เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย numthip, 14 มิถุนายน 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ถ้าเป็นเนื้อดำ เค้าทำแจกทหารครับ
    ผมได้มาองค์เดียว อย่าไถเลย...

    รุ่นไหนของพี่นิ่มก็เหมือนกันหมด แต่ถ้าให้ผมแนะนำ
    พระสมเด็จฯนั้นแหละดีแล้ว
    ถ้าจะดีกว่านั้นก็ พระปิดตากตัญญู

    แต่พี่ไพรัชชอบพระปิดตาทรงเมตตามากกว่า เพราะครบเครื่องกว่า แม้ไม่เป็นมหาอุด แต่เป็นเมตตาและโชคลาภและแคล้วคลาด ตามประสาผู้สูงอายุ

    ในรุ่นเดียวกันกับพระสมเด็จฯ ก็มีนางพญาฯ กับพระปิดตาเจริญพร

    พระฯของพี่นิ่ม พี่นิ่มเข้ากรรมฐานเช็คก่อนทุกครั้ง

    ..............

    จ่าจรัญ รับคำสั่งนายมา ให้พี่นิ่มเตรียมตัวไปแจกพระฯที่ชายแดนใต้
    พี่นิ่มรับปากไปแล้ว ขอหนังสือรับรองฉบับเดียว จะเอาหนุ่มทิพย์ไปด้วย

    ผมจะว่างถ้าแจกแถวกรุงเทพฯ แต่ถ้าให้นั่งรถหุ้มเกราะไปแจก ผมไม่ว่าง...ผมยุ่ง!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2015
  2. totto99

    totto99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    3,081
    ค่าพลัง:
    +59,629
    ขอบคุณครับ ไม่เป็นไรครับ
    เดียวรอทำบุญ เนื้อขาว
    ของวัดโพธิผักไห่ ครับ (เห็นว่ารุ่นนี้เสกนานกว่า 555) รอครับๆๆๆ
     
  3. พ่อประดู่09

    พ่อประดู่09 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +4,378
    ยังมีแม่อยู่ให้รัก....ก็รีบแสดงความรักกันเถิดครับ
    ...................................................................................
    เรื่องแม่.......กับเทศกาลวันแม่ ผมเคยเขียนแบบน้อยใจว่าผู้หลักผู้ใหญ่สมัยโบราณ ไม่ให้ความเป็นธรรมกับแม่วันทองของผม ผมเขียนไว้ในเวปพลังจิตตั้งแต่ปี 2012 โถแม่วันทองของผมมีแค่ ๒ ผัว ก็หาว่าชั่วเสียหนักหนา ทีนางมณโฑ มี ๔ ผัว ไม่เห็นว่าชั่วกันสักนิด และจริงๆ แล้วคูณแม่ทั้งสองไม่ได้ชั่วเพราะสันดาน ล้วนแต่ถูก ลิง ชายใจยักษ์ ใจมาร หรือชายเจ้าชู้ทำให้เธอเป็นอย่างนั้น Julius Caesar กำเนิดด้วยการผ่าออกทางหน้าท้อง หรือที่ปัจจุบันเรียกว่า Cesarean section ก็ทรมานแม่ แต่ได้รับการยกย่อง นางมณโฑ ถูกผ่าท้องเอาลูกออก ไปฝากแพะแบบ"อุ้มบุญ"ก่อนจะเกิดมาเป็น องคต ไม่เห็นยกย่องทั้งเธอทั้งแพะให้เป็นต้นแบบ"อุ้มบุญ"บ้าง เรื่องของต่างชาติ ทั้งจูเลียส ซีซาร์ หรือ นางมณโฑ ผมจะลืมเสียในวันนี้ จะขอแค่ แม่วันทอง มีบางช่วงบางตอน ชี้ให้เห็นถึงความรัก ความห่วงใย ที่แม่มีต่อลูก โดยเฉพาะแม่วันทอง แม้ตายไปเป็นผียังมีใจห่วงลูก อย่างตอนวันทองห้ามทัพ ....จำลิเกร้องได้ว่า......จวนจะย่ำสุริยนต์ถึงต้นไทร ตอนจะใกล้ป่าตองวันทองครวญ ..... วันนี้มาดูตอนที่ หลังจากพระพันวัสสา ตัดสินให้ตัดคอนางวันทองแล้ว แทนที่นางจะห่วงตัวว่าจะตาย แต่กลับเป็นห่วงลูกชายคือพลายงาม กลัวลูกจะเห็นตอนนางถูกตัดคอตาย ..... ยังมีแม่ให้รัก ก็แสดงความรักกันเถิดครับ........ผมไม่มีแม่แล้ว.....ได้แต่เสียใจที่ตั้งตัวได้ช้าเกินไป ทดแทนได้ไม่ดีเท่าที่ควร...............
    ..........................................
    ลองอ่านเรื่องขุนช้างขุนแผน ที่เกี่ยวกับนางวันทอง ดูบ้างนะครับ
    ....................................
    ครานั้นจึงโฉมเจ้าวันทอง
    เศร้าหมองสะอึกสะอื้นไห้
    สวมกอดลูกยาด้วยอาลัย
    น้ำตาหลั่งไหลลงรินริน
    วันนี้แม่จะลาพ่อพลายแล้ว
    จะจำจากลูกแก้วไปศูนย์สิ้น
    พอบ่ายก็จะตายลงถมดิน
    ผินหน้ามาแม่จะขอชม
    เกิดมาไม่เหมือนกับเขาอื่น
    มิได้ชื่นเชยชิดสนิทสนม
    แต่น้อยน้อยลอยลิ่วไปตามลม
    ต้องตรอมตรมพรากแม่แต่เก้าปี
    ให้แต่เฝ้าทุกข์ถึงคนึงหา
    นึกว่าแม่จะไม่ได้เห็นผี
    เจ้าก็ไม่ศูนย์หายวายชีวี
    กลับมาได้เผาผีของมารดา
    มิเสียแรงฟักฟูมอุ้มท้อง
    ข้ามหนองแนวเขาลำเนาป่า
    อยู่ในท้องก็เหมือนเพื่อนมารดา
    ทนทุกข์เวทนาในป่าชัฏ
    ผ่าแดดแผดฝนทนลำบาก
    ปลิงทากร่านริ้นมันกินกัด
    หนามไหน่ไขว่เกี่ยวเที่ยวเลี้ยวลัด
    แม่คอยปัดระวังให้แต่ในครรภ์
    พ่อพาขี่ม้าไม่ขับควบ
    ขยับยวบกลัวเจ้าจะหวาดหวั่น
    พอแดดเผาเข้าร่มพนาวัน
    เห็นจะอ่อนผ่อนผันลงกินน้ำ
    ค่อยกลืนแต่พอชื่นไม่กลืนหนัก
    กลัวลูกจะสำลักทุกเช้าค่ำ
    เมื่อเขาส่งลงมาต้องจองจำ
    แสนระกำก็ระวังจะนั่งนอน
    ด้วยเป็นห่วงบ่วงใยในลูกรัก
    จะเดินหนักเกรงท้องขยักขย่อน
    จะนั่งนักเจ้าจักอนาทร
    ครั้นนอนนักกลัวจะเหนื่อยอนาถตัว
    เจ้าคลอดรอดแล้วจึงคลายใจ
    เฝ้าถนอมกล่อมไกวพ่อทูลหัว
    เก้าปีแม่ประคองไม่หมองมัว
    ชุนช้างชั่วลักลูกไปลับตา
    เขาตีต่อยปล่อยหลงในดงชัฏ
    กุศลซัดให้เจ้าคืนมาเห็นหน้า
    พอเห็นแล้วก็ต้องพรากจากมารดา
    แต่นั้นมาช้านานจึงพานพบ
    กุศลหนหลังยังค้ำจุน
    ให้ลูกแก้วมีบุญประจวบจบ
    เที่ยวติดตามแม่พ่อพอพร้อมครบ
    กลับต้องมาทำศพของมารดา
    เหมือนอุตส่าห์ดั้นด้นพ้นป่าชัฏ
    พอเห็นแสงจันทร์จำรัสพระเวหา
    สำคัญคิดว่าจะสุขทุกเวลา
    พอสายฟ้าฟาดล้มจมดินดาน
    พ่อจะเห็นมารดาสักครึ่งวัน
    พ้นนั้นศูนย์เปล่าเป็นเถ้าถ่าน
    จะได้แต่คิดถึงคะนึงนาน
    กลับไปบ้านเถิดลูกอย่ารอเย็น
    เมื่อเวลาเขาฆ่าแม่คอขาด
    จะอนาถไม่น่าจะแลเห็น
    เจ้าดูหน้าเสียแต่แม่ยังเป็น
    นึกถึงจะได้เห็นหน้ามารดา ฯ

    ....................................................
    เมื่อคืนตื่นมาตอนดึก ศึกษาเรื่องจะไปอยู่บ้านคนชรา ตื่นเช้ามาของบแม่บ้าน 200,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียว กำลังรออนุมัติ เพราะไม่อยากให้ใครเห็นความพลัดพราก
    ..................ขอขอบคุณมากครับ .......สวัสดีครับ
     
  4. พ่อประดู่09

    พ่อประดู่09 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +4,378
    [​IMG]


    [​IMG]

    เรื่องของแม่.....ผมนึกภาพของ คุณสุรสิทธิ์ สัตยวงษ์ ได้ติดตาจากภาพยนตร์เรื่อง ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่ เขาเป็นนักแสดงที่มีความสามารถจริงๆ และผมก็ได้ดูเขา

    แสดงอีกหลายๆ เรื่อง นี่ก็ทำให้รู้จักคิดถึงแม่บุญคุณแม่ จนผมโตเป็นวัยรุ่นที่ชอบแอบอ่านเรื่อง จันดารา จากหนังสือพิมพ์สยามรัฐ และได้ดูปภาพวาบหวามจาก

    หนังสือเล่มใหญ่ๆ ชื่อ" วิมานรักสีชมพู "ที่เอารูปบรรดาอนุ ของจอมพลผ้าขาวม้าแดงมาลงไว้ครบถ้วน ก็เป็นเพศแม่ล้วนๆ ที่เอามาดูเอามาอ่าน และฟังคำวิพากษ์วิจารณ์

    แบบสร้างจินตนาการ โดยไม่เคยคิดถึงแม่ แต่มีดาราอยู่คนหนึ่งที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์ที่มีส่วนทำให้มีแม่มาเกี่ยวข้อง เธอคือคุณปรียา รุ่งเรือง ที่โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง

    แม่นาคพระโขนง เพราะนอกจากจะดังจากหนังผีแล้ว ต่อมาเธอก็เป็นดาราที่ยุคนั้นใช้คำว่าดาวยั่ว และเธอก็ได้ฉายาว่า "อกเขาพระวิหาร" ซึ่งผมแอบคิดเสมอว่าไม่เป็น

    ธรรมกับเธอ เพราะให้เธอน้อยไป อย่างเธอถ้าเป็นผมตั้งให้ จะให้เป็นเขาใหญ่ไม่ใช่แค่เขาพระวิหาร เพราะผู้ชายไม่ว่าหนุ่มหรือแก่ในยุคนั้น ชอบค่อนขอดเธอว่า

    แค่ข้างเดียวก็เลี้ยงเด็กได้ทั้งตำบล พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันแม่ ผมก็คิดถึงเธอในแง่ดีต่อจากแม่มณโฑ และแม่วันทอง ก็เห็นเธอนี่แหละอีกคนหนึ่ง ที่ทำให้คิดถึงความรัก

    ความห่วงใยของแม่ที่มีให้ลูก ไม่มีโป๊สเตอร์หรือภาพโฆษณาภาพยนตร์เรื่อง แม่นาคพระโขนง หรือแม่นาก ที่สกดด้วย ก.ไก่ ตอนไหนๆ ที่สร้างกันมา ไม่เคยขาดภาพ

    แม่นาคอุ้มลูก นี่คือภาพที่ทำให้รู้ว่า แม่นั้นรักลูกมากแค่ไหน ตายไปแล้วก็ยังรักลูก นางวันทอง แม้ตัวเองจะต้องถูกประหารกลับไม่ห่วงตัวเอง กลับเป็นห่วงว่าลูกจะถูกทำ

    ร้ายจิตใจหากเห็นแม่ต้องถูกตัดคอ...... แม่นาคตายกลายเป็นผีแล้ว...ก็ยังรักลูกจนสุดประมาณ ปี 2512-2514 ผมไปวัดมหาบุศย์บ่อยมาก เคยไปนั่งที่ศาลแม่นาค

    ได้คุยกับคนเฒ่า คนแก่ ก็ได้แต่สรุปเพียงว่า ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง ต้นตะเคียนต้นนั้นคือต้นที่เป็นต้นเรื่อง น่าจะอยู่ตรงกลางคลอง เพราะ

    ตลิ่งพังจนฝั่งคลองนั้นเลื่อนมาอยู่อย่างปัจจุบัน ลองมาอ่านเรื่องราวของท่านครูเดชฯ ที่ได้รวบรวมไว้บางส่วนบ้างก็ดี.......

    ....................................................................................

    เรื่องราวของแม่นาคมีทั้งที่เป็นนิยายและภาพยนตร์ บุคคลแรกที่ทำให้แม่นาคพระโขนงโด่งดังขึ้นมา ก็คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงษ์

    พระองค์ท่านทรงนำเรื่อง "อีนาคพระโขนง" ออกแสดงเป็นละครเวทีที่โรงละครปรีดาลัยจนเกรียวกราวได้รับการต้อนรับจากคนดูเป็นอย่างมาก จนต้องแสดงซ้ำอยู่ถึง ๒๔

    คืน เล่ากันว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)วัดระฆัง ท่านรู้ข่าวการอาละวาดของผีแม่นาคซึ่งก่อความหวาดกลัวและเดือดร้อนแก่ชาวบ้านแถววัดมหาบุศย์เป็นอย่างมาก แม้

    แต่หมอผีเก่งๆ ก็ยังพ่ายแพ้คอพับคอย่น (เพราะถูกบีบคอ) ไปหลายราย สมเด็จโต จึงมาค้างที่วัดมหาบุศย์ แต่ท่านไม่ได้ทำพิธีอะไรมากมายอย่างหมอผีทั้งหลาย ทั้ง

    เพ พอตกค่ำท่านก็ไปนั่งที่บริเวณหลุมศพแล้วเรียกนางนาคขึ้นมาสนทนากัน แต่ท่านจะพูดจาตกลงกับนางนาคว่าอย่างไรไม่มีใครรู้ ลือกันว่าท่านได้เจาะเอากระดูกหน้า

    ผากจากศพ ของนางนาค ขัดกระดูกแผ่นนั้นจนเกลี้ยงเป็นมันแล้วนำกลับไปยังวัดระฆัง ลงยันต์กำกับและเจาะทำเป็นหัวเข็มขัด เวลาท่านจะไปไหนก็เอาคาดเอวติดไป

    ด้วย นับตั้งแต่นั้นมาผีแม่นาคที่เคยอาละวาดที่วัดมหาบุศย์คลองพระโขนงก็สงบไป เมื่อไปอยู่ที่กุฏิสมเด็จโต เวลานั้นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ม.ร.ว.เจริญ อิศรางกูร)

    ยังเป็นสามเณร อยู่ในกุฏินั้นด้วย ได้ถูกแม่นาครบกวน สามเณรก็ฟ้องสมเด็จโต ว่าสีกามากวนเขาเจ้าข้าๆ สมเด็จโต ท่านก็ร้องปรามว่า....นางนาคเอ๊ยอย่ารบกวนคุณเณร

    ซิ แม่นาคก็เงียบไป แล้วนานๆ ก็ออกมาแหย่เล่นเสียครั้งหนึ่ง (แมนาคคงจะเหงาหน่ะ) พอถูกปรามก็หยุดไป เป็นอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ ครั้นสมเด็จโตท่านชรามากขึ้นก็

    มอบกระดูกหน้าผากนางนาค ประทานหม่อมเจ้าพระพุทธบาทปิลันทน์ และให้สามเณร ม.ร.ว.เจริญ ไปอยู่ด้วย นางนาคยังคงเล่นสนุกเย้าแหย่สามเณรตามเคย หม่อม

    เจ้าพระพุทธบาทปิลันทน์ทรงกริ้วดุนางว่า.....

    "เป็นผู้หญิงยิงเรืออย่ามากวนเณร คุณเณรจะได้ดูหนังสือหนังหานางนาคจึงเงียบไป"

    ต่อมาหม่อมเจ้าพระพุทธบาทปิลันทน์ (หม่อมเจ้าสมเด็จพระพุฒาจารย์ "ทัต" ) ได้ประทานกระดูกหน้าผากนางนาคให้แก่หลวงพ่อพริ้ง (พระครูวิสุทธิ์ศีลาจารย์) วัดบาง

    ปะกอกภายหลังหลวงพ่อพริ้ง ก็มอบกระดูกนางนาคแด่ "กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์"กระดูกนางนาคจึงไปอยู่ในซองผี ที่วังนางเลิ้ง (ในเวลานี้เป็นโรงเรียนพาณิช

    ยการพระนคร) อยู่ที่วังนางเลิ้งไม่นานเท่าไรนางนาคก็มากราบทูลลา (คงจะหมดเวรหมดกรมไปเกิดใหม่ แต่จะเกิดเป็นคนหรือเปล่าก็ไม่ทราบ เพราะนางนาคอาจจะไป

    เกิดเป็นอมนุษย์ก็ได้และคำว่าอมนุษย์ก็ครอบคลุมกว้างมากตั้งแต่ ผี ปีศาจ ยักษ์ มาร นางไม้ เทวดา เป็นต้น หากให้สันนิษฐาน นางนาคน่าจะเกิดในระดับที่สูงกว่าผีขึ้น

    ไป) และกระดูกนางนาคชิ้นนั้นก็อันตรธานหายไปไม่พบเรื่องราวอีกเลย เรื่องราวแม่นาคที่บางครั้งก็ดูจริงจังเกินกว่าเรื่องนิยายอย่างนี้ทำให้เกิดความคิดขึ้นสองอย่าง....

    บ้างก็ยังคงเชื่อว่า เป็นเรื่องนิยาย แต่มีมากกว่าที่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง และฝ่ายที่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริงนั้น ได้พยายามรวบรวมหลักฐานมายืนยัน เช่น ขุนชาญคดี (ปั่น) กำนัน

    ตำบลพระโขงสมัยนั้น ได้เล่าถวาย สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ (พระองค์เจ้ายุคลทิฆัมพร พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๕ ) ว่า.....

    " นางนาคเป็นบุตรสาวของขุนศรีฯ นายอำเภอ บ้านอยู่ปากคลองพระโขนงฝั่งตะวันตกข้างวัดมหาบุศย์ตามหลักฐานนี้ "

    แม่นาคไม่ใช่ลูกสาวของตามั่นยายมีแต่อย่างไร และไม่ใช่เด็กสาวกำพร้าด้วย และเป็นสาวสวยที่จะหาสาวใดในย่านพระโขนงมาเทียบเคียงได้ยาก สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรม

    หลวงลพบุรีราเมศวร์เมื่อได้ทรงฟังเรื่องราวแล้ว ถึงกับรับสั่งว่า"สวยสดงดงามถึงอย่างนั้นทีเดียวรึ มิน่าเล่าเจ้าพวกหนุ่มๆ ถึงได้ตอมกันนัก และปีศาจก็มีฤทธิ์ร้ายแรงถึง

    เพียงนั้น"และหลักฐานที่ ก.ศ.ร.กุหลาบ บรรณาธิการหนังสือ "สยามประเภท " ตอบข้อข้องใจของคนอ่าน ลงในหนังสือเล่มที่ ๓ วันเสาร์ที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๔๒

    ว่า.......

    จะเป็นวันเดือนปีใดจำไม่ได้เป็นคำพระศรีสมโภช (บุด) วัดสุวรรณเล่าถวายสมเด็จอุปัชฌาย์ว่า ในรัชกาลที่ ๓ กรุงเทพฯ อำแดงนาก บุตรขุนศรีนายอำเภอ บ้านอยู่ปาก

    คลองพระโขนง เป็นภรรยานายชุ่มตัวโขนทศกรรฐ์ ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอจ้าวฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี อำแดงนากมีบุตรถึงอนิจกรรม นายชุ่มทศกรรฐ์สามีนำศพอำแดง

    นากภรรยาไปฝังที่ป่าช้าวัดมหาบุด ศพอำแดงนากฝังไว้ที่นั่นไม่มีปีศาจหลอกผู้ใด เป็นแต่พระศรีสมโภชเจ้าของวัดมหาบุด เล่าถวายพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมสมเด็จพระ

    ปรมานุชิตชิโนรสว่า นายชุ่มทศกรรฐ์ เป็นคนมั่งมี บุตรนายชุ่มมีชายหญิงหลายคน แต่ล้วนยังไม่มีสามีภรรยาทั้งสิ้น บุตรนายชุ่มหวงทรัพย์สมบัติของบิดา เกรงว่าบิดาจะมี

    ภรรยาใหม่ พวกลูกชายจึงทำอุบายให้คนไปขว้างปาชาวเรือ ตามลำคลองริมป่าช้าที่ฝังศพอำแดงนากมารดา กระทำกิริยาเป็นผีดุร้ายหลอกคน จนถึงช่วยนายชุ่ม ถีบระหัด

    น้ำเข้านาแลวิดน้ำกู้เรือของนายชุ่มที่ล่มก็ได้ บุตรชายแต่งกายเป็นหญิงให้คล้ายอำแดงนากมารดาทำกิริยาเป็นผีดุร้ายให้คนกลัวทั่วทั้งลำคลองพระโขนง บุตรนายชุ่มทศ

    กรรฐ์หลายคนได้เล่าถวายเสด็จอุปชฌาย์ว่า ตนได้ทำมายาเป็นปีศาจอำแดงนากมารดาหลอกชาวบ้าน จริงดั่งพระศรสมโภชกราบทูลเสด็จอุปัชฌาย์ทุกประการ (จาก

    หนังสือ ตามรอยนางนากพระโขนง ของ ส.พลายน้อย ** ภาษาอาจแปลกๆเนื่องจากเป็นหนังสือเก่า )

    ตามความข้างต้นนี้ สามีของแม่นาคแทนที่จะเป็นนายมากกลับเป็นนายชุ่ม และวัดมหาบุดที่กล่าวถึงก็คือวัดมหาบุศย์นั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2015
  5. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ไม่ได้เข้ามานาน ไม่รู้กระทู้ตกไปแค่ไหนแล้ว....

    วันนี้มีการบ้านให้ครูศนิวาร ช่วยแปล

    มนต์บูชาดวง ครั้งก่อนแปลของหลวงปู่ปรง ครั้งนี้บทจะคล้ายๆกัน แต่อยากได้บทแปล

    นะโม เม สัพพะเทวานัง สัพพะคะระหะ จะ เทวานัง
    สุริยัญจะ ปะมุญจะถะ สะสิ ภุมโม จะ เทวานัง
    วุโธ ลาภัง ภะวิสสะติ ชีโว สุกะโร จะ มหาลาภัง
    โสโร ราหูเกตุ จะ มหาลาภัง สัพพะภะยัง วินาสสันติ
    สัพพะทุกขัง วินาสสันติ สัพพะโรคัง วินาสสันติ
    ลักขะณา อะหัง วันทามิ สัพพะทา สัพเพเทวา มัง ปาละยันตุ
    สัพพะทา เอเตนะ มังคะละเตเชนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เมฯ

    ......................

    ผมติดค้างอะไรใครบ้าง ยังไม่ลืมนะครับ
    จะคืนทบต้นทบดอกให้ เว้นแต่ว่าอยากได้เร็ว ก็ต้องทวงครับ จะจัดสรรให้โดยพลัน

    ช่วงนี้ติดภาระกิจฝึกฝนพิเศษ และภารกิจธุระการงาน ก็ขออภัย
    หากมีท่านใดสอบถามหน้ากระทู้ ก็จะกลับมาตอบให้ตามสามารถเหมือนเดิมครับ
     
  6. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    สมาชิกท่านใด จะเป็นสะพานบุญ ทาสีวัด ทาสีโรงเรียน ก็สามารถแจ้งได้ที่คุณพ่อประดู่ฯนะครับ ท่านฯจะประสานงานกับทางบริษัทฯสีให้ แต่เจ้าตัวก็ต้องประสานงานกับทางวัด-โรงรียนให้ดีด้วยเช่นกัน

    งานนี้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆครับ นอกจากต้องทำหนังสืออย่างเป็นทางการแจ้งเข้ามา
    (เสียดายว่าโรงเรียนวัดโพธิผักไห่ รับงานทาสีไปก่อนหน้านี้แล้ว ใกล้แล้วเสร็จเต็มที่)...

    ใครทำได้ ชาติหน้าเป็นคน"มีสี"
     
  7. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    [​IMG]

    พี่นิ่มยังเคลื่อนไหวอยู่เงียบๆ... ยังเช็คข่าวอยู่ทุกวัน
    ที่วัดอ่างเวียนมีงานพิธีพุทธาภิเษก พี่นิ่มเป็นบุคคลภายนอกคนเดียวที่ได้รับเกียรติ นำวัตถุมงคลเข้าร่วมอธิฐานจิต

    มีพระเถระผู้ใหญ่หลายรูปมาร่วมพิธีฯ ผมขอละรายละเอียดไว้ เพราะบันทึกไม่ไหวแล้ว แค่ให้รู้ว่ายังขยับอยู่ ขายังไม่ตาย....
     
  8. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,635
    ปกติคาถาจะไม่แปล แปลแล้วไม่ขลัง เรียนคาถาด้วยความเชื่อมั่นศรัทธาอย่างเดียวจะไม่แปล(งมงาย) แต่ถ้าแปลแล้วคนสวดรู้เรื่องจะเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้สวด (ผู้ฉลาด) ผมจะแปลให้แบบมหานอกรั้ววัดแปลได้ดังนี้

    นะโม เม สัพพะเทวานัง / ข้าพเจ้าขอไหว้เทวดาทั้งหลาย

    สัพพะคะระหะ จะ เทวานัง / ตลอดจนเทพยดาประจำพระเคราะห์ทั้งเก้า

    สุริยัญจะ ปะมุญจะถะ / อันมีพระสุริยเทพเป็นประมุข

    สะสิ ภุมโม จะ เทวานัง / และเทพเคราะห์อื่นอันมี พระจันทรเทพ พระอังคารเทพ

    วุโธ ลาภัง ภะวิสสะติ / พระพุธเทวา ด้วยบารมีเทพทั้งหลายเหล่านี้ ขอให้มีลาภและความสงบ

    ชีโว สุกะโร จะ มะหาลาภัง / ขอพระพฤหัสบดีเทพ พระศุกรเทพ จงบันดาลให้มีลาภผลอันยิ่งใหญ่

    โสโร ราหู เกตุ จะ มะหาลาภัง / ขอพระเสาร์เทวา พระราหูเทวา พระเกตุเทวา จงบันดาลให้มีลาภผลอันยิ่งใหญ่

    สัพพะ ภะยัง วินาสสันติ / ขอให้ภัยอันตรายทั้งหลายจงพินาศสงบระงับสิ้นไป

    สัพพะทุกขัง วินาสสันติ / ขอความทุกข์ทั้งหลายจงพินาศสงบระงับสิ้นไป

    สัพพะโรคัง วินาสสันติ / ขอโรคาพยาธิทั้งหลายจงพินาศสงบระงับสิ้นไป

    ลักขะณา อะหัง วันทามิ สัพพะทา / ข้าพเจ้าขอไหว้ลัคนาราศีกำเนิดที่สถิตย์ทุกราศี

    สัพเพเทวา มัง ปาละยันตุ สัพพะทา / ขอเคราะห์ร้ายทั้งหลายอันเกิดจากเทพนพเคราะห์ทั้งปวงจงปลาตลี้หนีห่างไปจากข้าพเจ้า

    เอเตนะ มังคะละเตเชนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เมฯ / ด้วยการกล่าวคำวาจาสัตย์นี้ ขอความสวัสดิมงคล ความมีอำนาจ จงมีแก่ข้าพเจ้านี้เทอญ
     
  9. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    อิอิอิ....

    ครูฯแปลได้ไพเราะดี ไม่เคยผิดหวังเลย

    ....................

    ผมหายไปชุบตัว จะกลับมาเต็มรูปแบบก็เร็วๆนี้ จะมีของติดมือมาฝากสมาชิกประจำ ระหว่างนี้จะแวะมาเติมหรือมาตอบกระทู้ตามสามารถ(ที่มาได้) ฝากเพื่อนสมาชิกดูแลบ้านหลังนี้ไปก่อนครับ
     
  10. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    ร่วมบุญกับ ลป ห้วยประจำเดือนกันยายนครับผม ร่วมโมทนาบุญด้วยกันครับผม สาธุครับผม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  12. นายน้ำ5

    นายน้ำ5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,159
    ค่าพลัง:
    +7,287
    สมาชิกที่ได้รับไปบูชาแอบๆยิ้มกันหลายคนแหละครับแบบนี้ มีคนพิสูจน์ให้แล้ว ทั้งเมตตา มหาอุด
    แต่โหลองกันเสาไฟหน้าบ้านเลยเหรอครับ ตอนถือลูกโม่ออกมาดีนะคุณตำรวจไม่ผ่านมาพอดีครับ55
     
  13. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    พี่นิ่มฝากขอบคุณน้องๆมาด้วย ว่าที่ทำอยู่นี้ ก็ขอให้มีความสุขร่วมกัน
    ถ้ารอดปลอดภัยเพราะองค์พระฯ1คน ก็ขอให้ได้อานิสงค์เท่ากันทุกๆคน

    ใครอยากได้ ไว้รอเนื้อขาว มันส์กว่า....

    .................

    พระประภามลฑล ได้ชื่อแล้วจึงเพิ่งจะทำกล่อง
    และทำกล่องเพียงแค่1,000กล่อง เสร็จแล้วจะเอามาตอบแทนเพื่อนสมาชิกนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2015
  14. NEWESTTSEWEN

    NEWESTTSEWEN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +2,661
    เพิ่งผ่านวันคล้ายวันเกิดผมไปได้สัปดาห์กว่าๆ ทำบุญใส่บาตรเกือบทุกวัน มีขาดไปบ้าง วันเกิดก็ทำบุญใส่บาตรตามปรกติ ก็ขอเอาบุญนี้มาฝากทุกๆ ท่านนะครับ และขอน้อมอุทิศแด่ครูโหรของพี่ ghostlinux พี่หนุ่มทิพย์ พี่ศนิวาร และพี่ๆ ทุกท่าน ที่กรุณาให้คำแนะนำเป็นอย่างดีครับ
     
  15. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,635
    แปลให้ตามประสาบาลีนอกรั้ววัด ไม่ตรงเป๊ะร้อยเปอร์เซ็นต์
    แต่ใจความประมาณนี้ หากมีผิดพลาดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย


    ( อะ ) อาระกัตตา กิเลเสหิ
    สวาสะเนหิ โส มุนิ
    สัพพะปูชาระหัตตา
    จะ วิทิโต อะระหัง อิติ


    กิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งหลายนี้พระมุนีเจ้าเป็นผู้หักทำลายซึ่งกิเกสและความอาลัยทั้งปวง เป็นพระอรหันต์พ้นจากกิเลส เป็นผู้ที่คนทั้งหลายเคารพบูชาอยู่ดังนี้

    ( สัง )สัมมา สามัญจะ สัจจานะ
    พุทโธ จะ อัญญะโพธะโน
    เตเนสะ สัมมาสัมพุทโธ
    สัพพะธัมเมสุ จักขุมา


    พระองค์ทรงตั้งสามัญสัจจะอธิษฐานชอบเพื่อบรรลุพระโพธิญาณ ณ ใต้ร่มโพธิ์พฤกษ์ พระองค์ทรงบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ มีดวงตารู้แจ้งแห่งสัพพะธรรมทั้งหลายตามที่พระองค์ตั้งมโนปณิธาน

    ( วิ )วิชชาหิ จะระเณเหสะ
    สัมมะเทวตา สะมาคะโต
    วิชชาจะระณะสัมปันโน
    อุตตะโม เทวะมานุเส


    พระองค์เป็นผู้ทรงไว้ซึ่งวิชชาและจรณะเหนือล้ำกว่าเทวดาทั้งปวง พระวิชชาและจรณะของพระองค์ทรงคุณอันอุดมอย่างยิ่ง ยากที่จะมีมนุษย์และเทวดาใดจะเสมอเหมือน

    ( สุ ) สัพพะกะเลสะสัปปะหาเนนะ
    คะโต โส สุคะโต มุนิ
    สัมมา กาเย วาจายะ
    มะนะสา สุคะโต คะโต


    พระมุนีเจ้าผู้ประหารกิเลสทั้งหลายให้ย่อยยับ เป็นผู้รู้ชี้ทางไปที่เหมาะที่ควรให้แก่หมู่ชน เป็นผู้เสด็จไปแล้วด้วยดีด้วยกายชอบ ด้วยวาจาชอบ ด้วยใจชอบ

    ( โล )โลกัง วิภูตะโต สัพพัง
    ญาเณนัญญาสิ สัพพะถา
    นาโถ โลกัสสะ สัมมา วะ
    เตนะ โลกะวิทู ชิโน


    พระองค์เป็นผู้ทรงญาณรู้แจ้งแทงตลอดทั้งโลกนี้และโลกอันวิสุทธิ์ ทรงเป็นผู้รู้แจ้งโลก แลเป็นที่พึ่งของโลกและหมู่ชนทั้งหลาย

    ( ปุ )สาเรตา นะระทัมมานัง
    อะกุปปายะ วิมุตติยัง
    ตะโต อะนุตตะโร นาโถ
    ปุริสัทธัมมะสาระถิ


    พระองค์ทรงเป็นผู้สั่งสอนแลทรมานสัตว์ด้วยอุบายอันประเสริฐเพื่อให้รู้แจ้งซึ่งวิมุตติธรรมอันพิสุทธิ์ พระองค์ทรงเป็นที่พึ่ง เป็นสารถีผู้ฝึกสอนสั่งสอนสัตว์ให้ถึงซึ่งแดนวิมุตติ

    ( สะ )โลกิเยหิ จะ อัตเถหิ
    อะโถ โลกุตตะเรหิ จะ
    สัตถา เทวะมนุสสานัง
    สาลิตา เทวามานุสะ


    พระองค์ทรงรู้แจ้งอัตถจริยาแห่งโลกียะ และอัตถจริยาแห่งโลกกุตตระ เป็นครูของมนุษย์แลเทวดา ยากที่จะหาเทวดาแลมนุษย์ทั้งหลายมาเปรียบได้

    ( พุ )สัมพุชฌิตา จะ สัจจานิ
    กะเลสะนิททา ปะพุชฌิตา
    สัพพะโส คุณะวิกาสัม
    ปัตตโต พุทโธ มะรุตตะโม


    พระองค์ผู้มีวาจาเป็นสัจไม่มีการแปรเปลี่ยน ไม่มีกลับกลอกนินทา เป็นผู้ที่กิเลสไม่หวนกลับคืนมา พระองค์เป็นผู้ทรงคุณสมบัติอันเลิศเป็นผู้รู้ผู้ตื่นเหนือชนทั้งหลาย

    ( ภะ)ภาคะเยนะ ภะคะธัมเมหิ
    สะมังคี จาตุโล มุนิ
    คะรุคารวะยุตโต จะ
    วิสสุโต ภะคะวา อิติ


    ธรรมทั้งหลายทั้งน้อยใหญ่มีรวมลงแล้วมีพระมุนีเจ้าเป็นผู้รู้ธรรมทั้งปวง เป็นผู้จำแนกธรรม ทั้งสูงและต่ำ พระองค์ทรงเป็นครูสอนธรรมที่ควรแก่การเคารพสักการอย่างยิ่งดังนี้แล
     
  16. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    [​IMG]
     
  17. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ผมได้รับการติดต่อให้เขียนลงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น บทความเล็กๆที่ลงยังไม่ลงตัวนัก คงต้องใช้เวลาอีกซัก2-3ฉบับ ถ้าอยู่ตัวแล้ว จะกลับมาเขียนเหมือนเดิม

    ..............


    ช่วงที่เปิด inbox ในเฟสบุ๊ค ปัญหาที่เจอแทบจะเป็นเรื่องเดียวก็คือเรื่องสามีไม่ซื่อสัตย์...ปัญหาพวกนี้น่าเบื่อก็จริง แต่คนที่เป็นทุกข์มา ขมขื่นยิ่งกว่า เลยต้องรับหน้าเสื่อ... แต่จะว่าไป ปัญหาเรื่องความซื่อสัตย์มันทำให้ผมรู้สึกเป็นสามีตัวอย่างขึ้นมานิดนึง
    .....ปัญหาซ้ำๆกันแบบนี้ เจอกันหลายคนครับ ใครที่กำลังเจออยู่ ก็อย่ากังวลว่าเป็นเฉพาะตัวเราเลย มีเยอะครับ

    ถ้าผมจะให้จับคู่ไปคุยปรับทุกข์กันเอง คงรู้สึกผ่อนคลายบ้าง แต่ก็คงไม่ทำดอกครับ เพราะกลัวจะนัดกันไปทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง เว้นแต่จะเสนอตัวก็จะจัดให้...
    และผมเอาบทความเล็กๆที่ผมเขียนให้คุณผู้หญิงคนหนึ่งมาให้อ่านกัน เผื่อใครโดนแบบเดียวกันก็ให้พิจารณาดูดีๆ

    เราทุกคนเกิดมามีหน้าที่ ขอแค่หน้าที่เราไม่บกพร่อง ใครก็ว่าอะไรเราไม่ได้ ลองอ่านดูนะครับ เผื่อจะได้ข้อคิดบ้าง
    .............................
    เรื่องสามีให้ปล่อยวาง เค้าทำตัวอย่างไรก็ปล่อยเค้า ไม่เกี่ยวกัน เว้นแต่อยากจะได้สามีใหม่ ค่อยเลิก

    เรามีหน้าที่ของความเป็นแม่ เราต้องไม่บกพร่อง เรามีหน้าที่ของความเป็นภรรยา เราก็ทำไป อย่าให้หน้าที่ของเราบกพร่อง
    ถ้าสามีบกพร่อง ขาดความเป็นสามี เราก็เลิกเป็นภรรยา ถ้าสามีบกพร่อง ขาดความเป็นพ่อ เราค่อยพาลูกออกมา

    แต่ถ้าตอนนี้เค้ายังเป็นพ่ออยู่ ยังดูแลส่งเสียอยู่ ความเป็นพ่อก็ยังไม่บกพร่อง อย่าไปทำให้ลูกของเราเสียโอกาสจะมีพ่อ

    ลูกของเราไม่ผิด ผิดที่ตัวเราไปเลือกคนแบบนี้เป็นสามี เราต้องยอมรับความผิดพลาดครั้งนี้ แต่ลูกต้องมีสิทธิ์ที่จะเลือก ว่าเลือกจะมีพ่อหรือไม่มี ถ้าเค้ายังรักพ่อเค้าอยู่ เราไม่มีสิทธิ์นะครับ เราต้องเคารพการตัดสินใจของลูกด้วย และคุณไม่มีสิทธิ์ไปสร้างความเกลียดชังให้ลูกมีต่อพ่อของเขา

    คุณเองมีลูก คุณก็คงรู้ว่า เราไม่อยากเสียพ่อของลูกไป ฝ่ายภรรยาน้อยก็คิดแบบเดียวกัน
    ลูกเราก็รักพ่อเค้า ลูกของอีกฝ่ายก็คิดเช่นกัน ....แบบนี้เราเรียกว่า “ใจเขาใจเรา”
    ภรรยาน้อยเป็นคนแบบไหนผมไม่สนใจ และคุณก็ไม่ควรให้ความสนใจด้วย เพราะเรื่องแบบนี้ตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง

    เราบกพร่องอะไรไม่รู้ตัว สามีถึงได้ไปมีเพิ่ม หรือเราเลือกผิดก็แล้วแต่ เราจะยอมรับและอยู่กับมันให้ได้ เพื่อลูก เพราะลูกคือดวงใจของเรา เราจะไม่ทำให้เธอต้องมีปมด้อย
    ปัญหาทุกอย่างถ้าเราไปยึดมั่นถือมั่น เราจะเป็นทุกข์
    ดูคนที่สามีเสียชีวิต เค้าก็ดำรงชีวิตอยู่ได้โดยลำพัง
    แต่เรามีบ้างไม่มีบ้าง มาบ้างไม่มาบ้าง ยังดีกว่าเยอะ แถมยังส่งเสียได้ไม่ขาด แล้วจะเอาอะไรอีก...

    คิดดูให้ดีนะครับว่าจะเอาอะไรอีก... คิดเป็นข้อๆมาเลย
    1.จะเอาเวลาของสามีมาทั้งชีวิต จะกินจะนอนก็ต้องอยู่ในสายตาเรา เป็นไปไม่ได้ เลือกแบบที่เป็นความจริง
    **
    1.จะเอาเงินค่าเลี้ยงดู ก็ดูว่าทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายจริงอยู่ที่เท่าไหร่ เราเป็นแม่บ้านก็อย่าให้บกพร่อง เค้ากลับมาก็ต้องดูแล เว้นแต่อยากไปดูแลคนอื่น บริษัทฯอื่น ดูแลคนที่ไม่ใช่ญาติ ก็พิจารณาว่าคุ้มค่าความเหนื่อยยากไหม
    นี่สามีมาบ้างไม่มาบ้าง เรายังได้รับเบี้ยเลี้ยงเท่าเดิม น่าจะสบายกว่าเยอะ

    2.เงินประกัน-กองทุนสะสม ถ้าจะอยู่แบบเกาะเขากินไปแบบนี้ ควรจะวางแผนอนาคตไว้หน่อย ว่าวันใดวันหนึ่งโดนทิ้งขึ้นมา เราจะได้มีเงินตั้งตัว-เลี้ยงตัวยามแก่ เงินฝากประกันชีวิตตอบโจทย์ได้ หากเราเป็นอะไรไป ก็มีค่ารักษาพยาบาล หรือหากไปเฝ้าพระอินทร์ก็มีทุนให้ลูกเรียนจนจบ

    3.สวัสดีการ การเป็นครอบครัวควรมีเวลาให้กันบ้าง เราอาจจะไม่ยากอยู่กับสามีเจ้าชู้ แต่ลูกเราเค้าต้องการอยู่กับพ่อบ้าง จึงควรมีเวลาไปเที่ยวพักผ่อนซะหน่อย ช่วงเวลานั้นถือว่าเรารับภารกิจพิเศษ ทำตัวดีๆกับนายจ้าง ปรนนิบัติเค้าหน่อย เผื่อจะได้ทิป ลูกเราก็มีความสุข

    4.เรายังสาว ไฟยังเหลือ ของบางอย่างก็ต้องใช้ จัดตารางให้สามีเข้ามาซ่อมบำรุงบ้าง สุขภาพกายกับจิตจะได้ไม่ต้องไปพึ่งหมอที่ไหน

    5.ถ้าคิดจะทิ้งความรับผิดชอบโดยไม่นึกถึงความรู้สึกของลูกเราแล้ว ก็ให้วางอนาคตใหม่ และถ้าเลือกข้อนี้ค่อยติดต่อผมใหม่นะครับ

    .....................

    บทความนี้ได้รับกระแสตอบรับดีมาก มีคนพูดถึงเรื่องบุญเสมอกันด้วย ก็เลยนึกอะไรขึ้นมาได้

    เรื่องบุญเสมอกันเป็นเรื่องสำคัญ... เมื่อ5ปีก่อน ผมเลิกงานก็ไปวัด กลับดึกบ้าง นอนค้างที่วัดบ้าง แฟนถามก็บอกไปวัด หลังๆชักถี่เริ่มไม่ไว้ใจ หลวงปู่ฯก็เขียนจดหมายรับรองให้...

    [​IMG]

    พอเธอว่างก็ขอตามมาดูด้วย ว่าวัดไหนทำเอาสามีไม่กลับบ้าน
    พอเธอเห็นหลวงปู่ฯก็นึกรัก เข้าไปใกล้ๆ เห็นเล็บเท้าหลวงปู่ฯยาวมาก ก็หันมาถามว่า “ตัดให้ได้ไหม”
    ผมพยักหน้าอนุญาต เธอก็ก้มลงไปรักษาเล็บเท้าให้หลวงปู่ฯ...

    [​IMG]

    บุญเสมอกัน ร่วมสุขกันได้
    ศีลเสมอกัน ร่วมทุกข์กันได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2015
  18. rang551

    rang551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,363
    ค่าพลัง:
    +3,131
    ผมชอบภาพนี้จังครับ ดูอบอุ่นยังไงไม่รู้ ดูแล้วแอบอมยิ้มเลยครับ
     
  19. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    [​IMG]

    ภาพนี้ผมเคยเอาลงในกระทู้หลวงพ่อสม วัดโพธิ์ทอง
    แต่มีสมาชิกรุ่นใหญ่ขอให้เอาออก เพราะดูจะเป็นการไม่เหมาะสม...

    ผมไม่โต้เถียงเลย ลบรูปออกโดยดี แม้จะรู้ว่า การที่มีผู้หญิงไปตัดเล็บเท้าให้พระเถระนั้น ไม่ผิดพระวินัย

    แต่รู้มาก ไม่เท่ารู้จริง เงียบไว้ดีกว่า...

    ..............

    หลักใหญ่ๆเลย ในการห้ามภิกษุสัมผัสกาย หรืออยู่ใกล้มาตุคามคือ
    1. มีจิตกำหนัด (ภิกษุ)
    2. อยู่ในที่ลับตา (มองไม่เห็นว่าทำอะไรกัน)
    3. อยู่ในที่ลับหู (ไม่ได้ยินว่าคุยอะไรกัน)

    ข้อแรก หากมีจิตกำหนัด ต้องสังฆาทิเสก
    ข้อสองกับสาม แล้วแต่ท่านจะปรับอาบัติ

    พยาบาลเดี๋ยวนี้ก็เป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ใครเป็นผู้อุปฐากภิกษุ ผู้นั้นนับเป็นพยาบาล ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องแต่งกายต้องเป็นชุดขาวเสียเมื่อไร....

    ..................

    สมัยผมนอนกับหลวงปู่ฯ ก็มีบ้างที่เอาแฟนไปด้วย แฟนหลับไปแต่เที่ยงคืนแล้ว แต่หลวงปู่ฯยังชวนผมคุยอยู่ ดึกมากๆก็ขอนอนก่อน ถ้ามีที่ว่างระหว่างผมกับหลวงปู่ฯก็จะมีหมามานอนเบียด ส่วนหลวงปู่ฯจะนอนดึก บางครั้งก็ได้ยินเสียงเป่ามนต์ตอนตี2-3 เช้าขึ้นมาก็เห็นหลวงปู่ฯจารผ้ายันต์

    พี่ธวัชชัยถึงรักหลวงปู่ฯมาก

    .................

    พี่ธวัชชัยนับถือหลวงปู่สมมาก เพราะเห็นในเวทย์และจิตของหลวงปู่ฯแล้ว
    แต่พระปิดตาในครรภ์เป็นสายใต้ ก็ต้องนิมนต์พระสายใต้ นั้นคือพ่อท่านพันธ์

    ท่านเคยเอ่ยปากให้พี่ธวัชชัยทำของมาให้ท่านเสก แต่พี่ฯเกรงใจกรรมการ เพราะทางวัดฯขออนุญาตยังไม่เคยได้

    ครั้งนี้ท่านเร่งให้ทำมา แม้ปรกติจะไม่ชอบเสกของ แต่ครั้งนี้พระปิดตาในครรภ์ท่านเอ่ยปากว่าจะเสกให้ครบไตรมาส หลังพรรษาให้มาเอา ไม่ต้องเอาไปเสกที่ไหนซ้ำ จะลงกันคัดกันถอนกันเสื่อมให้

    .....เพื่อนสมาชิกก็รอกันหน่อยนะครับ แล้วเสร็จจะเอามาตอบแทนตามสัญญา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PIC_1264.JPG
      PIC_1264.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.8 KB
      เปิดดู:
      69
  20. ครึ่งชีวิต

    ครึ่งชีวิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,178
    ค่าพลัง:
    +15,103
    credit จาก Facebook (สำหรับท่านที่ไม่เล่นเฟส)
    นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว


    ◎อภินิหารว่านกระชายดำหลวงพ่อเดิม◎
    ในวงการเกจิอาจารย์ นักขายพระ ซื้อพระ นักลองพระพิมพ์มาขายมากมาย มีพวกมีเงินมาแสวงหาของดี หลวงพ่อวัดไหนดี หรือใครมีพระสมเด็จมาขายก็จะนำมาตรวจแล้วก็จะนำไปพิสูจน์ด้วยมีการยิงทดลอง ถ้ายิงสามครั้ง ของดีดังกล่าวมีคุณภาพอยู่ยงคงกระพันชาตรี ผู้ซื้อก็จะซื้อโดยให้ราคาเช่าเท่าที่ท้องตลาดดีราคากันไว้
    พวกหนึ่งในพวกนี้เป็นคนมีเงินเป็นล้านๆกว้านซื้อของดีๆแต่มีวิธีการที่เขาจะซื้อจะเป็นเครื่องรางของขลังพระเครื่องทุกชนิดมีมาแล้ว เจ้าคุณศุภเดช ตั้งที่เปิดรับสมัครที่คนจะเอามาประกวดมีข้อแม้ว่าถ้าหากทดลองยิง 3 ครั้งของดีที่คนเอามาทดสอบยิงกระสุน แตกกระจายหรือทำลายไปจะต้องเสียให้ผู้ยิง 1000 บาทถ้ายิงไม่ออก 3 ครั้ง ผู้ยิงจะให้เงินเกมพนัน 10 เท่าเป็นจำนวนเงิน 1หมื่นบาท
    ในรายการนี้คนที่เป็นเจ้าของของดีเมื่อผู้ยิงไม่ออกแล้วจะให้เช่าหรือไม่ให้เช่าเป็นเรื่องของเจ้าของ ข้าพเจ้าได้สำรวจและได้ติดตามดูในการทดลองของดีขึ้นไปทดลองกันที่บ้านคุณป้าเวสที่ในสวนตำบลบางเขน เห็นมีดีอยู่ก็เป็นพระสมเด็จของคุณสำราญสำนักวัดพลับ ทดลองยิงไม่ออกได้เงิน 1หมื่น บาทอาเสี่ยผู้ยิงให้ราคาในจำนวนแสน เจ้าของไม่ให้เช่า จะเป็นพระสมเด็จหรือว่าของดีทุกอย่างที่ถูกทดลองยิงหักเเตกกระจายนั้น ก็เพราะเป็นของปลอม
    วันนี้อาเสี่ยและพวกพ่อค้ามารับจดชื่อคนที่นำของดีมา ตั้งสำนักจดชื่อที่เขตท้องสนามหลวง ด้านพระแม่ธรณีบีบมวยผม ข้าพเจ้าแลเห็นคนประชุมกันกลางท้องสนามหลวง มีคนนำห่อพระ ตะกรุดและเครื่องรางของขลังอื่นๆอีก
    ข้าพไปถามคนแก่คนหนึ่ง แกก็เล่าให้ข้าพเจ้าฟัง พ่อแก่สุนทรซึ่งจะเอาของมาลองย้อนถามข้าพเจ้าว่ามีอะไรดีมาลอง ข้าพเจ้าตอบว่ามาดูเขาเฉยๆ แล้วก็นั่งคุยกับพ่อแก่ พ่อเเก่เลยบอกข้าพเจ้าว่าเแกก็อยากจะลองของดีเหมือนกัน
    ''ลุงมีของดีอะไร'' พ่อแก่บอกว่ามีว่านกระชายดำเป็นของที่ได้มาจากหลวงพ่อเดิม ที่พ่อเอามาพนันนี้ พ่อได้ต่อสู้กับสงครามมาหลายครั้งปืนยิงไม่ออก แต่พอมีเงินน้อยมีเพียง 200 บาท ข้าพเจ้าก็บอกว่าอยากจะพนันเงินที่ขาด 800 บาทผมจะช่วยออก แกก็เอากระชายดำที่ ห่อในถุงผ้าดำมาให้ข้าพเจ้าดู เห็นหัวกระชายดำเป็นสีดินหม้อ แกะดมดูก็ได้กินกระชาย เหมือนกลิ่นกะชายที่เค้าขายตามท้องตลาด
    เมื่อแน่นอนแล้วข้าพเจ้าก็มาที่หลังประชุม มาสองคนกับพ่อแก่ เมื่อมาถึงเห็นคนกำลังจดชื่อและเอาสิ่งของให้กรรมการดูประมาณ 10 กว่าคน ข้าพเจ้าก็พาพ่อแก่มาหาเสี่ยและมีพระภิกษุพระครูประกาศิตเป็นประธานกรรมการ
    ภิกษุร่างอ้วนดำถามข้าพเจ้าว่ามีอะไรเป็นเกมส์การพนันเป็นเครื่องรางของขลังหรือพระสมเด็จ ข้าพเจ้าบอกว่าสิ่งนี้เป็นว่านกระชายดำ ภิกษุอ้วนถามว่าเป็นกระชายดำจริงหรือ ข้าพเจ้าบอกว่าจริงๆ แล้วข้าพเจ้าก็ส่งห้อผ้าชายดำที่พ่อแก่ให้ข้าพเจ้าภิกษุรับมาดูแล้วก็นำกระชายดำไปดมแล้วก็ถามชื่อนามสกุลและวางเงินจำนวน 1000 บาท
    ข้าพเจ้าบอกชื่อนามสกุลเป็นการลงทะเบียนส่วนนัดยิงที่ไหนนั้นยิงนอกสถานที่ยิงในสวนบางเขน ในรายการนี้พระภิกษุบอกว่าวันนัดยิง ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ศ. 2479 เดือนธันวาคม
    ประชาชนที่มีของดีต่างก็เก็บสิ่งของหลังจากจดชื่อนามสกุลแล้วข้าพเจ้าบอกกับพ่อแก่ก็กลับมาที่เรือของแก แกเป็นพ่อค้าข้าว เมื่อมาถึงเรือก็คุยกับแกที่ท่าเรือสามเสน ข้าพเจ้าก็คุยถามถึงว่านกระชายดำที่แกมี แกบอกว่าแกเป็นคนหนองโพธิ์ อยู่ใกล้วัดหนองโพธิ์
    หลวงพ่อเดิมเป็นเจ้าอาวาสที่มีความเชี่ยวชาญทางพระเวทย์ หลวงพ่อเดิมมีว่านกระชายดำ ว่านเปราะดำ และมีวิชาสามารถบังไพร บังช้างในวัด ไม่ให้พ่อค้าช้างเห็น ข้าพเจ้าสงสัยบังไพรอย่างไร พ่อเเก่เล่าว่า
    เมื่อสมัยก่อนนั้นพม่าเดินทางมาจากประเทศพม่า มาทางด้านจังหวัดตากมาหาซื้อช้าง ตั้งแต่แม่ฮ่องสอน ตาก กำแพงเพชร จนมาถึงจังหวัดนครสวรรค์ พ่อค้าช้างชื่อหม่องลุนเผล่ อีกคนชื่อมะก้องซื้อช้างตามทางมาได้ 2 เชือก ทั้งตัวที่ขี่ด้วยเป็น 3 เชือก พม่าสองคนนี้เป็นพ่อค้าที่มีพระเวทย์อาถรรพ์ ขี่ช้างรอนแรมมาทุกระยะ ถึงวัดหนองโพธิ์ ก็หยุดพักช้าง นอนหลับที่ศาลาวัด
    พม่าสองคนนี้ ชอบลองของดี เล่นกลถากน่องให้เด็กวัดดูเพราะพม่าต้องการเอาฝืนไปหุงต้มอาหารกิน ถ้าเวลาพม่าจากไปแล้วจึงจะเห็นรอยเสาศาลาถูกถากหลายต้น ที่พม่ามันถากน่องนั้นแหละมันถากเขาศาลา แต่มันมีวิชากำบัง จนกระทั่งเดินทางมาจนถึงวัดหนองโพธิ์ ก็มาเล่นกล เด็กวัดก็มาดูกันหลายคนพม่าซึ่งเคยถากน่องให้เด็กวัดดูหลายวัดเเล้ว ผลปรากฏเสาศาลาถูกถาก วันนี้ก็มาถากน่องอีก พม่ามันผูกช้างเอาไว้ชายวัด 3 ตัว
    พอเช้าตื่นขึ้นมาหาช้างไม่พบ พม่าตรงไปหาหลวงพ่อเดิมบอกว่าช้างหาย หลวงพ่อก็ให้ไปแจ้งความกับผู้ใหญ่บ้าน พม่าไม่ไปบอกว่าเขาทั้งสองมาขอขมาลาโทษที่ ล่วงละเมิดถากเข้าศาลาวัด หลวงพ่อจึงบอกกับพม่าว่าให้หาเศษไม้เสาศาลาที่พม่าถากไปหุงต้มอาหารคืนมาจะได้คืนช้างให้ พม่ามันเอาทำฟืนแล้วเผาไฟจนหมดสิ้น ไม่อาจจะหามาคืนได้
    พม่าก็กลับประเทศไปแล้วที่วัดหนองโพธิ์ ก็หาคนเลี้ยงช้าง พ่อเเก่เลยไปสมัคร หามะพร้าว กล้วยอ้อยให้ช้าง 3 ตัวกินจนมีลูก 2 ตัว เดี๋ยวนี้อยู่ที่วัดหนองโพธิ์เหลือตัวเดียวหลวงพ่อนำมามอบให้ที่เขาดินเลี้ยงตัวที่เหลือ งายาวลากดินพ่อเเก่มาอยู่กับหลวงพ่อ ของดีมีมากมายและชอบใจกระชายดำ
    พ่อจึงขอหลวงพ่อ พ่อแก่หักออก 3 ท่อน ท่อนหนึ่งฝังไว้ในแขนและอีกท่อนหนึ่งจะมอบให้ลูก ส่วนท่อนสุดท้ายนั้นมีคนซื้อได้ราคาดีก็จะขายเอาไว้สำหรับซื้อเรือพ่วงเป็นที่ถูกใจข้าพเจ้า จนถึงวันนัด ต่างก็มาพบกันที่สนามหลวง มีพระครูและอาเสี่ยมีรถมาให้นั่งแล้วก็กลับไปที่สวนบางเขน เวลา 15.00น.มีพระมาเป็นพยานในการประลอง ว่าจะไม่มีการฉ้อโกงกันระหว่างเกมพนัน
    อาเสี่ยเม้งเป็นคนยิง เรียกชื่อคนที่มีของดีตามคิวทดลองยิงมาจนถึงสี่โมงเย็นคนที่ให้ของดีทดลองตามบันทึก 12 คน เพราะอาเสี่ยยิงเเตกกระจายหมด เมื่อถึงคิวของพ่อแก่เรียกชื่อแกแล้วก็ยกมือขึ้นเหนือหัวแล้วก็นำถุงผ้ามาให้พระภิกษุ พระภิกษุก็เอาไปห้อยไว้ที่ยอดเสา อาเสี่ยเม้งเดินถอยหลังประมาณ 5 ก้า่วจาก
    เสาที่แขวนถุง
    แล้วก็เริ่มยิงไปที่ถูกกระชายดำเสียงดัง ''แชะ แชะ แชะ'' ถึง 3 ครั้งเกจิอาจารย์ต่างๆที่อยู่ในที่นั้นต่างก็ตรูกันเข้ามาดูว่าของดีที่อาเสี่ยทดลองยิงนั้นเป็นอะไร พ่อแก่ขอรับถุงคืนเมื่อเกจิอาจารย์อยากดูพ่อแก่ดู พอประกาศได้เรียกพ่อแก่มาบอกว่ารับเงินจำนวนหนึ่งหมื่นบาท เกจิอาจารย์ถามว่าเค้าเรียกว่าอะไรพ่อแกบอกว่าเจ้าแม่พระธรณีว่านกระชายดำ
    เมื่อได้เงินเรียบร้อยแล้วก็เตรียมตัวจะกลับก็มีเถ้าแก่คนมีเงินมาพูดขอซื้อให้ราคาดีแต่ ข้าพเจ้าก็บอกว่าว่านกระชายดำนี้ป้องกันอาวุธปืนได้ทุกชนิดและป้องกันเขี้ยวเล็บ หอก แหลนหลาว ได้อย่างชะงัด
    ข้าพเจ้ากับพ่อแก่ก็กลับมาคุยกันที่เรือของแก พ่อแก่เพราะแกมีเงินพนัน 200 ได้ค่าพนัน 2000 ข้าพเจ้า 800 ได้ 8000 ข้าพเจ้ามอบให้แก่พ่อแก่หมด และขอว่านกระชายดำที่ทดลอง พ่อแก่ก็ให้บอกว่าพ่อมีแล้ว เมื่อหลานอยากได้พ่อ ก็เอาไม่ถึง 8000 ขออีก 5000 บาทเป็น 7000 บาท เท่านี้ก็พอซื้อเรือพ่วงได้ 2-3 ลำ
    ข้าพเจ้าขอบใจพ่อแกและยกมือไหว้ขอบคุณแกอย่างลึกซึ้งแกมีน้ำใจเผื่อแผ่ ข้าพเจ้าดีใจ ข้าพจ้าก็รีบกลับมาบ้านไปที่ร้านคลีนิคเจาะ เนื้อที่โคนแขนให้นายแพทย์ฝังกระชายดำ 2-3 วันแผลก็หาย ข้าพเจ้ามาเยี่ยมพ่อแก่อีก2-3ครั้ง แล้วพ่อเเก่ก็จากกรุงเทพกลับบ้านของแก
    ข้าพเจ้าก้อาศัยว่านกระชายดำเผชิญภัยได้รับผลประโยชน์จากว่านกระชายดำ ว่านสามพันตึง รอยเท้าหลวงพ่อเดิมเป็นเกาะแก้วกำแพงเพชรคุ้มครองชีวิตอันลำเค็ญของข้าพเจ้าที่ได้มาสู้กับศัตรู ไปล้างบาปตามกรรมที่ได้สร้าง ตั้งแต่ต้นข้าพเจ้าก็ผจญต่อสู้มากับศัตรูไม่เคยเลือดตกยางออกเลยเข้าไปรับบาป 20 ปี ความอิสระก็ได้มาเยือนข้าพเจ้าจนท่านได้ทราบอยู่ทุกวันนี้ท่านมีความข้องใจสงสัยพบข้าพเจ้าได้ที่โรงพิมพ์จินดาสาส์นข้างวัดเทพากรจะพบข้าพเจ้าได้ทันทีเป็นเรื่องจริงที่ข้าพเจ้าได้ประสบมา..จบตอน
    สำหรับตอนนี้ขอมอบ◎พระคาถาเสกว่านคาถา◎
    อุ อะ มะ ตะ โห จะ อิ สวา สุ มัง สัง สุ สวา อิ นะ โห จะ นะ ทุ สะ มะ นิ หัต ถิ นิ สะ มะ ทุ
    พระคาถานี้เสกว่ากินดีคงทนแล ฯ
    ขอขอบคุณ Facebook นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...