ข้อมูลใหม่เงาดำทะมึนสูงใหญ่ริมทางแท้ที่จริงแล้วคือเปรตดิบ

จากระทู้เดิมที่ถูกจขกท.ลบออกไปแล้วนั้น ได้ข้อมูลใหม่(หากกระทู้ซ้ำก็ขออภัย)เข้ามาว่า จุดที่มีชาวบ้านรายหนึ่งเจอเงาดำทะมึนสูงใหญ่ริมทางนั้น แท้ที่จริงแล้วมีมูลเหตุมาจาก เปรตดิบ ในที่นี้เป็นอีกร่างหนึ่งของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ได้สะสมกรรมชั่วมานาน ที่มาปรากฏตัวให้ผู้ที่มีสื่อสัมผัสได้พบเจอ(หญิงชาวบ้าน) เพื่อให้เขาช่วยแก้ปัญหาช่วยตักเตือนหรือขอส่วนบุญ แต่ก็คงไม่มีใครสามารถช่วยอะไรเขาได้ เพราะสะสมบาปกรรมด้านเลวมานาน มีผู้เข้าข่ายอยู่สองรายด้วยกัน
รายแรกเป็นคนแก่ ที่หาช่องทางเอาของวัดแห่งหนึ่ง โดยอาศัยอำนาจที่เป็นผู้ช่วยดูแลวัด ขนาดอาหารที่เจ้าภาพนำมาถวายเพล พอถึงเวลาที่พระสงฆ์จะมาฉัน มีไข่ต้มอยู่3ฟอง กับพริกผงและหน่อไม้ต้ม ส่วนอาหารดีๆหายไปไหน ท่านผู้อ่านก็ลองคิดดู นี่เป็นแค่ตัวอย่าง
รายที่สองเป็นคนหนุ่ม รายนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นเปรตหรือปอบ เพราะเห็นของวัดแล้วเหมือนคนหิวโซ ฟาดหมด กำชับพระสงฆ์ที่สนิทให้เจ้าภาพทำอาหารชนิดนั่นทำชนิดนี่มา ก็ล้วนเป็นของที่ตนเองชอบๆ พระยังไม่ฉัน ก็อาจถูกฟาดเข้าท้องวังสะพุงตนเองก่อน หาเศษหาเลยของสงฆ์ เอาหมด น้ำปู น้ำปลา ผงชูรส น้ำตาล ที่พระสงฆ์รับบังสุกุลแล้วเผลอวางไว้ นี่เป็นข้อมูลที่วงในเขาเล่ามาอีกที เวรกรรมจริงๆ ท่านผู้อ่านที่มีปสก.ก็จะทราบดี บรรยายมากก็จะเป็นการประจานกันไปปล่าวๆ
เปรตดิบนี้ คนแก่เขาว่าบางคนที่ยักยอกเอาเงินวัดจำนวนมาก สักห้าหมื่นบาท หรือสักแสน บาท ผสมกับกรรมในอดีตของตนเองเข้าไปอีก ก็สามารถกลายเป็นเปรตดิบ ปรากฏอีกร่างที่สูงใหญ่ดำทะมึนให้คนที่มาวัดได้พบเห็นได้ หากเป็นกลางวันแสกๆเพราะกรรมหนักหนาสาหัสมาก ก็จะได้เห็นหน้าเห็นตากันเลยทีเดียว เราๆท่านๆที่นั่งอยู่นี่ก็ไม่แน่ หากมีกรรมในอดีตสะสมกันมากเข้า ก็อาจเป็นเปรตดิบไปได้ อย่าประมาท ให้ทำความดี ทำให้ถูกต้อง ถูกช่อง ถูกทาง จึงจะไม่เกิดโทษแก่ตนเอง

 

เคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่เล่าให้ฟังเหมือนกันค่ะ ว่า พวกที่หยิบเอาของในวัดไป โดยเฉพาะพวกข้าวปลาอาหารแห้งกลับไปบ้านโดยไม่ขอ และพวกจานชามของใช้ในครัวไปเป็นของตน พวกนี้จะกลายเป็นเปรตดิบ เป็นเปรตทั้งที่ยังไม่ตาย ค่ะ
สาธุ ค่ะ

 

ขอบคุณที่ช่วยเพิ่มเติมข้อมูล ความรู้

 

ไม่แค่นั้นครับ...คุณแม่เคยเล่าให้ฟังว่า มียายคนหนึ่งชอบด่าพระสงฆ์ (ไม่ขอเอ่ยนาม) อยู่ทางภาคอีสานเมืองดอกบัว...จาบจ้วงเสียหาย..กล่าวร้ายพูดแต่ทางให้โทษพระท่าน...มีอยู่มาวันหนึ่ง บังเอิญมีคนไปเห็นยายคนนี้ห้อยหัวกรีดร้องโหยหวนอยู่ใต้ต้นไม้ หน้าเปลี่ยนเป็นแบบน่ากลัวแต่ดูรู้ว่าเป็นใคร...
..พระท่านอยู่ดี อยู่เฉยๆ ของท่านนะ..แต่เวรกรรมกลับส่งผลร้ายต่อยาย ทั้งแกยังมีชีวิตอยู่..กลางวันแสกๆด้วย...กลัวครับ กลัวกรรมเวร...
ผีมีจริงแสดงว่าเวรกรรมมีจริงเช่นกันครับ

 

แบบนี้ จขกท.ก็กลัวเหมือนกัน

 

ขี้โลภทั้งหลายตายไปก็เป็นเปรตครับพวกนี้มือจะยาวถึงหัวเข่าครับ
และเปรตที่ว่า(ไม่ใช่ตัวสูงเหมือนเปรตแต่ร่างกายใสนะครับ)
เป็นภูมิที่แม้แต่ใครก็ตามที่มีความสามารถที่เห็นได้
หรือมีบารมีพอช่วยได้ก็ยากครับ เพราะเค้าจะมีวิบาก
ในเรื่องการวางใจเป็นกลางเข้ามาขวางตอนที่
จะรับส่วนบุญครับ. ถ้าจะช่วยจริงๆต้องหลายครั้งหน่อย
ปล.พูดถึงกรณีคนช่วยไม่ใช่ห่มเหลืองมากบารมีช่วยนะครับ

 

สาธุๆๆ น่ากลัวมากๆค่ะ ขอถามหน่อยค่ะ แล้วในกรณีที่ญาติโยมบางคนเจอ พระสงฆ์ท่านไม่สำรวม เช่นญาติโยมโอนเงินทำบุญให้ช้าเพราะเหตุความจำเป็นบางอย่าง แล้วท่านเขียนข้อความ และโทรมาต่อว่าญาติโยมให้เกิดความเสียใจน้อยใจ และโมโหญาติโยม แล้วก็มีบางรูปคุยกับโยมผู้หญิงออกแนวจีบ พอเขาไม่เล่นด้วย ก็โกรธโมโหบอกแค้นๆ สาปแช่งเขา ญาติโยมคนนั้นเขาเอาเรื่องที่กล่าวมาข้างต้น พร้อมหลักฐานมาให้ดูและมาเล่าให้เราฟัง แล้วเขากล่าวคำตำหนิถึงการกระทำของพระสงฆ์รูปนั้น อย่างนี้เขาบาปมั้ยคะที่นินทาถึงพฤษติกรรมของท่านแบบนั้นคะ?

 

อันนี้ผมไม่ทราบนะครับ..แต่ใครทำผิดเขาก็รับของเขาแน่ๆ เราควรเลี่ยงไปทำบุญสงฆ์ที่เราสบายใจโดยที่ท่านมีศีลงามพร้อม ถ้าเป็นผม ผมก็จะหยุดต่อยอดให้คนไม่ดีครับ เพราะเดี๋ยวมันจะกำเริบมากกว่าเก่า (พระสงฆ์ดีๆ ยังมีอยู่ครับ) ไม่ต้องด่า..กรรมใครก็กรรมมัน

 

ขออนุญาตแสดงความเห็นด้วยครับ..ถือว่าเป็นเรื่องสมมุตินะคับ..
แบบที่คุณ ต่างแดนไกล เล่าถึงนั้นส่วนตัวมองว่าแต่งตัวคล้ายพระครับ..
ใครก็ตามที่ถูกตัดกระแสเชื่อมกับครูบาร์อาจารย์ข้างบนเพราะเหตุว่า
ยังติดในเรื่องสัญญาเกี่ยวกับการหวังในเรื่องการทำทานอยู่
ถ้าเป็นนักการเมืองที่ทำทานเพื่อหวังผลว่าไปอย่าง ยังถือว่าดี
แต่ก็ยังถือว่าไม่ควรเพราะทำทานแบบหวังผลส่วนตน
...และหากยังมีวิสัยไม่พ้นทางโลกๆ
ส่วนตัวมองว่าเป็นคนปกติทั่วๆไปนี่หละครับ.คือถ้าสมมุติว่าเป็นคนปกตนิสัยอย่างนั้น
ก็ถือว่านิสัยไม่ดีแล้วครับ.มีที่ไหนไปคุยจีบ ญ เค้าไม่เล่นด้วยไปชาบแช่งเค้า
มันนิสัยและภูมิจิตอสูรกายชัดๆ...ถ้าจะใช้คำว่าพระได้ พระคือผู้ประเสริฐครับ
ผู้ที่ประเสริฐ อย่างน้อยจิตใจต้องเข้าถึง พระรัตนตรัยอย่างใดอย่างหนึ่งครับ
และนิสัยก็ควรจะดีกว่าปกติๆทั่วไปด้วยครับ
ปล.ติ้งต่างว่าที่เล่าคือเรื่องสมมุตินะคับ..