใช้คำว่า ลมสบายเป็นภาษาสากล ได้ทุกศาสนา จะเป็นประโยชน์มากขึ้น น่าจะเป็นวิธี ที่ปรารถนาให้ผู่อื่นมีความสุข ด้วยความรักและเมตตา ไม่จำกัด เชื้อชาติ เผ่าพันธ์ และ ศาสนา

ส่วนที่สาม สรุป
ยังไม่ค่อยชัดเจนครับ
ต้องย้ำ การปลุกตื่นจากภายใน อีกครั้ง เพื่อแสดงออกมาภายนอก
...

ส่วนภาษาที่ใช้เขียน เป็นภาษาพูด มากกว่า ภาษาเขียนนะครับ
วรรคตอน การใช้คำย้ำซ้ำไป และ คำฟุ่มเฟือย
ทำให้งานเขียนไม่กระชับ บางทีผู้ที่อ่านตามรู้สึกเหนื่อยตามไปด้วย
ยกตัวอย่างเช่น

เมื่อได้ทราบดังนี้แล้ว การกระทำเช่นไรหล่ะ จึงจะสามารถช่วยส่งเสริมความมั่นคงให้กับเอกลักษณ์อันทรงคุณค่าเช่นนี้ได้

ลองเปลี่ยนเป็น โครงสร้างคร่าว คร่าว เช่น

ปัจจุบันเอกลักษณ์ของชาติ มีการเสื่อมถอยตามกระแสของโลกาภิวัฒน์... และแนวทางที่ส่งเสริมเอกลักษณ์ให้เกิดความมั่นคงเหมือนครั้งอดีต ...โดย...ชาวไทยทุกคน...ด้วย...วิธี...
(จุดไข่ปลา หมายถึง วลีที่ควรนำมาขยาย ประโยคหลัก)


และลองตัดคำว่า ผู้เขียนไป แล้วละในฐานที่เข้าใจจะดีกว่าไหม

...
คอมเมนท์ แบบนี้ ไม่โกรธกันนะครับ น้อง
55

 

เขียนได้ดีครับ แต่อยากให้แบ่งแต่ละย่อหน้าในส่วนของ คำนำ เนื้อหา สรุป ให้ชัดเจน จะทำให้กรรมการอ่านได้ง่ายขึ้นครับ

และในส่วนแรกที่กล่าวถึงเอกลักษณ์ของชาติ ควรจะกล่าวถึงความมีเมตตา กรุณา ปราณีของคนไทยด้วย (ที่คนชาติอื่นทั่วโลกก็เข้าใจ เช่น เมื่อตอนเหตุการณ์ซึนามิมีการช่วยคนต่างชาติ จนเค้าซาบซึ้งใจ) ซึ่งตรงนี้มันจะไปเชื่อมกับการแผ่เมตตาในตอนท้ายด้วยครับ

ขออนุโมทนา และขออวยพรให้ประสบความสำเร็จนะครับ

 

เห็นด้วยกับความเห็นด้านบนเช่นกันค่ะ แต่พอดีว่าพี่โหลดมาแล้วก็แก้เข้าไปในไฟล์ งั้นเลยขอแนบไฟล์กลับมาให้อ่านแทนนะคะ

ชื่นชมน้อง xorce เช่นกันค่ะ

 

พี่ขอเอาใจช่วยด้วยเช่นกันค่ะ (สู้เต็มที่เลยค่ะน้อง)

 

เอาใจช่วยค่ะ

 

ขอบพระคุณมากนะครับ ผมจะนำเอาคำแนะนำไปปรับปรุงนะครับ เพราะว่างานนี้ต้องรัดกุมนิดนึงเพราะว่าหากชนะขึ้นมา จะเกิดเอฟเฟ็ค ต่อสังคมแน่นอนครับ
เนื่องจากว่ามีกติกาว่า ห้ามเขียนเกิน3หน้ากระดาษทำให้ผมอาจจะต้องตัดบางส่วน ที่จะสอนเฉพาะผู้ที่สนใจจริงๆเท่านั้น ออกไปน่ะครับ ก็เลยต้องคิดครับว่าเราควรจะใส่อะไรลงไปดีในพื้นที่3หน้ากระดาษ a4 ตอนนี้ผมก็จะนำเอาเวอชั่นที่ปรับปรุงแล้วมาให้ทุกๆท่านได้อ่านกันนะครับ โดยเนื่องจากว่าข้อความหลายๆส่วนเป็นไปในแนวทางที่ผมต้องการจะสื่ออยู่แล้ว จึงไม่ได้ปรับปรุงอะไรมาก แต่จะมีการเพิ่มข้อความในบางจุด และมีการจัดเรียงหน้าใหม่ โดยได้นำคำแนะนำของหลายๆท่านมาปรับปรุง หากผิดพลาดประการใดก็ขอให้ทุกๆท่านช่วยแนะนำอีกครั้งด้วยครับ

 

เรื่องเล่าจากเขาชนไก่ ของน้องชัชครับ

ธรรมมะของน้องเขาก้าวไกลเกินอายุ17 ปีไปเยอะเลยครับ ขอโมทนาบุญและใช้เป็นแบบอบ่างของท่านผู้ปฏิบัติธรรมท่านอื่นด้วยครับ

<TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Xorce<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 07:07 PM
วันที่สมัคร: Oct 2007
อายุ: 17 ปี
ข้อความ: 74 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 1,271 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 1,675 ครั้ง ใน 76 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 175


</TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title --> กำลังใจเพิ่มขึ้นเยอะเลยครับ
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->หลังจากที่ผมกลับมา ผมรู้สึกว่ากำลังใจสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ เพราะว่าไปที่นั้นเนี่ยผมต้องเสียสละหลายๆจุดเลย ก็อาจจะมีแอบๆอู้งานบ้าง แต่ก็คิดว่าได้ช่วยเหลือทุกๆคนอย่างสุดความสามารถครับ แถมได้ข้อคิดอีกหลายๆอย่างครับ เช่นหากเขาเห็นว่าเราเป็นตัวตลกแล้วทำให้เขาหายเครียดได้ มันก็ดีนะ เออเขามีความสุขก็พอ เราเป็นไงในสายตาเขาก็ช่างมันเหอะ และทหารจริงๆก็ไม่ได้อยากให้เกิดสงครามหรอก จริงๆแล้วทุกคนอยากที่จะอยู่กันอย่างสงบมากกว่า
ตลอดเวลาทั้งวันผมตั้งจิตทรงอารมณ์พระนิพพานบ้าง ฌาณ4บ้าง ฌาณอื่นๆบ้างตามสมควร ตลอดเวลาครับ เพราะว่าบางช่วงเหนื่อยๆ ก็จะถอยอารมณ์ลงมาเสวยสุขจากเวทนาในฌาณที่ต่ำลงมาแล้วก็ค่อยนำอารมณ์กลับขึ้นไปครับ ผมฝึกวิชาเดินธาตุไปนิดๆหน่อยครับ โดยจำเอาไว้เฉพาะอันที่จะต้องได้ใช้แน่ๆ ก็จะมีการแก้ท้องร่วง การสะท้านร้อนสะท้านหนาว อันนี้ใช้ทุกๆคืนครับ เพราะอากาศร้อน และก็อันสุดท้ายคือการแผ่ปีติไปตามร่างกาย เพื่อทำให้ใจสบาย ที่สำคัญที่สุดเลยคือการปะทะกับอารมณ์กระทบ เพราะสัมผัสได้ตลอดจากคนอื่นๆ เพราะว่ามีหน้าที่เป็นหัวหน้า ก็มีคนถูกใจบ้างไม่ถูกบ้างเป็นเรื่องธรรมดา เราก็คิดว่า เออเขาเครียดนะ เขาก็ทุกข์นะ ให้เขาได้ระบายๆซะบ้างก็ดี เพราะว่ามันก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเราไปแล้วเรื่องโลกธรรม8 ประการ
จริงๆอยากจะหลงหายเข้าไปในป่าไปเลย555+ จะได้ทำแบบที่เคยทำมาก่อน แต่มันก็ไม่หลงซะทีครับ รู้สึกมั่นใจขึ้นเยอะเลยครับ ว่าเราจะต้องได้ช่วยคนตามที่ปรารถนาอย่างแน่นอนที่สุด ขอบพระคุณพี่คณานันท์ ทุกๆท่านทุกๆพระองค์มากๆอย่างหาที่สุดหาที่ประมาณมิได้ครับ สาธุ
<!-- / message --><!-- sig -->
____________________________________________________________
หมั่นมองดูจิต คิดชำระให้สะอาดใส ห่างไกลซึ่งมารร้าย ขอสิ้นซึ่งภพชาติ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ผมขอร่วมแนะนำละกัน ตอนท้ายจบแบบกว้างกว่านั้นก็ดีครับ(เป็นสูตรไม้ตายวิชาบรรยายเลยทีเดียว) ตอนนี้จบที่ประเทศไทยแล้วให้พูดไปถึงจุดหมายที่ไกลกว่าอีกสักสเตปนึง อาจจะประเทศเพื่อนบ้าน หรือสันติสุขของโลกหมู่มวลมนุษย์

จุดด้อยของบทความคือ มีศาสนาเดียวในบทความ อันนี้ต้องวัดใจกับผู้ตัดสินเอง หรือน้องอาจปรับช่วงต้นๆ ให้พูดถึงศาสนาอื่นบ้าง เพราะประเทศไทยเป็นดินแดนพิเศษที่ทุกเชื้อชาติศาสนารวมกันอย่างสันติสุข ตอนกลางๆก็ใช้พระธรรมโยงไปสู่การปฏิบัติซึ่งการปฏิบัติไม่ว่าจะนับถือศาสนาเชื้อชาติใดวัยใดก็ทำได้ไม่จำกัดเฉพาะชาวพุทธ

 

อยากแนะนำจังเลย พอดีว่าได้ไปฟังแนวความคิดหลายๆ ศาสนามา
ทำให้ยอมรับว่า ศาสดา ทุกๆ ศาสนาล้วนแล้วแต่ปรารถนาดีทั้งนั้นเลย
เพียงแต่ว่าคำสั่งสอนที่สืบทอดต่อกันมาทำให้ ความเชื่อพิธีกรรมบางอย่าง
ผิดเพี้ยนไป หรือความเชื่อของศาสนานั้นถูกนำไปอ้างกันแบบผิดๆ ทำให้
ผู้คนมากมายหลงเชื่อ เชื่อเพราะศรัทธา ยึดมั่น เสียดายที่เขาเหล่านั้น
ไม่ได้ใช้ปัญญาในการพิจารณาคำสอนเหล่านั้นว่าอันไหนถูกอันไหนควร

อยากจะเสริมว่า การที่จะเลือกนับถืออะไรก็แล้วแต่ให้ลองถามจิตและปัญญา
ของตนเองว่าเหมาะสมกับเราหรือไม่ จิตเราจะบอกได้เองครับและส่วนใหญ่
จะแม่นยำถูกต้องซะด้วย

เปิดใจให้กว้างยอมรับทุกศาสนาและคำสอนที่ไม่ละเมิดศีล 5 นั่นน่าจะพอที่
จะคัดกรองได้ระดับนึงแล้วนะครับ

ปล.อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ถ้าทำให้ไม่ชอบใจก็ขออภัยด้วย

 

*** ศาสนศาสตร์ มีเพียงหนึ่งเดียว ****

คือ นำพาสัตว์ให้หลุดพ้นทุกข์
หลักสัจจะธรรม...เป็นหลักเดียวสูงสุดในจักรวาล

สัจจะ...คือ สัญญาที่มีขึ้นในใจตนเอง
สัจจะ....เป็นหน้าที่ ที่ทุกคนต้องทำ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

พระเจ้า.......
คือ โลกุตตระ สูงสุดในจักรวาลแล้ว

พระวจนะของพระเจ้า .......
คือ คำสอนขององค์โลกุตตระที่อวตารเป็นมนุษย์ คือ องค์เขตะมารัจจะ

แจ้งข่าวดีขณะที่ใกล้วันสิ้นโลก .......
คือ เรื่องราว โลกุตตระธรรม หลักสัจจะธรรม การหลุดพ้นทุกข์จากบ่วงกรรม ด้วยสัจจะ สัญญาที่มีขึ้นกับใจตนเอง

พระคริสต์เสด็จกลับมา...
คือ บุรุษผู้นำพาโดยองค์โลกุตตระ เพื่อสานต่อศาสนศาสตร์เพื่อนำพาสัตว์หลุดพ้น

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

น้องชัดสู้ๆน่ะ ขออนุโมทนาด้วยคับ การปฏิบัติของผมตอนนี้เริ่มเข้าที่ดีแล้ว เข้าใจในธรรมดีขึ้นรวมทั้งวิปัสสณาก้อแจ่มใสขึ้นคับ ทั้งนี้ผมยึดหลักทางสายกลางมัฌชิมา คือ ทำตามสบายแต่ไม่ออกนอกทาง ไม่หวังในการปฏิบัติมากเกินไปจนเป็นมานะ ต้องขอขอบคุณพี่ๆเพื่อนทุกคนที่แนะนำครับ ผมพึ่งจะได้รู้ว่าการที่เรานั่งสมาธิและเกิดปัญญาเป็นยังไง มันเหมือนกับว่าสมองเราเป็นคอมพิวเตอร์ยังไงอย่างงั้น นี่แหละครับรสพระธรรมที่แท้จริงครับ ปัญญาชนะอวิชา ปัยญาชนะกิเลส

 

สาธุครับ ท่านพัฒนาตน ผมก็ตอนนี้พยายามปฏิบัติไม่หวังผลในการปฏิบัติ
แต่ก็ยังอยู่ไม่ 100% ซะทีเดียว แต่พอไม่หวังมันกลับได้ผลในการปฏิบัติ
มากขึ้น พอหวังก็ไม่เกิดอะไรเลย เอิ้กๆ เป็นๆ หายๆ

 

เรียน คุณ kananun
เพิ่งเริ่มต้นปฏิบัติ ตามที่คุณสอนได้ไม่กี่วัน เมื่อวานนี้ เป็นครั้งแรกที่ตอนที่ถอนจิตออกจากสมาธิ แล้วจิตรู้สึกว่าไม่อยากออก ก่อนหน้านี้เวลาปฏิบัติจิตจะไม่นิ่ง เมื่อวานเป็นคืนแรกที่ตั้งใจว่าจะสวดมนต์ยอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎก
หลังสวดมนต์เสร็จ ธูปที่บูชาพระยังไม่หมดดอกก็เลยนั่งสมาธิต่อ พอจะถอนจิตออกจากสมาธิ แล้วจิตรู้สึกว่าไม่ยากออก ขอคำแนะนำด้วยครับ ก่อนหน้านี้ ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า มีเหตุการณ์ที่ต้องชักนำให้มาเกี่ยวข้องกับเวปพลังจิต จนกระทั่งได้มากลับตัว กลับใจ เริ่มต้นปฏิบัติ พยายามที่จะรักษาศีล 5 ให้ครบ แต่เผลอทำขาดไปบางข้อบ่อยๆ แต่ก็พยายามทำต่อครับ ยังงัยขอคำแนะนำด้วยครับ

 

คำแนะนำคือ ให้ไหว้ครูครับเป็นประการแรก การปฏิบัติจะก้าวหน้าเร็วยิ่งขึ้น

จากนั้นอธิฐานตั้งจิตเอาไว้ในสัมมาทิษฐิให้ได้มั่นคง

และหาก มีเวลาอยู่ในกรุงเทพมาฝึกสมาธิด้วยกันพรุ่งนี้ครับ ที่อาคารเลิศปัญญา ชั้น 17 ซอยรางน้ำ เวลา 9.00 น.ครับ

ใครมีเครื่องอัดเสียงเอ็มพีสามขอให้ช่วยนำไปด้วยเพื่อจัดไรท์ส่งเป็นซีดีให้เพื่อนๆที่ต้องการครับ