ขอทำความเข้าใจเรื่องนิพพานหน่อยนะครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Tiger Dear's, 2 กรกฎาคม 2015.

  1. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    ออ...น่าจะอธิบายอย่างนี้เสียตั้งแต่ทีแรกครับ
    ขอคุณอธิบายให้ฟัง ลึกซึ้งมากครับ
     
  2. สมทิ สมวา

    สมทิ สมวา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +103
    ทุกชีวิต โตขึ้นมาได้ เพราะมีความสุข
    ควายก็คงมีความสุข เหมือนกันซินะค่ะ
    ถึงคนจะเลี้ยง เขาไว้ใช้งาน โดยให้เขาอยู่ อย่างไงก็ตาม
     
  3. ---สมส่วน---

    ---สมส่วน--- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,979
    ตึก 4 ชั้นเท่ากับ ป. 1 และ บ้านหลัง 1 เท่ากับอนุบาล

    ตึก 4 ชั้นเท่ากับ ป. 1 และ บ้านหลัง 1 เท่ากับอนุบาล
    การเห็นธรรม นั้น เป็นสิ่งที่ลึกซึ้ง และเข้าใจได้ยาก
    สำหรับผู้ไม่เคยได้สดับมา แต่สำหรับผู้สนใจ
    ศึกษาพระธรรม จะเข้าใจได้เอง เมื่อผู้แสดงกล่าวจบ

    บ้านหลังหนึ่งนั้นกล่าวไปแล้ว แต่ต่อไปนี้จะเป็นตึก 4 ชั้น
    ตึกหลังนี้ กว้างใหญ่ และสะอาด เป็นแต่ห้องๆ หลายๆห้อง
    มีถึง 4 ชั้น มีประตูปิด เปิดได้ และมีบันได ขึ้น ลง จากชั้น 1
    ถึงชั้น 4 คนที่ไปอยู่ตึกหลังนี้ ก็ไปอยู่คนเดียว และคนๆนี้
    ก็ไม่มีความรู้ เรื่องจัดระเบียนต่างๆ ในตึกหลังนี้

    โดยไม่มีห้องน้ำ และห้องครัว โดยใช้ทำธุระ ร่วมกันทุกอย่าง
    เขาเข้าไปอยู่ ในตึกหลังนี้ วันแรกเขาทำธุระ ชั้นล่าง เป็นห้องๆ
    ทีละห้อง ทีละห้องไป

    แต่ตัวเขา ขึ้นไปนอนอยู่ ชั้นที่ 4 ชั้นบนสุด
    การเวลา ได้ผ่านไป เลื่อยๆ เมื่อเขาใช้ทำธุระ ชั้นล่างเต็มแล้ว
    เขาก็เริ่มขึ้นมาใช้ ชั้นที่ 2 อีก เมื่อเขาใช้ ชั้นที่ 2 เต็มแล้ว

    เขาก็มาใช้ชั้นที่ 3 อีก เมื่อเขาใช้ชั้นที่ 3 เต็มแล้ว เขาก็มาใช้ชั้นที่ 4 ซึ่งเป็น ที่นอนของเขา และต่อไปนี้ เขาก็ไม่มีที่นอน ที่สบาย เหมือนเดิมอีกแล้ว
    คนที่ไม่เห็นธรรม ก็เหมือนคน ที่เข้าไปอยู่ ในตึกนี้แล

    การทำความเข้าใจ กับคนที่เข้าไปอยู่ในบ้านหลัง 1 นั้น
    ก็เหมือนนักเรียนชั้น ป.เตรียม อนุบาล
    และ การทำความเข้าใจ กับคนที่เข้าไปอยู่ในตึก 4 ชั้น
    ก็เหมือน นักเรียน ชั้น ป. 1

    แต่การเรียนรู้นี้ จะต้องเรียนรู้ ถึงมหาวิทยาลัย
    และเข้าทำงานได้จริง จึงจะรู้จักจัด ระเบียบ ของตนเองได้
    แต่ถึงจะมีความรู้ มากเพียงใด ก็จะไม่ทิ้ง พื้นฐานเดิม คือ ป. เตรียม อนุบาล นั้นแล

    ลักษณะการเห็นธรรมนี้ ปุถุชน ไม่อาจเข้าใจได้จริง เป็นแต่คาด
    คะเน ว่าคงประมาณนั้นได้ จนกว่าจะเห็นด้วยตนเอง และใช้เวลา
    เพียงเสี้ยว วินาทีเดียว จะเปลี่ยนไป เป็น คนใหม่ได้ทันที หรือ
    เรียกว่า ความรู้สึก ความนึก ความคิด ได้เปลี่ยนไป โดยสิ้นเชิง

    เหมือนองค์คุลีมาร ก่อนเห็นธรรมนั้น เป็นคนหนึ่ง และ หลังเห็นธรรมนั้น
    เป็นอีกคนหนึ่ง หรือ เป็นคนใหม่ หรือ เรียกว่า ความรู้สึก ความนึก ความคิด
    ได้เปลี่ยนไปแล้ว โดยสิ้นเชิง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 กรกฎาคม 2015
  4. ---สมส่วน---

    ---สมส่วน--- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,979
    ความสุขอย่างนั้น ผู้ที่เจริญแล้วทางธรรม เขาไม่เรียกว่าเป็นสุข
    เพราะมีสุขแล้ว ก็กลับมา มีทุกข์ได้อีก แต่สำหรับ ผู้ที่เห็นธรรม

    นั้นย่อมไม่ใช่ ทั้งสุข และ ทั้งทุกข์ หรือ ทั้ง เฉยๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น
    ก็เป็นปุถุชนธรรมดานั้นเอง

    ดังนั้น ปุถุชน ไม่สามารถ เข้าใจได้จริงๆ จนกว่าจะเห็นด้วยตนเอง เสมือน น้ำอยู่ที่ไหนก็เป็นน้ำ หรือ อากาศ อยู่ที่ไหน ก็เป็นอากาศ ฉะนั้นแล
     
  5. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    ตึกสี่ชั้นเท่ากับเด็กป.หนึ่ง บ้านหลังหนึ่งเท่ากับอนุบาล
    ผมอ่านดูสองรอบแล้วครับสรุปว่างงครับ ไม่รู้ว่าผมโง่รึเปล่าที่ไม่เข้าใจว่าท่านต้องการสื่อถึงอะไร หรือไปจำจากใครเขามา ผมว่าเราคุยกันภาษาบ้านเรื่องนิพพาน พอเป็นวิทยาทานแก่สาธุชนดีกว่าไหมครับ
    พระอาจารย์ของผมเคยพูดให้ฟังว่า
    "บวชใหม่จะไปนิพพาน บวชนานๆไม่รู้นิพพานอยู่ไหน บวชมาบวชไปไม่รู้อะไรเป็นนิพพาน" เชื่อว่าถ้าคุณสมส่วนใช้ประโยคที่ฟังง่ายๆ แบบไม่ต้องเล่นสำนวนมากจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านมากกว่านี้นะครับ อีกประการคือผมยังไม่ทราบเลยว่าคุณสมส่วนมีความเห็นหรือมีนิยามของนิพพานเป็นอย่างไร ขอบคุณล่วงหน้านะครับเชื่อท่านคงจะมาตอบในไม่ช้า
     
  6. ---สมส่วน---

    ---สมส่วน--- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,979
    ผู็ที่สนใจจริง เชิญท่านมาสัมผัสที่กระทู้นี้ได้ นะครับ
    http://palungjit.org/threads/นี่คือ...้ปฏิบัติเพื่อถูกทาง.551754/page-2#post9706522
     
  7. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814





    :cool:({) สวัสดีครับ คุณรักควาย ควาย เป็นภาษาไทย ก็คือกระบือ กระบือ เป็นภาษา บาลี ก็คือ ควาย ก็คือ ควย ภาษาอิสานเขาเรียก ควยไม่รู้ว่า ใต้เขาเรียกว่ากะไร กระปิ ใต้เขาเรียก เคย ผมเคยเถียงกับคนใต้ บางคน มาแล้ว ตะเข่งใต้เรียก กระหลัว รถสาลี่ ภาคกลาง ภาคใต้เรียก รถรุน และทะเลาะกันเรื่องอะไรผมจำไม่ได้ ผมบอกว่า ไม่สำคัญจะเรียก แบบไหน ก็ได้ แล้วแต่ละภาค เขาเรียกกัน แต่ละพื้นที่ นิยมเรียกไม่เหมือนกันแต่ส่วนใหญ่ จะพูดคล้ายกัน จะเพี้ยนก็คือ สำเนียง เอ่ยเอื้อน หรือบางคำเท่านั้นครับ บางคำอาจไม่ชอบใจต้องขอโทษด้วยครับ


    วันนี้ผมจะคุย เรื่องธรรมะกับคุณในเรื่อง พระนิพพาน จะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้น เป็นเรื่องของส่วนบุคคล เป็นเรื่องของครูบาอาจารย์แต่ละสาย จะสอนกัน ครูบาอาจารย์องค์ ไหน มีความรู้แค่ไหน ท่านจะสอนแค่นั้น ความรู้นั้น ย่อมไม่เท่ากัน แต่ความรู้นั้น ก็มีหลายร้อยพันขั้น มีหลายร้อย พันชั้น จนกระทั่งไปถึงเรื่องละเอียดอ่อน เอาเรื่องแค่ผีๆ ยังไม่รู้เลย จะไปคุยเรื่องอะไรกับเรื่องของพระนิพพาน เอาแค่รักษาศิล ๕ ให้บริสุทธิก่อนเถอะครับ ค่อยไปพูดเรื่องพระนิพพาน แค่ถ้าศิล ๕ ไม่มีนี่แค่เกิด เป็นเทวดา นางฟ้า ยังไม่ได้เลย จะไปคุยเรื่องอะไร ที่มันสูงไปกว่านั้นครับ คุณรักควาย ต่อไปนี้ผมจะอธิบายเป็นฉากๆไป เผื่อมันจะมีประโยชน์ ต่อคุณ และคนบางคนครับผม
     
  8. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ผมเองได้เห็นกระทู้ของคุณเป็นวันแรกแล้ว ผมว่าจะเข้ามา อธิบายคุยกับคุณ จะเป็นลูกศิษย์ ใครก็ไม่สำคัญๆที่ว่า คนนั้นๆ ทำเพื่อความดีหรือเปล่า หรือ ทำเพื่อความชั่วไหม เรื่องความรู้ อาจเข้าใจคลาดเคลื่อนกันได้ ใครจะมีความรู้ต่ำ ความรู้ สูง ก็ไม่สำคัญ ที่ว่า เอาความรู้ที่เรียนและศึกษามา ไปเบ่งหรือรังแก หรือหากิน บนหลังคนหรือเปล่า เท่านั้นครับ ในยุคนี้ เห็นเยอะมาก ถ้าว่า คนที่ปรารถ ถึงพระนิพพาน เขาเรียนศึกษามา เขาก็ปรารถ กันได้ เพราะเขาตั้งจริงเพื่อปฏิบัติไปให้ถึง ก็ไม่ได้เสียหายอะไร จะไปถึงหรือไม่ถึง ก้อยู่ที่ผู้ปฏิบัตินั้น ต่างหากครับ ว่าเข้าใจแค่ไหน ลึกวึ้ง อย่างไรต่างหาก พระเทวทัต พระพุทธเจ้า บวชให้ และได้ อภิญญา สมาบัติ ยังตกนรก อเวจีมหานรก นี่ไม่ได้ อยู่ที่ว่าคนนั้นจะเป็นใคร ทุกคน เข้าถึงได้ รู้ได้ ด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่เปิด จิตใจรับฟัง ผู้บอกเท่านั้นครับ


    ผมเคยเจอ ลูกศิษย์ท่านพุทธทาส ทั้งบวชพระและฆราวาส ทั้งลูกศิษย์ ท่านปัญญา นันทะ อาจารย์ยันตะ มีทั้ง ชาวเขาที่เคารพท่าน มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมบวชเถร อยู่หมู่บ้านตะเพินคี่ อยู่ในถ้ำ ๒ ปี ปี ๓๕-๓๖ มีพระมาจาก วัดหนึ่งหลัง ดอนเมือง กรุงเทพ มาค้างที่ผมพัก ท่านบอกอยากเดิน ธุดงค์ เป็นลูกศิษย์ท่านพุทธทาส ท่านมาถึง ก้ได้ สนธนากันสักพักหนึ่ง ท่านก็ว่า เฮ่อ พระที่ สอน ทำน้ำมนต์นี่งมงาย สอนไม่ดี ให้คนหลงยึดติด ไอ้เราฟังแล้ว ก้เอ่ ยังไงวะ พระองค์นี้พูดแบบนี้ ผมก็เลย ฟังท่านไปดีกว่าเดี๋ยวเราพูดทีหลัง แล้วก็ว่าของท่านต่อไป แล้วก็ พระทีชอบสร้าง วัตถุมงคล ก้เช่นกัน ให้คนหลงงมงายเหมือนทำน้ำมนต์ นั่นแหละ ไม่ใช่พระบ้างอะไรประเภทเนี้ย
     
  9. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    แล้วท่านก็ว่าของท่านไปเรื่อยๆ ไอ้เราฟังแล้วก้ยิ้มๆลูกเดียวได้นึกในใจว่า เดี๋ยวกูว่ารวดเดียวเลยจะได้จบๆไป กูชอบพระแบบนี้แล้วท่านก็ว่า พระที่ชอบ เสดาเคราะต่อชตา มันมีที่ไหน อมให้คนงมงาย ให้เสดาะเคราะต่อชตา ไม่เป็นเรื่อง มันมีจริงอะไรประเภทเนี้ย จริงๆท่านพูดเยอะ จำได้นิดหน่อยที่ท่านพูด ผมก็เลย หลวงพี่ครับ กระผมเอง ไม่ได้เรียนแบบหลวงพี่อหรอกครับ แต่ศึกษามาบ้างนิดหน่อย แล้วปฏิบัติ ชอบอยู่ป่าเขาลำเนาไพร ผมไม่ชอบในการเรียน ชอบของจริงมากกว่า แล้วก็บอกว่า ต้องขอโทษหลวงพี่ด้วยนะครับ เมื่อกี้นี้ ท่านอบกว่า พระทำน้ำมนต์ สอนผิด สอนให้คนงมงาย ท่านว่าไม่ใช่พระ เอาละ ผมเลยบอกว่าท่านเรียนเลยธงไปแล้วครับ เลยเรื่อง บาลี เรียนอักฤษ ท่านเลยไม่จำ จริงๆที่ท่านพูด มันอยู่ในนวโกวาท นะครับ ผมเลยอธิบายว่า ท่านจง นึกไปถึง ตอนที่พระพุทธเจ้า เสด็จไปเมืองไพร สาลี ซึ่ง เมืองไพรสาลี ฝนไม่ตกมานานแล้ว แห้งแล้งกันดาร มีกษัติย์ของเมือง ไพรสาลี ไปนิมนต์พระพุทะเจ้าให้เสด็จ ฝนจะได้ตก ลงมา เพราะว่า พระพุทธเจ้าเสด็จที่ไหน ฝนจะตกต้องตามฤดูกาล


    ผมจะไม่อธิบายนะครับให้คุณและหลายๆคุณ อยากทราบให้ไปหาอ่านเอาครับ ในพลังจิต มีหาอ่านได้เรื่องทำน้ำมนต์ แล้วผมก็ว่าต่อไป เรื่องพระทำพระ พุทธเจ้าบ้าง รูปหรือเหรียญพระสงฆ์บ้าง ผมบอกว่าเขาทำมาเพื่อให้คนเคารพบูชา กำลังใจคนไม่เสมอกัน แค่เอาแค่ เขาอนำพระสงฆ์ หรือ รูปพระพุทะเจ้าขึ้นมา แล้วตั้งนะโม ๓ จบแค่นั้น ยังไม่ต้องว่าอย่างอื่น มันเป็นพุทธานุสติกรรมฐานแล้วครับท่าน แล้ก็ เป็นพระธรรมคำสอน ของท่าน ถ้านึกถึงพระสงฆ์ องค์ใด องค์หนึ่งขึ้นมา ก้เป็นสังฆานุสติกรรมฐานแล้วครับ
     
  10. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    และต่อมาผมก้บอกว่า การเสดาะเคราะต่อชตา มันมีมาตั้งแต่โน่น่ ในสมัยพระพุทธเจ้าแล้ว ใครไปตำหนิ เท่ากับเนรคุณ หรือด่า พระพุทธเจ้าครับ เพราะท่านเป็นสาวก ของพระพุทธเจ้าเป็นลูกพระพุทธเจ้า เหมือนท่านด่าพ่อ จริงไหม โน่นครับ อายุวัฒนะกุมาร มี ฤาษี ๒ ตนเป็นเพื่อนกัน แต่อีกเพื่อน ๑ คนอยู่ไม่ได้ ศึกออกไปมีเมีย และมีลูก ๑ คน พอดี วันนั้นนึกถึงเพื่อนคิดถึงเพื่อน ว่างั้นเถอะ จึงพาลูกเมียไปห่เยี่ยมเพื่อน ที่เป็นฤาษี เมื่อถึงสนธนากันได้พอประมาณ ก็นานแล้วจะกลับบ้าน พอเข้าไปกราบเพื่อน ก็ให้พรว่า อายุวัณโณสุขังพลัง เมียเข้าไปกราบก็ให้พรเหมือนกัน พอเวลาเอาลูกเข้าไปกราบเพื่อนฤาษี ไม่ให้พร นั่งเงียบ ทางเพื่อนฤาษีพูดว่า ผมกับเมยลาท่าน ท่านให้พร แต่เวลาลูกกระผมเข้าไปหาท่านๆกับนั่งนิ่งเงียบ พระฤาษี ได้ อธิบายว่า ภายใน ๗ วันนี้ ลูกท่านจะตาย


    ฤาษีผู้เพื่อนตกใจ แล้วท่าน จะมีวิธีใดช่วยกระลูกของกระผมได้ไหม ครับ ฤาษีเพื่อน บอกว่าท่านช่วยไม่ได้ แต่มีผู้จะช่วยได้ คือ พระสมณะโคดม จะช่วยลูกท่านได้ นี่เห็นไหม ฤาษีเขาได้ฌาณสมาบัติ รู้จริง เมื่อกับไป ฤาษีที่มีลูก ได้ไปยังสำนักของพระพุทธเจ้า พาลูกเมียไปหา องค์สมเด็นพระผู้มีพระภาคเจ้า พระพุทธองค์ ตรัสว่า ให้เอาเด็กไว้ แล้วให้จัดทำ ประรำพิธี แล้วให้สงฆ์สวด พระปริตร ๗ วัน ๗ คืน พระสงฆ์ ผัดกันหมุนเวียนมาสวด ให้ครบ ๗ วัน ๗ คืน ยักษ์จะได้ไม่ได้มาเอาชีวิตได้ พอครบวันที่ ๗ พระพุทธเจ้าเสด็จเอง ยักษ์ ที่จะมาเอาชีวิต อายุวัฒนะกุมาร
     
  11. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จ พรหมมา เทวดามา เต็มจักวาล ยักษ์ก็เลย ไปอยู่นอกขอบจักวาล เพราะเป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้น ยักษ์ มี ยศน้อยเลยเอาชีวิต เด็กไม่ได้ เมื่อต่อไปพระพุทธเจ้า ขอเด็ก จากพระฤาษี เมื่อให้ พระพุทธองค์ก็ให้บวชเณรและยังบอกว่า ต่อไปอายุวัฒนะกุมารจะมีอายุ ถึง ๑๒๐ ปี ต่อมา ท่านอายุวัฒนะกุมารได้สำเร็จพระอรหันต์ พร้อมไปด้วยปฏิสัมภิทายาน เป็นเณรอายุ ๗ ขวบ และท่านที่ได้ บวชพระที่ว่ามา ได้ยอมรับผม โดยดุษดี พูดไม่ออก ต่อจากนั้นได้ติดต่อกันเสมอมา และได้ให้ผมไปเอาข้าวของ ที่ วัด หลังดอนเมือง มาแจกชาวเขาและนำพระพุทธรูปมาไว้ในถ้ำตะเพินคี่ ๑ องค์หน้าตักขว้าง ๒ ศอก หรือ ๑ เมตร ผมได้ครบอยู่กับลูกศิษย์ ท่านพุทธทาสอยู่หลายปีครับ


    และต่อไปผมจะเข้ามาอะบายให้คุณฟังต่อไปเรื่องพระนิพพานครับ ครับคุณรักควาย เอ่คุณคงจะคิดว่า มันเกี่ยวอะไรเรื่องพระนิพพาน เกี่ยวสิครับ เดี๋ยวมีโอกาศจะเข้ามาอธิบายให้ฟังวันนี้พอแค่นี้ก่อนครับสวัสดีครับ
     
  12. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    ขอบคุณครับเคยผ่านหูผ่านตามาบ้างเหมือนกันครับ เพราะเคยบวชอยู่เจ็ดพรรษา รวบรวมสื่อธรรมะจากทั่วประเทศ เป็นซีดีนะครับก็อปแจกเป็นธรรมทาน แต่มีโยมบางท่านสมทบทุนผมก็ได้อนุโมทนาบุญร่วมกัน ที่ชอบฟังก็มีเยอะครับ แต่ที่ประทับใจก็เห็นจะเป็นเรื่องลีลาวดีของธรรมโฆษครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2015
  13. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    ออทางนฤพาน ของคุณดังตฤณ
     
  14. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    ก็ชอบครับ
     
  15. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    ออมีอะไรฝากบอกนิดนึงครับที่ว่าต้องถือศีล 5 ถึงจะไปสวรรค์ได้ก็จริงอยู่นะครับ แต่ใช่ว่าไม่มีศีลจะไปไม่ได้ผมว่าก็ไม่ใช่นะครับ ขอแค่ทำความดี ละความชั่ว และทำจิตใจให้บริสุทธิ์ นีิไม่ใช้แค่สวรรค์ แต่อาจเข้าถึงพระนิพพานเลย ผมว่าสาเหตุที่ต้องถือศีลนั้นเพราะคนเรายึดติดกับประเพณี และทำกันตามประเพณี ถามว่าพระเจ้าก่อตั้งศาสนาพุทธมาเริ่มแรกก็ไม่มีศีลนะครับ แต่เมื่อภิกษุกระทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม จึงทรงบัญญัติห้ามเป็นอย่างๆไป พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงคุณและโทษ ประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ มีใครแล้วไม่รู้จำไม่ได้ครับ ต้องขอโทษด้วย ถามพระพุทธเจ้าพระภิกษุถือศีล 227 ข้อ แล้วพระองค์ถือศีลอะไร พระพุทธเจ้าตอบ "ตถาคตไม่ได้ถือ ตถาคตเปรียบเหมือนเจ้าของสวนดอกไม้ ส่วนภิกษุเปรียบเหมือนผู้ดูแลสวนดอกไม้ เจ้าของสวนดอกไม้ต้องคอยรดน้ำพรวนดินเช่นนั้นหรือ" ประมาณนี้แหละครับ ส่วนเราเป็นภิกษุไหมครับ ตอบว่าไม่ ต้องคอยรดน้ำดูแลสวนไหม ตอบว่าอยากทำก็ทำไม่อยากทำก็ไม่เป็นไร ขอแค่ทำความดี ละความชั่วทำจิตใจให้บริสุทธิ์ อันนี้เป็นปรมัตถธรรม คือธรรมที่เป็นใหญ่ เป็นอนัตตาครับ เป็นอภิธรรม ธรรมดาไม่ชอบพิมพ์ยาวๆ แต่วันนี้ว่างครับ
     
  16. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีครัคุณรักควาย ผมเองพึ่งว่างเข้ามา วันนี้มาอ่านข้อความของคุณ ผมเองไม่ได้บวชถึง ๗ พรรษาแบบคุณ แต่ได้ บวชเถร เณรชี บวชพระ ๒ พรรษา ไม่ได้เรียนแบบคุณ ชอบอยู่ถ้ำ หุบเหว ป่าเขาลำเนาไพร ในเมืองในป่า ก็อยู่มาทั้งนั้นครับ ได้นกคำสอน ของพระพุทธองค์ มาปฏิบัติ แค่นิดหน่อยเองครับ แต่รู้จักอะไรผิด ถูก ชั่วดี อะไรควรทำ ควรพูด ควรคิด ถึงหลักความเป็นจริง รู้จักครับ และคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น ๘๔,๐๐๐ พระธัมขันต์ ใครเอาไปได้หมดครับ เอาแค่ข้อเดียว ก็สำเร็จมรรคผลได้แล้วครับ และ ๘๔,๐๐๐ หัวข้อ ที่ท่านแสดงมา ข้อเดียวมันแตกปลีกย่อยไปได้อีกเยอะแยะครับ


    คุณรักควายอ้างว่า ไม่ต้องรักษาสิล ก็ไป สวรรค์ได้ จนถึงพระนิพพาน ได้ รัษาศิลรักษาตามประเพณี มิทราบว่า คุณรักควาย ทำถึงแล้วยัง ถึงได้พูดเช่นนี้ เข้าใจหรือ ที่ว่า ขอให้ทำดี ละชั่ว ก็ไอ้ทำดีละชั่ว นั่นแหละคือ ตัวมีศิล ถ้าไม่มีศิล มันจะละชั่ว ได้อย่างไร ถ้าคนไม่มีศิลมันละชั่วไม่ได้หรอกครับ และคุณบอกว่า เริ่มแรก คนไม่มีศิล พระพุทธเจ้าบัญญัติทีหลัง ศิล ๕ มันมีอยู่คู่กับโลกนี้ มาช้านาน และศิล ๘ มันก็อยู่คู่กับโลกนี้ มานาน พระพุทธเจ้าไม่ได้ มาบัญญัติมาก่อน เพียงแต่เมื่อมีพระสงฆ์เกิดขึ้น พระพุทธเจ้ามาบัญญัติ ทีหลัง ศิล ๒๒๗ และศิล ๓๑๗ ศิลภิกษุณี
     
  17. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    คุณรู้ต้นเหตุ ของผู้ ทุศิลหรือไม่ แสดงว่าคุณ มองแค่ หางอึ่งเอง คนที่ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า เจ้าของพระศาสนา และได้ดวงตาเห็นธรรม เป็นพระ โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี และจบกิจเป็นพระอรหันต์ เป็นคน มีศิลแล้ว และ ท่านพวกนี้ เป็นคนผู้บริสุทธิ์ ไปตามขั้น ไม่ทำผิดอีกแล้วครับ ส่วนคนที่ยังมีความผิด เมื่อบวชแล้ว ไม่ได้อะไรเลย แม้แต่ ฌาณโลกีย ก็ไม่ได้ เมื่อทำผิดศิล พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติ ศิลขึ้นมา เป็นตัวอย่างทำผิดสิล เพราะจิตใจท่าน ยังเป็นปุถุชน จึงกระทำความผิด คนที่เขาดีแล้ว รู้แล้ว อะไรผิดถูก ชั่วดี เขาจึง ละเว้นได้เด็ดขาด


    เมื่อจิตใจท่านเหล่านั้น เป็นจิตผู้บริสุทธิ แทนที่เขาจะรักษาสิล ศิลกับต้องมารักษา ท่านเหล่านั้นครับ ท่านรักควาย แล้วท่านจงนำไปปฏิบัติ ให้ได้เป็นบางครั้ง หรือบ่อยๆ ทำให้ได้บ้าง ท่านก็จะเข้าใจว่าจริงไหม ที่ผมพูดมาครับ ผู้ใดรักษาธรรม ผู้นั้นจะเห็นพระตถาคต ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต ถ้าคนไหนไม่รักษาสิลแล้ว เอาแค่ศิล ๕ นี่แหละแค่เกิดเป็นคน ก้เกิดไม่ได้แล้วครับ แสดงว่า ทุกคนที่เกิดมาเป็นคนได้เพราะชาติก่อน เคยรักษาศิล๕ มาก่อน จึงเกิดเป็นคนได้
     
  18. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    เอาว่า ทำความดี ละความชั่ว ที่คุณว่ามา นั่นแหละคนมีศิล ถึงจะมีไม่ตลอด เอาแค่มีบางครั้ง ก็ เขาเรียกว่า คนทุศิล มีศิลเป็นบางครั้ง ตอนเขามีศิล ก็ทำความดี แต่เวลา เขาไม่มีศิล เขาทะความชั่ว คนที่ทำไสยเวทได้ และดีด้วยบางคน ก้เพราะตอนทำ เขามีศิลชั่วขณะหนึ่งเท่านนั้น เขาไม่ได้ รักษาตลอดทั้งวันครับ ต้องแยกแยะให้ดีนะครับ ตอนพระพุทธเจ้า เสด็จขึ้นไป สวรรค์ชั้นดาวดึง ทรงตรัสถาม ถึงคนรักษาศิล จนกระทั่ง ถึงคนที่ได้ ฌาณ ๑-๒-๓-๔ ใครได้แค่ไหนตอบได้แค่นั้น คนที่ได้ต่ำกว่า จะไปรู้คนที่ได้สูงกว่าได้อย่างไรเล่าครับคุณรักควาย


    คนที่ได้ แค่พระโสดาบัน ก็รู้คุณธรรมของ สกืทาคามีไม่ได้ พระสกิทาคามี จะไปรู้คุณธรรม ของพระอนาคามีได้อย่างไร พระอนาคามี จะไปรู้คุณธรรมของพระอรหันต์ไม่ได้ ตอบไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งผิดครับ แล้วคนที่ไม่เคยได้ฌาณอะไรเลย จะรู้ไม่ได้เลย ตำรานะ เป็นแนวทางเดิน เท่านั้นครับ เอาไว้ศึกษา คุณรักควาย
     
  19. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    เอาล่ะงั้นผมขอถามคุณบุญทรงสักเรื่องหนึ่ง ก็ถ้าว่าคนที่มาเกิดเป็นมนุษย์ได้ต้องเคยถือศีลห้ามาก่อนนั้นจริงดังว่า แล้วเหตุใดมนุษย์ทุกวันนี้จึงมีความชั่วช้ามากนัก หากเคยถือศีลห้ามาจริงกระผมคิดว่ามันน่าจะเป็นอุปนิสัยปัจจัยถึงชาติปัจจุบันบ้างสิ ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ผมจึงมาสามารถเชื่อได้ว่าต้องถือศีลห้ามาก่อนจึงได้เป็นมนุษย์ ยังมีอีกหลายเหตุผลนักที่ทำให้ผมไม่สามารถเชื่อได้
     
  20. siritach

    siritach เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2005
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +555
    นิพพาน คนที่มาตอบ ในนี้นะ ไม่มีใครตอบได้สักคนเดียว เพราะ คำว่า นิพพาน นั้นเป็นสิ่งที่เรา จิตนาการตามที่พระพุทธเจ้า ได้สอนเอาไว้ ไม่ได้ เพราะ เราไม่เคยเห็น ไม่เคยไป ไปสิ่งๆที่ เป็นจุดสูงสุด ซึ่งคนที่ไม่เคยไป ก็ได้แต่มโนคิดภาพไปเอง ว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ตามที่อ่านๆมาๆ ส่วนที่ บรรลุแล้วเคยได้เห็นแล้ว ก็อธิบายด้วยคำพูดทางโลก ก็ไม่ได้ทำได้แค่พุดเปรียบเทียบ กับสิ่งที่มีบนโลกและสิ่งที่มองเห็น และผุ้ที่บรรลุแล้ว เวลาไป นิพพาน ท่านก็ไม่กลับมาอีกแล้ว .... ตัวอย่าง ..คุณจะอธิบายรูป ร่างของ ไอร้อนแมน ให้คนที่ตาบอดมาชั่วชีวิต ฟัง ได้ยังไง บอกว่า เป็นชุดเกราะ มีสีแดง สีทอง เหาะได้มีไอพ่น มีปืน มีจรวด ที่หมวกมีหน้าจอ เอาแค่ คำว่า สีแดง สีทอง คนตาบอดมาชั่วชีวิต เขานึกภาพ สีแดง สีทองไม่ออกหรอกครับ เพราะเขาไม่เคยเห็น.. และจะให้คนตาบอด มาอธิบาย เกี่ยวกับ ไอร้อนแมน ให้คนตาบอดด้วยกันฟัง ?
     

แชร์หน้านี้

Loading...