ประสบการณ์เมื่อเรามีคนทักว่าเรามีองค์ (แนวให้ความรู้)

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย กาลีนะ, 13 มิถุนายน 2013.

  1. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    อันนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ แม้แต่เท้าของเราก็เหยียบอยู่บนดาวที่ชื่อว่าโลก แสงจากดวงอาทิตย์สาดส่องให้ความอบอุ่น แสงจันทร์ แสงดาว ที่ขจัดความมืด แรงโน้มถ่วงระหว่างดวงดาวที่หมุนเวียนให้ระบบกาแลคซี่ีดำเนินต่อไปได้ แต่ทำไมเนอๆ มนุษย์บางพวกจึงปฏิเสธ ปัจจัยพื้นฐานที่ค้ำจุนตัวเองไปเสียอย่างนั้นเหล่า เพราะกระทั่งตัวเองก็อยู่ท่ามกลางสิ่งเหล่านั้น
     
  2. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .. บางคนเขาไม่เข้าใจลึกซึ้งคะ มองแค่ผิว ๆ ก็รีบตีความไปเสียแล้ว โหราศาสตร์เป็นวิทยาศาสตร์โบราณเท่าที่มนุษย์เราเคยมีมา เป้นการสังเกตุสิ่งต่าง ๆ รอบตัวแล้วนำมาคำนวณเปรียบเทียบทำเป็นสถิติ และ ใช้เป้นสมติฐานในการทำนายคะ .. เอาแค่นี้นะคะ มากกว่านี้อาจมีคนเหม็นหน้าได้
     
  3. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .. สิ่งนี้เป็นพี่อ้นคนเดิมเอามาลง และ มองเห็นว่ามีประโยชน์แกทุกคนจะได้เอาไปพิจารณาเพื่อแยกแยะให้ถูกต้องนะคะ .. เพราะทุกวันนี้คนชอบเหมารวม และ มันเป็นส่วนหนึ่งของคนที่มีความพิเศษในตนเอง และ สนใจใครรู้ หรือ อยากจะช่วยเหลือผู้คนควรทราบไว้ในการณ์เบื้องต้น .. เพราะหากคุณเองไม่แตกฉานพอ .. ก็อย่าเพิ่งแสดงตนว่าเป็นผู้มีคุณวิเศษ และ ไปสั่งสอนผู้อื่นความร้ายอาจถึงตัวได้เพราะไปสอนเขา " ผิด ๆ " แต่หากทราบว่าผิดภายหลังแล้วตามแก้ไขก็ยังถือว่าดีคะ เพราะมาทางนี้ " สัจจะ วาจา สำคัญมาก "

    โหรกับหมอดูต่างกันหรือไม่ อย่างไร

    ๑. โหร

    คือ ผู้เรียนวิชาโหราศาสตร์ ที่กล่าวถึงอำนาจของดาวที่มีอิทธิพลต่อโลกมนุษย์ โหรเป็นผู้รู้กาลเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์ดีร้ายแก่สรรพสิ่งทั้งหลายในจักรวาลฟ้าครอบ รวมทั้งชีวิตมนุษย์ด้วย

    ๒. หมอดู

    คือ ผู้ที่จะบอกโชคดีหรือเคราะห์ร้ายแก่ท่าน วิชาหมอดูที่ใช้อยู่ทั่วไป คือ เลข ๗ ตัว, เลข ๑๒ ตัว, กร๊าฟแบบนโปเลียน, ไพ่ป๊อก, เสี่ยงทาย, พรหมชาติ, ลายมือ


    CR.โหราเวสม์

    ... ส่วนพวกดูผ่านญาณต่าง ๆ ก็จัดแยกย่อยออกไปอีกคะ .. ส่วนมากจะเป็นพวกมีองค์ ร่างทรง มีทิพยจักรขุ .. ไม่ได้ใช่ศาสตร์ทางโหราศาสตร์ หรือ วิชาหมอดูคะ ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2015
  4. DEEJAI243

    DEEJAI243 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2015
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +1,445
    ศาสตร์หนึ่งที่ฉันและสามีเคยศึกษา
    เกี่ยวกับอี้จิง จะเป็นตำราในการ
    ทำนายโดยใช้เหรียญค่ะ

    สามีและฉันชอบปรัชญาตะวันออก
    และเราสนใจเรื่องหลักหยิน - หยางค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2015
  5. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .. เคยลองดูแล้วคะ ยากเกินไปสำหรับคนแบบ กาลีนะ คะ สมาธิสั้น ความจำมีปัญหา จึงศึกษาเฉพาะเรื่องที่สนใจ หรือ จำเป้นต้องใช้กับสถานการณืช่วงนั้นเพราะมันจะไหลเข้ามาเองจากทุกอย่าง ทั้งคำแนะนำจากคน การค้นคว้า หรือ สื่อต่าง ๆ คะ .. ทุกวันนี้อาศัยตัวช่วยคะ และ อาศัยความรู้สึกตัวเองที่มันจะแวีบเข้ามา เหมือนกระจกที่มีแสงมาตกกระทบแล้วเราก็สะท้อนมันออกไป บางครั้งจะมาเป็นนิมิตให้ตีความเอา หรือ ออกมาในรูปแบบของลางสังหรณื หรือ การทักจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ..
     
  6. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    การเจริญเทวตานุสสติ มีประโยชน์และมีโทษ อย่างไร

    ... การเจริญเทวตานุสสติหมายถึง การเจริญสตินึกถึงคุณของเทวดา

    .... การเจริญเทวตานุสสติ จะมีประโยชน์แก่ผู้นั้น คือ ให้เกิดเป็นคนมีศีลธรรมประจำใจ เกิดหิริ ความละอายต่อบาปกรรม ไม่อยากจะทำความชั่ว และโอตตัปปะ ความเกรงกลัวแก่บาปกรรม น้อมจิตไปในทาน ศีล ภาวนา และธรรมอื่นที่ชักนำบุคคลให้เป็นเทวดา

    ..... การเจริญเทวตานุสสติ จะเกิดโทษ เป็นทิฐิมานะขึ้น เพราะผู้นั้นมิได้ละวาง เกิด ความยึดมั่นถือมั่นในตัว ตน เรา เขา

    .... ดังนั้น การละวางจากโทษ ได้ประโยชน์จากการปฏิบัติธรรม คือ การเจริญสติ ละวางใจ จากความยึดมั่นถือมั่น จึงไม่เกิดความยึดติด สามารถปล่อยวางได้

    ... ด้วยเหตุนี้ การสิ่งใดเป็นประโยชน์ สิ่งนั้นสมควรถือเอา สิ่งใดเป็นโทษ สิ่งนั้นสมควรปล่อยวาง

    .... ข้อควรรู้พิเศษ การเจริญเทวตานุสสติ เลือกทางเป็นเทพ กับทางไปนิพพาน แตกต่างกันอย่างไร

    ..... การเจริญเทวตานุสสติ เลือกเส้นทางความเป็นเทพ คือ เจริญสติ น้อมจิตไปนึกถึงคุณของเทวดา องค์ต่าง ๆ มีพระอินทร์ พระพรหม เป็นต้น เพื่อให้เกิดทาน ศีล ภาวนา และ เกิดหิริ ความละอายต่อบาป และ โอตตัปปะ ความเกรงกลัวต่อบาป

    .... การปฏิบัติแบบนี้ เป็นการละเว้นจากความชั่ว ประพฤติความดี ไม่ได้ชำระจิตของตนให้ปราศจากกิเลส เพราะไม่ได้เลือกเส้นทางของนิพพาน เป็นการเลือกเส้นทางของความเป็นเทพ จึงปฏิบัติแค่ละเว้นจากความชั่ว ประพฤติความดีเท่านั้น

    .... การเจริญเทวตานุสสติ เลือกเส้นทางของนิพพาน คือ เจริญสติ น้อมจิตไปนึกถึงของพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย เพื่อบำเพ็ญบุญบารมี ให้พ้นทุกข์ออกไปจากวัฏฏะสงสาร

    .... การปฏิบัติแบบนี้ เป็นการสั่งสมบุญบารมี เพื่อพ้นไปจากความทุกข์ จึงปฏิบัติละเว้นจากความชั่ว ประพฤติดี ทำจิตใจให้ผ่องใสจากกิเลส เป็นการเลือกเส้นทางนิพพาน



    ธรรมะดุจดั่งสายธาร ที่กว้างไกล
     
  7. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .. จากบทความนี้ก็แล้วแต่จะพิจารณากันเลือกทางใดนะคะ .. ตามอัธยาศัยเลยคะ ส่วนตัวเลือก " การเจริญเทวตานุสสติ เลือกเส้นทางความเป็นเทพ " เพราะใจมันไม่เคยคิดจะไปนิพพานกับชาวบ้านเลย พี่ ๆ ก็ชักชวนนะคะ .. แต่ส่วนตัวจะตัดเรื่องความรักไม่เคยขาดสักที ยังคงยึดมั่นในรักอยู่ หรือ จะเป็นกรรมติดตัวก้ไม่ทราบได้ .. ตอนนี้ทำได้แค่เพียงไม่เอาใจไปเดือดร้อนกับมันมากเหมือนเก่า เปลี่ยนทัศนคติด้านความรักให้เปิดกว้างขึ้นไม่เน้นเรื่องคู่ แต่เป็นความรักที่จะมีให้กับกัลยาณมิตรมากกว่า เรื่องเนื้อคู่จะเริ่มทำใจให้เป็นไปตามวาระมากกว่า ..

    ... ส่วนใครเลือกไปนิพพานแบบตั้งใจก็ขอสาธุด้วยคะ .. งานนี้ไม่มีเก๊กเอาหน้าคะ เพราะความจริงใจท่านคิดสิ่งใดท่านรู้ดีที่สุด ปากที่พุดออกมาก็ใช่ว่าจะตรงกับใจ .. หากเป็นเช่นนั้นกรรมก้ตกแก่ตนเองใช่ใครอื่นเช่นกัน ..
     
  8. DEEJAI243

    DEEJAI243 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2015
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +1,445
    อ่านกระทู้ของคุณ Kalina แล้วได้ความรู้เยอะดีค่ะ
    ขอบคุณมากค่ะสำหรับความรู้และประสบการณ์
    ที่คุณ Kalina ได้ถ่ายทอดให้

    การนำเสนอข้อมูลของคุณ Kalina เป็นกลาง
    แบบไม่ได้ครอบงำหรือชักจูง ซึ่งผู้อ่านจะใช้วิจารณญาณ
    ของตนเองในการวิเคราะห์

    การมีจุดยืนของคุณกาลีนะและเป้าหมายอย่างเด่นชัด
    พร้อมทั้งคุณกาลีนะ ก็พยายามทำหน้าที่ของตนเอง
    อย่างดีที่สุดทั้ง 2 มิติ ซึ่งการตระหนักรู้ว่าคุณคือใคร
    กำลังทำอะไร ทำเพื่ออะไร โดยไม่ขัดกับหลักศีลธรรมอันดีงาม
    และการไม่ใช้ตนเองเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินผู้อื่น
    นับว่าเป็นสิ่งที่น่ายกย่องมากๆค่ะ
    (เพราะในคำว่า "ดี "ของเราอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ว่า"ดี"ของเขา)

    ขอให้ความปรารถนาอันดีงาม
    ที่คุณกาลีนะตั้งใจไว้ จงสัมฤิทธิ์ผลค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2015
  9. DEEJAI243

    DEEJAI243 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2015
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +1,445
    สังคมเราทุกวันนี้ ปัญหาส่วนหนึ่งมาจาก
    การใช้บรรทัดฐานของเราไปตัดสินผู้อื่น
    จนเกิดการก้าวล้ำสิทธิและเสรีภาพทางความคิด
    และเป็นชนวนซึ่งนำมาให้เกิดความขัดแย้ง
    และเกิดอคติต่อกัน เราทุกคนมีความต่าง
    ก็เหมือนกับดอกไม้นานาพันธุ์ ที่สรรค์สร้าง
    ความงดงามให้โลกใบนี้
    ขึ้นอยู่กับว่าเราจะบริหารความต่างอย่างไร
    เพื่อให้เราอยู่บนโลกนี้โดยไม่เบียนผู้อื่น
    ทั้งทางกาย ทางวาจาและทางใจ
     
  10. Chalermwich

    Chalermwich เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2007
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +1,273
    ขอบคุณในข้อมูลดีๆ
     
  11. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .... ไปเจอมาเลยเอามาฝากคะ .. เพราะส่วนมากคนที่เข้ามาสายนี้ก็จะพ่วงไปด้วยการไปเรียนคาถา วิชา จากคุณ 9 มหาเวทย์ ..

    ข้อห้ามของผู้เรียนไสยเวท

    .. สำหรับผู้ที่เรียนมนต์คาถาอาคม และสักเสกเลขยันต์ ข้าพเจ้าก็จะนำเอาหลักการครองตนในข้อห้ามส่วนตัวลง เหมือนสำนักอื่นบ้าง ไม่เหมือนสำนักอื่นบ้าง


    ห้ามลอดราวผ้า ทั้งชายหญิงตากเสื้อผ้าไว้ อย่าเข้าใกล้
    ลอดราวผ้า คุณมนต์ที่เล่ามาจะเสื่อมสิ้นสุดกำลัง

    ห้ามกินของเหลือ ทั้งเหลือไว้กินทีหลัง ซากเก่าของเขานั้น
    อย่าได้หวังนำมากิน อาคมจะรู้สิ้นอย่าถวิลใช้ยินยล

    ห้ามกินผักปลั๋ง ทั้งลื่นรั่งหลุดไถล เสื่อมฤทธิ์หมดเวทไสย
    มนต์หลุดไหลออกจากตัว บ่คงกระพันในศาสตรา

    ห้ามกินฟักเขียว เรื่อยยอดลอดร้านนั่ง ประดุจดังทรงเพศหญิง
    นมนวลชวนใคร่ค่า หากนำพาเสื่อมไสยเวท

    ห้ามกินมะเฟือง ลอดมะเฟือง เสื่อมคุณมนต์
    เหมือนเครื่องทรงสตรีเพศ นั้นเป็นเหตุให้หมดอาคม

    ห้ามกินพลูมีปลาย ให้เด็ดปลายก่อนทุกที
    ดุจพระนางจามเทวี เสื่อมเวทตรีพญามนต์

    ห้ามลอดต้นกล้วย ปกงำเครือแลหัวปลี
    ไม้ค้ำหมดราศี ไร้เวทไสยไท้มนตรา

    ห้ามกินข้าวงานแต่งงาน อีกข้าวน้ำทั้งงานศพนี้
    ไอข้าวของซากผี เสื่อมฤทธีในบัดดล

    ห้ามลอดเงาปราสาทตั้งเรือนร่างตอนเผาศพ
    พญามนต์จะถูกกลบ จ่ามนต์ลบให้เสื่อมสูญ

    ห้ามคนมาเล่นหัว จับถูกหัวต้องศีรษะ
    เลกยันต์มนต์หลุดละ เสื่อมสละพระเวทตรี

    ห้ามตกไปในที่ต่ำ ห้ามเหยียบย้ำในที่สูง
    รู้ที่ต่ำนั่งที่สูง อย่าย่างข้ามเหนือครูยา

    ห้ามหญิงขึ้นข้างบน จะเสื่อมมนต์ในทันที
    บ่พิทักษ์รักษาดี เวทวิ่งหนีออกกายา

    ห้ามพูดปดคดมดเท็จ วาจาเล็ดลอดเพ้อเจ้อ
    ส่อเสียดเหยียดละเมอ วาจาสิทธิ์หมดฤทธี

    ห้ามถ่มน้ำลายคายน้ำหมาก ลงที่ต่ำน่าบัดสี
    คอห่านส้วมขับขี้ หมดวาทีในพระมนต์

    .... เหล่านี้เป็นข้อห้ามจากหลายสำนักที่ตั้งไว้ไม่ให้ผู้ที่ไปเรียน ... กระทำผิด .. เพราะจะทำให้คาถาเสื่อม .. การแก้ไขก็จะมีในแต่ละของสำนักเช่นกัน .. ที่เอามาลงกระทู้ร่างทรงเพราะเดี๋ยวนี้ ... ส่วนมาก " ร่างทรงมักจะพ่วงเป็นหมอผีด้วย "
     
  12. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .... บางส่วนที่ไปพบมาเกี่ยวกับ การขึ้นขันธ์ .. ทำให้ทราบว่า .. ขันธ์ที่เพื่อนได้รับมาถือแล้วกระทำผิดครูนั้นเรียกว่า " ขันธ์ 108 " เป็น เครื่องใหญ่สำหรับอาจารย์ที่มีวิชามาก (ไสยศาสตร์) หรือระดับบรมครู ขั้นพระสงฆ์ที่มีวิชาแก่กล้า ขั้นเจ้าเมืองหรือพระมหากษัตริย์ ก็ไม่แปลกหรอกที่คนที่ไปรับมาแล้วมักจะกระทำ " ผิดครู " กันจนดวงจิตต้องกลายเป็นอสุรกาย ... เพราะความไม่รู้ .. หรือ ผู้ถ่ายทอดจงใจให้เป็นเช่นนั้นเพื่อจะได้มีบริวารไว้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นไป .. อันนี้มิอาจทราบได้ ..

    ... ที่ไม่ค่อยมาลงอะไรนำเสนอ .. ไม่ใช่ไม่มีเรื่องมาเล่านะคะ ... มีเยอะมากแต่ไม่รู้จะเริ่มเล่าตรงไหนดี .. หรือ เรื่องที่รู้มาไม่ควรนำมาบอกต่อเพราะอาจนำภัยสู่ตัว ... ก็ยังคงพิจจารณาอยู่

    ... แต่ส่วนตัวตอนนี้ได้ทำการช่วยเหลือตนเองจนสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ .. โดยไม่ต้องกลัวการคุกคามของอมนุษย์ที่ภพภูมิต่ำ หรือ มิใช่ผู้มีบุญบารมีมากพอ .. กาลีนะ ได้พบสิ่งที่ตามหามานานแล้วคะ ไม่ต้องกลัวจะถูกแทรกอีกต่อไป .. นอกจากมาจากที่สูงจริง ๆ เหมือนได้เกิดใหม่ทั้งครอบครัวคะ ..

    ... ขอเล่าเท่านี้นะคะ .. เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังหาทางเอาตัวรอดให้ตนเอง ขอให้มีสติ และ ใช้ความรอบคอบ ปัญญา สักวันพวกคุณอาจเจอทางรอดแบบ กาลีนะ ก็ได้คะ .. ที่ไม่บอกว่าว่าไปเจอที่ไหน .. เพราะไม่ทราบว่าท่านจะให้บอกรึเปล่า ... อยู่ที่วาสนาแล้วกันนะคะ ..
     
  13. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ... คงต้องบอกเลยตรงนี้คะว่า กาลีนะ ไม่มีความสามารถในการดูองค์ให้ใครได้คะ .. เพราะ กาลีนะ ก็ยังคงเป็นนักศึกษาเรื่องพวกนี้เช่นกันคะ .. จะสัมผัสได้แค่ในกรณี " ที่องค์ต้องการบอกเราเท่านั้น .. ไม่ใช่ดูได้ทุกคนคะ " แต่ถ้าเป็นพี่ท่านอื่นอาจจะบอกได้คะ โดยเฉพาะท่านที่มีองค์ทางดูดวง ทำนายทายทัก .. ท่านเหล่านั้นจะตอบคุณได้ดีกว่าคะ เพราะมันเป็นทางของเขา ..

    ... ตอนนี้ กาลีนะ ยังเพิ่งจะขึ้นชั้นประถมคะ .. คือ ฝึกภาวนาทุกวันวันละชั่วโมง สามเดือนคะ ... เพื่อฝึกสมาธิ ... ข้อมูลที่ลง ได้มาจากการศึกษาหาข้อมูล และ ประสบการณ์คะ .. ส่วนเรื่ององค์ของตัวเองนั้นทราบคะว่าท่านเป็นใคร .. มีหน้าที่มาทำอะไร .. ส่วนของคนอื่นจะไม่ค่อยรู้คะ .. ขอโทษด้วยนะคะ ..
     
  14. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ........... ประพฤติตัวเช่นใด ถึงจะได้รับพรวิเศษ ............. ธรรมะดุจดั่งสายธาร ที่กว้างไกล

    การที่จะได้รับพรวิเศษ

    .... คนที่จะได้รับพรวิเศษ ต้องเป็นเทวดา ที่จุติลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ เพื่อทำหน้าที่บางประการ ที่ได้รับมอบหมายมาจากเบื้องบน หรือระดับพระโพธิสัตว์ จุติลงมาเพื่อสร้างบุญบารมี

    สำหรับมนุษย์ธรรมดา ที่ไม่ใช่เทวดาลงมาเกิด จะทำประการใด ที่จะได้รับพรวิเศษ

    .... มนุษย์ธรรมดานั้น ต้องบำเพ็ญบารมีเพื่อสำเร็จเป็นเทวดา สำหรับผู้ไม่ปรารถนานิพพานสำหรับผู้ปรารถนานิพพาน จะบำเพ็ญบารมีเพื่อบรรลุธรรม เป็นพระโพธิสัตว์ขึ้นไป

    .... โดยปกติของคนบำเพ็ญบารมี เมื่อสำเร็จแล้ว จะขอพรวิเศษจากเทวดาองค์ใดก็ได้ แต่ในกรณีที่เป็นเทวดาจุติลงมาจากสวรรค์ เพื่อทำหน้าที่บางประการ ไม่ได้จุติลงมาเพราะหมดบุญ แม้จะไม่ขอพรวิเศษอันใด ก็จะได้รับพรวิเศษจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และมหาเทพต่างๆ เพื่อทำหน้าที่สิ่งนั้น ท่านก็จะประทานพรวิเศษเอง เราไม่จำเป็นต้องขอ

    ..... แต่ห้ามนำพรวิเศษนั้นไปพูดกับใคร รู้สิ่งใดให้รู้ได้จำเพาะตน แม้คนหลอกถาม ก็ไม่สมควรจะตอบ ควรมีสติรู้เท่าทันคนอื่นด้วย

    ข้อควรทราบพรวิเศษ แตกต่างจากพรธรรมดาอย่างไร

    ..... พรวิเศษ จะมีประกาศิต และอำนาจวิเศษอยู่ในนั้น ให้บุคคลผู้นั้นมีพลังวิเศษ เหนือกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป เช่น ควบคุมดินฟ้าอากาศได้ เรียกลมเรียกฝนได้ เป็นต้น ฯลฯ

    ..... พรธรรมดา จะไม่มีประกาศิตอยู่ในนั้น ไม่มีอำนาจหรืออานุภาพใดๆ เมื่อให้พรแล้ว บุคคลนั้นก็ยังคงเป็นคนธรรมดาอยู่ ไม่มีพลังวิเศษเหนือมนุษย์คนธรรมทั่วไป เช่น คนทั่วไป มักให้พรกัน ในวันสำคัญ คือ วันเกิด วันปีใหม่ หรือนานๆเจอกันสักครั้ง ก็มักจะให้ศีล ให้พรกัน เป็นต้น

    ข้อควรระวัง เรื่องการได้รับพรวิเศษ ไม่ควรเอาไปพูดกับใคร

    .... รู้สิ่งใด ให้รู้ได้จำเพาะตน เป็นความจริงเสมอ เพราะคนธรรมดา ไม่ได้มีญาณวิเศษ ถึงพูดไป ก็ไม่มีประโยชน์อันใด เสียเวลาเปล่า เพราะเขาฟังไม่เข้าใจ เหมือนพูดกันคนละภาษา

    .... แม้แต่มีญาณวิเศษเหมือนกัน ก็ต้องพิจารณาดูก่อนว่า สมควรพูดได้หรือไม่ ไม่ใช่คนที่มีญาณวิเศษเหมือนกัน จะพูดได้ทั้งหมด ควรพิจารณาดูก่อน

    ตัวอย่างเช่น อธิษฐานจิตให้คนที่มีญาณวิเศษเสมอกัน มองเห็นญาณในของตน เพื่อจะคุยธรรมะที่ลึกซึ้งได้

    .... ถ้าต้องการตั้งความปรารถนา จะมีเพื่อนสนทนาธรรม หรือเพื่อซ่อนความสามารถที่แท้จริงของตนเองเอาไว้ ก็พึงอธิษฐานจิตซ่อนญาณใน ไม่ให้คนอื่นเห็น เช่น ญาณในเป็น พระนารายณ์ จะซ่อนรูปเอาพระนารายณ์ไว้ข้างในก็ได้ ไม่ให้คนอื่นเห็น และเอาพระพิฆเนศมาไว้ข้างนอก มาปกคุ้มร่างกาย เป็นญาณนอกแทน เพื่อไม่ให้ใครเห็นญาณใน ที่แท้จริงของตัวเอง เป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2015
  15. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .... คนที่มีญาณวิเศษ ไม่เหมือนกัน ไม่สามารถทำลายภาพลวงตาได้ หรือตาที่สาม หรือ ตาทิพย์ของเขายังเก่งไม่พอ หรืออยู่คนละชั้นกัน จึงมองเห็นแต่ญาณนอก ที่เป็นพระพิฆเนศ บุคคลเช่นนี้ ไม่สามารถสนทนาธรรมได้ หรือพูดคุยเรื่องเหนือโลก เพราะคนที่ได้รับพรวิเศษมาจากเบื้องบน ย่อมมีเทวดาคุ้มครองมากมาย เพียงแค่เราเอาพระพิฆเนศมาไว้เป็นญาณนอก เพื่อพรางตา หรือซ่อนความสามารถที่แท้จริงของตนเองเอาไว้ เขายังมองไม่ออก แสดงว่า ญาณวิเศษของเขา ยังอยู่ในขั้นธรรมดา ไม่สามารถทำลายภาพลวงตาได้ แล้วอย่างนี้ จะพูดคุยธรรมะที่ลึกซึ้งได้เช่นใด หรือแม้แต่เราสร้างบุญบารมี เพื่อไปนิพพาน เขาจะแยกออกได้เช่นใด ว่าเรากำลังสร้างบุญบารมี เพื่อเป็นพระอรหันต์ธรรมดา หรือเป็นระดับพระอสีติมหาสาวก หรือเป็นพระสัพพัญญู “หรือแม้แต่เรา สำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์ หรือไม่ประการใด” เขาก็ไม่สามารถแยกแยะออกได้ เพราะเรื่องง่ายๆ แค่ญาณเทวดา เขายังแยกไม่ออก จะมาแยกแยะ บุญบารมีของแต่ละบุคคล ที่บำเพ็ญเพียรเพื่อบรรลุธรรมได้เช่นใด

    ..... คนที่มีญาณวิเศษเสมอกันเท่านั้น ที่สามารถทำลายภาพลวงตาได้ เห็นญาณในของเรา เป็นพระนารายณ์ ไม่ได้มองที่รูปลักษณ์ภายนอกว่า เรามีญาณนอกเป็นพระพิฆเนศ แสดงว่า เขาเก่งมาก มองคนอื่นทะลุไปถึงจิตใจ ญาณวิเศษของเขา ตาที่สาม ตาทิพย์ อยู่ในขั้นที่ใช้ได้ทีเดียว มีความละเอียดลึกซึ้ง บุคคลผู้นี้ สามารถแยกแยะความเป็นญาณนอก ญาณใน ของเทวดาได้ เมื่อเราทำการซ่อนรูป หรือซ่อนความสามารถที่แท้จริงของตนเองเอาไว้ หรือซ่อนญาณหลักเอาไว้ เขาก็สามารถแยกแยะบุญบารมีของผู้อื่น ที่สร้างมาเพื่อนิพพานได้เช่นกันว่า ท่านสร้างบุญบารมีมาเพื่อเป็นพระอรหันต์ธรรมดา หรือเป็นระดับพระอสีติมหาสาวก หรือเป็นพระสัพพัญญู ตอนนี้เราสำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์หรือไม่ ตอนนี้บุญบารมีของเราอยู่ระดับไหน เขาก็สามารถแยกแยะออกได้ เพราะญาณวิเศษของเขาเสมอเรา หรือบุญบารมีเสมอกัน เขาจึงสามารถทำลายภาพลวงตาของเราได้

    .... ดังนั้น บุคคลที่มองเห็นแต่ญาณนอกของเรา เป็นพระพิฆเนศนั้นยังไม่เก่ง แสดงว่า ยังต้องฝึกอีกเยอะ เพราะเขาไม่สามารถทำลายภาพลวงตาได้ หรือมองคนอื่นแค่เปลือกนอก ไม่ได้มองให้ลึกซึ้ง ลงไปถึงข้างในจิตใจ

    .... ส่วนบุคคลที่มองเห็นญาณในของเรา เป็นพระนารายณ์ แสดงว่า เขาสามารถทำลายภาพลวงตาได้ ไม่ได้มองคนอื่นที่รูปลักษณ์ภายนอก แต่มองลงให้ลึกซึ้งไปถึงข้างในจิตใจ

    .... บุคคลที่มองผู้อื่นที่รูปลักษณ์ภายนอก แสดงว่า ชอบมองคนอื่น แต่เปลือกนอก ไม่ได้มองคนให้ลึกซึ้งลงไปข้างใน ไม่สามารถคุยธรรมะที่ลึกซึ้งได้

    .... บุคคลที่มองผู้อื่นให้ลึกซึ้งลงไปถึงจิตใจ ไม่ได้มองผู้อื่นที่รูปลักษณ์ภายนอก แสดงว่า มองคนทะลุเข้าไปถึงจิตใจข้างใน เขาจึงจะสามารถคุยธรรมะที่ลึกซึ้งได้
     
  16. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .................. ประพฤติตัวเช่นใด ถึงจะถูกลงโทษ ................

    ................ การถูกลงโทษ ....................

    ทั้งสามโลก มนุษย์ สวรรค์ นรก ก็มีหลักการเหมือนกันหมด คือ ทำความดี ก็จะได้รับรางวัล หรือได้รับพรวิเศษต่างๆ แต่ทำผิด ก็จะถูกลงโทษ ตามกฎแห่งกรรมของตน

    คนที่มีคุณธรรม จะกล้าลงโทษตัวเอง

    ... คนที่ไม่มีคุณธรรม จะไม่กล้าลงโทษตัวเอง แต่กลับเข้าข้างตัวเอง ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด แก้ต่างให้ตัวเอง กลับผิดเป็นถูก และแก้ตัวเก่ง เป็นต้น

    ..... คนที่กล้าลงโทษตัวเอง เหมือนเปาบุ้นจิ้น แสดงว่า เขามีคุณธรรมสูง พรวิเศษนั้น ก็จะคงอยู่ตลอดไป และเป็นประกาศิตเสมอ เพราะคนเราย่อมไม่ดีร้อยเปอร์เซอร์ อาจมีผิดพลาดกันบ้าง ในยามเผลอสติ ถ้าผิดแล้วรู้จักยอมรับผิด ก็จะลงโทษจากหนักเป็นเบา หรือลงโทษ ตามกรรมของผู้นั้น แต่พรวิเศษของผู้นั้น จะคงอยู่ตลอดไป

    .... คนที่ไม่กล้าลงโทษตัวเอง ซ้ำแก้ตัวเองเก่ง แก้ต่างให้ตัวเองเสมอ กลับผิดเป็นถูก แสดงให้เห็นว่า เขาไม่มีคุณธรรมขั้นสูง หรือไม่มีคุณธรรมเลย แม้กฎหมายไม่สามารถลงโทษเขาได้ แต่กฎแห่งกรรมจะลงโทษเขาเอง ถึงเขาจะแก้ตัวเองเก่ง สามารถหลอกคนอื่นได้ทั้งโลก แต่ไม่สามารถหลอกตัวเองได้ ไม่สามารถหลอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ ทำอะไรไว้ถึงคนอื่นไม่รู้ แต่ตัวเองรู้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มีตาสามารถรับรู้ได้ เรียกว่า กรรมมีจริง พรวิเศษของผู้นั้นที่ได้รับมา ก็จะไม่ใช่พรวิเศษอีกต่อไป และไม่มีประกาศิตแต่อย่างใด จะโดนเรียกพรวิเศษกลับคืน หรือ ถูกทำลายพรวิเศษนั้นทิ้งเสีย เพื่อไม่ให้ใช้พรวิเศษไปในทางที่ผิด

    ตัวอย่าง คนที่ใช้อำนาจไปในทางที่ผิด

    .... การได้รับพรวิเศษ ทำให้คนมีอำนาจวาสนา แต่ถ้าอยู่ในอำนาจมากจนเกินไป ทำให้คนเรามีหัวโขน คิดว่า ตัวเองทำอะไรก็ถูกเสมอ คนอื่นทำอะไรผิดหมด จึงมักชอบแสดงอำนาจของตัวเองไปในทางที่ผิด อยู่ร่ำไป

    .... คนที่ชอบแสดงอำนาจของตนเอง ไปในทางที่ผิดนั้นมีอยู่มากมาย อาทิเช่น ลูกน้อง ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ ก็มักชอบแสดงอำนาจ มีแสดงอาการไม่พอใจ เมื่อไม่ได้ดั่งใจ จะเดินแตะกระโถน และมาแก้ตัวเองเก่ง แก้ต่างให้ตัวเอง เดินสะดุดกระโถน เป็นต้น

    .... เรื่องบางเรื่อง สามารถหลอกคนโง่ได้ หรือหลอกคนทั้งโลกได้ แต่ไม่สามารถหลอกคนที่เป็นบัณฑิต หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และกฎแห่งกรรมได้

    คนโง่ เมื่อฟังแล้ว ขาดการพิจารณา จึงมักถูกคนอื่นหลอกอยู่ร่ำไป

    .... บัณฑิต เมื่อฟังแล้ว จะตัดสินอะไร ก็จะพิจารณาก่อนเสมอ เพราะลักษณะของคนที่เดินสะดุดกระโถน เวลาเดินฝ่าเท้าจะเรียบ แต่คนที่เจตนาจะเดินแตะกระโถน เพื่อแสดงอำนาจของเขาให้ลูกน้องดู เขาจะมียกเท้าขึ้น เหมือนลักษณะอาการแตะบอล เรื่องแบบนี้ หลอกได้แค่คนโง่ ที่ขาดการวิเคราะห์ได้อย่างเดียว แต่ไม่สามารถหลอกบัณฑิต ที่รู้จักสังเกต และวิเคราะห์แยกแยะดีชั่วได้

    ..... แม้แต่พรวิเศษ ถ้าใช้ไปในทางที่ผิด ก็จะถูกลงโทษ และเรียกพรวิเศษนั้นกลับคืนเช่นนั้น พรวิเศษกับประกาศิต ก็จะไม่เป็นพรวิเศษ และไม่เกิดประกาศิต อีกต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2015
  17. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .............. หลักการจำ ..................

    คนทำดี ก็จะได้รับพรวิเศษ ตรงกันข้าม คนทำผิด ก็จะถูกลงโทษ

    ..... พรวิเศษ ที่ให้แล้วเรียกกลับคืน หรือถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษ ทำลายพรวิเศษนั้น คือ บุคคลนั้นดีแต่ตอนแรก พอมาตอนหลัง กลับประพฤติตัวเหลวไหล เรียกว่า ไม่ดีเสมอต้นเสมอปลาย และใช้พรวิเศษ หรืออำนาจไปในทางที่ผิด

    .... พรวิเศษ ที่ให้แล้วไม่เรียกกลับคืน บุคคลนั้นต้องเป็นคนดีเสมอต้นเสมอปลายเท่านั้น
     
  18. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .... จากบทความที่นำเสนอมาในข้างต้น " เรื่องพรวิเศษ " คงจะพอทำให้หลายคนเข้าใจในสิ่งที่ กาลีนะ เคยพยายามสื่อว่า .. การที่เราจะอ้อนวอนขอพรอะไรให้ได้สมหวังสมปรารถนา .. ต้องมาจากใจ ..
     
  19. รมิตรา

    รมิตรา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2014
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +54
    ห่างหายจากห้องนี้ไปนาน
    ยังคงคิดถึง และมีเรื่องราวมาขอความช่วยเหลือจากท่านผู้รู้ค่ะ

    ไม่ทราบว่าเกิดอะไรกับดิฉันเมื่อคืนนี้ค่ะ
    ตื่นมากลางดึกประมาณต2 เศษๆ เพราะกระสับกระส่ายนอนไม่ได้
    รู้สึกหนักที่ขาข้างซ้าย -ไม่มีอาการปวด
    แต่รู้สึกได้ว่ามันมีน้ำหนักผิดปกติเพราะข้างขวา ไม่รู้สึกอะไรเลย
    เหมือนถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา แต่ก็ไม่มีอะไรนอกจากนี้...

    คิดว่าเรื่องราวน่าจะจบ ..แต่วันนี้ทั้งวัน
    จิตใจหดหู่ ..อยากร้องไห้ ..มันมีกระแสบางอย่าง ..พยายามตั้งสติกำหนดอารมณ์ ไม่ให้คล่อยตาม
    บางคราวมีอาการเหมือนจะอาเจียน
    สัมผัสได้ว่ามีกระแสบางอย่าง
    แต่ไม่ทราบว่าคืออะไร
    คือใคร ...ต้องการอะไรค่ะ

    รบกวนท่านผู้รู้ช่วยไขปัญหาให้หน่อยเถอะค่ะ ...

    ขอบพระคุณมากค่ะ
     
  20. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .... มันก็คงเป็นการสัมผัสนั้นแหละคะ แต่ไม่มีอะไรน่ากลัวมากคะ ลมเพลมพัดเล็กน้อยคะ .. ทำใจถ้าท่องในยุทธภพนี้ ก็ต้องมีเจอบ้างคะ หาน้ำมนต์มากินก็ดีคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...